เส้นทางสู่....แพทย์ ^^

ลำดับตอนที่ #5 : การทดสอบขั้นที่สองของแพทย์มข.^^

“การทดสอบขั้นที่สองของแพทย์มข.^^”

            สวัสดีค่ะ...พึ่งกลับมาจากการสอบขั้นที่สองของแพทย์มข....ก็เลยรีบมาอัพลงเด็กดีทันทีค่ะ  กลัวเดี๋ยวจะลืมซะก่อน  ^^

            สอบขั้นที่2  สอบ2วันค่ะ ^-^  วันแรกช่วงเช้าทดสอบบุคลิกภาพค่ะ

            ทดสอบบุคลิกภาพของแพทย์มข.ก็มี  เขียนแผนภาพของครอบครัวค่ะ  แล้วก็บอกว่าแต่ละคนชื่ออะไร  อายุเท่าไหร่  ชอบอะไร  นิสัยอย่างไร จบอะไร  อันนี้ก็ไม่มีอะไรค่ะ  แล้วก็มีกระดาษแผ่นนึงที่เขียนวลีให้เราเติมเต็มให้เป็นประโยคค่ะ  เช่น

-            ฉันจะมีความสุขกว่านี้ถ้า...

-            คุณคิดว่าผู้หญิง....

-            ถ้าคุณพบผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกัน  คุณคิดว่า...

-            คุณจะไม่มีสติเมื่อ....(มีคนหนึ่งตอบว่า "เมื่อฉันมีสติ = =" "  คนนี้เลยโดนวงกลมตรงนั้นโตๆเลยค่ะ

ประมาณนี้ค่ะ

ต่อมาก็จะเป็นแบบทดสอบประมาณ  566  ข้อค่ะ  ให้เวลาทำน่าจะประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ตอบแค่ว่าถูกหรือผิด คำถามก็จะซ้ำไปซ้ำมาค่ะ  (มิ้นคิดว่าเขาไว้ใช้ดูว่าเราโกหกหรือเปล่า?? )  คำถามก็ถามประมาณว่า  คุณเคยคิดจะฆ่าตัวตายหรือเปล่า?  คุณชอบไปงานสังสรรค์และงานปาร์ตี้มั้ย?  คำแนะนำคือ  เตรียมปากกาเน้นข้อความเข้าไปค่ะ  เพราะแบบทดสอบหลายข้อมาก  จะได้ทำได้เร็วๆ  เพราะเขาไม่ได้ใช้คอมตรวจ  แล้วหลังจากนั้นก็เรียกเราไปถามคร่าวๆค่ะ  (แบบคุยตัวต่อตัว  ไม่มีอะไรมากค่ะ) 

ต่อมาช่วงบ่ายก็ตรวจร่างกายค่ะ  (1,660 บาท  T T  กระเป๋าตังค์แฟบเลยทีเดียว Y___Y)

ตรวจร่างกายก็มี 

-            ตรวจสายตา(ไม่มีอะไรค่ะ  แค่ให้อ่านตัวเลขเฉยๆ  เหมือนวัดสายตาสั้น-ยาวค่ะ  (คนที่สายตาสั้นก็ให้ใส่แว่นตามปกติ)  แล้วก็มีตรวจตาบอดสีค่ะ)

-            วัดความสามารถทางการได้ยิน (ก็จะให้เราฟังเสียงดัง-เบา-เบามากๆ  พอได้ยินเสียงก็แบมือ เสียงเงียบไปก็กำมือ)

-            วัดน้ำหนักส่วนสูง

-            วัดความดัน

-            เจาะเลือด ( > . <)

-            ตรวจปัสสาวะ(เพราะฉะนั้นช่วงเที่ยง  อย่าพึ่งฉี่ค่ะ ^^ )

-            เอกซเรย์ปอด

รู้สึกว่าน่าจะครบแล้วนะคะ...

            พอวันต่อมาก็สอบสัมภาษณ์ค่ะ ^^  อันนี้มิ้นนั่งเสียวท้องอยู่นาน  ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวค่ะ

            เข้าไปก็จะมีอาจารย์นั่งอยู่สี่คนค่ะ  ตรงกลางสอง  ฝั่งขวาหนึ่ง ฝั่งซ้ายหนึ่ง  อาจารย์ทางด้านขวาเขาก็จะดู portfolio เรา ส่วนอาจารย์ทางซ้ายก็จะคอยให้เราเลือกคำถามสองคำถาม แล้วก็ยื่นคำถามให้ค่ะ  คนหลักๆที่จะถามเราก็จะมีอยู่สองคน

            เข้าไปอันดับแรก  ก็ไหว้อาจารย์ทุกคนค่ะ  พยายามรักษามาดให้นิ่งๆ (ในใจ.... ‘ตูจะไม่ไหวแย้ววว’)  ยื่น portfolio ให้อาจารย์  พออาจารย์บอกให้นั่งก็ขอบคุณแล้วค่อยนั่ง  (พยายามนั่งหลังตรงๆ  รักษามาดค่ะ  มิ้นว่าเขาจะดูเราทุกอย่างเลย ตั้งแต่เข้ามาว่ามีสัมมาคารวะหรือเปล่า??  บุคลิกภาพเป็นยังไง? นั่งหลังตรงไหม? ลักษณะการพูดเป็นอย่างไร?)

            อาจารย์ก็จะให้เราแนะนำตัวคร่าวๆค่ะ  (มิ้นก็แนะนำตัวแบบคร่าวๆสุดฤทธิ์  กลัวอาจารย์จะหาว่าเราพูดมาก  = =”  (บอกแค่ชื่อตัวเองกับมาจากโรงเรียนอะไร..สั้นจริงๆ =.,=)  ปรากฏว่าสั้นเกิน = =  อาจารย์มีเงียบไปพักหนึ่งค่ะ  ประมาณว่า ‘เธอจะแนะนำตัวให้ฉันรู้แค่นี้เรอะ??’)

            หลังจากนั้นก็ถามทั่วๆไปค่ะ 

-            พ่อแม่ทำอาชีพอะไร 

-            เราช่วยพ่อแม่ทำกิจกรรมอะไรบ้าง? 

-            เราได้สมัครสอบอย่างอื่นไว้หรือเปล่า(อันนี้มิ้นว่าถ้าตอบก็ควรระวังนะคะ  น่าจะตอบพวกโครงการแพทย์ที่เป็นของมข. ไว้น่าจะปลอดภัยที่สุด) 

-            สอบกสพท.ไว้หรือเปล่า??  เลือกอะไรบ้าง??  (อันนี้มิ้นบอกตามตรงเลยค่ะ  กลัวเผื่อเขาไปตรวจสอบ T T  อีกอย่างหนึ่ง...ก็เป็นเพราะไม่อยากโกหกด้วยค่ะ  ก็เลยพูดไปเลยว่าเราเลือกศิริราช รามา วชิร มข เขาเลยเงียบไปพักหนึ่ง  (ส่วนไอ้เราก็นั่งขนลุกซู่  ประมาณว่า  “ตูซวยแล้วว = ., =”)  เขาก็เลยถามว่าเลือกมข.ไว้อันดับสุดท้ายเลยหรอ??  แล้วถ้าได้จะสละสิทธิ์ไหมเนี่ยยย??  มิ้นก็เลยบอกว่าไม่สละสิทธิ์แน่นอนค่ะ (เน้นคำว่า “แน่นอน”สุดฤทธิ์ )  แล้วอาจารย์ก็ถามว่าทำไมเลือกมข.ไว้อันดับสุดท้าย  อันนี้นึกไม่ออกว่าจะตอบอะไรดี  ก็เลยตอบประมาณว่า  เลือกไปเล่นๆค่ะ  เพราะหนูคิดว่าหนูคงไม่ต้องไปสอบรอบนั้น  หนูคิดว่าหนูจะเอารอบนี้แน่ๆค่ะ (อันนี้โกหก  ที่จริงแอบไม่แน่ใจตอนแรกว่าตัวเองจะติดไหม? = =” )

-            ทำไมถึงอยากเป็นแพทย์??  (คำถามยอดฮิต)

-            คุณคิดว่าแพทย์เป็นยังไง??  (ว้าว *[]*  อันนี้เตรียมไปตอบพอดีค่ะ  เลยใส่เต็มๆ ^^)  แล้วเขาก็ถามว่าเรามีในพวกที่เราพูดมามั้ย??....อันนี้มิ้นมีสะดุ้งนิดๆ  แล้วก็เลยพรีเซนต์ตัวเองเต็มที่  ^[]^

หลังจากนั้นก็ให้เราจับเลือกคำถามสองข้อค่ะ  มิ้นว่าส่วนนี้สำคัญนะ  จากที่ถามรุ่นพี่คนหนึ่ง  เขาบอกว่าเขาวัดการตัดสินใจของเรา  ตัดสินใจไปทางไหนก็ไม่ได้ผิด  แต่ขอให้เรามีเหตุผล  รู้จักกล้าตัดสินใจค่ะ 

คำถามที่ได้ก็จะเป็นบทความมาค่ะ  ให้เราอ่านออกเสียง  แล้วก็มาอ่านคำถามใต้บทความสองข้อ

งั้นมิ้นบอกคำถามที่มิ้นจับได้ละกัน  ^^  เป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆน้องๆค่ะ

            บทความแรกก็จะเป็นบอกว่าสาธารณสุข(หรืออะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว =.,=) ประกาศว่ามีโรคที่คนไทยเป็นกันมาก หรือมีความเสี่ยงเนี่ยแหละค่ะ  แล้วก็ให้โรคมาประมาณ 7 โรคมั้ง.....  แล้วคำถามก็ให้เราสรุปใจความ แล้วจากภาพเป็นรูปอะไร (มีอยู่คนหนึ่ง  บอกมิ้นว่าเขาสรุปแบบพูดเกือบตามนั้นหมดเลย = =” มิ้นก็เกือบเป็นงั้นละ เพราะเหมือนบทความเขาก็ย่อๆมาแล้ว )  อีกคำถามก็คุณคิดว่ามีผลกระทบต่อในพื้นที่ที่คุณอยู่อย่างไร?  เพราะเหตุใด?

            บทความที่สองก็จะเป็นประมาณว่ารัฐบาลประกาศโครงการปล่อยเงินกู้ให้เกษตรกร  อะไรซักอย่าง  แล้วก็พูดมายาวๆ  (อ่านไปงงไปค่ะ)  แล้วคำถามก็ถามว่า  ถ้าน้าคุณเป็นเจ้าหนี้  ข่มขู่ลูกหนี้คนหนึ่ง(ซึ่งติดการเล่นพนันบอลมาก)  ไม่ให้เข้าโครงการนี้  คุณจะทำอย่างไร (มิ้นก็เงียบไปพักใหญ่ๆเลยค่ะ  อาจารย์เลยถามว่า ‘ตกลงคุณจะตอบไหม?’  T[]T  ก็หนูอ่านบทความไม่รู้เรื่องนี่นา  ก็เลยตอบอาจารย์ประมาณว่าขอเวลาคิดค่ะ(ไม่กล้าไม่ตอบ  มีรุ่นพี่คนหนึ่ง  เขาบอกว่าเขาไม่ตอบ  หรือตอบมั่วสักอย่างนี่แหละค่ะ  โดนเรียกรอบสองเลย = =”)  สุดท้ายก็เลยบอกว่าให้เขาเข้าโครงการค่ะ  อาจารย์ก็เลยพูดว่า  ถ้าเราให้เขาเข้าโครงการ  เขาก็จะรู้ว่าน้าเราเป็นเจ้าหนี้นอกระบบนะ....  อันนี้อึ้งค่ะ....ทำไงดี???  ก็เลยตอบว่าให้น้าให้อาชีพเขาทำค่ะ  เขาจะได้มีเงินใช้หนี้  แล้วก็มีเงินดูแลตัวเองด้วย  (กลัวว่าอาจารย์จะหาว่าเราตอบไม่ตรงคำถามค่ะ  แต่มิ้นว่าถ้าเป็นมิ้นจริงๆ  ก็อาจจะทำอย่างนี้  จะได้ไม่มีปัญหากับคุณน้าด้วย))  ส่วนอีกคำถามของบทความนี้ก็ถามว่า  ถ้าน้าเราส่งลูกน้องไปฆ่าลูกหนี้ตาย  แล้วลูกหนี้หนีจนมาตายอยู่ข้างบ้านเรา  ตำรวจเลยมาสอบสวน  เราจะทำอย่างไร (มิ้นเลยบอกว่าก็บอกตำรวจไปตามความจริง  อาจารย์ก็เลยเหมือนจะโน้มน้าวให้เราเปลี่ยนคำตอบค่ะ  ว่าน้าเราก็จะโดนจับเข้าคุกนะ  แล้วถ้าน้าเราตายไปเนี่ย  น้าเราก็ว่าจะยกสมบัติให้เราด้วย  ประมาณนี้ค่ะ)

            ส่วนเพื่อนที่สอบอีกคนเขาเจอคำถามที่ป้าเราเป็นโรคอะไรสักอย่าง...แล้วขอให้เราฉีดยาให้ตาย  จะทำหรือเปล่า??

            มิ้นว่าถ้าเป็นมิ้นมิ้นไม่ทำนะ....เพราะเราเข้ามาเป็นแพทย์เพื่อที่จะช่วยคน  ถ้าคนเป็นโรคๆหนึ่งซึ่งเขาคิดว่ารักษาไม่หาย  จ้องแต่จะให้ฉีดยาให้ตาย  ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีโอกาสได้หาทางรักษาโรคนี้ได้สิเนอะ ^^

            หลังจากนั้นเขาก็จะให้เราไปรอที่ห้องนึงค่ะ  หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ  (ห้องนี้นั่งเมาท์กระจายค่ะ....ตอนแรกนึกว่านักเรียนที่สอบติดจะอารมณ์เงียบๆ  ขรึมๆ  แว่นหนาเตอะๆ....ที่ไหนได้ = =”  บางคนฮากระจายเลยค่ะ ^-^)  นั่งไปสักพักก็จะมีพี่ๆทีมงานมาเรียกคนที่ต้องไปสัมภาษณ์รอบสอง  (คืออาจเป็นเพราะต้องการข้อมูลเราเพิ่มเติม  หรือไม่ก็....สัมภาษณ์รอบแรกไม่ผ่านค่ะ)  แล้วก็จะมีรอบสาม  (รู้สึกว่ารอบนี้จะคุยกับจิตแพทย์เลย)

            สำหรับมิ้นนะ...  ถ้ามิ้นเป็นอาจารย์แพทย์  มิ้นคงดูที่ว่า  คนๆนั้นมีคุณธรรมจริยธรรมหรือเปล่า??  อยากที่จะเข้ามาเรียนแพทย์จริงๆ  ไม่ใช่พ่อแม่บังคับ...  อยากเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นจริงๆ....ไม่เป็นโรคจิต....กล้าตัดสินใจ  แล้วก็มีเหตุผลประกอบการตัดสินใจค่ะ ^^