เส้นทางสู่....แพทย์ ^^

ลำดับตอนที่ #4 : การเตรียมตัวสอบ

“การเตรียมตัวสอบ”

            สำหรับคำถามนี้...เพื่อนหลายๆคนที่โรงเรียนถามมิ้น  และตัวมิ้นเองในตอนที่กำลังเตรียมตัวสอบ  ก็ต้องการที่ปรึกษาสำหรับการเตรียมตัวสอบเหมือนกันค่ะ  เคยอยากรู้ว่าพี่เขาเรียนพิเศษตอนไหนกัน..อะไรยังไง  แล้วอ่านหนังสือเตรียมตัวจริงๆเมื่อไหร่  อ่านหนังสือวันนึงนานมั้ย??  อะไรยังไงบ้าง  วันนี้มิ้นมีคำตอบค่ะ

            การเตรียมตัวสอบของแต่ละคนก็จะต่างกันไปเนอะ.....สำหรับตัวมิ้นเอง  มิ้นก็เตรียมตัวแบบนี้ค่ะ

            ย้อนนนนนนนนนนน(ทำเสียงสูงๆ ^^)ไปต้อนม.3.......

            ตกใจกันอะดิ  ว่า ‘อีนี่! แม่....รีบเตรียมตัวกันไปหนายยยยย????’  (หรือบางคนอาจจะว่า.... ‘มึงพึ่งมาเตรียมตัวตอนนี้เรอะ = =” ’

            ตอนนั้นยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรจริงจังมากค่ะ  ก็ยังมีลั้ลลาบ้าง....  แต่คือตอนนั้นเริ่มมีเป้าหมายในชีวิตแล้วว่าในอนาคตตัวเองจะเรียนอะไร  แล้วก็รู้สึกว่าวิชาภาษาอังกฤษตัวเองนี่เหียกจริงๆ T T ก็เลยไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษค่ะ อันนี้คือเหมือนเริ่มเก็บเอาพื้นฐานเฉยๆ

            พอ ม.4 ม.5  มิ้นก็พยายามเร่งเรียนพิเศษทั้งเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต อังกฤษ  ไทย สังคมให้หมดเลยค่ะ  ประมาณว่าวันปกติจันทร์ถึงศุกร์แทบทุกวันก็กลับบ้านสองทุ่มครึ่ง  ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็เรียนตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งยันสองทุ่ม  บางครั้งก็เรียนสิบโมงเช้าถึงประมาณหกโมงเย็นค่ะ  แต่ถ้าให้มิ้นแนะนำเพื่อนๆนะคะ...มิ้นว่าทำแบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ  ตัวเราเองก็เหนื่อย  กระเป๋าตังค์คุณพ่อคุณแม่ก็แฟบ  แถมยังไปหลับในห้องเรียนอีกต่างหาก = =”  การบ้านที่เรียนพิเศษก็ไม่ได้ทำ....สรุป  ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย  T T  จะมารู้เรื่องอีกทีก็ตอนจะสอบที่โรงเรียนเนี่ยแหละค่ะ =[]=……

            ขนาดทุ่มเรียนขนาดนี้เล่นเรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น  ก็ยังเรียนเนื้อหาไม่จบทั้งหมดภายในม. 5 ค่ะ  ตอนนั้นมิ้นเหลือวิชาคณิต(เนื้อหาม.5 เทอม2  กับเนื้อหาม.6เกือบทั้งหมด)  ชีววิทยา (พวกเนื้อหาม.6 เทอม2ค่ะ เช่นระบบนิเวศ ไฟลัม บลาๆๆ)  ฟิสิกส์  (ถึงจะเรียนครบแล้วก็เหมือนไม่ได้เรียน = = เพราะดันนั่งหลับตอนเรียนพิเศษ  T[]T  ไม่ได้ตั้งใจหลับจริงๆนะ....แบบว่าสัปหงกแทบทั้งคาบ....ประมาณว่าจดเนื้อหาไม่ได้ตกหล่น  แต่ฟังในห้องไม่รู้เรื่องอะค่ะ  (ตอนนั้นวิญญาณออกจากร่างไปแล้ววว))  เคมีไม่ได้เรียนคอร์ส Ent กับตะลุยของอ.อุ๊ค่ะ  (ซึ่งเพื่อนๆเขาบอกว่าสมควรเรียนมากๆ  เพราะสอนดี....แต่สุดท้ายแล้วมิ้นแอบดีใจค่ะที่ไม่ได้เรียน  เพราะถ้ามิ้นเรียนต้องไม่มีเวลาให้ตัวเองในการอ่านหนังสือสอบแน่ๆเลย) 

            แล้วพอปิดเทอมขึ้นม.6  มิ้นก็เลิกเรียนพิเศษหมดเลยค่ะ  ช่วงปิดเทอมชีวิตก็วนเวียนกับการ  นั่ง-นอนอ่านหนังสือ  นอนตอนกลางคืน  นอนตอนกลางวัน  กิน  แล้วก็กิน = ., =  (ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้....หุ่นจะเป็นโอ่งมังกรแล้วค่ะ >.<  ….ในใจก็หวังว่าหลังสอบติดจะลด....เฮ้ย!  เริ่มนอกเรื่องแล้ว = =)  เล่นเกมส์บ้าง  อ่านการ์ตูน  ดูละคร(อันนี้ดูแหลกค่ะ)  ดูการ์ตูน  (สรุปตูจะอ่านหนังสือกี่ชั่วโมงวะ  = =)

            พอเปิดเทอมมาก็อ่านบ้างค่ะ  แต่ไม่เยอะเท่าตอนปิดเทอมแล้ว  มีเล่นๆ  โหมดสบายๆบ้าง  ตอนเปิดเทอมคือไม่ค่อยอ่านหนังสือแล้วค่ะ  ต้องทำข้อสอบเพื่อเก็บประสบการณ์

            แต่ถ้าถามมิ้นว่าตอนสอบ md02  รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วหรือยัง???  มิ้นรู้สึกว่ามิ้นพร้อมแล้วนะคะ....แต่หลังจากเจอข้อสอบก็เริ่มชักจะรู้สึกว่าเราไม่พร้อม ^ . , ^ หุหุ  คือเนื้อหาเนี่ยอ่านจบหมดแล้วค่ะ  แต่วิชาฟิสิกส์เนี่ยมิ้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับภาคบรรยาย  และเนื้อหาทั้งหมดของม.6 ยกเว้นเรื่องไฟฟ้าสถิตกับครึ่งชีวิต  มีปัญหาเรื่องการตีโจทย์ค่ะ  เจอโจทย์ทีไรมีงง = =”  ส่วนเคมีมิ้นก็แทบไม่จำเลยค่ะพวกภาคบรรยาย  เช่น  ใส่โบโรซิลิเกตในแก้วเพื่อ???  อารมณ์ประมาณนั้นน่ะค่ะ  (อันนี้มิ้นแนะนำว่าห้ามทิ้งนะคะ  ถ้าจะสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เพราะมิ้นคิดว่าเขาค่อนข้างเน้นภาคบรรยายพอสมควรเลยค่ะ) ส่วนชีวะ  เรื่องระบบนิเวศพวกต้นไม้แบบนี้จะเป็นป่าแบบไหน ดงดิบ สะวันนา  พืชใดที่มีฐานรองดอกต่ำกว่ารังไข่ ถ้าเจอพวกคำถามอย่างนี้  มีเดาค่ะ ^-^

            สำหรับเวลาอ่านหนังสือของมิ้นไม่ตายตัวค่ะ  วันหนึ่งก็พยายามนั่งอ่านให้ได้มากที่สุด(หมายถึงตอนช่วงปิดเทอมนะ)  ถ้าเบื่อก็ลุกไปเดินเล่น  หาของกินผ่อนคลายสมองบ้าง  เพราะถ้าทนนั่งอ่านอย่างนั้นต่อไปก็อ่านไม่รู้เรื่องค่ะ

            พอตอนเปิดเทอมเริ่มมีเวลาน้อยลง  คราวนี้ก็เริ่มนอนดึกขึ้น  มีอยู่ช่วงนึงมิ้น ลองนอนให้เร็วขึ้น  แล้วตื่นเช้าประมาณตี5ค่ะ  มิ้นรู้สึกว่ามันดีกว่าตอนเราอ่านกลางคืนนะ....เพราะตอนกลางคืนเนี่ยเหมือนเราผ่านการทำกิจกรรมต่างๆมา  ทำให้เราเหนื่อยล้าแล้ว  ถ้าเราตื่นมาอ่านตอนเช้าจะรู้สึกนิ่งๆ แล้วก็มีสมาธิอ่านมากกว่าค่ะ  (แต่อันนี้มิ้นทำได้ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็เลิกเพราะทนแหกขี้ตาตื่นไม่ไหว.....ขนาดตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้หลายๆตัว  เผื่อว่าตัวเองจะรำคาญขี้เกียจปิดนาฬิกาจนต้องลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ....แต่หาได้มีประโยชน์อันใดไม่  = =)

            แต่ถ้าให้มิ้นแนะนำสำหรับเพื่อนๆนะคะ  ก็แนะนำว่าให้พยายามอ่านหนังสือตลอด  แล้วช่วงปิดเทอมขึ้นม.6 เนี่ย  พยายามอย่าเรียนพิเศษอะไรเลย  (เพราะมิ้นว่า  ขนาดเตรียมตัวตอนปิดเทอมขึ้นม.6 ยังแทบจะไม่ทันเลยค่ะ....(หรือเรียกว่าไม่ทันก็ได้ =.,=))  แล้วก็มานั่งอ่านหนังสือทั้งหมด  แต่เดิมมิ้นเคยทำตารางอ่านหนังสือนะ...แบบวันจันทร์อ่านวิชานี้วันอังคารอ่านวิชานู้น  แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จสักทีค่ะ  มิ้นก็เลยเปลี่ยนวิธีใหม่  คือจัดสรรเวลาว่า ช่วงปิดเทอมนี้เรามีเวลากี่วัน  แล้วเราต้องสอบทั้งหมดกี่วิชา  แล้วถ้าเราจะใช้เวลาทำข้อสอบจะใช้เวลากี่วัน  อย่างเช่น  เราปิดเทอมใหญ่ประมาณสองเดือนก็ตีไป  60  วัน  คิดว่าจะใช้ทำข้อสอบประมาณ  18 วัน  ก็แสดงว่าเราเหลือเวลาสำหรับอ่านหนังสือ  42 วัน  เราสอบทั้งหมด  7  วิชา  ก็หาร  42    จะได้ว่าวิชาหนึ่งเราจะมีเวลาอ่านได้  6  วันค่ะ (มิ้นว่าวิธีนี้ดีกว่าเยอะเลย)

            หลังจากนั้นก็อ่าน.....แต่ที่สำคัญขาดไม่ได้เลยคือการจดเนื้อหาสั้นๆค่ะ

            ก่อนหน้านี้มิ้นเคยอ่านมาหลายบทความว่า  การทำช็อตโน้ตเนี่ยสำคัญจริงๆ  มิ้นก็เคยทำแล้วนะคะตอนช่วง  ม.4 ม.5  แต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้ง  รู้สึกว่าเวลาทำช็อตโน้ตทีไร  เหมือนต้องลอกหนังสือที่เราอ่านมาทั้งเล่ม.....ก็มันจำไม่ได้ทั้งหมดนี่นา... T T

            เพราะฉะนั้น  พอม.6 ช่วงปิดเทอมใหญ่มิ้นก็อ่านอย่างเดียวค่ะ ประมาณว่าไม่ทำแล้วช็อตนงช็อตโน้ตเนี่ย  แต่พออ่านจบปุ๊บ  ลองทำข้อสอบ  อย่างเช่นวิชาที่เห็นชัดๆเลยก็วิชาคณิตค่ะ  (ที่จริงเห็นชัดทุกวิชา  = =  เพราะจำเนื้อหาไม่ได้)  พอทำโจทย์ปุ๊บ  ชักมีงงๆ  ‘ข้อนี้สูตรไรวะเนี่ย???’  แล้วเกาหัวแครกๆ  ก่อนจะไปหาเปิดคัมภีร์เล่มมหึมาเพื่อหาสูตรแค่สูตรเดียว = =”  คราวนี้เลยทำช็อตโน้ตเป็นเลยค่ะ

            อย่างคณิตเนี่ย  ไม่ต้องเขียนอะไรมาก  จดสูตรอย่างเดียว  (สำหรับมิ้นนะ)  พวกเรื่องเมทริกซ์ก็จดว่าหา det ยังไง  สมบัติของdet  แล้ว minor กับ adjคือ???  เรื่องเรขาคณิตวิเคราะห์ก็ลงทุนเสียเวลาเล็กน้อยวาดพวกกราฟพาราโบลา วงรี ไฮเปอร์  แล้วเขียนให้ตัวเองรู้ว่าเส้นไดเรกติก แกนสังยุคอยู่ตรงไหน  แล้วก็สูตรค่ะ

            ส่วนชีวะเนี่ย  มิ้นก็ดึงกระดาษสมุด  พับครึ่ง  แล้วจดเฉพาะส่วนที่เห็นว่าสำคัญจริงๆ  และเราจำไม่ได้  (ที่จดวิชาชีวะเพราะเราจะได้พกเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆติดตัวได้ตลอด  เวลานึกถึงก็เอาขึ้นมาอ่านได้ค่ะ)

            ฟิสิกส์มิ้นก็พึ่งหนังสือของอ.พิสิฏฐ์คอร์สตะลุยเลยค่ะ  มานั่งอ่านทั้งเล่ม ตรงไหนเห็นว่าจำไม่ได้ก็ลงสีปากกาเน้นข้อความเต็มที่  ส่วนตรงไหนจำได้แล้วก็กากบาททิ้งเลย  เวลาเปิดมาจะได้รู้เลยว่าตรงไหนเราจำได้แล้ว  ตรงไหนยังจำไม่ได้ค่ะ

            สำหรับการช็อตโน้ตมิ้นว่าเพื่อนๆคงเข้าใจแล้วเนอะ....มาพูดเรื่องอื่นต่อดีกว่า (ไม่งั้นมันจะยาวไป  จะขี้เกียจอ่านกันซะก่อน =___________=)

            สำหรับเวลาอ่านหนังสือที่แนะนำเลยก็คือ  ตอนเช้าค่ะ  (ถ้าเอาชนะตัวเองให้ทนตื่นขึ้นมาตอนเช้าได้นะคะ)  ถ้าถามว่าเราต้องเจียดเวลานอนของเรามานั่งอ่านหนังสือขนาดนั้นเลยหรือเปล่า  แบบประมาณว่า  นอนตอนสี่ทุ่มตื่นมาเที่ยงคืน  อ่านหนังสือถึงตีสองแล้วนอนต่อ  แล้วลุกขึ้นมาอ่านอีกทีตอนเช้ามืดเลยเนี่ย  มิ้นว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ....  มิ้นว่าแทนที่เราจะทำอย่างนั้น  น่าจะเปลี่ยนมาเป็น  เอาเวลาเมาท์แตกของตัวเอง  นั่งเล่นเฟสบุค  แชทบีบีเนี่ยมาอ่านหนังสือดีกว่า  ได้เพิ่มเยอะเลยค่ะ  (อันนี้น่าจะแทงใจดำใครหลายๆคน.... ^^  มิ้นก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ติดเน็ต  เล่นเฟส  ติดละคร  ตอนช่วงนั้นเคยคิดว่าจะเจียดเวลานอนตัวเองมาอ่านหนังสือ  แต่นึกไปนึกมา.....แทนที่เราจะทำอย่างนั้นให้สุขภาพเราแย่  แล้วก็เหนื่อยด้วย  เปลี่ยนมาเป็นตัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนเพื่อทำอนาคตของเราให้สำเร็จ  หลังจากนั้นจะมาทำสิ่งที่เราอยากทำก็ยังไม่สาย....เนอะ ^[]^)

วันนี้ขอปิดท้ายด้วยคำคมประจำหนังสือทุกเล่มของอาจารย์พิสิฏฐ์ละกันนะคะ ^^

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ คือ  การเอาชนะตัวเอง

พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่ะ ^[]^ 
(เริ่มนึกไม่ออกแล้วว่าตอนต่อไปจะเขียนอะไรดี  อิอิ^^  มีปัญหาสงสัยอะไร ก็บอกได้เลยนะคะ  เดี๋ยวมิ้นมาอัพลงบทความให้^[]^)