คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [ SF ] >>HanHyuk>> กำแพงกั้นหัวใจ The End (100%)
ร่างเล็กพยุงตัวที่เจ็บร้าวกับสมองที่หนักขึ้น ขึ้นจากเตียงเล็กๆ ถ้าไม่มีการสอบวันนี้ เขาคงต้องนอนซมอยู่กับบ้านแน่ๆ
“ ทำไม ช้าจังฮยอกแจ แล้วทำไมโทรมอย่างนี้” เสียงดงเฮดังขึ้นก่อนจะวางมือลงบนหน้าผากเพื่อวัดไข้
“ ชั้นไม่ค่อยสบายนะ สงสัยจะเป็นหวัด” สิ้นสุดเสียงนี้ หน้าแดงก็ซุกลงกับโต๊ะทันที
“นาย มานี่หน่อย”เสียงคุ้นเคยของคนร่างสูงดังขึ้นเบื้องหน้าของเค้าจนคนตัวเล็กต้องแหงนขึ้นดู
“นายอีกแล้วเหรอ ฮันคยอง เมื่อไหร่จะเลิกทำร้ายเพื่อนชั้นสักที ” เสียงของดงเฮเถียงขึ้นทันควัน
“ไม่อยากให้เพื่อนนายรู้ก็เดินตามชั้นมานี่” เสียงนี้กระซิบลงข้างหูของฮยอกแจ
ร่างเล็กพยุงตัวเองแล้วดินตามร่างสูงไปตาม มีแค่สายตาที่บอกกับดงเฮว่า ‘ ไม่เป็นไรเท่านั้น ’
หลังอาคารเรียนสูงที่ติดกับป่า เขตที่ห้ามนักเรียนมาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ตอนนี้ร่างสูงกระชากคนร่างเล็กลงกำแพงหนา จนคนที่เจ็บอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเจ็บร้าวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
“เมื่อคืนชั้นแตะต้องของสกปรกของนาย ลีฮยอกแจ” ร่างสูงจับหน้าปลายคางเล็กขึ้น ค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้
“อย่าคิดว่าชั้นจะ จูบนาย” เสียงกระซิบแม้แผ่วเบาแต่กรีดลึกลงกลางใจ
เขาไม่ควรฝันว่าจะได้จูบที่อ่อนโยน ของชายร่างสูง เค้าคู่ควรกับจูบที่บดเบียดเสียดสีดั่งเช่น ตุ๊กตาที่ไร้ความรู้สึก แม้โดนกระทำเท่าไหร่ ก็ควรจะอยู่นิ่งเฉยดั่งเช่นตุ๊กตา ตุ๊กตาราคาถูก ไร้ค่า ไร้ความหมาย
“แต่ชั้น ติดใจนาย” พูดเช่นนั้นร่างสูงปลดกระดุมของคนตรงหน้าลง
“ ฮัน อย่า นี่มัน อ๊ะ อ้า ฮัน” ไม่ทันที่จะห้ามปราม ปากหนากดดูดขบเม้นยอดอัญมณีสีชมพูนั้น มือหนาจับมือเล็กกดตัวของคนตัวเล็กลงกำแพงหนา บดเบียดริมฝีปากลงบนซอกคอขาวอย่างไร้ความปราณี เสียงครางที่ดังมาเป็นระยะ ร่างเล็กกัดปากตัวเอง เสียงครางในอารมณ์ที่เปิดออกมาไม่ได้
แปะ!! แปะ!! เสียงฝนที่ตกลงมากระทบกับใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น ไม่ช่วยให้อารมณ์ของคนร่างสูงที่กระทำกับคนร่างเล็กหยุดลงได้เลยเพียงแต่เพิ่มขึ้นก็เท่านั้น
“ ฮัน อะ อื้มมม อ้า~ “ปากหนาที่บดเบียดกดลงบนปากบางนั้นแทบจะหายไปในกำแพง น้ำตาที่ไหลลงอาบสองแก้ม ทั้งความเจ็บเดิมของเมื่อคืน ทั้งความเจ็บของวันนี้ซ้ำเติมคนร่างเล็ก จากกี่ครั้งไม่รู้จักกี่ครั้ง
ฝนตกกระหน่ำอย่างไร้ความปราณีเหมือนชายหนุ่มตรงหน้าที่ไร้ความปราณีเช่นกัน อารมณ์ที่เพิ่มขึ้นของคนตัวเล็กจนมันดึงอยู่ตรงช่วงล่างใกล้จะปลดปล่อยเต็มที
“ วันนี้ พอแค่นี้ ก่อนชั้นค่อยมาต่อ วันหลังที่ชั้นเบื่อๆนะ เมียเก็บ” คำพูดกรีดลึก เมียเก็บ หึ น่าสมเพชนัก ลีฮยอกแจ
“นายก็จัดการกับของตัวเองไปก่อนละกัน วันนี้ชั้นไม่อยากเล่นกับของสกปรก” สายตาจ้องมองความตึงของท่อสวาทที่ใกล้ปลดปล่อยเต็มทีของคนตัวเล็กก่อนจะพูดขึ้น สายตารังเกลียดที่ส่งมาให้พร้อมกับคำพูด จ้องมองคนสกปรกอย่างเค้า
มือเล็กๆสัมผัสกับของตัวเองเพื่อปล่ดปล่อยอารมณ์ น้ำตาที่ไหลเป็นสาย ที่ตอนนี้ไหลรินลงมาแข่งกับสายฝนที่โหมกระหน่ำ
“ ฮันคยอง ชะ ชั้น อ๊า รักนาย อ้า~ “เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นพร้อมน้ำขุ่นที่ไหลเปื้อนเต็มมือ สายฝนที่หยุดลงพร้อมคนตัวเล็กที่พยายามจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปยังห้องเรียน แต่ขาเล็กๆสั่นเทาเกินกล่าวจะเดินไหว แล้วสติของอยอกแจก็ดับลงทันที
“ ฮยอกแจ ลีฮยอกแจ” เสียงของเพื่อตัวเล็กวิ่งตามรถเตียงของโรงพยาบาลที่ตอนนี้นำร่างเล็กที่สลบอยุ่หลังโรงเรียนเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วน ลมหายใจที่รวยรินแทบจะหมดลงในไม่ช้าระหว่างทางที่มาโรงพยาบาล แทบพาหัวใจให้คนที่นำเค้ามาส่งโรงพยาบาลแทบหยุดเต้น น้ำตาไหลลงเป็นสายด้วยความเป็นห่วงเพื่อนกอดแฟนหนุ่มไว้ จนแน่น ระบายความกลัวความอัดอั้นที่มีทั้งหมด
“ ใจเย็นๆนะ ด๊อง ฮยอกแจถึงมือหมอแล้วไม่เป็นไรหรอก” คิบอมกอดปลอบคนที่อยุ่ในอ้อมกอด ลูบหัวปลอบประโลมอย่างเบามือ ดงเฮชวนเค้าออกไปตามหา ลีฮยอกแจ จนถึงหลังโรงเรียน ฮยอกแจนอนสลบอยุ่บนพื้นพร้อมกับลมหายใจที่รวยรินเต็มที
“ฮยอกแจเป็นไงบ้าง “ฮีซอลแฟนของซีวอนที่รีบมาทันทีเมื่อรุ้ข่าวใช่ว่าเค้าไม่รุ้ว่าเป็น ฝีมือใคร เลยต้องลาก ตัวการมาด้วย ฮันคยองบอกเค้าว่าจะไปหา ของเล่นแก้เซ็ง แล้วคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ฮยอกแจ แล้วหลังจากนั้นเค้าก็กลับมาอีกครั้งด้วยสภาพที่เปียกปอน กับรอยยิ้มที่ส่งให้เค้าแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา อีกไม่นานเขาก็รุ้ว่าว่า ลีฮยอกแจเข้าโรงพยาบาล
“นายทำอะไรเพื่อนชั้น ไอ้สารเลว นายมันเลวที่สุด ไอ้คนไร้หัวใจ ” เสียงเล็กๆที่กระชากคอเสียงของคนร่างสูงตะคอกใส่ลงอย่างไม่หยั้ง “นายนะ ทำไม บอกชั้นสิว่าทำไม เพื่อนชั้นต้องรัก คนเลวๆอย่างนายด้วย ทำไม ฮือๆๆ” แรงน้อยๆหมดลงก่อนจะทรุดลงตรงหน้าของฮันคยอง ปล่อยโฮ ร้องไห้แทบขาดใจ
‘ คนไร้หัวใจ’ ชายร่างสูงเดินหลบมุมมายืนอยุ่ในทางที่ไร้ซึ่งผู้คน เขาคือบุคคลซึ่งไร้หัวใจ ฮันคยอง
เช้าวันนี้ที่เค้าตื่นขึ้นมา เค้าพยายาม ควานหา เจ้าตัวเล็กข้างๆเพื่อจะเอาเข้ามากอด แต่ ไร้ความหมาย ไม่มีแม้ร่างของคนตัวเล็กๆนั้น กลิ่นคนตัวขาวยังติดอยุ่ที่ปลายจมูกโด่งนั้น กลิ่นหอมราวกับเด็กก็ไม่ปาน ต่างจากคนทุกคนที่เค้าหิ้วกลับบ้าน หญิงสาวพวกนั้น กลิ่นของเครื่องสำอางนานา ชนิดที่แต่งแต้มจนมองไม่เห็นความจริง
วันนี้ อีกเช่นกัน เค้าไม่ได้อยากทำร้ายฮยอกแจ หัวใจไม่เคยทำตามความรู้สึก หลอกลวงตัวเองทุกครั้ง
ไม่รุ้ว่าทำไม เพียงแค่คำว่า เค้าไม่ใช่เกย์ เค้าเลยต้องเกลียด ลีฮยอกแจ
+
++
+++
3 ปีที่แล้ว ณ ประเทศจีน
“ พี่ฮัน รอเค้านานไหม” อี๋จินเด็กสาวตัวเล็ก กอดแขนพี่ชายตัวเองไว้ ก่อนจะยิ้มหวานให้
“ ไม่ นานหรอก แล้วกลับบ้านได้ยัง เจ้าตัวดี” ชายหนุ่มหันไปขยี้หัวน้องสาวเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ ยัง เขาต้องไปทำ ภารกิจก่อน”
“ ภารกิจ อะไร”
“ ก็วันนี้ วันเกิด พี่โจวหมี่นะ พี่อะ ลืมอีกแล้วเหรอ” หน้าบูดๆของเด็กหญิงที่พี่ชายลืมวันสำคัญของแฟนตัวเองก็มาอยู่บนใบหน้าทันที
“ อ้าว ก็แฟนเรานิ แฟนพี่ที่ไหนเล่า” ฮันคยองส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินขึ้นรถ แล้วออกเดินทางไปหาเจ้าของวันเกิดทันที
“ เข้าไปสิ พี่อยุ่นี่เหละ เสร็จแล้วก็รีบออกมานะ เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วงเอา” หนุ่มร่างใหญ่สั่งเสีย น้องสาวของตัวเองก่อนจะลูบหัวเบาๆ
“ คร่า พี่นี่น่ารักจริงๆ มาหอมทีนะ” เด็กหญิงหันไปหอมแก้มพี่ชายแบบเต็มรัก ก่อนจะเดินลงจากรถ
เสียงดังอึกทึกของเสียงเพลง ตอนนี้ เปิดให้ขาแดนซ์ทั้งหลาย ยักย้านส่ายสะโพกกันเต็มที่
“ พี่คยู ค่ะ พี่โจวหมี่ ละ” เด็กหญิงที่หันไปถาม ชายหนุ่มร่างสูงที่ตอนนี้กำลัง เมาเต็มที่
“อยู่ นายยยย ห้องม้างงงง” ไม่วายมือนั้นยังชี้ทางไปอีก
“ อ๊ะ อ้า โจวหมี่ อ๊ะ ระ เร็ว อะ อ้า ~ ”
“เฮนรี่ นายนี่ ร้อนแรงจริงๆ”
เสียงที่เล็ดลอดออกจากปานประตู ทำเอา คนที่ยืนอยู่ มือสั่น ขาเล็กๆนะ ก้าวไปเปิดประตู ภาพตรงหน้าคือ คนที่ได้ชื่อว่าเป็น คนที่รัก กำลังมีความสัมพันธ์ กันอย่างลึกซึ่ง กับ ชายที่ร่างเล็กกว่าข้างล่าง คนตัวโต กดจูบคนด้านล่างอย่างดูดดื่ม ก่อนจะดึงร่างเล็กๆนั้น ขึ้นมานั่งบนตัวของตนเอง หน้าของร่างสูงซุกไซ้ลงที่ลำคอขาวนั้น กดจูบ อย่างถึงอารมณ์
“ อ้า ~ อะ อี๋จิน” ชายร่างเล็กเปิกตาโพรงเมื่อเห็น อี๋จิน เพื่อนของตนเองแฟนสาวของโจวหมี่ชายที่เค้ากำลังร่วมรักอยู่นั้น ยืนอยู่ ข้างหน้า
แทบขาดใจ คำนี้ ยากเกินกว่าจะอธิบายความรู้สึก แต่ภาพของชายตรงหน้า คนรักของเธอกำลังมีอะไรกับผู้ชาย เจ็บแสนสาหัส ยิ่งกว่าเอาเข็มพันเล่มมาทิ่มลงไปกลางอก ขาแข็งจนก้าวไม่ออก น้ำตาไหลแม้ข่มยังไงก็ห้ามไม่อยู่ ยังจะดีซะกว่าถ้าภาพตรงหน้า คือผู้หญิง แต่กลับกันอย่างสิ้นเชิง เฮนรี่ เด็กชายที่อยู่ร่วมห้องเรียนเดียวกัน ตังหากที่เธอเห็น
“ อี๋จิน คือ พี่ ” ร่างสูงเอ่ย ขึ้น แต่หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้า น้ำตาที่ไหลแทบจะเป็นสายเลือด ก้าวไปข้างหลังช้าๆ ก่อนจะวิ่งออกจาก ผับนั้น ชายร่างสูงที่วิ่งตามออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่เสื้อด้วยความรีบ ก่อนที่จะ สายเค้าควรอธิบายให้เธอรู้ก่อน แต่ก็สายดั่งความคิด หญิงสาววิ่งออกมากลางถนน เพื่อข้ามไปหา พี่ชายที่ฝั่งตรงข้าม
รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงตามเวลาที่ดึกสงัด กระทบร่างเล็กเข้าอย่างจัง ล้อรถเหยียบทับร่างเล็กๆนั้น สิ้นลมหายใจทันทีกลางถนน สายตาของฮันคยองที่เหนเหตุการณ์ อยู่ ตลอดเวลา ไหวติง น้ำใสๆไหลเอ่อ ออกมานอกดวงตากอดร่างร่างไร้วิญญาณของน้องสาวไว้ ทั้งกอดทั้งหอมร่างไร้วิญญาณนั้น เสมือนยังมีชีวิตแทบจะร้องขอต่อสวรรค์ดลบันดาลให้มันเป็นแค่ความฝัน ฝันที่เลวร้ายที่สุด
แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วแต่สำหรับ ชายที่ถูกว่า ไร้หัวใจ คนนี้ มันหมือนเหตุการณ์นี่ยังเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน จมูกเล็กๆนั้นเหมือนเพิ่งแตะที่แก้มของเค้า
“ อี๋จิน พี่นะ มันคงไร้หัวใจจริงๆสินะ ” ร่างสูงพูดกับตัวเอง ก่อนจะยิ้มอย่างเหนื่อยๆ ให้กับ ความรู้สึก
ชั้นไม่ใช่เกย์
ชั้นรัก ลีฮยอกแจไม่ได้
แต่ทำไม นะ ชั้นไม่ได้รักนาย ลีฮยอกแจ ชั้นถึงพูดคำนี้ไม่ออก
เพราะคนพวกนี้ไม่ใช่รึ ฮันคยอง นายถึงต้องเสียน้องสาว เพราะ คนพวกนี้ไม่ใช่รึไงกัน ใช่ นั้นคือคำที่เค้าจะพูดถ้าคำถามนี้ถูกถามขึ้นก่อน ที่เค้าจะร่วมรักกับฮยอกแจ แต่ถามตอนนี้ ผมคงไม่อยากบอกคำถามนี้เลย
ภาพของคนตัวขาวเมื่อคืน เสียงครางหวานๆนั้น ซอกคอขาวๆ ปากนุ่มๆ มันยังคงติดอยู่ในสมอง แม้แต่กลิ่นหอมของคนตัวขาว ยังคงฝังลงในจมูก จดจำได้ดี แม้ผ่านมา เกือบ 4 ชั่วโมงแล้วก็ตาม
+
++
+++
++++
++++++
“ ผู้ป่วยปลอดภัยครับ แต่ยังคงหายใจผิดปกติ เราจึงต้องใส่เครื่องช่วยหัวใจ ระหว่างนี้ไปก่อน” คุณหมอที่อาวุโสพูดขึ้นก่อนจะเดินไป
“ เมื่อไหร่ กันนะ ที่นายจะกลับมาเป็นเพื่อนของชั้นเหมือนเดิม ไอ้ไก่ ” ดงเฮพูดขึ้นก่อนจะลูบหัว เพื่อนรักที่นอนอยู่อย่างเบามือ
“ ฮยอกแจ แล้วพี่จะมาเยี่ยมใหม่นะ “ ฮีซอลจับมือฮยอกแจร่างที่นอนนิ่งอยุ่บนเตียง
ดึกสงัดของคืนนั้น ร่างสูงใหญ่ยืนมองร่างเล็กๆ ที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงสะอาดสีขาวของโรงพยาบาล เวลานี้อาจไม่ใช่เวลาที่ควรมาเยี่ยมผู้ป่วยสักเท่าไหร่นัก มือหนาลูบผมเส้นเล็กของฮยอกแจเบาๆ
“ชั้น ขอโทษ ลีฮยอกแจ” น้ำตาที่เอ่อล้นดวงตาทั้ง 2 ข้างของร่างสูง ปล่อยโฮออกแบบไม่คิดจะเก็บสักนิด
ก่อนหน้านี้ คุณหมอที่เดินออกจากห้องฉุกเฉิน เดินมาที่เคาเตอร์ของพยาบาล ที่ชายร่างสูงนั่งอยุ่พอดี
“ติดต่อ ญาติ ของคุณ ลีฮยอกแจด้วย ว่า อาการของคุณลีฮยอกแจ ตอนนี้ทรุดลงแล้ว”
“ค่ะ ได้ค่ะ คุณหมอ”
“ขอโทษนะครับ”ผมเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ทันที
“ค่ะ”
“คุณลีฮยอกแจเป็นอะไรครับ”
“ลีฮยอกแจ เป็น เนื้องอกในสมองค่ะ”
“เนื้องอก เหรอครับ”
“ค่ะ ” สุดสิ้นของพยาบาล ชายร่างสูงทรุดลงกับเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ ร่างกายหมดแรงไปตามหัวใจทันทีเมื่อรู้ความจริงที่คนร่างเล็กปิดบังไว้
มือเล็กๆ เอื้อมมาเช็ดเช็ดน้ำใสๆบนใบหน้าของร่างสูง มือหนานั้นกุมมือเล็กๆนั้นไว้แล้ววางทาบไว้ที่หน้า แล้วจูบฝ่ามือนั้น เบาๆ
“ ชั้นขอโทษ ลีฮยอกแจ” สายตาเล็กๆที่จ้องชายหนุ่มที่กำลังพูดถึงเค้า แทบจะไม่อยากเชื่อสายตา ฮันคยองกำลัง พูดคำว่า ขอโทษ กับเขาลีฮยอกแจผู้ชายที่แสนจะสกปรก น้ำตาของฮันคยองที่ไหลให้เค้าให้มันเพื่อเค้าเหรอคนไร้ค่าอย่างเค้าเหรอ
หนุ่มร่างเล็กพยุงตัวขึ้นมานั่งโดยที่มือใหญ่ช่วยอีกแรงหนึ่ง
“ ฮยอกแจ นายรำคาญเครื่องช่วยหายใจไหม” ร่างเล็กพยักหน้าเป้นคำตอบ
“ ชั้น ช่วยนะ ชั้นจะช่วยให้นายหายใจสะดวกขึ้น” ไม่ต้องรอให้ร่างเล็ก ตอบกลับ ร่างสูงถอดเครื่องช่วยหายใจออกอย่างเบามือ ก่อนจะโน้มลงจูบปากคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน จูบให้ลมหายใจกับคนป่วย คนตัวเล็กหลับตาพริ้มเพื่อรับสัมผัสของคนตรงหน้า มือหนากอดเอวของคนตัวเล็กเอาไว้หลวม ก่อนจะเลื่อนมาจูบที่หน้าผากมนอีกครั้ง
ไม่ได้เป็นจูบที่บดเบียนไม่มีการรุกล้ำ แต่เป็นจูบที่อ่อนโยนและอบอุ่น ที่ชายร่างสูงมอบให้ เขามอบลมหายใจของเขาให้ลีฮยอกแจ ตุ๊กตาที่ไร้ค่าตัวนี้
“ ฮัน” สายตาของคนตัวเล็กที่จ้องมอง คนร่างสูงแทบจะไม่เชื่อสายตา คำถามที่วิ่งวนในหัวสมอง เป็นร้อยๆคำถามแต่ก็ไม่กล้าที่จะถาม หากถามแล้วชายข้างหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิม คงไม่อยากถาม ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ แบบนี้ดีแล้ว
“ ดีขึ้นไหม” ร่างสูงจ้องหน้าถามคนตัวเล็กในอ้อมกอด
“อื้มม” หน้าแดงจนต้องหลบความเขินอาย
“ฮยอกแจ ไปเที่ยวกับชั้นหน่อยได้ไหม” เสียงชายร่างสูงถามขึ้น
“อื้มมมมมม แต่ที่นี่มันโรงพยาบาลนิ จะออกไปได้ไง”
“ได้สิ ฮันคยองซะอย่าง” กล่าวเสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้าย ไม่รู้นานกี่ชั่วโมงแล้วที่ออกมา แต่ตอนนี้ร่างเล็กใช้ไหล่ของคนร่างสูงเป็นหมอน มองทะเล ข้างหน้า ที่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว
“อยากวิ่งจังเลย” ร่างเล็กพูดขึ้นก่อนจะตีลงที่ต้นแขนแกร่งของร่างสูง “จับให้ได้สิ ” ไวเท่าความคิด ร่างสูงวิ่งขึ้นไล่ตามคนตัวเล็กไป
“ฮ่าๆๆ ฮิฮิ ” เสียงหัวเราะที่บอกถึงความสุขของคนทั้งคู่ ไม่อาจจะแปลเป็นคำพูดใดๆ รอยยิ้มที่เปิดเผยจนแทบปริ ไม่อาจจะ หักห้ามหรือเก็บกั้นไว้ได้ ความสุข เปลได้ความว่าอย่างนี้เองเหรอ นานเท่าไหร่แล้วที่คนร่างสูงไม่ได้รับมันหลังจากที่น้องสาวเสียชีวิต แต่วันนี้เขากับได้รับมัน จากคนที่เข้าปฎิเสธมาตลอดเวลา ลีฮยอกแจ
“ลีฮยอกแจ นายเปรียบว่า ชีวิตนายคือไร” เสียงของฮันคยองถามขึ้น ร่างเล็กที่เอาไม้เขียนลงบนพื้นทรายละเอียดว่า ( ก้อนหิน )
“ ก้อนหิน ทำไมถึงเป็น ก้อนหินละ”
“เพราะ ชั้นคือ ก้อนหินแล้วนายคือพระอาทิตย์ไง” ร่างเล็กหันไปจ้องหน้าร่างสูง “ก้อนหินที่ได้แต่มองดูพระอาทิตย์ แม้จะพยายามฝืนตัวให้อยู่ใกล้พระอาทิตย์เท่าไหร่ก็ไม่มีทางทำให้พระอาทิตย์เหลือบมองลงมาได้ ที่ได้มา คงมีแค่แสงแดดที่แผดเผาก้อนหินก้อนนั้นก็เท่านั้นแต่ก็ไม่เป็นไร แค่ได้อยุ่ที่เดิม ได้มองพระอาทิตย์อย่างงี้ก็ดีแล้วละ ”
“ลี ฮยอกแจ” โดนรักมากขนาดนี้ จะตอบแทนยังไงไหว ร่างสูงกอดร่างเล็กไว้เบาๆ ก่อนจะลูบเบาๆที่ผมเส้นเล็กๆนั้น
“ เสดแล้ว ฮันไปอาบต่อสิ ” ร่างเล็กที่เดินออกจากห้องน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ที่ติดอยู่ที่เรือนร่างของร่างเล็กๆ ที่ตอนนี้ นั่งอยู่หน้าทีวี เรียบร้อย
ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงเดินออกมา นั่งข้างๆคนตัวเล็ก ที่นั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตรงโซฟา
“ไม่ง่วงรึไง” ฮันคยองหันไปถามคนที่นั่งอยุ่ข้างๆ
“ ไม่อะ ชั้น ไม่ง่วง” เสียงเล็กๆพูดก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆ ใครจะไปกล้าบอกละว่า ที่ไม่หลับเพราะกลัวคนข้างๆ ทำมิดีมิร้ายตอนหลับ
“ฮยอกแจ” เสียงของร่างสูงเอ่ยขึ้นก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้คนตัวเล็ก ก่อนจะประกบริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากบางนั้นเบาๆเคล้าคลึงอยู่นานก่อนจะส่งทูตเข้าไปเกี่ยวรัดกันในโพรงปาก
“อื้มม” เสียงที่ในอารมณ์ที่เริ่มขึ้นของทั้งคู่ มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อของคนข้างหน้า ไล้สัมผัสกอดรัดจนคนที่โดนกระทำเอนรับสัมผัสอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเสื้อบางก็ร่วงหล่นลงกับพื้น ร่างสูงดึงให้ร่างเล็กนอนลง ก่อนจะซุกไซร์ลงที่ซอกคอขาวละเอียดนั้น ดูดเม้มจนเป็นสีเลือด ฝากรอยไว้ทั่วคอ ก่อนจะไล้ลงมา ดูดเม็ดอัญมณีสีชมพูดนั้น ทำเอาคนที่โดนกระทำร้องเสียงหลง
“อ๊ะ ฮัน อ๊ะ อ้า~” ไม่ช้าร่างสูงก็ถอด ตัวขัดขวางชิ้นสุดท้ายออก
ร่างสูงอุ้มคนร่างเล็กมาบนเตียงที่ห่างไม่ถึง 2 ก้าว ร่างสูงถอดเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะระดมจูบที่ซอกคอของร่างเล็กตรงหน้าอีกครั้ง มือเล็กๆที่โอบเกี่ยวคอของร่างสูงเอาไว้ไล้สัมผัสไปทั่วแผ่นหลังของร่างที่ทาบทับเขาอยุ่
ร่างสูงเลื่อนจากซอกคอมาเป็นสิ่งชูชันที่ตอนนี้ใกล้ปดปล่อยเต็มที ร่างสูงก้มลงจูบซับกับสิ่งนั้นก่อนจะเอาปากเข้าครอบงำเอง
“อ๊ะ ฮัน อ๊ะ อ้า~” เสียงที่หลุดออกมาพร้อมของเหลวสีขุ่นที่เต็มไปทั้งปากของคนร่างสูง “ อย่ากลืนนะ ฮัน มันสกปรก” ไวเท่าความคิด ร่างสูงกลืนมันแล้ว
“ไม่สกปรกสักนิด” ก่อนที่เค้าจะก้มลงจูบคนตัวเล็กข้างหน้าให้ได้รุ้ รส กับของของตัวเอง
มือหนาพลิกร่างเล็กๆนั้น ก่อนจะทาบทับแล้วกัดลงที่หูเบาๆเล่นเอา คนที่ถูกทับเสียวกระสันทีเดียว นิ้วเรียวถูกแทกเข้าไปทางช่างรักสีชมพูนั้นจากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสาม แทบทำเอาคนข้างหยุดหายใจ
“ให้ชั้นเข้าไปนะ” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากร่างข้างใต้นั้น เจ้ามังกรที่ตอนนี้เตรียมรบเต็มที ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไป ทางช่องนั้น รูดจังหวะขึ้นลงตามเสียงหัวใจที่ถี่รัว
“ อ๊ะ ฮัน ชั้น อา ระ รักนายนะ ให้ชั้นไปก่อนเถอะนะ” ดุจเสียงขอร้องที่เหมือนจะขอให้ปล่อยจากการทรมาณ แต่ไม่ใช่มัน คือเสียงขอ ร้องที่ให้ปล่อยให้เค้าไปถึงความสุขซ่านสักที
“ ไม่ได้ไปพร้อมกันสิ” ร่างสูงเร่งจังหวะให้ไปถี่ขึ้น อีก
“อ๊ะ อ๊าห์ อ้า~ “ คนตัวเล็กแทบจะสลบลงให้ทันที ร่างสูงดึงผ้าห่มมาห่มตัวก่อนจะถอดถอนสิ่งนั้นให้ออกจากตัวของฮยอกแจ แล้วจูบลงบนหน้าผากมนนั้นอีกครั้ง
“ ฝันดีครับ” สิ้นเสียงนี้ ร่างสูงก็นอนลงข้างๆ แล้วกอดคนตัวเล็กไว้หลวมๆ
แสงแดด ยามเช้าที่สาดส่งลงมาที่ห้องทำให้คนที่นอนอยุ่ใน อ้อมกอดแกร่งรุ้สึกตัว นี่คงเป็นครั้งแรกสินะ ที่เค้าได้อยุ่ใกล้พระอาทิตย์ขนาดนี้ อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ โลกที่เคยหมุนก็ให้หยุดอยู่แค่นี้เถอะ ร่างเล็กจ้องร่างสูงที่กอดเขาอยู่ก่อนจะจุ๊ฟลงที่ปากหนานั้นเบาๆ
“แอบ จุ๊ฟชั้นนะ เดี๋ยวก็โดนอีก 5 ยกหรอก” ร่างสูงพูดขึ้นทั้งๆที่ยังหลับตาอยุ่
“แกล้งหลับเหรอเนี้ย ไม่ต้องมาปิดตาเลยนะ เปิดเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่แกล้งแล้วจะรุ้เหรอว่า ใครแอบทำตอนชั้นหลับ” ร่างสูงไม่พูดเปล่ายังกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้นอีก
ความสุขเพียงเท่านี้เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจให้ชุ่มฉ่ำเสียเหลือเกินแม้จะเกินอะไรขึ้นก็ตามหลังจากนาทีนี้ เค้าก็คงไม่สนแล้วแค่นาทีนี้ คนที่นอนกอดเค้าคือ ชายร่างสูงคนนี้เท่านั้นก็คงพอ
“อยากจะไปไหนอีกไหม ชั้นจะพาไป” ร่างสูงถามขึ้นก่อนจะเกลี่ยผมของคนตัวเล็กให้เข้าที่
“ ไม่ละ ชั้นได้แค่นี้ก็ดีแล้ว”
“ชั้นมีอะไรจะถาม แต่นายห้ามโกหกนะ” ร่างสูงจ้องหน้าคนตัวเล็ก
“อื้มม”
“ทำไม นายต้องปิดบังคนอื่นด้วยละ เรื่องที่นายเป็น เนื้องอกนะ” ร่างสูงจับมือคนร่างเล็กเอาไว้
“นะ เนื้องอก ชั้น คือชั้น” ไม่ทันที่ร่างเล็กจะพูดจบร่างสูงก็รีบสวมกอดแทบทันที “ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ ชั้นจะอยู่กับนายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลีฮยอกแจ”
“คือ ฮัน ฟังชั้นก่อน”
“ไม่ๆนายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ชั้นเข้าใจมันดี”
“ไม่ นายต้องฟังชั้น คือชั้นไม่ได้เป็นเนื้องอก”
“นั้นไง ชั้นบอกว่านายนะไม่ได้ ...... เอ่อ....ไม่ได้ นายไม่ได้เป็นเนื้องอกหรอกเหรอเนี้ย” จะดีใจก็ว่าดีใจแต่ ทำไมวันนั้นคุณหมอถึงพูดอย่างงั้นละ
เมื่อวันที่ฮยอกแจเข้าโรงพยาบาล
“ซินรีบๆหน่อยได้ไหมเล่า ทำไมนายถึงช้าอย่างงี้” หลังจากที่ฮันคยองรู้ข่าวก็แทบจะลากฮีซอลมาโรงพยาบาลด้วยความเร็วแสง จนทำให้ฮีซอล งง ไปกับการกระทำของฮันคยองที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อถึงโรงพยาบาล
“นายทำอะไรเพื่อนชั้น ไอ้สารเลว นายมันเลวที่สุด ไอ้คนไร้หัวใจ ” เสียงเล็กๆที่กระชากคอเสียงของคนร่างสูงตะครอกใส่ลงอย่างไม่หยั้ง “นายนะ ทำไม บอกชั้นสิว่าทำไม เพื่อนชั้นต้องรัก คนเลวๆอย่างนายด้วย ทำไม ฮือๆๆ” แรงน้อยๆหมดลงก่อนจะทรุดลงตรงหน้าของฮันคยอง แต่ก็ไร้ปฎิกริยาตอบสนองจากฮันคยองทั้งที่จริง ฮันคยองไม่ใช่คนแบบนั้นในสายตาของฮีซอลเค้าแทบไม่อยากเชื่อ หลังจากที่ฮันคยองเดินไป
“ ผู้ป่วยปลอดภัยครับ แต่ยังคงหายใจผิดปกติ เราจึงต้องใส่เครื่องช่วยหัวใจ ระหว่างนี้ไปก่อน”
“อาครับ” เสียงของฮีซอลพูดขึ้น ก่อนจะถามอาการของ ฮยอกแจอย่างละเอียด
“ อาครับ อาช่วยไปบอกพยาบาลที่เค้าเตอร์ ตรงนั้นด้วยนะ ว่าให้โทรหาที่บ้านลีฮยอกแจด้วย บอกว่า ลีฮยอกแจเป็น เนื้องอกใน สมองนะ”
“ เห้ย!!!! พี่ทำไมมาแช่งเพื่อนชั้นละ” เสียงดงแฮพูดขึ้น
“อาจะทำอย่างั้นได้ไง เสีย จรรยาบรรหมอนะ”
“นะ อา นะครับ นะๆๆ” การอ้อนของหลานคนโปรดไม่มีทางจะไม่ได้ผล เมื่อรุ้ว่ารักแต่ไม่เคยทำตามหัวใจ รู้อย่างงี้แล้ว ดูสิ ไอ้เพื่อนตัวดี ยังจะทนได้สักกี่น้ำ
“ นายคิดว่าชั้นเป็น เนื้องอกนายเลยทำดีกับชั้นงั้นเหรอ” หัวใจที่พองโตเมื่อนาทีที่แล้วเหมือนใครเอาเข้มมาจิ้มให้ให้แฟ่บลง ในนาทีต่อมา
“อื้มมม ใช่” ฮันคยองตอบก่อนจะจ้องหน้าคนร่างเล็กที่ตอนนี้น้ำใสๆกำลังจะไหลอีกแล้ว
“งั้นตอนนี้ นายก็รุ้ความจริงแล้วนิ” คนตัวเล็กถอยออกมาจากอ้อมกอดนั้น เมื่อรุ้ความจริง เค้าก็คงเดินกลับมาอยุ่ที่เดิม ที่ของคนสกปรกอย่างเค้า
มือหนารั้งเอวบางนั้นเข้ามาใกล้อีกครั้ง “แต่ชั้นก็รู้สึกขอบคุณเจ้าเนื้องอกจอมปลอมนั้นนะ”
“หืมม??”
“ขอบคุณ ที่มันได้มอบนายให้กับชั้นไงละ ลีฮยอกแจ” ปากหนาโน้มลงจูบปากบางอีกครั้งอาจไม่ดูดดื่มอย่าในหลายคืน แต่หวานตราบนานเท่านานในความรู้สึก
กว่าจะรู้ว่ารักก็เกือบสาย นาทีนี้ไม่จำเป็นแล้ว สำหรับการหาตัวการเจ้าของแผนเนื้องอกนั้น แต่นาทีนี้ เมื่อมีก้อนหินก้อนนี้อยู่พระอาทิตย์อย่างเค้าก็พร้อมสาดส่งแสงแดดอ่อนๆปกคลุมให้ก้อนหินอบอุ่นอยุ่เสมอ แม้อาจบอกไม่ได้ว่า ตลอดไปรึเปล่า แต่จากนี้และทุกๆวัน เค้าจะทำให้ให้ก้อนหินก้อนนี้อบอุ่นขึ้น แม้อาจจะไม่มากแต่ก็จะไม่แผดเผาดั่งเช่นอดีต ที่เคยทำ
...............................................................................................................................................................................
ไม่รู้จะ สมกับการรอคอยรึเปล่า
เปงไงก็บอกกันด้วยนะคร่า
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น