ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) playground style (chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #5 : (ノ・◡・)ノ ♥ favour you : five - end

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 57


    favour you
    FIVE







     

     

     

    “หง่อววววววววว เหนื่อยเป็นบ้าเลย” ตะโกนออกมาลั่นห้องเมื่องานตัวเองเสร็จเรียบร้อยหลังจากนั่งทำมาไม่ต่ำกว่าห้าชั่วโมงติดแบบไม่มีพัก ทิ้งหัวลงบนพื้นเปล่า นอนแผ่กางแขนกางขาแล้วหลับตาผ่อนคลายแบบคนมีความสุขมาก แบคฮยอนนอนนิ่งอยู่แบบนั้นจนได้ยินเสียงรองเท้าก้าวเข้ามาในห้องแต่ก็ไม่ได้สนใจจะลืมตาขึ้นมาดู

     

    “กินข้าว”

     

    “ยังไม่หิวเลย หิวน้ำมากกว่า”

     

    “งั้นก็ลุกขึ้นมากินน้ำ”

     

    ยอมลุกตามคำบอกของอีกคนในห้อง แบคฮยอนยิ้มแป้นใส่ชานยอลที่นั่งเยื้องจากเขาไม่เท่าไร ยันตัวขึ้นนั่ง ขยับตัวเองไปนั่งขนานกับอีกคน แล้วเอาหัวพิงไหล่กว้างๆนั่น มือก็รับขวดน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบมาดูดอย่างสบายอารมณ์

     

    “จงอินล่ะ”เป็นเพราะทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตา ตอนแรกนัดกันมาทำงานส่งอาจารย์กันสองคน แต่จงอินเอาคยองซูมาด้วย เขาก็เลยหมั่นไส้นิดหน่อยเลยโทรเรียกให้ชานยอลมาหาบ้าง รายนี้ไม่รู้ทำอะไรอยู่แต่ชวนมาก็ตอบรับแบบง่ายดายเลย

     

    ผ่านมาได้อาทิตย์เดียวหลังจากชานยอลรู้เรื่องทั้งหมด เขาก็ไปหาตอนเลิกเรียนทุกวัน ไปเที่ยวบ้างในแบบที่เรียกว่าเดท ไปห้องสมุดบ้างถ้าชานยอลจะอ่านหนังสือ แบคฮยอนก็ยังจีบชานยอลอยู่นะ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนมันไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไร...

     

    “ออกไปกินข้าวกับคยองซู” สองคนนี้พอจงอินรู้ว่าคยองซูยังไม่ได้คบใครก็เดินหน้าเต็มที่ แล้วมันก็ได้เป็นแฟนคยองซูสมใจอยาก แล้วโมเดลวันพีชทั้งเจ็ดตัวก็มาเป็นของรักของหวงของแบคฮยอนเป็นที่เรียบร้อย ตั้งไว้หัวเตียง เช็ดฝุ่นทำความสะอาดเช้าเย็น

     

    “วรั๊ยๆ งั้นเราก็กินข้าวกันสองคนสิ โรแมนซ์เว่อร์”

     

    “ทำนองนั้น” ชานยอลลากโต๊ะเตี้ยๆมาวางไว้ตรงหน้า ดึงแบคฮยอนให้นั่งชิดกว่าเดิมแล้วหยิบกล่องข้าวมาวางไว้ จัดช้อนให้เสร็จสรรพพร้อมกิน

     

    ด้วยความที่โต๊ะมันเล็กแล้วก็วางกล่องข้าวสองกล่องทำให้ต้องนั่งเบียดกัน แขนยาวเลยยกออกมาโอบไหล่เล็กไว้เพื่อให้แบคฮยอนทานข้าวได้ถนัด ส่วนเขาก็กินมือเดียวไป

     

    “ความจริงเอาโต๊ะมาคั่นกลางก็จบเรื่องป่ะ จะเบียดทำไม”

     

    “คนจีบกันก็ต้องอยากอยู่ใกล้กันสิ นายไม่รู้สึกแบบนั้นหรอ”

     

    แบคฮยอนขมวดคิ้ว เท่าที่รู้คนจีบกันมันก็ต้องอยากอยู่ใกล้อยู่แล้ว แต่นี่ทำอย่างกับแฟนกันเถอะ เขานี่จะนั่งตักชานยอลอยู่แล้ว

     

    อย่างที่บอกว่ามันไม่ค่อยเหมือนเดิม...ก็เพราะเหมือนว่าเขากำลังถูกจีบ ไม่ใช่เป็นคนจีบชานยอลไงเล่า

     

    “กี่โมงแล้ว”

     

    “จะบ่ายสาม”

     

    “กินข้าวเสร็จออกไปนั่งเล่นข้างตึกกัน” แบคฮยอนเอ่ยปากชวนอีกคนที่พยักหน้ารับคำอย่างไม่อิดออด

     

    “ได้ ทำหน้าเหมือนมีอะไรจะบอก” ชานยอลตักไก่ทอดมาป้อนแบคฮยอนที่มองอยู่ ปากเล็กงับเข้าปากแล้วตักหมูทอดไปวางไว้ในจานชานยอลเป็นการแลกกัน แบคฮยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าการกระทำทั้งหลายที่เจ้าตัวแสดงออกมาน่ะ มันเหมือนคนเป็นแฟนกันมากกว่าที่เขาทำเสียอีก แบคฮยอนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติแต่คนอื่นในโรงเรียนคิดกันหมดแล้วว่าเขาเป็นแฟนกันทั้งที่ความจริงยังไม่ถึงขั้นนั้น นี่ยังจีบกันอยู่เลย...

     

    “ไม่บอก จะเซอร์ไพรส์”

     

     

     

     

     

    FAVOUR YOU

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนลากชานยอลให้มาสวนข้างตึกศิลป์ แต่คราวนี้ไม่ได้พาไปนั่งแถวโต๊ะม้าหินอ่อน ผ้าสีครีมผืนใหญ่ที่แบคฮยอนหอบมาบ่งบอกเลยว่าคนตัวเล็กคงอยากจะนอนเล่นบนพื้นหญ้ามากกว่า

     

    มือใหญ่หยิบมันออกมากางก่อนที่แบคฮยอนจะได้ทำมัน อีกฝ่ายเลยได้แต่ยืนกอดอกมองแบบเคืองๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นทำปูผ้าเอง แต่พอชานยอลปูเสร็จแล้วกวักมือเรียกให้ลงมานั่งคนที่ทำท่าจะงอนก็นั่งลงแบบไม่อิดออด ยังงอนไม่ได้ ต้องทำภารกิจสุดท้ายก่อน!

     

    หมับ!

     

    คว้าแขนชานยอลทั้งสองข้างให้หันมาหาและส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้ แบคฮยอนตบไหล่ทั้งสองข้างนั่นเบาๆก่อนจะเอามือมาประสานไว้ที่หน้าตักตัวเอง

     

    “นายว่านิสัยฉันเป็นยังไง”

     

    “ฉันชอบมันนะ”

     

    “นิสัยเพี้ยนๆเนี่ยนะ”

     

    “นายแค่เป็นตัวของนาย มันไม่ได้เพี้ยนสักหน่อย”

     

    “ทำไมมีแต่คนว่าฉันเพี้ยนล่ะ จงอินชอบบอก”

     

    “แล้วยังไง นายถามแค่ฉันไม่ใช่รึไง” ถึงกับหลุดยิ้มที่ได้ยินคำตอบ แบคฮยอนพยักหน้ารับ ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีกับคำพูดชานยอลมากแค่ไหน มันบอกให้รู้ว่าชานยอลไม่สนคำคนอื่น อย่างน้อยชานยอลก็สนแค่เขา

     

    “ยิ่งพูดแบบนี้ฉันยิ่งชอบนายนะ”

     

    “ฉันดีใจที่มันเป็นแบบนั้น”

     

    “แต่นายไม่เคยบอกว่าชอบฉัน” ใช่ ชานยอลไม่เคยบอกเลยแม้แต่รั้งเดียว แต่มันไม่เป็นอะไรสำหรับแบคฮยอนหรอก แค่ทุกวันที่มันเป็นอยู่แบบนี้เขาก็รู้สึกดีมากพอแล้ว เพียงแต่เขาอยากทำอะไรให้มันชัดเจนแจ่มแจ้งไปเลยก็เท่านั้นเอง

     

    “นายรู้อยู่แล้วนี่” ถึงแบคฮยอนจะดูไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้แต่ใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละ

     

    “แล้วนายจะไม่พูดว่างั้น”

     

    “นายพร้อมรึยังล่ะ”

     

    “ไม่เอาดิ งานนี้ฉันต้องเซอร์ไพรส์นาย ไม่ใช่นายเซอร์ไพรส์ฉัน ปิดปากตัวเองไว้เลย”

     

    “ฉันก็รอนายเซอร์ไพรส์ตั้งนานแล้ว”

     

    “งั้นก็...”

     

    “...”

     

    “อะแฮ่ม ฉันจะหลับตาสิบวินาทีถ้วนไม่ขาดไม่เกิน ถ้าฉันลืมตาขึ้นแล้วยังเห็นนายอยู่ตรงนี้ ฉันจะถือว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ถ้าไม่ นายก็เดินออกไปซะ จบนะ”

     

    แบคฮยอนหลับตา แล้วทุกอย่างในที่นี้ก็เงียบ ปากเล็กเริ่มขยับออกเสียงด้วยหัวใจที่สั่นระรัว

     

    ใครจะว่ามันไม่น่าตื่นเต้นหรือว่ามันไม่เซอร์ไพรส์ตรงไหนก็ช่าง แบคฮยอนก็มีวิธีของตัวเอง วิธีที่ไม่เหมือนใคร วิธีที่คิดเอง วิธีที่เขาคิดว่านี่แหละตัวเขาที่สุด พูดตรงๆบอกตรงๆไม่อ้อมค้อม แล้วก็ไม่ได้อ้อนวอนออกมาเป็นคำถาม

     

    “หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด....”

     

    “กะ...”

     

    เลขเก้าหายเข้าไปในคอหลังจากที่โดนดึงเข้าไปกอด ไม่ต้องลืมตาแบคฮยอนก็รู้ว่าใครกอด กลิ่นชานยอลน่ะติดจมูกเขาจะตาย

     

    “นับต่อสิ”

     

    แบคฮยอนไม่กล้าลืมตา กลัวจะเขินไปมากกว่านี้ เลยได้แต่ซุกหน้าลงไปกับไหล่กว้างๆนั่น

     

    “เก้า...สิบ...ว๊าแย่จัง ไม่เห็นชานยอลเลยอะ”

     

    จะเห็นได้ไง ก็ในเมื่ออีกคนกอดเขาอยู่นี่ และไม่ต้องมองก็รู้ว่าแบคฮยอนยิ้มมากขนาดไหน ยิ้มจนตาเป็นสระอิเลย

     

    “ไม่เคยทำให้ตื่นเต้นบ้างเลยนะบยอนแบคฮยอน”

     

    “ทำไมอะ นายไม่ชอบหรอ”

     

    “ชอบสิ ขอเป็นแฟนแบบไม่ได้ขอ มีคนเดียวที่ทำแบบนี้ล่ะมั้ง”

     

    “หง่อวววววววววว อย่าเขินนะปาร์คชานยอล ที่ได้เป็นแฟนกันคนที่นายชอบ” แบคฮยอนลูบหัวอีกฝ่ายที่ยังกอดเขาไม่ปล่อย ใครว่าแบคฮยอนไม่เขิน เปล่าเลย เขาแค่มีความกล้าที่จะแสดงความรู้สึกตัวเองออกมาแล้วมันก็ดีมากที่ได้บอกความในใจออกมาจนหมด และมันก็ดีตรงที่ชานยอลก็คิดเหมือนกันกับเขา

     

    แบคฮยอนน่ะโชคดีที่สุดแล้วววววววว

     

    “ขอบใจที่เข้ามาจีบฉัน แม้จะมีจุดประสงค์ก็เถอะ”

     

    “ยังคิดเรื่องนี้อยู่อีก บอกแล้วไงว่าตอนนี้ชอบแบบจริงๆจังๆแล้ว ชอบจนได้เป็นแฟนกันแล้วนี่ไง” ผละอ้อมกอดชานยอลออกมาหยิกแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยวแทน เขาชอบชานยอลแบบสุดๆไปเลย หลงด้วยรักด้วย ชานยอลทำเอาเขาชอบหมดตั้งแต่หัวยันเท้าเลยก็ว่าได้ นับเป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนดูจะชอบไปหมดทุกอย่างในตัวคนๆนึงได้แบบนี้

     

    “ฉันยังไม่ได้พูดสักทีเลยเลย ปล่อยให้พูดได้ยัง”

     

    “อ่าๆ ว่ามาเลยคุณแฟน”

     

    “ร้ายจังนะแบคฮยอน เป็นแฟนกับฉันทั้งที่ฉันยังไม่ได้บอกรักนายเลย”

     

    “ฉันมัดมือชกไง เก่งป่ะล่ะ” ทำท่าชูกำปั้นพร้อมกับทำหน้าที่คิดว่าทั้งเท่ทั้งแมน ก่อนจะหันมาโชว์ยิ้มตาหยีใส่ชานยอลอีกรอบ

     

    “ตัวยุ่ง”

     

    “ยุ่งแล้วรักป่ะ”

     

    รักมากเลย

     

    “...”

     

    “หง่อว นายเขินแบบนี้ก็น่ารักดีนะ”

     

    “หง่อวนั่นมันของฉันนะ”

     

    “ฉันชอบนายตั้งแต่วันที่เราติดอยู่ในห้องสมุดด้วยกัน นิสัยนายมันทำให้ฉันหลงรักนะรู้ตัวรึเปล่า”

     

    “หง่อวววววว” แบคฮยอนก้มหน้าลงมองมือของชานยอลที่เลื่อมมากุมมือเขาไว้ทั้งสองมือ ไม่กล้าเงยหน้าหรอก สายตาชานยอลตอนนี้มันหวานจนมดจะกัดลูกตาอยู่แล้ว!

     

    “ฉันจะมองเห็นนายก่อนที่นายจะเห็นฉันตลอด ฉันรู้ว่านายคงไม่ได้เข้ามาจีบเพราะชอบฉันจริงๆแต่ฉันก็พยายามทำให้นายชอบฉันจริงๆ”

     

    “ว่าแล้วเชียว...”

     

    “วันที่รู้เรื่องฉันก็เสียใจนะ แต่ก็ขอบคุณมากที่นายยอมอธิบายให้ฉันฟัง แม้ตอนท้ายนายจะหนีไปก่อนก็เถอะ”

     

    “ฉันไม่ชินนี่ที่ต้องพูดแบบจริงๆจังๆอะ”

     

    “แต่ยังไงฉันก็ชอบนะ”

     

    “หง่อววววววววว”

     

    “หง่อววววววววว”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

     

     

     

     

     

    FAVOUR YOU

     

     

     

     

     

    “แบบนี้ผ่านมั้ย”

     

    “หง่อวววววววววว”

     

    “ทำให้แบคคนเดียวเลย”

     

    “หง๊อววววววววววว”

     

    “จะหง่อวอีกนานมั้ย” บีบจมูกคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้วเอาหัวพิงกับผนักพิงจนหัวเกือบตั้งฉากกับพื้น แบคฮยอนหัวเราะคิกคักที่ได้แกล้งแฟนตัวเอง ดึงกระดาษที่ชานยอลตั้งใจวาดเกือบชั่วโมงเพื่อให้เขา ถ้าเทียบกับมาตรฐานทั่วไปแล้วมันไม่ผ่านหรอก แต่ถ้าเทียบมาตรฐานบยอนแบคฮยอน ชานยอลวาดยังไงก็สวย

     

    “ขีดเส้นมาเส้นเดียวยังสวยเลยยอล”

     

    “หง่อววววววววววว”

     

    “มาใกล้ๆหน่อยดิ คิดถึง”

     

    “เดี๋ยวนี้หัดอ้อนหรอ”

     

    “ยอลจะได้รักนานๆ”

     

    “หง๊อววววววววววว”

     

    “คึคึคึคึคึ” แล้วทั้งสองคนก็ไปนั่งเบียดกันบนโซฟาตัวใหญ่แต่กลับใช้พื้นที่ไม่คุ้มเพราะไปแออัดกันอยู่ที่เดียว ไม่รู้เป็นอะไร พออยู่ด้วยกันทีไรเป็นต้องหัวเราะด้วยกันทุกที แบคฮยอนนี่แทบจะยิ้มตลอดเวลาเหมือนคนบ้าเลย ส่วนชานยอลก็พัฒนาจากคนนิ่งๆเป็นคนขี้แกล้งตลอดเวลาเหมือนกัน เรื่องแซวน่ะขอให้บอกสองคนนี้ แซวคนอื่นก็มีบ้าง แต่แซวกันเองนี่ส่วนใหญ่

     

    “เรารู้แล้วว่าชานยอลติดพูดคำว่าหง่อวจากไหน”

     

    “อืม เราก็รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ไอ้หมามันพูดแต่คำว่าหง่อว”

     

    “เหมือนพวกคนบ้าเลยจงอิน” คยองซูหันมองแฟนตัวเองที่นั่งอยู่ด้วยกันตรงโต๊ะกินข้าว วันนี้พวกเขานัดกันปาร์ตี้เล็กๆหลังสอบปลายภาคผ่านไปที่บ้านจงอิน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขากินกันอยู่สองคน ส่วนคู่รักคนบ้าที่กินไปนิดเดียวก็ย้ายสำมโนครัวไปเล่นกันสองคนที่ห้องรับแขก งุ้งงิ้งกันอยู่ไม่นานชานยอลก็ตั้งใจวาดอะไรสักอย่างแล้วแบคฮยอนก็นอนเล่นโทรศัพท์รอ พอมันวาดเสร็จก็อยากที่เห็น หง่อวใส่กันไม่หยุด

     

    “ปกติชานยอลเป็นแบบนี้หรอ” จงอินถามเพราะเท่าที่เขารู้คือชานยอลก็เป็นเหมือนคนทั่วไป แต่เพื่อนเขาน่ะอาร์ตแบบอยู่ในโลกตัวเองได้อย่างมีความสุขจนคนอื่นยังแอบกลัว แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าพวกมันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แทบแยกไม่ออกจากจริงๆแล้วใครกันแน่ที่อาร์ต

     

    “เดี๋ยวนี้เฟรนลี่ขึ้นเยอะเลย แต่ก็ไม่เยอะเท่าตอนอยู่กับแบคฮยอนนะ” คยองซูมองเพื่อนแบบหยาดๆ ก็รู้อยู่ว่าชานยอลน่ะมันจะโรแมนติกและหวานกับแฟนตัวเอง แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้

     

    “คืนนี้นอนกี่โมงดีอะ” ตัดกลับมาที่คู่รักประหลาดที่ยังนอนพิงกันอยู่ที่โซฟา

     

    “ง่วงตอนไหนค่อยนอน ดึกๆก็ชวนคยองซูกับจงอินมาเล่นเกม”

     

    “ดีๆ คราวนี้จะเล่นให้ชนะไอ้ดำให้ได้เลย เวลาเล่นกับมันทีไรแพ้ตลอด ยอลต้องช่วยนะ”

     

    “ช่วยก็ได้ แต่ต้องมีของแลกเปลี่ยน”
     

    “หง่อวววววววววว จะหลอกให้เค้าหอมแก้มหรอ”

     

    “จะหลับตารอนะ” ชานยอลหลับตาอย่างที่บอก ส่วนแบคฮยอนก็ทำปากจู๋อย่างคนใช้ความคิด เหลือบมองอีกสองชีวิตที่อยู่ห่างออกไปเห็นว่าพวกมันเดินไปล้างจานกันแล้ว คงไม่มีใครเห็นแน่ๆ

     

    “จะทำแล้วนะ เตรียมใจรึยัง”

     

    “เตรียมแล้ว”

     

    แบคฮยอนเอามือเล็กทาบแก้มทั้งสองข้างของชานยอลก่อนจะยืดตัวให้ระดับหน้าเท่ากัน หลับตาลงเมื่อเคลื่อนหน้าเข้าใกล้ แล้วค่อยๆประทับกลีบปากเล็กลงบนริมฝีปากของชานยอล กดน้ำหนักลงไปครั้งหนึ่งแล้วผละออกมา พอเห็นชานยอลทำตาโตเหมือนคนตกใจก็ยิ้มตาหยี

     

    “หง่อวววววววววว ยอลเขินหน้าแดงเลยอะ แก้มก็แดงหูก็แดง เหมือนเด็กเลย”

     

    “ไอ้ตัวแสบ” ดึงแบคฮยอนที่หัวเราะอยู่ให้มานั่งตัก คนที่โดนดึงมาก็ทิ้งตังพิงกับอกชานยอลซะเลย แกล้งสั่นหัวให้ผมสะบัดไปโดนหน้าชานยอล

     

    “ชอบๆๆ ยอลเขิน ชอบๆ คึคึคึคึ”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “...เหมือนพวกคนบ้าจริงๆด้วยคยองซู”

     

     















     

    ___ __ ___ _ ___ __ ___

    หง่อววววว จบแล้ว หง๊อวววววววววววววววว
    #ฟิคชานแบคโมเดล 

    (c) Chess theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×