ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) HEY, my boyfriend Δ (chanbaek ft. kyungsoo)

    ลำดับตอนที่ #3 : มาย บอยเฟรนด์ : two

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 57



    มาย บอยเฟรนด์ : two





     

       ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___


     









    ชานยอลเดินเข้าโรงเรียนมาแต่เช้า ปกติเขาเป็นคนตื่นเช้าและชอบมาโรงเรียนตอนที่ยังไม่ค่อยมีคนมาเท่าไร โรงเรียนตอนที่ไม่ค่อยมีนักเรียนน่ะ น่าอยู่สุดๆ ทั้งอากาศยามเช้าและเสียงนกร้อง คนรักธรรมชาติแบบเขาพลาดไม่ได้หรอก

     

    เดินไปเรื่อยๆก็ต้องแปลกใจเพราะเห็นแบคฮยอนกำลังเดินขึ้นตึก ไม่คิดว่าหน้าตาติดเหวี่ยงแบบนั้นจะมาโรงเรียนเช้าก็เป็นด้วย

     

    “ชานยอลมาโรงเรียนเช้าจัง” อยู่ๆคยองซูก็โผล่มาข้างหน้าเขา ใบหน้าน่ารักยิ้มให้เขาจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ คยองซูที่แต่งกายถูกระเบียบกับกระเป๋าสีเหลืองอ๋อยดูแล้วก็น่ารักดี

     

    “คยองซูก็มาเช้าเหมือนกัน”

     

    “เราชอบอากาศตอนเช้าๆมากเลย สดชื่นสุดๆ”

     

    “เหมือนฉันเลย ไม่คิดว่าคยองซูจะชอบเหมือนกัน”

     

    “แล้วชานยอลจะขึ้นห้องเลยรึเปล่า นั่งเล่นก่อนมั้ย”

     

    “เอ่อ งั้นขอถามอะไรหน่อยสิ” แล้วเขาก็นั่งลงตรงข้ามกับคยองซูที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างตึกเรียน ยังมีคำถามที่เขาสงสัยอยู่ แล้วถ้าถามจากคยองซูก็คงจะได้คำตอบ

     

    “อะไรหรอ เรื่องของเรากับแบคฮยอนรึเปล่า”

     

    “จะว่างั้นก็ใช่ คือฉันไม่รู้ว่าพวกนายจะแข่งกันไปทำไม”

     

    “ก็เราบอกแล้วไงว่าเราชอบ...ชอบชานยอล แต่เราไม่ค่อยถูกกับแบคฮยอนเท่าไร รายนั้นรู้เข้าก็ไม่ยอม จะแข่งกับเราให้ได้ เราก็เลยยอม”

     

    “แล้วแบคฮยอนชอบฉันรึเปล่า”

     

    “ไม่รู้สิ ว่าแต่เย็นนี้ชานยอลว่างหรือเปล่า” แม้จะสงสัยว่าชานยอลอยากรู้ไปทำไม แต่คยองซูก็เลิกคิดแล้วเปลี่ยนมาถามแทน

     

    “อ่า ว่างนะ ทำไมหรอ”

     

    “เราจะชวนชานยอลไม่เดินเล่น ไปกับเราได้มั้ย”

     

    “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ แล้วทำไมรีบชวนจัง”

     

    “เราว่าตอนเที่ยงเราจะไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ จะให้ชานยอลมานั่งกินข้าวกับเราทุกวันคงอึดอัดแย่” ชานยอลยิ้ม คยองซูนี่เข้าขั้นเป็นคนดีมากคนนึงเลย เขาคิดว่าคนแบบนี้มีเสน่ห์ดี ไม่บังคับมากเกินไป ยังปล่อยให้ได้หายใจหายคอบ้าง ไม่ใช่เอะอะลากไปนู่นนี่ตามใจตัวเองเหมือนรายนั้น แค่คิดถึงวันพรุ่งนี้ก็เหนื่อยใจแล้ว

     

    “โอ้ย ทำไมตอนเช้ามันถึงได้ร้อนแบบนี้ ร้อน ร้อนนนนนนน” ยื่นตัวออกมาเกือบครึ่งตัว แหกปากตะโกนลั่นโรงเรียน อากาศมันไม่ได้ร้อนเลยด้วยซ้ำ ออกจะเย็นสบาย แต่พอเห็นฉากน่ารักกุ๊กกิ๊กของคนด้านล่างแล้วในตานี่โคตรร้อนเลย

     

    “เสียงใครอะ” คยองซูแหงนหน้ามองตามเสียงแหลมๆที่คุ้นเคย แต่ก็ขอดูให้แน่ใจ

     

    “ร้อนตับจะแตก ร้อนโลกไหม้เลยเว้ย”

     

    “อ่อ...”

     

    “ถ้าร้อนกว่านี้อีกนิดจะสาดน้ำใส่แล้วนะเว้ยยยยยยยยยยยย” พูดพร้อมยกถังน้ำขึ้นมา ทำเอาคนที่อยู่ในรัศมีการไหลของน้ำรีบลุกขึ้นทันที

     

    “งั้นเราขึ้นไปห้องเรียนก่อนนะ” เป็นคยองซูที่พูดขึ้นมาก่อน แม้จะยิ้มแต่ในใจกำลังลุกเป็นไฟตามคนข้างบน หนอย บยอนแบคฮยอน แบบนี้มันขี้โกงนี่ หาทางขัดขวางเขาขนาดนี้ไม่ปล่อยไปแน่

     

    “เดี๋ยวฉันไปโรงอาหารก่อนแล้วกัน”

     

    “รีบไปเถอะ เราขึ้นห้องแล้วนะ” ยกมือบ๊ายบายเสร็จก็วิ่งขึ้นบันไดแบบไม่รีรอ ตรงดิ่งไปห้อง B ที่มีสิ่งมีชีวิตหน้ามึนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว

     

    “แก!

     

    “อุ๊ต่ะ เป็นนักวิ่งทีมชาติหรอ เร็วจนขนลุกเล๊อะ” กระติดเท้าแบบที่คนอื่นเรียกว่ากวนตีน ซึ่งไม่มีเคยมีใครได้รับกิริยาแบบนี้นอกจากโดคยองซูคนเดียว

     

    “วันนี้วันวันคี่ แกไม่มีสิทธิ์จะเสนอหน้าออกมา”

     

    “แล้วฉันไปเสนอหน้าบนหัวแกรึไง ฉันก็อยู่บนตึกป่ะ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับแกสักหน่อย ฉันบ่นลอยๆ”

     

    “ลอยบ้านแกสิ อากาศเย็นจะตาย บอกร้อน เป็นหมารึไงห๊ะถึงได้หอบแฮ่กจนต้องโผล่ออกไปนอกหน้าต่าง”

     

    “แกว่าฉันเป็นหมาหรอ”

     

    “เออหมา หมาบ้าด้วย”

     

    “งั้นแกก็เป็นไอ้บ้าตาเหลือก แม่ลืมให้ตาดำมาหรอ ตาขาวถึงได้เหลือกออกมาขนาดนี้”

     

    “เค้าเรียกว่าตาโตเว้ย”

     

    “ตาถลนล่ะสิไม่ว่า!

     

    “นี่แกคิดจะลองดีกับฉันใช่มั้ย” โยนกระเป๋าอย่างไม่ใยดีแล้วพุ่งเข้าใส่แบคฮยอนที่ตั้งท่ารออยู่แล้ว แล้วก็เข้าอิหรอบเดิม สองมือขยำหัวอีกฝ่ายซะจนกลัวว่าสักวันทั้งแบคฮยอนและคยองซูจะหัวล้านไม่เหลือผมสักเส้น

     

    “อย่าทำให้ผมฉันหลุดนะเว้ย”

     

    “แกก็อย่าจิกแรงสิวะ”

     

    “อื้อออออ” กัดฟันสู้ไม่ถอย ไม่มีใครยอมแพ้ จะเลิกก็ต่อเมื่อมีคนมาห้ามหรือไม่ก็หมดแรงไปเอง แต่คราวนี้เห็นจะดีหน่อยตรงที่เพื่อนห้องแบคฮยอนเดินเข้ามาพอดี

     

    “เฮ้ยๆ อย่าตีกัน” เพื่อนผู้ชายสองคนวิ่งเข้ามาห้ามก่อนที่จะเลือดตกยางออกไปซะก่อน ซึ่งก็ยอมผละออกจากกันโดยง่ายเพราะเริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน คยองซูสะบัดหน้าใส่แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าพาดบ่าเดินออกจากห้องไป ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากสายตาเชือดเฉือนที่ส่งหากันแบบไม่ปกปิด

     

    “แบคฮยอนมีอะไรกัน เห็นคยองซูออกไปจากห้อง” เป็นจุนมยอนที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา เพราะเขาเห็นคยองซูที่ทำหน้าพร้อมฆ่าคนกับทรงผมยุ่งเหยิงเดินโครมครามแบบไม่กลัวอาจารย์ว่า จะว่าได้ไงอาจารย์ยังไม่มาเลย

     

    “ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ ดูหัวฉัน แหว่งออกไปเท่าไรแล้วเนี่ย” พูดไปก็หายใจเข้าจนตัวโยน สู้กันกี่ทีก็เหนื่อย แต่มันก็อดไม่ได้ที่อยากจะตะบันหน้ามัน

     

    “รถติดได้บ้างป่ะล่ะ ใครจะมาเช้าเหมือนพวกแก”

     

    “แกว่าฉันจะชนะมันป่ะวะ” วางมือลงบนสมุดการบ้านที่จุนมยอนเพิ่งเอามาวาง

     

    “ถ้ารักชานยอลจริงก็ชนะ” พูดมาประโยคเดียวกับเอาแบคฮยอนหงอเป็นลูกหมา เขารู้ว่าจุนมยอนไม่ชอบถ้าจะเอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่น แต่เขาก็ไม่ได้จะล้อเล่นสักหน่อย

     

    “ชอบชานยอลจริงๆนะ”

     

    “ชอบจริงๆก็ไม่ต้องสนคู่แข่ง สนแค่ชานยอลก็พอ”

     

    “จุนมยอน โคตรหล่ออะ” ลงทุนเอาหน้าแนบแขนเล็กๆนั่นแล้วถูไถราวกับลูกแมวน้อย แต่ถึงจะสนิทกันขนาดนี้พอโดนลูกอ้อนนั่นนี่เข้าไปคือ...

     

    “ขนลุกจริงๆ เอาหน้าออกไป” ยกแขนให้ดูว่าขนแขนมันลุกขึ้นตั้งตามที่พูด แบคฮยอนเลยยอมเอาหน้าตัวเองออก

     

    “งั้นต่อไปฉันจะทำให้ชานยอลชอบฉันให้ได้”

     

     

     

     

     

    HEY, My Boyfriend!

     

     

     

     

     

    “เอ่อ ฉันไม่มีสมาธิทำการบ้าน”

     

    “ฉันนั่งทับสมุดการบ้านนายรึไงเล่า”

     

    “แต่...”

     

    “แค่ฉันนั่งจ้องนายก็ต้องรำคาญด้วยหรอ” ถามด้วยเสียงใสซื่อ อยากจะบอกว่าถ้าจ้องแบบปกติก็พอทนได้อยู่ แต่นี่คือจ้องแบบเลียริมฝีปากไปด้วย เอานิ้วแตะปากอีก มีการขยิบตาเป็นบางทีที่เขาเหลือบมอง

     

    สรุปเป็นนักเรียนธรรมดาหรือนักเรียนโรคจิต...

     

    “ไม่ได้รำคาญแต่เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที”

     

    “หือ นี่นายไม่รู้สึกแบบว่า เซ็กซี่ บ้างเลยหรอ”

     

    เซ็กซี่???

     

    “ไม่เลย”

     

    “งั้นเอาใหม่” ใช้สมองคิดแค่ครึ่งนาทีก็เปลี่ยนจากขยิบตาเป็นปรือหน่อยๆอ้าปากนิดๆ เอามือมาเท้าคาง กระดิกนิ้วนิดๆคล้ายเชิญชวน

     

    “โอ่...”

     

    “เซ็กซี่จนพูดไม่ออก”

     

    “เสียดายขนมที่เพิ่งกินไป”

     

    “นี่!” แบคฮยอนตีคนที่หัวเราะเขา อุตส่าห์ทำหน้าที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดในชีวิต แต่อีกคนกลับหัวเราะซะได้ แอบเสียหน้าเบาๆนะ

     

    “อย่าทำหน้าแบบนั้นอีกนะ เดี๋ยวคนเขาหัวเราะใส่”

     

    “ไม่ทำแล้ว!

     

    กะว่าจะทำให้ชานยอลชอบให้ได้ แต่ก็พังไม่เป็นท่า ทำไมเวลาที่ชานยอลอยู่กับคยองซูถึงได้ดูโลกเป็นสีชมพูหวานแว๋ว แต่พออยู่กับเขาแล้วเหมือนโลกมันหม่นๆแปลกๆไปได้

     

    ทำพลาดตรงไหนวะ....

     

    ชานยอลมองอีกคนที่หลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวของตัวเองก็แอบขำโดยไม่ได้อีกฝ่ายเห็น ตอนแรกก็กลัวที่ต้องให้แบคฮยอนมาคอยเกาะแกะชีวิต แต่ไปๆมาๆก็ฮาไปอีกแบบ

     

    “ทำการบ้านเสร็จแล้ว”

     

    “หรอ ไปเที่ยวกันป่ะ”

     

    “ไม่กลับบ้านหรอ” แม้มันจะฮาอยู่บ้าง แต่เขาก็อยากจะอยู่กับแบคฮยอนให้น้อยที่สุดอยู่ดี

     

    “เที่ยวเถอะ ถือเป็นเดทแรกของเราไง๊” แบคฮยอนเขินตัวบิด ร่างเล็กกำลังเพ้อฝันถึงเดทแรกที่จะได้เดินตัวติดกัน จนมือสัมผัสกันเบาๆ แล้วชานยอลก็ค่อยๆเลื่อนมาจับมือเขา...

     

    ซ่า!

     

    “เฮ้ยยย” ได้ยินเสียงทุ้มๆที่ตะโกนข้างๆ ชานยอลกระโดดออกจากบริเวณที่ชุ่มไปด้วยน้ำกระจายเป็นวงกว้าง สะบัดหัวจนน้ำกระเซ็น รู้สึกเจ็บที่หน้าผากนิดๆเพราะโดนน้ำกระแทก ให้เดาก็น่าจะหล่นมาจากชั้นสามไม่ก็สี่

     

    “ร้อนจังเล้ยยยยยยยยยยยยยย”

     

    เงยหน้าไปก็เจอแต่ถังน้ำห้องโตงเตงโดยไม่มีคนบงการให้ถูกจับได้ ถึงจะถูกปิดตาปิดหูปิดปากเขาก็รู้อยู่ดีว่าใครคือต้นเหตุ

     

    “โดคยองซู!!!!!!

     

    “นายโอเคมั้ย” คนที่กระโดดออกห่าง เขยิบเข้ามาก้าวหนึ่งแล้วถาม แบคฮยอนที่เปียกโชกไปทั้งตัว เปียกยันถุงเท้าเลยก็ว่าได้

     

    “ไม่โอเคมาก! ไม่ต้องไปไหนแล้ววันนี้!” พูดจบก็เดินดิ่งออกจากโรงเรียนไปทันที ไม่สนหน้าใครทั้งนั้น รู้แค่ว่าตอนนี้เขาต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ขายขี้หน้าคนทั้งโรงเรียนเลย เพราะแก! โดคยองซู!

     

    “อ้าวชานยอล ยังไม่กลับหรอ” คยองซูเดินลงบันไดมาเจอกับชานยอลที่ยืนเกาหัวอย่างงงๆ ฉวยโอกาสที่แบคฮยอนมัวแต่หัวเสียที่ตัวเองพลาดท่าให้เขาโดยลืมที่จะสนใจชานยอล ไหนๆมันก็โกงแล้ว เขาจะโกงบ้างเป็นไร

     

    “ตอนแรกแบคฮยอนชวนเที่ยว แต่ตอนนี้...คยองซู!” ขอยืมบทนางร้ายที่ประเทศไทยหน่อยเถอะ เห็นใช้มุกนี้ทีไรก็ได้ผลทุกที เขาล้มตัวใส่ชานยอลพร้อมกันทำหน้าเหนื่อยๆ แล้วชานยอลก็รีบพยุงเขาไว้ในอ้อมอก

     

    “เอ่อ ขอโทษนะ เราหน้ามืดอะ”

     

    “ไม่สบายรึเปล่า”

     

    “ไม่เป็นไร ตอนนี้เราโอเคแล้ว” ร่างเล็กฝืนตัวออกจากอ้อมกอดของชานยอล แกล้งยืนเซนิดหน่อยให้ดูน่าเป็นห่วง พยายามยิ้มให้มันดูเหมือนฝืนที่สุด และดูเหมือนชานยอลจะเชื่อเสียด้วย สายตาดูอาลัยอาวรไม่อยากให้เขาถอยห่าง

     

    “ให้ฉันไปส่งนะ ดูไม่ค่อยไหว”

     

    “เราไหว เรากลับเองได้ กลับก่อนนะ” คยองซูหันหลังเดินออกมา จงใจเดินช้าๆให้ชานยอลคิดสักหน่อย...

     

    “เดี๋ยวคยองซู” แผนสำเร็จขั้นที่หนึ่ง

     

    “มีอะไรหรอ”

     

    “คือ”

     

    “...”

     

    “กลับเองได้แน่นะ” โอ้ย ชักช้าลีลาจริงๆ

     

    “จริงสิ” แกล้งเซอีกรอบ แล้วส่งยิ้มให้ ตั้งท่าจะหันหลังกลับอีกรอบ เร็วๆได้ป่ะชานยอล รอนานแล้วนะ

     

    “งั้นฉันขอเบอร์นายไว้ได้มั้ย...คือฉันกลัวนายเป็นลมระหว่างทาง”

     

    เยส! แผนสำเร็จขั้นที่สอง!

     

    “เราไม่เป็นไรจริงๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเราหรอก”

     

    “แต่ฉันเป็นห่วงนายนะ ถ้าไม่ให้ไปส่งก็เอาเบอร์มา” เห็นอีกฝ่ายไม่ทำตามที่เขาขอก็หงุดหงิดเล็กน้อย หน้าตาก็ดูไม่สู้ดี ยืนก็ไม่ค่อยอยู่ จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง ใครใครก็ห่วงทั้งนั้น

     

    “งั้นชานยอลก็เอาโทรศัพท์มาสิ เราจะกดเบอร์ให้” ชานยอลหยิบให้โดยไม่ต้องคิด คยองซูก้มหน้างุดกดเบอร์แค่ไม่กี่วินาทีก็ส่งคืน ชานยอลกดโทรออกแล้วเครื่องของคยองซูก็ส่งเสียงร้องอยู่ในกระเป๋ากางเกง

     

    “นั่นเบอร์ฉัน ถ้ารู้ตัวว่าไม่ไหวก็โทรมา”

     

    “อือ” คยองซูตอบรับในลำคอแล้วค่อยๆเดินตัวเซออกมา ยกมือขึ้นมากำให้กับชัยชนะของตัวเอง ใบหน้าที่ดูป่วยเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าที่ตอนนี้ในโทรศัพท์ของเขามีเบอร์โทรของชานยอลเป็นที่เรียบร้อย

     

    แผนขั้นสุดท้าย สำเร็จ!















     

    ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___

    ไม่ใช่สามีตีตรานะ เราไม่แต่งแนวนั้น 55555555
    #ฟิคทะเลาะ 
       

     

     


    themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×