ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) playground style (chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #3 : (ノ・◡・)ノ ♥ favour you : three

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 57


    favour you
    THREE







     

     

     

    ปาร์คชานยอลกำลังมอง...

     

     

    มองใครบางคนที่เดินใส่หูฟัง ในมือถือถุงขนม อีกมือก็หยิบกิน แก้วโกโก้ถูกแขนเล็กหนีบเอาไว้ เดินแบบไม่มองข้างหน้าแต่มองพื้นแทน ก็เลยเดินไม่ชนอะไร แต่ไม่นานก็เดินจนเกือบจะมาถึงเขาที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองอยู่

     

    “คือเรวูฟ แนกาวูฟ อู้ววววววว” เสียงอู้วที่อีกคนร้องมันเป็นทั้งท่อนเนื้อเพลงและคำทักทายที่แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาเจอเขาอย่างพอดิบพอดี คนตัวเล็กเอานิ้วก้อยที่ไม่เปื้อนขนมเกี่ยวหูฟังออกแล้วเอาพาดไหล่เล็กไว้

     

    เป็นแบบนี้มาได้หลายวันแล้ว แบคฮยอนที่เลิกเรียนก่อนจะมารอเขาที่เลิกเรียนทีหลัง เป็นพฤติกรรมของการจีบอย่างที่ใครๆเขาทำกัน แต่ที่ไม่เหมือนคนอื่นก็คือ แบคฮยอนจะมารอเขาพร้อมของกินกับอารมณ์สุนทรีย์ตามคนชอบพวกศิลป์ รอแบบไม่ลืมหูลืมตาไม่สนใจใคร จนบางครั้งเขาก็ต้องเป็นสะกิดเสียเอง

     

    “สวัสดี”

     

    “จะไปไหนรึเปล่า ขอติดไปด้วยได้มั้ย พอดีว่าง” ชานยอลเลิกคิ้ว ไม่บ่อยที่แบคฮยอนจะไปไหนมาไหนด้วย มากสุดก็ไปอ่านหนังสือด้วยที่ห้องสมุดหรือนั่งเป็นเพื่อนเขาทำการบ้าน

     

    “คือยังไง”

     

    “ที่เค้าเรียกกันว่าเดทไง ไปเดทกัน”

     

    “งั้นแป๊บนึงนะ” ชานยอลหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดโดยไม่ทันเห็นว่าแบคฮยอนเนียนเขยิบเข้ามาใกล้แล้วยื่นหน้ายื่นตาแอบดูว่าชานยอลกำลังทำอะไร

     

    เฮ้ยนั่น ชานยอลกำลังกดโทรออกไปหา คยองซู

     

    ตั้งแต่เริ่มภารกิจมาเพิ่งเห็นชื่อนี้ครั้งแรก เอาล่ะ ถึงคราวที่เราต้องตั้งใจทำอย่างจริงๆจังๆแล้ว ถ้าชานยอลมีซัมติงกับคยองซูจริงๆล่ะก็ เราก็ต้องเข้าแทรก แทรกทะลุทะลวงแล้วมันเลิกกันให้ได้!

     

    “อยู่ไหน” ท่าทางคยองซูจะรับสายแล้ว แต่จะเอียงหูยังไงให้ได้ยินวะ มันสูงอะ เขย่งแล้วก็ไม่ถึง

     

    ในขณะที่แบคฮยอนหาทางแอบฟังโทรศัพท์อยู่นั้น คนตัวสูงกว่าก็นั่งลงกับเก้าอี้ไม้หินอ่อนที่อยู่ใกล้ สบโอกาสแบคฮยอนจึงทำเป็นเดินไปนั่งข้างๆ วางถุงขนมและโกโก้ลง เอามือเช็ดที่ปลายเสื้อ แกล้งบิดขี้เกียจเอียงตัวเอาหูเข้าไปใกล้จนกระทั่งได้ยิน เยส! แผนอะไรเนี่ย คนคิดโคตรเจ๋ง ชานยอลดูจะไม่รู้ตัวด้วย!

     

    “จะไปไหนรึเปล่า”

     

    /เรามีนัดแล้ว ชานยอลมีอะไรรึเปล่า/

     

    “นัดอะไร”

     

    /ไม่บอกหรอก/

     

    “จะไม่บอกจริงๆหรอ”

     

    /อ่าๆ ก็เรื่องนั้นแหละ โอเครึยัง เราไปแล้วนะ/

     

    “อือ โชคดี”

     

    แล้วชานยอลก็วางสายไป แบคฮยอนกลับมานั่งตัวตรง หยิบเอาโกโก้มาดูดแล้วคิด...

     

    คุยกันน่ารักจังวะ นัดอะไร แล้วเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร เรื่องไหน เรื่องของใคร วุ้ยยยย อยากรู้!

     

    “ไปกันเถอะ”

     

    “จะไปไหนอะ” ดึงสติกลับมาจากการพร่ำเพ้ออยากเสือกของตัวเองแล้วมองหน้าชานยอลที่เอ่ยปากชวนเขา

     

    ไปเดทไง"

     

     

     

     

     

    FAVOUR YOU

     

     

     

     

     

    “อร่อยมาก!” แบคฮยอนพูดออกมาหลังจากชิมต๊อกโปกีที่เขาแวะกินข้างทาง คนตัวเล็กจิ้มเอาๆจนหมดจานแล้วสั่งเพิ่มอีกจาน หลังจากที่เดินเที่ยวในย่านดังของวัยรุ่นแบคฮยอนก็บ่นหิว จะพาไปหาร้านกินดีๆแต่เจ้าตัวก็ลากเขามาหยุดที่ร้านนี้

     

    ไม่รู้เรียกว่าเดทรึเปล่าเพราะต่างคนต่างดูของที่ตัวเองสนใจ สนใจกันแค่ตอนจะออกจากร้านเพื่อไม่ให้หลงกันแค่นั้น แบคฮยอนดูของข้างในสุด ส่วนเขาดูรอบๆร้าน เป็นแบบนี้เกือบทุกร้าน แต่มันโอเคสำหรับชานยอล ไม่อึดอัด ไม่ต้องคอยห่วงว่าอีกคนจะเบื่อมั้ยหรือไม่ชอบรึเปล่า

     

    แวะซื้อไอศกรีมกลางทางคนละอันแล้วเดินดูของต่อ จนมาถึงเวลาทุ่มครึ่งก็ไม่ได้ของสักชิ้น จนถึงตอนนี้เรื่องเสียเงินก็คงหนีไม่พ้นของกิน

     

    “ทำไมกินน้อยจัง กินอีก เดี๋ยวป้าเค้าเอามีดมาจ้วงเอานะ เห็นป่ะนั่น ป้ามองอยู่” คนตัวเล็กพยักเพยิดไปทางป้าเจ้าของร้านที่มองเขาสองคนด้วยรอยยิ้ม ในมือก็หั่นกิมจิด้วยมีดไปด้วย เห็นดังนั้นชานยอลเลยจิ้มต๊อกโปกีเข้าปากในทันที

     

    “อร่อย...”

     

    “สุดๆ วันหลังมากินร้านนี้กันอีกนะ อร่อยแถมถูกด้วย”

     

    “กินเสร็จ...ไปแม่น้ำฮันมั้ย” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากจาน มองชานยอลที่หยุดกินแล้วจ้องหน้าเขาอย่างเดียว

     

    “ไปๆ มีอะไรที่นั่นหรอ”

     

    “ไปถึงก็รู้เอง” คนฟังพยักหน้ารับแล้วลงมือกินต่อ ตั้งใจกินโดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกจ้องมองตลอดเวลาจากคนตรงข้าม...

     

    พอกินเสร็จก็จ่ายตังโดยชานยอลเป็นคนออกเองทั้งหมด ตามนิสัยแบคฮยอนก็โวยวายที่ไม่ให้จ่ายด้วย ให้เหตุผลว่ามาด้วยกัน กินด้วยกันแถมเขายังกินมากกว่า ทำไมชานยอลถึงจ่ายแค่คนเดียว พูดแบบนั้นมาตลอดทาง ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มกลับบูดบึ้งที่ตัวเองดูเอาเปรียบอีกฝ่ายจนเกินไป

     

    “เลิกทำหน้าบูดสักที”

     

    “บอกเหตุผลดีๆมาก่อน”

     

    “ฉันก็แค่อยากออกให้”

     

    “ไม่เอาดิ”

     

    “งั้นคราวหน้านายออกบ้าง โอเคมั้ย”

     

    “...ก็ได้ สัญญาก่อน ว่าจะไม่จ่ายคนเดียวอีก” นิ้วก้อยเล็กอยู่ตรงหน้าชานยอล แบคฮยอนพยักหน้างึกงักให้เขาสัญญา ร่างสูงยิ้มนิดๆก่อนจะยกนิ้วมาเกี่ยวก้อยสัญญา แล้วนั่นก็ทำให้รอยยิ้มแบคฮยอนกลับมาอย่างสมบูรณ์ มือเล็กเขย่าไปมา ขยับปากพูดไร้เสียงว่า สัญญาแล้วนะ

     

    “นายนี่จริงๆเลย” ยกมืออีกข้างที่ว่างมาบีบจมูกรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว ทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดเลยนะบยอนแบคฮยอน...

     

    “ไหน พามาที่นี่ทำไม บอกมาซิปาร์คชานยอล”

     

    “มาเดินเล่น”

     

    “อ๋อ เหมือนที่คนอื่นเค้ามาเดทกันสินะ ดีๆๆ” แบคฮยอนยิ้มร่าเมื่อรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันทำให้แผนการของเขาใกล้สำเร็จลุล่วง คนตัวเล็กเดินนำหน้ารับลมยามค่ำจนผมปลิวไปตามแรงลม แบคฮยอนชอบให้ลมตีหน้า มันทั้งเย็นและสดชื่น แต่ก็ยังไม่ทิ้งห่างชานยอลที่เดินตามหลังในระยะใกล้ ก็ชานยอลยังไม่ได้ปล่อยนิ้วก้อยที่เกี่ยวกันตั้งแต่แรกเลยหนิ เกี่ยวกันไม่แน่นแต่ก็ไม่หลุดออกแม้แบคฮยอนจะเดินนำไปก่อน

     

    “แบคฮยอน”

     

    “หื้อ...”

     

    แชะ

     

    เสียงกดชัตเตอร์จากมือถือดังขึ้นในตอนที่แบคฮยอนหันมาพอดี คนตัวเล็กยู่หน้าที่โดนหลอกถ่ายแล้วเดินเข้ามาหาชานยอลที่กดดูรูปอยู่

     

    “ขอดูหน่อย น่าเกลียดป่าว”

     

    “จะลบรึเปล่า”

     

    “ขอดูก่อนสิ นี่เจ้าของรูปนะ ขอก็ต้องให้ดูสิ” ชานยอลทำแค่ยื่นมือถือออกมานิดเดียวทำให้แบคฮยอนมองเห็นไม่ชัด เจ้าตัวเลยไปยืนข้างๆคนตัวสูงแล้วจับข้อมือชานยอลให้เลื่อนลงมาระดับสายตาเขา

     

    ในภาพมีแบคฮยอนที่ยิ้มพร้อมกับหันหน้ามาให้กล้อง ผมสีน้ำตาลเข้มของเขาปลิวฟูจนมาปรกหน้านิดหน่อย แล้วก็มีมือชานยอลติดเข้ามาในเฟรมด้วย เห็นแค่มือที่เกี่ยวก้อยเขาไว้อยู่ เหมือนแฟนจูงมือกันแล้วถ่ายรูปเลยแฮะ...

     

    “เหยดูดี ห้ามลบนะ ส่งมาให้ในไลน์ด้วย ตั้งเป็นพื้นหลังหน้าจอด้วยนะ” บอกทีเล่นทีจริงแล้วชานยอลก็ดึงโทรศัพท์กลับไป กดๆอยู่ไม่นานก็ยื่นกลับมาให้เขา

     

    “ตั้งแล้ว โอเคนะ”

     

    “...” แบคฮยอนมองรูปในโทรศัพท์นิ่ง โปรแกรมสองสามอย่างบนหน้าจอกับรูปแบล็กกราวน์ที่เป็นรูปเขาเมื่อครู่ เขาก็แค่พูดเล่นเอง แล้วทำไมชานยอลถึงทำจริงๆล่ะ

     

    อ่า...รู้สึกเขินขึ้นมาเฉยๆเลย...

     

    แบคฮยอนเกาแก้มตัวเองแก้เก้อ ไม่รู้จะตอบอะไร ก็มันแปลกๆนี่ เจอรูปตัวเองในมือถือคนอื่น ถ้าไม่ใช่ชานยอลเขาคงคิดว่าเจ้าของมือถือต้องชอบเขาแน่ๆ แล้ว...ชานยอลชอบเขารึเปล่าล่ะ...

     

    “เดินต่อ...เดินต่อดีกว่า...ป่ะๆ” ทางที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนเรื่อง แบคฮยอนกวักมือเรียกชานยอลให้เดินตามแล้วก็ต้องเขินหนักกว่าเก่าเพราะชานยอลดันยื่นมือมาจับมือเขาน่ะสิ! โอ้ยเขินจะตายแล้ว! จับมือทำไมเล่า! แล้วนั่นยิ้มอะไรอีก! แค่จับมือทำไมต้องยิ้มแบบมีความสุขขนาดนั้นด้วย!

     

    “เดินสิ จะหยุดทำไม” แบคฮยอนยู่ปาก แกล้งเขาได้ก็สนุกเลยสิ งื้อออ พ่อครับแม่ครับ ลูกรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง ง๊าาาาาาาาา

     

    “ไม่ให้จับ ปล่อยเลย” สลัดมือออกก็ไม่หลุด แงะมือออกก็ไม่หลุด แถมชานยอลยังทำหน้าระรื่นอยู่อีก ปล่อยแบบนี้ไว้ไม่ได้แล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเขาต้องชอบปาร์คชานยอลเข้าแน่ๆ...

     

    “จับไม่ได้หรอ”

     

    “ไม่เอา มัน...แปลกๆ” ก็แปลกจริงๆนี่ จับมือแล้วมันเขินไปทั้งหน้าเลย แปลกมั้ยล่ะ!

     

    “จับๆเถอะน่า แล้วก็เดินมาได้แล้ว” งอแงอยู่ในใจที่ขัดอีกฝ่ายไม่ได้ ทำเป็นเดินปึงปังแบบไม่พอใจแต่ชานยอลก็ไม่ได้สนใจ กลับเดินจูงมือเขาหน้าตาเฉย

     

    เดินไปสักพักก็เจอร้านมากมายที่วางขายกันข้างฟุตบาท ดูนั่นนี่ไปเรื่อยจนแบคฮยอนเจอเข้ากับร้านระบายสีปูนปั้น

     

    “ระบายสีๆ” เขย่ามือที่จับกันอยู่ไม่หยุด แบคฮยอนกระพริบตาปริบๆเหมือนที่เคยทำกับจงอินเวลาอยากให้พาไปไหนหรือให้ทำอะไร ร่างเล็กพยักหน้าชวนให้เข้าไปนั่งในร้านนั่นแล้วมีหรอที่ชานยอลจะปฏิเสธ ใครเจอลูกอ้อนแบคฮยอนเข้าไปต้องเสร็จทุกราย

     

    นิ้วเรียวชี้ไปที่ปูนปั้นรูปครอบครัวแมวที่มีพ่อแม่กับลูกสองตัว ซึ่งถือว่าใหญ่พอสมควรถ้าจะทาสีคนเดียว เสร็จแล้วเจ้าของร้านก็หยิบมันมาวางที่โต๊ะเตี้ยที่วางอยู่หนึ่งตัวพร้อมกับพู่กันสองแท่งกับจานสีจานใหญ่ แบคฮยอนหยิบพู่กันก่อนจะเริ่มจิ้มสีน้ำตาลขึ้นมาป้ายสีตัวของลูกแมว

     

    “นั่งนิ่งอีก หยิบพู่กันขึ้นมา”

     

    “ให้ฉันระบายด้วย”

     

    “ใช่ นายระบายพ่อกับลูกฝั่งนั้น ส่วนฝั่งนี้เป็นของฉัน” จัดแจงเสร็จสรรพแล้วก้มหน้าทำต่อ ชานยอลเลยหยิบพู่กันขึ้นมาบ้าง แต่ตัวแบคฮยอนบังเขาจนทำอะไรไม่ได้เลย จะลองเอื้อมมือเข้าไปก็ไม่ถึง

     

    “ฉันระบายไม่ถึง”

     

    “อ่าวหรอ งั้นเขยิบมาใกล้ๆอีกสิ มาๆ” ดึงคนตัวสูงให้เข้ามาใกล้แล้วเขาก็ขยับเข้าหาอีกที ร่างเล็กเลื่อนปูนปั้นมาไว้ตรงกลางแล้วสนใจสิ่งของตรงหน้าต่อโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองแทบจะอยู่ในวงล้อมของชานยอลอยู่แล้ว สองคนนั่งซ้อนกันอยู่ในโต๊ะตัวเล็กๆ แบคฮยอนก้มหน้าระบายสีเจ้าแมวตัวน้อยอย่างตั้งใจในขณะที่ชานยอลก็ใช้พื้นพี่ด้านบนหัวแบคฮยอนในการมองและลงสี มืออีกข้างพยุงตัวเองโดยการอ้อมมาจับขอบโต๊ะอีกฝั่ง กลายเป็นเขาโอบแบคฮยอนไปโดยปริยาย ตัวก็เล็กแถมยังก้มตัวลงอีก เล็กจนไม่รู้จะเล็กยังไงแล้ว

     

    “ชานยอล นายเก่งแต่เรียนอย่างเดียวรึไงถึงได้ระบายสีแย่ขนาดนี้” ใช้พู่กันปัดพู่กันที่มีสีฟ้ากำลังจะจิ้มลงบนส่วนใบหน้าของแมว แมวบ้านไหนหน้าสีฟ้ากันเล่า!

     

    “ฉันไม่เก่งศิลปะนี่”

     

    “มานี่ เดี๋ยวพี่สอนเอง” ละความสนใจจากฝั่งตัวเองมาดูฝั่งชานยอล ตัวพ่อนี่มันเป็นแมวคลุกดินมาหรือยังไง ทำไมดูมอมๆแบบนั้น ส่ายหน้าเบาๆอย่างขัดใจก่อนจะล้างพู่กันตัวเองแล้วจุ่มสีใหม่

     

    “นายต้องลงที่ตัวมันก่อน แล้วค่อยมาลงรายละเอียดทีหลัง” ระบายสีทับสีเดิมที่ชานยอลละเลงเอาไว้ เกลี่ยให้สีเท่ากันทั้งตัวจนกลายเป็นพ่อแมวที่ดูสะอาดขึ้นมาหน่อย

     

    “...”

     

    “นิ่งอีก ระบายตามสิ จุ่มสีมา ทำตัวลูกมันนะ”

     

    “แบบนี้ถูกมั้ย”

     

    “ทาตรงนี้ด้วย ไม่ใช่หาง ตรงขามันน่ะ” ดูร่างเล็กจะโมโหที่ชานยอลทำตามไม่ถูก แบคฮยอนวางพู่กันตัวเองลงแล้วไปจับพู่กันที่ชานยอลถืออยู่ มือเล็กจับตรงกลางด้ามถัดจากมือชานยอลพอดี ลงน้ำหนักจนได้ตามที่ต้องการ

     

    กลิ่นแชมพูอ่อนๆหอมจนชานยอลอยากจะก้มลงสัมผัสแต่ติดที่ว่าทำแบบนั้นแบคฮยอนคงจะรู้ตัว คนตัวเล็กยังมุ่งมั่นกับการสร้างศิลปะอย่างตั้งใจ รอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นหลังกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม ไม่รู้เมื่อไรที่เขามองว่าแบคฮยอนทำตัวน่ารักขึ้นทุกวัน ขยันมาให้เขาเจอบ่อยๆ ชวนคุย หาเรื่องมาเล่าทั้งเรื่องตัวเองและเรื่องการ์ตูนที่เขาไม่รู้จัก จนบางทีเขากำลังคิดว่า ถ้าวันหนึ่งไม่ได้เจอแบคฮยอนเขาจะเหงารึเปล่า...

     

    “เหม่ออะไร มาทำต่อเลยนะ เอาสวยๆเลยนะ” แบคฮยอนเขย่ามือชานยอลที่นิ่งไปนานแล้วให้มาสนใจงาน คนที่ดึงสติกลับมาก็มองไปที่ตัวพ่อแมวที่แบคฮยอนลงสีเสร็จแล้ว ดูดีกว่าตอนที่เขาทำเสียอีก มิน่าล่ะ ถึงได้ทำงานใหญ่อย่างออกแบบผนังตึกศิลป์

     

    “แมวตัวสีฟ้าไม่ได้หรอ”

     

    “แมวประเทศไหนสีฟ้า”

     

    “แมวของฉันกับนายไง ไม่เหมือนใคร มีตัวเดียวในโลก”

     

    “...”

     

    “ว่าไง” แบคฮยอนเงียบอีกแล้ว ไม่ต่อปากต่อคำแบบนี้สงสัยจะเขิน ก็นะ ช่วยไม่ได้ เขาอยากให้ครอบครัวแมวนี่ไม่เหมือนใครอย่างที่พูดจริงๆ

     

    “อื้อ เอาคางมาเท้าหัวทำไม” คนตัวเล็กพูดเบาๆ ชานยอลเล่นอะไรก็ไม่รู้ นั่งดีๆก็ได้จะเอาคางมาเกยหัวเขาทำไมกัน ทำแบบนี้เขาดูตัวเล็กกว่าเดิมเสียอีก จะดิ้นก็ไม่ได้เพราะชานยอลเริ่มลงมือระบายสีปูนปั้นแล้ว ถ้าดิ้นเดี๋ยวระบายตกขอบอีก แต่พออยู่นิ่งๆแล้วมันก็อุ่นดีนะ อุ่นแล้วก็สบายด้วย...

     

    สาบานว่าไม่ได้อยากให้อยู่แบบนี้นานๆหรอกนะ! เดี๋ยวลูกแมวจะขี้เหร่ต่างหาก!

     

    “โอเครึยัง”

     

    ก้มมองมือตัวเองที่วางอยู่ข้างมือชานยอล เคยจับมือกันตั้งสองครั้งแหนะ ชานยอลจับก่อนด้วย แค่คิดก็เขินแล้ว ชานยอลต้องคิดอะไรแน่ๆ ต้องคิดสิ ไม่งั้นไม่จับมือเราหรอก

     

    “นี่...”

     

    แล้วตอนนี้มือเราก็ใกล้ขนาดนี้จะไม่จับหรอ จับสิ จับหน่อยสิ มือเย็นแล้วอะ จะไม่จับหน่อยหรอ

     

    “แบคฮยอน...” ชานยอลที่เห็นแบคฮยอนก้มหน้ามองอะไรไม่รู้ ถามก็ไม่ตอบ เลยจับมือเล็กที่วางอยู่บนหน้าตักเล็กนั่นเพื่อเป็นการเรียก

     

    หวายยยยยยยย เขาจับแล้ว จับมือเราแล้ว ชานยอลมีใจแน่ๆ โอ้ยทำไงดี ยิ่งคิดยิ่งเขิน อุ่นอีกแล้ว มือชานยอลอุ่นจังเลย ไม่นิ่มแต่จับแล้วชอบมาก ชอบบบบบบ

     

    พ่อครับ แม่ครับ ผมชอบชานยอลแล้วนะครับ ชอบแบบชอบเลยอะครับ

     

    “ชอบ...”

     

    “อะไรนะ”

     

    “หะ ห่ะ ห๊ะ อะไร มีอะไร มองหน้าทำไม ทำเสร็จแล้วหรอ” ระหว่างเคลิ้มๆแล้วหันมองหน้าชานยอลก็ต้องตกใจที่โดนมองมาก่อนแล้ว

     

    “ถามว่าโอเครึยัง”

     

    “เฮ้ยสวย เจ๋งอะ งั้นเรากลับกันเถอะ ป้าครับเท่าไรครับ” แบคฮยอนลุกพรวด ไม่สนละมือเมออะไร อยากจับค่อยจับวันหลัง รู้สึกหน้าแตกที่เพ้อหาเขาทั้งๆที่เขาก็นั่งอยู่ด้วยกัน ดีนะไม่เผลอพูดอะไรออกไป รู้สึกอายทางความคิดน่ะเข้าใจมั้ย อ๊ากกกกกก

     

    “แบคฮยอน รอด้วย” ชานยอลวิ่งตามหลังคนตัวเล็กที่เดินไปจ่ายตังแล้วออกไปเลย ไม่รอให้ป้าเขาเอาปูนปั้นใส่ถุงเสียก่อน เป็นอะไรของเขา

     

    “รถมาพอดีเลย ไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”

     

    “เดี๋ยว แล้วนี่ล่ะ” ชูถุงในมือให้อีกฝ่ายเห็น แบคฮยอนมองอยู่แป๊บนึงก็วิ่งกลับมา

     

    “ฉันให้นาย ถือเป็นของขวัญวันเดทแรกของเรา”

     

    “อ่า...” ยังไม่ทันตอบอะไรแบคฮยอนก็วิ่งออกไปแล้ว

     

    “แล้วก็!

     

    “...” ร่างเล็กหันกลับมาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองป้ายรถเมย์ที่รถกำลังจะเคลื่อนที่เข้ามาจอดแล้วมองชานยอลอีกที

     

    “ฉัน...ฉันชอบนายนะ...” เสียงไม่ดังเท่าวันแรกที่บอก แต่มันก็ดังพอที่จะให้ชานยอลได้ยิน เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้บอกเพื่อโมเดลวันพีช แต่แบคฮยอนบอกความในใจจริงๆของตัวเองให้ชานยอลรู้...

     

    ชอบชานยอลจริงๆ...

     

    หลังจากรถเคลื่อนที่ออกไปจากป้ายรถเมย์ ชานยอลก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ขยับออกไปไหนตั้งแต่ได้ยินคำสารภาพรักครั้งที่สองจากแบคฮยอน

     

    “เมื่อไรนายจะชอบฉันจริงๆโดยไม่มีเหตุผลอื่นสักทีล่ะแบคฮยอน...”

     















     

    ___ __ ___ _ ___ __ ___

    ตกหลุมรักของจริง หง่อววววววว
    #ฟิคชานแบคโมเดล 

    (c) Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×