ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ◣ BLACK SHADOW ◢ (CHANBAEK)

    ลำดับตอนที่ #2 : BLACK SHADOW : 01

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


    01
















    “คุณหนูคะ ตื่นเถอะค่ะ”

     

    “ไม่”

     

    “คุณหนูคะ คุณพ่อรออยู่นะคะ”

     

    “ก็บอกว่าไม่ไง!” หมอนใบใหญ่ลอยคว้างมาตกที่ข้างตัวคนใช้เก่าแก่ของบ้าน เธอถอนหายใจปลง ถ้าคุณผู้หญิงไม่อยู่บ้าน ก็ไม่มีทางที่คุณหนูจะลงไปรับประทานอาหารของนายท่านเลย

     

    “ดิฉันทำของโปรดให้คุณหนูด้วยนะคะ”

     

    “ออกไปให้พ้น ฉันรำคาญ!

     

    เพล้ง!

     

    แจกันสีขาวนวลเขวี้ยงไปกระทบประตูจนแตกละเอียด ใบหน้าฉายแววไม่พอใจที่ยังจะเซ้าซี้เขาอยู่จนน่ารำคาญ

     

    “เดี๋ยวดิฉันให้คนมาเก็บกวาดและนำอาหารมาให้นะคะ”

     

    หญิงวัยกลางคนก้มหัวทีหนึ่งแล้วเดินออกไป ซักพักก็มีคนใช้มาเก็บกวาดเศษแจกันที่เกลื่อนห้องจนสะอาดโดยที่มีคุณหนูเจ้าอารมณ์ของบ้านนั่งจ้องไม่วางตา

     

    “คนใช้ใหม่หรอ”

     

    “ค่ะคุณหนู” หญิงสาวที่อายุราวๆยี่สิบกว่าตอบอย่างนอบน้อม

     

    “รอยที่คอคืออะไร”

     

    “เอ่อ...คือ...” รีบตะครุบคอเสื้อทันทีที่โดนถามแบบนั้น ท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัดเรียกเสียงหัวเราะหึในลำคอร่างบางได้เป็นอย่างดี

     

    “มาใหม่ก็โดนแล้วหรอ สมยอมหรือขัดขืนล่ะ” พูดด้วยสีหน้าสมเพส แค่แม่ไม่อยู่ก็ล่อพวกอีตัวเข้ามาแล้ว เลวจริงๆนะ...

     

    “ไม่ใช่นะคะ คือคุณท่าน...คือดิฉัน...”

     

    “สมยอมสินะ เก่งนี่ หาทางไต่เต้าได้ดี”

     

    “เปล่านะคะคุณหนู...”

     

    “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันเข้าใจ ออกไปเถอะ” เธอขมวดคิ้วสงสัย จากที่คนงานในบ้านเล่ามา คุณหนูคนนี้ร้ายกาจมากไม่ใช่หรอ พอมาเจอเข้าจริงกลับใจดีกว่าที่คาดไว้ แม้จะปากจัดไปบ้างก็เถอะ

     

    “ค่ะคุณหนู”

     

    “เดี๋ยว มานี่ก่อน”

     

    เธอจำยอมต้องเดินกลับมาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงของเจ้าของห้อง ก้มหน้าก้มตาซ่อนความหวาดกลัวไว้

     

    แบคฮยอนหยิบดอกไม้ที่วางอยู่ในห่อขยะออกมาก่อนจะยื่นให้คนตรงหน้า อีกฝ่ายมองมันด้วยความสงสัยแล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินคำสั่งจากปากคุณหนูคนนี้

     

    “กิน”

     

    “เอ่อ คุณหนูคะ คือมัน...”

     

    “กิน”

     

    “มันกินไม่ได้นะคะ”

     

    “จะให้ฉันยัดหรือเธอจะกินเอง”

     

    “คะ ค่ะ” ดอกไม้สีเหลืองสดที่หักและน่าเกลียดอยู่ในมือเธอแล้ว กลิ่นไม่น่าชมและอีกหลายอย่างที่ทำอย่างไรก็กินไม่ลง แต่สายตากดดันกึ่งบังคับทำให้เธอต้องฝืนกัดมันเข้าไป เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานยังไม่อยากจะหางานใหม่หรอกนะ

     

    “บอกให้กินไง กินแบบนี้” มือบางจิกผมคนใช้ให้เงยหน้ารับเศษดอกไม้เข้าปากก่อนจะยัดมันลงไปทั้งแบบนั้นจนหญิงสาวไอโขลกแขลกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับชะตากรรมที่คุณหนูของบ้านเป็นคนยัดเยียดให้

     

    รสชาติที่ไม่ต้องบอกคงรู้ว่าแย่ขนาดไหน น้ำยาที่ฉีดเอาไว้ให้ดอกไม้สดชวนให้คายออกมา เธอกลืนมันลงคอพร้อมอาการที่จะอาเจียนอยู่รอมร่อ เงยหน้ามองเจ้านายที่มีสีหน้าสะใจเต็มประดา

     

    “คนสกปรกอย่างแกต้องกินของสกปรกแบบนี้แหละถึงจะเหมาะสม คนมันมีเมียอยู่แล้วก็ยังหน้าด้านเอาตัวเข้าแลก ไม่มีสมองคิดสินะ อย่างว่าแหละ คนชั้นต่ำแบบพวกแกจะไปมีหัวคิดดีๆกับเค้าได้ยังไง”

     

    ฝ่ามือกำแน่นที่โดนดูถูกเหยียดหยามอย่างกับไม่ใช่คน แต่เธอทำอะไรไม่ได้เพราะยังไงเสียบ้านหลังนี้เธอก็เป็นได้แค่คนใช้ และอีกคนคือเจ้านาย

     

    “เก็บมันไปทิ้ง อย่าให้เลอะห้องฉันแล้วออกไปซะ”

     

    “ค่ะคุณหนู” เธอเก็บกวาดอย่างรวดเร็วเพราะทนไม่ไหวกับรสชาติแย่ๆของสิ่งที่เพิ่งกินเข้าไป ลุกขึ้นเดิมก้มหน้าไปทางประตู

     

    “ออกไปนี่หมายถึงออกไปจากบ้านหลังนี้และอย่าให้ฉันเห็นแกอีก เข้าใจมั้ย!

     

     

     

     

     

    BLACK SHADOW

     

     

     

     

     

     

    เสียงเพลงดังกระหึ่มอยู่ในสถานที่กลางคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดในระแวกนี้ แสงไฟสีแดงหม่นๆสาดส่องไปทั่วให้ดูครึ้ม ลูกคนรวยมากหน้าหลายตาต่างพากับวาดลวดลายอย่าไม่ยอมแพ้ ขวดเหล้าชั้นดีวางเกลื่อนทุกโต๊ะที่มีคนนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง

     

    ดวงตาสวยกรีดอายเลนเนอร์กรอกไปมาอย่างเบื่อๆ อยากจะออกไปเดินเล่นก็ไม่ได้ ต้องมาติดแหง็กเป็นนักโทษอยู่แบบนี้

     

    หันมองบุคคลที่ผู้เป็นพ่อกำชับแน่นหนาให้มาคุมไม่ให้เขาออกนอกลู่นอกทาง จะอะไรกันนักหนา คนนะไม่ใช่เพชรราคาร้อยล้านที่ต้องมีคนมาคุมขนาดนี้

     

    “มองพี่แบบนั้นหมายความว่าไงครับ” คงจะส่งสายตาจิกกัดมากเกินไปจนคนถูกจ้องรู้ตัว ร่างบางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ ได้ออกมาเที่ยวทั้งทีกลับต้องอยู่เฉยๆ สู้เปิดเพลงอยู่บ้านแล้วเต้นไม่ดีกว่าหรอ

     

    “...”

     

    แบคฮยอน...”

     

    “พี่มินโฮ ไม่จำเป็นต้องเฝ้าผมตลอดหรอกนะครับ” เอ่ยปากบอกแฟนตัวเองที่ดูจะเข้ากับพ่อของเขาได้ดีเกินไป

     

    “ไม่ได้หรอกครับ พ่อเราสั่งไว้ให้พี่ดูแลเราดีๆ”

     

    “พ่อก็พูดไปแบบนั้นแหละ ไม่เห็นต้องใส่ใจเลย” บอกอย่างเหนื่อยหน่าย

     

    พ่อที่เอาแต่ทำงานไม่เคยสนใจลูกว่าเป็นอย่างไร ดีหรือเลว ไม่เคยใส่ใจว่าลูกต้องการอะไร พอเงยหน้าได้ก็ออกคำสั่งอย่างเดียว ตั้งแต่จำความได้มีเพียงแม่คนเดียวที่เลี้ยงดูเขาด้วยความรัก ไม่มีแม้แต่เงาของพ่อที่ปรากฏในชีวิตเด็กชายคนนี้ ความทรงจำในวัยเด็กคือภาพของพ่อที่ก้มหน้าทำงานจนไม่รู้ว่ามีลูกชายกำลังนั่งรอจะคุยเรื่องจบการศึกษาด้วยคะแนนอันดับหนึ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พอรู้ว่ามีเขาอยู่ในห้องก็ไล่กลับห้องไปเสีย

     

    แล้วแบบนี้จะไปสนใจคนอย่างนั้นทำไมกัน...

     

    “แต่พี่เป็นแฟนเรานะ”

     

    “งั้นเราเลิกกันดีมั้ยครับ ผมคงจะมีความสุขกว่านี้” ลุกขึ้นเดินหนีอดีตแฟนหมาดๆมาให้ไกลจากบริเวณนั้น อยู่ไปก็รกหูรกตาน่าหงุดหงิด ในเมื่อไม่มีแฟนแล้วก็ไม่มีใครสามารถขีดเส้นจำกัดเขาได้อีกแล้ว

     

    โทรศัพท์เครื่องหรูถูกยกขึ้นมาใช้งาน นิ้วเรียวไล่ไปตามอักษรและกดลงไปเมื่อได้ชื่อที่ต้องการ รอเพียงไม่นานปลายสายก็รับสาย

     

    “คยองซู มาหาฉันหน่อยสิ”

     

    /ไม่ได้หรอก กำลังเก็บของ/

     

    “ไปไหน”

     

    /มีเรื่องที่เยอรมัน ต้องไปเคลียร์/

     

    “กี่วัน” ถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์ ว่าจะให้มานั่งเป็นเพื่อน อีกฝ่ายกลับมีภารกิจด่วนเสียอย่างนั้น อะไรมันจะน่าเบื่อขนาดนี้

     

    /เป็นเดือน ถ้าเหงามากก็ให้พี่มินโฮมาแก้เหงาสิ/

     

    “เลิกกันแล้ว”

     

    /ตั้งแต่ตอนไหน ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย/

     

    “เมื่อกี๊”

     

    /อีกแล้วหรอ แค่นี้ก่อนนะ อีกครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นเครื่องแล้ว/

     

    “อือ โชคดี” เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงอย่างหน่าย กวาดสายตาไปมองบรรดาผู้คนที่สนใจอยู่ตรงเวทีแล้วเมินหน้าหนี

     

    “สวัสดีครับ มาคนเดียวหรอครับ”

     

    “เห็นว่ามากี่คนล่ะ” มองเสี้ยวหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจ ก็แค่พวกเที่ยวกลางคืนที่หาเหยื่อไม่เลือกหน้า

     

    “โอ้ว ดุซะด้วย แบบนี้ค่อยมาสน”

     

    “คิดว่าอยากจะสนทนาด้วยมั้ย ดูสารรูปตัวเองนิดนึง พวกสวะ”

     

    “อ้าวนาย มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงตบโต๊ะดังปังของคนที่มาใหม่ แบคฮยอนเหลือบตามองอย่างเหยียดๆ ไร้มารยาท!

     

    “คุณครับ ช่วยไล่เค้าไปหน่อย ผมเกะกะลูกตา” บอกคนในโต๊ะก่อนจะหันมองชายหนุ่มคนนั้นอีกรอบแล้วส่งรอยยิ้มเย้ยหยันให้

     

    “ระวังตัวไว้เถอะคนสวย”

     

     

     


     

      BLACK SHADOW

     

     




     

    พวงกุญแจรถยนต์ยี่ห้อหรูสวมอยู่ในนิ้วเรียวของร่างเล็กที่เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ต้องขมวดคิ้วสงสัยเมื่อพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งยืนล้อมรถคันสีขาวของตัวเอง

     

    “ถอย ฉันจะขึ้นรถ” เอ่ยอย่างไม่มองหน้าบุคคลที่ยืนบังประตูรถแม้แต่น้อย เพียงแต่คนนั้นกลับไม่ถอยดังที่ใจต้องการ เงยหน้าจะต่อว่าตามนิสัยก็พบกับผู้ชายที่มองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง

     

    “มีปัญหาอะไร”

     

    “แหมคนสวย แค่นี้ก็จำกันไม่ได้หรอครับ” พอนึกหน้าดีๆก็พบว่าเป็นนายคนที่เขาว่าไปตอนนั้นนั่นเอง กรอกตาไปมาแล้วเค้นหัวเราะไปให้

     

    “อ๋อ พวกสวะสังคมนี่เอง อยากได้อะไร เงินหรอ เท่าไรดีล่ะ” กระเป๋าตังถูกปัดกระเด็นตกไปที่พื้นก่อนที่จะมีใครซักคนในกลุ่มหยิบมันไป แบคฮยอนตวัดตามองคนที่กล้ามาทำแบบนี้กับเขา

     

    “กูเอาแน่เงินน่ะ ส่วนอีกอย่างที่กูจะเอาก็คือมึง เฮ้ยจับมันไว้ กูแม่งอยากล่อพวกคนรวยไฮโซจะตายห่าละ”

     

    แขนเรียวถูกกระชากไปติดตัวรถโดยชายร่างใหญ่สองคน แบคฮยอนออกแรงดิ้นเท่าไรก็ไม่สะทกสะท้านคนตัวใหญ่กว่าได้เลย ยกขาขึ้นถีบคนมาก้าวเท้าเข้าหาอย่างแรงจนเซถลา ผู้ชายคนนั้นเข้ามาบีบสันกรามร่างเล็กจนเจ็บไปทั้งหน้า แต่ไม่วายส่งสายตาท้าทายกลับไป พ่นน้ำลายใส่ไปเต็มหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว

     

    “อย่าเอามือมาจับหน้ากู ขยะแขยง!

     

    “รังเกียจกูมากใช่มั้ย ได้” ไม่มีโอกาสได้ร้องโวยวายต่อ เรียวปากบางก็ถูกบดเบียดอย่างรุนแรง ปิดกั้นปากแน่นไม่ให้อีกฝ่ายได้เข้ามา แรงบีบมากขึ้นจนปวดไปหมดแต่เขาก็ไม่ยอมเปิดปากแน่นอน สัมผัสน่ารังเกียจยังคงลุกลามไม่หยุดหย่อน

     

    “ดื้อด้านนักนะมึง”

     

    เพี๊ยะ!

     

    แบคฮยอนหันหน้าไปตามแรงตบ เจ็บจนชาไปทั้งหน้าด้วยแรงโทสะของอีกฝ่าย ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตอนนี้มันคงแดงเถือกเป็นรอยมือใหญ่ๆบนแก้มเขาแน่ๆ

     

    “หึ ทำไมไม่พูดล่ะมึง” ต้องหันหน้าไปเผชิญกันอีกรอบด้วยน้ำมือของมันที่จับคางเขากระชากให้หันกลับมา

     

    “มึงไม่ตายดีแน่”

     

    “งั้นก่อนตายกูจะเอามึงก่อนแล้วกัน คงจะมันส์กว่าพวกข้างในล่ะมั้ง”

     

    “คงไม่ง่ายแบบนั้นมั้ง”

     

    แบคฮยอนมองเจ้าของเสียงที่อยู่ไกลหลายเมตร ผู้ชายที่หน้าตาจัดได้ว่าดูดีพอสมควรเดินมาพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ มือล้วงกระเป๋าอย่างสบายอารมณ์

     

    “มึงเป็นใคร”

     

    “เอาเป็นว่าผมเป็นคนที่สั่งให้พวกคุณหยุดการกระทำแบบนั้นได้ ปล่อยเค้าซะ” และได้ผลเพราะคนเหล่านี้ยอมปล่อยมือจากแบคฮยอนให้ยืนพิงรถด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด และเปลี่ยนเป้าหมายเป็นชายร่างสูงโปร่งคนนั้นแทน

     

    “ใครล่ะ ใหญ่แค่ไหน” ก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเมื่อมีชายอีกนับสิบที่รายล้อมพวกเขาอยู่

     

    “เอาพวกมันให้น่วม ส่วนคนตรงกลาง เอาให้ตาย

     

    สิ้นเสียงประกาศนั้นก็เกิดการตะลุมบอลขึ้น แบคฮยอนรีบเดินหนีออกไปให้ไกลด้วยกลัวจะโดนลูกหลงกับการปะทะที่ดูน่ากลัวเกินไป อีกเหตุผลคือสายตาของชายคนที่เป็นหัวหน้าที่มองมายังเขาก็ดูน่ากลัวมาก คล้ายกับจะฆ่าเขาให้ตาย เพียงแต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็โดนรวบเข้าไปอยู่ในวงแขนแกร่งที่พาเดินออกมายังบริเวณหน้าผับ

     

    ร่างบางพยายามขัดขืนแต่เหมือนจะกลายเป็นการเพิ่มแรงบีบรัดเข้าไปอีก

     

    “ปล่อยได้แล้ว”

     

    “น่าจะขอบคุณผมสักคำนะครับ”

     

    “ไม่ได้ขอให้ช่วย”

     

    “เหอะ ปากแบบนี้ไงถึงโดนพวกนั้นทำร้าย”

     

    “กรุณาอย่ามาว่าผมแบบนี้ เราไม่รู้จักกัน และผมก็ไม่อยากรู้จักคุณ” กวักมือเรียกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านแล้วฉวยขึ้นรถโดยไม่ได้มองคนที่ช่วยเหลือเลยซักนิด

     

    “เดี๋ยวก็ได้รู้จัก...” รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา เจ้าของร่างสูงสง่าเดินกลับเข้าไปในลานจอดรถที่กำลังเป็นสนามรบขนาดย่อมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง มองร่างไร้ชีวิตของคนที่บังอาจมายุ่งย่ามกับนักโทษคนใหม่ของเขา...

     

    บยอนแบคฮยอน...















     


    100%
     

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×