คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : มาย บอยเฟรนด์ : one
มาย บอยเฟรนด์ : one
___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
ช่วงเวลาพักกลางวัน ในขณะที่คนอื่นกำลังทานอาหารกันด้วยความปกติ บยอนแบคฮยอนใช้ขาสั้นๆวิ่งมาแต่ไกลเพื่อมาให้ทันสั่งอาหารกับร้านโปรด เพราะของที่อยากกินมันมีจำนวนจำกัด ถ้ามาช้า เรียกสั้นๆว่าอดแดกนั่นเอง
อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว อีกนิดเดียว แบคฮยอนเร่งฝีเท้าตัวเองให้มากขึ้นจนหอบไปวิ่งไป แต่พอหยุดเท้าเมื่อมาถึงหน้าร้าน ปรากฏว่าชื่ออาหารที่ตัวเองอยากกินถูกกระดาษแผ่นเล็กๆแปะว่า ‘หมด’
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
โวยวายอยู่ในใจได้ 2 วินาทีถ้วน ก็หันไปพบกับข้าวราดแกงกะหรี่หน้าหมูทอดสูตรอร่อยเด็ดล้ำโลกที่มีแค่ร้านนี้ที่เดียวพร้อมกับมือเล็กที่จับถาดลากเข้าหาตัว ไล่มองตั้งแต่มือขึ้นไปเรื่อยๆจนเจอกับใบหน้าหวานใสแต่มีรอยยิ้มนางพญาพร้อมยักคิ้วให้หนึ่งที
กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด ถ้าไอ้คนที่ได้จานสุดท้ายไปไม่ใช่คนนี้แบคฮยอนจะไม่ว่าอะไรเลย แต่ไอ้การที่ยิ้มผยองและยกจานขึ้นมาดมราวกับมันหอมมากหอมมาย (ซึ่งถ้าถามเขาคือมันหอมมาก) บริการเสริมด้วยการพัดเบาๆให้กลิ่นมันลอยมาปะทะจมูกแล้วยิ่งเลือดขึ้นหน้า
“โดคยองซู!!”
“ว่าไงบยอนแบคฮยอน” ลดจานลงวางกับโต๊ะหน้าร้าน แล้วหันมาสนใจคู่ปรับตลอดการที่กำลังทำหน้าเหมือนโดนคนแย่งข้าวกิน...ก็ใช่สิ โดนแย่งต่อหน้าต่อตาเลย คึคึ
“นั่นมันของฉัน!” ชี้นิ้วไปที่จานข้าวหอมกรุ่นที่ยังมีควันลอยขึ้นมานิดหน่อยบ่งบอกถึงความสดใหม่ที่เจ้าของเพิ่งทำเสร็จหมาดๆ
“ของแกที่ไหน ฉันสั่งและจ่ายเงินเรียบร้อย ใช่มั้ยฮะคุณป้า” ย้อนถามคุณป้าเจ้าของร้าน ซึ่งหล่อนก็พยักหน้ารับตามความเป็นจริง
“ป้า นี่มันของโปรดผมนะ ป้าขายให้คนอื่นได้ไง” ด้วยความสนิทเพราะมาซื้อเป็นประจำ จึงแหกปากโวยวาย เรื่องอะไรจะยอมให้นายนี่มาแยกของชอบไป
“ของทำมาไว้ขายก็ต้องขาย ถ้าแกกลัวฉันแย่งก็สั่งตั้งแต่เช้าแล้วเก็บไว้ใต้โต๊ะเรียนสิ!”
“คนบ้าที่ไหนจะเก็บข้าวกลางวันไว้ใต้โต๊ะห๊ะ ประสาทแดกหรอ!”
“โอ้ยพอๆๆ ป้าว่าหยุดทะเลาะกันได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยกินนะแบคฮยอน ส่วนวันนี้ก็กินอย่างอื่นไปก่อน”
“ไม่ได้ วันนี้ผมต้องได้กินข้าวแกงกะหรี่หมูทอด!” ยื่นมือไปแย่งจานข้าวนั่นมาไว้ใกล้ตัว
“นี่มันของฉัน!” ว่าเสร็จก็แย่งกลับ
“ของฉัน!”
“ของฉันโว้ย จ่ายเงินแล้วโว้ย”
“ฉันซื้อต่อ เอามา”
โดคยองซูอาศัยจังหวะที่แบคฮยอนกำลังแย่งถาดข้าวมาเป็นของตัวเอง ก็จัดการเทน้ำเปล่าใส่มือแล้วสาดใส่หน้าแบคฮยอนเข้าอย่างจัง
“เฮ้ย”
“สมน้ำหน้า แบร่” ในตอนที่แบคฮยอนปล่อยมือก็คว้าถาดไว้และรีบวิ่งหนีหายไปในฝูงคน แบคฮยอนที่เพิ่งเช็ดหน้าด้วยแขนเสื้อเสร็จก็พบกับความว่างเปล่า
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้คยองซู!” ได้แต่เคียดแค้นกับตัวเองคนเดียว ก่อนจะหันมาทำหน้าบึ้งใส่ป้าเจ้าของร้าน เมื่อโมโหใส่คนอื่นได้แล้วก็เดินปึงปังออกไป ไม่หิวแล้วเว้ย! แค้นเว้นแค้น!
“อ้าวแบคฮยอน ไปไหนวะ” เดินสวนกับเพื่อนสนิทที่วิ่งตามหลังมาก็โดนทักจนต้องหยุดเดิน
“จุนมยอน พาไปซื้อขนมปังกินหน่อย”
“ฉันหิวข้าว แกไปซื้อคนเดียวเถอะ”
“ไม่ได้ แกต้องไปกินกับฉัน ห้ามหือห้ามอือ” หากแขนเพื่อนตัวเองไปโดยไม่ฟังเสียงร้องท้วง หมดอารมณ์กินข้าว แต่ก็ต้องหาไรกินไม่งั้นหิวไส้แตกคาห้องเรียนแน่ๆ
HEY, My Boyfriend!
“มันแย่งข้าวแก เลยได้ทะเลาะกัน”
“ก็เออดิ ข้าวราดแกงกะหรี่หน้าหมูทอดเลยนะเว้ย” คิมจุนมยอนกรอกตาขึ้นฟ้าจนเห็นแต่ตาขาว แทบอยากจะกรอกมันรอบดวงตาไปเลย เพื่อสื่อให้รู้ว่าเอือมมากขนาดไหน
“เพลาๆลงหน่อยนะ ทะเลาะกันอยู่ได้ ทุกเรื่องเลย”
“คนอื่นฉันไม่ว่าหรอกนะ แต่ถ้าเป็นโดคยองซูก็อย่าหวังว่าเรื่องจะจบง่ายๆ” ยิ่งนึกก็ยิ่งแค้น เขาทะเลาะกับมันมาตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาใหม่ๆ เรียกว่าไม่ชอบขี้หน้า ไม่ถูกชะตาเลยพาลให้ขัดใจกันไปทุกเรื่อง เลยเถิดจนกลายเป็นเกลียดกันแบบปลายเท้าก็ยังไม่อยากจะเห็น ถ้าได้เจอหน้ากันไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็สามารถขุดเอามาเพื่อทะเลาะกันจนได้
“เหลือเรื่องเดียวที่ยังไม่ทะเลาะกัน”
“เรื่องอะไร”
“ชานยอลห้อง C ที่แกชอบไง ขออย่าให้ชอบคนเดียวกันเลย” หลับตาอธิฐานราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง แต่เชื่อเถอะ ถ้าเกิดเรื่อง ยังไงแบคฮยอนก็ลากเขาให้เกี่ยวอยู่ดี ไม่พลาดสักงาน
“เออ มันรับแอดฉันยังวะ” ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ค เขาแอดเฟสบุ๊คชานยอลไปเมื่อหลายวันก่อน ไม่รู้ว่าจะรับแอดหรือยัง
ในระหว่างที่อีกคนกำลังนั่งดูแอปเฟสบุ๊คในมือถืออยู่นั่น คิมจุนมยอนรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ซ่อนอยู่ รังสีดำทมึนเริ่มเข้าครอบงำ แบนสายตาไปมองตัวต้นเหตุแห่งเหตุการณ์อึมครึมก็พบกับใบหน้าที่เรียบตึงก่อนจะค่อยๆกลายร่างเป็นปีศาจกินคนในไม่ช้า...
“มันยังไม่รับแอดกู แต่รับแอดโดคยองซูแล้ว โพสหากันว่าขอบคุณที่รับแอดด้วย...”
คิมจุนมยอนเตรียมพร้อม...ออกรบครั้งนี้...อาจมีการเสียเลือดเนื้อ...จะยอมพลี...เพื่อเพื่อนที่อยากได้ผู้ชาย...
HEY, My Boyfriend!
“ลู่หาน ชานยอลตอบกลับมาแล้ว” ยื่นโทรศัพท์เครื่องสีขาวให้เพื่อนสนิทดูด้วยความตื่นเต้น
“ไหนอ่านดิ๊ ขอบคุณเช่นกันครับ ให้มันได้แบบนี้ ในที่สุด คยองซูก็จะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับเค้าสักที”
“ยังไม่ได้คุยกันเลย อย่าพูดขนาดนั้นดิลู่”
“เออใช่ แกไม่มีสิทธิ์ได้คุยกับชานยอลหรอก เพราะชานยอลเป็นของฉัน!” เสียงแว็ดจากด้านหลังที่ไม่ต้องบอกว่าเป็นใครคยองซูก็จำได้ขึ้นใจ รีบหันกลับไปมองเพื่อตั้งหลัก เกิดมันบ้ามาจิกหัวเขาจะได้สู้ทัน
“ทำไม ชานยอลไปเป็นของแกตอนไหนมิทราบ”
“เป็นตั้งแต่เค้าเกิดแล้วเว้ย พอเกิดปุ๊บ เราสองคนก็รักกันปั๊บเลยเว้ย” แม้แต่เพื่อนสนิทที่ฟังแล้วยังต้องกรอกตา นับประสาอะไรกับคนที่โดนพูดใส่ เสียงหัวเราะดังก้องในห้องเรียนวิชาดนตรีที่ไม่มีอาจารย์สอน คยองซูแทบจะอยากลงไปนอนหัวเราะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ยังเกรงใจฝ่ายอริอยู่บ้าง
“หรอ รักกันมากเลยหรอ รักกันจนขนาดเค้ายังไม่รับแกเป็นเพื่อนเนี่ยนะ แล้วดูนี่ แหกตาดูหน่อยว่าฉันนำแกไปแล้วก้าวนึง” ไม่ต้องบอกให้อ่านตรงไหน สายตาของแบคฮยอนก็เห็นทันทีว่าคนที่หมายปองไว้ตั้งแต่เปิดเทอมใหม่ๆตอบกลับข้อความของคยองซูเป็นที่เรียบร้อย แถมยังใส่อิโมค่อนเป็นรูปตายิ้มต่อท้ายอีก
“แกก็ได้แค่นั้นแหละ ยังไงชานยอลก็ต้องได้เป็นแฟนกันฉัน น้ำหน้าอย่างแกไม่มีทางได้เค้าไปหรอก!”
“งั้นเรามาแข่งกันมั้ย ว่าใครจะได้เป็นแฟนของชานยอล คนแพ้จะต้องออกไปจากชีวิตของกันและกัน อยู่แบบเงียบๆห้ามหาเรื่องกันอีก โอเคมั้ย”
“ถือเป็นข้อเสนอที่ดีมาก เรามาแข่งกันเป็นแฟร์ๆห้ามโกง ห้ามตุกติกเด็ดขาด”
“ผลัดกันจีบชานยอลคนละวันเพื่อความเท่าเทียม”
“แกวันคี่ ฉันวันคู่” แบคฮยอนสวนกลับก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เลือก แล้วยื่นมือไปจับเพื่อเป็นการตกลงสัญญาที่ได้พูดมาทั้งหมด
“ตกลง ให้เสี่ยวลู่หานและคิมจุนมยอนเป็นพยาน แล้วก็ขอบคุณแกมากนะที่เลือกวันคู่ เพราะเดือนนี้มันมี 31 วัน” จับมือกันแบบรังเกียจเสร็จแล้วก็เดินหนีออกไป แบคฮยอนที่ยังงงกับคำพูดของคยองซูจนต้องให้จุนมยอนช่วยบอก พอเข้าใจความหมายก็ได้แต่กรีดร้องให้กับความเซ่อบ้าบอของตัวเอง
“พอวันที่ 31 แล้วต่อด้วยวันที่ 1 สรุปเดือนนี้คยองซูได้เดทกับชานยอล 2 วันติด”
“ทำไมแกไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้วะ มันได้สองวันติดไปเลยวะเว้ยยยยยยยยยยยยย”
“ก่อนอื่นแกต้องทำให้ชานยอลรับแอดแกก่อนนะ”
“เออจริงด้วย ไปห้องชานยอลเดี๋ยวนี้เลยแก” พูดจบก็ลาก ลากและลากไปเช่นเดิม วิ่งลงจากตึกนี้ไปอีกตึกนึง เห็นผ่านหน้าต่างว่าห้องของชานยอลยังไม่ได้ออกไปไหนก็รีบวิ่งขึ้นไป ไม่ห่วงเพื่อนที่หอบแฮ่กเพราะโดนลากมาเลยสักนิด
“แกจะไปบอกมันยังไง...แฮ่ก...เรื่องรับแอดวะ...”
“ก็บอกตรงๆนี่แหละ เดี๋ยวนี้เค้าชอบคนเปิดเผยเว้ย รับรองกูจีบไม่ถึงอาทิตย์ติดชัว....”
“แน่นะ...”พอมาถึงหน้าห้อง คนที่มั่นใจนักหนาว่าจีบติดชัวร์ถึงกับชะชักคำพูดตัวเอง เมื่อเห็นโดคยองซูที่เดินออกไปจากห้องตอนนั้นมาหัวเราะเริงร่าอยู่กับ...ปาร์คชานยอล!
“แกมาที่นี่ทำไม” ปราดตรงเข้าไปหาโดยไม่สนใครหน้าไหนที่มองมาทั้งนั้น แต่เห็นศัตรูตลอดกาลอย่างนี้แล้วยิ่งเก็บอารมณ์แทบไม่อยู่
“ก็...มาคุยกับเพื่อน” โอ้โหหหห ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้รับน้ำเสียงอ่อนหวานจากคนอย่างมันเลยสักครั้ง ไปแดกน้ำผึ้งผสมมะนาวมาหรอถึงได้ไพเราะขนาดนี้
“เพื่อนหรอคยองซู”
“ชานยอล รับแอดในเฟสหน่อยสิ” ไม่ปล่อยให้แม่งคุยกันหรอก กูไม่ย๊อมมมม อย่ามาทำน่ารักใส่กันตอนกูอยู่ด้วยได้ม้ายยยยยย
“นายจะให้ฉันรับแอดนาย?”
“ก็ใช่ไง เพื่อความเท่าเทียมทั้งสองฝ่าย ในเมื่อนายรับแอดไอ้นี่ไปแล้ว นายก็ต้องรับแอดฉันด้วย ฉันจะไม่ให้เกิดการเหลื่อมล้ำกัน”
เหมือนชานยอลจะงงอยู่มาก คยองซูเลยอธิบายให้ฟัง ตอนแรกก็ว่าจะบอกทีหลังแล้วนะ แต่ไอ้เสียงแหลมนี่เข้ามาไม่ถูกเวลาจริงๆ
“คือความจริงแล้ว เรา...เราชอบชานยอลน่ะ...แต่แบคฮยอนเค้าไม่ยอม...เค้าเลยบอกให้แข่งกับเค้าว่า...ว่าใครจะได้เป็นแฟนชานยอล...” ขยาดลูกกะตากับท่าทางหน่อมแน้มที่เสแสร้งทำซะอย่างกับดาราฮอลิวูดแล้วพูดให้ฟังแบบกระชับฉับไว ไม่ใช่อะไรนะ แอบเห็นชานยอลมันหน้าแดงกับประโยคบอกชอบของคยองซู เลยต้องขัดๆไว้ก่อน
“เออนั่นแหละ เราผลัดกันจีบนายคนละวัน มันวันคี่ ฉันวันคู่ ถือว่าเป็นอันตกลง เข้าใจทุกฝ่าย ฉะนั้นนายก็รับแอดฉันซะ”
“เอ่อแบคฮยอน ค่อยมาหาชานยอลวันพรุ่งนี้ได้มั้ย”
“ทำไม มีปัญญารึไง”
“คือวันนี้วันที่ 9 เป็นวันคี่”
คือเจ็บ เสือกไม่ดูวันเวลาอีกละ ในเมื่อตัวเองเป็นคนเลือกเองก็ต้องทำตามกติกา ปล่อยให้แม่งทำคะแนนไป พรุ่งนี้จะจัดให้หนักเลยคอยดู
“อย่าลืมรับแอดด้วยนะ!”
HEY, My Boyfriend!
“ปาร์คชานยอลลลลลลลล” คนที่กำลังนั่งฟังเพลงสบายๆอยู่ในห้องเรียนถึงกับสะดุ้งเมื่อมีคนเรียกตัวเองแบบดังจนทะลุหูฟังได้
“ห๊ะ เออ นาย” หันหน้ามาพบกับใบหน้าใสที่ยิ้มจนตาเหลือเป็นเส้น บยอนแบคฮยอนลากเก้าอี้มานั่งแล้วเท้าคางมองคนที่ตัวเองชอบอย่างมีความสุข ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มานั่งแบบนี้ โอ้ยเขิน
“รับแอดยังงงงงง”
“เอ่อ ยังเลย ฉันไม่รู้ว่านายชื่ออะไร”
“ชื่อเฟส แบคฮยอนบยอน ส่วนชื่อฉัน บยอนแบคฮยอน”
“อ่า ฉันรับแล้วนะ” ยิ้มให้ตามมารยาทแล้วกลับไปสนใจเพลงต่อ ตอนแรกที่รู้ว่าสองคนนี้แข่งอะไรกันก็รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อยที่เอาเขามาเป็นตัวกลาง แต่ไปๆมาๆโดคยองซูก็น่ารักดี แถมยังคุยสนุกอีก เลยปล่อยให้แข่งกันไป อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ชื่อแบคฮยอนอะไรนี่จะมีนิสัยยังไง ซึ่งพอเจอกับตัวก็รู้สึกว่าไม่ค่อยใช่แนวเขาเท่าไร
“เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“ฉันจะไปกินกับเพื่อน”
“แต่ตอนนี้ฉันจีบนายอยู่นะ ไม่รู้ล่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงจะมาหา ไปแล้วนะชานยอล บ๊ายยยย” เขาไม่ชอบให้คนมาบังคับ แต่ดูท่าคนตัวเล็กนั่นจะเอาจริง แล้วแบบนี้คะแนนของสองคนนั้นจะสูสีกันมั้ยเนี่ย พยายามทำใจให้เป็นกลางสุดแล้วนะ
พอตอนเที่ยงก็มาหาจริงๆตามที่พูด บังคับให้เขาเดินตาม พอไม่เดินตามก็ลากซะเลย มันจะไม่แปลกหรอกถ้าจะจับมือกัน แต่นี่เป็นคนไม่รู้จักหรือเพิ่งรู้จักกันได้วันเดียว ทำเหมือนสนิทกันมาแต่ปางไหน
“ป้าฮะ วันนี้มีอะไรอร่อยๆบ้าง”
“มีหลายอย่างเลยจ๊ะ อยากได้อะไรล่ะ”
“ชานยอลอยากได้อะไร”
“เอ่อ ฉันอยากไปกินร้านนู่น...” พูดจบแบคฮยอนก็จ้องนิ่ง และมีอีกคนที่จ้องเขาเขม็งมากกว่าแบคฮยอนอีก
“ร้านป้ามันไม่อร่อยหรอจ๊ะ”
“เปล่าครับๆ คือ ผมเอาข้าวหน้าไก่ทอดแล้วกันครับ”
“ดีเลย ผมเอาข้างหน้าแกงกะหรี่หน้าหมูทอดนะฮะ” แล้วแบคฮยอนก็กลับมาร่าเริงต่อ รอไม่นานข้าวทั้งสองจานก็เสร็จเรียบร้อย จ่ายเงินเสร็จก็ถูกลากให้มานั่งกินข้าวที่โต๊ะ แบคฮยอนวิ่งไปซื้อน้ำหวานมา 2 แก้วแล้วดูดจ๊วบ
“อร่อยมั้ย” ช้อนกำลังจะเข้าปากแต่ยังไม่เข้าอีกคนก็ถามออกมา ก็ยังไม่ได้กินจะไปตอบได้ไง
“...”
“อร่อยป่ะ” ยัง ยังไม่หยุดถาม เขาชะงักช้อนกลางอากาศมา 2 ครั้งถ้วน คราวนี้เลยรีบกินก่อนที่จะได้ฟังคำถามเดิม รีบๆตอบได้จะจบๆ
“อร่อย” บอกคนที่ตั้งหน้านั่งตาฟังอย่างดี แล้วแบคฮยอนก็ลงมือกินข้าวไป
“อ้าว ไม่กินน้ำหรอ” ถามอย่างสงสัยเพราะแก้วน้ำที่ซื้อมาให้ไม่ได้ลดปริมาณลงเลยแม้แต่น้อย
“อ่า” ชานยอลเลยต้องยอมยกน้ำขึ้นมาดื่ม ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ชอบพวกน้ำหวานเท่าไร นึกไปถึงเมื่อวานที่ได้มานั่งกินข้าวกับคยองซู รายนั้นซื้อน้ำเปล่าให้เขา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาพอใจมาก พวกน้ำมีรสชาติไม่ค่อยถูกปากเขาเท่าไร น้ำเปล่าดีที่สุดแล้ว
เขาแอบถอนหายใจโดยที่อีกคนไม่รู้ พูดโน่นนี่ไม่หยุด จะกินอันนั้นหรือกินอันนี้ ทั้งที่เขาไม่ได้อยากกินแต่ก็ต้องยอมกินเพราะไม่อยากได้ยินเสียงแหลมๆนั่นข้างหู รู้สึกชาแปลกๆ
เขาเป็นคนไม่ชอบอะไรที่มันเสียงดัง แบคฮยอนนิสัยต่างจากคยองซูหลายจุดจากที่ได้สัมผัสมาหนึ่งวันเต็ม คยองซูชวนเขามากินข้าว พอมาถึงก็ไปสั่งของตัวเองเงียบๆ ยิ้มให้กันก่อนจะลงมือกิน ไม่ใช่ถามอยู่นั่นว่าอร่อยมั้ย ขอชิมหน่อย หรืออะไรมากมายที่หยิบมาพูดปาวๆตลอดการกินอาหาร
___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
เรื่องนี้ไม่ถึง20ตอน ไม่ดิ ไม่ถึง15ตอนหรอก อิอิ
#ฟิคทะเลาะ
ความคิดเห็น