คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (ノ・◡・)ノ ♥ favour you : one
favour you
ONE
บยอนแบคฮยอนทำหน้าเบื่อโลกอยู่ที่หน้าตึกโครงการพิเศษของพวกเด็กเรียนเก่ง นี่ก็ใกล้เวลาเด็กพวกนี้เลิกเรียนแล้ว โรงเรียนเขาก็เลิกตามปกติคือบ่ายสามนั่นแหละ แต่พวกเด็กเรียนเก่งใช้ทุนโครงการเปาค่าเทอมต้องเรียนต่อจนถึงห้าโมงเย็น กะเรียนให้มีเมียเป็นหนังสือสินะ
ในเวลานี้ก็ใช่ว่าโรงเรียนจะเงียบเป็นป่าช้านะ แต่เป็นป่าช้าแตกต่างหาก คนที่เลิกเรียนก็เล่นกีฬากันขวักไขว่ตามประสาโรงเรียนชายล้วน ดูจะคึกครื้นกว่าตอนมีการเรียนการสอนเสียอีก มีแต่ตรงตึกนี้แหละที่ยังเงียบเชียบจนได้ยินเสียงอาจารย์สอนอยู่เป็นระยะ
เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นในขณะที่เด็กจากบนตึกก็เริ่มทยอยลงมา แบคฮยอนเริ่มหายใจเข้าออกลึกๆเป็นการเรียกกำลังใจตัวเอง เหลือบตามองเพื่อนสนิทที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ ขยับปากบอกถึงของที่สัญญากันเอาไว้หากทำภารกิจนี้สำเร็จ แล้วอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น หันกลับมาอีกครั้งก็ต้องใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ถ้าเป้าหมายจะลงมาเร็วขนาดนี้ ยังหายใจไม่ถึงสามทีเลย!
หายใจเข้าแล้วเป่าออกมาทางปากอีกรอบ จุดที่เขายืนอยู่มันตรงกลางพอดีเป๊ะของบันไดทางลงตึกเลยทีเดียว คนตัวสูงโดดเด่นทั้งหน้าตาและการเรียนเดินล้วงกระเป๋ากางเกงลงมาด้วยท่าทีสบาย กระเป๋าเป้สีเทายี่ห้อ Kanken ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันกับเขาแต่ต่างกันที่สี ของเขาสีน้ำตาล แหม ดูเหมาะสมกันแม้กระทั่งของใช้ =_______________________=
เอาล่ะนะ เป้าหมายเดินตรงมาใกล้แล้ว เอาเลยนะ ทำใจดีๆไว้บยอนแบคฮยอน นี่แค่จุดเริ่มต้น นายต้องทำให้ได้และทำให้ดีด้วย ไม่งั้นแผนอันต่อไปจะล้มไม่เป็นท่า ท่องไว้ โมเดลวันพีชชุด 7 เทพโจรสลัดแบบครบเซ็ต ท่องไว้ เราต้องได้มันมาแบบฟรีๆไม่เสียสักบาท!
“ปาร์คชานยอล!”
ตะโกนออกไปแบบที่คิดว่ามันจะได้ยินทั้งตึก และนั่นก็เป็นจริงๆ เจ้าของชื่อหยุดเดินก่อนจะมองหน้าเขาอย่างสงสัย คนอื่นก็หยุดเช่นกัน แหงสิ บยอนแบคฮยอนผู้มีชื่อเสียงจากการวาดฝาผนังตึกศิลป์แถบซ้ายทั้งแถบกำลังยืนตะโกนพร้อมเท้าเอวอย่างไม่สนใจใคร
“ฉันชื่อ บยอนแบคฮยอน! และ...”
“ฉันชอบนาย!”
ผ่าง.....
สาบานว่าถ้าไม่มีของที่อยากได้มาล่อแบคฮยอนก็ไม่ทำหรอก ไอ่ปาร์คชานยอลอะไรนี่เขาก็เพิ่งรู้จัก เพิ่งจำใบหน้าของมันได้ก็เมื่อวานนี้ ที่เพื่อนสนิทเขาเอามาให้ดูพร้อมกับภารกิจสุดแสนจะขายขี้หน้า ถ้าไม่ทำก็อดได้ของอีก แม่เขาเพิ่งหักค่าขนมไปเพราะจับได้ว่าเขาแอบซื้อฐานตั้งวาดรูปใหม่ที่ราคาแพงทั้งที่อันเก่าก็ยังใช้การได้ดีอยู่
“ชอบฉัน...” คนฟังดูจะตะลึงไปนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าควบคุมหน้าตาได้ดี ตาโตๆของมันโตเท่าปกติ มีแต่คิ้วที่เลิกขึ้นเท่านั้น
“ใช่ ฉันแอบชอบนายมานานแล้ว แล้ววันนี้ฉันก็ตัดสินใจมากบอกนาย” ทำเป็นเขิน ทำแบบไหนน่ะหรอ ก็ก้มหน้าไม่ยอมสบตา กัดปากตัวเองด้วย มือก็อยู่ไม่สุก ก็เลยทำเป็นจับกางเกงตัวเองแน่น ทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ประโยคเมื่อครู่มันเหมือนกับการที่พูดว่า ‘เฮ้ยนาย วันนี้อากาศดีนะ สนใจเป็นแบบให้ฉันวาดรูปมั้ย’
“อ่า...”
“ฉันขอจีบนายนะ ขอบใจมาก” ยกมือมาตบไหล่คนที่สูงกว่าหลายเซ็น แบคฮยอนยิ้มตาหยีให้คนที่ตอนนี้เข้าร่วมโครงการส่งวันพีชสู่มือแบคฮยอนเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวยิ้มร่าอย่างมีความสุขที่ไม่โดนปฏิเสธอย่างที่กลัวลึกๆ การที่อีกคนนิ่งแล้วตอบรับแบบแกนๆถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก! หลายสายตาจดจ้องไปที่ร่างเล็กที่เดินแบบกระโดดโหยงๆจนผมปลิวตามแรงลมอย่างคนอารมณ์ดี โดยเฉพาะคนที่เพิ่งโดนสารภาพรักที่มองแบคฮยอนไปจนลับสายตา
FAVOUR YOU
“ปิ๊งป่องงงงงงงงงง มึงเตรียมเบิกเงินจากธนาคารมาซื้อให้กูเลยยยยยย” คิมจงอินมองฝ่าตีนเพื่อนสนิทที่ส่งมาให้เขาถึงบนหมอน กำลังนอนเล่นบนพื้นห้องอยู่ดีๆก็มีปลายเท้ามาแหย่จมูกถึงที่ ปัดตีนมันออกแล้วหันหน้าหนี คนจะนอนจะมากวนทำไม
“เคมจงเอนนนนนนนนนน ถ้ามึงเมินกู กูจะยกเลิกแผนการทั้งหมดดดด”
“วันพีชจะเอามั้ย”
“กูจะไปบอกดีโอโดคยองเอสโอโอซูด้วยว่ามึงเลวทรามขนาดใช้ให้เพื่อนรักไปเปลืองตัวกับชายอื่น คราวนี้คะแนนมึงติดลบชนิดที่ว่าตายห่าไปเค้าก็ไม่เผาผีมึงงงงง”
คิมจงอินลุกขึ้นมองบยอนแบคฮยอนที่พูดไม่หยุด อะไรนะ ดีโอโอคยองเอสโอโอซู ชื่อจะยาวไปไหน เลยโบกหัวมันไปหนึ่งทีโทษฐานมาล้อชื่อสุดที่รักของเขาแล้วยังจะกล้ามาล้มเลิกแผนการขจัดศัตรูของเขาอีก
“มึงควรจะไปหาชานยอลมากกว่าการที่มากวนตีนกูอยู่ตรงนี้นะ กูให้เวลามึงหนึ่งเดือนนะ ช้ากว่านั้นอด”
“นี่กูต้องขอร้องให้กูทำรึเปล่า กูรู้สึกเหมือนกูเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอทำเอง” เอาตีนเขี่ยตูดมันที่ลุกขึ้นมาด่าแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ
เรื่องมันมีอยู่ว่าคิมจงอินนั้นหลงใหลได้ปลื้มโดคยองซูมากจนถึงขั้นเอารูปมาแปะห้องไว้เต็มผนัง และมันก็ตามจีบกันอยู่ได้สักพัก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นตรงที่มีข่าวออกมาว่าโดคยองซูผู้แสนน่ารักและใจดีคนนั้นกำลังคบหาดูใจชนิดที่อีกนิดก็เรียกว่าแฟนได้แล้ว และบุคคลคนนั้นก็คือปาร์คชานยอลคนนี้นี่เอง คิมจงอินผู้มั่นคงในรักยิ่งกว่าเพื่อนจึงสั่งแกมบังคับให้บยอนแบคฮยอนผู้ใสซื่อและไม่รู้เรื่องอะไรมาหว่านเสน่ห์ที่ไม่ค่อยมีให้กับปาร์คชานยอลที่เป็นข่าวกับโดคยองซูในขณะนี้ โดยการเอาโมเดลการ์ตูนสุดโปรดของเขามาล่อ แล้วมีหรือที่บยอนแบคฮยอนจะไม่สนใจ คว้าโอกาสไว้ทั้งแต่เพื่อนยังพูดไม่จบ คิดว่าทำไปไม่เสียหาย เขาไม่ค่อยแคร์โลกอะไรอยู่แล้ว ถ้าทำไม่สำเร็จถือว่าฟาดเคราะห์ไป แต่ถ้าสำเร็จก็จะได้ของขวัญชิ้นที่ปรารถนา ไม่มีอะไรเสีย มีแต่ได้กับได้!
“จะไปไม่ไป”
“ไปซิ๊จงเอนนนน ขอดูตารางแป๊บนึงน๊าว่าปั่กชิโหย่วของเค้าทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร”
บยอนแบคฮยอนผู้มีความอาร์ตในตัวเองสูงมาก มากจนทาสีตึกแถบหนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียวจนชื่อเสียงกระฉ่อนโรงเรียน มากจนมีชื่อใหม่เกิดขึ้นมาในโลกเช่น เคมจงเอน ดีโดโดคยองเอสโอโอซู และสุดท้าย ปั่กชิโหย่ว
FAVOUR YOU
“นั่งด้วยนะชานยอล” เสียงแหลมๆเล็กๆไม่ดังมากเอ่ยอยู่ข้างตัวพร้อมนิ้วที่สะกิดเขาอยู่ ชานยอลเงยหน้าจากหนังสือมามองคนตัวเล็กที่นั่งทับขาตัวเองแล้วเอานิ้วจิ้มเขาไม่หยุด
“เอาสิ” ว่าจบก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ ขยับตัวพิงผนังดีๆแล้วเหยียดขาตรงหลังจากที่นั่งขัดสมาธิมานาน แล้วแบคฮยอนก็ทำตามทุกกระเบียดนิ้ว วางกระเป๋าตัวเองไว้ข้างกายแล้วเปิดหนังสือการ์ตูนที่หยิบมาจากชั้นวางข้างหน้ามาอ่าน
ห้องสมุดมีหลายโซน แล้วโซนที่เขาอยู่ตอนนี้ก็คือโซนนั่งพื้น มีพรมให้ทุกที่และต้องถอดรองเท้าเข้ามา เราสามารถนั่งตรงไหนก็ได้ ตรงที่มีโต๊ะเตี้ยให้อ่าน หรือตามซอกชั้นหนังสือก็ตามใจ แล้วมันก็เข้าทางแบคฮยอนเป็นอย่างมากที่ชานยอลเลือกที่อ่านในมุมสุดของชั้น แถวนี้น่าจะเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ คนเลยไม่ค่อยเข้ามาหาหนังสือเท่าไร อ่า...ได้เวลาสวีทกันสองคนแล้ว
“อ่านอะไรอยู่หรอ” เนียบเขยิบเข้าไปใกล้กว่าเดิม แล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู ตัวอะไรไม่รู้ยุกยิกเต็มหน้ากระดาษ อ่านไม่ออกสักตัว อ่านออกแค่ตัวเลขที่บอกเลขหน้าเท่านั้น - -
“วรรณกรรม”
“ภาษาอะไรอะ อ่านไม่ออกสักตัว” แบคฮยอนเอาหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แหงล่ะ เขาก็พออ่านออก แต่อันนี้คืออ่านไม่ออกเลย แกรมม่าอะไรไม่มีทั้งนั้นล่ะ
“เยอรมัน”
“หื้อ พูดจริงอะ เฮ้ยเจ๋ง อ่านเยอรมันออกด้วย สุดยอดๆ” วางการ์ตูนตัวเองลงแล้วหันมาสนใจหนังสือของชานยอลเต็มที่ เกิดมาในเกาหลีใต้ยังไม่เคยเจอใครอ่านเยอะมันเลย
“อือ”
“แล้วทำไมไม่อ่านพวกฝรั่งเศสไรงี้อะ เห็นในหนังเค้าทำกัน”
“ฝรั่งเศสก็พออ่านออก แต่ไม่เท่าเยอรมัน”
“โห อะไรจะเก่งขนาดนั้น สอนบ้างดิ”
“ไม่หรอก เรียนมาแต่เด็กเลยอ่านได้ แล้วนายอ่านอะไร” พอโดนเปลี่ยนเรื่องแบคฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร เตรียมพร้อมที่จะพรีเซ้นต์ของตัวเองแล้วด้วย
“วันพีช สนุกสุดอย่าบอกใคร ไม่คิดว่าในห้องสมุดจะมีการ์ตูนให้อ่านด้วย ตอนแรกกะว่าต้องหาพวกศิลปะอ่านแล้วซะอีก”
“มาห้องสมุดไม่ได้เตรียมอะไรมาอ่านหรอ”
“ไม่อะ ตั้งใจมาหานายอย่างเดียว แต่คิดว่ามันจะต้องน่าเบื่อแน่ๆเลยลองเดินหาหนังสืออ่าน” ตอบความจริงตาใสแป๋ว เอาตรงๆคือแบคฮยอนเป็นพวกโกหกไม่เป็น และเขาคิดว่ามันก็คงไม่เลวถ้าได้เพื่อนเพิ่มอีกคนเป็นปาร์คชานยอล นายนี่ดูแล้วไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญอะไร
“มาหาทำไม”
“มาจีบไง”
“หรอ”
“ใช่ จะว่าไปนายนี่ก็หล่อนะเนี่ย หล่อมากเลย เรียนเก่งด้วย พูดได้หลายภาษาอีก ใครได้เป็นแฟนนี่รักตายเลย”
“นายก็อยากเป็นแฟนฉันไม่ใช่หรอ”
“ห๊ะ ทำไมว่างั้นอะ”
“ก็นายจีบฉีนอยู่”
“เอ่อ...เอ้อ...จริงด้วย ฉันนี่แหละอยากเป็นแฟนนาย เพราะฉันจีบนายอยู่นี่เนาะ” แม่ง เกือบลืมไปเลยว่าต้องกำจัดชานยอลออกจากคยองซู
แล้วบทสนทนาก็จบลงนั้น ตรงที่แบคฮยอนกลับมาเปิดหนังสืออ่านอีกครั้ง มีแค่ชานยอลที่มองอีกฝ่ายด้วยแววตาสงสัยเท่านั้น...
ง่วงว่ะ...
เหลือบตามองอีกคนที่ยังอ่านหนังสืออยู่ในท่าเดิม มีแค่ขยับตัวยืดหลังนิดหน่อยแล้วนั่งแบบเดิม มองนาฬิกาก็แค่บ่ายสามเอง วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ห้องสมุดที่นี่เปิดทุกวัน เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม
“ชานยอล ง่วง”
“ฟังเพลงสิ” พยักหน้าตามคำบอก แบคฮยอนหยิบหูฟังขึ้นมาแล้วเสียบกับโทรศัพท์ตัวเอง เปิดเสียงดังชนิดที่ว่าไม่มีใครมารบกวนเขาได้
“นายก็ฟังด้วยสิ”
“ฟังกับนาย?”
“ไม่ นายก็ฟังของนายไง” ว่าแล้วก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ ชานยอลถึงกับหลุดขำกับพฤติกรรมของแบคฮยอน คนที่ชวนให้ฟังเพลงด้วยกันเขาก็ต้องฟังจากเครื่องเดียวกันไม่ใช่หรอ อะไรคือการที่ฟังเพลงแต่ต่างฝ่ายต่างฟังของตัวเอง วิธีการจีบแบบนี้เขาไม่เคยเห็นเลย
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นอีกรอบที่เห็นอีกฝ่ายมองเขาอยู่ เอานิ้วชี้หูตัวเองแล้วชี้ไปที่ชานยอล ขยับปากบอกว่า ‘นายก็ฟังเพลงสิ’ เลยจำต้องหยิบเอาหูฟังขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ก็กลายเป็นฟังเพลงกันทั้งคู่ แบคฮยอนก็โยกหัวไปตามทำนองเพลง แต่พอถึงเพลงช้าเปลือกตาก็เริ่มคล้อย มือที่เคยจับหน้ากระดาษก็เริ่มอ่อนแรงจนหนังสือตกไปข้างตัว เงยหน้าพิงผนังแล้วแจ๊บปากเบาๆ
ผ่านไปสักสองชั่วโมงได้ ชานยอลที่อ่านหนังสือจบก็เงยหน้ามองรอบตัว ก่อนจะหันไปเห็นคนที่นอนแบบจริงจังอยู่ข้างๆเขา กระเป๋าที่ตอนนี้แปรสภาพเป็นหมอนให้คนตัวเล็กหนุน แบคฮยอนนอนขดตัวเป็นก้อนกลมๆ ปากเผยอออกนิดหน่อยเพราะนอนหันข้าง อากาศในห้องสมุดค่อนหน้าหนาว เขาเลยหยิบเสื้อแขนยาวที่ถอดไว้ข้างตัวมาห่มให้คนนอนสบาย จะว่าไปก็ปวดตาเหมือนกัน แล้วเห็นอีกคนนอนซะสบายเชียว งั้นของีบสักพักแล้วค่อยกลับแล้วกัน...
FAVOUR YOU
หือ....ไมมันมืดจัง....เงียบด้วย....
ยันตัวขึ้นมาแล้วถอดหูฟังตัวเองออก มองไปรอบๆก็เจอแต่ความมืด พอนั่งไปสักพักก็ปรับสายตาเข้ากับความมืดได้ เห็นลางๆว่าข้างๆเขายังมีปาร์คชานยอลนอนกอดอกหลับอยู่ แล้วทำไมมันมืด...
กดปลดล็อคโทรศัพท์ตัวเองแต่ไม่มีปฏิกิริดาใดๆทั้งสิ้น ถึงว่าสิ มันเงียบเพราะแบตหมดนี่เอง แล้วทำไมมันมืดวะ...
ควานมือไปหาโทรศัพท์อีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ แล้วก็เจอมันอยู่บนหนังสือวรรณกรรมภาษาเยอรมันอะไรนั่น ไม่ได้จะขโมยหรืออะไรนะ แค่จะดูเวลาเท่านั้นเอง ถ้ามันใกล้เวลาปิดจะได้ปลุกให้กลับ แต่พอกดแล้วหน้าจอมันสว่างขึ้นเท่านั้นแหละ...แบคฮยอนถึงได้รู้ว่าทำไมมันถึงมืด...
“ชานยอลๆๆๆๆ” จัดการถอดหูฟังอีกฝ่ายแล้วลงมือเขย่าตัวอย่างแรงจนชานยอลตื่นขึ้นไม่ยาก ขมวดคิ้วที่โดนปลุกกลางคัน แต่พอมองอะไรไม่เห็นก็ขมวดคิ้วมากกว่าเดิม
“อะไร”
“สองทุ่มแล้ว ห้องสมุดปิดแล้ว”
!!!
“เก็บของแล้วตามมา” ชานยอลเก็บของทั้งหมดแล้วลุกขึ้น แบคฮยอนก็เก็บของแล้วลุกขึ้นตาม ด้วยความที่มันมืดมากจนแทบไม่เห็นอะไรชานยอลจึงต้องเปิดไปฉายจากโทรศัพท์แล้วคว้ามืออีกฝ่ายให้เดินตาม พอออกจากโซนนั่งอ่านก็เข้าไปหารองเท้าที่เก็บไว้ในตู้เสียดิบดี เพราะเขาอยู่ลึกเกินไปจนคนคุมห้องสมุดหาไม่เจอแล้วรองเท้าก็เก็บดีเกินไปสินะ ถึงได้โดนขังไว้แบบนี้
พอใส่รองเท้ากันเสร็จก็จูงมือแบคฮยอนออกมาถึงหน้าประตูด้วยความทุลักทุเล แบคฮยอนสะดุดหน้าเกือบจะคว่ำบ่อยมากถ้าไม่ได้เขาคอยดึงเอาไว้ตลอด
“ประตูล็อคจริงๆด้วย ทำไงดีชานยอล”
“คงต้องรอถึงพรุ่งนี้”
“เฮ้ยยยยย เอางั้นจริงดิ ทั้งคืนเลยนะ”
“อืม ก็เราหลับไม่ตื่นเอง จะโทษก็ต้องโทษตัวเอง”
“โอ่ยยยยย อยู่ในนี้จะหายใจออกมั้ยล่ะ ร้อนด้วย”
“มานี่” แบคฮยอนที่เริ่มงอแงก็เดินตามที่อีกคนจูงเขาไป ชานยอลพามาที่เดิม แล้วพามานั่งแถวๆหน้าต่าง จับแบคฮยอนให้นั่งลงกับพื้นพรมแล้วเดินไปเปิดหน้าต่าง ปิดตะแกรงอีกทีเพื่อไม่ให้ยุงเข้ามา
“โห ฉลาดจัง”
“มือถือนายล่ะ”
“แบตหมด เออนี่หิวมั้ย มีขนมปัง” แบคฮยอนค้นกระเป๋าหยิบขนมปังออกมาสองก้อน เขามีขนมติดกระเป๋าอยู่แล้ว ดีนะที่วันนี้ซื้อมาเยอะ เลยมีให้ชานยอลพอดี
“ขอบใจ” ชานยอลรับมาเพราะหิวอยู่แล้ว พลางมองดูคนที่แกะขนมปังแล้วยัดเข้าปากด้วยรอยยิ้ม ปากเล็กเคี้ยวหมุบหมับ กระดิกขาไปด้วยอย่างไม่ทุกข์ร้อน ตาก็มองออกไปนอนหน้าต่าง
“วันนี้ดาวเยอะมากเลยอะ”
“นายไม่เครียดหรอ โดนขังอยู่ในนี้”
“นายคิดดูสิ จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะได้ติดแหง็กอยู่ในนี้ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตก็แล้วกัน”
“มองโลกในแง่ดีจังนะ”
“มีความสุขจะตาย” แบคฮยอนยิ้ม ยิ้มธรรมดาเหมือนทุกครั้งแต่ทำไมชานยอลถึงมองต่างออกไป อาจจะทัศนคติที่ดีจนหาได้ยากในสมัยนี้มันทำให้แบคฮยอนดูน่ามองกว่าเดิม
แบคฮยอนเป็นมีเสน่ห์มาก มากโดยไม่ต้องพยายาม เจ้าตัวแสดงความเป็นตัวเองสูงมากแต่มันไม่ได้ดูแย่อะไรเลย ชอบอะไรก็แสดงออกโดยตรง คิดอะไรก็พูดแบบนั้น ความอารมณ์ดีที่แผ่ออกมาถึงคนรอบข้าง แบคฮยอนทำอะไรก็ดูมีความสุขกับสิ่งที่ทำตลอด เป็นคนไม่ซับซ้อน อ่านง่าย เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่แบคฮยอนทำให้เขาแทบจะรู้จักนิสัยทั้งหมด...
___ __ ___ _ ___ __ ___
เรื่องนี้มีทั้งหมด 5 ตอน และ
แบคฮยอนมันบ้า...
#ฟิคชานแบคโมเดล
ความคิดเห็น