ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บข้าวของส่วนตัว

    ลำดับตอนที่ #5 : ปีศาจ VS. ซอมบี้ จุดเริ่มต้น :: ทหาร ผีดิบ นี่มันอะไรวะ!!

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 53


    “เห! นี่มันอะไรหวา~”เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีแดงราวกับดวงอาทิตย์ในยามอัสดงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครกล้าเลียนแบบกล่าวขึ้นมาแบบลอยๆ สิ่งที่เจ้าตัวเห็นก็คือกองทหารที่มีมากกว่า 100 นายล้อมโรงเรียนของเธอเอาไว้ ในมือนั้นถืออาวุธครบมือทำทำเอาเด็กนักเรียนที่จะเดินเข้าโรงเรียนสะดุ้งไปตามๆกัน เด็กสาวผมแดงเดินพาดกระเป๋าไว้ที่บ่าผ่านทหารพวกนั้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยโดยมีน้องสาวผู้มีเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะเดินท่าทีสบายๆเคียงข้างพี่สาว เมื่อทั้งสองมาถึงห้องแทบจะตกใจเมื่อเห็นทหารไม่ต่ำกว่าห้านายยืนอยู่หน้ากระดานดำ

    “พวกเธอมาช้า”นายกองบอกด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด เด็กสาวผมแดงเชิดหน้าขึ้นก่อนจะร้องชิในลำคอเมื่อสาวผมขาวสะกิดที่ไหล่แล้วส่ายหัวเบาๆเป็นการห้ามปราบ ทั้งสองเดินไปนั่งประจำที่ด้านหลังห้องโดยสาวผมแดงนั่งติดหน้าต่างตามมาด้วยสาวผมขาวที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย เด็กแทบทั้งห้องอยู่ในสภาวะตึงเครียดแต่ทว่าเด็กผมแดงและขาวกลับซุกหัวนอนทันทีโดยไม่คิดจะฟังคำอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลยสักนิด

    “มีใครสงสัยอะไรไหม?”นายกองกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยท่ามกลางความเงียบสงัดราวกับป่าช้าวันอีมั้งที่โยรุอิจิเพื่อนชายประสมหญิง (ว่าง่ายๆกระเทยนั่นแหละ) สุดร่าเริงของห้องที่บัดนี้เงียบกริบ เท่าที่สาวผมแดงสังเกตเห็นนั่นก็คือแก้มเนียนสีดำคล้ำมีรอยมือแดงๆเหมือนถูกตบอย่างแรงไม่ต้องเดากูรู้ว่าถูกใครกระทำนอกเสียจากพวกทหารนั่นแน่นอน ผู้ชายทั้งห้องต่างส่งสายตาเครียดแค้นให้เหล่าทหารและนักหญิงที่ต่างสะอึกสะอื้นให้เบาที่สุดก่อนจะมีทหารคนหนึ่งวิ่งพรวดพราดเข้ามากระซิบให้นายกองฟัง เจ้าตัวสะดุ้ง หูหมาจิ้งจอกกระตุ้นเล็กน้อย

    “เอาล่ะ ถึงเวลาหนีแล้วนะจ๊ะ ใครจะหนีก็หนีฉันไม่ว่าหรอกนะ”สาวผมแดงหรือ อาชูร่า เซลิน กล่าวขึ้นพลางเปลี่ยนจากการนอนซุกหัวมาเป็นเท้าคางบนโต๊ะแทน ทหารทั้งหมดมองอย่างอึ้งๆไปยังเด็กสาวร่างสูงที่พวกเขาพอจะเข้าใจว่าเธอพูดอะไรเว้นแต่นักเรียนทั้งห้อง สาวผมขาวลุกขึ้นเดินสลับวิ่งไปทั่วห้องด้วยความดีใจก่อนจะปีนขึ้นบนโต๊ะของแนนนักเรียนสาวสุดเซ็กซี่ของโรงเรียนที่อยู่หน้าห้อง

    “ฮึๆการละเลงเลือด บรรดาเหล่าซากศพที่ผุดขึ้นมาจากนรก สงครามทั่วโลกเริ่มจากความคิดบ้าๆของด็อกๆประสาทเสีย อี่ๆ การเอาชีวิตรอดได้เริ่มขึ้นแล้ว”สาวผมสีขาวหรือ คิเมร่า เซลิน กล่าวพร้อมกับๆแสยะยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัวราวกับปีศาจร้ายทำเอาแทบทั้งห้องอึ้งเว้นก็เพียงแต่นักเรียนเก่าๆที่เห็นภาพเช่นนี้จนชินตา ดวงตาสีแดงสดเลื่อนลอยไปในที่ไกลแสนไกล

    “นะ...นี่พวกเธอ!!!

    “กรึ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เสียงกรีดร้องตะโกนดังขึ้นล่าง บรรดาทหารต่างกระชับอาวุธปืนก่อนจะวิ่งตามเสียงไปแต่ไม่ทันไรนายทหารที่เปิดประตูไปก่อนนั่นก็ถูกนักเรียนชายคนหนึ่งพุ่งตัวเข้าไปกัดบริเวณลำคอ มันเขี้ยวร่างไร้วิญญาณของนายทหารหนุ่มผู้โชคร้ายราวกับกำลังกินอาหารอันแสนโอชะ มันหันดวงตาสีขาวโพลนแบบที่นักเรียนเก่าทั้งห้องนัดไปดูหนังเรื่องซอมบี้บุกโลกเมื่อสองวันก่อน เหล่านักเรียนใหม่วิ่งออกจากห้องด้านหลังทันทีที่เหลือก็มีเพียงนักเรียนเก่าประมาณ 4 คนเห็นจะได้

    “ย...ยิง!!!!”นายกองกล่าวขึ้นเสียงดังก่อนบรรดาทหารรับใช้เริ่มยิงกระหน่ำไปที่ซอมบี้วัยรุ่นนั่นทันที แต่มันไม่เป็นไรกลับเดินมาหาพวกเขาจนกระทั่งกรุสุนหมดก็ถึงคราวเคราะห์ของบรรดาทหารทั้งหลาย นักเรียนหนุ่มที่กลายเป็นซอมบี้นั่นกระโจนเข้าหาผู้ที่ใกล้สุดก่อนจะมีซอมบี้อีกสองสามตัววิ่งเข้ามา มันกัดกินเหล่าทหารรับใช้โดยมีนายกองวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเหล่านักเรียน 3-A ทั้งหมดกลืนน้ำลายเหนียวฟืดลงคอ

    “ชู่ว์! เงียบๆไว้เจ้าพวกนี้มีดีอยู่แค่หู ตามันบอด เดินไปเงียบๆละกัน”อาชูร่ากระซิบให้บรรดานักเรียน ทั้งหมดพยักหน้าก่อนจะเคลื่อนตัวออกไปให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยปล่อยให้นายกองจอมโอหังอยู่เป็นอาหารซอมบี้เพียงผู้เดียว เมื่อทั้งหมดออกมาได้แล้วอาชูร่าพุ่งตัวไปยังประตูด้านหน้า เธอปิดประตูแล้วล็อกทันทีซึ่งคิเมร่าที่อยู่ด้านหลังก็ทำเช่นกัน

    “อย่าทึ้งฉันไว้!!!!!!!!!!! ม่ายน้า!!!!!!!!!!!”เสียงกรีดร้องของนายกองดังขึ้นลั่นห้องก่อนจะเงียบๆไปพร้อมกับเสียงฉีกขาดของบางสิ่งที่ดังขึ้น เสียงกระดูกหัก เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากนอกห้องเป็นการบ่งบอกว่าผู้อยู่ด้านในนั้นได้ตายไปหมดแล้ว ทั้งหมดยืนมองเงียบๆด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยโดยมีอาชูร่าและคิเมร่ายิ้มหวานราวกับน้ำหวาน 
    น้ำหวาน...ที่เต็มไปด้วยยาพิษร้ายแรง

    “โยรุอิจิฉันแก้แค้นให้นายแล้วนะ^^”เด็กสาวผมแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง ชายหนุ่มผิวคล้ำนาม โยรุอิจิ คลี่ยิ้มบางๆกับนิสัยของเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่ประถม นิสัยของเธอตรงหน้าทั้งสองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นคือ...หากมีใครทำร้ายเพื่อนของฉันละก็มันต้องตาย ทั้งหมดสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระสุนปืนก่อนจะปรากฏร่างของทหารเกือบๆ 4 คน ดวงตาสีพระเพลิงสองคู่เหลือบมองซึ่งกันและกันก่อนทั้งสองจะกระตุกยิ้ม อาชูร่าพุ่งพรวดเข้าไปด้านหน้า เธอคว้าดาบที่เหน็บเอวนายทหารคนหนึ่งก่อนจะกระโดดหมุนตัวกลางอากาศกลับมาอยู่ที่จุดเดิมท่ามกลางความอึ้งของเหล่าทหารเว้นแต่บรรดานักเรียนที่แต่ยิ้มกว้าง

    “ยินดีต้อนรับกลับมานะจ๊ะแพนโดร่าจัง”อาชูร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเริงร่าก่อนจะกระโดดโลดเต้นราวกับลิงโดยมีเหล่าบรรดานักเรียนเก่า ยิ้มกับความต๊องของเพื่อนสาวโดยไม่สนใจว่าเหตุการณ์รอบๆจะเป็นเช่นไร ดวงตาสีแดงสดกลมโตทั้งสองที่แสนขี้เล่นจะแปลเลี่ยนเป็นแววตาแห่งนักฆ่า เหล่าบรรดาทหารเมื่อกระสุนหมดก็เริ่มทึ้งปืนและวิ่งหนีของชีวิตให้รอด บ้างคนชะตาขาด บ้างคนวิ่งผ่านร่างของนักเรียนโดยไม่คิดจะพาหนีด้วย ทั้งหมดแสยะยิ้ม

    “เอาล่ะเตรียมตัวละเลงเลือดกันได้แล้ว”อาชูร่าและคิเมร่ากล่าวเป็นเสียงเดียวกันก่อนบรรดานักเรียนทั้งสี่คนจะวิ่งไปจัดการเหล่าซอมบี้ที่ง้างปากเข้ากัดบริเวณต้นคอของนายทหารหนุ่มผู้หนึ่ง เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีทองราวกับอัญมณีอันเลอค่ากระโดดเตะเข้าบริเวณหัวของซอมบี้ นายทหารหนุ่มอึ้ง เขามองที่ซอมบี้หัวเละเทะมีมันสมองไหลเยิ้มออกมา เลือดสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนรองเท้าบู๊ทส้นสูงยาวถึงต้นขาสีดำ สาวผมทองทำหน้ามุยเสียยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่ารองเท้าตัวเก่งเปื้อน เธอสถบไปพร้อมกับเคาะส้นเท้าให้เลือดสีแดงเข้มออกจากรองเท้าคู่เก่งก่อนจะมองเขาอย่างหัวเสียแล้วฉุดเขาขึ้นมาด้วยมือเพียงข้างเดียว เธอโยนเขาไปให้สาวผมขาวทันที

    “ระ...ระวังด้านหลัง!!!”นายทหารหนุ่มร้องตะโกนเมื่อเห็นว่าด้านหลังสาวผมทองคือซอมบี้อาจารย์สาววิ่งเข้ามาหมายจะลิ้มรสเนื้อนุ่มนิ่มบริเวณต้นคอของสาววัยรุ่น พริบตาที่เขาเห็นก็คือรอยยิ้มที่คลี่ออก เธอกระโดดลอยตัวกลางอากาศแล้วใช้ส้นรองเท้าส้นสูงนั่นเหยียบเข้าบริเวนหัวของซอบบี้นั่น ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองเห็นซอมบี้อีกตัวที่กำลังจะกัดเพื่อนสาวที่มั่วง่วนกับการจัดการอยู่กับอีกตัว เธอใช้ต้นขาหนีบเข้าบริเวณคอด้านหลังของซอมบี้อาจารย์สาวแล้วตีลังกากลับหลังเขวี้ยงไปโดนซอมบี้อีกตัวที่กำลังจะกัดเพื่อนเธอ

    “อ่ะ! ขอบใจมากนะยูริ”เพื่อนสาวผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาวสลวยจรดบั้นท้ายถูกรวบเป็นแกละมัดด้วยโบว์สีขาวอย่างดิบดี ดวงตาสีเปลือกไม้กลมโตจับจ้องไปยังซอมบี้หนุ่มสามตัวที่อยู่ด้านหน้า เธอพุ่งตัวเข้าไปต่อยบริเวณใบหน้าซอมบี้ทั้งสามด้วยความเร็วสูง ลูกแก้วหันไปมองเพื่อนคนอื่นๆที่จัดการซอมบี้ทั้ง 8 ตัวเสร็จเรียบร้อย

    “เอ่อ เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะที่เสียมารยาทกับคุณนะ”สาวผมทองนาม ยูริ กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อยนิดๆอันที่จริงเธอรู้อยู่แล้วละว่าไอ้ซอมบี้บ้านั่นมันพุ่งเข้ามาเธอเลยต้องจัดการโยนทหารหนุ่มไปที่อื่นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเขาก็อาจโดนกัดแล้วกลายเป็นแบบพวกนั้นไปก็ได้ เขาส่ายหัวไปมาพร้อมกับคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ยังไงก็เป็นเด็กคงไม่ได้ตั้งใจหรอก....มั้ง= =;;’ พริบตาที่เขาเห็นก็คือรองเท้าบบู๊ทสันสูงสีดำมันเปล่งแสงสีแดงก่อนมันจะค่อยๆเลื่อนลงมาพร้อมกับปลายเท้าที่เปล่งแสงสีแดดเช่นกันแล้วเลื่อนขึ้นมาหยุดบริเวณข้อเท้า มันเปล่งแสงสีแดงอีกครั้งก็จะปรากฏเป็นกำไลข้อเท้าสีดำ

    “นั่นมันอะไรน่ะ!!?”ทหารหนุ่มถามด้วยความตกใจ เธอกำลังจะอ้าปากตอบเขาแต่ทั้งหมดกลับวิ่งไปด้านหน้าแทนโดยมียูริและลูกแก้วจูงมือลากทหารหนุ่มผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวไป เขาหันกลับไปมองพบกับฝูงซอมบี้มากมายโผล่มาจากที่เดิมที่เขาเคยหลบแล้วมาเจอเด็กสาว (??) พวกนี้ ตัวหนึ่งหันมาทางพวกเขา มันคำรามกึกก้องก่อนจะวิ่งมาทางพวกเขาตามด้วยตัวอื่นๆอีกมากมาย ทหารหนุ่มเริ่มตั้งหลักแล้ววิ่งเองบ้าง เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อตามสาวผมแดงและขาวที่วิ่งนำหน้า

    “ผมว่าเราหาที่หลบกันเถอะครับ”นายทหารออกความคิดเห็นพลางเหลือบมองฝูงซอมบี้นับพันที่ค่อยๆวิ่งออกห่างเรื่อยๆ

    “อืม อาชูร่ากำลังหาอยู่ค่ะ ใจเย็นๆ”เด็กสาวผมขาวกล่าวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยราวกับว่าชินชากับเรื่องพรรค์นี้ เด็กผมแดงสะดุ้ง เธอหยุดอยู่หน้าห้องเก็บอุปกรณ์ เด็กสาวมองกุญแจดอกโตนั่นด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะง้างดาบเพนโดร่าอันเป็นดาบประจำกายที่ทหารคนหนึ่งเก็บได้ในห้องสภานักเรียน พริบตาที่ทหารหนุ่มเห็นก็คือกุญแจหลุดออกจากกันเมื่อเด็กสาวเก็บดาบเรียบร้อย อาชูราและคิเมร่าถีบบานประตูเข้าไปทันที คิเมร่าเปิดไฟห้องพบกับอุปกรณ์กีฬามากมายที่เต็มไปด้วย คลาบเลือด สาวผมแดงชักดาบรูปร่างประหลาดออกจากฟัก เธอเดินไปสำรวจรอบๆ

    “ย้าก!!!!!!!!”เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของนักเรียนหนุ่มคนหนึ่งพุ่งตัวออกมาจากมุมมืดด้านหลังอาชูร่า เขาง้างดาบไม้เคนโด้ขึ้นเหนือหัวเตรียมฟาดลงกลางหัวของเด็กสาวตรงหน้า เขาไม่สนว่าใช่มนุษย์หรือตัวประหลาดด้านนอกรู้เพียงว่าต้องฆ่าไม่งั้นเราก็ถูกฆ่า เพียงพริบตาเด็กสาวผมแดงตรงหน้าของเขานั้นหมุนตัวเตะเข้าบริเวณซี่โครงของนักเรียนหนุ่มดีเดือด ร่างของเขาพุ่งไปชนกับกำแพงไม้ โชคดีที่เขาไม่เป็นไรและกำแพงนั่นก็เช่นกัน

    “อะไรว่ะ? เฮ เป็นไรหรือเปล่า? ยังไม่ตายใช่ป่ะ? ไม่ติดเชื้อบ้าๆด้วยใช่ไหม?”อาชูร่าตะโกนถาม

    “ (ไอ) คุณอาชูร่าค่ะ!!!! ถ้าคุณไม่ปากเสียจะเป็นพระคุณอย่างมากเชียวละคะ!!!!!!!”ยูริตะโกนใส่หูอาชูร่าด้วยความโกรธ เจ้าตัวก็ยังคงทำหน้าเรียบเฉยต่อไปโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด (ยัยหน้าด้านเอ๊ย!/ยูริ-*-) ก่อนจะมีเด็กสาวร่างเล็กวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่ถูกอัดติดกำแพงแต่ยัยตัวดีอาชูร่า (พูดงี้อยากมีเรื่องใช่ป่ะยัยคนเขียน-*-//อาชูร่า) กลับจับแขนเอาไว้ ด้วยความสูงของเด็กม.1กับเด็กม.3มันต่างกับลิบลับและพละกำลังของอาชูร่าที่มากกว่าคนธรรมดาหลายเท่านัก (ก็ปีศาจนี่หว่า- -) เธอเลยสามารถยกรุ่นน้องขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว

    “ปล่อยมะลิเดี๋ยวนี้นะยัยบ้าเอ๊ย!”ชายหนุ่มตะโกนด้วยความเดือดดาลเมื่อเห็นว่าอาชูร่าจับน้องสาวของตนไว้ มืออีกข้างกุมบริเวณซี่โครงที่มีเลือดออก อาชูร่าผิวปากเบาๆก่อนจะโยนร่างของรุ่นน้องให้บรรดาเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง ทั้งหมดรับร่างของเด็กม.1 ใช่รับได้แต่ว่า...มะลิล้มทับร่างของบรรดาเพื่อนทั้งหลายแทนที่จะมีคนอุ้มน่ะสิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×