ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักดุจดั่งความฝัน (fic มนต์รักโยโกฮาม่า)

    ลำดับตอนที่ #1 : คำสัญญาของพ่อกับรอยยิ้มของแม่

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 51


    ประเทศญี่ปุ่น เมืองโยโกฮาม่า  ปี พ.ศ. 1907  ยุคสมัยเมจิ   หลังจากที่ท่าเรือโยโกฮาม่าสร้างเสร็จราวหนึ่งทศวรรษ  ความเจริญและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเข้ามาสู่โยโกฮาม่าอย่างรวดเร็วผ่านทางท่าเรือที่เป็นเสมือนประตูเชื่อมสู่นานาประเทศ  ผู้คนทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นและอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น  ตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่เปลี่ยนไปจากตึกไม้สีขาวกลายเป็นตึกปูนหลายชั้น สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นเดิมกับยุโรป   กลางวันมีผู้คนเดินขวักไขว่ทำการค้าและธุรกิจหลากหลายรูปแบบ  กลางคืนเต็มไปด้วยงานเลี้ยงเต้นรำที่ฟู่ฟ่าหรูหรามีระดับ  บางส่วนของเมืองที่ไหลตามกระแสความเจริญของสังคมไม่ทันได้ตกตะกอนเป็นแหล่งเสื่อมโทรมอันแออัดไปด้วยคนจรจัด  คนงานยากไร้  และอบายมุข

    โรงพยาบาลแห่งหนึ่งสร้างจากตึกไม้ทาสีขาวสะอาดสองชั้น ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่  ด้านนอกร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม สนามหญ้าและพุ่มไม้ที่ได้รับการจัดแต่งไม่ให้รก   เดือนมีนาคมฤดูใบไม้ผลิ  อากาศเย็นสดชื่น ต้นซากุระข้างทางเดินออกดอกบานสะพรั่ง  กลีบดอกและใบไม้โปรยละลิ่วตามกระแสลม  กลีบหนึ่งปลิวไปลงแผ่วบนหัวของเด็กสาวสวมชุดนักเรียนมัธยมกะลาสีแขนยาวสีขาวที่เดินเป็นจังหวะมาตามทางเดินหิน  ใบหน้ารูปไข่ของเด็กสาวระบายด้วยรอยยิ้ม  แก้มของเธอเป็นสีแดงเลือดฝาดอย่างคนสุขภาพดี   ริมฝีปากเป็นกระจับสีเดียวกับกลีบดอกซากุระบนหัว  ผมสีดำขลับถักเป็นเปียหลวมๆสองข้าง  ผู้คนที่เดินผ่านไปจะได้ยินเสียงใสๆฮัมเพลงประจำโรงเรียนสตรีโยโกฮาม่า  ดวงตาของสาวน้อยกลมโตเป็นประกาย  ใกล้ถึงโรงพยาบาล อามาโนะ บ้านของเธอแล้ว  ในใจของเด็กสาวเต็มไปด้วยความสุขสดชื่นที่จะเอาใบประกาศที่เป็นม้วนสีขาวในมือไปอวดพ่อและแม่ของเธอ 

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาล  แม้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ใกล้ปิดก็ยังมีคนไข้อยู่หลายสิบคน  เนื่องจากคุณหมออามาโนะได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากชาวเมืองโยโกฮาม่ามาตลอดเวลาสิบกว่าปีที่เปิดโรงพยาบาล ด้วยความเอาใจใส่คนไข้  มีเมตตา และยังมีฝีมือดีไม่แพ้หมอฝรั่ง  เด็กสาวเลือกที่จะเดินเข้าโรงพยาบาลทางด้านหลังไม่ผ่านส่วนหน้าที่มีคนไข้รออยู่ 

     

    กลับมาแล้วหรือจ๊ะ  ชิสึนะ  เสียงทักทายดังมาจากคุณแม่ หรือที่คนไข้ชอบเรียกว่า คุณน้าพยาบาลคนสวย  อูโนะในวัยสามสิบกว่ายังมีใบหน้าที่สวยสดใสไม่เสริมแต่ง และดูอ่อนกว่าวัยมากด้วยความที่เป็นคนใจเย็นยิ้มแย้มอยู่เสมอ  หญิงสาวอยู่ในชุดแม่บ้านใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาวสะอาดมีรูปร่างสูงโปร่งเช่นเดิมเมื่อเทียบกับหญิงชาวโยโกฮาม่าคนอื่นๆ 

    กลับมาแล้วไค่ะ คุณแม่  ชิสึนะเดินรี่เข้าไปหาแม่ซึ่งกำลังจัดเตรียมสำรับข้าวเย็นอยู่  วันนี้มีงานฉลองเรียนจบของลูกสาวคนเล็กของบ้าน  ซึ่งคุณแม่อูโนะลงมือเข้าครัวทำกับข้าวชุดใหญ่พิเศษด้วยตนเอง

    ยินดีด้วยนะจ๊ะ ลูกสาวคนสวยของแม่  ชิสึนะเข้าไปกอดแม่ ต่างก็ยิ้มแย้มและหัวเราะให้กัน  ถ้ามีคนมาเห็นภาพนี้ จะพบว่าหญิงสาวทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก  (ซึ่งอูโนะดูเหมือนเป็นพี่สาวมากกว่าแม่)

    แม่คะ  ลูกสาวแม่นอกจากจะเรียนจบแล้ว ยังได้ประกาศณียบัตรเรียนดีด้วยนะคะ  ชิสึนะยื่นกระดาษม้วนห่อด้วยริบบอนสีแดงสดให้แม่ดู   ประกาศนียบัตรเรียนดี  จะมอบให้กับนักเรียน 10 คนแรกจากทั้งชั้นเรียนกว่า 200 คนที่มีคะแนนสูงสุด  อูโนะมองลูกสาวด้วยสายตาชื่นชมและภูมิใจ

    เก่งเหมือนแม่เลยนะเรา  เสียงทุ้มของผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้น

    คุณพ่อ!!”  ชิสึนะผละจากอ้อมแขนของแม่ไปกอดพ่อแทน  คุณพ่ออามาโนะ  ชินทาโร่ในวัยสี่สิบยังคงเค้าความหล่อในวัยหนุ่มไว้เพียงแต่เพิ่มริ้วรอยความสุขุมบนใบหน้าจากวัยและประสบการณ์ที่มากขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ใช้พินิจมองสิ่งต่างๆอยากเฉียบแหลมลึกซึ้ง บัดนี้ทอประกายอ่อนโยน

    ตรวจคนไข้เสร็จแล้วหรือคะ?” อูโนะถามสามียิ้มๆ  ชินทาโร่หอมที่หน้าผากโหนกๆของลูกสาว  แล้วหันไปหอมแก้มภรรยาเบาๆ (ต่อหน้าลูกเนี่ยแหล่ะ)

    พอดีคนไข้ใกล้จะหมดแล้ว คุณอาซากิบอกว่าเห็นลูกเดินมาเข้าทางด้านหลัง  หมออิซาวะเลยบอกให้พ่อมาหาลูกน่ะ  คุณอาซากิเป็นพยาบาลรุ่นน้องของอูโนะส่วนหมออิซาวะก็เป็นรุ่นน้องของชินทาโร่อีกที ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และมาร่วมทำโรงพยาบาลอามาโนะ เนื่องจากหมออิซาวะนับถือชินทาโร่มาก (หมออิซาวะจบจากมหาวิทยาลัยในเกียวโต ซึ่งชินทาโร่เคยไปเป็นอาจารย์รับเชิญหลายครั้ง)  ทั้งสองคนยังไม่มีลูกและสนิทสนมกับครอบครัวอามาโนะมาก

    พอดีเลยค่ะ  กับข้าวเสร็จแล้ว  ชวนอาซากิกับหมออิซาวะมาร่วมเลี้ยงฉลองด้วยเลยนะคุณ

    ว้าว!  จะได้กินมื้อใหญ่ฝีมือแม่   วันนี้อ้วนแน่เลยเนอะพ่อชิสึนะกลืนน้ำลายดังเอื้อก

    ลูกผอมจะแย่อยู่แล้ว  ถ้าอ้วนจริงแม่จะดีใจน่ะสิ

     แต่พ่อว่า หนูหุ่นดีแล้วก็สวยแเหมือนแม่เลยแหล่ะ  เห็นแล้วนึกถึงแม่เราสมัยก่อน

    คุณค่ะ!”

     ทั้งสองคนสบสายตาที่เต็มไปด้วยความรักซึ่งกันและกัน  จนชิสึนะอายแทน เอ่อ..  หนูไปแปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า  เชิญหวานกันตามสบายนะคะ   นั่นแหล่ะ  แม่ถึงจะเขินหน้าแดง ส่วนพ่อก็หัวเราะชอบใจ  (พ่อจะกลายเป็นหนุ่มขี้อายก็ต่อเมื่อมีคนอื่นอยู่ด้วยเท่านั้น  ขนาดคุณยายเรกะ  พ่อยังเขินเลย)

     บรรยากาศในครอบครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข ตั้งแต่ชิสึนะจำความได้  เธอไม่เคยเห็นคุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันเลย  ทั้งสองมีแต่ความรักและความเชื่อใจกันตลอดมา  คุณพ่อเป็นหมอใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่เคยเอาความลำบากเคร่งเครียดที่ทำงานมาใส่อารมณ์กับครอบครัว  เวลาอยู่กับลูกและเมีย  พ่อจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน   ส่วนแม่ก็เป็นศรีภรรยาที่สวยน่ารักและใจดีกับทุกคน  สำหรับชิสึนะแล้ว  แม่เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด  สองพ่อลูกจะช่วยกันแกล้งหยอกล้อให้แม่ได้หัวเราะหรือเขินอายเป็นประจำ

     

    คัมปาย !  ยินดีด้วยนะ  ชิสึนะ  หมออิซาวะยื่นแก้วทรงสูงใส่ไวน์ให้ชิสึนะชน  เขาเป็นคนเจ้าเนื้อร่างสูงใหญ่ ใส่แว่นตากรอบดำหนา  ใบหน้าค่อนข้างกลมที่ยิ้มกว้างๆออกแดงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ หมอเป็นผู้ชายที่เปิดเผย  ใจกว้าง  อารมณ์ดีเสมอ   ต่างจากภรรยาคือคุณอาซากิที่ค่อนข้างจะคิดมากและขี้กังวล   บนโต๊ะอาหารของบ้านอามาโนะเต็มไปด้วยอาหารจานใหญ่หน้าตาน่ากินหลายจานที่แม่อูโนะทำเพื่องานฉลองของลูกสาว  รสชาติไม่ต่างจากร้านอาหารชั้นนำของโยโกฮาม่า  พร้อมด้วยไวน์ราคาแพงของพ่อชินทาโร่ยิ่งช่วยขับกล่อมรสชาติและบรรยากาศ

    ยินดีด้วยนะจ้ะ คุณอาซากิพูดยิ้มๆ เธอเป็นสาวร่างเล็กและค่อนข้างเตี้ยต่างจากสามี

    ขอบคุณค่ะ ทุกคน  ชิซึนะชนแก้ว (แน่นอนว่าเป็นเพียงน้ำผลไม้)

    ชิสึจังได้รางวัลเรียนดีด้วยนี่  คุณแม่เขาบอกน้าน่ะ

    ทั้งสวยทั้งเก่งเหมือนแม่ไม่มีผิด  หมออิซาวะชม ชิสึนะหน้าแดงเล็กน้อย  อูโนะยิ้มขันที่เห็นชินทาโร่ยิ้มหน้าบานพลางพยักหน้าหงึกหงัก

    รางวัลนี้มีความหมายมากค่ะ  เพราะคิดจากคะแนนสะสมตลอด 6 ปี ทั้งการเรียนและกิจกรรม  นักเรียน 10 คนแรกที่ได้รางวัล จะได้รับประกาศนียบัตรและของขวัญจากท่านผู้ว่าโยโกฮาม่าในงานเลี้ยงฉลองที่จัดขึ้นพรุ่งนี้  อูโนะอธิบายแทนลูก

    ชิสึนะวางช้อนในมือ สีหน้าจริงจังขึ้นเป็นครั้งแรก

    ที่หนูดีใจมากที่ได้รางวัล  ไม่ใช่เพราะเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ

    หมายความว่ายังไงจ๊ะ?” คุณอาซากิถามแทนทุกคน

    มันสำคัญมากกับความฝันของหนูค่ะ  ชิสึนะหันไปสบตากับชินทาโร่  สีหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

    ชิสึนะ!” อูโนะเรียกลูกเบาๆและหันไปชำเลืองมองสามี

     ลูกหมายถึงเรื่องอะไร  ชินทาโร่พูดเสียงเรียบ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

    เมื่อ 6 ปีก่อน  ในงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลไค..  ชิสึนะพูดช้าๆพลางก้มหน้านิดๆ ตากลมโตเหลือบมองผู้เป็นพ่อ  เราคุยกันว่าถ้าหนูเรียนจบแล้วได้รางวัลเรียนดี  และเมื่อถึงตอนนั้น..

    หากลูกยังมีความตั้งใจเช่นเดิม   พ่อจะเป็นผู้สนับสนุนและช่วยให้ฝันของลูกเป็นจริง..  ชินทาโร่พูดต่อ  สองพ่อลูกมองหน้ากัน  ดวงตาของชิสึนะไม่มีความลังเลใดๆ แต่สั่นไหวด้วยไม่ทราบว่าผู้เป็นพ่อที่เธอทั้งรักและเคารพจะคิดอย่างไร

    ความฝันของชิสึนะ  หมายถึง..  คุณอาซากิหันไปกระซิบกับสามี  หมออิซาวะยิ้มๆ ใจนึกไปถึงภาพเมื่อวันวาน   

    10 กว่าปีผ่านไปไวอย่างกับกระแสลมที่พัดผ่านโยโกฮาม่าออกสู่ทะเล     จากเด็กน้อยผอมกระร่องถักเปียปลิวสะไหว 2 ข้าง ยามที่เธอวิ่งหนีแม่ไปซ่อนไม่ยอมอาบน้ำ  หรือยามที่ใบหน้าเล็กส่ายไปมาอย่างดื้อดึงไม่ยอมให้เปลี่ยนเสื้อผ้า  ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ  ที่จอมซนวิ่งเข้ามาซ่อนในห้องตรวจของเขา แล้วมานั่งตาแป๋วดูเขาตรวจคนไข้  เด็กน้อยเกิดความสนุกขึ้นมาจนแอบหนีแม่เข้ามาอีกไม่รู้กี่ครั้ง จนคนไข้ของเขาเคยชินกับภาพที่เด็กน้อย นั่งจ้องเขม็งอยู่ข้างๆหมอ   บางครั้งก็แย่งเอาหูฟังหัวใจของเขาไปตรวจเอง ไม่ว่าจะด้วยสภาพแวดล้อมหรือสายเลือดก็ตามที  ชิสึนะฝันอยากเป็นหมอตั้งแต่เด็กแล้ว  และแม้เวลาจะผ่านไป...   จากเด็กตัวเปี๊ยกเปลี่ยนเป็นสาวน้อยที่สดใสสะพรั่งราวกับดอกซากุระ..  ความฝันก็ยังคงเป็นเช่นเดิม   หากแต่จะส่องประกายชัดเจนมากขึ้น

    เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ  อูโนะทราบดีว่าสามีลำบากใจเช่นไร  ในยุคสมัยเช่นนี้  แม้ว่าผู้หญิงจะมีสิทธิและบทบาทมากขึ้น  แต่หญิงสาวชาวโยโกฮาม่าส่วนใหญ่พอใจที่จะแต่งงานเป็นแม่บ้านดูแลสามีและลูกมากกว่า  สังคมเองก็ยังไม่ยอมรับว่าผู้หญิงจะสามารถทำงานได้เช่นเดียวกับผู้ชาย โดยเฉพาะทางการแพทย์  ในประเทศญี่ปุ่นขณะนี้  มีแพทย์หญิงนับได้ไม่ถึง 10 คน  อย่าว่าแต่ในโยโกฮาม่า  โรงเรียนแพทย์เกือบทุกโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนชายล้วน  หากว่าชิสึนะอยากเป็นหมอจริงจะต้องพบกับความยากลำบากมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง  การหาที่เรียน, การสอบเข้า,  การเรียนที่ใช้เวลานานกว่า 4 ปี   และอาจจะต้องถึงขั้นไปเรียนต่อต่างประเทศ  แม้ว่าใจหนึ่งจะเข้าใจและเห็นใจลูกสาว  แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงเหลือเกินเพราะเป็นลูกสาวคนเดียว  สมัยก่อนนั้น  เธอไม่มีใครคอยเป็นห่วงคอยกังวลจึงสามารถไล่ตามความฝันได้อย่างเต็มที่  แต่ชินซังจะสามารถปล่อยลูกสาวไปผจญความลำบากมากมายเช่นนั้นได้หรือ

    ชินทาโร่เอ่ยขึ้นช้าๆ (ท่ามกลางการลุ้นของทุกคน  หัวใจของชิสึนะเต้นดังตึกตักในอก)

    ถ้าหากต้องลำบาก..

    หนูก็จะพยายาม..

    ถ้าไม่สำเร็จ?”

    หนูก็จะพยายามต่อไป..

    เพราะว่าเป็นความฝันของลูกอย่างนั้นหรือ?”

    “อาจเป็นเพราะว่า...หนูเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ!

     

    สองพ่อลูกมองหน้ากัน ชั่วเวลาแค่อึดใจ..  แต่สำหรับใครบางคนมันช่างยาวนานและสำคัญพอๆกับเวลาที่ผ่านมาเกือบทั้งชีวิต.. แล้วรอยยิ้มจางๆก็ปรากฏบนใบหน้าของชินทาโร่  โดยไม่ต้องมีคำพูดใด

    คุณพ่อ!!”  ชิสึนะวิ่งไปกอดชินทาโร่ด้วยความดีใจ 

    พ่อกับแม่จะช่วยลูกเต็มที่จ้ะอูโนะพูดแทนชินทาโร่ คุณอาซากิและหมออิซาวะช่วยกับตบมือยินดีกับสาวน้อยที่ทั้งบอบบางและสวยน่ารักราวกับดอกซากุระ  แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินบนเส้นทางที่ยากลำบากกว่าใคร

    ขอบคุณมากค่ะ  หนูรักพ่อกับแม่มากที่สุด  น้ำตาแห่งความดีใจไหลเปื้อนแก้มของชิสึนะ ทำให้แม้ว่าจะเป็นกังวลต่ออนาคตของลูกมากเพียงใด  อูโนะกับชินทาโร่ก็อดที่จะยินดีและเป็นสุขไปพร้อมกับลูกสาวของตนไม่ได้ในเวลานี้

                    กลางดึกเงียบสงบ  สัพพเสียงต่างๆพากันหนีหายเข้าสู่ห้วงนีทรารมณ์  เหลือแต่สาวน้อยที่พลิกตัวกระสับกระส่ายนอนไม่หลับอยู่บนเตียงนุ่ม   วันนี้ดูว่าหัวใจจะเต้นดังเหลือเกิน  ความรู้สึกทั้งยินดีทั้งปลาบปลื้ม  ความภูมิใจและความซาบซึ้งใจยังคงพากันวิ่งวนอยู่ในความคิด  แม้ว่าเธอจะพยายามข่มตาให้ตัวเองหลับแต่ก็ทำไม่ได้   หลังจากนับแกะตัวที่ห้าร้อยชิสึนะของเลิกพยายามและลุกนั่งบนเตียง  สายตามองกวาดไปตามห้องมืดที่มีเพียงแสงจันทร์เสี้ยวลอดผ่านม่านสีขาวของหน้าต่างไม้หัวเตียง  ลมเย็นจากข้างนอกพัดโชยเข้ามาพร้อมกลิ่นของซากุระ  ตากลมโตหยุดนิ่งอยู่กับรูปถ่ายใส่กรอบที่วางบนโต๊ะเขียนหนังสือของเธอ  รูปภาพขาวดำที่ถ่ายด้วยกล้องของชาวยุโรป3-4 รูปวางซ้อนกันอยู่  2 รูปหน้าสุด รูปหนึ่งเป็นภาพพ่อกับแม่ในชุดกิโมโนเต็มยศ (พ่ออุ้มเด็กทารกตัวจิ๋วไว้ในอ้อมแขนเพียงข้างเดียว อีกมือโอบเอวแม่เอาไว้  สีหน้าของพ่อแม่ดูสงบนิ่งและเปี่ยมสุข  อีกรูปหนึ่งมองไกลๆเป็นเงาของเด็ก 4 คนที่กลอดคอกันกลม  แต่ล่ะใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แลดูคล้ายคลึงกัน  แต่ชิสึนะรู้ว่าเบื้องหลังรอยยิ้มของเด็กผู้ชายตัวสูงคนริมนั้นถูกเค้นออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก  ในขณะที่ยิ้มของเด็กสาวผมหยักศกตรงกลางออกจะฝืนไปบ้างด้วยความความเหน็ดเหนื่อย (เพราะต้องวิ่งไปดูรูปที่ถ่ายแล้วกลับมาบังคับพี่ชายให้ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด เข้ามาใกล้ๆอีกหน่อย เอียงหน้าอีกฯลฯ)   เด็กหนุ่มอีกคนรอยยิ้มนั้นดูเหยเกเพราะอาการปวดฟันที่กำลังโยก  คงมีเพียงแต่เด็กสาวผอมกะหร่องตรงกลางที่ยิ้มร่ากว่าใคร  ชิสึนะคิดถึงเพื่อนๆในวัยเด็กของเธอมากเหลือเกินวันนี้





     เป็นไงบ้างคะ    สองบทแรกหนูมินวางแผนไว้ว่าจะเป็นการรำลึกความหลังกันให้หายคิดถึงจึงยังไม่มีเนื้อเรื่องอะไรมาก           เนื่องจากหนูมินชอบคู่ของชินทาโร่และอูโนะมากที่สุด ตัวเอกของเรื่องนี้จึงเป็นชิสึนะลูกสาวที่คนเขียนเคยกล่าวถึงว่าจะได้เป็นหมอนั่นเอง  ส่วนคนที่ชอบมาริโกะกับไครอบททื่สองนะคะ  จะมีเรื่องลูกของทั้งสองคน  ตัวชิสึนะเองนั้นคงมีนิสัยคล้ายกับอูโนะ  แต่จะมีข้อเสียบ้างเช่นขี้งอน  ใจอ่อน ขี้สงสาร และอ่อนหัดในด้านความรักเหลือเกิน   หนูมินว่าอูโนะนั้นสมบูรณ์แบบในด้านความเป็นมนุษย์มากๆไม่เหมือนมาริโกะ  ที่ยังมีข้อเสียมีอะไรที่ต้องพัฒนาซึ่งทำให้มาริโกะเป็นตัวละครที่หลายๆคนรักและคอยเอาใจช่วย  ตัวชิสึนะเองก็เหมือนกันที่อุปสรรคต่างๆจะช่วยขัดเกลาเธอให้เติบโตเป็นผู้หญิงที่ดีในที่สุด
       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×