ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cyborg

    ลำดับตอนที่ #4 : What a mad!

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 48


    Stage 4.  what  a  mad  it  is!

    (พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าคนกันเอง)
















    “เช้ามืดวันนี้  ทางการได้รับแจ้งพบศพนายอดัมสัน  วูรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของตน  สาเหตุการตายแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากเส้นเลือดฝอยในสมองสวนสำคัญแตกเฉียบพลัน  โดยสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วห้าชั่วโมงก่อนรุ่งสาง...”





    “แมป  เสร็จแล้ว” นีน่าร้องเรียกผมขณะที่กำลังอัพเดตข่าวประจำวันจากอินเตอร์เน็ตรอเธอทานข้าวเช้า  เพื่อจะพาไปส่งโรงเรียน





    “ไปแล้วครับคุณหนู”









                   วันนี้ดูรถราจะน้อยเป็นพิเศษแทบจะนับคันได้  เมื่อเทียบกับชั่วโมงเร่งรีบยามเช้าวันอื่นๆ  มันโล่งไปหมดเมื่อไม่เห็นยานยนต์แม่เหล็กวิ่งฉิวไปมาเหมือนเคย  ผมมองลงไปด้านล่าง  ผู้คนบนบาทวิถีก็น้อยเช่นกันราวกับวันนี้เป็นวันหยุดราชการอย่างไรอย่างนั้น





    “เรื่องแปลกๆ” ผมยักไหล่โยนเรื่องนี้ทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ  หันไปตรวจการบ้านนีน่าแทน







                   ป้ายชื่อโรงเรียนยังคงตั้งเด่นหลาเช่นทุกครั้ง  มันอ่านได้ความว่า  “โรงเรียนมหาวิทยาลัยเบอร์กรา  ซองค์ฟอร์ด”   รั้วสูงสีขาวที่ดูน่าอึดอัดก็ยังเหมือนเดิม  แต่ความเงียบกริบผิดวิสัยพื้นที่สีขาวแห่งนี้ต่างหากที่น่าแปลกใจ  จำนวนนักเรียนที่มากมายกลับไม่มีแม้แต่คนเดียวเท่าที่มองเข้าไปจนสุดสายตา  ผมเช็ควันดูแล้ว  วันนี้เป็นวันจันทร์แน่นอนไม่มีเทศกาลไม่ใช่วันหยุดพิเศษอะไรเลยด้วยซ้ำ  นีน่าจับมือผมอย่างไม่แน่ใจ  ซึ่งผมก็จับตอบเพื่อลดความตื่นตระหนกของเธอ





    มันเงียบ...





    เงียบวังเวงเกินไปจนน่ากลัว...







                   เราจูงมือกันเข้าไปในโรงเรียนอย่างคาดหวังไว้ว่าจะเป็นละครที่โรงเรียนจัดฉากขึ้น  แต่มันก็ยังคงมีแต่ความเงียบ...  เราเดินต่อเข้าไปในใจกลางผ่านตึกประถมไปเรื่อยๆ  ผมเปิดระบบตรวจจับความร้อนกับเสียงเต็มที่   หากแต่ไร้ซึ่งสัญญาณสิ่งมีชีวิตใดๆในพื้นที่ขาวโพลนว่างเปล่า





    “กลับกันเถอะแมป...ฉันรู้สึกไม่ดี” นีน่าเอ่ย  ฉุดผมไปทางประตูโรงเรียน





    ทันใดนั้น!  เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้นจากส่วนที่ลึกเข้าไป  มันโหยหวนอย่างเจ็บปวด  หวาดกลัว  แหลมสูงราวกับจะขาดใจ







                   ผมอุ้มนีน่าขึ้นทันทีก่อนจะหันหลังกลับแล้วออกวิ่ง  ผมต้องช่วยเจ้านายก่อน  ถ้าหากมีอันตรายต้องพาเด็กหญิงหนีไปให้ไกล  เสียงนั้นยังคงดังต่อไปแต่ค่อยๆแผ่วลงจนเกือบเป็นเสียงครางขอชีวิต  มีคนวิ่งออกมาจากตึกแถวๆนั้นสองสามคน  หนึ่งในนั้นกระทบไหล่ผมอย่างจังจนนีน่าที่อยู่ในอกเกือบตกลงบนพื้น  “อย่าไปทางนั้น  อันตราย!”ผมตะโกนเตือนแต่ก็ไม่มีใครฟังเสียงผมเลยซักนิด







                   หลังจากวิ่งออกมาเราก็ตรงเข้าไปขึ้นรถที่จอดไว้  ผมเห็น...  คนมากมายเดินเต็มไปหมดทั้งๆที่เมื่อกี๊ไม่มีแม้แต่เงาหัว  เด็ก  ผู้ใหญ่หรือคนแก่เดินชนไหล่คละกันอย่างไม่เป็นระเบียบ   น่าจะปกตินะถ้าทุกคนไม่ได้มีสายตาเลื่อนลอย!!





    ผมรีบเปิดประตูอุ้มนีน่าขึ้นไปหวังเพียงรีบกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด  แกรก...เสียงเปิดประตูแผ่วเบาดังขึ้น  ชายอ้วนคนหนึ่งที่อยู่ไกล้ๆไหวตัวเมื่อได้ยินเสียง  เขาหันมาทางเราก่อนจะเคลื่อนที่เลื่อนลอยมาหา





    “มีอะไรรึเปล่าครับคุณ?” ผมถามอย่างสุภาพ  เงยหน้าขึ้นมาจากนีน่าที่นั่งอยู่ในรถ  “ถ้าในโรงเรียนตอนนี้ท่าทางจะไม่ปลอดภัยนะครับอย่าเข้าไปดีกว่า”   ผมกล่าวก่อนจะหันไปปิดประตูรถ  เมื่อหันมาอีกที...ชายคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว





    “เอ๊ะ  เตือนแล้วไม่ฟังแฮะ  คนเรานี่แปลกจัง  หือ?คุณหนู”  นีน่ากำลังทุบกระจกรถอย่างเอาเป็นเอาตาย  ร้องอะไรบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์







    งั่ม!!







    ชายอ้วนคนนั้นกัดคอของผม!  เขาอ้อมมาทางด้านหลังโดยที่ผมไม่รู้ตัว  ผิวเนื้อสังเคราะห์ฉีกขาดออกพร้อมๆกับเลือดเทียมพุ่งกระฉูดออกจากคอผม   ผมผลักเขาออกห่าง   ไม่ว่ายังไงผมก็ทำร้ายมนุษย์ไม่ได้!!





    ผมรีบหนีกุลีกุจอขึ้นรถอีกฝั่งทันที   ชายอ้วนเคลื่อนที่เร็วขึ้นไม่สมกับรูปร่างอย่างเห็นได้ชัด  ดวงตาเหม่อลอยเหมือนคนสติไม่อยู่กับตัว  





    ปัง!!





    ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก  แต่ที่ไหนได้  เสียงปิดประตูเมื่อกี๊กลับเรียกให้คนแถวๆนั้นมาเกาะรถเต็มไปหมดราวกับมดรุมกินเหยื่อ  ไม่เว้นกระโปรงหน้าหรือหลังคา  ใบหน้ามากมายแนบกับกระจกใสทั้งพยายามกัด  ข่วน  น้ำลายเป็นฟองไหลเยิ้มเลอะเทอะทั่วรถ  





    “กรี๊ด!!!” นีน่าร้องอย่างเสียขวัญเมื่อหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งถลึงดวงตาปูดโปนมองเธอที่อยู่ในรถ  เอาฝ่ามือทุบกระจกจนเล็บสีชมพูสวยฉีกเข้าไปถึงเนื้อ





    “คุณหนูอย่ามองครับ” ผมคว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก  กดนาวิเกเตอร์โดยมีจุดหมายอยู่ที่บ้าน  รถสตาร์ทส่งเสียงกระหึ่มก่อนจะถีบตัวลอยขึ้นบนอากาศทิ้งคนที่ขึ้นมาป่ายปีนร่วงลงทีละคนๆ  หมู่มนุษย์ยิ่งมาออรวมกันที่พื้นข้างใต้เพราะเสียงรถ  ชูมือไขว่คว้าอย่างโหยอยาก  





    ผมเฝ้ามองจนลับตาไปด้วยความโล่งอก  เฮ้อ...ยังดีที่หนีออกมาทัน...  





    นีน่าสะอึกสะอื้นร้องให้จนเสื้อเชิ้ตผมชุ่มไปด้วยน้ำใสๆกับเลือดเทียม  ผมปล่อยเธอออกเป็นอิสระ  





    “คุณหนูหลับไปก่อนก็ได้ครับ  นั่งนิ่งๆใจเย็นๆ” ผมปาดน้ำตาออกด้วยหลังมืออย่างแผ่วเบา  จัดที่ให้เธอหลับโดยหันหลังให้กับกระจกรถ





                   ตอนนี้ไม่มีรถวิ่งสวนเลย...  ถ้าผมคาดไม่ผิด  ปัญหานี้คงลามไปทั่วแล้ว  เป็นการดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดออกเพื่อไม่ให้นีน่าต้องเห็นสิ่งที่อยู่ลงไปเบื้องล่าง...   ระบบตรวจจับความร้อนและเสียงที่ผมเปิดเอาไว้  เห็นหย่อมแดงๆที่เป็นความร้อนในร่างกายมนุษย์ขวักไขว่ทั่ว  เสียงคราง  กรีดร้องสารพัดอื้ออึงทุกอย่างเท่าที่มนุษย์จะเปล่งออกมาได้มีตลอดทางกลับบ้าน...











    มันเกิดอะไรขึ้น.......??

















    Nina  and  Cyborg



             เริ่มเข้มข้นขึ้นเล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้  ISLยังต้องซักพักนึงก่อน

    เเต่ถ้าจะให้ผมพูดก็อีกไม่นานเเล้วครับ  ISLจะข้นคลั่กมากกว่านี้ด้วยล่ะ

    เพราะมันเป็นเรื่องหลัก



              อยากดูหนังมากเลย  ใครชอบดูหนังบ้างยกมือขึ้น!!

    ฮ่าๆ ผมชอบดูการ์ตูนมากเลยด้วย  Corpse  Bride เงี้ย

    ชื่อไทยเจ้าสาวศพสวยนี่น่าดูมากครับ  ผมชอบประโยคนึงมากเลย(ดูจากโฆษณา)

    \"เธอทั้งสวยเเละซื่อสัตย์เพียบพร้อมไปซะทุกสิ่ง  เเต่...ไม่มีชีพจร\"

    (อยากได้ค่าโฆษณาจัง ฮ่าๆๆๆ)









    ขอบคุณที่ติดตามครับ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×