ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : What a mad!
Stage 4.  what  a  mad  it  is!
(พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าคนกันเอง)
“เช้ามืดวันนี้  ทางการได้รับแจ้งพบศพนายอดัมสัน  วูรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของตน  สาเหตุการตายแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากเส้นเลือดฝอยในสมองสวนสำคัญแตกเฉียบพลัน  โดยสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วห้าชั่วโมงก่อนรุ่งสาง...”
“แมป  เสร็จแล้ว” นีน่าร้องเรียกผมขณะที่กำลังอัพเดตข่าวประจำวันจากอินเตอร์เน็ตรอเธอทานข้าวเช้า  เพื่อจะพาไปส่งโรงเรียน
“ไปแล้วครับคุณหนู”
              วันนี้ดูรถราจะน้อยเป็นพิเศษแทบจะนับคันได้  เมื่อเทียบกับชั่วโมงเร่งรีบยามเช้าวันอื่นๆ  มันโล่งไปหมดเมื่อไม่เห็นยานยนต์แม่เหล็กวิ่งฉิวไปมาเหมือนเคย  ผมมองลงไปด้านล่าง  ผู้คนบนบาทวิถีก็น้อยเช่นกันราวกับวันนี้เป็นวันหยุดราชการอย่างไรอย่างนั้น
“เรื่องแปลกๆ” ผมยักไหล่โยนเรื่องนี้ทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ  หันไปตรวจการบ้านนีน่าแทน
              ป้ายชื่อโรงเรียนยังคงตั้งเด่นหลาเช่นทุกครั้ง  มันอ่านได้ความว่า  “โรงเรียนมหาวิทยาลัยเบอร์กรา  ซองค์ฟอร์ด”  รั้วสูงสีขาวที่ดูน่าอึดอัดก็ยังเหมือนเดิม  แต่ความเงียบกริบผิดวิสัยพื้นที่สีขาวแห่งนี้ต่างหากที่น่าแปลกใจ  จำนวนนักเรียนที่มากมายกลับไม่มีแม้แต่คนเดียวเท่าที่มองเข้าไปจนสุดสายตา  ผมเช็ควันดูแล้ว  วันนี้เป็นวันจันทร์แน่นอนไม่มีเทศกาลไม่ใช่วันหยุดพิเศษอะไรเลยด้วยซ้ำ  นีน่าจับมือผมอย่างไม่แน่ใจ  ซึ่งผมก็จับตอบเพื่อลดความตื่นตระหนกของเธอ
มันเงียบ...
เงียบวังเวงเกินไปจนน่ากลัว...
              เราจูงมือกันเข้าไปในโรงเรียนอย่างคาดหวังไว้ว่าจะเป็นละครที่โรงเรียนจัดฉากขึ้น  แต่มันก็ยังคงมีแต่ความเงียบ...  เราเดินต่อเข้าไปในใจกลางผ่านตึกประถมไปเรื่อยๆ  ผมเปิดระบบตรวจจับความร้อนกับเสียงเต็มที่  หากแต่ไร้ซึ่งสัญญาณสิ่งมีชีวิตใดๆในพื้นที่ขาวโพลนว่างเปล่า
“กลับกันเถอะแมป...ฉันรู้สึกไม่ดี” นีน่าเอ่ย  ฉุดผมไปทางประตูโรงเรียน
ทันใดนั้น!  เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้นจากส่วนที่ลึกเข้าไป  มันโหยหวนอย่างเจ็บปวด  หวาดกลัว  แหลมสูงราวกับจะขาดใจ
              ผมอุ้มนีน่าขึ้นทันทีก่อนจะหันหลังกลับแล้วออกวิ่ง  ผมต้องช่วยเจ้านายก่อน  ถ้าหากมีอันตรายต้องพาเด็กหญิงหนีไปให้ไกล  เสียงนั้นยังคงดังต่อไปแต่ค่อยๆแผ่วลงจนเกือบเป็นเสียงครางขอชีวิต  มีคนวิ่งออกมาจากตึกแถวๆนั้นสองสามคน  หนึ่งในนั้นกระทบไหล่ผมอย่างจังจนนีน่าที่อยู่ในอกเกือบตกลงบนพื้น  “อย่าไปทางนั้น  อันตราย!”ผมตะโกนเตือนแต่ก็ไม่มีใครฟังเสียงผมเลยซักนิด
              หลังจากวิ่งออกมาเราก็ตรงเข้าไปขึ้นรถที่จอดไว้  ผมเห็น...  คนมากมายเดินเต็มไปหมดทั้งๆที่เมื่อกี๊ไม่มีแม้แต่เงาหัว  เด็ก  ผู้ใหญ่หรือคนแก่เดินชนไหล่คละกันอย่างไม่เป็นระเบียบ  น่าจะปกตินะถ้าทุกคนไม่ได้มีสายตาเลื่อนลอย!!
ผมรีบเปิดประตูอุ้มนีน่าขึ้นไปหวังเพียงรีบกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด  แกรก...เสียงเปิดประตูแผ่วเบาดังขึ้น  ชายอ้วนคนหนึ่งที่อยู่ไกล้ๆไหวตัวเมื่อได้ยินเสียง  เขาหันมาทางเราก่อนจะเคลื่อนที่เลื่อนลอยมาหา
“มีอะไรรึเปล่าครับคุณ?” ผมถามอย่างสุภาพ  เงยหน้าขึ้นมาจากนีน่าที่นั่งอยู่ในรถ  “ถ้าในโรงเรียนตอนนี้ท่าทางจะไม่ปลอดภัยนะครับอย่าเข้าไปดีกว่า”  ผมกล่าวก่อนจะหันไปปิดประตูรถ  เมื่อหันมาอีกที...ชายคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว
“เอ๊ะ  เตือนแล้วไม่ฟังแฮะ  คนเรานี่แปลกจัง  หือ?คุณหนู”  นีน่ากำลังทุบกระจกรถอย่างเอาเป็นเอาตาย  ร้องอะไรบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์
งั่ม!!
ชายอ้วนคนนั้นกัดคอของผม!  เขาอ้อมมาทางด้านหลังโดยที่ผมไม่รู้ตัว  ผิวเนื้อสังเคราะห์ฉีกขาดออกพร้อมๆกับเลือดเทียมพุ่งกระฉูดออกจากคอผม  ผมผลักเขาออกห่าง  ไม่ว่ายังไงผมก็ทำร้ายมนุษย์ไม่ได้!!
ผมรีบหนีกุลีกุจอขึ้นรถอีกฝั่งทันที  ชายอ้วนเคลื่อนที่เร็วขึ้นไม่สมกับรูปร่างอย่างเห็นได้ชัด  ดวงตาเหม่อลอยเหมือนคนสติไม่อยู่กับตัว 
ปัง!!
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก  แต่ที่ไหนได้  เสียงปิดประตูเมื่อกี๊กลับเรียกให้คนแถวๆนั้นมาเกาะรถเต็มไปหมดราวกับมดรุมกินเหยื่อ  ไม่เว้นกระโปรงหน้าหรือหลังคา  ใบหน้ามากมายแนบกับกระจกใสทั้งพยายามกัด  ข่วน  น้ำลายเป็นฟองไหลเยิ้มเลอะเทอะทั่วรถ 
“กรี๊ด!!!” นีน่าร้องอย่างเสียขวัญเมื่อหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งถลึงดวงตาปูดโปนมองเธอที่อยู่ในรถ  เอาฝ่ามือทุบกระจกจนเล็บสีชมพูสวยฉีกเข้าไปถึงเนื้อ
“คุณหนูอย่ามองครับ” ผมคว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก  กดนาวิเกเตอร์โดยมีจุดหมายอยู่ที่บ้าน  รถสตาร์ทส่งเสียงกระหึ่มก่อนจะถีบตัวลอยขึ้นบนอากาศทิ้งคนที่ขึ้นมาป่ายปีนร่วงลงทีละคนๆ  หมู่มนุษย์ยิ่งมาออรวมกันที่พื้นข้างใต้เพราะเสียงรถ  ชูมือไขว่คว้าอย่างโหยอยาก 
ผมเฝ้ามองจนลับตาไปด้วยความโล่งอก  เฮ้อ...ยังดีที่หนีออกมาทัน... 
นีน่าสะอึกสะอื้นร้องให้จนเสื้อเชิ้ตผมชุ่มไปด้วยน้ำใสๆกับเลือดเทียม  ผมปล่อยเธอออกเป็นอิสระ 
“คุณหนูหลับไปก่อนก็ได้ครับ  นั่งนิ่งๆใจเย็นๆ” ผมปาดน้ำตาออกด้วยหลังมืออย่างแผ่วเบา  จัดที่ให้เธอหลับโดยหันหลังให้กับกระจกรถ
              ตอนนี้ไม่มีรถวิ่งสวนเลย...  ถ้าผมคาดไม่ผิด  ปัญหานี้คงลามไปทั่วแล้ว  เป็นการดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดออกเพื่อไม่ให้นีน่าต้องเห็นสิ่งที่อยู่ลงไปเบื้องล่าง...  ระบบตรวจจับความร้อนและเสียงที่ผมเปิดเอาไว้  เห็นหย่อมแดงๆที่เป็นความร้อนในร่างกายมนุษย์ขวักไขว่ทั่ว  เสียงคราง  กรีดร้องสารพัดอื้ออึงทุกอย่างเท่าที่มนุษย์จะเปล่งออกมาได้มีตลอดทางกลับบ้าน...
มันเกิดอะไรขึ้น.......??
Nina  and  Cyborg
        เริ่มเข้มข้นขึ้นเล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้  ISLยังต้องซักพักนึงก่อน
เเต่ถ้าจะให้ผมพูดก็อีกไม่นานเเล้วครับ  ISLจะข้นคลั่กมากกว่านี้ด้วยล่ะ
เพราะมันเป็นเรื่องหลัก
          อยากดูหนังมากเลย  ใครชอบดูหนังบ้างยกมือขึ้น!!
ฮ่าๆ ผมชอบดูการ์ตูนมากเลยด้วย  Corpse  Bride เงี้ย
ชื่อไทยเจ้าสาวศพสวยนี่น่าดูมากครับ  ผมชอบประโยคนึงมากเลย(ดูจากโฆษณา)
\"เธอทั้งสวยเเละซื่อสัตย์เพียบพร้อมไปซะทุกสิ่ง  เเต่...ไม่มีชีพจร\"
(อยากได้ค่าโฆษณาจัง ฮ่าๆๆๆ)
ขอบคุณที่ติดตามครับ
(พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าคนกันเอง)
“เช้ามืดวันนี้  ทางการได้รับแจ้งพบศพนายอดัมสัน  วูรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของตน  สาเหตุการตายแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากเส้นเลือดฝอยในสมองสวนสำคัญแตกเฉียบพลัน  โดยสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วห้าชั่วโมงก่อนรุ่งสาง...”
“แมป  เสร็จแล้ว” นีน่าร้องเรียกผมขณะที่กำลังอัพเดตข่าวประจำวันจากอินเตอร์เน็ตรอเธอทานข้าวเช้า  เพื่อจะพาไปส่งโรงเรียน
“ไปแล้วครับคุณหนู”
              วันนี้ดูรถราจะน้อยเป็นพิเศษแทบจะนับคันได้  เมื่อเทียบกับชั่วโมงเร่งรีบยามเช้าวันอื่นๆ  มันโล่งไปหมดเมื่อไม่เห็นยานยนต์แม่เหล็กวิ่งฉิวไปมาเหมือนเคย  ผมมองลงไปด้านล่าง  ผู้คนบนบาทวิถีก็น้อยเช่นกันราวกับวันนี้เป็นวันหยุดราชการอย่างไรอย่างนั้น
“เรื่องแปลกๆ” ผมยักไหล่โยนเรื่องนี้ทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ  หันไปตรวจการบ้านนีน่าแทน
              ป้ายชื่อโรงเรียนยังคงตั้งเด่นหลาเช่นทุกครั้ง  มันอ่านได้ความว่า  “โรงเรียนมหาวิทยาลัยเบอร์กรา  ซองค์ฟอร์ด”  รั้วสูงสีขาวที่ดูน่าอึดอัดก็ยังเหมือนเดิม  แต่ความเงียบกริบผิดวิสัยพื้นที่สีขาวแห่งนี้ต่างหากที่น่าแปลกใจ  จำนวนนักเรียนที่มากมายกลับไม่มีแม้แต่คนเดียวเท่าที่มองเข้าไปจนสุดสายตา  ผมเช็ควันดูแล้ว  วันนี้เป็นวันจันทร์แน่นอนไม่มีเทศกาลไม่ใช่วันหยุดพิเศษอะไรเลยด้วยซ้ำ  นีน่าจับมือผมอย่างไม่แน่ใจ  ซึ่งผมก็จับตอบเพื่อลดความตื่นตระหนกของเธอ
มันเงียบ...
เงียบวังเวงเกินไปจนน่ากลัว...
              เราจูงมือกันเข้าไปในโรงเรียนอย่างคาดหวังไว้ว่าจะเป็นละครที่โรงเรียนจัดฉากขึ้น  แต่มันก็ยังคงมีแต่ความเงียบ...  เราเดินต่อเข้าไปในใจกลางผ่านตึกประถมไปเรื่อยๆ  ผมเปิดระบบตรวจจับความร้อนกับเสียงเต็มที่  หากแต่ไร้ซึ่งสัญญาณสิ่งมีชีวิตใดๆในพื้นที่ขาวโพลนว่างเปล่า
“กลับกันเถอะแมป...ฉันรู้สึกไม่ดี” นีน่าเอ่ย  ฉุดผมไปทางประตูโรงเรียน
ทันใดนั้น!  เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้นจากส่วนที่ลึกเข้าไป  มันโหยหวนอย่างเจ็บปวด  หวาดกลัว  แหลมสูงราวกับจะขาดใจ
              ผมอุ้มนีน่าขึ้นทันทีก่อนจะหันหลังกลับแล้วออกวิ่ง  ผมต้องช่วยเจ้านายก่อน  ถ้าหากมีอันตรายต้องพาเด็กหญิงหนีไปให้ไกล  เสียงนั้นยังคงดังต่อไปแต่ค่อยๆแผ่วลงจนเกือบเป็นเสียงครางขอชีวิต  มีคนวิ่งออกมาจากตึกแถวๆนั้นสองสามคน  หนึ่งในนั้นกระทบไหล่ผมอย่างจังจนนีน่าที่อยู่ในอกเกือบตกลงบนพื้น  “อย่าไปทางนั้น  อันตราย!”ผมตะโกนเตือนแต่ก็ไม่มีใครฟังเสียงผมเลยซักนิด
              หลังจากวิ่งออกมาเราก็ตรงเข้าไปขึ้นรถที่จอดไว้  ผมเห็น...  คนมากมายเดินเต็มไปหมดทั้งๆที่เมื่อกี๊ไม่มีแม้แต่เงาหัว  เด็ก  ผู้ใหญ่หรือคนแก่เดินชนไหล่คละกันอย่างไม่เป็นระเบียบ  น่าจะปกตินะถ้าทุกคนไม่ได้มีสายตาเลื่อนลอย!!
ผมรีบเปิดประตูอุ้มนีน่าขึ้นไปหวังเพียงรีบกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด  แกรก...เสียงเปิดประตูแผ่วเบาดังขึ้น  ชายอ้วนคนหนึ่งที่อยู่ไกล้ๆไหวตัวเมื่อได้ยินเสียง  เขาหันมาทางเราก่อนจะเคลื่อนที่เลื่อนลอยมาหา
“มีอะไรรึเปล่าครับคุณ?” ผมถามอย่างสุภาพ  เงยหน้าขึ้นมาจากนีน่าที่นั่งอยู่ในรถ  “ถ้าในโรงเรียนตอนนี้ท่าทางจะไม่ปลอดภัยนะครับอย่าเข้าไปดีกว่า”  ผมกล่าวก่อนจะหันไปปิดประตูรถ  เมื่อหันมาอีกที...ชายคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว
“เอ๊ะ  เตือนแล้วไม่ฟังแฮะ  คนเรานี่แปลกจัง  หือ?คุณหนู”  นีน่ากำลังทุบกระจกรถอย่างเอาเป็นเอาตาย  ร้องอะไรบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์
งั่ม!!
ชายอ้วนคนนั้นกัดคอของผม!  เขาอ้อมมาทางด้านหลังโดยที่ผมไม่รู้ตัว  ผิวเนื้อสังเคราะห์ฉีกขาดออกพร้อมๆกับเลือดเทียมพุ่งกระฉูดออกจากคอผม  ผมผลักเขาออกห่าง  ไม่ว่ายังไงผมก็ทำร้ายมนุษย์ไม่ได้!!
ผมรีบหนีกุลีกุจอขึ้นรถอีกฝั่งทันที  ชายอ้วนเคลื่อนที่เร็วขึ้นไม่สมกับรูปร่างอย่างเห็นได้ชัด  ดวงตาเหม่อลอยเหมือนคนสติไม่อยู่กับตัว 
ปัง!!
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก  แต่ที่ไหนได้  เสียงปิดประตูเมื่อกี๊กลับเรียกให้คนแถวๆนั้นมาเกาะรถเต็มไปหมดราวกับมดรุมกินเหยื่อ  ไม่เว้นกระโปรงหน้าหรือหลังคา  ใบหน้ามากมายแนบกับกระจกใสทั้งพยายามกัด  ข่วน  น้ำลายเป็นฟองไหลเยิ้มเลอะเทอะทั่วรถ 
“กรี๊ด!!!” นีน่าร้องอย่างเสียขวัญเมื่อหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งถลึงดวงตาปูดโปนมองเธอที่อยู่ในรถ  เอาฝ่ามือทุบกระจกจนเล็บสีชมพูสวยฉีกเข้าไปถึงเนื้อ
“คุณหนูอย่ามองครับ” ผมคว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก  กดนาวิเกเตอร์โดยมีจุดหมายอยู่ที่บ้าน  รถสตาร์ทส่งเสียงกระหึ่มก่อนจะถีบตัวลอยขึ้นบนอากาศทิ้งคนที่ขึ้นมาป่ายปีนร่วงลงทีละคนๆ  หมู่มนุษย์ยิ่งมาออรวมกันที่พื้นข้างใต้เพราะเสียงรถ  ชูมือไขว่คว้าอย่างโหยอยาก 
ผมเฝ้ามองจนลับตาไปด้วยความโล่งอก  เฮ้อ...ยังดีที่หนีออกมาทัน... 
นีน่าสะอึกสะอื้นร้องให้จนเสื้อเชิ้ตผมชุ่มไปด้วยน้ำใสๆกับเลือดเทียม  ผมปล่อยเธอออกเป็นอิสระ 
“คุณหนูหลับไปก่อนก็ได้ครับ  นั่งนิ่งๆใจเย็นๆ” ผมปาดน้ำตาออกด้วยหลังมืออย่างแผ่วเบา  จัดที่ให้เธอหลับโดยหันหลังให้กับกระจกรถ
              ตอนนี้ไม่มีรถวิ่งสวนเลย...  ถ้าผมคาดไม่ผิด  ปัญหานี้คงลามไปทั่วแล้ว  เป็นการดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดออกเพื่อไม่ให้นีน่าต้องเห็นสิ่งที่อยู่ลงไปเบื้องล่าง...  ระบบตรวจจับความร้อนและเสียงที่ผมเปิดเอาไว้  เห็นหย่อมแดงๆที่เป็นความร้อนในร่างกายมนุษย์ขวักไขว่ทั่ว  เสียงคราง  กรีดร้องสารพัดอื้ออึงทุกอย่างเท่าที่มนุษย์จะเปล่งออกมาได้มีตลอดทางกลับบ้าน...
มันเกิดอะไรขึ้น.......??
Nina  and  Cyborg
        เริ่มเข้มข้นขึ้นเล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้  ISLยังต้องซักพักนึงก่อน
เเต่ถ้าจะให้ผมพูดก็อีกไม่นานเเล้วครับ  ISLจะข้นคลั่กมากกว่านี้ด้วยล่ะ
เพราะมันเป็นเรื่องหลัก
          อยากดูหนังมากเลย  ใครชอบดูหนังบ้างยกมือขึ้น!!
ฮ่าๆ ผมชอบดูการ์ตูนมากเลยด้วย  Corpse  Bride เงี้ย
ชื่อไทยเจ้าสาวศพสวยนี่น่าดูมากครับ  ผมชอบประโยคนึงมากเลย(ดูจากโฆษณา)
\"เธอทั้งสวยเเละซื่อสัตย์เพียบพร้อมไปซะทุกสิ่ง  เเต่...ไม่มีชีพจร\"
(อยากได้ค่าโฆษณาจัง ฮ่าๆๆๆ)
ขอบคุณที่ติดตามครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น