ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The World
Stage 4.  The  World
(น้ำใจที่ให้โดยไม่ต้องร้องขอมีค่ามากกว่าทองคำบริสุทธิ์)
เปรี้ยง!
              เสียงกระสุนเลเซอร์อัดอากาศแหวกหญ้าเป็นแนวยาวก่อนจะปะทะเข้ากับมอนสเตอร์ตัวจ้อยหน้าตาคล้ายหนูที่มาเป็นฝูง  มันแตกฮือออกจากกัน  แต่ไม่ทันไรก็กลับมารวมตัวกันใหม่ 
“ ชิ! ” เอียนร้องอยางขัดใจก่อนจะบรรจุแบตชาร์ตเข้าไปในปืน  เล็งไปที่หนูพวกนี้อีกครั้ง  ระดมยิงต่อเนื่อง  ทุ่งหญ้าสะวันน่าสูงถึงเอวเป็นอุปสรรคในการวิ่ง  ประกอบกับแดดจ้าเหนือหัวเร่งให้การเผาผลาญพลังงานสูงขึ้น
เปรี้ยงๆๆๆๆ!!
“ไปๆ  รีบๆวิ่งไป!” เด็กหนุ่มไล่เพื่อนให้วิ่งเร็วขึ้น  ความหงุดหงิดฉายชัดบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ไม่มีแว่นตาหนาบดบัง
ย้อนไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว
              หลังจากเข้ามาในบริษัทได้แล้ว  ชายหนุ่มคนหนึ่งก็นำพนักงานออกมาต้อนรับพวกเด็กๆอย่างดี  ชายหนุ่มมีใบหน้าสะอาดดูดีแบบผู้ใหญ่  จากที่เห็นพนักงานทำความเคารพแล้วคงเป็นคนที่มีตำแหน่งพอสมควร  ตอนแรกเกรกอรี่คิดว่าเขาเป็นพนักงานธรรมดา  เพราะการแต่งตัวที่ไม่ค่อยเรียบร้อย  ชายเสื้อหลุดลุ่ย  แขนเสื้อก็พับขึ้นไปถึงข้อศอก  ยังไม่นับรวมเนคไทที่เบี้ยวเห็นได้ชัดทำให้ใบหน้าลดดีกรีความเป็นผู้นำลงไปโข  เขายิ้มละไมให้เอียน
“คุณ...ฮิวจ์...”
“ใช่แล้ว  เจ้าหนูโตขึ้นเยอะนะเรา  ฮ่าๆ” ชายหนุ่มนามฮิวจ์หัวเราะร่วน  “ว่าแต่แม่เป็นไงบ้างล่ะ?”
“สบายดีครับ  อ้วนท้วนสมบูรณ์ดี” เอียนตอบคำถามอย่างไม่ปิดบัง  ยังความแปลกใจให้กับเพื่อนๆมากนัก  ปกติกว่าจะคุยกับเอียนได้ขนาดนี้ต้องสนิทมากพอสมควร  แซมซั่นจึงสะกิดถาม  “เอียน  น้าคนนี้เขาเป็นใครเหรอ?”
“คุณฮิวจ์เป็นคนรู้จักของครอบครัวน่ะ  ฉันรู้จักกับเขามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
                    ยิ่งคิดก็ยิ่งทำใจกับความซวยของตัวเองมากขึ้นทุกที  เกมส์ที่แซมซั่นพามาเล่นเป็นเกมส์ใน ISL  เขาน่าจะฉุกใจคิดได้ตั้งแต่แรก  เฮ้อ...  ไม่น่าหยิบออกมานั่งดูในห้องเรียนเล้ย  พอจะไม่เล่นก็โดนแซมซั่นตื๊อ  แถมคุณฮิวจ์ก็ดันนึกสนุกช่วยแซมซั่นตื๊ออีกคน  เข้าเกมส์มาอย่างช่วยไม่ได้ยังต้องมาคุมหลังคอยยิงเจ้าหนูมอนสเตอร์ท้องทุ่งกระจอกๆ  ซวยสะบัด...
                  เกมส์นี้มีชื่อว่า The  World  เป็นอีกวิทยาการนึงที่ส่งภาพเข้าสมองผ่าน ISL และดักจับกระแสไฟฟ้าควบคุมการเคลื่อนใหว  สร้างเป็นอีกตัวตนหนึ่งในเกมส์สามารถขยับคิดพูดจับต้องและรู้สึกได้ทุกอย่างเหมือนชีวิตจริงๆ  โดยที่ร่างจริงไม่ต้องขยับเขยื้อนแต่อย่างใด
                โลกในเกมส์ถูกจำลองขึ้นมาทั้งต้นไม้และสัตว์ในอดีตที่สูญพันธุ์ไปแล้วกว้างขวางมาก  โดยจำลองเมืองยอร์คเชียเป็นศูนย์กลางเกมส์  มีตั้งเเต่บ้านทุกหลังจนถึงซากถังขยะบุบบี้ในตรอกเล็กๆ 
“แฮ่กๆๆๆ” ร่างสี่ร่างโก่งคอแข่งกันหอบเอาอากาศเข้าปอดหลังจากวิ่งหนีมาไกล  เด็กๆเลือกเข้ามาเล่นเก็บไอเท็มในโซนทุ่งหญ้าสะวันน่า
“ไหนใครวะบอกว่ามอนสเตอร์จำพวกหนูกำจัดง่าย...แฮ่กๆ\"แม็กซ์ไม่วายบ่นถึงแม้จะกำลังหน้ามืดเพราะเลือดไม่พอเลี้ยงสมองก็ตาม 
“...ก็เห็นตัวมันเล็กนี่หว่า  ที่สำคัญถ้ากำจัดได้  ไอเท็มหรือค่าว่าจ้างที่พ่อค้าบอกมันสูง...”เกรกอรี่เถียงกลับไม่ยอมรับถ้าแม็กซ์เป็นคนจับผิด  “...นายมันก็ตามฉันมาแหละวะ”
“เฮอะ...แฮ่กๆ...เอ๊อ  ฉันผิดเองที่ตามคนโง่มา”
“ว่าแต่...ใครเห็นเอียนบ้าง?...”นาร์เนียเอ่ยขึ้นน้ำเสียงตื่นตระหนก  หลังจากนับเพื่อนรอบตัวแล้วมีเพียงสาม
“เอ๋???รึว่า...”
เปรี้ยงๆ!!
“แว้กกกกกก!!”แม็กซ์แหกปากร้องเมื่อเสียงปืนดังขึ้นข้างหู
              เอียนย่ำตัดหญ้ามาหาเพื่อนๆด้วยท่าทางเร่งรีบ  ในมือกระชับด้ามปืนแน่น  สายตามองล่อกแล่กไปรอบๆอย่างระแวดระวัง  เสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยขาดวิ่นใบหน้าเปรอะดิน
“เธอบาดเจ็บเหรอ!”นาร์เนียร้องเมื่อเห็นสภาพเด็กหนุ่ม
“ไม่ๆไม่เป็นไร  แต่ฉันว่าพวกนายหยิบปืนแล้ววิ่งเลยดีกว่า  เร็วๆเข้า...”เด็กหนุ่มเอ่ยปนหอบเล็กน้อย  มองไปรอบตัวมากขึ้นเหมือนคนเป็นโรคประสาท  “เร็วๆสิ!!”
“เฮ้ย...ขอพักเหนื่อยก่อนเซ่เพื่อน  กับแค่หนูเดี๋ยวค่อยวิ่งหนีก็ได้” แม็กซ์ท้วงไม่ยอมลุก
“ไม่แม็กซ์  ฉันรู้สึกว่ามีอะไรกำลังมา  ลุกเร็วๆน่า  เร็วๆเข้า” แซมซั่นพยายามฉุดเพื่อนขึ้น  สัญชาตญาณคอเกมส์มันเต้นเร่ารู้สึกได้เลยว่ามีบางอย่างอยู่แถวนี้  แถมดูจากสภาพเอียนแล้วมันคงมีฟันกับกรงเล็บเป็นแน่
“ก็ได้ๆ  แล้วมันเป็นตัวอะไรล่ะห๊ะเอียน” แม็กซ์ยอมแพ้ก่อนจะค่อยๆยุรยาดยืนขึ้น
“สิงโต”
              คำตอบดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว  เมื่อสิงโตตัวเมียขนาดเขื่องเท่ามนุษย์พุ่งออกมาจากดงหญ้างับเข้าที่แขนแม็กซ์ผู้กำลังก้มเก็บปืนบนพื้นและไม่ได้ระวังตัว!!  ร่างสีทองอร่ามไร้แผงคอสวยงาม  แต่เขี้ยวยาวและกรงเล็บสีเงินวาวไม่ใช่เวลาที่จะชื่นชมเลยในเมื่อมันมีเลือดเปรอะ
“ม่ายยยย  แม็กซ์!!” นาร์เนียกรีดร้องลั่น  เมื่อเลือดกระจายออกมาจากบาดแผลกระเซ็นลงบนหน้าเธอ  นางสิงโตงับแขนเด็กหนุ่มจมเขี้ยว  ออกแรงลากเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยขากรรไกรแข็งแรง 
“เตือนแล้วไม่ฟังจริงๆ!” เอียนร้องอย่างหัวเสีย  วิ่งตามออกไป  ตามด้วยเกรกอรี่และแซมซั่นที่ต้องฉุดนาร์เนียไปด้วยเพราะเธอยืนช็อคอยู่กับที่ 
“ระวังไว้ด้วยนะ  สิงโตอยู่รวมกันเป็นฝูง  เมื่อกี้เป็นแค่ตัวเมียที่ออกมาหาอาหารเท่านั้น  มันคงเอาแม็กซ์ไปให้สิงโตตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ที่รออยู่ในฝูง” เอียนกล่าวเตือนเอาไว้ก่อน  คำเตือนที่ทำเอาเกรกอรี่หนาวขึ้นมาในอกทั้งๆที่อากาศร้อนแทบคลั่ง  ตัวเมียยังขนาดนี้แล้วตัวผู้หัวหน้าฝูงจะขนาดไหนกัน!
              เอียนคะเนทิศทางนางเสือจากหยาดเลือดที่ลากผ่านหญ้า  ทุ่งหญ้าหนาตาแต่เตี้ยลงราวๆเข่า  เขาอยากจะคาดการณ์ผิดเหลือเกินถึงจะรู้อยู่เต็มอกแล้วก็ตามเรื่องที่มันอยู่เป็นฝูง
              สิงโตตัวผู้หัวหน้าฝูงยืนเอาเท้าหน้าวางบนอกแม็กซ์ที่สิ้นสติไปแล้วอย่างท้าทาย  ลำตัวของมันหนาหนั่นยิ่งกว่าต้นไม้สามคนโอบ  ฝ่าเท้ามหึมาที่เพียงแค่กดเบาๆก็ป่นซี่โครงเด็กหนุ่มข้างใต้ได้สบายๆ  ร่างใหญ่ผงาดสง่าพร้อมแผงคอสีทองอร่ามล้อมรอบด้วยตัวเมียที่มีขนาดย่อมลงมาอีกสามตัว
“อะเมซซิ่งแอฟริกาสิงโตเจ้าป่า...เหอๆ...” เกรกอรี่คนกล้ายังอดรู้สึกขยาดไม่ได้...  ถึงแม้เกมส์นี้ไม่มีการตายถ้าบาดเจ็บหนักก็แค่เกมส์โอเวอร์
“เอาล่ะ  มันมีอยู่สี่ตัว  เราจะช่วยกันรุกรับแล้วแบ่งกันไปคนละตัว  ฉันไม่คิดว่าเราจะชนะแต่เอาแค่เพียงล่อให้มันออกห่างแม็กซ์แล้วจากนั้นค่อยเผ่น  โอเคมั้ย...” เอียนกระซิบเสียงแผ่วราวกับกลัวสิงโตจะได้ยิน  “เอ้อ...แล้วก็พยายามยิงที่คอมันนะ” เด็กหนุ่มปิดท้ายก่อนที่ทั้งหมดจะแยกตัววิ่งไปคนละทาง
“ยิงที่ไหนนะเอียน!” เกรกอรี่ไม่ทันฟัง  เขาตะโกนถามแต่นางสิงโตไม่เปิดโอกาสให้อีกแล้ว  ร่างใหญ่โถมเข้าหาอย่างรวดเร็วรุนแรง
“เฮ้ย!”
เปรี้ยงๆๆๆ!!
....................
(น้ำใจที่ให้โดยไม่ต้องร้องขอมีค่ามากกว่าทองคำบริสุทธิ์)
เปรี้ยง!
              เสียงกระสุนเลเซอร์อัดอากาศแหวกหญ้าเป็นแนวยาวก่อนจะปะทะเข้ากับมอนสเตอร์ตัวจ้อยหน้าตาคล้ายหนูที่มาเป็นฝูง  มันแตกฮือออกจากกัน  แต่ไม่ทันไรก็กลับมารวมตัวกันใหม่ 
“ ชิ! ” เอียนร้องอยางขัดใจก่อนจะบรรจุแบตชาร์ตเข้าไปในปืน  เล็งไปที่หนูพวกนี้อีกครั้ง  ระดมยิงต่อเนื่อง  ทุ่งหญ้าสะวันน่าสูงถึงเอวเป็นอุปสรรคในการวิ่ง  ประกอบกับแดดจ้าเหนือหัวเร่งให้การเผาผลาญพลังงานสูงขึ้น
เปรี้ยงๆๆๆๆ!!
“ไปๆ  รีบๆวิ่งไป!” เด็กหนุ่มไล่เพื่อนให้วิ่งเร็วขึ้น  ความหงุดหงิดฉายชัดบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ไม่มีแว่นตาหนาบดบัง
ย้อนไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว
              หลังจากเข้ามาในบริษัทได้แล้ว  ชายหนุ่มคนหนึ่งก็นำพนักงานออกมาต้อนรับพวกเด็กๆอย่างดี  ชายหนุ่มมีใบหน้าสะอาดดูดีแบบผู้ใหญ่  จากที่เห็นพนักงานทำความเคารพแล้วคงเป็นคนที่มีตำแหน่งพอสมควร  ตอนแรกเกรกอรี่คิดว่าเขาเป็นพนักงานธรรมดา  เพราะการแต่งตัวที่ไม่ค่อยเรียบร้อย  ชายเสื้อหลุดลุ่ย  แขนเสื้อก็พับขึ้นไปถึงข้อศอก  ยังไม่นับรวมเนคไทที่เบี้ยวเห็นได้ชัดทำให้ใบหน้าลดดีกรีความเป็นผู้นำลงไปโข  เขายิ้มละไมให้เอียน
“คุณ...ฮิวจ์...”
“ใช่แล้ว  เจ้าหนูโตขึ้นเยอะนะเรา  ฮ่าๆ” ชายหนุ่มนามฮิวจ์หัวเราะร่วน  “ว่าแต่แม่เป็นไงบ้างล่ะ?”
“สบายดีครับ  อ้วนท้วนสมบูรณ์ดี” เอียนตอบคำถามอย่างไม่ปิดบัง  ยังความแปลกใจให้กับเพื่อนๆมากนัก  ปกติกว่าจะคุยกับเอียนได้ขนาดนี้ต้องสนิทมากพอสมควร  แซมซั่นจึงสะกิดถาม  “เอียน  น้าคนนี้เขาเป็นใครเหรอ?”
“คุณฮิวจ์เป็นคนรู้จักของครอบครัวน่ะ  ฉันรู้จักกับเขามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
                    ยิ่งคิดก็ยิ่งทำใจกับความซวยของตัวเองมากขึ้นทุกที  เกมส์ที่แซมซั่นพามาเล่นเป็นเกมส์ใน ISL  เขาน่าจะฉุกใจคิดได้ตั้งแต่แรก  เฮ้อ...  ไม่น่าหยิบออกมานั่งดูในห้องเรียนเล้ย  พอจะไม่เล่นก็โดนแซมซั่นตื๊อ  แถมคุณฮิวจ์ก็ดันนึกสนุกช่วยแซมซั่นตื๊ออีกคน  เข้าเกมส์มาอย่างช่วยไม่ได้ยังต้องมาคุมหลังคอยยิงเจ้าหนูมอนสเตอร์ท้องทุ่งกระจอกๆ  ซวยสะบัด...
                  เกมส์นี้มีชื่อว่า The  World  เป็นอีกวิทยาการนึงที่ส่งภาพเข้าสมองผ่าน ISL และดักจับกระแสไฟฟ้าควบคุมการเคลื่อนใหว  สร้างเป็นอีกตัวตนหนึ่งในเกมส์สามารถขยับคิดพูดจับต้องและรู้สึกได้ทุกอย่างเหมือนชีวิตจริงๆ  โดยที่ร่างจริงไม่ต้องขยับเขยื้อนแต่อย่างใด
                โลกในเกมส์ถูกจำลองขึ้นมาทั้งต้นไม้และสัตว์ในอดีตที่สูญพันธุ์ไปแล้วกว้างขวางมาก  โดยจำลองเมืองยอร์คเชียเป็นศูนย์กลางเกมส์  มีตั้งเเต่บ้านทุกหลังจนถึงซากถังขยะบุบบี้ในตรอกเล็กๆ 
“แฮ่กๆๆๆ” ร่างสี่ร่างโก่งคอแข่งกันหอบเอาอากาศเข้าปอดหลังจากวิ่งหนีมาไกล  เด็กๆเลือกเข้ามาเล่นเก็บไอเท็มในโซนทุ่งหญ้าสะวันน่า
“ไหนใครวะบอกว่ามอนสเตอร์จำพวกหนูกำจัดง่าย...แฮ่กๆ\"แม็กซ์ไม่วายบ่นถึงแม้จะกำลังหน้ามืดเพราะเลือดไม่พอเลี้ยงสมองก็ตาม 
“...ก็เห็นตัวมันเล็กนี่หว่า  ที่สำคัญถ้ากำจัดได้  ไอเท็มหรือค่าว่าจ้างที่พ่อค้าบอกมันสูง...”เกรกอรี่เถียงกลับไม่ยอมรับถ้าแม็กซ์เป็นคนจับผิด  “...นายมันก็ตามฉันมาแหละวะ”
“เฮอะ...แฮ่กๆ...เอ๊อ  ฉันผิดเองที่ตามคนโง่มา”
“ว่าแต่...ใครเห็นเอียนบ้าง?...”นาร์เนียเอ่ยขึ้นน้ำเสียงตื่นตระหนก  หลังจากนับเพื่อนรอบตัวแล้วมีเพียงสาม
“เอ๋???รึว่า...”
เปรี้ยงๆ!!
“แว้กกกกกก!!”แม็กซ์แหกปากร้องเมื่อเสียงปืนดังขึ้นข้างหู
              เอียนย่ำตัดหญ้ามาหาเพื่อนๆด้วยท่าทางเร่งรีบ  ในมือกระชับด้ามปืนแน่น  สายตามองล่อกแล่กไปรอบๆอย่างระแวดระวัง  เสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยขาดวิ่นใบหน้าเปรอะดิน
“เธอบาดเจ็บเหรอ!”นาร์เนียร้องเมื่อเห็นสภาพเด็กหนุ่ม
“ไม่ๆไม่เป็นไร  แต่ฉันว่าพวกนายหยิบปืนแล้ววิ่งเลยดีกว่า  เร็วๆเข้า...”เด็กหนุ่มเอ่ยปนหอบเล็กน้อย  มองไปรอบตัวมากขึ้นเหมือนคนเป็นโรคประสาท  “เร็วๆสิ!!”
“เฮ้ย...ขอพักเหนื่อยก่อนเซ่เพื่อน  กับแค่หนูเดี๋ยวค่อยวิ่งหนีก็ได้” แม็กซ์ท้วงไม่ยอมลุก
“ไม่แม็กซ์  ฉันรู้สึกว่ามีอะไรกำลังมา  ลุกเร็วๆน่า  เร็วๆเข้า” แซมซั่นพยายามฉุดเพื่อนขึ้น  สัญชาตญาณคอเกมส์มันเต้นเร่ารู้สึกได้เลยว่ามีบางอย่างอยู่แถวนี้  แถมดูจากสภาพเอียนแล้วมันคงมีฟันกับกรงเล็บเป็นแน่
“ก็ได้ๆ  แล้วมันเป็นตัวอะไรล่ะห๊ะเอียน” แม็กซ์ยอมแพ้ก่อนจะค่อยๆยุรยาดยืนขึ้น
“สิงโต”
              คำตอบดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว  เมื่อสิงโตตัวเมียขนาดเขื่องเท่ามนุษย์พุ่งออกมาจากดงหญ้างับเข้าที่แขนแม็กซ์ผู้กำลังก้มเก็บปืนบนพื้นและไม่ได้ระวังตัว!!  ร่างสีทองอร่ามไร้แผงคอสวยงาม  แต่เขี้ยวยาวและกรงเล็บสีเงินวาวไม่ใช่เวลาที่จะชื่นชมเลยในเมื่อมันมีเลือดเปรอะ
“ม่ายยยย  แม็กซ์!!” นาร์เนียกรีดร้องลั่น  เมื่อเลือดกระจายออกมาจากบาดแผลกระเซ็นลงบนหน้าเธอ  นางสิงโตงับแขนเด็กหนุ่มจมเขี้ยว  ออกแรงลากเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยขากรรไกรแข็งแรง 
“เตือนแล้วไม่ฟังจริงๆ!” เอียนร้องอย่างหัวเสีย  วิ่งตามออกไป  ตามด้วยเกรกอรี่และแซมซั่นที่ต้องฉุดนาร์เนียไปด้วยเพราะเธอยืนช็อคอยู่กับที่ 
“ระวังไว้ด้วยนะ  สิงโตอยู่รวมกันเป็นฝูง  เมื่อกี้เป็นแค่ตัวเมียที่ออกมาหาอาหารเท่านั้น  มันคงเอาแม็กซ์ไปให้สิงโตตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ที่รออยู่ในฝูง” เอียนกล่าวเตือนเอาไว้ก่อน  คำเตือนที่ทำเอาเกรกอรี่หนาวขึ้นมาในอกทั้งๆที่อากาศร้อนแทบคลั่ง  ตัวเมียยังขนาดนี้แล้วตัวผู้หัวหน้าฝูงจะขนาดไหนกัน!
              เอียนคะเนทิศทางนางเสือจากหยาดเลือดที่ลากผ่านหญ้า  ทุ่งหญ้าหนาตาแต่เตี้ยลงราวๆเข่า  เขาอยากจะคาดการณ์ผิดเหลือเกินถึงจะรู้อยู่เต็มอกแล้วก็ตามเรื่องที่มันอยู่เป็นฝูง
              สิงโตตัวผู้หัวหน้าฝูงยืนเอาเท้าหน้าวางบนอกแม็กซ์ที่สิ้นสติไปแล้วอย่างท้าทาย  ลำตัวของมันหนาหนั่นยิ่งกว่าต้นไม้สามคนโอบ  ฝ่าเท้ามหึมาที่เพียงแค่กดเบาๆก็ป่นซี่โครงเด็กหนุ่มข้างใต้ได้สบายๆ  ร่างใหญ่ผงาดสง่าพร้อมแผงคอสีทองอร่ามล้อมรอบด้วยตัวเมียที่มีขนาดย่อมลงมาอีกสามตัว
“อะเมซซิ่งแอฟริกาสิงโตเจ้าป่า...เหอๆ...” เกรกอรี่คนกล้ายังอดรู้สึกขยาดไม่ได้...  ถึงแม้เกมส์นี้ไม่มีการตายถ้าบาดเจ็บหนักก็แค่เกมส์โอเวอร์
“เอาล่ะ  มันมีอยู่สี่ตัว  เราจะช่วยกันรุกรับแล้วแบ่งกันไปคนละตัว  ฉันไม่คิดว่าเราจะชนะแต่เอาแค่เพียงล่อให้มันออกห่างแม็กซ์แล้วจากนั้นค่อยเผ่น  โอเคมั้ย...” เอียนกระซิบเสียงแผ่วราวกับกลัวสิงโตจะได้ยิน  “เอ้อ...แล้วก็พยายามยิงที่คอมันนะ” เด็กหนุ่มปิดท้ายก่อนที่ทั้งหมดจะแยกตัววิ่งไปคนละทาง
“ยิงที่ไหนนะเอียน!” เกรกอรี่ไม่ทันฟัง  เขาตะโกนถามแต่นางสิงโตไม่เปิดโอกาสให้อีกแล้ว  ร่างใหญ่โถมเข้าหาอย่างรวดเร็วรุนแรง
“เฮ้ย!”
เปรี้ยงๆๆๆ!!
....................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น