ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ISL

    ลำดับตอนที่ #3 : To use and play

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 48


    Stage 3.  To  use  and  play

    (รู้จักใช้  รู้จักเห็น  รู้จักเป็น  รู้จักทำ)






















              ISL กลายเป็นเเฟชั่นมาเเรงภายในไม่กี่วัน  คนส่วนใหญ่ทั้งวัยรุ่น  วัยทำงาน  หรือเเม้เเต่วัยเด็กต่างสวมใส่กันหมด จึงไม่เเปลกที่จะเห็นคนมากมายยืนนิ่งอยู่กับที่ตามสถานที่ต่างๆเพราะกำลังใช้งาน ISL





              เอียนมองเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยืนนิ่งผ่านหน้าต่างห้องครัว  เขาถือส้อมจิ้มใส้กรอกค้างไว้ในขณะที่นิ่วหน้าครุ่นคิด





    \"ใส้กรอกยี่ห้อนี้ไม่อร่อยรึไง ? \"เเม่ของเอียนหรือนางกริสม่าทัก  หล่อนนั่งตรงข้ามกับลูกชาย  สีหน้าเป็นห่วงฉายชัดบนใบหน้ามีอายุ  หากเเต่ความสวยสดเมื่อวัยสาวก็ยังไม่จางหายกลับดูดีหนักเเน่นกว่าเเต่ก่อนเสียอีก





    \"เอ้อ...ไม่ใช่หรอกครับ  เเค่คิดอะไรนิดหน่อย\" เขาตอบ





    \"เหรอ...ISL ใช่มั้ย?\" นางกริสม่าเอ่ยขึ้นราวกับอ่านใจลูกชายได้  เอียนวางมือจากอาหาร  ก้มหน้าลงไม่ตอบคำ





    \"อยากได้?\"นางถามซ้ำ





    \"มะ  ไม่ใช่นะเเม่  ผม...\"





    \"รู้น่าๆอายเหรอ  กลัวเเม่จะหาว่าเป็นเด็กรึยังไงกันเเย่จริงๆ  เอ้า! \"กริสม่าโบกมือไปมา  หัวเราะคิกคักก่อนจะโยนบางอย่างให้ลูกชาย  เด็กหนุ่มรับมันไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ





    ...เเคปซูล  ISL  ใหม่เอี่ยมไม่มีร่องรอยการเเกะ  สะท้อนเเสงมันวาบกับเเดดยามเช้า...





    เอียนลูบผิวลื่นของแคปซูลพลาสติกด้วยความงงงวย  เขาพูดไม่ออกที่อยู่ดีๆสิ่งนี้ก็ตกมาอยู่ในมือเขาทั้งๆที่ไม่เคยคิดต้องการ  โดยไม่รู้ตัวว่าปฏิกิริยาของเขาถูกจับตามองอย่างพึงพอใจ  นางกริสม่ายิ้มอย่างอ่อนโยนทอดสายตามองดูลูกชายกับสิ่งที่หล่อนซื้อมาให้  หล่อนกังวลมาตลอดว่าเอียนจะมีปัญหาในการเข้าสังคม  เเทนที่เขาจะไปเที่ยวเล่นหรือตื่นตัวกับนวัตกรรมใหม่ของโลกตามประสาวัยรุ่น  เด็กหนุ่มกลับเอาเเต่มานั่งช่วยหล่อนทำงานบ้านหรือหมกตัวอ่านหนังสือ  จนไกล้เคียงกับคนที่เป็นCyberphobia(โรคเกลียดคอมพิวเตอร์)





    ...ถ้าเพียงทำให้ลูกชายมีความสุขมากขึ้นทดเเทนกับที่เสียไปกับเธอ  สนนราคาเเค่1,500เม็กยังนับว่าน้อยไปด้วยซ้ำ





    \"เเม่...\"เอียนสบตาผู้เป็นมารดา  สีหน้าไม่สู้ยินดีนัก  ยังความเเปลกใจให้กับนางเเต่ก็กลบเกลื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  





    \"ผมกำลังคิดเรื่องพ่อ...\"พลันรอยยิ้มก็จางลงเเทบจะในทันที  เกิดความเงียบขึ้นระหว่างสองเเม่ลูก  





    ต่างคนต่างคิดคำนึงถึงสิ่งที่อยู่ในใจ...







              เอียนบีบแคปซูลในกำมือเเน่นจนเเทบจะปริเเตก  รู้สึกไม่สบายใจที่พลั้งปากพูดออกไป  บรรยากาศยามเช้าที่ผ่อนคลายให้เเม่กับเขาคุยกระเซ้าเย้าเเหย่กันในตอนเเรกหายไปหมดสิ้นเหลือเพียงความเงียบกริบที่น่าอึดอัด  เรื่องมันผ่านมานานเเล้ว...  เเม่คงจะลืม...  เขาถึงได้รู้ตัวว่าไม่น่าไปพูดให้เเม่รู้สึกเเย่เลยจริงๆ





    \"ผมขอโท...\"เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าพูดขึ้นทำลายความเงียบ  เเต่ยังไม่ทันขาดคำนางกริสม่าก็คว้าจานบนโต๊ะเดินไปอีกทาง





    \"เเม่\" เอียนลุกตามไป  นางกริสม่าหันหลังให้เสียบจานลงเครื่องล้างทีละใบ





    \"ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ  ขอโทษฮะ\"





    \"พูดเรื่องอะไรกัน?\"





    \"เอ๋?\"





    \"ไปโรงเรียนได้เเล้วไป  เดี๋ยวสาย\" เเม่เอ่ยเเต่ก็ยังไม่หันมา  เอียนยืนอ้อยอิ่งรออยู่ครู่หนึ่ง  เเต่ผู้เป็นเเม่กลับค่อยๆเสียบจานทีละใบอย่างช้าๆไม่หันมาเสียที





    \"งั้น...ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ\" เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางถอนหายใจ  เมื่อเห็นว่าการสนทนาระหว่างเขากับเเม่สำหรับเช้านี้ยุติลงเเล้ว  รีรอไปเห็นจะไม่ได้อะไรขึ้นมา  เด็กหนุ่มคว้าเป้ขึ้นสะพายหลังก่อนจะออกจากบ้านไป





              นางกริสม่าล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนเเรงพร้อมๆกับเสียงประตูปิด  ดวงหน้าหม่นหมองทำให้หล่อนดูราวกับอายุเพิ่มขึ้นอีกหลายขวบปี  กี่ปีเเล้วนะที่เรื่องนี้มันผ่านไป...  นางเหลือบตามองรูปภาพกรอบเดิมบนโต๊ะข้างบันไดที่เอียนคว่ำเอาไว้  รำพึงเบาๆ







    \"...อัลเบิร์ต...\"









                                                                                              ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐







              เอียนเดินทอดน่องเข้าโรงเรียนพอดีกับเสียงกริ่งเเสบหูที่ดังก้อง  ก้าวเดินไปช้าๆในขณะที่สมองคิดการต่างๆอย่างรวดเร็ว  กำเเพงสูงสีขาวเเผ่เงาทะมึนกั้นสายตาผู้คนข้างนอกให้มองเข้ามาไม่ได้  ป้ายชื่อโรงเรียนตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าทางเข้ากว้างขวางซึ่งเป็นพื้นที่สีขาว  เอียนอ่านมันอีกครั้งเป็นรอบที่หลายพันตั้งเเต่เขาเข้าเรียนมา\"โรงเรียนมหาวิทยาลัยเบอร์กรา ซองค์ฟอร์ด\"  เป็นสิ่งเดียวที่เด็กหนุ่มคิดว่าน่ามองที่สุดในพื้นที่สีขาวจืดชืดเเห่งนี้  ตัวอักษรสีเงินทำจากโลหะมันวับที่เล่นเเสงมีประกายรุ้งน่าสนใจ  เด็กหนุ่มเคยอ่านเจอมาว่าหลังฝนตกจะเกิดการหักเหของเเสงในอากาศกลายเป็นรุ้งกินน้ำเจ็ดสีทอดตัวยาวอยู่บนฟ้า  ถ้าเป็นไปได้เขาอยากเห็นมันซักครั้งจัง...  





    เอียนสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะรีบเดินขึ้นตึกมัธยมปลาย  ลิฟต์ขนาดใหญ่ส่งเสียงหวึ่งเบาๆพาร่างเขาพุ่งขึ้นชั้นสิบเอ็ดภายในไม่กี่วินาที  \"Eleventh  grade\" คือจุดหมายปลายทาง  ประตูลิฟต์อ้าออกเผยให้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เเยกเป็นสี่ทางไปยังห้อง  A , B , C , D ตามลำดับ  เอียนมองผ่านกระจกที่ล้อมรอบห้องเเทนผนังออกไปยังพื้นด้านล่าง  ฝุ่นบางๆสีเทาขมุกขมัวลอยตัวปะปนอยู่ในอากาศเหนือพื้นดิน  ในขณะที่เมื่อมองขึ้นมาอีกนิดก็จะเห็นฟ้าใสอยู่ด้านบน  มนุษย์นี่ช่างเก่งในเรื่องทำความเสียหายให้กับโลกเสียจริง...





              เสียงพูดคุยเซ็งเเซ่เงียบกริบทันทีเมื่อเอียนก้าวเท้าเข้าไปยังห้อง  C   บรรยากาศเย็นเยือกน่าอึดอัดเเผ่ครอบคลุมไปทั่ว  ตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขากับเพื่อนเเบ่งเเยกกันประดุจน้ำกับน้ำมันที่ผสมกันไม่ได้  เอียนชินเสียเเล้วกับสายตาเย็นชาที่มองราวกับจะเสียดเเทงให้ผ่านทะลุตัวเขาไป  โดยเฉพาะพวกที่มองเขาเป็นคู่เเข่งทางการเรียน  เด็กหนุ่มไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมจะต้องให้เรื่องเเค่นี้มาบดบังความสัมพันธ์อันยาวนานที่เคยเรียนร่วมกันมาตั้งเต่เกรดหนึ่ง  การเเข่งขันทางสังคมงั้นรึ?  หรือว่าความเห็นเเก่ตัวกันเเน่?





    สุดท้าย...เอียนก็ทำได้เเค่เก็บความสงสัยไว้ในใจภายใต้ใบหน้ารียบเฉย...





    \"เอียน! ทางนี้ๆ!\" เสียงเรียกจากเเม็กซ์ที่อยู่อีกฟากนึงของห้องตะโกนมา  เกรกอรี่กับนาร์เนียกวักมือเรียกเขาให้มาช่วยสอนการบ้านเเม็กซ์กับเเซมซั่นยกใหญ่ด้วยสีหน้าราวกับพระเจ้ามาโปรด  ในขณะที่ตัวปัญหาทั้งสองนั่งยิ้มเเป้นเเล้น







    ...เเต่ก็คงยกเว้นพวกบ้านี่กระมัง...







             รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว  สายตาเย็นชาของใครต่อใครเวลานี้เขาก็ไม่สนทั้งสิ้น  เด็กหนุ่มเพียงเเค่สาวเท้าก้าวไปยังที่ๆเขาควรจะอยู่เท่านั้น







                   ในปีค.ศ.2018  โลกเกิดประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจช็อค  เนื่องมาจากการหมดลงของน้ำมัน  ทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด  ทำให้ดุลย์การเงินย่ำเเย่ลงเเทบจะเรียกได้ว่าล้มละลาย  ทรัพยากรทดเเทนอย่างอื่นถูกนำมาใช้มหาศาล  โลกก้าวเข้าสู่ภาวะอากาศเป็นพิษ  อุณหภูมิโลกร้อน  จำนวนประชากรล้น  ขาดเเคลนทรัพยากรเเละวิกฤตน้ำเเข็งขั้วโลกละลาย........





                   เสียงพากษ์คู่กับภาพสามมิติสื่อการสอนยังคงจ้อต่อไปไม่หยุด  เอียนกดเปิดโน้ตบุ๊คอัดเอาไว้  เรื่องพวกนี้เขารู้มาหมดเเล้วทั้งนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสนใจเท่าใดนัก  มือยาวล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบเเคปซูล ISL ขึ้นมาดู  หลายวันมานี้มีเรื่องให้เขาคิดไม่ตกมากมาย  เด็กหนุ่มถอนหายใจรอบเเล้วรอบเล่าไม่รู้ตัวว่าเพื่อนทั้งสี่ลอบมองอยู่ไม่ห่าง...





                  

    “เฮ้  แซมนายคิดจะไปที่ไหนกัน?” เอียนถามขึ้นเมื่อแซมซั่นคะยั้นคะยอให้เขาขึ้นรถส่วนตัวสีส้มสดหลังจากเรียนเสร็จ  ยานพาหนะแปดที่นั่งเคลื่อนที่ด้วยแรงแม่เหล็กต่างขั้วกับแบตเตอร์รี่ชาร์ต  ตัวรถไม่มีล้อเพลาหากแต่ลอยนิ่งเหนือพื้นเปิดปีกข้างหนึ่งเพื่อรับเด็กๆเข้าไป





    “ม่ายบอก--  รอดูเอาเองดีกว่าเนอะแม็กซ์  เกรก  นาร์เนีย”เด็กหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายหันไปพยักหน้าอย่างมีลับลมคมในกับที่เหลือ  ก่อนจะเอนตัวบังจอนาวิเกเตอร์เพื่อกดเลือกเป้าหมาย  รถถีบตัวลอยขึ้นออกแล่นไป





                   โดมสีขาวเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตรตั้งตระหง่านเบื้องหน้าเด็กๆ  ถึงแม้มันจะถูกห้อมล้อมด้วยตึกสูงแต่ตัวโดมกลับสูงยิ่งกว่าตึกเหล่านั้น  ข้อความดิจิตอลขนาดใหญ่วิ่งพล่านเหนือโดมบนอากาศ WeLcOmE  tO  nOrTh  PoInT  เมื่อเข้าไปไกล้เอียนจึงสังเกตได้ว่าพื้นผิวสีขาวของโดมเป็นกระจกขุ่น  





    ปี๊ป...





    ไฟแดงกระพริบที่หน้าจอนาวิเกเตอร์  เสียงสัญญาณอัตโนมัติแทรกขึ้นมาในรถ





    “คุณกำลังรุกล้ำเข้าอาณาเขตบริเวณของบริษัท North  point  กรุณาแจ้งชื่อและหมายเลขนัดภายในสิบนาที  มิฉะนั้นหน่วยปราบปรามจะออกไปแสดงตัวเพื่อจับกุมคุณในข้อหาบุกรุกสถานที่ค่ะ”





    “เฮ้ย  หน่วยปราบปรามเรอะ! อึ๋ย- - -”แม็กซ์ร้อง  สีหน้าหวาดหวั่นทันที  เพื่อนคนอื่นๆก็มีสีหน้าแย่ไม่แพ้กัน  แซมซั่นนั่งนิ่ง...ไม่พูดอะไรเลย...





    “เฮ้ย  แซม  ก็บอกรหัสผ่านไปสิจะได้ไปๆกันซักที  ไม่อยากเจอหน่วบปราบปรามยอดรักว่ะ” แม็กซ์กล่าวทีเล่นทีจริงสีหน้าเคร่งเครียด  แต่เด็กหนุ่มผมเขียวก็ยังนั่งนิ่ง...จนเวลาล่วงไปกว่าห้านาที  ด้วยความรำคาญเกรกจึงขู่ว่าถ้าไม่บอกจะชกจริงๆแซมซั่นถึงอ้าปากพูด...  





    “เพื่อนๆ...  ฉันลืมหมายเลขนัดล่ะ...”





    ผัวะ!





    “โอ๊ย---ไหนว่าไม่ชกไงถ้าบอก!!”





    “ตอบไม่ตรงประเด็นเฟ้ย  ตีรถกลับด่วนเลยถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่” เกรกอรี่ตะโกนเสียงสั่น  ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ใจคอเขาก็อกสั่นขวัญแขวนเท่านั้น





    “ไม่  ด้วยเกียรติลูกผู้ชาย  ลืมก็ต้องนึกให้ได้!  ไม่ถอย!!” แซมซั่นเกิดใจห้าวหาญขึ้นมาผิดเวลา  ทุกคนหนาวขนหัวลุกไปหมด...ไอ้บ้านี่...อยากเจอหน่วยปราบปรามนักรึไง...







    เวลาเริ่มเดินถอยหลัง...





    สิบ...  แม็กซ์เริ่มมองหารูเล็กๆรอบรถอย่างกับหนู





    เก้า...  เกรกกอรี่แทบจะหักนาวิเกเตอร์ออกมาเพราะมันไม่ยอมถอยรถตามที่สั่ง





    แปด...  เอียนนั่งนึกถึงกฎหมายเกี่ยวกับการประกันตัวหลังจากถูกจับกุม





    เจ็ด...  นาร์เนียหยิบกระติกน้ำชาขึ้นมาจิบ  ถ้าชวนหน่วยปราบปรามกินจะช่วยได้มั้ยน้า?





    หก...  แม็กซ์ทุบกระจกเหมือนลิงบ้า  ตะโกนหนวกหู “เอาชั้นออกป้ายยยย!!!”





    ห้า...เกรกอรี่หักนิ้วกร๊อบแกร๊บชกใส่กระจก  แต่เสียใจ...มันไม่แตก





    สี่...  เอียนทำใจ  คิดซะว่าประสบการณ์ใหม่ในชีวิต





    สาม... นาร์เนียหยิบคุกกี้ช็อกโกแลตชิพขึ้นมาชวนเอียนกิน  





    สอง...  แม็กซ์ร้องหนวกหูมากกว่าเดิม  เกรกอรี่เอานาฬิกามาใส่เป็นสนับมือเตรียมสู้  เอียนท่องกฎหมายการประกันตัวซ้ำกินคุกกี้ไปพลาง  นาร์เนียจัดจานน้ำชาคุกกี้ห้าชุดเตรียมต้อนรับ





    หนึ่ง...     “แซมซั่น  ลัสต์  ADF390”







    ปี๊บ...  ไฟบนนาวิเกเตอร์กลายเป็นสีเขียว







    “ยินดีต้อนรับค่ะ  คุณแซมซั่น  ลัสต์  หมายเลขนัด ADF390  เชิญที่ลานจอดรถเบต้าโซน  ฟากขวาค่ะ”





    “ฮ่าๆๆๆฉันแสดงละครเก่งมะ?” แซมซั่นเอ่ยอารมณ์ดี





    “แล้วตกลงว่านายพาพวกเรามาทำอะไรที่นี่?”เอียนยังไม่วายสงสัย





    “มาเล่นเกมส์” เจ้าตัวตอบหน้าระรื่น





    “อืมโอเค  ถามเสร็จแล้ว  เชิญลงมือได้”เอียนยกมือที่กั้นไว้ออก





    แม็กซ์กับเกรกอรี่กระโจนเข้าใส่แซมซั่น “แสดงละครเก่งอะไรของแก๊!!!!”

























    เอาละครับ

    ประเดิมคำถามเเรกเลยนะ

    ที่ถามว่าตาคนได้รับกระเเสไฟฟ้าตลอดเนี่ยไม่เป็นไรหรือ?

    ขอบอกว่าร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกนี้จะเคลื่อนไหวได้ก็เพราะกระเเสไฟฟ้าอ่อนๆในร่างกาย

    จะเรียกได้ว่ามันเป็นส่วนประกอบสำคัญเลยก็ว่าได้ครับ  สมองสั่งการด้วยกระเเสไฟฟ้าผ่านเส้นประสาท

    ไปยังกล้ามเนื้อหรืออวัยวะครับ  ตาคนก็มีกระเเสไฟฟ้า  ผิวหนัง  ทั่วตัวเลย

    (เคยมั้ยครับที่ตัวของคุณพอสัมผัสกับผิวคนอื่นเเล้วมันเเปล๊บๆเหมือนไฟช๊อต  นั่นเเหละไฟฟ้าล่ะ)

    สรุปว่าไม่มีอันตราย  ไม่เป็นอะไรครับ



    ขอขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมชมกัน



    CYBORG(nina ไม่ส่งต้นฉบับเล้ย)





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×