ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cyborg

    ลำดับตอนที่ #2 : Nina Rayard

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 48


    Stage 2.  Nina  Rayard

    (การเรียกชื่อของคนเราคือการย้ำเตือนถึงการมีอยู่)












                   แสงแดดยามเช้าลอดผ้าม่านเนื้อบางเข้ามาสู่ห้องนอน  ร่างเล็กๆของเด็กหญิงคุดคู้ขดตัวภายใต้ผ้าห่มหนา  ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งว่ากำลังอยู่ในอาการหลับลึก  บริเวณหัวเตียงของเธอเต็มไปด้วยเหล่าตุ๊กตามากมายหลายแบบยังไม่นับสติกเกอร์นานาลักษณะที่แปะเต็มผนังสีครีมรอบห้อง  โต๊ะหนังสือตั้งอยู่มุมห้องมีแต่สมุดกับเครื่องเขียนสีน้ำวางระเกะระกะ





                   ผมดูเวลาไปพลางขณะเก็บของบนพื้นเข้าที่เดิม  





                   อีกเดี๋ยวก็ปลุกได้แล้วมั้ง...





                   เป็นเวลากว่าสิบสองปีนับตั้งแต่นีน่าเกิดมาผมก็ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้   ดูแลเธอในฐานะหุ่นยนต์พี่เลี้ยงแทนนายท่านกับนายหญิงซึ่งทำงานตลอดจนแทบจะไม่ได้กลับมาเหยียบย่างบ้านตัวเอง  ผมเปิดม่านให้แสงเข้าไล่บรรยากาศซึมเซาง่วงงุน





    “ตื่นเถอะครับคุณหนู”ผมเอ่ย  เขย่าตัวเธอเบาๆ





    “อือ...อื้อ”เธอครางลืมตาตื่นอย่างไม่สู้เต็มใจนัก  แต่ก็ลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย





    “ไปอาบน้ำเถอะครับ  เดี๋ยวผมจะได้ไปเตรียมอาหารเช้าให้”





    “อืม...” นีน่าตอบรับก่อนจะเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ







                    ตัวผมนั้น  เป็นหุ่นยนต์ดัดแปลงไซบอร์กรุ่น D1 ใช้ระบบโปรแกรมแบบ AI(*) ในการทำงาน  โดยภายนอกจะดูเหมือนมนุษย์รูปร่างสูงธรรมดาหากแต่สังเกตแผงเชื่อมต่อบริเวณคอได้  ที่เรียกมนุษย์ดัดแปลงนั้นเป็นเพราะรุ่นผมถูกออกแบบมาให้มีอวัยวะเช่นคนจริงๆ(ผมรู้ดี  เพื่อที่ผู้สร้างจะได้ทำลายทิ้งหรือฆ่าโดยง่ายถ้าผมมีปัญหา)  ผมยอมรับว่าตกรุ่นมานานโขแล้ว  ถึงจะพยายามอัพเดตแค่ไหนก็ยังมีสมรรถนะต่ำกว่าหุ่นรุ่นใหม่ๆอยู่ดี  นายท่านกับนายหญิงเห็นแก่นีน่าที่ติดผมแจไม่ยอมให้ทิ้งซื้อตัวใหม่ผมถึงยังคงมีตัวมีตนอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ต้องโดนถอดเป็นเศษเหล็กยิบย่อย  





    “นี่  วันนี้มีอะไรกินบ้างเหรอแมป?” เสียงนีน่าถามดังขึ้นข้างตัว  ผมสะดุ้งเล็กน้อย...  น่าขำจริง  เป็นหุ่นยนต์ยังอุตส่าห์ตกใจเป็นด้วยแฮะ  ผมหันไปมองเธอ







                   เด็กหญิงสวมชุดกระโปรงเอี๊ยมลายสก็อตทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด  ใบหน้าแจ่มใสยิ้มทักทายยามเช้าเหมือนครั้งแรกที่ผมเห็นเธอครั้งยังเป็นทารกเมื่อสิบสองปีที่แล้ว   ผมน้ำตาลอ่อนนุ่มมัดเป็นหางม้ารอเวลาให้ผมไปถักเปียให้





    “แพนเค้ก  แฮม  แล้วก็นมสดครับคุณหนู”ผมตอบ  ก่อนจะโยนแพนเค้กลงบนจานอย่างแม่นยำ  เสิร์ฟลงบนโต๊ะ  จัดที่ให้นีน่านั่ง





    “อี้  แอป...หยับๆ”





    “เคี้ยวให้เสร็จก่อนสิครับคุณหนู  ไม่น่าดูเลย”





    “อึ้ก  เดี๋ยวไปวาดรูปที่พิพิธภัณฑ์ต้นไม้กันนะ”





    “ครับ”







                   วันเสาร์เช่นนี้  นีน่ามักขอให้ผมพาไปวาดรูปเล่นนอกบ้านจนหมดวัน  หลังจากจัดแจงอาหารเช้าเสร็จ  ผมและเธอก็ออกเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์







                   ที่นี่เป็นโดมกระจกขนาดใหญ่  ต้นไม้นานาชนิดจะถูกกั้นรั้วลวดอย่างดีเพื่อป้องกันมิให้คนมือบอนเด็ดทึ้งเล่น  แต่ละชนิดห้อยป้ายบอกที่มา  ชื่อรวมถึงสายพันธุ์อย่างละเอียด  มีหุ่นยนต์รุ่นล่ายืนอยู่ข้างๆคอยตอบคำถามและแนะนำ  ยิ่งต้นที่ไกล้สูญพันธุ์แล้วยิ่งถึงขั้นกั้นกระจกหนาล้อมรอบเพราะมูลค่าของต้นไม้นั้นสูงมาก  หาได้ยากเต็มทีในค.ศ. 2079 เช่นนี้   คนที่มาที่นี่น้อยจนแทบจะนับได้  มุมโปรดของนีน่าก็คือสวนส่วนแปลงดอกไม้







                   เราหนึ่งคนกับอีกหนึ่งหุ่นยนต์นั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางดอกไม้หลากสีภายในตู้กระจก







    “นี่น้องมาทำอะไรที่นี่จ้ะ?  มาเที่ยวกับคุณพ่อเหรอ...” เสียงแตกห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง  พวกมันมาเป็นกลุ่มหลายคนยืนล้อมรอบโต๊ะที่ผมกับนีน่านั่ง  ทรงผมสีฉูดฉาดลานตาของแต่ละคนไม่ได้เข้ากับใบหน้าอันอุดมไปด้วยสิวของพวกมันเลยซักนิด







                   คงเห็นว่ามีแค่สองคนมานั่งในที่อับ  เลยคิดจะมาไถเงินสินะ...ผมคิดพลางหันไปเผชิญหน้าอยู่ในสภาพพร้อมปกป้องนีน่า  เผื่อสถานการณ์จะไม่สู้ดี







    “เอ๊ะ  อ้าว  ไม่ใช่คุณพ่อนี่นา  หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเรอะ” คนที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ย  “แต่ก็ไม่เป็นไร  คนอย่างพี่ใจดีกับเด็กอยู่แล้ว...แถวนี้มันมีคนไม่ดีอยู่เยอะนา  ถ้ายังไงจ่ายมาซักห้า-หกเม็กกะไบท์พี่จะคอยดูแลให้” เด็กหนุ่มแสร้งยิ้มจริงใจ  แบมือขอเงินอย่างหน้าด้านๆ





    “อย่ามาเรียกแมปว่าหุ่นยนต์นะ!!” นีน่าตวาดใส่หน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว  เธอโกรธจนหน้าแดง  ไม่ได้ฟังที่เด็กหนุ่มพูดไปแม้แต่นิดเดียว





    “หา?  ก็มันเป็นหุ่นกระป๋องจริงๆนี่หว่า  ดูแล้วก็ตกรุ่นมานานนมเนซะด้วยสิ  พี่พูดอะไรผิดรึไงเล่าน้องสาว...” เด็กหนุ่มกล่าว  หางคิ้วเริ่มกระตุกนิดๆด้วยความโกรธ  “แล้วยังตั้งชื่อให้มันอีกเรอะ  เฮอะ...มันไม่มีชีวิตซะหน่อย





    “อย่าครับคุณหนู!!”





    ผัวะ!...นีน่ากระโดดชกเด็กหนุ่มเต็มแรง  ถึงแม้แรงเด็กผู้หญิงตัวน้อยอาจจะไม่มาก  แต่นี่เธอพุ่งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้เพิ่มแรงส่ง





    “หนอย!!! นังเด็กอวดดี  ตอนแรกเห็นว่าเป็นเด็กจะไม่ลงมือแท้ๆ!! ถ้าไม่ให้เงินดีๆก็ต้องใช้กำลังบังคับแล้ว” นักเลงอ่อนวัยกลุ้มรุมหมายจับเด็กหญิงขึงกับพื้น  ผมดึงเธอมาไว้ในอกกระชับแน่น  ออกวิ่งหนีฝ่าหมัดและเท้าออกมา  กลุ่มอันธพาลรุ่นเยาว์วิ่งตามอย่างไม่ลดละ  แต่แรงคนมีหรือจะสู้แรงเครื่องจักรได้  สักพักเด็กหนุ่มเหล่านั้นก็วิ่งไล่ไม่ทันและหายลับไปจากสายตา





    “ปลอดภัยแล้วครับคุณหนู...”ผมปล่อยเธอลงบนพื้น  “เสื้อคุณหนูยับหมดเลย  เดี๋ยวผมจัดให้  ยืนนิ่งๆสักพักนะครับ”







                   นีน่าปัดมือผมออกไม่ยอมให้จัดเสื้อ







    “บ้าไปแล้วเหรอแมป! ทำไมเมื่อกี้ถึงไม่ตอบโต้” เด็กหญิงเงยหน้าตะเบ็งเสียงใส่ผม  น้ำตาไหลพรากอาบแก้มใส  





    “คุณหนูก็น่าจะรู้...  ผมมีโปรแกรมคำสั่งสามข้อที่เจาะจงว่าห้ามทำร้ายมนุษย์ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม  ผมตอบโต้ไม่ได้...”





    “โง่ๆๆๆๆๆที่สุด!โปรแกรมบ้าอะไรนั่นน่ะ” เธอร้องอย่างเหลืออด  “ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย  ดูสารรูปเธอสิ...ฮือ...”  นีน่าร้องให้พลางดึงผมให้นั่งลงบนพื้น  เธอลูบใบหน้าและเสื้อผ้าที่มอมแมมเลอะเทอะจากการโดนรุมของผม  ผมไม่รู้สึกเจ็บก็จริง  แต่เธอก็ยังยืนกรานจะขอพันผ้าพันแผลให้เมื่อกลับไปถึงบ้าน





    “มันว่าๆเธอไม่ใช่คน  แย่ที่สุด  ฮึก...”





    “ก็มันจริงนี่ครับคุณหนู  ผมไม่ใช่คน  ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นคน  ผมเป็นแค่หุ่นยนต์ดัดแปลงที่ตกรุ่นหาได้เกลื่อนกลาดก็เท่านั้น” ผมเอ่ยพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน





    “ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดนะ! แมปมีเพียงคนเดียวสำหรับฉันเท่านั้น  ชื่อนี่ไงบอกถึงการมีตัวตนคงอยู่ของเธอ  แมป!” นีน่าพูดใส่อารมณ์  น้ำตาหยาดเล็กๆคลอรอบดวงตาสีนิลสดสวย  นัยน์ตาที่สบกับดวงตากลสีเขียวของผมบอกถึงความรู้สึกทุกอย่างที่เธอมี







                   ...สมองกลของผมเต้นแผ่วเบาด้วยท่วงทีสงบนิ่ง   มันคืออะไรกันนะ  สิ่งที่เกิดผุดขึ้นมาภายในโปรแกรมซับซ้อน...  







                   ...ไม่รู้สิ...







                   ....รู้แต่เพียงว่า...อยากจะอยู่กับเด็กคนนี้เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ







                   ไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม  อยากจะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของเธอเอาไว้ไม่ให้สูญสลาย  โอบอุ้ม  คอยดูแลจนกว่าเธอจะเติบโต  สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งในอนาคต...  







    ผมลูบหัวนีน่าอย่างแผ่วเบา













    “คุณหนู  เย็นนี้เดี๋ยวผมทำพายเนื้อของชอบให้ทาน  กลับบ้านกันเถอะครับ”































    NINA AND CYBORG



              เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องหลัก ISL ครับ  เป็นเรื่องที่คนเขียนอยากเเจมโดยตรง

    อ่านไปก็อย่าคิดมากครับ  เอ้อ...เเล้วก็เครื่องหมาย(*)นี้หมายถึงมีคำอธิบายด้านล่างนะครับ



    AI(*)  หรือ Artifical  Intelligence  ก็คือโปรเเกรมที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโลยีปัญญาประดิษฐ์  ช่วยให้คอมพิวเตอร์

                       สามารถคิดตัดสินใจได้ไกล้เคียงกับมนุษย์  โดยอาศัยระบบของฐานความรู้(Knowledge  Base)  ที่มาจากการ

                       รวบรวมเเละสร้างความรู้สั่งสมไว้ในคอมพิวเตอร์





    อ้างอิงจาก  หนังสือก้าวทันโลกคอมพิวเตอร์  สาโรจน์  เกษมสุขโชติกุล





    ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×