ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Nina Rayard
Stage 2.  Nina  Rayard
(การเรียกชื่อของคนเราคือการย้ำเตือนถึงการมีอยู่)
              แสงแดดยามเช้าลอดผ้าม่านเนื้อบางเข้ามาสู่ห้องนอน  ร่างเล็กๆของเด็กหญิงคุดคู้ขดตัวภายใต้ผ้าห่มหนา  ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งว่ากำลังอยู่ในอาการหลับลึก  บริเวณหัวเตียงของเธอเต็มไปด้วยเหล่าตุ๊กตามากมายหลายแบบยังไม่นับสติกเกอร์นานาลักษณะที่แปะเต็มผนังสีครีมรอบห้อง  โต๊ะหนังสือตั้งอยู่มุมห้องมีแต่สมุดกับเครื่องเขียนสีน้ำวางระเกะระกะ
              ผมดูเวลาไปพลางขณะเก็บของบนพื้นเข้าที่เดิม 
              อีกเดี๋ยวก็ปลุกได้แล้วมั้ง...
              เป็นเวลากว่าสิบสองปีนับตั้งแต่นีน่าเกิดมาผมก็ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้  ดูแลเธอในฐานะหุ่นยนต์พี่เลี้ยงแทนนายท่านกับนายหญิงซึ่งทำงานตลอดจนแทบจะไม่ได้กลับมาเหยียบย่างบ้านตัวเอง  ผมเปิดม่านให้แสงเข้าไล่บรรยากาศซึมเซาง่วงงุน
“ตื่นเถอะครับคุณหนู”ผมเอ่ย  เขย่าตัวเธอเบาๆ
“อือ...อื้อ”เธอครางลืมตาตื่นอย่างไม่สู้เต็มใจนัก  แต่ก็ลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย
“ไปอาบน้ำเถอะครับ  เดี๋ยวผมจะได้ไปเตรียมอาหารเช้าให้”
“อืม...” นีน่าตอบรับก่อนจะเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ
                ตัวผมนั้น  เป็นหุ่นยนต์ดัดแปลงไซบอร์กรุ่น D1 ใช้ระบบโปรแกรมแบบ AI(*) ในการทำงาน  โดยภายนอกจะดูเหมือนมนุษย์รูปร่างสูงธรรมดาหากแต่สังเกตแผงเชื่อมต่อบริเวณคอได้  ที่เรียกมนุษย์ดัดแปลงนั้นเป็นเพราะรุ่นผมถูกออกแบบมาให้มีอวัยวะเช่นคนจริงๆ(ผมรู้ดี  เพื่อที่ผู้สร้างจะได้ทำลายทิ้งหรือฆ่าโดยง่ายถ้าผมมีปัญหา)  ผมยอมรับว่าตกรุ่นมานานโขแล้ว  ถึงจะพยายามอัพเดตแค่ไหนก็ยังมีสมรรถนะต่ำกว่าหุ่นรุ่นใหม่ๆอยู่ดี  นายท่านกับนายหญิงเห็นแก่นีน่าที่ติดผมแจไม่ยอมให้ทิ้งซื้อตัวใหม่ผมถึงยังคงมีตัวมีตนอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ต้องโดนถอดเป็นเศษเหล็กยิบย่อย 
“นี่  วันนี้มีอะไรกินบ้างเหรอแมป?” เสียงนีน่าถามดังขึ้นข้างตัว  ผมสะดุ้งเล็กน้อย...  น่าขำจริง  เป็นหุ่นยนต์ยังอุตส่าห์ตกใจเป็นด้วยแฮะ  ผมหันไปมองเธอ
              เด็กหญิงสวมชุดกระโปรงเอี๊ยมลายสก็อตทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด  ใบหน้าแจ่มใสยิ้มทักทายยามเช้าเหมือนครั้งแรกที่ผมเห็นเธอครั้งยังเป็นทารกเมื่อสิบสองปีที่แล้ว  ผมน้ำตาลอ่อนนุ่มมัดเป็นหางม้ารอเวลาให้ผมไปถักเปียให้
“แพนเค้ก  แฮม  แล้วก็นมสดครับคุณหนู”ผมตอบ  ก่อนจะโยนแพนเค้กลงบนจานอย่างแม่นยำ  เสิร์ฟลงบนโต๊ะ  จัดที่ให้นีน่านั่ง
“อี้  แอป...หยับๆ”
“เคี้ยวให้เสร็จก่อนสิครับคุณหนู  ไม่น่าดูเลย”
“อึ้ก  เดี๋ยวไปวาดรูปที่พิพิธภัณฑ์ต้นไม้กันนะ”
“ครับ”
              วันเสาร์เช่นนี้  นีน่ามักขอให้ผมพาไปวาดรูปเล่นนอกบ้านจนหมดวัน  หลังจากจัดแจงอาหารเช้าเสร็จ  ผมและเธอก็ออกเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์
              ที่นี่เป็นโดมกระจกขนาดใหญ่  ต้นไม้นานาชนิดจะถูกกั้นรั้วลวดอย่างดีเพื่อป้องกันมิให้คนมือบอนเด็ดทึ้งเล่น  แต่ละชนิดห้อยป้ายบอกที่มา  ชื่อรวมถึงสายพันธุ์อย่างละเอียด  มีหุ่นยนต์รุ่นล่ายืนอยู่ข้างๆคอยตอบคำถามและแนะนำ  ยิ่งต้นที่ไกล้สูญพันธุ์แล้วยิ่งถึงขั้นกั้นกระจกหนาล้อมรอบเพราะมูลค่าของต้นไม้นั้นสูงมาก  หาได้ยากเต็มทีในค.ศ. 2079 เช่นนี้  คนที่มาที่นี่น้อยจนแทบจะนับได้  มุมโปรดของนีน่าก็คือสวนส่วนแปลงดอกไม้
              เราหนึ่งคนกับอีกหนึ่งหุ่นยนต์นั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางดอกไม้หลากสีภายในตู้กระจก
“นี่น้องมาทำอะไรที่นี่จ้ะ?  มาเที่ยวกับคุณพ่อเหรอ...” เสียงแตกห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง  พวกมันมาเป็นกลุ่มหลายคนยืนล้อมรอบโต๊ะที่ผมกับนีน่านั่ง  ทรงผมสีฉูดฉาดลานตาของแต่ละคนไม่ได้เข้ากับใบหน้าอันอุดมไปด้วยสิวของพวกมันเลยซักนิด
              คงเห็นว่ามีแค่สองคนมานั่งในที่อับ  เลยคิดจะมาไถเงินสินะ...ผมคิดพลางหันไปเผชิญหน้าอยู่ในสภาพพร้อมปกป้องนีน่า  เผื่อสถานการณ์จะไม่สู้ดี
“เอ๊ะ  อ้าว  ไม่ใช่คุณพ่อนี่นา  หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเรอะ” คนที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ย  “แต่ก็ไม่เป็นไร  คนอย่างพี่ใจดีกับเด็กอยู่แล้ว...แถวนี้มันมีคนไม่ดีอยู่เยอะนา  ถ้ายังไงจ่ายมาซักห้า-หกเม็กกะไบท์พี่จะคอยดูแลให้” เด็กหนุ่มแสร้งยิ้มจริงใจ  แบมือขอเงินอย่างหน้าด้านๆ
“อย่ามาเรียกแมปว่าหุ่นยนต์นะ!!” นีน่าตวาดใส่หน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว  เธอโกรธจนหน้าแดง  ไม่ได้ฟังที่เด็กหนุ่มพูดไปแม้แต่นิดเดียว
“หา?  ก็มันเป็นหุ่นกระป๋องจริงๆนี่หว่า  ดูแล้วก็ตกรุ่นมานานนมเนซะด้วยสิ  พี่พูดอะไรผิดรึไงเล่าน้องสาว...” เด็กหนุ่มกล่าว  หางคิ้วเริ่มกระตุกนิดๆด้วยความโกรธ  “แล้วยังตั้งชื่อให้มันอีกเรอะ  เฮอะ...มันไม่มีชีวิตซะหน่อย”
“อย่าครับคุณหนู!!”
ผัวะ!...นีน่ากระโดดชกเด็กหนุ่มเต็มแรง  ถึงแม้แรงเด็กผู้หญิงตัวน้อยอาจจะไม่มาก  แต่นี่เธอพุ่งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้เพิ่มแรงส่ง
“หนอย!!! นังเด็กอวดดี  ตอนแรกเห็นว่าเป็นเด็กจะไม่ลงมือแท้ๆ!! ถ้าไม่ให้เงินดีๆก็ต้องใช้กำลังบังคับแล้ว” นักเลงอ่อนวัยกลุ้มรุมหมายจับเด็กหญิงขึงกับพื้น  ผมดึงเธอมาไว้ในอกกระชับแน่น  ออกวิ่งหนีฝ่าหมัดและเท้าออกมา  กลุ่มอันธพาลรุ่นเยาว์วิ่งตามอย่างไม่ลดละ  แต่แรงคนมีหรือจะสู้แรงเครื่องจักรได้  สักพักเด็กหนุ่มเหล่านั้นก็วิ่งไล่ไม่ทันและหายลับไปจากสายตา
“ปลอดภัยแล้วครับคุณหนู...”ผมปล่อยเธอลงบนพื้น  “เสื้อคุณหนูยับหมดเลย  เดี๋ยวผมจัดให้  ยืนนิ่งๆสักพักนะครับ”
              นีน่าปัดมือผมออกไม่ยอมให้จัดเสื้อ
“บ้าไปแล้วเหรอแมป! ทำไมเมื่อกี้ถึงไม่ตอบโต้” เด็กหญิงเงยหน้าตะเบ็งเสียงใส่ผม  น้ำตาไหลพรากอาบแก้มใส 
“คุณหนูก็น่าจะรู้...  ผมมีโปรแกรมคำสั่งสามข้อที่เจาะจงว่าห้ามทำร้ายมนุษย์ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม  ผมตอบโต้ไม่ได้...”
“โง่ๆๆๆๆๆที่สุด!โปรแกรมบ้าอะไรนั่นน่ะ” เธอร้องอย่างเหลืออด  “ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย  ดูสารรูปเธอสิ...ฮือ...”  นีน่าร้องให้พลางดึงผมให้นั่งลงบนพื้น  เธอลูบใบหน้าและเสื้อผ้าที่มอมแมมเลอะเทอะจากการโดนรุมของผม  ผมไม่รู้สึกเจ็บก็จริง  แต่เธอก็ยังยืนกรานจะขอพันผ้าพันแผลให้เมื่อกลับไปถึงบ้าน
“มันว่าๆเธอไม่ใช่คน  แย่ที่สุด  ฮึก...”
“ก็มันจริงนี่ครับคุณหนู  ผมไม่ใช่คน  ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นคน  ผมเป็นแค่หุ่นยนต์ดัดแปลงที่ตกรุ่นหาได้เกลื่อนกลาดก็เท่านั้น” ผมเอ่ยพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดนะ! แมปมีเพียงคนเดียวสำหรับฉันเท่านั้น  ชื่อนี่ไงบอกถึงการมีตัวตนคงอยู่ของเธอ  แมป!” นีน่าพูดใส่อารมณ์  น้ำตาหยาดเล็กๆคลอรอบดวงตาสีนิลสดสวย  นัยน์ตาที่สบกับดวงตากลสีเขียวของผมบอกถึงความรู้สึกทุกอย่างที่เธอมี
              ...สมองกลของผมเต้นแผ่วเบาด้วยท่วงทีสงบนิ่ง  มันคืออะไรกันนะ  สิ่งที่เกิดผุดขึ้นมาภายในโปรแกรมซับซ้อน... 
              ...ไม่รู้สิ...
              ....รู้แต่เพียงว่า...อยากจะอยู่กับเด็กคนนี้เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ
              ไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม  อยากจะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของเธอเอาไว้ไม่ให้สูญสลาย  โอบอุ้ม  คอยดูแลจนกว่าเธอจะเติบโต  สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งในอนาคต... 
ผมลูบหัวนีน่าอย่างแผ่วเบา
“คุณหนู  เย็นนี้เดี๋ยวผมทำพายเนื้อของชอบให้ทาน  กลับบ้านกันเถอะครับ”
NINA AND CYBORG
          เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องหลัก ISL ครับ  เป็นเรื่องที่คนเขียนอยากเเจมโดยตรง
อ่านไปก็อย่าคิดมากครับ  เอ้อ...เเล้วก็เครื่องหมาย(*)นี้หมายถึงมีคำอธิบายด้านล่างนะครับ
AI(*)  หรือ Artifical  Intelligence  ก็คือโปรเเกรมที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโลยีปัญญาประดิษฐ์  ช่วยให้คอมพิวเตอร์
                  สามารถคิดตัดสินใจได้ไกล้เคียงกับมนุษย์  โดยอาศัยระบบของฐานความรู้(Knowledge  Base)  ที่มาจากการ
                  รวบรวมเเละสร้างความรู้สั่งสมไว้ในคอมพิวเตอร์
อ้างอิงจาก  หนังสือก้าวทันโลกคอมพิวเตอร์  สาโรจน์  เกษมสุขโชติกุล
ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ
(การเรียกชื่อของคนเราคือการย้ำเตือนถึงการมีอยู่)
              แสงแดดยามเช้าลอดผ้าม่านเนื้อบางเข้ามาสู่ห้องนอน  ร่างเล็กๆของเด็กหญิงคุดคู้ขดตัวภายใต้ผ้าห่มหนา  ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งว่ากำลังอยู่ในอาการหลับลึก  บริเวณหัวเตียงของเธอเต็มไปด้วยเหล่าตุ๊กตามากมายหลายแบบยังไม่นับสติกเกอร์นานาลักษณะที่แปะเต็มผนังสีครีมรอบห้อง  โต๊ะหนังสือตั้งอยู่มุมห้องมีแต่สมุดกับเครื่องเขียนสีน้ำวางระเกะระกะ
              ผมดูเวลาไปพลางขณะเก็บของบนพื้นเข้าที่เดิม 
              อีกเดี๋ยวก็ปลุกได้แล้วมั้ง...
              เป็นเวลากว่าสิบสองปีนับตั้งแต่นีน่าเกิดมาผมก็ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้  ดูแลเธอในฐานะหุ่นยนต์พี่เลี้ยงแทนนายท่านกับนายหญิงซึ่งทำงานตลอดจนแทบจะไม่ได้กลับมาเหยียบย่างบ้านตัวเอง  ผมเปิดม่านให้แสงเข้าไล่บรรยากาศซึมเซาง่วงงุน
“ตื่นเถอะครับคุณหนู”ผมเอ่ย  เขย่าตัวเธอเบาๆ
“อือ...อื้อ”เธอครางลืมตาตื่นอย่างไม่สู้เต็มใจนัก  แต่ก็ลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย
“ไปอาบน้ำเถอะครับ  เดี๋ยวผมจะได้ไปเตรียมอาหารเช้าให้”
“อืม...” นีน่าตอบรับก่อนจะเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ
                ตัวผมนั้น  เป็นหุ่นยนต์ดัดแปลงไซบอร์กรุ่น D1 ใช้ระบบโปรแกรมแบบ AI(*) ในการทำงาน  โดยภายนอกจะดูเหมือนมนุษย์รูปร่างสูงธรรมดาหากแต่สังเกตแผงเชื่อมต่อบริเวณคอได้  ที่เรียกมนุษย์ดัดแปลงนั้นเป็นเพราะรุ่นผมถูกออกแบบมาให้มีอวัยวะเช่นคนจริงๆ(ผมรู้ดี  เพื่อที่ผู้สร้างจะได้ทำลายทิ้งหรือฆ่าโดยง่ายถ้าผมมีปัญหา)  ผมยอมรับว่าตกรุ่นมานานโขแล้ว  ถึงจะพยายามอัพเดตแค่ไหนก็ยังมีสมรรถนะต่ำกว่าหุ่นรุ่นใหม่ๆอยู่ดี  นายท่านกับนายหญิงเห็นแก่นีน่าที่ติดผมแจไม่ยอมให้ทิ้งซื้อตัวใหม่ผมถึงยังคงมีตัวมีตนอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ต้องโดนถอดเป็นเศษเหล็กยิบย่อย 
“นี่  วันนี้มีอะไรกินบ้างเหรอแมป?” เสียงนีน่าถามดังขึ้นข้างตัว  ผมสะดุ้งเล็กน้อย...  น่าขำจริง  เป็นหุ่นยนต์ยังอุตส่าห์ตกใจเป็นด้วยแฮะ  ผมหันไปมองเธอ
              เด็กหญิงสวมชุดกระโปรงเอี๊ยมลายสก็อตทับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด  ใบหน้าแจ่มใสยิ้มทักทายยามเช้าเหมือนครั้งแรกที่ผมเห็นเธอครั้งยังเป็นทารกเมื่อสิบสองปีที่แล้ว  ผมน้ำตาลอ่อนนุ่มมัดเป็นหางม้ารอเวลาให้ผมไปถักเปียให้
“แพนเค้ก  แฮม  แล้วก็นมสดครับคุณหนู”ผมตอบ  ก่อนจะโยนแพนเค้กลงบนจานอย่างแม่นยำ  เสิร์ฟลงบนโต๊ะ  จัดที่ให้นีน่านั่ง
“อี้  แอป...หยับๆ”
“เคี้ยวให้เสร็จก่อนสิครับคุณหนู  ไม่น่าดูเลย”
“อึ้ก  เดี๋ยวไปวาดรูปที่พิพิธภัณฑ์ต้นไม้กันนะ”
“ครับ”
              วันเสาร์เช่นนี้  นีน่ามักขอให้ผมพาไปวาดรูปเล่นนอกบ้านจนหมดวัน  หลังจากจัดแจงอาหารเช้าเสร็จ  ผมและเธอก็ออกเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์
              ที่นี่เป็นโดมกระจกขนาดใหญ่  ต้นไม้นานาชนิดจะถูกกั้นรั้วลวดอย่างดีเพื่อป้องกันมิให้คนมือบอนเด็ดทึ้งเล่น  แต่ละชนิดห้อยป้ายบอกที่มา  ชื่อรวมถึงสายพันธุ์อย่างละเอียด  มีหุ่นยนต์รุ่นล่ายืนอยู่ข้างๆคอยตอบคำถามและแนะนำ  ยิ่งต้นที่ไกล้สูญพันธุ์แล้วยิ่งถึงขั้นกั้นกระจกหนาล้อมรอบเพราะมูลค่าของต้นไม้นั้นสูงมาก  หาได้ยากเต็มทีในค.ศ. 2079 เช่นนี้  คนที่มาที่นี่น้อยจนแทบจะนับได้  มุมโปรดของนีน่าก็คือสวนส่วนแปลงดอกไม้
              เราหนึ่งคนกับอีกหนึ่งหุ่นยนต์นั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางดอกไม้หลากสีภายในตู้กระจก
“นี่น้องมาทำอะไรที่นี่จ้ะ?  มาเที่ยวกับคุณพ่อเหรอ...” เสียงแตกห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง  พวกมันมาเป็นกลุ่มหลายคนยืนล้อมรอบโต๊ะที่ผมกับนีน่านั่ง  ทรงผมสีฉูดฉาดลานตาของแต่ละคนไม่ได้เข้ากับใบหน้าอันอุดมไปด้วยสิวของพวกมันเลยซักนิด
              คงเห็นว่ามีแค่สองคนมานั่งในที่อับ  เลยคิดจะมาไถเงินสินะ...ผมคิดพลางหันไปเผชิญหน้าอยู่ในสภาพพร้อมปกป้องนีน่า  เผื่อสถานการณ์จะไม่สู้ดี
“เอ๊ะ  อ้าว  ไม่ใช่คุณพ่อนี่นา  หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเรอะ” คนที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ย  “แต่ก็ไม่เป็นไร  คนอย่างพี่ใจดีกับเด็กอยู่แล้ว...แถวนี้มันมีคนไม่ดีอยู่เยอะนา  ถ้ายังไงจ่ายมาซักห้า-หกเม็กกะไบท์พี่จะคอยดูแลให้” เด็กหนุ่มแสร้งยิ้มจริงใจ  แบมือขอเงินอย่างหน้าด้านๆ
“อย่ามาเรียกแมปว่าหุ่นยนต์นะ!!” นีน่าตวาดใส่หน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว  เธอโกรธจนหน้าแดง  ไม่ได้ฟังที่เด็กหนุ่มพูดไปแม้แต่นิดเดียว
“หา?  ก็มันเป็นหุ่นกระป๋องจริงๆนี่หว่า  ดูแล้วก็ตกรุ่นมานานนมเนซะด้วยสิ  พี่พูดอะไรผิดรึไงเล่าน้องสาว...” เด็กหนุ่มกล่าว  หางคิ้วเริ่มกระตุกนิดๆด้วยความโกรธ  “แล้วยังตั้งชื่อให้มันอีกเรอะ  เฮอะ...มันไม่มีชีวิตซะหน่อย”
“อย่าครับคุณหนู!!”
ผัวะ!...นีน่ากระโดดชกเด็กหนุ่มเต็มแรง  ถึงแม้แรงเด็กผู้หญิงตัวน้อยอาจจะไม่มาก  แต่นี่เธอพุ่งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้เพิ่มแรงส่ง
“หนอย!!! นังเด็กอวดดี  ตอนแรกเห็นว่าเป็นเด็กจะไม่ลงมือแท้ๆ!! ถ้าไม่ให้เงินดีๆก็ต้องใช้กำลังบังคับแล้ว” นักเลงอ่อนวัยกลุ้มรุมหมายจับเด็กหญิงขึงกับพื้น  ผมดึงเธอมาไว้ในอกกระชับแน่น  ออกวิ่งหนีฝ่าหมัดและเท้าออกมา  กลุ่มอันธพาลรุ่นเยาว์วิ่งตามอย่างไม่ลดละ  แต่แรงคนมีหรือจะสู้แรงเครื่องจักรได้  สักพักเด็กหนุ่มเหล่านั้นก็วิ่งไล่ไม่ทันและหายลับไปจากสายตา
“ปลอดภัยแล้วครับคุณหนู...”ผมปล่อยเธอลงบนพื้น  “เสื้อคุณหนูยับหมดเลย  เดี๋ยวผมจัดให้  ยืนนิ่งๆสักพักนะครับ”
              นีน่าปัดมือผมออกไม่ยอมให้จัดเสื้อ
“บ้าไปแล้วเหรอแมป! ทำไมเมื่อกี้ถึงไม่ตอบโต้” เด็กหญิงเงยหน้าตะเบ็งเสียงใส่ผม  น้ำตาไหลพรากอาบแก้มใส 
“คุณหนูก็น่าจะรู้...  ผมมีโปรแกรมคำสั่งสามข้อที่เจาะจงว่าห้ามทำร้ายมนุษย์ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม  ผมตอบโต้ไม่ได้...”
“โง่ๆๆๆๆๆที่สุด!โปรแกรมบ้าอะไรนั่นน่ะ” เธอร้องอย่างเหลืออด  “ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย  ดูสารรูปเธอสิ...ฮือ...”  นีน่าร้องให้พลางดึงผมให้นั่งลงบนพื้น  เธอลูบใบหน้าและเสื้อผ้าที่มอมแมมเลอะเทอะจากการโดนรุมของผม  ผมไม่รู้สึกเจ็บก็จริง  แต่เธอก็ยังยืนกรานจะขอพันผ้าพันแผลให้เมื่อกลับไปถึงบ้าน
“มันว่าๆเธอไม่ใช่คน  แย่ที่สุด  ฮึก...”
“ก็มันจริงนี่ครับคุณหนู  ผมไม่ใช่คน  ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นคน  ผมเป็นแค่หุ่นยนต์ดัดแปลงที่ตกรุ่นหาได้เกลื่อนกลาดก็เท่านั้น” ผมเอ่ยพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดนะ! แมปมีเพียงคนเดียวสำหรับฉันเท่านั้น  ชื่อนี่ไงบอกถึงการมีตัวตนคงอยู่ของเธอ  แมป!” นีน่าพูดใส่อารมณ์  น้ำตาหยาดเล็กๆคลอรอบดวงตาสีนิลสดสวย  นัยน์ตาที่สบกับดวงตากลสีเขียวของผมบอกถึงความรู้สึกทุกอย่างที่เธอมี
              ...สมองกลของผมเต้นแผ่วเบาด้วยท่วงทีสงบนิ่ง  มันคืออะไรกันนะ  สิ่งที่เกิดผุดขึ้นมาภายในโปรแกรมซับซ้อน... 
              ...ไม่รู้สิ...
              ....รู้แต่เพียงว่า...อยากจะอยู่กับเด็กคนนี้เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ
              ไม่อยากให้เธอต้องเจ็บไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม  อยากจะปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของเธอเอาไว้ไม่ให้สูญสลาย  โอบอุ้ม  คอยดูแลจนกว่าเธอจะเติบโต  สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งในอนาคต... 
ผมลูบหัวนีน่าอย่างแผ่วเบา
“คุณหนู  เย็นนี้เดี๋ยวผมทำพายเนื้อของชอบให้ทาน  กลับบ้านกันเถอะครับ”
NINA AND CYBORG
          เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องหลัก ISL ครับ  เป็นเรื่องที่คนเขียนอยากเเจมโดยตรง
อ่านไปก็อย่าคิดมากครับ  เอ้อ...เเล้วก็เครื่องหมาย(*)นี้หมายถึงมีคำอธิบายด้านล่างนะครับ
AI(*)  หรือ Artifical  Intelligence  ก็คือโปรเเกรมที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโลยีปัญญาประดิษฐ์  ช่วยให้คอมพิวเตอร์
                  สามารถคิดตัดสินใจได้ไกล้เคียงกับมนุษย์  โดยอาศัยระบบของฐานความรู้(Knowledge  Base)  ที่มาจากการ
                  รวบรวมเเละสร้างความรู้สั่งสมไว้ในคอมพิวเตอร์
อ้างอิงจาก  หนังสือก้าวทันโลกคอมพิวเตอร์  สาโรจน์  เกษมสุขโชติกุล
ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น