ตอนที่ 1 : บทนำ
บทนำ
ยามแสงอาทิตย์อัศดงเนินแห่งนั้นถูกย้อมเป็นสีส้มจัดราวกับเปลวเพลิงแผดเผา เนินแห่งนั้นมีดอกไม้กับพืชทะเลทรายขึ้นอยู่ประปราย มันขยับไหวเบาๆ ตามแรงลมที่พัดผ่าน ซึ่งสายลมได้นำทรายละเอียดปลิวมาพร่างพรมบนเนินแห่งนี้ด้วย
บนสุดของเนินแห่งนี้ มีกองหินที่ตั้งขึ้นเรียงรายเป็นแถวเป็นแนวตลอดทั้งเนิน ก้อนหินที่มีขนาดหนึ่งช่วงแขนเหล่านั้นตั้งขึ้น มีอักษรสลักอยู่บนแท่นหินนั้นทุกอัน
เพราะที่นี่มันคือสุสาน
บนเนินอันเงียบสงัดนี้มีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่ คนคนนั้นมีเรือนร่างสูงใหญ่ ผิวสีทองแดง ผมยาวสีแดงที่เกือบจะกลมกลืนไปกับสีของท้องฟ้าปล่อยผมลงมาไร้การรวบมัด นัยน์ตาสีทองคมกริบแฝงความเฉลียวฉลาดทอดมองสุสานที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นแม้ไม่แสดงออกมา แต่แค่แววตาที่สั่นไหวก็พอจะรู้ได้ว่าคนผู้นี้กำลังรู้สึกเช่นไร
แท่นหินเบื้องหน้ามีดอกไม้สีแดงสดใสไม่ต่างจากท้องฟ้าในเวลานี้วางอยู่ อักษรที่สลักไว้เริ่มเลือนไปตามกาลเวลา แต่ยังพออ่านออกว่าชื่อ ‘เดรัน’ แต่ข้อความส่วนอื่นๆ นอกจากนี้ถูกฝุ่นทราย แสงแดดและสายลมกัดกร่อนจนอ่านไม่ปะติดปะต่อกันแล้ว
ชายหนุ่มปัดผมที่พัดมาบังหน้าขณะย่อตัวลง มือลูบไล้แท่นหินนั้นด้วยความโหยหาคะนึงถึง
“จากนี้ไปข้าคงไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้ว นี่คือความอาลัยจากข้าครั้งสุดท้าย...”
ชายหนุ่มผมสีเพลิงพูดเบาๆ รู้ดีว่าสุสานตรงหน้านี้ว่างเปล่า ไม่เคยมีร่างฝังอยู่มาตั้งแต่แรก แม้ตัวตนของเดรันสำหรับเขาจะจบสิ้นไปแล้ว แต่อดีตคนรักก็ได้ถือกำเนิดใหม่และยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้กับอีกโลกหนึ่ง เขาควรจะทำใจรับกับสิ่งที่เป็นในปัจจุบันมากกว่า
แซ่ก...
มีเสียงย่ำเท้าเหยียบลงบนพื้นที่มีทรายบางๆ ร่างของใครคนหนึ่งในชุดคลุมสีเทามอซอปรากฏขึ้น เดินมาถึงบนเนิน ชายหนุ่มผมสีเพลิงเพียงมองจากทางหางตา ไม่ได้สนใจคนแปลกหน้าผู้นี้นัก เพราะอย่างไรที่นี่ก็คือสุสาน ไม่แปลกที่จะมีคนมาเยี่ยมผู้ตายในที่แห่งนี้
ชายหนุ่มผมสีเพลิงลุกขึ้น คิดว่าตนมาเสียเวลาอยู่ที่นี่พอแล้ว จึงกลับไปทำงานที่ค้างคาต่อ ทว่าคนในชุดคลุมสีเทานั้นกลับเดินเข้ามาขวางทางเอาไว้
เขาเลิกคิ้วขึ้น “เจ้ามีธุระอะไรกับข้างั้นเหรอ”
คนในชุดคลุมเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยคำถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลฟังแล้วรื่นหู
“ท่านใช่... บาจัน... หรือเปล่า”
ตอนที่คนแปลกหน้าพูดประโยคนี้เกิดลมพัดแรง ทำให้ไม่ได้ยินชัดนัก แต่ชายหนุ่มผมสีเพลิงก็พอจะจับใจความสำคัญได้ จึงตอบว่า
“ถ้าใช่แล้วมันทำไมเหรอ”
ลมพัดมาอีกวูบหนึ่งเกือบจะเลิกหมวกคลุมของอีกฝ่ายออก และด้วยเหตุนี้ทำให้ชายหนุ่มผมสีเพลิงได้เห็นรอยยิ้มของคนแปลกหน้า มันเป็นการแสยะยิ้มยินดี
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี...” คนในชุดคลุมพูดอย่างพึงพอใจ “ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาท่านถึงที่”
ฉึก!
“อึก!”
โดยไม่ทันตั้งตัว สิ่งที่มีรูปร่างคล้ายดาบแต่เป็นสีดำเมี่ยมทั้งเล่มแทงชายหนุ่มผมสีเพลิงจากทางด้านหลังทะลุมาถึงด้านหน้า เลือดสาดกระเซ็นกลายเป็นละอองสีแดงเปรอะเปื้อนเต็มพื้นดิน
คนที่โดนแทงเอามือกุมท้องที่มีโลหิตหลั่งรินเอี้ยวตัวมองไปด้านหลังก็ต้องเบิกตากว้างเพราะสิ่งที่แทงเขาอยู่เป็นดาบที่โผล่มาจากเงาของเขาเอง เวทมนตร์แบบนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!
คนแปลกหน้าสืบเท้าเข้ามาเอามือวางทาบบนหน้าอกของชายหนุ่มผมสีเพลิง พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับกล่าวกับคนรัก
“หัวใจของเจ้า ข้าขอรับไปล่ะนะ”
สิ้นประโยคนั้นชายหนุ่มผมสีเพลิงก็สติถลำลงสู่ความมืดมิดไปพร้อมกับความเจ็บปวด
*ปล. นับจากนี้ไรท์เตอร์จะทยอยอัพเรื่องนี้ฉบับรีไรท์จนจบนะคะ เมื่อจบแล้วอีกหนึ่งอาทิตย์ไรท์เตอร์จะทำการลบเหลือเนื้อหาแค่ครึ่งหนึ่ง ฉะนั้นถ้าใครอ่านไม่ทันต้องไปติดตามในฉบับรูปเล่มแทนแล้วนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์ตัดจบได้ค้างมากค่ะ!!!//จริงจัง
สู้ๆน้าาาา รออออ~~