ภาพที่ 14 ไม่ยอมตัดใจ การสนทนาของราชาและเจ้าชาย
"ข้าขอโทษนะครับ เดเรค"นีโอเอ่ยออกมาในที่สุด น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งจนน่ากลัว "ข้าดีใจที่ท่านมีความรู้สึกนั้นมอบให้ แต่ข้าคงไม่อาจมอบความรู้สึกแบบเดียวกันได้"
เขาโกหก... เขาเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจของตนเอง ทว่าเขาไม่สามารถตอบสนองความรู้สึกของคนตรงหน้าได้แม้ว่าใจจะตรงกันก็ตาม
เขาอยากกลับบ้าน... หากเขารับรักจากเดเรคแล้ว เขาคงไม่อยากจากที่นี่ไป ถ้ายุติความรู้สึกทุกอย่างไว้แค่ตรงนี้ ในตอนที่ตัวเขายังไม่ได้ถลำลึก ความรู้สึกที่ราวกับโดนบีบคั้นหัวใจก็คงจะเบาบางลง และถูกลืมหายไป
เขาไม่อยากเจ็บปวดกับความรักที่ไม่สมหวังอีกแล้ว...
ชายหนุ่มจ้องหน้าเด็กหนุ่มนิ่ง "ถ้าอย่างนั้น... ตอนที่เจ้าจะออกจากงานเลี้ยงไปทำไมจึงหอมแก้มข้าล่ะ"
นีโอหลบสายตาในทันที พยายามควบคุมน้ำเสียงให้เรียบสนิท "ตอนนั้นมีขุนนางมองกันอยู่ ข้าก็แค่แสดงบทรักตามตำแหน่งเท่านั้น"
พูดออกไปเด็กหนุ่มก็ต้องกลั้นหายใจรอดูปฏิกิริยาของเจ้าชายแห่งเผ่าชารุ จะรู้ไหมนะว่าเขากำลังพูดกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
ทว่าคนตรงหน้าเขาเงียบไปนานจนน่าอึดอัด ไม่รู้ว่าเดเรคมีสีหน้าและแววตาเป็นอย่างไรเพราะเขาไม่มีความกล้าที่จะมอง เกิดเห็นเข้าแล้วเขาอาจจะหวั่นไหวขึ้นมาก็ได้
"ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าขอตัวก่อน ราตรีสวัสดิ์ครับ เดเรค"
นีโอเห็นเดเรคยังคงนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายจากไป บางทีองค์ชายแห่งเผ่าชารุอาจต้องการเวลาสำหรับทำใจ
ช่วงที่เด็กหนุ่มเดินผ่านเดเรคโดยไม่คิดเหลียวหลังกลับมา จู่ๆ ร่างสูงก็เอ่ยขึ้น
"เจ้ายังไม่ได้รักข้าตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะทำให้เจ้าได้คิดเอง"
ร่างบางชะงักหันขวับมา เดเรคเองก็หันมามองเขาเช่นกัน แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน สั่นคลอนหัวใจของเขา
"เดเรค อย่าทำให้ข้าลำบากใจ..."
"ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ฝืนดึงดันจูบเจ้าแบบเมื่อครู่อีกแล้ว"เดเรคพูดขัดขึ้นด้วยท่าทางรู้สึกผิด "ข้าจะทำให้เจ้าเปิดใจรับข้าเอง ข้าจะไม่ยอมตัดใจเว้นแต่ว่าเจ้าจะรักคนอื่นแล้วนั่นล่ะ ข้าถึงจะยอมหลีกทางให้"
นีโอสะบัดหน้าหนี "ข้าไม่คิดเลยว่าเดเรคเป็นคนดื้อขนาดนี้"
"ตั้งแต่ที่ข้าหลงรักเจ้า นีโอก็เป็นคนเปลี่ยนข้าให้กลายเป็นแบบนี้"
"ไม่ต้องมาโทษคนอื่นเลยนะครับ"
เขาถลึงตาใส่ นิสัยนี้มันเป็นกรรมพันธุ์ต่างหากล่ะ พระราชาก็เป็นคนหัวดื้อ มีหรือที่เดเรคจะไม่ได้นิสัยส่วนนั้นมาด้วยน่ะ!
"เดเรคจะทำอะไรก็เชิญเถอะ แต่ข้าคงไม่มีวันเปลี่ยนใจ"
มันจะเปลี่ยนได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อเขารักเดเรคตั้งแต่แรกแล้วน่ะ...
"ขนาดต้นอ่อนยังกลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่ได้ ข้าเชื่อว่าสักวันเจ้าจะต้องเปลี่ยนใจ"
ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ นีโอได้แต่เมินองค์ชายแห่งเผ่าชารุเสีย แล้วตัดบทสนทนา
"จะคิดยังไงก็ตามใจเถอะ ข้าจะกลับห้องแล้ว"
"ข้าจะไปส่ง"
เห็นเดเรคอาสา นีโอก็รีบปฏิเสธ เขาไม่อยากอยู่ใกล้ชายหนุ่มจนรู้สึกปั่นป่วนหัวใจไปมากกว่านี้
"ไม่จำเป็นหรอกครับ ข้าไปเองได้"
"เจ้าจำทางกลับวังหลังถูกเหรอ"
พอโดนทักมาอย่างนั้นเด็กหนุ่มเริ่มจะลังเล แต่ด้วยทิฐิเขาจึงเดินดุ่มเลี้ยวไปทางขวาตามที่ตัวเองจำได้
"ข้าจำทางได้ เดเรคไม่ต้องห่วงหรอกครับ"
"เลี้ยวไปทางนั้นก็มุ่งไปยังที่พักของทหารในวังน่ะสิ ถ้าต้องกลับวังหลังเจ้าต้องเลี้ยวซ้าย พอถึงแยกที่สี่ให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางจากนั้นก็ลงบันไดเลี้ยวซ้ายต่อไปอีก ผ่านสวนกลางแล้วก็..."
"...นี่กำลังแกล้งข้าอยู่ใช่ไหมครับ"
เขาจำไม่ได้ว่าหนทางกลับวังหลังมันจะสลับซับซ้อนถึงขนาดนี้ แต่นีโอก็ไม่มั่นใจความจำของตัวเองเต็มร้อยนัก ฉะนั้นจึงพิสูจน์ไม่ได้ว่าที่เดเรคพูดมาจริงหรือเท็จกันแน่
เดเรคยิ้มอย่างอ่อนโยน "ให้ข้านำทางเถอะ เจ้าเหนื่อยมากแล้ว ข้ารับรองว่าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก"
"..."
นีโอไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เพียงแสดงสีหน้าว่าจะทำอะไรก็เชิญ เดเรคหัวเราะน้อยๆ แล้วเดินนำเขากลับวังหลัง
เพียงแค่เดินเคียงกันเงียบๆ เดเรคก็เหมือนกับอยู่ใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ใกล้เพราะมีตัวตนให้เอื้อมถึง แต่ไกลเพราะหัวใจของเขาปิดประตูไม่ให้ชายหนุ่มเข้ามา
เขาจะไม่ยอมให้เดเรคมีอิทธิพลกับหัวใจมากไปกว่านี้เด็ดขาด ไม่มีวัน...
....................
เฮ้อ...
ร่างบางถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ อาการนี้ทำให้ลีลียากับเชทที่อยู่ใกล้ชิดพลอยเป็นกังวล
"ท่านนีโอเป็นอะไรไปหรือเจ้าค่ะ? หรือว่ามีเรื่องกลุ้มใจ"
นีโอตื่นจากภวังค์ หน้าเป็นสีแดงเรื่อนิดๆ เขาส่ายหน้าปฏิเสธว่า
"ไม่ๆ ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่... เอ่อ... ง่วงนอนเท่านั้นเอง"
"จริงเหรอเจ้าค่ะ"
นางกำนัลมองเด็กหนุ่มอย่างไม่แน่ใจ เขารู้ดีว่าคำโกหกตัวเองฟังไม่ขึ้นเลย แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจและนั่งจิบชาชมสวนด้านนอก
จะให้เขาบอกเรื่องที่กังวลกับลีลียาและเชทเหรอ บอกไม่ได้เด็ดขาดเลย ที่เขานั่งถอนหายใจทิ้งอยู่อย่างนี้ นอกจากจะกังวลเรื่องตามหาตะเกียงวิเศษแล้ว เขายังกังวลเรื่องที่ต้องแลกกับสิ่งสำคัญบางอย่างเพื่อจะได้กลับโลกเดิม เท่านั้นไม่พอเดเรคยังเพิ่มความหนักใจให้อีกอย่าง
นั่นคือการมาสารภาพรักกับเขา...
นีโอไม่เคยรักผู้ชายมาก่อน เขาก็รู้ว่าความรู้สึกที่ตนมีให้กับเดเรคนั้นมันคืออะไร มันไม่มีทางเป็นอื่นไปได้เพราะเขาก็เคยมีความรักมาก่อน... ถึงมันจะจบลงด้วยความเจ็บปวดก็ตาม
ร่างบางเอามือทาบริมฝีปาก คิดถึงรสสัมผัสที่ทำให้จิตใจเขาว้าวุ่น จูบของเดเรคให้ความรู้สึกดี ทำให้เขาไม่อาจเลิกนึกถึงจูบนั้นได้เสียที...
นีโอจิบชาอุ่นๆ เพื่อสงบสติอารมณ์และความร้อนที่พลุ่งพล่านอยู่แถวๆ ท้องน้อย พอดีกับที่มีคนแจ้งข่าวให้ไปบรรดาสนมไปรวมตัวกัน เด็กหนุ่มจึงเลิกดื่มชาผุดลุกขึ้นเดินไปยังที่นัดหมายพร้อมกับเชท
"ก่อนอื่นข้าขอแสดงความยินดีที่พวกเจ้าได้ผ่านเข้ามายังรอบสอง พวกเจ้าได้แสดงความงดงามและกิริยามารยาทอันดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทูตต่างอาณาจักรได้อย่างยอดเยี่ยม และขอให้ทำดีอย่างนี้ยิ่งขึ้นเรื่อยไป"
ไลซากวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่นีโอนานที่สุด เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้และอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ
"การทดสอบในรอบที่สองนั้นไม่มีกำหนดจำนวนผู้โดนคัดออกที่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับงานที่ทำว่าจะสำเร็จตามเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ หากไม่ทันกาลนั่นหมายความว่าต้องโดนคัดออกไปนั่นเอง"
ว่าที่สนมต่างมองหน้ากัน หมายความว่าการทดสอบนี้ตัดสินที่ผลงานจะทำตามเป้าได้ทันเวลาอย่างนั้นสิ นีโอฟังพลันขมวดคิ้วมันเป็นการทดสอบแบบไหนกันนะ
ไลซาหันไปพยักหน้าให้กับทหารที่อยู่ด้านหลังซึ่งถือม้วนกระดาษผูกด้วยเชือกสีแดงไว้หลายอัน พระชายาผายมือไปที่ม้วนกระดาษเหล่านั้นพลางอธิบายว่า
"การทดสอบรอบที่สองคือการทำภารกิจ"
มีเสียงฮือฮาดังมาจากว่าที่สนม นีโอจ้องมองกองม้วนกระดาษเหล่านั้นด้วยความหวั่นวิตก
"อย่างที่รู้กันสนมก็เป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ย่อมมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ภารกิจพวกนี้เป็นสิ่งที่สนมสามารถทำได้ ไม่ยากจนเกินไป แต่ก็ไม่ง่ายถึงขนาดนั้น พวกเราได้เลือกภารกิจที่แน่ใจว่าสามารถทำให้สำเร็จได้ในสองสัปดาห์กับพวกเจ้า แน่นอนว่าอาจจะมีอุปสรรคระหว่างการทำภารกิจบ้าง พวกเจ้าต้องใช้ไหวพริบและปฏิภาณที่มีฝ่าฟันไปให้ได้ นอกจากนี้ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับอาจจะขอยืมแรงจากคนในวังได้ แต่พวกเจ้าต้องมีส่วนร่วมในการทำภารกิจด้วย หากโยนงานที่ทำให้คนอื่นรับผิดชอบ คนนั้นจะโดนตัดสิทธิ์ทันทีไม่มีข้อแก้ตัว มีใครจะถามอะไรไหม"
ว่าที่สนมบางคนชูมือขึ้น ไลซาสุ่มเรียกชายคนหนึ่งด้านหน้า
"อยากจะให้บอกขอบเขตการขอความช่วยเหลือจากคนในวังพ่ะย่ะค่ะ ว่าอนุญาตให้ขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง"
ไลซายิ้ม "นับว่าเจ้าถามรอบคอบดี อนุญาตให้ขอความช่วยเหลือจากบรรดาขุนนางและทหารได้ แต่กับเชื้อพระวงศ์นั้นไม่ได้เด็ดขาด กล่าวคือคนที่มีตำแหน่งเสนาบดีซ้ายขวา หัวหน้ากับรองหัวหน้าเจ้ากรมกองต่างๆ เจ้าชายเจ้าหญิง รัชทายาท เหล่านี้ไม่อนุญาตให้ไปขอความช่วยเหลือ แต่ว่าถ้าต้องการลูกน้องคนใดในสังกัดที่คนเหล่านี้อยู่ขอให้ไปขออนุญาตยืมตัวก่อน เป็นมารยาทอย่างหนึ่ง ทีนี้มีใครสงสัยอะไรอีกไหม"
ว่าที่สนมทั้งหมดส่ายหน้า เห็นดังนั้นแล้วไลซาจึงพูดต่อ
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะเรียกชื่อตามลำดับอักษรแล้วมาเลือกหยิบไปคนละม้วนแล้วกัน"
นีโอมีชื่ออยู่เกือบท้ายและอยู่หลังนารา พอถึงคิวม้วนภารกิจก็เหลือไม่มากแล้ว เด็กหนุ่มดึงสุ่มๆ ออกมา
"ภารกิจจะเริ่มในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป พอขึ้นสัปดาห์ที่สามเท่ากับว่าเป็นอันสิ้นสุดการทดสอบ สำหรับสัปดาห์นี้ขอให้ทุกคนวางแผนและจัดสรรคนกับสิ่งที่ต้องการให้พร้อม ขอให้ทุกคนโชคดี"
ทุกคนแยกย้ายกันกลับเข้าห้อง บางคนใจร้อนเปิดดูเสียเดี๋ยวนั้น ก่อนจะลอบอุทานกันยกใหญ่ เห็นท่าทางแต่ละคนแล้ว ภารกิจนั้นจะต้องยากน่าดูทีเดียว
"เราก็กลับเข้าห้องกันเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
เชทที่ยืนอยู่ข้างๆ อยากจะรู้ภารกิจที่เจ้านายเลือกมาเต็มทน เขาพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าห้อง
พอเด็กหนุ่มนั่งลงก็มีสายตาอยากรู้อยากเห็นมาจากองครักษ์และนางกำนัล นีโอต้องแอบขำ เขาคลี่กระดาษออกก่อนจะอ่านด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด
"จงร่วมมือกับชาวเผ่าวีร์สกัดผู้รุกรานจากเผ่าคารีน่าที่เขตชายแดนทางเหนือของอาณาจักรชารุ..."
อ่านไปด้านล่างของข้อความมีแผนที่กำกับตำแหน่งจุดที่เกิดการรุกราน เผ่าวีร์ได้ใช้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นจุดสักการบูชาเทพเจ้าของพวกเขา
ทุกปีเผ่าวีร์จะต้องตระเวนไปสี่ทิศเพื่อทำการบูชาเทพและครั้งนี้ก็ถึงทีของเผ่าชารุ ทว่ากลับโดนเผ่าคารีน่ารบกวนตลอด เป็นอย่างนี้ต่อไปก็ทำพิธีไม่ได้สักทีและอาจจะเกิดภัยพิบัติกับอาณาจักรของเผ่านักรบนี้ก็เป็นได้
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงต้องเตรียมทหารกับอาวุธให้พร้อมนะพ่ะย่ะค่ะ"เชทกล่าว หลังจากฟังเนื้อหาแล้ว "เผ่าคารีน่าเชี่ยวชาญการใช้เวท หากไม่เตรียมพร้อมให้ดีอาจจะโดนเล่นงานหนักได้"
"ก็คงอย่างนั้น"นีโอเห็นด้วยและทำหน้าปั้นยาก "ดันจับได้ภารกิจเกี่ยวกับการต่อสู้ซะแล้วสิ โชคร้ายจัง"
"อาจจะไม่แย่ถึงขนาดนั้นก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"เชทเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "พระสนมนีโอเป็นชาวเผ่าวีร์ได้ร่วมมือกันต่อสู้กับเผ่าบ้านเกิดน่าจะได้รับแรงสนับสนุนที่ดีนะพ่ะย่ะค่ะ"
ร่างบางยิ้มค้าง เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเองปลอมเป็นชาวเผ่าวีร์อยู่ แบบนี้ถ้าไปเจอคนจากเผ่าวีร์ตัวจริงจะไม่ยิ่งแย่ไปใหญ่เหรอเนี่ย ซวยชะมัด ซวยมากๆ!
แล้วนีโอก็ได้ความกังวลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง...
...................
"นีโอได้ภารกิจไปปราบปรามเผ่าคารีน่าที่ชายแดน?"
เดเรคทวนประโยคนั้น หลังจากได้รับรายงานจากโบนิต้าซึ่งได้ฟังมาจากเชทอีกที
"เพคะ แต่พระองค์ไม่ต้องทรงเป็นกังวลไปหรอกนะเพคะ ก็พระสนมนีโอได้ทำงานร่วมกับเผ่าวีร์ที่เป็นชาวเผ่าเดียวกัน นี่ว่าโชคดีมากเลยนะเพคะ"
เดเรคเบือนหน้าไปอีกทาง นอกจากเขา อัคนีและลีลียาแล้ว คนอื่นๆ ล้วนไม่รู้ว่านีโอเป็นคนจากที่อันแสนไกลไม่ใช่คนจากเผ่าวีร์อย่างที่ใครๆ คิด ที่เขาให้นีโอปลอมเป็นเผ่าวีร์ก็เพื่ออำพรางชาติกำเนิดไม่ให้โดดเด่นสะดุดตา อย่างน้อยการเป็นคนที่มาจากเผ่าที่รู้จักย่อมทำให้วางใจได้มากกว่าคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไป
ดีที่ว่าเขากับอัคนีเตรียมการเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว นีโอสามารถแอบอ้างชื่อเป็นคนของเผ่าวีร์ได้เต็มตัว ที่เหลือคือทำตัวให้กลมกลืนพอแล้ว
ก๊อก... ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น โบนิต้าเดินไปที่ประตูโดยอัตโนมัติ พอเปิดออกองครักษ์สาวก็อุทาน
"ท่าน... ทำไมถึงได้!?"
"ใครมาเหรอ โบนิต้า"
น้ำเสียงขององครักษ์สาวดูตกใจอย่างมาก เป็นน้ำเสียงที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ต่อให้โบนิต้าต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าก็ตาม
"ข้าขอโทษที่ทำให้องครักษ์ของท่านตกใจ องค์ชายเดเรค"
"ราชาเอซุส!"
คนที่เข้ามาในห้องเป็นราชาแห่งเผ่าบาจันนั่นเอง ใบหน้าของเอซุสมีรอยยิ้มแต่งแต้มบางๆ ท่าทางไม่ได้ประสงค์ร้าย แต่เดเรคก็ยังอดระแวงไม่ได้ที่อีกฝ่ายปรากฏตัวในห้องทำงานของเขา
"ขออภัยเพคะ องค์ชายเดเรค แบบว่า..."
"ไม่เป็นไร โบนิต้า เจ้าออกไปรอข้างนอกก่อนเถอะ"
"เพคะ"
โบนิต้าคำนับแล้วเดินออกจากห้อง ปล่อยให้เชื้อพระวงศ์ทั้งสองได้พูดคุยกัน
"ราชาเอซุส ไม่ทราบมีเรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่จำเป็นต้องใช้คำราชาศัพท์กับข้าหรอก องค์ชายเดเรค"เอซุสโบกมือไปมา และถือวิสาสะนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ "ข้าเผอิญได้ยินว่านีโอต้องไปทำภารกิจนอกวัง กฎที่ว่าห้ามไม่ให้เชื้อพระวงศ์กับขุนนางระดับสูงยุ่งเกี่ยวกับทดสอบมีผลแค่คนจากเผ่าชารุเท่านั้นใช่ไหม"
เดเรคทวนกฎที่เคยอ่านผ่านตามา "ใช่ ในนั้นระบุว่ามีผลบังคับใช้เฉพาะกับคนของเผ่าชารุเท่านั้น ท่านถามเช่นนี้คิดจะไปกับคนรักของข้าหรือ"
"ถ้ากฎไม่ได้ห้ามไว้และมันช่วยนีโอได้ ข้าก็จะทำ"
"เพราะนีโอเป็นน้องชายของท่านจึงได้เต็มใจช่วยขนาดนี้เหรอ ช่างน่าประหลาดใจแท้ๆ"
น้ำเสียงของเดเรคเจือประชดประชันอยู่หน่อยๆ
"ดูเหมือนว่าองค์ชายจะสงสัยข้าเต็มที่เลยนะ"
"ถ้าหากท่านไม่พอใจ ก็ต้องขออภัยด้วย"
เดเรคไม่ได้รู้สึกผิดที่สงสัยในตัวราชาเอซุส อีกฝ่ายก็รู้ตัวจึงได้เปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนใจ
"ความระแวงนี่เป็นเพราะห่วงนีโอสินะ อย่าได้กังวลไปเลยองค์ชาย ข้าไม่มีจุดประสงค์ร้ายต่อนีโอหรอก"
"ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อนีโอเพราะท่านเคยช่วยชีวิตนีโอไว้ที่กลางทะเลทรายนั่น แต่ข้า..."
เดเรคไม่ได้กล่าวต่อ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าราชาเอซุสอาจจะเป็นศัตรูหัวใจของเขาก็เป็นได้
เอซุสสมกับที่อยู่มานานนับพันปีเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยกับแววตาก็อ่านใจได้ทันที จึงถามจี้ใจดำว่า
"องค์ชายกลัวว่า ข้าจะมาแย่งนีโอไปหรือ"
เดเรคตาเบิกกว้าง "นี่ท่าน... รู้"
"ข้าแค่เดาน่ะ ถูกต้องเลยล่ะสิ"ราชาแห่งเผ่าบาจันยิ้มขบขัน "ข้ายังรู้อีกด้วยว่าองค์ชายสารภาพรักกับนีโอ ถึงจะโรแมนติกดีที่ท่านเลือกสารภาพท่ามกลางแสงจันทร์ แต่คราวหลังช่วยไปพูดไกลๆ ข้าหน่อยนะ เผอิญข้ามีหูดีกว่ามนุษย์น่ะ"
"ท่าน!"
เดเรคหน้าขึ้นสีไม่รู้ว่าเกิดจากความโกรธหรือความอายกันแน่ เอซุสมองสีหน้านั้นพยายามฝืนไม่ให้หัวเราะ
"เชื่อข้าเถอะ ข้าไม่ได้คิดกับนีโอในแง่นั้น ที่ข้าให้ความสนใจเป็นพิเศษเพราะเขาคล้ายกับคนรักข้าเท่านั้น"
"ข้าได้ยินมาว่าคนรักของท่านไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ท่านบอกว่านีโอคล้ายกับคนรักของท่านแบบนั้น ไม่ช่วยให้ข้าสบายใจเลย"
นั่นไม่เท่ากับว่าเอซุสมองนีโอเป็นคนรักเลยหรืออย่างไร เดเรคคิดด้วยความว้าวุ่นใจ
เอซุสส่ายหน้า ก่อนจะถอดสร้อยคอที่มีจี้ประดับส่งให้
"ข้าบอกว่าคล้ายคนรักแต่ก็ไม่ใช่คนเดียวกัน ข้าเองก็อธิบายไม่ค่อยจะถูกนัก ลองดูภาพที่อยู่ในล็อคเกตนั้นก็แล้วกัน"
เจ้าชายแห่งเผ่าชารุรับสร้อยนั้นมา ก่อนจะเปิดตัวล็อคเก็ตสีทองที่แกะสลักลวดลายงดงาม ภาพที่อยู่ด้านในทำให้เดเรคมุ่นคิ้ว
"นี่มัน..."
ข้างในล็อคเกตนั้นมีภาพวาดฝีมือประณีตอยู่สองรูป รูปหนึ่งคือราชาเอซุส ส่วนอีกรูปคือคนรักที่ว่า
คล้ายกันจริงๆ ด้วย แต่ก็ไม่ใช่อยู่ดี...
คนรักของราชาเอซุสมีเค้าโครงหน้าบางส่วนคล้ายกับนีโอ อีกฝ่ายมีผมสีดำยาวประบ่าขับเน้นดวงหน้าให้ชวนมอง นัยน์ตาสีถ่านที่ลุ่มลึกออกจะกระด้างและดูสมชายยิ่งกว่านีโอ ถ้าหากบอกว่าคนรักของเอซุสกับนีโอเป็นพี่น้องกัน รับรองว่าทุกคนต้องเชื่ออย่างแน่นอน
"เหมือนกันจริงๆ แต่เป็นคนละคน..."
"ข้าบอกแล้ว ว่าแค่คล้ายๆ กัน"
เอซุสรับสร้อยนั้นคืนมา เดเรคคลายท่าทีลงเพราะเริ่มเข้าใจความรู้สึกของราชาแห่งเผ่าบาจันบ้างแล้ว ลองเป็นคนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับคนรัก ต่อให้เป็นเขาก็คงอดที่จะสนใจไม่ได้
"ทีนี้องค์ชายเชื่อข้าขึ้นมาบ้างแล้วหรือยัง"
"ข้ายังไม่วางใจเสียทีเดียว แต่ข้ายอมให้ท่านไปกับนีโอก็ได้"
"อย่างน้อยองค์ชายก็ยอมให้ไปเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว"
ราชาเอซุสยิ้ม จากนั้นเปลวไฟสีแดงก็รายล้อมรอบตัวราชาแห่งเผ่าบาจันไว้ ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นวิหคเพลิงสวยสง่าเต็มไปด้วยมนต์ขลัง
เดเรคเห็นร่างนั้นก็รู้ทันทีว่าต้องทำอะไร จึงเปิดหน้าต่างออก นกไฟก็แล่นถลาผ่านหน้าต่างสู่ท้องฟ้ากว้างทิ้งละอองสีแดงและทองระยิบระยับไปตลอดทาง
"เข้าทางประตูแต่ออกทางหน้าต่างเหรอ เป็นราชาที่คิดจะทำอะไรก็ทำจริงๆ"
ชายหนุ่มอดอิจฉาไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งเจ้าชายแห่งเผ่าชารุผูกมัดเขาไว้ คนที่จะไปอยู่เคียงข้างนีโอก็คงเป็นเขาไม่ใช่เอซุส
แจ้งเตือน
ตอนฟรีให้อ่านจะลงถึงแค่นี้นะคะ ^ ^ หากอยากอ่านต่อสามารถซื้ออ่านได้ในสามเวอร์ชั่นนี้ค่ะ
1. อีบุ๊ค "ภาพวาดรักในรอยทราย" ราคา 379 บาท มีครบรวมถึงตอนพิเศษ 6 ตอน (nc ครบ) ซื้อได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
อีบุ๊ค"ภาพวาดรักในรอยทราย"
2. ซื้อแบบรายตอนใน readawrite ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30 คอยน์ สามารถเลือกซื้อตอนที่ชอบได้ มีฉาก nc ครบค่ะ
เข้าซื้อที่ลิ้งค์นี้ได้เลย
ภาพวาดรักในรอยทราย readawrite
3. ซื้อแบบแพ็คเกจใน dekd ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 200 - 300 coin มีสองแพ็คเกจคือ
- แพ็คเก็จตอนหลักตั้งแต่ตอนที่ 15 จนจบบริบูรณ์
- แพ็คเกจตอนพิเศษรวม 6 ตอน แต่ไม่มี nc ค่ะ
เข้าลิ้งค์นี้เลยค่ะ
แพ็คเกจ "ภาพวาดรักในรอยทราย"
สะดวกช่องทางไหนก็คลิกได้เลยค่ะ ขอบคุณที่อุดหนุนนะคะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ถ้าอยากกลับโลกเดิม
ค้างอ่าาาา
งือออ
อย่าบอกนะว่าคนที่ทำให้นีโอ เศร้ามายืนทำมิวสิกกลางสายฝนอะ