ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF+OS] Yeah~EXO-M, EXO-K 우리가 시작하는 미래 History

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Baby...Baby [YonggukxSehun]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      6 เม.ย. 56



    (ชั้นแทรกรูปใหญ่ไปไหน? ฮ่าๆๆๆ)

    แบบว่าแอบชอบคู่ลีดเดอร์กับมักเน่(แต่คนละวง..อั๊ยยยย) คือก็ดูๆแล้วรู้สึกว่าน่ารักดี เค้าก็มีโมเมนท์กันอยู่เบาๆนะ(ดูเอง มโนเอง ฟินเอง..เย่!)
    ผลของการมโนเลยได้ชอทฟิคนี้ขึ้นมา ลองๆอ่านดูนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ ไม่ค่อยสันทัดบีเอพีเท่าไหร่ สารภาพว่าเพิ่งดูได้ไม่นานค่า :) 

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    Baby~Baby [YonggukxSehun]

     

    เวลาเราแอบชอบใครสักคนหนึ่ง แค่พูดหรือได้ยินชื่อของเขา..เราก็ยิ้มออกมาได้แล้ว

    มันรู้สึกมีความสุขมากมาย แม้จะทำได้แค่มองอยู่ห่างๆแอบชอบอยู่ไกลๆก็ตาม

    ความรู้สึกที่ได้แอบส่งความรู้สึกดีๆให้โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รู้ตัวเลยก็ตามนั้น..

    ...ก็ทำให้วันหนึ่งของคนๆนึงเป็นวันที่แสนจะสดใสได้แล้วล่ะ...

     

    แสงไฟนับร้อยดวงที่สาดส่องบนเวทีประสานกับเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจบวกกับท่าเต้นที่แข็งแกร่งเหมือนกองทัพพร้อมรบ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจได้อย่างไม่ขาดสาย เสียงบรรดาแฟนคลับอังกอร์ดังสนั่นอยู่หน้าเวทีซึ่งจะมีใครรู้บ้างไหมว่า...ยังมีเสียงเบาๆจากแฟนคลับตัวบางคนนึงที่แอบอังกอร์ในลำคออยู่หลังเวทีนี้เหมือนกันนะ..

    “เซฮุนนา~มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ ฮยองเรียกแล้วนะ” เด็กหนุ่มตัวเล็กวิ่งดุ๊กๆเข้ามาแตะบ่าของน้องเล็กตัวสูงที่ยืนชะเง้ออยู่ที่มุมประตู

    “เอ่อ..รู้แล้วน่า~ขอดูอีกแป๊บนึงนะ  นะฮยองนะ~” มักเน่น้อยทำปากกลมอ้อนพี่ชายตัวเล็ก

    “ไหน~นี่ดูอะไรเนี่ย..อ้อ~~~~~” ตาโตๆของเมนโวคอลมองตรงไปยังตำแหน่งที่น้องเล็กโฟกัสก่อนจะอ้าปากร้องอ๋อเสียงดังล้อเลียนน้องน้อย

    “ฮยองอ่ะ!อย่าล้อซิ!!!!” เซฮุนใช้กำปั้นทุบๆใส่คยองซูระบายความเขินตามนิสัย ซึ่งนอกจากคนเป็นพี่จะไม่เลิกล้อเลียนแล้วยังจะหาพรรคพวกอีกตะหาก

    “โอ๊ยๆๆ นายเขินพี่เค้าแล้วมาลงที่ฉันทำไมเนี่ย? เพ็กฮยอนอา~ ช่วยด้วยยยยย”

    “ไหนๆ โอ๊ะโอ~นี่เป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งของบีเอพีเลยนะนี่ ฮ่าๆๆๆๆ”

    “พวกฮยองอ่า!!!หยุดล้อผมเดี๋ยวนี้นะ!!!” ว่าแล้วกำปั้นมักเน่ก็เหวี่ยงไปซ้ายขวาอย่างไม่รู้จะทำอะไรที่จะแก้อาการเขินอายนั้นดี เพราะนอกจากจะไม่มีใครช่วยแล้ว พวกเมมเบอร์ที่เหลือก็ใจร้ายพอจะหัวเราะชอบใจที่น้องน้อยเขินหน้าแดงหูแดงแบบนี้  ชิชิ! งอนทุกคนแล้วด้วย! โป้ง!!!

     

    “พอได้แล้วน่า~ เตรียมแสตนด์บายได้แล้วทุกคน~!

     

    +++++++++++++++++++++

    วันนี้เป็นอีกวันทำงานที่แสนเหน็ดเหนื่อย แต่ในความอ่อนล้านั้นก็มีความสุขเล็กๆของโอเซฮุน ทำไมน่ะหรอ? ก็นอกจากจะได้ทำงานกับพี่ๆเมมเบอร์ที่รักของตัวเองแล้ว ยังได้อยู่บนเวทีเดียวกันกับคนๆนั้น... เอาจริงๆเซฮุนก็บอกไม่ถูกว่ามันคือความรู้สึกที่มีให้นั้นมันคืออะไรเหมือนกัน เพราะตอนแรกๆก็รู้สึกว่าแค่ชื่นชมในความสามารถเฉยๆ ก็คอยติดตามผลงานแอบให้กำลังใจอยู่ห่างๆมาตลอด และความรู้สึกนั้นนับวันมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วจริงๆ.. มันคงเรียกว่าแอบชอบก็คงได้ล่ะมั้ง?

    “ฮยอง~ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงในลำคอของน้องเล็กที่พยายามจะบอกลีดเดอร์ท่ามกลางเสียงวุ่นวายของทีมงานนับสิบสิบชีวิต ซึ่งเด็กน้อยก็คิดว่าพี่ชายที่รักของตนรับรู้แล้วก็เลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยไม่รู้เลยว่าเมมเบอร์ที่เหลือได้เดินเรียงแถวตามผู้จัดการออกห่างไกลไปทุกที..

    พอทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว มักเน่น้อยก็เดินออกมาหันซ้ายมองขวา... พวกฮยองหายไปไหน? เมเนเจอร์ฮยองล่ะ???? ไปไหนกันหมด??? จากที่มีคนอยู่พลุกพล่านเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่ผ่านมานั้นเหลือเพียงทีมงานเพียงไม่กี่คน กับศิลปินที่อยู่กันเป็นกลุ่มๆ ช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากของโอเซฮุนมาถึงแล้วสินะ

     

    มือถือก็ไม่มี จะติดต่อกันยังไงล่ะทีนี้ T^T

    เด็กน้อยเอาสองมือล้วงกระเป๋าเสื้อ.. ว่างเปล่า เงินไม่มีซักวอน มีแต่เปลือกลูกอม ToT;;;

    แล้วจะกลับยังไงอ่า TAT

     

    “เห๋~ นี่ เซฮุนใช่มั้ย?” เสียงปริศนาที่ร้องทักขึ้นมาเรียกสติของมักเน่น้อยที่กระจุยกระจายให้กลับมารวมกันได้นิดนึง.. ย้ำว่านิดเดียว เพราะ....

    “เฮ้ย~นี่เอ๊กโซนี่~ ยงกุกฮยอง~ มานี่เร็ว!” เด็กหนุ่มผิวสีคล้ำกว่าส่งเสียงสนับสนุนพี่ชายตัวขาว แถมยังตะโกนเรียกลีดเดอร์พี่ใหญ่ให้มาหาราวกลับเจอตัวประหลาด

    ณ วินาทีนั้น โอเซฮุนอยากให้ตัวเองสามารถบังคับลมได้จริงๆเหมือนในคอนเซปต์ จะได้พัดพาตัวเองให้กระเด็นลอยไปจากตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ถึงแม้จะชอบจะปลื้ม แต่ก็ไม่พร้อมจะเผชิญหน้าในระยะประชิด แถมเป็นช่วงเวลาพลัดหลงกับคนอื่นอย่างนี้ด้วยแล้ว  โอยยยยย มาม่า~ ช่วยด้วยฮะ~~~~~

    ว่าแล้วสองพี่ใหญ่ของวงบอยแบนด์ที่เดบิวต์ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ยืนจ้องเด็กน้อยเหมือนจะสอบปากคำ(?) โดยมีเมมเบอร์คนอื่นๆในวงมองสำรวจจนรู้สึกคล้ายกับตัวเองเป็นตัวประหลาดหรือมนุษย์ต่างดาวไปแล้วจริงๆ

    “หลงทางหรอ?”

    “..............”  ไม่ตอบไม่พอ.. ยังถอยหลังออกไปห่างๆอีกแหน่ะ

    “ทำไมไม่พูดล่ะ?” เมื่อไม่ได้รับคำตอบแถมยังทำท่าจะหนี ลีดเดอร์ตัวโตก็ยิ่งเดินเข้าหาเด็กน้อยมากเข้าไปอีก

    “เห้ยๆ ยงกุก! นายไปจ้องน้องเค้าขนาดนั้น เค้ากลัวหมดแล้วเว้ย~” ฮิมชานผลักอกเพื่อนที่เดินดุ่ยๆเข้าหาเซฮุน แล้วหันมาถามเด็กน้อยด้วยเสียง(ที่พยายามจะให้ดู)อ่อนโยนที่สุด..

    “เอ่อ..หลงกับจุนมยอนใช่มั้ย?”

    “.......” เด็กน้อยไม่ตอบ แต่ก็พยักหน้าตอบรับเบาๆ 

    “ฮ่าๆ เค้ากลัวพี่จริงๆด้วยอ่ะพี่ยงกุก ฮ่าๆๆๆๆๆ” แดฮยอนหัวเราะชอบใจกับฮยองแจ เมื่อเห็นท่าทีที่ต่างกัน(นิดนึง)ของเซฮุน

     

    เซฮุนมองไปยังทุกคนในใจก็คิด..คืออยากจะบอกว่าไม่ได้กลัวนะ..

    แค่...เขินตะหากล่ะ T///T

     

    “หุบปากน่าพวกแก!”พี่ใหญ่ลีดเดอร์หันไปเขกหัวน้องๆ ก่อนจะหันไปพูดกับฮิมชาน

    “เอาไงดีล่ะทีนี้? พาไปส่งดีมั้ย?”

    “อื้อก็ได้ ป่ะ ไปกัน” ฮิมชานหันมาทำท่าจะโอบไหล่เซฮุนไป แต่ทว่า...

    “..............” ไม่มีเสียงตอบรับแต่ว่าเด็กน้อยตัวบางส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตายมาก

     

    ไม่ไหว~ไม่เอานะ~~~ แค่ยืนอยู่ด้วยก็เขินจะแย่แล้ว ถ้าอยู่บนรถด้วยกันต้องบ้าตายก่อนแน่ๆ ไม่เอาน๊า~ ToT

     

    “ไม่เอาหรอ?..อืม.. แต่คิดว่าพวกจุนมยอนคงกำลังหานายอยู่เหมือนกันอ่ะเนอะ งั้นเอางี้ เดี๋ยวจะลองไปตามหาให้นะ รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวหลงกันอีก” ฮิมชานดูเหมือนจะเข้าใจเซฮุนนิดๆ โดยคิดไปว่าสงสัยเด็กมันไม่ชินกับการอยู่กับคนอื่น เลยอาสาออกไปตามหาให้ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าของเซฮุนเช่นเคย

    เมื่อฮิมชานวิ่งออกไปแล้ว ยงกุกและเมมเบอร์คนอื่นๆก็ยังคงมองมายังเด็กหนุ่มตัวบางต่างวงอย่างสนใจเหมือนเดิม

    “ไม่พูดเลยแฮะ..” จงอบเอียงคอมองก่อนจะพูดขึ้นตามความคิดของตน

    “เอ~เป็นใบ้รึเปล่านะ?..” แดฮยอนตั้งข้อสันนิษฐานได้ดี(?)จนเซฮุนหันควับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ

    “เค้าเป็นใบ้จริงๆหรอฮยอง? ไม่น่าเลยเนอะ” เจโล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เรียกเสียงฮาก้ากจากทุกคนในวงขึ้นมาเล่นเอาเซฮุนขมวดคิ้ว

    “เห้ยๆมากไปแล้วพวกแก... อย่าไปถือสาพวกมันเลยนะ คือพวกมันแค่อยากคุยด้วยน่ะ” ยงกุกหันไปดุน้องๆก่อนจะหันมายิ้มโชว์เหงือกให้กับเด็กน้อยหลงทาง ซึ่งนั่นทำเอาอีกคนแทบอยากจะลงไปดิ้นๆ(เย็นไว้ลูก) ถ้าคนที่ตัวเองปลื้มจะส่งยิ้มใจดีให้ขนาดนี้  ฮืออออออออออออ *ปลื้มจนอยากจะปลิวไปตามลม*

    “..............”

    “เอ้อ~มีเบอร์โทรมั้ยล่ะ?” จู่ๆคนตัวโตก็พูดขึ้นมาเล่นเอาคนหลงทางถึงกับตาโต

    “............”

    “อ้อ..คือจะได้ลองโทรไปไง เผื่อพี่ๆนายจะได้ยินแล้วหยิบขึ้นมารับ เพราะมือถือไม่ได้อยู่กับตัวไม่ใช่หรอ?” ยงกุกอธิบายเมื่อเห็นสายตางงๆของอีกคน

    “ผมไม่มีโทรศัพท์มือถือ...”

    “อุ๊ย~พูดได้... โอ๊ย!! ฮยอง ผมเจ็บนะ!” ฮยองแจพูดแทรกขึ้นมา เรียกมะเหงกไม่เบานักจากลีดเดอร์

    “พูดมากจริงๆแกนี่! อืม... แล้วเบอร์ติดต่ออื่นๆล่ะ ของเมเนเจอร์ หรือของพี่ๆในวงก็ได้ไรงี้” ยงกุกเอามือถือของตัวเองออกมาพร้อมกด ซึ่งเซฮุนก็ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้จัดการแต่โดยดี ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงออกว่าต้องการช่วยเหลือเต็มที่

    “....ไม่รับสายแฮะ..”

    “งั้นลองเบอร์ของฮยองก็ได้ฮะ”

    เมื่อกดเบอร์ของลีดเดอร์ฮยองสุดที่รักของเซฮุน ราวกับรู้ว่าใครจะโทรมา เสียงรอสายยังไม่ทันจะได้ร้อง ปลายสายก็กดรับอย่างรวดเร็ว..

     

    ~ยอโบเซโย~

    “เอ่อ..ซูโฮใช่มั้ย? นี่บีเอพียงกุกนะ”

    ~อ่อ ครับ~

    “คือตอนนี้เซฮุนอยู่กับพวกเรานะ ฮิมชานกำลังออกไปตามพวกนายอยู่ ไม่รู้ว่าเจอรึยัง”

    ~ยังเลย ขอคุยกับเซฮุนหน่อยได้มั้ย?~

    “โอเคๆ อ่ะ..” ยงกุกยื่นมือถือส่งให้เซฮุน พอเซฮุนรับมายังไม่ทันจะกรอกเสียงลงไปตามสาย...

    ~เซฮุนน่า!!! นายจะไปไหนทำไมไม่บอก??? นี่ทุกคนเป็นห่วงนายกันมากเลยนะ วุ่นวายกันไปหมดแล้วเนี่ย!!!~

    “ก็..ผม..บอก.....”

    ~นายนี่ดื้อเกินไปแล้วนะ ต่อไปจะไม่ตามใจแล้วดื้อแบบนี้ *&^%$&^%$~

    “เออ!!!...ผมมันดื้อมากก็ไม่ต้องมาสนใจผม!ไม่ต้องมายุ่ง!ผมกลับเองก็ได้!!กลับกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอ!!!!” เซฮุนโมโหมากเลยโวยวายก่อนจะกดวางหูอย่างอารมณ์เสีย  เรื่องอะไรมาโทษเราคนเดียวล่ะ  ก็บอกแล้วอ่ะว่าไปเข้าห้องน้ำ อัปปาหูตึง! นิสัยไม่ดี โกรธฮยองแล้ว!!!!! โป้ง!!!

    “เอ่อ.....” ยงกุกเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่พยายามปลอบเด็กน้อย ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันควัน

    “ห้ามรับนะ! ผมจะกลับบ้านเอง!ไม่สนแล้ว!ผมโกรธ! เซฮุนตวัดตามามองด้วยสายตาออกคำสั่งสุดๆ

    “ใจเย็นๆนะ..เอางี้มั้ย เดี๋ยวไปส่งที่หอเองนะ นายไม่มีเงินติดตัวมาไม่ใช่หรอ?” ลีดเดอร์ตัวโตพยายามใช้เหตุผลค่อยๆคุยกับเด็กน้อย ก่อนจะกดรับโทรศัพท์

    “ยอโบเซโย..”

    ~นี่เซฮุน อย่าทำนิสัยแบบนี้นะ!!! ยังพูดไม่ทันรู้เรื่องวางหูทำไม?...~

    “เอ่อ..เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ นี่ยงกุกนะ คือใจเย็นๆก่อนนะ เดี๋ยวจะพาน้องไปส่งที่หอเองนะ”

    ~ไม่ต้องก็ได้.. เดี๋ยวไปรับเอง นี่อยู่ตรงไหนแล้ว?~

    “อืม..เอางี้ดีกว่า ถ้างั้นเดี๋ยวพาไปส่งเองดีกว่า ตอนนี้พวกนายอยู่ที่ไหนล่ะ รออยู่ตรงนั้นละกันนะ แล้วถ้าเจอฮิมชานก็บอกให้อยู่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวคลาดกันอีก”

    เมื่อรับรู้สถานที่นัดพบแล้ว ยงกุกก็บอกให้น้องๆไปรอที่รถก่อน ส่วนเขาจะพาเซฮุนกลับไปหาวงของตัวเองก่อนโดยไม่สนว่าน้องๆจะส่งเสียงแซวกวนประสาทยังไงบ้าง ตอนนี้เขาคิดว่าต้องทำให้เด็กน้อยขี้งอนอย่างเซฮุนใจเย็นลงก่อน แล้วก็พาไปส่งให้เจอกับเมมเบอร์อย่างปลอดภัยไม่ไปหลงทางที่ไหนอีก..

    “นี่..นายโกรธพี่เค้ามากหรอ?”

    “มาก!!เรื่องอะไรมาโทษแต่ผมคนเดียว ก็ผมบอกแล้วนี่ว่าจะไปไหน ไม่ได้จะทำให้คนอื่นวุ่นวายซักหน่อยนึง!” ความโมโหทำให้โอเซฮุนลืมเขินไปได้อย่างสนิท ลืมไปแล้วด้วยซ้ำมั้งว่ากำลังเดินจับมืออยู่กับคนที่ตัวเองแอบชอบอยู่นะนั่น?!

    “ฮะฮะฮ่า” ยงกุกหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู

    “พี่ขำอะไรผม?” เซฮุนจ้องหน้าอย่างหาเรื่อง  แต่แล้วก็รีบหลบตาทันทีเมื่อได้รับคำตอบ

    “ไม่ได้ขำ..แค่คิดว่านายนี่น่ารักดีนะเด็กงอแง~

    “...ผมไม่ได้เป็นเด็กงอแงซักหน่อย...” เด็กหนุ่มตัวบางบ่นอุบอิบ ก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆไว้...

    “แต่นายก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่าที่พี่เค้าดุน่ะ ก็เพราะเป็นห่วงนายมากนะ” เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยอารมณ์เย็นลงแล้ว ยงกุกพยายามที่จะอธิบายด้วยเหตุผล

    “รู้..แต่ทำไมต้องดุด้วยล่ะ!!พูดเหมือนผมผิดคนเดียว นิสัยไม่ดี!” ว่าแล้วเด็กงอแงก็ยังคงงอนอยู่ดี

    “ฮะฮะฮ่า นายนี่ตลกจริงๆนะ” ยงกุกหัวเราะ

    “ถ้ายังขำผมอีกผมจะโกรธพี่!” เซฮุนหันควับทำปากบู้ตามนิสัยอย่างลืมตัว

    “โอเคๆ ไม่ขำแล้ว พอใจมั้ย?เด็กงอแง~” ลีดเดอร์ตัวโตยิ้มฟันขาวที่แลดูกวนประสาทอีกฝ่ายชอบกล ทำเอามักเน่น้อยต่างวงได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว

    “...บอกว่าไม่ใช่เด็กงอแงซะหน่อย...”

     

    และแล้วยงกุกก็เดินจูงมือเด็กน้อยต่างวงมาจนถึงจุดนัดพบซึ่งก็เห็นฮิมชานยืนยิ้มฟันขาวรออยู่ที่นั่นแล้วเหมือนกัน ยงกุกก็พาเซฮุนเดินตรงมายังรถตู้สีขาวที่มีเมมเบอร์วงเอ๊กโซเคพร้อมทั้งเมเนเจอร์ออกมายืนรอรับมักเน่น้อยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

    “พามาส่งแล้วนะ คุยกันดีๆนะใจเย็นๆ” ยงกุกพูดกับจุนมยอน ซึ่งกำลังมองมือที่จับกันแน่นอยู่ตรงหน้านั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

    “ใจเย็นๆล่ะ แล้วเจอกันนะ เด็กงอแง~” มือใหญ่ละจากมือเล็กมาลูบผมสีบรอนซ์ของเซฮุน ก่อนจะเอ่ยแซวออกมายิ้มๆ

    “พี่ยงกุกบ้า!ผมไม่ใช่เด็กงอแงนะ!” เซฮุนจ้องหน้าก่อนจะพูดเบาๆ พลางแลบลิ้นใส่ ก่อนจะหันมาตวัดตาใส่ลีดเดอร์ฮยองแป๊บนึงอย่างแสนงอนแล้ววิ่งสะบัดก้นขึ้นรถตู้ไป ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยกันถ้วนหน้าของทุกคนที่ยืนอยู่

    “ขอบคุณมากนะ” จุนมยอนพูดขึ้น

    “อื้ม~ฉันเข้าใจน่า หัวอกเดียวกันอยู่ ฮ่าฮ่าฮ่า ป่ะฮิมชาน กลับกันได้แล้ว” ยงกุกตอบรับยิ้มๆก่อนจะชวนเพื่อนกลับ

    “ฉันไปก่อนนะจุนมยอน ไว้โทรคุยกันนะ คุยกับแฟนคนสวยของนายนะ ฮ่าๆๆ”

    “ตลกแล้วนะแก!

    “ฮ่าๆ ไปแระๆ ดูแลลูกดีๆอย่าทำลูกหายอีกล่ะ ฮ่าๆ” ฮิมชานยังมีอารมณ์หันมาแซวเพื่อนต่างวง ก่อนที่จะกอดคอเพื่อนในวงกลับไปยังรถของตัวเอง

     

    +ภายในรถตู้ เอ๊กโซเค+

    ทุกสายตามองตรงมายังมักเน่น้อยหลังรถที่นั่งอมยิ้มกับมือทั้งสองของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่จุนมยอนที่แม้จะไม่ได้หันหลังมามองตรงๆ แต่ก็แอบมองลูกรักของตัวเองจากกระจกหลังแทบตลอดเวลา

    “นี่~เซฮุนน่า~ จะไม่เล่าให้พวกเราฟังจริงๆหรอว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เพ็กฮยอนหันมาเขย่าแขนของน้องเล็กอย่างอยากรู้เต็มที่

    “ไม่!

    “เซฮุนน่า~ เดี๋ยวเลี้ยงชานมแก้วโตๆเลย เล่าให้ฟังหน่อยนะ~” คยองซูพยายามเอาของโปรดเข้าล่อ

    “ไม่!

    “เซฮุนน่า~นายมีความลับกับพี่จริงๆหรอ??” ชานยอลก็อ้อนด้วยอีกคน

    “ใช่!

    “เซฮุนน่า~~~

    +++++++++++++++++++++++++

    +ภายในหอเอ็กโซเค+

    มาถึงหอ มักเน่น้อยก็วิ่งดุ่ยๆเข้าห้องไม่พูดไม่จา สร้างความงุนงงให้กับเด็กหนุ่มหน้าสวยที่นั่งเคี้ยวขนมดูโทรทัศน์อยู่กลางห้อง

    “เซฮุนเป็นอะไรหรอ จุนมยอน?” ลู่ฮันเอียงคอถามลีดเดอร์ตัวขาวตาแป๋ว

    “...งอนนิดหน่อยน่ะ” จุนมยอนถอนหายใจพลางเดินเข้าไปใกล้ๆโซฟาก่อนจะทิ้งตัวนอนหนุนตักคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว

    “ไปดุอะไรน้องอีกล่ะสิ..” เจ้าของตักคาดเดาไปตามเรื่อง พลางเอานิ้วจิ้มๆหน้าผากอีกคนเป็นการลงโทษ

    “ดูดิๆ ฮยองมาถึงก็อ้อนลู่ฮันฮยอง  ชิชิ” เพ็กฮยอนสะกิดคยองซูยิกๆด้วยความหมั่นไส้

    “ตลอดอ่ะ ลูกเต้าไม่สนใจวันๆสวีทกันอยู่ได้สองคนนี้” คยองซูทำหน้าตาหมั่นไส้ พลางหยิบของสดในตู้เย็นออกมาวางบนเคาท์เตอร์

    “แล้วอยากสวีทมั่งมั้ยอ่ะ?” จงอินเดินเข้ามาพูดขึ้นลอยๆก่อนจะหยิบมะเขือเทศลูกเล็กบนโต๊ะเข้าปากกินทำหน้ากวน

    “ไปไกลๆเลยไป!” พี่ชายตัวเล็กบู้ปากใส่ เรียกเสียงหัวเราะจากคู่รักต่างไซส์ได้เป็นอย่างดี

     

    +ในห้องนอนของจุนมยอนและเซฮุน+

    เวลาผ่านไปจนล่วงเลยมื้อเย็นมาจนมื้อดึกก็ผ่านไปแล้วนานโข สองพ่อลูกก็ไม่ยอมหันหน้ามาคุยกันดีๆซักที เล่นเอาคนกลางอย่างลู่ฮันซึ่งใช่จะยอมอดทนกับบรรยากาศอย่างนี้ได้นานออกอาการระเบิดลงกลางห้อง

    “นี่!!!ถ้าสองคนนี้ยังไม่พูดกันดีๆ ฉันจะไม่นอนที่นี่แล้วนะ อยู่เคลียร์กันเองไปเลยจนกว่าจะเหมือนเดิมเลยนะ!” ลู่ฮันผุดลุกขึ้นตั้งท่าจะก้าวออกจากเตียงแต่ถูกสองพ่อลูกรั้งมือไว้กันคนละข้าง

    “ลู่ฮันนา!/เสี่ยวลู่อ่า!

    “ไม่อยากให้ไปใช่ป่ะ?” ลู่ฮันถามหยั่งเชิง ซึ่งสองพ่อลูกตัวขาวก็พยักหน้ากันพร้อมเพรียง

    “งั้นก็คุยกันดีๆซะที อย่าให้ฉันโมโห” เสียงเรียบๆที่ถึงแม้จะมาจากสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สองพ่อลูกก็รู้ดีว่าลู่ฮันกำลังอยู่ในโหมดเอาจริง ถ้าขัดใจล่ะก็ เรื่องใหญ่แน่ๆ

    “......................”

    “.....................”

    “จุนมยอน!” ลู่ฮันเห็นว่าไม่เริ่มคุยกันซะที เลยต้องออกคำสั่ง เล่นเอาเจ้าของชื่อสะดุ้ง

    “...................”

    “คิมจุนมยอน!!!

    “จ๋า...”

    “จะพูดไม่พูด!

    “จ้ะๆพูดแล้วๆ ...เอ่อ.. เซฮุนนา~ฮยองขอโทษ” ลีดเดอร์ของวงยอมเป็นฝ่ายที่พูดขอโทษก่อนเพราะก็รู้ดีว่าตัวเองก็โมโหเกินไป ก็เลยดุเซฮุนออกไปด้วยความปากไว

    “...............”

    “หายโกรธฮยองนะ...” อัปปาตัวเล็กพยายามอ้อนลูกรักของตน

    “............ก็ด้ะ! คราวหลังก็ฟังผมมั่ง ผมบอกฮยองแล้วจริงๆอ่ะว่าผมไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เห็นว่าฮยองอ่ะพยักหน้าแล้ว ใครจะคิดล่ะว่าไม่ได้ยินอ่ะ” เซฮุนตอบปากบู้แต่ก็ยอมให้อัปปาที่รักของตนกอดแต่โดยดี

    “โอเคๆ ฮยองขอโทษนะ” จุนมยอนยิ้มแป้นก่อนจะหอมแก้มลูกน้อยของตนฟอดใหญ่

    “อื้อ” เซฮุนยิ้มรับแล้วหอมแก้มอัปปาตัวเองตอบกลับไปเช่นกัน

    “จุนมยอนๆ นายบอกว่ามีของขวัญให้เซฮุนไม่ใช่หรอ?” ลู่ฮันที่นั่งอยู่ตรงกลางสะกิดแขนของคนข้างๆเพื่อเตือนความจำ

    “เอ้อ..จริงสิ  นี่..เซฮุนนา~” ว่าแล้วก็ยื่นกล่องใบเล็กให้กับเซฮุน

    “เอ๋~ นี่มัน..” เด็กน้อยก้มลงมองของในกล่องนั้นแล้วทำตาโตตกใจ

    “อื้อ  คราวนี้นายก็มีมือถือแล้วนะเซฮุนนี่~~~” ลู่ฮันยิ้มแฉ่งพร้อมกับจับคางของลูกน้อยด้วยความเอ็นดู

    “อิอิ รักฮยองนะ~ รักที่สุดเลย~~~” เซฮุนกอดรัดทั้งจุนมยอนและลู่ฮันอย่างดีใจ ที่ได้รับอนุญาตให้ได้มีมือถือส่วนตัวเหมือนคนอื่นเขาแล้ว

    “ฮยองเมมเบอร์ของทุกคนลงไปแล้วนะ เก็บดีๆล่ะ แล้วก็อย่าคุยโทรศัพท์เยอะนะรู้มั้ย? แล้วก็...”อัปปาจุนมยอนเริ่มจะเทศนาสั่งสอน

    “พอๆ หยุดเทศน์เลยนะจุนมยอนอ่า~ โอเค~ดีกันแล้วนะ นอนได้แล้วๆ ง่วงแล้วล่ะ~” ลู่ฮันรีบตัดบท อ้าปากหาวหวอดๆแสดงอาการง่วงเต็มที่ และนั่นก็ทำให้สองพ่อลูกสบตากันอย่างมีความหมาย.. ก่อนจะพร้อมใจกันก้มลงไปฟัดคนกลางด้วยความหมั่นเขี้ยว...

    “อ๊ายยยยยยยย  ปล่อยนะ!!! หยุ๊ดดดดดดดดดดด  จั๊กกะจี้น๊า ปล๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย”

     

    +++++++++++++++++++++

    ท่ามกลางความวุ่นวายที่ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มคุ้นเคยกับมันมากแล้ว งานใหญ่ก็แบบนี้เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปินเป็นร้อยวงก็ต้องโกลาหลกันเป็นธรรมดา ห้องที่ดูเหมือนจะกว้างขวางนั้นก็แลดูแคบลงไปถนัดตาเพราะตอนนี้เต็มไปด้วยมนุษย์หลายร้อยชีวิตวิ่งวุ่นไปมาน่าเวียนหัว ซึ่งมักเน่น้อยเซฮุนก็เลือกที่จะนั่งเล่นเกมส์ในมือถือเพื่อผ่อนคลายอารมณ์จากความน่าเบื่อของบรรยากาศรอบๆ ก็พี่ๆคนอื่นก็มัวแต่นั่งสวีทกัน อุตส่าห์มีคนที่คู่ไม่ได้มาอย่างจื่อเทาอยู่เป็นเพื่อน ไอ้พี่ตุ้ยจางบ้าก็ดันโทรมาซะนี่  พวกที่มีแฟนนี่ห่างกันนิดหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ! ฮึ่ย!

    ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ เซฮุนก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาสัมผัสที่ข้างแก้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองหาต้นเหตุของความรู้สึกนั้น..

    “อ๊ะ..พี่..” เด็กน้อยตาโต เมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนยิ้มพร้อมกับกระป๋องน้ำหวานเย็นๆในมือ

    “ว่าไงเด็กงอแง~

    “ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้งอแงนะ!” เซฮุนทำปากบู้ เรียกอย่างงี้อีกแล้ว -^-

    “โอ๋ๆอย่างอนเลยนะ อ่ะกินน้ำหวานๆจะได้ใจเย็นๆ” กระป๋องน้ำสีส้มถูกยื่นให้กับอีกคนอย่างง้องอน

    “ชิ!” ทำปากเบ้ยิงฟันใส่แต่ก็เอื้อมมือขึ้นมารับกระป๋องน้ำแต่โดยดี ยงกุกยิ้มแล้วทักขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นโทรศัพท์ในมือของอีกคน

    “เอ๊~มีมือถือแล้วนี่”

    “ใช่แล้ว~ฮยองให้พกไว้ กลัวว่าจะหายอีก” พูดตอบไปพลางเปิดกระป๋องน้ำหวานไป

    “ถ้าอย่างนั้นก็มีเบอร์โทรศัพท์แล้วสินะ..”

    “อื้อ..”

    “งั้นขอยืมแป๊บนึงสิ”

    “????” เซฮุนมองอีกฝ่ายอย่างงงๆแต่ก็ยื่นมือถือให้แต่โดยดี ซึ่งลีดเดอร์ตัวโตก็ทำท่าเหมือนจะโทรหาใครซักคนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก็กดวางหูเสียแล้ว..

    “โอเค..ขอบใจมากนะ แต่ขอเตือนอะไรอย่างนึงนะ” ยงกุกทำหน้าซีเรียส

    “หือม์?อะไรฮะ?”

    “คราวหลังอย่าให้ใครยืมมือถืออีกรู้มั้ย? เด็กงอแง” มือใหญ่หยิกเบาๆที่แก้มขาวของอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยว

    “พี่อ่ะ!” เซฮุนปัดมือของอีกฝ่าย ทำหน้าบู้เหมือนไม่พอใจซ่อนอาการเขิน เรียกเสียงหัวเราะจากอีกคนได้เป็นอย่างดี

    “ผม..ก็มีอะไรจะบอกพี่เหมือนกันแหละ”

    “หือม์?”

    “คราวหลังจะขอแลกเบอร์ผมก็บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องใช้มุขลุงๆแบบนี้ ผมไปแระ แบร่!!” มักเน่น้อยตัวบางแลบลิ้นใส่คนตรงหน้าก่อนจะวิ่งหนีไปสมทบกับพี่ๆเมมเบอร์ที่เตรียมตัวแสตนด์บายกันแล้ว ทิ้งให้คนตัวสูงยืนเกาท้ายทอยอย่างเก้อๆ  นี่เขาโดนเด็กมันรู้ทันหรอนี่??

    “มุขลุงๆ ยงกุกฮยองมุขลุง วู้วๆๆๆๆ” แดฮยอนกับฮยองแจที่ไม่รู้โผล่มาจากทางไหนประสานเสียงคอรัสใส่หูลีดเดอร์ด้วยท่วงทำนองที่กวนประสาทสุดฤทธิ์

    “อุ๊ยๆ ลุงยงกุก ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานเสริมทัพด้วยการหัวเราะเยาะลั่นเพิ่มความอับอายให้กับเพื่อนร่วมวง

    “พวกแก!!!!!!!!!” ยงกุกหันควับไปหาพร้อมกับง้างเท้าวิ่งไล่เตะไอ้พวกน้องจอมกวน ท่ามกลางความงุนงงของน้องอีกสองคนในวง...

    “มุขลุงคืออะไรอ่ะฮยอง? แล้วพวกพี่ๆเค้าทำอะไรกันอ่ะ?” เจโล่หันไปถามจงอบ

    “ไม่รู้ว่ะ สงสัยวอร์มร่างกายมั้ง?? ช่างมันเถอะ..มากินขนมต่อกัน..” จงอบหยิบขนมในถุงยัดใส่ปากน้อง แล้วก็เอาเข้าปากตัวเองเคี้ยวตุ้ยๆมองสมาชิกในวงเล่นวิ่งไล่เตะกันอย่างเพลิดเพลิน(?)

     

    +++++++++++++++++++++++++

     

    ความรู้สึกที่ได้แอบมองแอบส่งกำลังใจให้อยู่ห่างๆ ก็รู้สึกดีแล้วแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้รับรู้อะไรก็ตาม มันคือความสุขของการได้แอบรัก...

    แต่ก็คงมีโอกาสไม่มากที่ระยะห่างระหว่างคนแอบรักกับคนถูกแอบรักมันจะค่อยๆแคบลง แคบลง จนกระทั่งมันกลายเป็นใกล้กันในที่สุด..

    ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป... เอาเป็นว่าถ้าปัจจุบันนี้ตอนนี้มีความสุขดี...

    ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?....

     

    “ยอโบเซโย~

    ~ว่าไงเด็กงอแง~....วันนี้ดื้ออีกรึเปล่าเนี่ย?~

    “พี่อ่ะ!!! ถ้าจะโทรมาแบบนี้จะไม่คุยด้วยแล้ว! โกรธพี่แล้ว! โป้ง!

     

    +จบ(?)+

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

    =Talk=

    แหะๆ หวังว่าชอทฟิคเรื่องนี้คงทำให้อมยิ้มได้นะค๊า~ แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วแหละ แต่จะดีใจม๊ากมากถ้าคอมเมนท์กันด้วยอ่ะนะค๊า ^^





    น่ารักมั้ย? ฮิฮิ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×