คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Baby...Baby [YonggukxSehun]
(ชั้นแทรกรูปใหญ่ไปไหน? ฮ่าๆๆๆ)
แบบว่าแอบชอบคู่ลีดเดอร์กับมักเน่(แต่คนละวง..อั๊ยยยย) คือก็ดูๆแล้วรู้สึกว่าน่ารักดี เค้าก็มีโมเมนท์กันอยู่เบาๆนะ(ดูเอง มโนเอง ฟินเอง..เย่!)
ผลของการมโนเลยได้ชอทฟิคนี้ขึ้นมา ลองๆอ่านดูนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ ไม่ค่อยสันทัดบีเอพีเท่าไหร่ สารภาพว่าเพิ่งดูได้ไม่นานค่า :)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Baby~Baby [YonggukxSehun]
เวลาเราแอบชอบใครสักคนหนึ่ง แค่พูดหรือได้ยินชื่อของเขา..เราก็ยิ้มออกมาได้แล้ว
มันรู้สึกมีความสุขมากมาย แม้จะทำได้แค่มองอยู่ห่างๆแอบชอบอยู่ไกลๆก็ตาม
ความรู้สึกที่ได้แอบส่งความรู้สึกดีๆให้โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รู้ตัวเลยก็ตามนั้น..
...ก็ทำให้วันหนึ่งของคนๆนึงเป็นวันที่แสนจะสดใสได้แล้วล่ะ...
แสงไฟนับร้อยดวงที่สาดส่องบนเวทีประสานกับเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจบวกกับท่าเต้นที่แข็งแกร่งเหมือนกองทัพพร้อมรบ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจได้อย่างไม่ขาดสาย เสียงบรรดาแฟนคลับอังกอร์ดังสนั่นอยู่หน้าเวทีซึ่งจะมีใครรู้บ้างไหมว่า...ยังมีเสียงเบาๆจากแฟนคลับตัวบางคนนึงที่แอบอังกอร์ในลำคออยู่หลังเวทีนี้เหมือนกันนะ..
“เซฮุนนา~มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ ฮยองเรียกแล้วนะ” เด็กหนุ่มตัวเล็กวิ่งดุ๊กๆเข้ามาแตะบ่าของน้องเล็กตัวสูงที่ยืนชะเง้ออยู่ที่มุมประตู
“เอ่อ..รู้แล้วน่า~ขอดูอีกแป๊บนึงนะ นะฮยองนะ~” มักเน่น้อยทำปากกลมอ้อนพี่ชายตัวเล็ก
“ไหน~นี่ดูอะไรเนี่ย..อ้อ~~~~~” ตาโตๆของเมนโวคอลมองตรงไปยังตำแหน่งที่น้องเล็กโฟกัสก่อนจะอ้าปากร้องอ๋อเสียงดังล้อเลียนน้องน้อย
“ฮยองอ่ะ!อย่าล้อซิ!!!!” เซฮุนใช้กำปั้นทุบๆใส่คยองซูระบายความเขินตามนิสัย ซึ่งนอกจากคนเป็นพี่จะไม่เลิกล้อเลียนแล้วยังจะหาพรรคพวกอีกตะหาก
“โอ๊ยๆๆ นายเขินพี่เค้าแล้วมาลงที่ฉันทำไมเนี่ย? เพ็กฮยอนอา~ ช่วยด้วยยยยย”
“ไหนๆ โอ๊ะโอ~นี่เป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งของบีเอพีเลยนะนี่ ฮ่าๆๆๆๆ”
“พวกฮยองอ่า!!!หยุดล้อผมเดี๋ยวนี้นะ!!!” ว่าแล้วกำปั้นมักเน่ก็เหวี่ยงไปซ้ายขวาอย่างไม่รู้จะทำอะไรที่จะแก้อาการเขินอายนั้นดี เพราะนอกจากจะไม่มีใครช่วยแล้ว พวกเมมเบอร์ที่เหลือก็ใจร้ายพอจะหัวเราะชอบใจที่น้องน้อยเขินหน้าแดงหูแดงแบบนี้ ชิชิ! งอนทุกคนแล้วด้วย! โป้ง!!!
“พอได้แล้วน่า~ เตรียมแสตนด์บายได้แล้วทุกคน~!”
+++++++++++++++++++++
วันนี้เป็นอีกวันทำงานที่แสนเหน็ดเหนื่อย แต่ในความอ่อนล้านั้นก็มีความสุขเล็กๆของโอเซฮุน ทำไมน่ะหรอ? ก็นอกจากจะได้ทำงานกับพี่ๆเมมเบอร์ที่รักของตัวเองแล้ว ยังได้อยู่บนเวทีเดียวกันกับคนๆนั้น... เอาจริงๆเซฮุนก็บอกไม่ถูกว่ามันคือความรู้สึกที่มีให้นั้นมันคืออะไรเหมือนกัน เพราะตอนแรกๆก็รู้สึกว่าแค่ชื่นชมในความสามารถเฉยๆ ก็คอยติดตามผลงานแอบให้กำลังใจอยู่ห่างๆมาตลอด และความรู้สึกนั้นนับวันมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วจริงๆ.. มันคงเรียกว่าแอบชอบก็คงได้ล่ะมั้ง?
“ฮยอง~ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงในลำคอของน้องเล็กที่พยายามจะบอกลีดเดอร์ท่ามกลางเสียงวุ่นวายของทีมงานนับสิบสิบชีวิต ซึ่งเด็กน้อยก็คิดว่าพี่ชายที่รักของตนรับรู้แล้วก็เลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยไม่รู้เลยว่าเมมเบอร์ที่เหลือได้เดินเรียงแถวตามผู้จัดการออกห่างไกลไปทุกที..
พอทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว มักเน่น้อยก็เดินออกมาหันซ้ายมองขวา... พวกฮยองหายไปไหน? เมเนเจอร์ฮยองล่ะ???? ไปไหนกันหมด??? จากที่มีคนอยู่พลุกพล่านเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่ผ่านมานั้นเหลือเพียงทีมงานเพียงไม่กี่คน กับศิลปินที่อยู่กันเป็นกลุ่มๆ ช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากของโอเซฮุนมาถึงแล้วสินะ
มือถือก็ไม่มี จะติดต่อกันยังไงล่ะทีนี้ T^T
เด็กน้อยเอาสองมือล้วงกระเป๋าเสื้อ.. ว่างเปล่า เงินไม่มีซักวอน มีแต่เปลือกลูกอม ToT;;;
แล้วจะกลับยังไงอ่า TAT
“เห๋~ นี่ เซฮุนใช่มั้ย?” เสียงปริศนาที่ร้องทักขึ้นมาเรียกสติของมักเน่น้อยที่กระจุยกระจายให้กลับมารวมกันได้นิดนึง.. ย้ำว่านิดเดียว เพราะ....
“เฮ้ย~นี่เอ๊กโซนี่~ ยงกุกฮยอง~ มานี่เร็ว!” เด็กหนุ่มผิวสีคล้ำกว่าส่งเสียงสนับสนุนพี่ชายตัวขาว แถมยังตะโกนเรียกลีดเดอร์พี่ใหญ่ให้มาหาราวกลับเจอตัวประหลาด
ณ วินาทีนั้น โอเซฮุนอยากให้ตัวเองสามารถบังคับลมได้จริงๆเหมือนในคอนเซปต์ จะได้พัดพาตัวเองให้กระเด็นลอยไปจากตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ถึงแม้จะชอบจะปลื้ม แต่ก็ไม่พร้อมจะเผชิญหน้าในระยะประชิด แถมเป็นช่วงเวลาพลัดหลงกับคนอื่นอย่างนี้ด้วยแล้ว โอยยยยย มาม่า~ ช่วยด้วยฮะ~~~~~
ว่าแล้วสองพี่ใหญ่ของวงบอยแบนด์ที่เดบิวต์ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ยืนจ้องเด็กน้อยเหมือนจะสอบปากคำ(?) โดยมีเมมเบอร์คนอื่นๆในวงมองสำรวจจนรู้สึกคล้ายกับตัวเองเป็นตัวประหลาดหรือมนุษย์ต่างดาวไปแล้วจริงๆ
“หลงทางหรอ?”
“..............” ไม่ตอบไม่พอ.. ยังถอยหลังออกไปห่างๆอีกแหน่ะ
“ทำไมไม่พูดล่ะ?” เมื่อไม่ได้รับคำตอบแถมยังทำท่าจะหนี ลีดเดอร์ตัวโตก็ยิ่งเดินเข้าหาเด็กน้อยมากเข้าไปอีก
“เห้ยๆ ยงกุก! นายไปจ้องน้องเค้าขนาดนั้น เค้ากลัวหมดแล้วเว้ย~” ฮิมชานผลักอกเพื่อนที่เดินดุ่ยๆเข้าหาเซฮุน แล้วหันมาถามเด็กน้อยด้วยเสียง(ที่พยายามจะให้ดู)อ่อนโยนที่สุด..
“เอ่อ..หลงกับจุนมยอนใช่มั้ย?”
“.......” เด็กน้อยไม่ตอบ แต่ก็พยักหน้าตอบรับเบาๆ
“ฮ่าๆ เค้ากลัวพี่จริงๆด้วยอ่ะพี่ยงกุก ฮ่าๆๆๆๆๆ” แดฮยอนหัวเราะชอบใจกับฮยองแจ เมื่อเห็นท่าทีที่ต่างกัน(นิดนึง)ของเซฮุน
เซฮุนมองไปยังทุกคนในใจก็คิด..คืออยากจะบอกว่าไม่ได้กลัวนะ..
แค่...เขินตะหากล่ะ T///T
“หุบปากน่าพวกแก!”พี่ใหญ่ลีดเดอร์หันไปเขกหัวน้องๆ ก่อนจะหันไปพูดกับฮิมชาน
“เอาไงดีล่ะทีนี้? พาไปส่งดีมั้ย?”
“อื้อก็ได้ ป่ะ ไปกัน” ฮิมชานหันมาทำท่าจะโอบไหล่เซฮุนไป แต่ทว่า...
“..............” ไม่มีเสียงตอบรับแต่ว่าเด็กน้อยตัวบางส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตายมาก
ไม่ไหว~ไม่เอานะ~~~ แค่ยืนอยู่ด้วยก็เขินจะแย่แล้ว ถ้าอยู่บนรถด้วยกันต้องบ้าตายก่อนแน่ๆ ไม่เอาน๊า~ ToT
“ไม่เอาหรอ?..อืม.. แต่คิดว่าพวกจุนมยอนคงกำลังหานายอยู่เหมือนกันอ่ะเนอะ งั้นเอางี้ เดี๋ยวจะลองไปตามหาให้นะ รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวหลงกันอีก” ฮิมชานดูเหมือนจะเข้าใจเซฮุนนิดๆ โดยคิดไปว่าสงสัยเด็กมันไม่ชินกับการอยู่กับคนอื่น เลยอาสาออกไปตามหาให้ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าของเซฮุนเช่นเคย
เมื่อฮิมชานวิ่งออกไปแล้ว ยงกุกและเมมเบอร์คนอื่นๆก็ยังคงมองมายังเด็กหนุ่มตัวบางต่างวงอย่างสนใจเหมือนเดิม
“ไม่พูดเลยแฮะ..” จงอบเอียงคอมองก่อนจะพูดขึ้นตามความคิดของตน
“เอ~เป็นใบ้รึเปล่านะ?..” แดฮยอนตั้งข้อสันนิษฐานได้ดี(?)จนเซฮุนหันควับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ
“เค้าเป็นใบ้จริงๆหรอฮยอง? ไม่น่าเลยเนอะ” เจโล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เรียกเสียงฮาก้ากจากทุกคนในวงขึ้นมาเล่นเอาเซฮุนขมวดคิ้ว
“เห้ยๆมากไปแล้วพวกแก... อย่าไปถือสาพวกมันเลยนะ คือพวกมันแค่อยากคุยด้วยน่ะ” ยงกุกหันไปดุน้องๆก่อนจะหันมายิ้มโชว์เหงือกให้กับเด็กน้อยหลงทาง ซึ่งนั่นทำเอาอีกคนแทบอยากจะลงไปดิ้นๆ(เย็นไว้ลูก) ถ้าคนที่ตัวเองปลื้มจะส่งยิ้มใจดีให้ขนาดนี้ ฮืออออออออออออ *ปลื้มจนอยากจะปลิวไปตามลม*
“..............”
“เอ้อ~มีเบอร์โทรมั้ยล่ะ?” จู่ๆคนตัวโตก็พูดขึ้นมาเล่นเอาคนหลงทางถึงกับตาโต
“............”
“อ้อ..คือจะได้ลองโทรไปไง เผื่อพี่ๆนายจะได้ยินแล้วหยิบขึ้นมารับ เพราะมือถือไม่ได้อยู่กับตัวไม่ใช่หรอ?” ยงกุกอธิบายเมื่อเห็นสายตางงๆของอีกคน
“ผมไม่มีโทรศัพท์มือถือ...”
“อุ๊ย~พูดได้... โอ๊ย!! ฮยอง ผมเจ็บนะ!” ฮยองแจพูดแทรกขึ้นมา เรียกมะเหงกไม่เบานักจากลีดเดอร์
“พูดมากจริงๆแกนี่! อืม... แล้วเบอร์ติดต่ออื่นๆล่ะ ของเมเนเจอร์ หรือของพี่ๆในวงก็ได้ไรงี้” ยงกุกเอามือถือของตัวเองออกมาพร้อมกด ซึ่งเซฮุนก็ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้จัดการแต่โดยดี ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงออกว่าต้องการช่วยเหลือเต็มที่
“....ไม่รับสายแฮะ..”
“งั้นลองเบอร์ของฮยองก็ได้ฮะ”
เมื่อกดเบอร์ของลีดเดอร์ฮยองสุดที่รักของเซฮุน ราวกับรู้ว่าใครจะโทรมา เสียงรอสายยังไม่ทันจะได้ร้อง ปลายสายก็กดรับอย่างรวดเร็ว..
~ยอโบเซโย~
“เอ่อ..ซูโฮใช่มั้ย? นี่บีเอพียงกุกนะ”
~อ่อ ครับ~
“คือตอนนี้เซฮุนอยู่กับพวกเรานะ ฮิมชานกำลังออกไปตามพวกนายอยู่ ไม่รู้ว่าเจอรึยัง”
~ยังเลย ขอคุยกับเซฮุนหน่อยได้มั้ย?~
“โอเคๆ อ่ะ..” ยงกุกยื่นมือถือส่งให้เซฮุน พอเซฮุนรับมายังไม่ทันจะกรอกเสียงลงไปตามสาย...
~เซฮุนน่า!!! นายจะไปไหนทำไมไม่บอก??? นี่ทุกคนเป็นห่วงนายกันมากเลยนะ วุ่นวายกันไปหมดแล้วเนี่ย!!!~
“ก็..ผม..บอก.....”
~นายนี่ดื้อเกินไปแล้วนะ ต่อไปจะไม่ตามใจแล้วดื้อแบบนี้ *&^%$&^%$~
“เออ!!!...ผมมันดื้อมากก็ไม่ต้องมาสนใจผม!ไม่ต้องมายุ่ง!ผมกลับเองก็ได้!!กลับกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอ!!!!” เซฮุนโมโหมากเลยโวยวายก่อนจะกดวางหูอย่างอารมณ์เสีย เรื่องอะไรมาโทษเราคนเดียวล่ะ ก็บอกแล้วอ่ะว่าไปเข้าห้องน้ำ อัปปาหูตึง! นิสัยไม่ดี โกรธฮยองแล้ว!!!!! โป้ง!!!
“เอ่อ.....” ยงกุกเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่พยายามปลอบเด็กน้อย ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันควัน
“ห้ามรับนะ! ผมจะกลับบ้านเอง!ไม่สนแล้ว!ผมโกรธ!” เซฮุนตวัดตามามองด้วยสายตาออกคำสั่งสุดๆ
“ใจเย็นๆนะ..เอางี้มั้ย เดี๋ยวไปส่งที่หอเองนะ นายไม่มีเงินติดตัวมาไม่ใช่หรอ?” ลีดเดอร์ตัวโตพยายามใช้เหตุผลค่อยๆคุยกับเด็กน้อย ก่อนจะกดรับโทรศัพท์
“ยอโบเซโย..”
~นี่เซฮุน อย่าทำนิสัยแบบนี้นะ!!! ยังพูดไม่ทันรู้เรื่องวางหูทำไม?...~
“เอ่อ..เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ นี่ยงกุกนะ คือใจเย็นๆก่อนนะ เดี๋ยวจะพาน้องไปส่งที่หอเองนะ”
~ไม่ต้องก็ได้.. เดี๋ยวไปรับเอง นี่อยู่ตรงไหนแล้ว?~
“อืม..เอางี้ดีกว่า ถ้างั้นเดี๋ยวพาไปส่งเองดีกว่า ตอนนี้พวกนายอยู่ที่ไหนล่ะ รออยู่ตรงนั้นละกันนะ แล้วถ้าเจอฮิมชานก็บอกให้อยู่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวคลาดกันอีก”
เมื่อรับรู้สถานที่นัดพบแล้ว ยงกุกก็บอกให้น้องๆไปรอที่รถก่อน ส่วนเขาจะพาเซฮุนกลับไปหาวงของตัวเองก่อนโดยไม่สนว่าน้องๆจะส่งเสียงแซวกวนประสาทยังไงบ้าง ตอนนี้เขาคิดว่าต้องทำให้เด็กน้อยขี้งอนอย่างเซฮุนใจเย็นลงก่อน แล้วก็พาไปส่งให้เจอกับเมมเบอร์อย่างปลอดภัยไม่ไปหลงทางที่ไหนอีก..
“นี่..นายโกรธพี่เค้ามากหรอ?”
“มาก!!เรื่องอะไรมาโทษแต่ผมคนเดียว ก็ผมบอกแล้วนี่ว่าจะไปไหน ไม่ได้จะทำให้คนอื่นวุ่นวายซักหน่อยนึง!” ความโมโหทำให้โอเซฮุนลืมเขินไปได้อย่างสนิท ลืมไปแล้วด้วยซ้ำมั้งว่ากำลังเดินจับมืออยู่กับคนที่ตัวเองแอบชอบอยู่นะนั่น?!
“ฮะฮะฮ่า” ยงกุกหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
“พี่ขำอะไรผม?” เซฮุนจ้องหน้าอย่างหาเรื่อง แต่แล้วก็รีบหลบตาทันทีเมื่อได้รับคำตอบ
“ไม่ได้ขำ..แค่คิดว่านายนี่น่ารักดีนะเด็กงอแง~”
“...ผมไม่ได้เป็นเด็กงอแงซักหน่อย...” เด็กหนุ่มตัวบางบ่นอุบอิบ ก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆไว้...
“แต่นายก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่าที่พี่เค้าดุน่ะ ก็เพราะเป็นห่วงนายมากนะ” เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยอารมณ์เย็นลงแล้ว ยงกุกพยายามที่จะอธิบายด้วยเหตุผล
“รู้..แต่ทำไมต้องดุด้วยล่ะ!!พูดเหมือนผมผิดคนเดียว นิสัยไม่ดี!” ว่าแล้วเด็กงอแงก็ยังคงงอนอยู่ดี
“ฮะฮะฮ่า นายนี่ตลกจริงๆนะ” ยงกุกหัวเราะ
“ถ้ายังขำผมอีกผมจะโกรธพี่!” เซฮุนหันควับทำปากบู้ตามนิสัยอย่างลืมตัว
“โอเคๆ ไม่ขำแล้ว พอใจมั้ย?เด็กงอแง~” ลีดเดอร์ตัวโตยิ้มฟันขาวที่แลดูกวนประสาทอีกฝ่ายชอบกล ทำเอามักเน่น้อยต่างวงได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
“...บอกว่าไม่ใช่เด็กงอแงซะหน่อย...”
และแล้วยงกุกก็เดินจูงมือเด็กน้อยต่างวงมาจนถึงจุดนัดพบซึ่งก็เห็นฮิมชานยืนยิ้มฟันขาวรออยู่ที่นั่นแล้วเหมือนกัน ยงกุกก็พาเซฮุนเดินตรงมายังรถตู้สีขาวที่มีเมมเบอร์วงเอ๊กโซเคพร้อมทั้งเมเนเจอร์ออกมายืนรอรับมักเน่น้อยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
“พามาส่งแล้วนะ คุยกันดีๆนะใจเย็นๆ” ยงกุกพูดกับจุนมยอน ซึ่งกำลังมองมือที่จับกันแน่นอยู่ตรงหน้านั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ใจเย็นๆล่ะ แล้วเจอกันนะ เด็กงอแง~” มือใหญ่ละจากมือเล็กมาลูบผมสีบรอนซ์ของเซฮุน ก่อนจะเอ่ยแซวออกมายิ้มๆ
“พี่ยงกุกบ้า!ผมไม่ใช่เด็กงอแงนะ!” เซฮุนจ้องหน้าก่อนจะพูดเบาๆ พลางแลบลิ้นใส่ ก่อนจะหันมาตวัดตาใส่ลีดเดอร์ฮยองแป๊บนึงอย่างแสนงอนแล้ววิ่งสะบัดก้นขึ้นรถตู้ไป ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยกันถ้วนหน้าของทุกคนที่ยืนอยู่
“ขอบคุณมากนะ” จุนมยอนพูดขึ้น
“อื้ม~ฉันเข้าใจน่า หัวอกเดียวกันอยู่ ฮ่าฮ่าฮ่า ป่ะฮิมชาน กลับกันได้แล้ว” ยงกุกตอบรับยิ้มๆก่อนจะชวนเพื่อนกลับ
“ฉันไปก่อนนะจุนมยอน ไว้โทรคุยกันนะ คุยกับแฟนคนสวยของนายนะ ฮ่าๆๆ”
“ตลกแล้วนะแก!”
“ฮ่าๆ ไปแระๆ ดูแลลูกดีๆอย่าทำลูกหายอีกล่ะ ฮ่าๆ” ฮิมชานยังมีอารมณ์หันมาแซวเพื่อนต่างวง ก่อนที่จะกอดคอเพื่อนในวงกลับไปยังรถของตัวเอง
+ภายในรถตู้ เอ๊กโซเค+
ทุกสายตามองตรงมายังมักเน่น้อยหลังรถที่นั่งอมยิ้มกับมือทั้งสองของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่จุนมยอนที่แม้จะไม่ได้หันหลังมามองตรงๆ แต่ก็แอบมองลูกรักของตัวเองจากกระจกหลังแทบตลอดเวลา
“นี่~เซฮุนน่า~ จะไม่เล่าให้พวกเราฟังจริงๆหรอว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เพ็กฮยอนหันมาเขย่าแขนของน้องเล็กอย่างอยากรู้เต็มที่
“ไม่!”
“เซฮุนน่า~ เดี๋ยวเลี้ยงชานมแก้วโตๆเลย เล่าให้ฟังหน่อยนะ~” คยองซูพยายามเอาของโปรดเข้าล่อ
“ไม่!”
“เซฮุนน่า~นายมีความลับกับพี่จริงๆหรอ??” ชานยอลก็อ้อนด้วยอีกคน
“ใช่!”
“เซฮุนน่า~~~”
+++++++++++++++++++++++++
+ภายในหอเอ็กโซเค+
มาถึงหอ มักเน่น้อยก็วิ่งดุ่ยๆเข้าห้องไม่พูดไม่จา สร้างความงุนงงให้กับเด็กหนุ่มหน้าสวยที่นั่งเคี้ยวขนมดูโทรทัศน์อยู่กลางห้อง
“เซฮุนเป็นอะไรหรอ จุนมยอน?” ลู่ฮันเอียงคอถามลีดเดอร์ตัวขาวตาแป๋ว
“...งอนนิดหน่อยน่ะ” จุนมยอนถอนหายใจพลางเดินเข้าไปใกล้ๆโซฟาก่อนจะทิ้งตัวนอนหนุนตักคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ไปดุอะไรน้องอีกล่ะสิ..” เจ้าของตักคาดเดาไปตามเรื่อง พลางเอานิ้วจิ้มๆหน้าผากอีกคนเป็นการลงโทษ
“ดูดิๆ ฮยองมาถึงก็อ้อนลู่ฮันฮยอง ชิชิ” เพ็กฮยอนสะกิดคยองซูยิกๆด้วยความหมั่นไส้
“ตลอดอ่ะ ลูกเต้าไม่สนใจวันๆสวีทกันอยู่ได้สองคนนี้” คยองซูทำหน้าตาหมั่นไส้ พลางหยิบของสดในตู้เย็นออกมาวางบนเคาท์เตอร์
“แล้วอยากสวีทมั่งมั้ยอ่ะ?” จงอินเดินเข้ามาพูดขึ้นลอยๆก่อนจะหยิบมะเขือเทศลูกเล็กบนโต๊ะเข้าปากกินทำหน้ากวน
“ไปไกลๆเลยไป!” พี่ชายตัวเล็กบู้ปากใส่ เรียกเสียงหัวเราะจากคู่รักต่างไซส์ได้เป็นอย่างดี
+ในห้องนอนของจุนมยอนและเซฮุน+
เวลาผ่านไปจนล่วงเลยมื้อเย็นมาจนมื้อดึกก็ผ่านไปแล้วนานโข สองพ่อลูกก็ไม่ยอมหันหน้ามาคุยกันดีๆซักที เล่นเอาคนกลางอย่างลู่ฮันซึ่งใช่จะยอมอดทนกับบรรยากาศอย่างนี้ได้นานออกอาการระเบิดลงกลางห้อง
“นี่!!!ถ้าสองคนนี้ยังไม่พูดกันดีๆ ฉันจะไม่นอนที่นี่แล้วนะ อยู่เคลียร์กันเองไปเลยจนกว่าจะเหมือนเดิมเลยนะ!” ลู่ฮันผุดลุกขึ้นตั้งท่าจะก้าวออกจากเตียงแต่ถูกสองพ่อลูกรั้งมือไว้กันคนละข้าง
“ลู่ฮันนา!/เสี่ยวลู่อ่า!”
“ไม่อยากให้ไปใช่ป่ะ?” ลู่ฮันถามหยั่งเชิง ซึ่งสองพ่อลูกตัวขาวก็พยักหน้ากันพร้อมเพรียง
“งั้นก็คุยกันดีๆซะที อย่าให้ฉันโมโห” เสียงเรียบๆที่ถึงแม้จะมาจากสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สองพ่อลูกก็รู้ดีว่าลู่ฮันกำลังอยู่ในโหมดเอาจริง ถ้าขัดใจล่ะก็ เรื่องใหญ่แน่ๆ
“......................”
“.....................”
“จุนมยอน!” ลู่ฮันเห็นว่าไม่เริ่มคุยกันซะที เลยต้องออกคำสั่ง เล่นเอาเจ้าของชื่อสะดุ้ง
“...................”
“คิมจุนมยอน!!!”
“จ๋า...”
“จะพูดไม่พูด!”
“จ้ะๆพูดแล้วๆ ...เอ่อ.. เซฮุนนา~ฮยองขอโทษ” ลีดเดอร์ของวงยอมเป็นฝ่ายที่พูดขอโทษก่อนเพราะก็รู้ดีว่าตัวเองก็โมโหเกินไป ก็เลยดุเซฮุนออกไปด้วยความปากไว
“...............”
“หายโกรธฮยองนะ...” อัปปาตัวเล็กพยายามอ้อนลูกรักของตน
“............ก็ด้ะ! คราวหลังก็ฟังผมมั่ง ผมบอกฮยองแล้วจริงๆอ่ะว่าผมไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เห็นว่าฮยองอ่ะพยักหน้าแล้ว ใครจะคิดล่ะว่าไม่ได้ยินอ่ะ” เซฮุนตอบปากบู้แต่ก็ยอมให้อัปปาที่รักของตนกอดแต่โดยดี
“โอเคๆ ฮยองขอโทษนะ” จุนมยอนยิ้มแป้นก่อนจะหอมแก้มลูกน้อยของตนฟอดใหญ่
“อื้อ” เซฮุนยิ้มรับแล้วหอมแก้มอัปปาตัวเองตอบกลับไปเช่นกัน
“จุนมยอนๆ นายบอกว่ามีของขวัญให้เซฮุนไม่ใช่หรอ?” ลู่ฮันที่นั่งอยู่ตรงกลางสะกิดแขนของคนข้างๆเพื่อเตือนความจำ
“เอ้อ..จริงสิ นี่..เซฮุนนา~” ว่าแล้วก็ยื่นกล่องใบเล็กให้กับเซฮุน
“เอ๋~ นี่มัน..” เด็กน้อยก้มลงมองของในกล่องนั้นแล้วทำตาโตตกใจ
“อื้อ คราวนี้นายก็มีมือถือแล้วนะเซฮุนนี่~~~” ลู่ฮันยิ้มแฉ่งพร้อมกับจับคางของลูกน้อยด้วยความเอ็นดู
“อิอิ รักฮยองนะ~ รักที่สุดเลย~~~” เซฮุนกอดรัดทั้งจุนมยอนและลู่ฮันอย่างดีใจ ที่ได้รับอนุญาตให้ได้มีมือถือส่วนตัวเหมือนคนอื่นเขาแล้ว
“ฮยองเมมเบอร์ของทุกคนลงไปแล้วนะ เก็บดีๆล่ะ แล้วก็อย่าคุยโทรศัพท์เยอะนะรู้มั้ย? แล้วก็...”อัปปาจุนมยอนเริ่มจะเทศนาสั่งสอน
“พอๆ หยุดเทศน์เลยนะจุนมยอนอ่า~ โอเค~ดีกันแล้วนะ นอนได้แล้วๆ ง่วงแล้วล่ะ~” ลู่ฮันรีบตัดบท อ้าปากหาวหวอดๆแสดงอาการง่วงเต็มที่ และนั่นก็ทำให้สองพ่อลูกสบตากันอย่างมีความหมาย.. ก่อนจะพร้อมใจกันก้มลงไปฟัดคนกลางด้วยความหมั่นเขี้ยว...
“อ๊ายยยยยยยย ปล่อยนะ!!! หยุ๊ดดดดดดดดดดด จั๊กกะจี้น๊า ปล๊อยยยยยยยยยยยยยยยยย”
+++++++++++++++++++++
ท่ามกลางความวุ่นวายที่ดูเหมือนทุกคนจะเริ่มคุ้นเคยกับมันมากแล้ว งานใหญ่ก็แบบนี้เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปินเป็นร้อยวงก็ต้องโกลาหลกันเป็นธรรมดา ห้องที่ดูเหมือนจะกว้างขวางนั้นก็แลดูแคบลงไปถนัดตาเพราะตอนนี้เต็มไปด้วยมนุษย์หลายร้อยชีวิตวิ่งวุ่นไปมาน่าเวียนหัว ซึ่งมักเน่น้อยเซฮุนก็เลือกที่จะนั่งเล่นเกมส์ในมือถือเพื่อผ่อนคลายอารมณ์จากความน่าเบื่อของบรรยากาศรอบๆ ก็พี่ๆคนอื่นก็มัวแต่นั่งสวีทกัน อุตส่าห์มีคนที่คู่ไม่ได้มาอย่างจื่อเทาอยู่เป็นเพื่อน ไอ้พี่ตุ้ยจางบ้าก็ดันโทรมาซะนี่ พวกที่มีแฟนนี่ห่างกันนิดหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ! ฮึ่ย!
ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ เซฮุนก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาสัมผัสที่ข้างแก้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองหาต้นเหตุของความรู้สึกนั้น..
“อ๊ะ..พี่..” เด็กน้อยตาโต เมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนยิ้มพร้อมกับกระป๋องน้ำหวานเย็นๆในมือ
“ว่าไงเด็กงอแง~”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้งอแงนะ!” เซฮุนทำปากบู้ เรียกอย่างงี้อีกแล้ว -^-
“โอ๋ๆอย่างอนเลยนะ อ่ะกินน้ำหวานๆจะได้ใจเย็นๆ” กระป๋องน้ำสีส้มถูกยื่นให้กับอีกคนอย่างง้องอน
“ชิ!” ทำปากเบ้ยิงฟันใส่แต่ก็เอื้อมมือขึ้นมารับกระป๋องน้ำแต่โดยดี ยงกุกยิ้มแล้วทักขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นโทรศัพท์ในมือของอีกคน
“เอ๊~มีมือถือแล้วนี่”
“ใช่แล้ว~ฮยองให้พกไว้ กลัวว่าจะหายอีก” พูดตอบไปพลางเปิดกระป๋องน้ำหวานไป
“ถ้าอย่างนั้นก็มีเบอร์โทรศัพท์แล้วสินะ..”
“อื้อ..”
“งั้นขอยืมแป๊บนึงสิ”
“????” เซฮุนมองอีกฝ่ายอย่างงงๆแต่ก็ยื่นมือถือให้แต่โดยดี ซึ่งลีดเดอร์ตัวโตก็ทำท่าเหมือนจะโทรหาใครซักคนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก็กดวางหูเสียแล้ว..
“โอเค..ขอบใจมากนะ แต่ขอเตือนอะไรอย่างนึงนะ” ยงกุกทำหน้าซีเรียส
“หือม์?อะไรฮะ?”
“คราวหลังอย่าให้ใครยืมมือถืออีกรู้มั้ย? เด็กงอแง” มือใหญ่หยิกเบาๆที่แก้มขาวของอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่อ่ะ!” เซฮุนปัดมือของอีกฝ่าย ทำหน้าบู้เหมือนไม่พอใจซ่อนอาการเขิน เรียกเสียงหัวเราะจากอีกคนได้เป็นอย่างดี
“ผม..ก็มีอะไรจะบอกพี่เหมือนกันแหละ”
“หือม์?”
“คราวหลังจะขอแลกเบอร์ผมก็บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องใช้มุขลุงๆแบบนี้ ผมไปแระ แบร่!!” มักเน่น้อยตัวบางแลบลิ้นใส่คนตรงหน้าก่อนจะวิ่งหนีไปสมทบกับพี่ๆเมมเบอร์ที่เตรียมตัวแสตนด์บายกันแล้ว ทิ้งให้คนตัวสูงยืนเกาท้ายทอยอย่างเก้อๆ นี่เขาโดนเด็กมันรู้ทันหรอนี่??
“มุขลุงๆ ยงกุกฮยองมุขลุง วู้วๆๆๆๆ” แดฮยอนกับฮยองแจที่ไม่รู้โผล่มาจากทางไหนประสานเสียงคอรัสใส่หูลีดเดอร์ด้วยท่วงทำนองที่กวนประสาทสุดฤทธิ์
“อุ๊ยๆ ลุงยงกุก ฮ่าๆๆๆ” ฮิมชานเสริมทัพด้วยการหัวเราะเยาะลั่นเพิ่มความอับอายให้กับเพื่อนร่วมวง
“พวกแก!!!!!!!!!” ยงกุกหันควับไปหาพร้อมกับง้างเท้าวิ่งไล่เตะไอ้พวกน้องจอมกวน ท่ามกลางความงุนงงของน้องอีกสองคนในวง...
“มุขลุงคืออะไรอ่ะฮยอง? แล้วพวกพี่ๆเค้าทำอะไรกันอ่ะ?” เจโล่หันไปถามจงอบ
“ไม่รู้ว่ะ สงสัยวอร์มร่างกายมั้ง?? ช่างมันเถอะ..มากินขนมต่อกัน..” จงอบหยิบขนมในถุงยัดใส่ปากน้อง แล้วก็เอาเข้าปากตัวเองเคี้ยวตุ้ยๆมองสมาชิกในวงเล่นวิ่งไล่เตะกันอย่างเพลิดเพลิน(?)
+++++++++++++++++++++++++
ความรู้สึกที่ได้แอบมองแอบส่งกำลังใจให้อยู่ห่างๆ ก็รู้สึกดีแล้วแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้รับรู้อะไรก็ตาม มันคือความสุขของการได้แอบรัก...
แต่ก็คงมีโอกาสไม่มากที่ระยะห่างระหว่างคนแอบรักกับคนถูกแอบรักมันจะค่อยๆแคบลง แคบลง จนกระทั่งมันกลายเป็นใกล้กันในที่สุด..
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป... เอาเป็นว่าถ้าปัจจุบันนี้ตอนนี้มีความสุขดี...
ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?....
“ยอโบเซโย~”
~ว่าไงเด็กงอแง~....วันนี้ดื้ออีกรึเปล่าเนี่ย?~
“พี่อ่ะ!!! ถ้าจะโทรมาแบบนี้จะไม่คุยด้วยแล้ว! โกรธพี่แล้ว! โป้ง!”
+จบ(?)+
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
=Talk=
แหะๆ หวังว่าชอทฟิคเรื่องนี้คงทำให้อมยิ้มได้นะค๊า~ แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วแหละ แต่จะดีใจม๊ากมากถ้าคอมเมนท์กันด้วยอ่ะนะค๊า ^^
น่ารักมั้ย? ฮิฮิ
ความคิดเห็น