ตอนที่ 73 : พี่ชายและน้องสาว
ตอนที่ 72 พี่ชายและน้องสาว
ก้วนเฉิงอาศัยอยู่ในเมืองห้วย
จากเหตุการณ์วางระเบิดของโรงแรมเพิร์ลในเมืองห้วยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก้วนเฉิงพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมถูกแจ้งว่าหายตัวไป มีการคาดการณ์ว่าเขาถูกผู้ก่อการร้าย (กลุ่มผู้สวมรอยแทนตัวละครในหนังสือ) ลักพาตัวไป ภายหลังมีคนเห็นกลุ่มคนน่าสงสัยอยู่แถวๆคลังสินค้าอุตสาหกรรมในเขตชานเมือง ซึ่งหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นก้วนเฉิง
ขณะนั้นหน่วยมังกรแดงกำลังมีการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้บุคลากรในการออกค้นหาและติดตาม แต่ทว่าพันตรีจางเหยาจิ่นบังเอิญเข้าสู่โลกที่ถูกทอดทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจ เหตุการณ์นี้ทำให้สำนักงานใหญ่ภาคเหนือตื่นตระหนกและยังเป็นการขัดขวางแผนการหลายอย่างที่หน่วยมังกรแดงกำลังตัดสินใจอยู่ด้วย
ในขณะที่หน่วยมังกรแดงกำลังยุ่งอยู่กับความเสียหายที่เกิดจากโลกที่ถูกทอดทิ้ง ผู้ก่อการร้ายก็พาก้วนเฉิงหายตัวไปแล้ว ด้วยกำลังคนที่มีจำกัดเลยทำให้การหายตัวไปของก้วนเฉิงยังไม่ได้รับการแก้ไขจนกระทั่งทุกวันนี้
…
ประเทศจีนมีขนาดใหญ่มากนะและบางจุดก็เป็นจุดบอด
ณ ส่วนหนึ่งของภูเขาในจังหวัดจิง ก้วนเฉิงผู้หิวโหยและผ่ายผอมนั่งอยู่ใกล้หน้าต่าง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาหมองคล้ำ
มีคนสี่คนอยู่ในห้องนั้น สภาพของพวกเขาดูแปลกๆ บางคนนอนอยู่บนเตียงและบางคนก็บ่นงึมงัมคนเดียว
ยามที่นั่งอยู่นอกบ้านกำลังสูบบุหรี่และเล่นโป๊กเกอร์ไปด้วย
ประตูและหน้าต่างถูกล็อค ส่วนยามมองสำรวจไปรอบๆเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติ
ไกลออกไปมีเสียงของเครื่องยนต์ รถสามล้อไฟฟ้าเพื่อการเกษตรแล่นมาตามถนนดิน โดยบรรทุกไปด้วยถุงข้าวสาร, มันฝรั่ง, แตงโม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, แชมพูและของอื่นๆ
ชายสี่คนที่กำลังซ่อมรถอยู่อย่างเกียจคร้านเดินไปช่วยขนของ
เมื่อเห็นอาหารพวกเขาก็พากันสบถออกมา “นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะ! ฉันไม่อยากกินเบียร์กับมาม่าอีกต่อไปแล้วนะ! พวกเราพี่น้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนอยู่ที่นี่เพราะเห็นว่ามันใกล้จะปีใหม่แล้ว นี่หน่วยมังกรแดงนั่นยังติดตามพวกเราอยู่อีกเหรอ?”
“อีกไม่นานหรอก” คนขับรถส่งฟันเหลืองกล่าวพลางจุดบุหรี่ขึ้นสูบ “มีสัตว์ประหลาดโผล่มามากขึ้น คนตายก็เพิ่มมากขึ้น ใครจะไปมีกะจิตกะใจตามหาคนหายอยู่อีกล่ะ? เฮ้! ขนเบาๆหน่อย เจ้านายเรายิ่งเป็นพวกขี้เหนียวอยู่นะแล้วอีกอย่างไม่ใช่ว่าฉันอยากจะซื้อของพวกนี้นักหรอกแต่แถวนี้มันมีขายอยู่แค่นี้นี่หว่า!”
เมื่อลมหนาวพัดมาก็มีเสียงไอดังขึ้นหลายครั้งจากในห้อง
“หืม ใครป่วยล่ะ”
“คนที่ขี้อายน่ะ…เขาชื่ออะไรนะ ก้วนเฉิงล่ะมั้ง”
“เอายาให้มันกินด้วย อย่าปล่อยให้ตายซะล่ะ” คนขับรถกัดบุหรี่ของเขาราวกับเสียดายเต็มที
“ก็แค่ตาย ได้ยินมาว่าเขาไม่ได้มีบทบาทสำคัญในหนังสือด้วยซ้ำ เป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งของหุบเหวสีดำ รู้สึกว่าสุดท้ายเขาจะตายจากอุบัติเหตุแต่ก่อนหน้านั้นเคยได้ยินคนบอกว่าเขาเป็นพวกหัวดื้อ รั้นจะตามหา ‘แมงป่องแดง’ ให้ได้เพื่อเอาข่าวไปขายให้หุบเหวสีดำ สุดท้ายไม่มีใครเชื่อและเขาก็ตายอยู่ดี ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยด้านนอกหน้าต่างดูท่าจะไม่มีที่สิ้นสุด ก้วนเฉิงที่กำลังสั่นนั่งขดตัวยิ่งกว่าเดิม
“แล้วอย่างนั้นคนมาทำอะไรที่นี่กัน เสียดายข้าวสุกจริงๆ!”
“เฮ้ย! นายยังไม่เข้าใจ แม้ว่าตัวเขาจะไร้ค่าแต่น้องสาวของเขาต่างหากล่ะที่มีประโยชน์! เป็นถึงผู้ถือครองความสามารถด้านพื้นที่ระดับ B เชียวนะแถมยังเป็นบุคลากรสำคัญของหน่วยมังกรแดงซะด้วย พี่ชายของเธอเป็นตัวประกันที่ดีทีเดียว เราจะเสียเขาไปเปล่าๆได้ยังไง”
ท่าทางของก้วนเฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ดวงตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง บีบกำปั้นแน่น เขารีบจับหน้าอกของตัวเองก่อนจะไอออกมาอย่างรุนแรง
ที่นี่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขาและเขาก็มักจะได้ยินเสียงของหมาป่าตอนกลางคืน ครั้งก่อนมีชายสองคนลอบใช้ประโยชน์จากตอนที่ยามเผลอหนีออกไปข้างนอกตอนกลางคืนแต่ก้วนเฉิงกลัวตายจึงไม่ไปด้วย ผลลัพธ์คือภายในเวลาไม่ถึงสามวันร่างของคนที่แอบหนีไปถูกพบอยู่ใต้หน้าผา ด้านนอกมันมืดมากและพวกเขาก็ไม่กล้าเดินไปตามถนนดังนั้นพวกเขาจึงหลงทางและสุดท้ายก็ลื่นไถลไปสู่ความตาย
หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปไม่กี่ชั่วโมง มีรถมินิบัสในเมืองถ้าคุณขึ้นรถคันนี้แล้วเดินต่อไปอีกประมาณสามชั่วโมงคุณจะมาถึงสถานีรถประจำทางเล็กๆ มันยากที่จะหลบหนีโดยการวิ่ง
สำหรับชาวบ้านพวกเขาไม่โผล่มาที่นี่กันหรอก ถึงแม้จะบังเอิญผ่านมาพวกเขาก็ไม่สนใจเสียงร้องความช่วยเหลืออยู่ดี
…บ้านหลังนี้มีไว้ให้ชาวต่างชาติเช่าโดยเฉพาะและคนที่มาเช่าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกนายหน้าค้ามนุษย์
พวกเขาไม่เพียงแต่ทำการส่งออกหญิงสาวและเด็กเท่านั้น แต่พวกเขายังทำการค้ามนุษย์เพื่อขายให้กับเหมืองถ่านหินในพื้นที่ห่างไกลหรือลักลอบนำพวกเขาไปยังชายแดนภาคใต้ส่งไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขายให้กับเรือหาปลาด้วย นี่มันนรกบนดินชัดๆ!
ในบรรดาคนที่ถูกลักพาตัวมาคือก้วนเฉิงผู้รู้ความจริงว่าพวกด้านนอกนั่นไม่ใช่พวกค้ามนุษย์จริงๆ
แต่พวกมันเป็นอาชญากรที่ชั่วร้ายต่างหาก! เมื่อนึกถึงค่ำคืนแห่งการระเบิดที่โรงแรมเพิร์ลตอนที่เขาเห็นพวกมันแทงคนแปลกหน้าบนถนน ก้วนเฉิงก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“ในป่าลึกนี่ฉันไม่พบเจอคนมานานแล้ว แม้แต่โลกที่ถูกทอดทิ้งก็ยังไม่ปรากฏให้เห็นซักนิด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปพวกเราก็คงถูกฉุดให้อยู่แต่กับพวกขยะในบ้านหลังนี้ ไม่มีโอกาสที่พลังจะตื่นขึ้นมาซักนิดแล้วเราจะอยู่ในยุคนี้ต่อไปได้ยังไง”
“ขณะที่องค์กรอื่นๆก็กำลังเติบโตขึ้น เมื่อมันปลอดภัยก็จะเข้าสู่โลกที่ถูกทอดทิ้งอีกครั้ง...อา!”
ก้วนเฉิงยังอยากแอบฟังต่อไปแต่มีใครบางคนในบ้านเกิดความผิดปกติขึ้นมาเสียก่อน “ความสามารถ! ถูกต้องแล้วเรามีความสามารถ!”
ก้วนเฉิงจ้องไปที่คนๆนั้นอย่างรำคาญใจ เขาถูกกักตัวไว้ที่นี่ มีแรงแค่พอกินอาหารแต่เขาไม่มีกำลังพอที่จะปิดปากคนอื่น "เพื่อนร่วมห้อง" ของเขาเป็นคนแปลกหน้าและดูเหมือนจะถูกลักพาตัวมาเหมือนกัน
หากไม่มีก้วนหลิง ก้วนเฉิงคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะกำลังอยู่ที่บ้าน นั่งดูฟุตบอลและดื่มเบียร์ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งในโรงแรมเพิร์ล บางทีเขาอาจจะได้แต่งงานในปีหน้าถ้าเขาพบคนรักที่ดี!
แต่ตอนนี้…
ก้วนเฉิงไอออกมาอีกครั้ง เขาเกลียดหัวใจตัวเองจริงๆ เขาพูดออกมาเป็นคำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
เขาคิดว่าถ้าคนกลุ่มนี้รู้ว่าน้องสาวของเขาตัดสินใจออกจากบ้านไปตั้งแต่หลายปีก่อนและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับพี่ชายก็ถูกตัดขาดไปนานแล้ว เขาคาดว่าตัวเองคงถูกฆ่าตายในไม่ช้า!
บนภูเขานี้อากาศหนาวมากและบ้านนี้ไม่มีเครื่องทำความร้อน แม้ว่าผนังจะไม่มีตรงไหนรั่วแต่ผ้าห่มผ้าฝ้ายบางๆก็ไม่สามารถป้องกันเขาจากความหนาวเย็นภายนอกได้
ก้วนเฉิงรู้สึกง่วงนอนระหว่างกำลังไอขณะที่ภาพตรงหน้าของเขาเริ่มหมุนไปมา
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังมาจากหน้าต่าง
ก้วนเฉิงตื่นตัวทันที เพื่อนร่วมห้องของเขาพุ่งไปที่ประตูด้วยความกลัวพลางตะโกนขอความช่วยเหลือเนื่องจากอยู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหวและมีคนกระแทกเข้ากับหน้าต่าง
อุ้งเท้าแหลมคมที่มีขนสีดำค่อยๆก้าวเข้ามาตรงลานบ้าน รั้วที่กั้นอยู่พากันล้มระเนระนาด
เสียงดังจากกระสุนปืนตามมาด้วยแรงกระแทกจากระเบิด
แมงมุมยักษ์เผยให้เห็นอีกครึ่งหนึ่งของร่างกายของมัน กระสุนที่ยิงไปเพียงทำให้ตัวมันสั่นเล็กน้อยก่อนจะกระเด็นกระดอนออกไป มันพ่นใยแมงมุมขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะดึงกิ่งส้นกิ่งหนึ่งลงมา
มันตกลงมากระแทกหลังคาบ้านจนแตก พื้นรอบๆสั่นสะเทือน สร้างช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นตรงหน้าประตู
ก้วนเฉิงตกใจจนอ้าปากค้าง มองไปที่คนขับรถสามล้อและพวกยามที่พยายามวิ่งหนี แต่สุดท้ายคนพวกนั้นก็ถูกสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ตัวนั้นห่อด้วยใยของมันก่อนจะแขวนพวกเขาไว้บนต้นไม้
ผู้คนในบ้านพากันปิดปากของชายเสียสติไม่ให้ส่งเสียง
ชายเสียสติต่อสู้ดิ้นรนอยู่สองสามครั้งก่อนจะสลบไปเนื่องจากขาดอากาศ
ร่างกายก้วนเฉิงเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขารู้สึกคันคอก่อนจะพยายามกลั้นไอแต่ไม่สามารถกลั้นได้ เขาจึงรีบหยิบผ้าห่มมาอุดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว เสียงไอฟังดูอู้อี้และไม่ดังอย่างที่คิด ถึงกระนั้นผู้คนในห้องก็ยังตกใจ
ดูเหมือนแมงมุมยักษ์ตัดสินใจใช้บ้านหลังนี้เป็นรังของมัน มันพ่นใยออกมาอย่างช้าๆขณะเดินไปรอบๆบ้าน จากนั้นไม่นานมันก็ตรงไปที่ป่าและเริ่มกิน ‘อาหาร’
ในไม่ช้า "ถุงอาหาร" ของมันที่แขวนอยู่บนต้นไม้ก็ลดลงเหลือแค่สอง แมงมุมยักษ์ยืนนิ่งบนใยแมงมุมขนาดใหญ่ดูเหมือนกำลังหลับเพราะมันไม่เคลื่อนไหวเลยเป็นเวลานาน
ก้วนเฉิงยังคงแอบมองอยู่ร่างกายของเขาเกือบแข็งเป็นหิน เขาลอบมองช่องว่างตรงประตูดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง
บางคนถึงแม้จะกำลังหวาดกลัวแต่ก็พยายามหาอะไรบางอย่างมางัดเปิดประตูเพื่อขยายรอยแตก ดีที่กำแพงทำจากดินเผาทำให้พวกเขาพอมีความหวังที่จะหลบหนี ในที่สุดหลังจากการพยายามอย่างหนักของพวกเขามันก็ขยับออกไป เกิดเป็นช่องว่างขนาดเล็กที่พอจะให้คนผอมๆลอดออกไปได้
โดยเฉพาะคนผอมจากความหิวอย่างพวกเขา…
เมื่อออกมาได้ก็รีบวิ่งหนีไปไม่หันกลับมามองอีก พวกเขาหนีไปจนสุดทางถนนบนภูเขา ไม่มีใครใส่ใจคนสติไม่ดีที่สลบอยู่บนพื้นและก็ไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าตอนที่พวกเขาเดินออกจากลานบ้านพวกเขาเผลอไปเหยียบใยแมงมุมเข้า
การสั่นไหวแม้พียงเล็กน้อยก็จะถูกส่งไปตามใยแมงมุม แมงมุมยักษ์ที่กำลังนอนพักอยู่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวจึงค่อยๆยกตัวขึ้นอย่างช้าๆ…
…
“ตูม!” แก้วที่วางอยู่บนโต๊ะระเบิด ทั้งน้ำร้อนและเศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วโต๊ะ
ก้วนหลิงก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว เมื่อได้สติก็รีบไปหยิบไม้กวาดและที่ตักขยะมา
“เฮ้! คุณไม่ควรขยับนะ เดี๋ยวผมทำเอง!” คู่หูในการทำภารกิจของก้วนหลิงรีบพุ่งเข้ามาเพื่อช่วยเธอ เขาเริ่มกวาดพื้นในขณะปากก็เอ่ยปลอบโยนก้วนหลิงผู้กำลังมึนงงไปด้วย “หลังจากสอบสวนเสร็จเดี๋ยวคุณก็จะได้รู้แล้วว่าตอนนี้พี่ชายของคุณอยู่ที่ไหน! ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ก้วนหลิงรู้สึกหดหู่ หลังจากพูดขอบคุณเธอก็นั่งลงและอ่านไฟล์ภารกิจต่อไป
เธอผ่านการฝึกการต่อสู้ขั้นพื้นฐานทางทหารมาแล้วและเพิ่งได้เข้าหน่วยมังกรแดงมาสามวัน แต่กระนั้นก็ถือว่ายังอยู่ในระหว่างทดลองงาน
“วันนี้ตอนที่คุณจับกุมสมาชิกขององค์กรที่ชั่วร้ายได้ดูเหมือนคุณจะสติหลุด…” คู่หูของเธอดูเหมือนจะพยายามช่วยเตือนความจำแต่เหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยรู้วิธีแสดงออกที่ดีนัก
ชายหนุ่มโชคร้ายที่ถูกก้วนหลิงจัดการต้องเสียฟันหน้าไปสองซี่และมีอาการถูกกระทบกระเทือน
คู่หูของเธอดูกังวลเล็กน้อยและอยากจะพูดจาปลอบใจเธออีกซักสองสามประโยคแต่โทรศัพท์ภายในดังขึ้นเสียก่อนดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกไปข้างนอกแทน
เหลือก้วนหลิงอยู่ในห้องคนเดียว
ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกเบาๆ ก้วนหลิงเห็นว่าคนที่เข้ามาคือผู้พันจางเหยาจิ่นเธอจึงลุกขึ้นยืนและทำความเคารพ
“อะไรน่ะ” จางเหยาจิ่นเหลือบไปมองเศษแก้ว
“การใช้ชีวิตในภาคเหนือนานๆทำให้ฉันไม่ค่อยคุ้นชินกับฤดูหนาวทางตอนใต้เท่าไหร่นัก ฉันจึงเผลอเทน้ำเดือดลงในแก้วโดยไม่ทันรอให้มันเย็นลงเสียก่อน” ก้วนหลิงแย้มรอยยิ้มที่ขมขื่นพร้อมกับความหมายที่ซ่อนอยู่
“คุณมาจากเมืองห้วยนี่”
“ฉันไม่ได้กลับไปนานหลายปีแล้ว…” เธอเผลอพูดอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะรีบปิดปาก
จางเหยาจิ่นกล่าวต่อเสียงเรียบ “ผมมีข้อมูลของคุณ คุณขาดการติดต่อกับครอบครัวของคุณมาเป็นเวลานานแล้วและคุณก็ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อพี่ชายหรือพ่อแม่ของคุณแล้ว สายใยที่เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือสายเลือด แต่วันนี้ที่คุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ผมอยากรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร?”
ก้วนหลิงพูดอะไรไม่ออก
“ปัจจุบันหน่วยมังกรแดงมีผู้ถือครองความสามารถระดับ B เพียงคนเดียวเท่านั้นคือคุณ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะหัวหน้าทีมหรือในฐานะเพื่อนร่วมงานในอนาคตของคุณ การให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของผู้ใต้บังคับบัญชาก็เป็นความรับผิดชอบอย่างนึงของผมเช่นกัน” จางเหยาจิ่นเดินไปที่เก้าอี้ตรงข้ามกับก้วนหลิงและนั่งลง
เวลาทุกนาทีของผู้พันจางแห่งหน่วยมังกรแดงเป็นของมีค่า ก้วนหลิงลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ยินเกี่ยวกับคุณค่าของพลังของเธอดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพูดอย่างตรงไปตรงมา “การจับตัวประกันและหนีการไล่ล่าของตำรวจไปพร้อมกันทำให้คนพวกนั้นต้องเสียเวลาและพลังงานไปมาก พวกมันคงกำลังหาทางอื่นและฉันคิดว่าก้วนเฉิงก็ถือเป็นตัวประกันคนหนึ่งที่สำคัญซึ่งพวกมันคงจะเอาเขามาต่อรองกับฉันใช่ไหม”
จางเหยาจิ่นไม่ได้ปฏิเสธ “ก็เป็นไปได้ แต่ข้อมูลส่วนนี้ไม่มีในหนังสือ พวกเขาไม่มีทางตรวจสอบความสัมพันธ์ของคุณกับก้วนเฉิงได้หรอก”
“ก้วนเฉิงได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่ของฉันอย่างลึกซึ้ง เขาไม่ใช่คนไม่ดีแค่ชอบไหลไปตามกระแส…เขาคุ้นเคยกับทุกอย่างที่บ้าน ฉันเริ่มทำงานก็เพื่อหารายได้ส่งเขาไปโรงเรียนเพื่อให้ภายหลังเขาสามารถแต่งงานและเก็บเงินซื้อบ้านได้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายและน้องสาวมันยังมีอยู่เมื่อตอนเรายังเด็กๆ เวลาที่ฉันถูกรังแกพี่จะเข้ามาช่วยสู้กับคนอื่นเพื่อฉันแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เปลี่ยนไป” ก้วนหลิงกล่าวด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ฉันได้อ่านข้อมูลทั้งหมดที่คุณได้รับจาก 'คนวงใน' แล้ว มันบอกว่าพ่อแม่ของฉันจะตายรวมทั้งพี่ด้วย มันยังบอกด้วยว่าฉันจะกลับไปเก็บข้าวของและกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองห้วย”
“ตอนอยู่ที่ภาคเหนือ เมื่อคุณได้ยินว่าก้วนเฉิงหายตัวไปและตกลงที่จะเข้าร่วมกับหน่อยมังกรแดง…ผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย” ด้วยน้ำเสียงของจางเหยาจิ่นคุณจะไม่รู้เลยว่าเขาแอบซ่อนคำถามไว้
“ถ้าก้วนเฉิงตาย พ่อแม่ของฉันคงใจสลาย จะยังคงมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่เสมอแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบก็ตาม” ก้วนหลิงตอบอย่างเหนื่อยล้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอพบว่าก้วนเฉิงอาจถูกจับเป็นตัวประกันก็เพราะเธอ
“ผู้ก่อการร้ายเลือกทำลายโรงแรมเพิร์ลในเมืองห้วยเพื่อส่งสัญญาณในการรวบรวมสมาชิกขององค์กรของพวกมัน โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในอาคารสำคัญของเมืองห้วยซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่กลุ่มอื่นเลือกจุดดอกไม้ไฟที่สะพานหลินเจียง"
จางเหยาจิ่นเหยียดหลังตรง เธอถูกสายตาของเขากดดันและก้วนหลิงก็รู้สึกว่าเธอกำลังถูกวิจารณ์อยู่ในใจ
เธอต้องตั้งสติและรับมือกับ "การสอบสวนของหัวหน้า" ตรงหน้าให้ได้และความหมายที่แฝงอยู่เบื้องหลังคำพูดของเขาก็ทำให้เธอประหลาดใจ
“…ก้วนเฉิงทำงานที่โรงแรมเพิร์ลซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคุณ การที่เขาถูกลักพาตัวไปมันเป็นเพราะการตัดสินใจของพวกผู้ก่อการร้าย ต่อมาสถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปและแผนการขยายตัวขององค์กรที่ชั่วร้ายก็พังลง ถ้าก้วนเฉิงยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เขาควรจะขอบคุณคุณด้วยซ้ำ ความสงสัยในใจของคุณตอนนี้ถือว่าไร้ความหมาย การที่เขาถูกลักพาตัวไม่ใช่เพราะคุณ”
จางเหยาจิ่นกำลังคิดถึงสิ่งที่พวกผู้สวมรอยแทนตัวละครบอกเขาเกี่ยวกับตัวก้วนเฉิงคือ เป็นสายให้องค์กรหุบเหวสีดำโดยไม่เคยปรากฏตัวออกมา สาเหตุการตายมาจากถูกจับได้ระหว่างการเผชิญหน้าของสององค์กรขนาดใหญ่และสุดท้ายคือมีแต่คนบอกว่าเขาเป็นคนจำพวก “ดวงซวย”
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณดังนั้นอย่ากังวลไป!” จางเหยาจิ่นตบไหล่ของก้วนหลิงเบาๆ
"ฉัน…"
“แรงกดดันมันใหญ่ก็จริงแต่ตอนนี้โฟกัสแค่ดูข้อมูลของเจี้ยนหัวและลี่เฟยก็พอ พวกเขายังมีชีวิตอยู่แถมยังใช้ชีวิตได้ดีเสียด้วย!” จางเหยาจิ่นจุดบุหรี่ขึ้นสูบขณะพูดออกมาช้าๆ
* * * * *
1,916 ความคิดเห็น
-
#1632 Burning Zombie (@star-of-evil) (จากตอนที่ 73)วันที่ 17 มีนาคม 2562 / 21:35สู้ๆนะนาย! หนีรอดออกมาให้ได้นะ!#16320
-
#1631 Se... the secret (@customer7411) (จากตอนที่ 73)วันที่ 17 มีนาคม 2562 / 08:07หนีให้ได้นะก้วนเฉียง!#16310
-
#1627 -เกม- (@-gem-) (จากตอนที่ 73)วันที่ 16 มีนาคม 2562 / 22:05สรุป.... นายก็ตายอยู่ดี? สินะ เฮ้อ#16270
-
#1625 Whatever it is (@oil-sup) (จากตอนที่ 73)วันที่ 15 มีนาคม 2562 / 20:02ขอบคุณค่ะ#16250
-
#1624 UnUnHG (@UnUnHG) (จากตอนที่ 73)วันที่ 15 มีนาคม 2562 / 18:42เกลียดความใช้ชีวิตได้ดี นี่แอบเหน็บแนมรึเปล่าคะ55555#16240
-
#1623 relis (@relis) (จากตอนที่ 73)วันที่ 15 มีนาคม 2562 / 17:31เจี้ยนหัวกับลี่เฟยไปใช้ชีวิตกันแบบไหนให้คนอื่นเค้าอิจฉาได้ล่ะเนี่ย แล้วแมงมุมนั่นคงไม่ใช่ตัวที่มีน้องเห็ดเกาะอยู่บนหัวใชมั้ยอ่ะ#16231
-
#1623-1 YorcHub (@YorcHub) (จากตอนที่ 73)23 กันยายน 2562 / 10:46ขอให้ใช่ทีเหอะจับไปหย่อนไว้หน้าห้องอีก เห็นสภาพชีวิตแล้วสงสาร#1623-1
-
-
#1622 Saku442274 (@Saku442274) (จากตอนที่ 73)วันที่ 15 มีนาคม 2562 / 15:53หนีให้รอดน่ะ!!!#16220