คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กำเนิด คุณหนูน้อยหนี่ฮวา
สิรันตรา สิรันตรา สิรันตรา
ใคร ใครกำลังเรียก ใคร เสียงของใคร
สิรันตรา เจ้าจงตื่นเถิดได้เวลาที่เจ้าต้องกลับไปในที่ ที่เจ้าจากมาแล้ว สิรันตราจงตื่นเถิดหนา
ตื่นงันเหรอ เราก็ตื่นแล้วนี่ ทำไม ทำไม เรามาอยู่ที่นี้ ทำไม
แสงสว่างเจิดจ้าจนต้องหลับตา เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมามองภาพเบื้องหน้าที่พร้ามัวกระพริบตาถี่ๆ จนสมารถมองภาพได้ชัดเจนขึ้นเธอเห็นคนรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายสีทองแดงดูสง่างามนั่งอยู่บนบัลลัง ใช้ต้องบอกว่าบัลลังเพราะมันใหญ่มากประดับด้วยเพชรพลอยมีค่าจำนวนมหาศาลขนาดบันไดยังทำด้วยทองคำเลย ที่นี่ที่ไหน
“อย่าตกใจไปเลยเด็กน้อย ที่นี่คือนรกภูมิ ที่ๆ เหล่าคนตายต้องมาเพื่อตัดสินโทษ”
“นรก นี่ฉันตายแล้วเหรอค่ะ” เธอถามกลับ
“ใช้ เราจะให้เจ้าดูจุดจบของเจ้าเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ” แล้วเธอก็มองเห็นตัวเอง เธอตายเพราะเหตุเครื่องบินตกตอนเดินทางไปอเมริกาเครื่องบินตกหลุดอากาศทำไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ ตัวเครื่องระเบิดกลางอากาศเธอตายทันทีแบบไม่รู้ศึกตัวด้วยซ้ำ
“ตายแล้วจริงๆสินะ”
“ใช้เจ้าตายแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าทำกรรมดีไว้มากแม้มันจะเป็นเพราะมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องแต่ก็ถือว่าเป็นการทำกรรมดีในแบบของเจ้า เราจะให้เจ้าเลือกว่าจะไปเกิดเดียวนี่ แต่คนละภพและต่างยุคสมัย ที่นั้นมีแต่ภัยสงครามและความแห่งแล้ง ความอดอยากกระจายไปทุกที่ มีแต่คนตายคนมีอำนาจเท่านั้นที่อยู่รอดกับรออีกสักหน่อยเพื่อไปเกิดกับครอบครัวมหาเศรษฐีเจ้าจะเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพวกเขา เราจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจอีกนิดหน่อยเชิญคิดได้ตามสบาย” เธอเดินไปหาที่นั่งแล้วนึกย้อนดูว่าที่ผ่านมาเธอเคยทำอะไรไปบ้าง
เธอคือสิรันตรา นิวัตรพานิช เป็นลูกสาวคนกลางของบ้าน บ้านเธอมีฐานะรำรวย เธอเป็นสาวโสดวัย 35 ปี ที่ยังสวยเหมือนเด็กอายุ 18 เธอเป็นคนขยันแม้หลายคนจะพูดว่าเธอเป็นอัจฉริยะ แต่ถ้าไม่ขยันต่อให้เก่งยังไงก็ไปไม่รอด เธอเรียนจบปริญญาเอกตอนอายุเพียง 18 ปีเท่านั้นแต่นั้นมาจากความมุมานะของเธอ นอกจากนั้น เธอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมากเธออ่านทุกอย่างทั้งฝึกอ่านฝึกทำแต่ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ การใช้ศาสตร์การรักษาของจีน เช่น การฝังเข็ม การทำยาสมุนไพรทั้งของไทยและของจีน แบบภูมปัญญาชาวบ้าน การถนอมแบบต่างๆ ตอน เธอโชคดีกว่าคนอื่นตรงที่เธอมีสายตาที่ดีและความจำดี เพียง อ่าน ฟัง เขียนอะไรก็แล้วแต่เพียงรอบเดียวก็จำได้ไม่ลืม เธอชอบทำอะไรหลายๆอย่างจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่เธอได้ดูหนังสามกก เธอติดตามมากจนลงทุนเรียนประวัติศาสตร์จีน เรียนดนตรีจีนหลายอย่างและการร่ายรำมันถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่เธอชอบ และสิ่งที่เธอสนใจที่สุดคือศิลปะการต่อสู่ ทั้งมวยไทย เค้นโด ยูโด เทควันโด ยิงปืน ยิงธนูเธอเป็นหมด แต่ความรู้ที่เธอมีกลับไม่สมารถใช้ในยุคปัจจุบันได้เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่ต้องอาศัยวิธีการรักษาแบบโบราณแล้วและเหนือสิ่งอื่นใดใน ศาสตร์และศิลป์ที่เธอชอบที่สุดคือปรัชญาการดำรงชีพอย่างพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ ๙ เธออ่านประวัติศาสตร์ไทยทุกยุคทุกสมัยทั้งตำนาน นิทาน แต่ที่ชอบไม่เบื่อคือ ประวัติของในหลวง เธอชอบทุกโครงการที่ท่านพระราชดำริ เธออ่านแนวทาง และอื่นๆอีกมากมายแต่ความรู้เหล่านี้กลับไม่ได้นำมาใช้นับว่าไม่เกิดประโยชน์ใดเลยนอกจากตายไปกลับตัว
“เอาไงดี เกิดมาชาตินี้ก็รำรวยแล้ว ชาติหน้ายังจะรวยอีก ความรู้มีท่วมหัวแต่กลับไม่ได้ใช้ ตัดสินใจหละ” เธอเดินไปหยุดตรงหน้าบัลลังทองคำ
“หนูขอเลือกข้อแรกค่ะและหนูขอท่านอีกอย่างได้ไหมค่ะ”
“ว่ามาถ้าไม่ผิดกฎเราก็ให้ได้”
“หนูอยากไปพัฒนาที่นั้น เพราะฉะนั้นความรู้และความจำของหนูในชาตินี้เป็นสิ่งที่จำเป็น หนูขอให้ตัวเองจำอดีตชาติได้ค่ะ”
“อืม ก็จริงของเจ้า งันเราจะให้ตามคำขอเราจะแถมพรให้อีกหนึ่งข้อแล้วกัน เจ้าจะเป็นผู้เป็นที่รัก”
สินเสียงของท่านเจ้านรกเธอก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
“สิรันตรา สิรันตรา สิรันตรา
ใคร ใครกำลังเรียก ใคร เสียงของใคร
สิรันตรา เจ้าจงตื่นเถิดได้เวลาที่เจ้าต้องกลับไปในที่ ที่เจ้าจากมาแล้ว สิรันตราจงตื่นเถิดหนา
ตื่นงันเหรอ เราก็ตื่นแล้วนี่ ทำไม ทำไม เรามาอยู่ที่นี้ ทำไม”
ตึกๆๆ ตึกๆๆ ตึกๆๆ
“เสียงอะไรบางอย่างดังรอบตัวที่มีแต่ความมืดแต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ ใช้เธอกำลังอยู่ในท้องของแม่ตั่งแต่รู้สึกตัวขึ้นมาเธอก็ได้ยินเสียงนี้ตลอด เธออยู่นานมากแล้วเธอก็ได้ยินอีกเสียงที่ต่างออกไปเสียงคนพูดเธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนี้ตอนนี้เธออยู่ในท้องแม่มาห้าเดือนแล้ว พอเข้าเดือนที่หกเธอเริ่มสัมผัสถึงสิ่งต่างๆมากมายเสียงแรกที่ได้ยินเป็นเสียงของแม่ เสียงที่สองเป็นของพ่อท่านชอบมาเล่าสิ่งต่างให้ฟังเวลาที่เธอขยับตัวทั้งสองคนจะดีใจมาก จนตอนนี้เข้าสู่เดือนที่ 9 เธอใกล้จะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว
“นายหญิงเจ้าค่ะ ออกมาตากลมแบบนี้ไม่ดีนะค่ะ เดียวไม่สบายขึ้นมาท่านแม่ทัพจะเป็นห่วงเอานะเจ้าค่ะ”
“เซียวเหนียง ถ้าเจ้าไม่พูดท่านพี่ก็ไม่รู้หรอกแต่เอาเถอะ กลับเข้าจวนกันดีกว่า” หลี่ฮวา คือชื่อของเธอ เธอเป็นภริยาของท่านแม่แดนใต้ เธอมีบุตรชายสามคนเป็นของขวัญให้ท่านแม่ทัพและเธอหวังจะมีลูกสาวมาคอยออดอ้อนแต่จนแล้วก็ไม่มีสักที จนเธอหมดหวัง จนเมื่อคืนเธอฝันว่ามีดอกบัวสีทองบานสระพรั่งอยู่กลางสระน้ำในสวนหลังบ้าน บัวดอกนั้นงดงามมากส่งกลิ่นหอมหวนไปไกลผู้คนต่างได้กลิ่นหอมนั้น จำได้ว่าตัวเธอเองเดินลุ่ยน้ำเพื่อไปเก็บบัวดอกนั้นแทนที่จะให้สาวใช้เก็บให้ทันทีที่มือแตะดอกบัวเธอก็สะดุ้งตื่นทันที
“เมื่อคืนข้าฝันดีมากเลยหละเซียวเหนียง ฝันเห็นดอกบัวสีทองดอกใหญ่บานอยู่กลางสระในสวนหลังบ้านมันสวยมากและยังมีกลิ่นหอมสดชื่นอีก”
“ช่างเป็นความฝันที่ดีจริงๆด้วยเจ้าค่ะนายหญิง” หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนให้หลังนายหญิง หลี่ฮวา ได้ตั่งครรภ์สร้างความดีใจให้กลับทุกคนโดยเฉพาะท่านแม่ทัพ หลี่จง จนตอนนี้เวลาผ่านมาเก้าเดือนนายหญิงได้เจ็บครรภ์ทุกคนต่างวิ่งวุ่นท่านแม่ทัพและบุตรชายทั้งสามเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องสาวใช้ต่างวุ่นวายกันไปหมดเสียงร้องดังออกมาแต่ละครั้งเรียกให้ทุกคนตกใจจนเสียงร้องให้ของเด็กดังขึ้นท่านแม่ทัพถึงกับทรุดตัวลงนั่งกลับพื้น
“เป็นหญิง เจ้าค่ะนายหญิง ข้าน้อยจะไปเรียนให้ท่านแม่ทัพทราบ นายหญิงพักสักนิดนะเจ้าค่ะ” เซียวเหนียงอุ้มทารกหญิงมาให้นายหญิงของตนอุ้มจากนั้นจึงเดินออกไปนอกห้อง
“เรียนท่านแม่ทัพ ได้คุณหนูน้อยเจ้าค่ะ เชิญท่านเข้าไปหานายหญิงเจ้าค่ะ” หลี่จงเดินนำสาวใช้เข้ามาในห้องเขาเดินไปนั่งลงข้างเตียงมือแกร่งยกขึ้นรูปผมสายตามองทารกตัวน้อยที่กำลังหาวอาปากกล้วง
“ฮวา เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าไม่เป็นไรท่านพี่เพียงอ่อนเพลีย แต่ลูกของเราช่างน่ารักน่าชังนัก ท่านพี่จะตั้งชื่อให้นางว่าอย่างไร เจ้าค่ะ”
“นั้นสิข้าคิดไว้แล้ว ข้าจะตั้งชื้อนางว่า หนี่ฮวา หลี่หนี่ฮวา เพราะหรือไม่”
“เจ้าค่ะท่านพี่ หนี่ฮวาน้อยของแม่ เจ้าจะเป็นที่รักของทุกคน”
“แอๆ แอๆ” ดั่งขานรับนามนั้นหนี่ฮวาน้อยก็ยิ้มให้กลับทุกคน
นับตั่งแต่คุณหนูหนี่ฮวาถือกำเนิดขึ้น ที่จวนแม่ทัพสกุลหลี่ก็มีแต่เสียงหัวเราะ คุณหนูน้อยซุกซนมากเผลอไม่ได้ไม่เช่นนั้นคุณหนูน้อยจะหายไปจากสายตาทันที
ทางด้านหนี่ฮวานั้น หลักจากที่เธอเกิดท่านพ่อและท่านแม่ตามใจเธอมากไม่รวมท่านพี่ทั้งสามของเธอพี่ชายทั้งสามนั้นพี่ชายคนโตแต่งงานไปแล้วแต่ท่านพ่อขอให้อยู่ที่จวนเช่นเดิมไม่ต้องย้ายออกและพี่ชายอีกสองคนที่รับราชกาลอยู่ที่เมืองหลวงหนึ่งปีกลับบ้านครั้งหนึ่ง อันนี้เธอฟังจากสาวใช้ ตอนนี้เธออายุได้1ขวบกว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะสองขวบแล้ว แล้วเป็นวัยที่กำลังหัดเดินแค่เธอคลานหลบมุมนิดหน่อย ปังอี้สาวใช้ประจำตัวเธอก็ออกอาการโวยวายแล้วแม่จะยังพูดไม่ได้ชัดแต่ก็พอจับใจความได้ เธอชอบฟังทุกอย่างรู้เรื่อง ที่ที่เธอมาเกิดนั้นเป็นยุคที่คล้ายประเทศจีนในสมัยก่อนแต่ก็ไม่ใช้เพราะชื่อแว้นแคว้นและอาณาจักรก็ไม่ใช้ที่อยู่ของเธอคือจวนแม่ทัพแดนใต้เมืองชีหลิงแคว้นฉางอัน แต่มีวัฒนธรรมและการแต่งกายที่คล้ายกัน
ที่นี้นั้นนับได้ว่าเป็นยุคโบราณอย่างแท้จริงเลยเครื่องปรุงอาหารมีแค่เกลือที่ให้ความเข็มและความหวามจากผลไม้บางชนิดเท่านั้นอาหารได้จากการหาปลาและการล่าสัตว์ เนื่องจากเป็นจวนแม่ทัพที่นี่จึงมีแผนที่ของเมืองที่ละเอียดมากเธออาศัยอ้อนท่านพ่อเข้าห้อทำงานของท่านแล้วดูแผนที่ ท่านพ่อคงคิดว่าเธอชอบเลยพามาดูทุกวันเธอจำรายละเอียดได้หมดแล้วแต่ก็ทำถ้าอ้อแอ้ไปตามเรื่อง เพราะเมืองชีหลิงมีพื้นที่ด้านตกติดเทือกเขาสูงมีทิศเหนือเป็นที่ราบและทิศตะวันออกติดทะเล ถือเป็นความโชคดีอย่างมากแต่คนที่นี้ก็ยังยากจนเพราะไม่รู้จักใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า เมืองชีหลิงถือเป็นเมืองที่ยากจนที่สุดในบรรดาสี่เมืองใหญ่ไม่นับเมืองหลวง
“คุณหนูเจ้าค่ะ จะไปไหนเจ้าค่ะ รอปังอี้ด้วยเจ้าค่ะคุณหนู” เสียงสาวใช้ที่วิ่งตามหลังมาเมื่อเห็นเธอเดินไปไกลแล้วแม้นเดินบ้างคลานบ้างแล้วแต่กำลังขาของเด็กวัยหนึ่งขวบกว่าจะเดินไหว
“ป้อ จาไปหา” เธอบอก
“จะไปหานายท่านหรือเจ้าค่ะ” ปังอี้ถามซ้ำเธอพยักหน้ารับ
“มาเจ้าค่ะ ปังอี้จะอุ้มคุณหนูไปเอง”
ตอนนี้ปังอี้พาเธอมาหาท่านพ่อเรียบร้อยแล้วหลี่จงอุ้มเธอไว้ในวงแขนเขากำลังจะไปหมู่บ้านชายทะเลเนื่องจากชาวบ้านหาอาหารทะเลได้มากจึงจะไปตรวจความเป็นอยู่นี้เป็นครั้งแรกที่หนี่ฮวาออกมานอกจวนตอนเดินทางมาที่นี้เธอนั่งบนหลังม้ากันท่านพ่อมองทิวทัศของนอกจนมาถึงหมู่บ้านที่ท่านพ่อต้องมาตรวจความเรียบร้อย
“ท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง” ท่านพ่อของเธอเดินเข้าไปช่วยผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่ที่พื้น
“โอ้ ท่านแม่ทัพมาแล้วหรือขอรับ ตอนนี้ที่หมู่บ้านกำลังประสบปัญหา อาหารทะเลที่จับมากำลังเน่าเสียข้าน้อยไม่รู้จะทำอย่างไรดี”
“ลุกขึ้นมาก่อนท่านผู้เฒ่า ท่านพาข้าไปดูก่อน” หลี่จงจะส่งเธอให้ปังอี้อุ้มแต่เธอไม่ยอมเกราะเสื้อแน่น
“ไปด้วย หนี่ฮวาจาไปด้วย”
“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไปด้วยก็ไป” ท่านพ่อของเธอเดินตามท่านผู้เฒ่าจนไปถึงท่าเรือที่มีปลาวางไว้เกลือนกลาดส่งกลิ่นเหม็นคาวพุ่งไปทั่ว
“ทั้งหมดนี้จะนำไปทิ้งหรือท่านผู้เฒ่า”
“ขอรับ เอาไว้ก็กินไม่ได้แล้ว” เธอเห็นหลุมที่ชาวบ้านช่วยกันขุดเตตรียมฝังปลาเน่าเหล่านี้
“เอา ฮวาจาเอา” เธอร้องบอก
“ไม่ได้ขอรับคุณหนีปลาพวกนี้ต้องทิ้แล้วขอรับ”คนงานที่อยู่เงยหน้าขึ้นมาตอบเขาเองก็เสียดายแต่จะทำอย่างไรได้
“ม่ายทิ้ง ฮวาจาเอาปลา ป้อจาฮาวาจาเอา ล้างน้ำด้วยหนา” เธอบอกเป็นการอยากมาที่จะสื่อให้ทุกคนรู้เรื่องเมื่อไหร่จะโตนะ ปลาพวกนี้เธอจะเอาไปทำน้ำปลาหมักและซอสปรุงรส
“เอาก็เอา ท่านผู้เฒ่าให้คนล้างทำความสะอาดปลาเน่าพวกนี้แล้วก็ปลาสดทั้งหมดไปสงให้ข้าที่จวนนะ” ท่านพ่อส่งเงินให้เป็นค่าปลา
“ขอรับ”
ท่านพ่อพาเธอเดินดูของในตลาดท่าเรือมีของขายมากมายเธอให้ท่านพ่อซื้อผลไม้สดหลายอย่างจำพวกสาลี่ แอพเปิล และลูกท้อเหมาหมดร้านเลยแล้วจึงกลับจวนที่พัก
ความคิดเห็น