คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตะวันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์เค้าค่อยๆตั้งสติก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
“สวัสดีครับ ” เค้าพูดขึ้นเมื่อกดรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ...จำผมได้ไหมเอ่ย???ว่าใคร คุณตะวัน ” เสียงนุ่มๆตอบรับอย่ากวนๆตะวันจึงรู้ทันทีว่าเป็นใครไม่ได้นอกจาก
“คุณรู้เบอร์ผมได้ไงครับคุณกรรณ ”
“ก็ผมเก่งไง ฮ่าๆ ล้อเล่น ผมดูประวัติคุณนะเลยได้มันมาครับ ถึงบ้านแล้วหรอครับ ”
“ถึงแล้วกำลังจะอาบน้ำนอนแล้วด้วยคุณจะโทรมาทำไมเนี่ย ” ตะวันเริ่งทำเสียงหงุดหงิด
“ก็คุณนะซิไม่ยอมให้ผมไปส่งผมก็เป็นห่วงคุณนะ ถึงบ้านก็ดีแล้ว ” กรรณชัยยิ้มร่าเมื่อพูดในสิ่งที่เค้าคิด
“แหวะ นี่คุณว่างนักรึไงเนี่ย ถึงได้โทรมาก่อกวนคนอื่นเค้านี่ หะ ” ตะวันเริ่มน่าร้อนๆก็อย่างที่บอกว่ามันนานแล้วนะที่ไม่มีใครสนใจเค้าแบบนี้นะ
“ก็คุณนะซิ ทำให้ผมคิดถึง^^ ” กรรณพูดเองก็เริ่มเขินเองไม่ต่างกับตะวันที่ฟังอยู่เค้าเริ่มรู้สึกอุ่นๆข้างในเริ่มรู้สึกว่าก็ยังมีคนคิดถึงเหมือนกัน....แต่...ไอ้หมอนี่มันนายกรรณชัย หลานชายนายกรวิชนี่ ตะวันคิดถึงกรวิชขึ้นมาก็น่าแดงทันทีอดไม่ได้ที่จะเอามือนุ่มๆลูบแมตัวเอง
“นี่ นายกรรณ ผมจะนอนแล้ว คุณไปนอนได้แล้ว แค่นี้นะ ” ตะวันพูดจบก็กดสายทิ้งทันทีไม่รอให้กรรณพูดอะไรแล้วก็ปิดเครื่องทันทีก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนฟูกแข็งที่เต็มที
ตะวันอยู่ตัวคนเดียวมากือบหกปีแล้วตั้งแต่ออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าพ่อไปมีเมียใหม่ส่วนแม่ก็เสียหลังจากนั้นพ่อจากไปได้ไม่นาน เค้านั่งอยู่ข้างๆศพผู้เป็นแม่นานกว่าสามวันโดยไม่กินอะไรเลยเพื่อนบ้านมาเจอก็พากันส่งโรงพยาบาลก่อนที่ทุกคนจะให้ไปอยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า เค้าใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมาโดยตลอดไม่มีใครให้เค้าให้คิถึงหรือเป็นห่วงเค้าได้เข้าไปทำงานในบริษัทออกแบบและผลิตของเล่นเด็กและเค้าเลือกที่จะมาทำงานในสาขาที่ต่างจังหวัดเพราะเป็นโรงงานผลิตไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายในเมืองกรุง แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้เจอกับรุ่นพี่ที่เคยเรียนในมหาลัยเดียวกันอย่างรุ่นพี่คีวาและยังมีพีรพัตน์รุ่นน้องที่ตามมาทำงานที่เดียวกันอีกด้วยทั้งชีวิตก็มีแค่สองคนนี้เท่านั้นที่เค้ารู้จักดีแต่เค้าก็ยังอยากเจอพ่อที่ทิ้งเค้ากับแม่ไปอย่างไม่เคยหันมาสนใจใยดีเลยซักนิด เค้าอยากพบกับท่านอีกครั้งแล้วอยากจะถามว่า' คิดถึงเค้ากับแม่บ้างไหม....แล้วเคยคิดจะตามหาเค้าบ้างไหม...แล้วเค้ายังเป็น"ลูกท่าน"อยู่หรือเปล่า '
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
“นี่ !!!! นายทำงานอย่างไงเนี่ย มันผิดนะเนี่ย เอาไปทำใหม่ไป !!!!”เสียงเข้มๆทำให้ตะวันถึงกับถอนหายใจเป็นรอบที่สามร้องวันนี้แล้วก็เค้าแก้งานใหม่มาเกือบสิบรอบแล้วแค่เล่มนี้เล่มเดียวด้วยมันเป็นแบบนี้มาสามวันแล้วเค้าก็ชักจะเหลืออดแล้วเหมือนกัน
“ผมว่ามันจะมากไปแล้วนะครับ ผมแก้งานเล่มนี่มาเกือบสิบรอบแล้วน่ะครับ คุณจะเอายังไงกัผมกันแน่เนี่ยถ้าไม่พอใจก็ทำเอง ” ตะวันสวนกับบ้างคราวนี้เป็นฝ่ายกรวิชที่นิ่งไปเพราะขนาดกรวิชเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรก็เค้าไม่รู้จะพูดยังไงกับตะวันดีนี่เมื่อวันก่อนก็เล่นจูบเค้าซะลืมตัวขนาดนั้นนี่
“ฉันขอโทษ ” กรวิชเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาตะวันจ้องมองไม่กระพริบตาก็เค้างงนี่อยู่ๆก็ขอโทษ
“อะไรของคุณ บ้าไปแล้วหรอ ”
“ก็เรื่องเมื่อวันก่อนน่ะฉันขอโทษ ”
“มันผ่านมาสามวันแล้วน่ะครับ คุณเพิ่งจะรู้สึกหรือไงว่าต้องพูดว่าขอโทษน่ะ ช่างเถอะๆ ” ตะวันพูดจบก็เริ่มทำงานต่อ
วันนี้เป็นอีกวันที่กรรณชัยมาฝึกงานเค้าก็ยังมาวุ่นวายกับตะวันเหมือนเดิมทั้งมานั่งกินข้าวด้วยทั้งไปไหนมาไหนด้วยแต่แค่เฉพาะในบริษัทเท่านั้นน่ะเพราะตะวันไม่อยากไปไหนมาไหนที่อื่นกับคนแปลกหน้าและวันนี้ก็ยังคงมานั่งินข้าวกับเค้าเหมือนเดิม
“คุณตะวันครับ คุณอยู่คนเดียวไม่เหงาหรอ ” กรรณชัยเริ่มบทสนทนาประจำวันเช่นเคย
“ไม่อ่ะ ผมว่าก็ดีออกนะเพราะผมไม่ชอบอะไรที่ผูกมัดนะ ”
“อ้อ แต่ผมอยากมีน่ะคนอยู่เป็นเพื่อนน่ะเพราะผมไม่ชอบอยู่คนเดียวนะ...เอ่อ....คุณตะวันยังไม่มีแฟนใช่ไหม..”
“ยังไม่มี...ทำไมหรอ ??? ”
“ผมจีบคุณนะ....”
ตะวันเบิกตากว้างเมื่อคำพูดของกรรณชัยรอดเข้ามาในโซนสมองของเค้าก่อน
พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เต็มๆ
“แค่ก ๆๆ แค่กๆ ” ตะวันสำลักข้าวที่ยังไม่ได้เคี้ยวก่อนจะรู้ว่าข้าวที่พ่นออกไปกระเด็นเต็มๆน่ากรรณชัย
“ขอโทษ แค่กๆ ขอ...แค่กๆ ” ตะวันพยายามหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดใหม่อีกครั้ง
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรๆ ผมรู้คุณคงตกใจ ” กรรณชัยพูดไปก็เช็ดเสื้อตัวเองบ้างเสื้อตะวันบ้าง
“ก็นายนะ พูดอะไรออกมาหะ!!! รู้ไหมอย่าพูดแบบนี้นะ ผมไม่ชอบ”
“แต่ผมพูดจริงๆนะ ผมอยากเป็นแฟนคุณจริงๆนะ เป็นแฟนกับผมนะ ” กรรณชัยจับมือตะวันไว้แน่นเพื่อบ่งบอกว่าเค้าพูดจริงๆ
“แต่...จะบ้าหรอ...นายยังเด็กอยู่นะ ”
“คุณเขินหรอ ฮ่าๆ น่ารักจังแหะ เป็นแฟนผมนะ ”
“ฉัน...ไม่ค่อยแน่ใจกับนายซักเท่าไรเลยน้าาาาาาาาาา เพราะนายกับฉัน็ต่างเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน ” ตะวันเริ่มพูโจริงๆจังๆเพราะเค้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“แล้วคุณจะเอาไงอ่ะ....จะให้ผมทำยังไงคุณจะได้รู้ว่าผมจริงจังนะ ” กรรณชัยพูด
“งั้นฉันจะให้นายได้จีบฉัน แต่ยังไมได้เป็นแฟนกันนะ ฉันอยบากเห็นว่านายจริงจังกับฉันจริงๆ ” ตะวันพูดจบก็ลุกจากโต๊ะกินข้าวออกไปจากโรงอาหารทันที
' เด็กน้อยเอ่ย ฉันไม่อยากให้นายมาครบกับคนจนๆอย่างฉันหรอกนะ เฮ้ยยยยยยยยยยย ชีวิตฉันเคยสงบสุขนี่หนาทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ได้เนี่ย ' ตะวันเดินคิดอะไรไปเรื่อยๆระหว่างทางเดินกลับห้องทำงาน
แต่จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นตามหลังมาทำให้เค้าต้องหันหลังกับไปฟัง
“เฮ้ย~~~กลายเป็นขวัญใจนายกรรณไปซะแล้ว คิดยังไงจะครบกับหลานฉันเนี่ย ฮึ ” เสียงทุ้มๆของคนหล่อทำให้ตะวันเริ่มมั่นไส้
“เสียมารยาทแอบฟังคนอื่นเค้าคุยกัน...ชิ..” ตะวันย้อนกลับทันควัน
“ถ้ามันไม่เกี่ยวกับหลานฉัน ฉันก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ ” กรวิชเดินมาใกล้กว่าเดิมเพื่อจะได้เห็นกันชัดๆ
“ผมยังไม่ได้ตอบอะไรไป ก็แค่คุยๆกันไปก่อนก็เท่านั้น ”
“ขอบอกไว้ก่อนกรรณมันไม่เคยจริงจังกับใคร...” กรวิชพูดอย่างไม่อยากจะสนใจแต่น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วง
“หลานเป็นแบบนั้นแล้วน้าชายละ จะเหลือหรอ เหอะๆ ” ตะวันพูดจบก็เดิวดิ่วๆไปอย่างไม่สนใจแต่จู่ๆก็โดนฉุดเข้ามุมๆหนึ่งของตึก
“พูดแบบนี้มันยั่วกันนี่หน่า หึหึ ” กรวิชไม่รอให้ตะวันพูดอะไรก็กดจูบหนักไปที่ริมฝีปากบางๆทันทีสองมือตะวันพยายามผลักกรวิชให้ออกห่างแต่แขนแกร่งของกรวิชรัดเอวบางไว้แน่นเมื่อรู้ว่าตะวันหมดทางสู้ก็ผละออกตะวันนั่งลงกับพื้นเค้าหมดแรงจริงๆรั้งที่สองแล้วนะที่กรวิชจูบเค้าแบบไม่มีเหตุผลนะจูบอย่างหน่ำใจแล้วก็ไปโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วเค้าทำอะไรผิดอีกเนี่ยยยยยยยย
ตะวันได้แต่นั่งหอบหายใจอยู่ที่เดิมปล่อยให้กรวิชเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย
....................................................................................................................................................................................
อ่านไปแค่นี้ก่อนน่ะเดี๋ยวมาต่ออีกยังไม่จบตอนสามน่ะครับ
รอก่อนน่ะครับ
ช่วงนี้สอบ อ่านหนังสือหนักมากๆครับเลยไม่มีเวลาเลย
ขอบคุณสำหรับทุกๆเม้นน่ะครับ
ติชมกันตามสบายครับ ^^ ขอคำแนะนำด้วยรับ
ความคิดเห็น