คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
“ขอโทษครับ”ร่างเล็กกล่าวคำขอโทษไม่ขาดปากเมื่อเค้ารู้ดีว่าวันนี้เค้ามาสายอีกแล้ว
“เอาเถอะๆไหนๆก็มาแล้วมาสายดีกว่าไม่มา ไปๆไปทำงานได้แล้วเดี๋ยวเรียกประชุมนะเพราะวันนี้เรามีผู้จัดการคนใหม่มาแนะนำให็รู้จัก”ชายร่างสูงพูด
“แล้วผู้จัดการละครับ ถูกไล่ออกหรอครับ?”ร่างเล็กถามพร้อมทำน่าตาขี้สงสัย
“นายนะซิที่ต้องโดนไล่ออก บ้าหรอ!!! ฉันโดนย้ายให้ไปทำบริษัทธิ์ใหญ่นู้น”
ผู้จัดการคนหล่อพูดจบก็เดินดิ่วๆออกไป
“นี่ๆพี่ตะวันครับใครหรอที่จะมาเป็นผู้จัดการคนใหม่นะ”ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตะวันสองปีรีบเข้ามาทักเมื่อหัวหน้าฝ่ายบุคคลเดินออกไป
“ไม่รู้เหมือนกันฉันเพิ่งมาน่ะ...ไม่น่าตื่นสายเลยเรา”ตะวันทำน่าเบื่อๆก็เมื่อคืนน่ะซิ เฮ้ย ย ย คิดแล้วก็เหนื่อย
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”พีถามขึ้นเมื่อฝ่ามือยกขึ้นแตะน่าผากตะวัน
“ไม่หรอกฉันแข็งแรงจะตาย”ตะวันยิ้มน้อยๆก่อนจะหันมาทำงานบนโต๊ะต่อ
พักกลางวัน:
“ตะวัน เอานี้เข้าไปวางไว้บนโต๊ะผู้จัดการหน่อยซิเดี๋ยวฉันต้องรีบไปทำธุระนะ”เพื่อนร่วมงานยื้นเอกสารมาตรงหน้าก่อนจะสั่งงานแล้วก็เดินจากไป
“ครับ”ตะวันตอบนิ่งๆก่อนจะเดินไปที่ห้องผู้จัดการ
ก๊อกๆๆๆๆ
“ผม....O_o...”ตะวันดวงตาเบิกกว้างทันทีเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องผู้จัดการเมื่อเจอเข้ากับชายหนุ่มน่าตาคมเข้มที่ไม่เคยเห็นน่ามาก่อนมานั่งที่เก้าอี้ของผู้จัดการอักเป็นรุ่นพี่ที่รักของเค้า
“นี่ !!! นายเป็นใครน่ะ มานั่งที่เก้าอี้ของผู้จัดการได้ยังไง”
“...”ชายหนุ่มตรงหน้าตะวันเงยน่าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีนิลกับใบน่าขาวๆที่ยังนิ่งเฉย
“ก็...ก็นายนั้นแหละ ยังจะมาเฉื่อยอีก ลุกเดี๋ยวนี้น่ะไม่งั้นฉันฟ้องท่านประธานให้ไล่นายออกแน่”ตะวันขู่เสียงเข้มแต่ทว่าชายตรงน่ากลับยิ้มมุมปากก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนอย่างสง่า
“ก็เอาซิไปฟ้องเลย ถ้ากล้าไล่ฉันออกก็เอาซิ”
“ฉันไปฟ้องแน่ ชิ แต่ก่อนอื่นนายต้องออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้”ตะวันไม่พูดเปล่ากลับไปดึงแขนให้ชายหนุ่มขยับตัวออกจากโต๊ะแต่ตัวเองนั้นซุ่มซ่ามสะดุดขาโต๊ะชายหนุ่มรีบคว้าเอวไว้ได้ทัน
“อ๊ะ...”
วงแขนแข็งแรงรวบเอวตะวันไว้ได้ทันทั้งสองสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจจมูกตะวันห่างกับจมูกชายหนุ่มตรงหน้าไม่กี่เซ็น'นายนี่น่าหวานจังแหะตัวนิดเดียวเองกินข้าวมั่งป่ะเนี่ย'ร่างสูงคิด
แต่แล้วจู่ๆตะวันก็น่าแดงเป็นผลเชอร์รี่สดร่างสูกเห็นอย่างนั้นแล้วก็อดใจแกล้งไม่ได้ร่างสูงค่อยๆยื้นใบน่าขาวๆเข้าไปใกล้ๆก่อนจะขยับริมฝีปากบางพูดว่า
“นายนี่น่าหม่ำชะมัดเลยรู้ไหม??”คำพูดนี่ทำให้ตะวันรู้สึกตัวก่อนจะกระเด้งตัวออกห่างแล้วทำน่ามุ้ยใส่ร่างสูงไม่สนใจกลับขำในลำคอทำให้ตะวันยิ่งทั้งโมโหทั้งอายเข้าไปใหญ่ก่อนจะเดินดุ่มๆออกไปจากห้องด้วยใบน่าอันแดงกล่ำ
เป็นจังหวะเดียวกับพีที่เดินผ่านมาพอดีจึงถามขึ้น
“ตะวันเป็นอะไรครับทำไมน่าแดงแบบนี้ล่ะ ไม่สบายหรอครับ??ไปพักไหม???”พีถามขึ้นรัวด้วยความเป็นห่วงผิดกับตะวันที่ยังน่าแดงจนพูดตะกุกตะกัก
“พี่...พะ...พี่ไม่เป็นอะไร ขอบใจน่ะ”ตะวันพูดจบก็เดินออกจากตรงนั้นทันทีปล่อยให้พียืนทำน่างงก่อนจะหันไปมองประตูที่ตะวันเพิ่งเดินออกมา
ณห้องประชุม
ทุกคนถยอยเดินเข้าห้องจนเลือกแต่ตะวันกับพีที่เดินมาถึงคนสุดท้าย
ก่อนที่คีวาผู้จัดการที่ตอนนี้จะโดนย้ายให้ไปช่วยงานที่บริษัทธิ์จะพูดขึ้น
“สวัสดีทุกคนอย่างที่บางคนได้รู้แล้วว่าฉันจะต้องย้ายไปช่วยงานทางบริษัทธิ์ใหญ่ชั่วคราวเพราะฉนั้นเรามาพบกับผู้จัดการคนใหม่ดีกว่า ขอเชิญคุณกรวิชครับ”เมื่อคีวาพูดจบทุกคนก็ปรบมือเชิญผู้จัดการคนใหม่ออกมาทุกคนอาจยิ้มแย้มแต่ผิดกับตะวันที่ยืมอ้าปากหวอ'นายคนนั้นนี่ อ๊ากกกกอยากตายเว้ย!!!'ตะวันคิดอยู่คนเดียวก่อนที่สายตาทั้งสองจะบรรจบกันอีกครั้งคราวนี้ร่างสูงขยิบตาให้อย่างชายเจ้าชู้ซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าเกรียดนัก
“สวัสดีครับผมกรวิชครับฝากตัวด้วยน่ะครับ”
“เอาล่ะฉันอยากให้ทุกคนแนะนำตัวให้คุณกรวิชได้รู้จักทุกคนน่ะเอาเริ่มจากคุณก่อนเลย”คีวาให้แนะนำตัวทีละคนไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงตะวันกรวิชใช้ดวงตาสีนิลจ้องเข้าไปในตาของตะวันเหมือนหยอกล้อทำให้เจ้าตัวต้องหลบสายตาก่อนจะเอ่ยชื่อตัวเองออกมา
“สวัสดีครับผมตะวันครับฝากตัวด้วยน่ะครับ”ตะวันก้มหน้าอยู่แบบนั้นไม่ยอมสบตากับคนตรงหน้าเลย
“ชื่อตะวันเพาะดีน่ะครับน่าตาก็ดีอีกต่างหากแถมดวงตาก็เป็นประกายตลอดเวลาเหมือนดวงตะวันเลย...ยินดีที่ได้รู้จักครับ^^”กรวิชยื้นมือเข้าไปทักทายแบบผู้ดีอังกฤษแต่ร่างเล็กทักกลับแบบผู้ดีเมืองสยามพร้อมสีหน้าไม่พอใจของตะวันกลับไปกรวิชเหวอนิดกน่อยแต่ก็ดึงมือตะวันมาจับจนได้
สองคนยังคงมองกัยนอยู่อย่างนั้นแบบไม่ละเลิกถึงแม้มือของเค้าจะไม่จับกันแล้วก็ตามจนจบการประชุมสองคนก็เหลือบมองกันอยู่บ่อยๆ
“ผมขอจบการประชุมแค่นี้ครับ...ขอบคุณครับ...เอ่อ...คุณตะวันครับอยู่คุยกับผมก่อน เชิญที่ห้องครับ”กรวิชพูดจบก็เดินนำไปที่ห้องทันที
“ครับ”
“ให้อยู่รอไหมครับพี่ตะวัน???”พีถามขึ้นเมื่อตะวันกำลังจะเดินออกจากห้อง
“ไม่เป็นไร...ขอบใจน่ะ^^”พูดจบตะวันก็เดินไปที่ห้องกรวิชทันที
ก๊อกๆ
“เชิญ”เสียงคนในห้องพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆตะวันจึงเปิดประตูเข้าไป
“มีเรื่องอะไรหรอครับ”ตะวันเปิดบทสนทนาทันทีเมื่อเดินเข้ามา
“อืม ม ม....นายทำงานที่นี้มานานแล้วนี่”กรวิชเงยหน้าออกจากกองเอกสารก่อนจะเอนพิงเก้าอี้
“ครับ...ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คือตอนนี้ฉันยังไม่มีเลขา...นายมาเป็นเลขาฉันไหม??”
“...”
“ฉันอ่านประวัติการทำงานของนายเรียบร้อยแล้วน่ะฉันชอบในการทำงานนาย...มีคนแนะนำนายให้ฉันน่ะแล้วอีกอย่างฉันไม่ให้นายปฏิเสธด้วยเพราะฉันเลือกนายแล้ว^^”กรวิชยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ขึ้นอีกครั้ง
“ผมไม่...”ตะวันยังไม่ทันพูดจบกรวิชก็ตัดบททันที
“ไม่มีแต่...ฉันเลือกนายแล้ว”
“แล้วคุณจะเรียกผมมาถามทำซากอะไรล่ะครับเสียเวลาชะมัด ชิ”ตะวันพูดขึ้นอย่างไม่สนใจเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่ก็โดนรั้งแขนไว้
“ปากร้ายจริงๆน่ะนายเนี่ย หึหึ พรุ่งนี้ห้ามมาสายเด็ดขาดหวังว่าอย่างนายคงเข้าใจน่ะคำว่าความรับผิดชอบน่ะ...ไปได้แหละ”กรวิชพูดจบก็ก้มน่าทำงานต่อปล่อยให้ตะวันเดินหงุดหงิดออกจากห้องไป
'ร้ายๆแบบนี้แหละทำงานเก่งนักแล^^' 'แล้วเราทำไมต้องยิ้มด้วยฟ่ะ= ='' '
กรวิชคิดแล้วก็ถามเองตอบเองอยู่คนเดียวเป็นเพราะอะไรน่ะที่ทำให้เค้ายิ้มแก้มปริได้ขนาดนี้
ตะวันอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กเค้าเคยอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นแต่แล้วก็พังทลายลงเพราะพ่อมีเมียน้อยหลังจากนั้นแม่ก็ตายด้วยโรคหัวใจเค้าอยู่มาได้ด้วยความเจ็บปวดและทรมานคนข้างบ้านสงสารก็เลยนำเค้าไปที่บ้านเด็กกำพร้าพออายุครบสิบแปดก็ออกจากบ้านเด็กกำพร้าหางานทำแล้วก็เรียนต่อจบเค้าทำงานหาเงินเรียนและเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด
ตะวันเดินคิดอะไรมาเพลินจนไม่ได้ยินเสียงแตร่รถ
ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
“โอ๊ะ...อ่า~~~เจ็บ”ร่างเล็กล้มลงกับพื้นจนก้นจ้ำ
“เป็นอะไรหรือเป่าครับ”เด็กหนุ่มลงจากรถก่อนจะมาช่วยพยุงตะวันลุกขึ้น
“เจ็บน่ะซิถามได้ขับรถไม่ได้ดูเลยน่ะไอ้พวกคนรวย”ตะวันด่ากราดไม่ฟังเสียงขอโทษจากเด็กตรงหน้า
“อ๊ะ...”ร่างเล็กไม่คิดว่าตัวเองเท้าแพลงจึงเสจะล้มแต่ดีที่เด็กหนุ่มรับไว้ทัน
“ผมช่วยน่ะครับ”ถึงเค้าจะเอ่ยปากตะวันก็ยังดิ้นอยู่ในอ้อมแขนอยู่ดีแต่ยังไม่ทันขาดคำตะวันก็เสอีกจนได้
“ไม่ต้องมายุ่ง...อ๊ะ”
“ฮ่าๆ ผมบอกแล้วว่าให้ผมช่วย...ไปเดี๋ยวผมไปส่ง”เด็กหนุ่มพยุงตะวันขึ้นรถเพราะออกปากว่าจะไปส่งร่างเล็กจิ๊ปากแต่ก็ยอมไปแต่โดยดี
ระหว่างที่นั่งไปบนรถตะวันแทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับคนขับจนเด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดเลยต้องเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน
“บ้านอยู่ไหนครับผมจะได้ไปส่งถูก”
“ไม่ต้องยุ่ง...ผมกลับเองได้คุยส่งผมที่ป้ายรถเมล์ล่ะกัน”
“ไม่ได้หรอกครับคุณเจ็บอยู่น่ะ...ให้ผมไปส่งเถอะ”
“นี่คุณ...ผมบอกให้ส่งตรงนั้นก็ตรงนั้นซิ”ตะวันเริ่มขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“คะ ครับก็ได้....ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงเลยนี่นา”เด็กหนุ่มตกใจเมื่อได้ยินเสียงดังจากผู้ชายตัวเล็กๆ
“....”
“งั้นคุณต้องบอกชื่อผมมาก่อนโอเคป่ะ”เด็กหนุ่มถามขึ้น
“ทำไมผมต้องตอบคุณด้วยล่ะ”ตะวันเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งๆ
“ก็ขอแลกเปลี่ยนไงผมมาส่งคุณป้ายรถเมล์คุณก็ต้องบอกชื่อผม”เด็กหนุ่มยิ้มล้า
“ผมไม่ได้ขอน่ะที่ให้คุณมาส่งผมที่ป้ายรถเมล์เนี่ย...จอดเดี๋ยวนี้ผมจะลง”ตะวันออกคำสั่งเสียงเข้มแต่แทนที่เด็กหนุ่มจะทำตามแต่เปล่าเลยเค้ากลับขับเลยป้ายรถเมล์ไปเรื่อยๆ
“นี่!!!”ตะวันพ้นลมหายใจแรงๆก่อนจะสูดเข้าไปให้เต็มปอดเพื่อให้ใจเย็นลง
“ผมชื่อตะวัน...ผมตอบคุณแล้วก็จอดรถซิ !!!”ตะวันยังคงเสียงดังตลอดแล้วนี่ก็เลยป้ายรถเมล์มาหลายป้ายแล้วด้วย
“ชื่อตะวันหรอครับ โอ้ ชื่อเพาะดีนี่ ผม ชื่อกรรณชัยครับเรียกผมว่ากรรณเฉยๆก็ได้น่ะครับให้คุณเรียกสนิทแบบนี้แค่คุณคนเดียวน่ะเนี่ย ฮ่าๆ”
“ผมไม่ต้องการ จอดซิเว้ย!!!ชักทนไม่ไหวแล้วน่ะ”ตะวันขึ้นเสียงมากขึ้นทำให้กรรณจอดรถอย่างว่องไวตะวันกระโดดรถจากรถทันทีที่รถจอดสนิทไม่ฟังเสียงที่ตามมาจากด้านหลัง
“เฮ้ ๆ คุณตะวันครับเดี๋ยวก่อนซิ คุณลืมสร้อย เฮ้ยยยย ไม่ฟังเราเลยแหะ”
'นี่มันอะไรกันเนี่ยเจอแต่คนโรคจิตอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา จะบ้าตาย ไอ้ผู้จัดการคนใหม่ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน อ๊ากกกก T^T เจ็บก้นอ่ะ'
ความคิดเห็น