คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Wish 100%
อากาศเดือนธันวาคมหนาวจับใจ ในห้องพักนักกีฬาแทบไม่ต้องเปิดแอร์คอนดิชั่นเนอร์ให้เปลืองไฟ ไอมิยืนรับแสงแดดอยู่ริมหน้าต่าง บิดร่างขับไล่ความเหมื่อยล้ามือเรียวบิดผ้าม่านเล่นเรื่อยเปื่อย
“เมื่อคืนใครมาหรอ ได้ยินเสียงเคาะประตู ก็อกๆแก็กๆ ” ไอมิเอี้ยวหน้ามาถาม
“พี่ซาโกดะ” ฮารุกะนอนคว่ำหน้าตอบเสียงอู้อี้
“O_o มาเพื่ออะไร มาทำอะไร แล้วคุยอะไรกันบ้าง” ไอมิยิงคำถามมาเป็นชุด
“มาทำอะไรไม่รู้ ไม่ได้ถาม เปิดประตูออกไป ก็ไม่เจอใครแล้วค่ะ” ฮารุกะลุกขึ้นนั่งบนเตียงแทน
“คราวหลังปลุกพี่นะ มันอันตรายเปิดประตูคนเดียว เผือไม่ใช่พี่ซาโกดะจะยุ่งเอา”
โหย อย่าว่าแต่ปลุกเลย เค้าแอบถีบพี่ด้วยเหอะ พี่ยังไม่ตื่นเลย ฮารุกะค้อนตาเหลือก
= ____=”แอบถีบเลยหรอน้องรัก
“อยากรู้จัง พี่เค้ามาทำไม เมื่อคืนเห็นแกล้งเมินไม่สนใจฮารุกะซะอีก”
“อยากรู้ก็ไปดูกระดาษที่หน้าจอทีวีดิ”
หืม ไม่ได้ชวนเดทแต่ชวนไปวัดหรอ? ไอมิมองกระดาษสีฟ้า สลับกับหน้าฮารุกะ
“สงสัยอยากไปไหว้พระวันเกิด ฮารุกะตอบแบบไม่ใส่ใจ แต่ลึกๆกำลังตัดสินใจจะไปหรือไม่ไปดี
กับคำเชิญของอีกคน
วันนี้วันเกิดพี่ซาโกดะซินะ ..ตกลงฮารุกะจะไปหรือเปล่า เลยเวลานัดแล้วน่ะ!
ร่างบางลุกขึ้นเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อแขนยาวของสโมสรถูกหยิบมาสวม
“แปลว่าไป”
พี่ไอมิบอกให้เค้าเลือกสักคน...เค้าก็ควรให้โอกาสทั้งสองคนเท่าๆกัน
“แน่ใจนะ ว่าจะไม่เอนไปทางซาโกดะมากกว่า”ไอมิถามย้ำ
ไม่มั่นใจหรอก ฮารุกะก้มศีรษะให้รุ่นพี่ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายสีฟ้าออกจากห้อง
“ฮารุกะจัง .. ถ้ามิยูรู้เค้าจะไม่โกรธแย่หรอ? พี่ไม่ช่วยโกหกให้นะเว้ย” ไอมิตะโกนไล่หลัง
พี่ไอมิไม่ต้องกังวลหรอกน่า ฮารุกะเดินกลับมาตอบ ถึงแม้จะกังวลเรื่องนั้นอยู่ก็ตาม
ตอนนี้เกือบบ่ายสองแล้ว แต่เวลานัดที่ซาโกดะบอกไว้คือเที่ยง ก้อนเมฆทะมึนลอยต่ำบดบังแสงแดด
ทั้งที่ดูพยากรณ์มาแล้ว ว่าอากาศจะเย็นลงเรื่อยๆ ยังจะใส่เสื้อบางแบบนี้มาจนได้
ฮารุกะบ่นตัวเองเบาๆ เด็กน้อยกวาดสายตารอบๆลานจอดรถ
ซึ่งเป็นสถานที่นัดของเธอและเจ๊ไฝ
“สงสัยจะรอไม่ไหว น้องเล็กยักไหล่ ให้รอแค่นี้ทำเป็นทนไม่ได้
ฮารุกะบ่นพึมพำ พลางกดโทรศัพท์ก่อนจะถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเสียงของซาโกดะก็ดังแทรกขึ้นมา
“ฮารุกะ..จัง ทางนี้ๆ ” ซาโกดะลุกขึ้นยืน เธอนั่งซ่อนตัวอยู่ระหว่างรถโฟล์คสีดำและออดี้สีเงินของพี่ฮิราอิ
“เอ๊ะนั่งรอตรงนั้นมาตลอดเลยหรอคะ” OxO
“ก็มันหนาว พี่เลยไปนั่งหลบตรงนั้น” ดวงตากลมโตเป็นประกายวิบวับ
“ในโรงแรมก็นั่งรอได้ ทำไมไม่เข้าไปหะ^^*”เกิดไม่สบายขึ้นมาเป็นความผิดเธอนะสิ
“ถ้าเธอมาไม่เจอพี่ล่ะ ? เมื่อกี้ก็เกือบมองไม่เห็นเธอแหน่ะ” ซาโกดะพูดควันออกปากบ่งบอกถึงความหนาว
“ขอโทษที่ให้รอนานแล้วกัน ” ฮารุกะอดสงสารไม่ได้ ซาโกดะตัวสั่นระริก
“ไม่เป็นไรหรอก ซาโกดะโบกมือปฎิเสธพัลวัน
เราไปกันเถอะ กว่าจะไปถึงเดี๋ยววัดจะปิด อดเที่ยว”
ซาโกดะอ้อมมาเปิดทางให้ฮารุกะไปยืนฝั่งข้างรถ ออดี้สีเงิน
ร รถพี่คันนี้หรอคะ?
ซาโกดะกดรีโมทปลดล็อค “รถเราคันนี้แหละ ” เด็กสาวเปิดประตูให้ฮารุกะ
ร่างบางเผลอมองสำรวจรอบๆคัน รถโฟล์คสุดหรู ก็พอจะรู้มาบ้างนะ ว่าพี่ซาโกดะค่าตัวแพงสุดในลีคญี่ปุ่น ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้ เท่าที่จำได้ ล่าสุดเจ๊ไฝขับมินิคูเปอร์สีแดงไปหาเธอที่โอกายาม่าอยู่เลย
“เอ่า เข้ามาเร็ว ในรถมีฮีตเตอร์จะได้อุ่นขึ้น ซาโกดะมาเร่งอีกฝ่ายที่ยังไม่ยอมก้าวขาขึ้นรถ
“คะ..เร่งจริง =____=^ ขอชื่นชมความงามก่อนก็ไม่ได้ ฮารุกะชื่นชอบรถโฟล์คมาแต่ไหนแต่ไร ซาโกดะคงรู้เรื่องนี้ดี
"แต่พี่ก็ยังรอตั้ง2 ชั่วโมง"
"ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรอเหมือนกัน ว่าแต่เธอทำไมถึงเปลี่ยนใจ" ซาโกดะ ชวนคุยรถคันสวยเคลื่อนตัวไปตามท้องถนน
“เค้าก็แค่...อยากไปวัดน้ำใส วัดที่พี่ชวนไปก็อยู่แถวๆนั้นพอดีด้วย”
ฮารุกะเปลี่ยนเรื่องคุย ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์
อ๋อ...หรอออ =O= งั้นเราค้างคืนกันที่นั้นเลยไหม พี่อยากฉลองวันเกิดที่เกียวโตสกายทรีอ่า
พลัก่!!!!มือเล็กฟาดที่ต้นแขนของซาโกดะอย่างแรง
โอ๊ย! ฮารุกะอ่า พี่ขับรถอยู่นะ ฟาดมาได้ =w=
“อย่าเยอะ! ที่มาด้วย ก็บอกไปแล้วงัย ว่าอยากไปวัดน้ำใส ฮารุกะเบือนหน้ามองข้างทาง ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่หลวมตัวมากับซาโกดะในวันนี้
วิวข้างทางเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองสลับแดงดูกลืมกลืนกันอย่างน่าประหลาด ตั้งแต่มาฮิเมจิแทบจะไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ถือว่ามาเปิดหูเปิดตาแล้วกัน ฮารุกะปลอบใจตัวเองไม่อยากรู้สึกผิดต่อตัวเองและมิยู
“โทษทีนะเมื่อคืน ไม่ได้ทักเธอตอนงานเลี้ยงเลิก”
“อ๋อ ช่างเหอะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
“เธอไม่โกรธพี่หรอ”
“เด็กน้อยกัดฟันพูดย้ำว่า “ไม่โกรธค่ะ” ^^*
“ใจเย็นขึ้นเยอะเลยฮารุกะจัง ปกติต้องด่าก่อนค่อยผ่อนทีหลัง ซาโกดะพูดขัด
พูดแบบนี้ พี่ซาโกดะอยากโดนด่าว่างั้น?
“ป..เปล่าๆ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
“ เออ นี่...นากาโอกะรู้ไหม ที่เรามาด้วยกัน” สายตาเข้มจ้องมองถนน
“ไม่รู้ค่ะ พี่มิยูกลับสโมสรตั้งแต่เช้าแล้ว”
“แล้วฮารุกะจะบอกไหม?
“ถึงวัดเดี๋ยวจะโทรบอก”
“เขาอาจจะโกรธ”
“ไม่มั้ง บอกว่ามากับพี่ในทีม “ธรรมดาๆ “ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร /// หวังว่าพี่มิยูห้ามโกรธฮารุกะนะ
“แฟนเก่าไม่ใช่หรอ” ซาโกดะเร่งคันเร่ง รถยิ่งพุ่งแรงขึ้น
“พี่ซาโกดะ! จะกวนน้ำให้ขุ่นเพื่ออะไรเนี่ย อย่าให้อารมณ์เสียนะ ฮารุกะนิ่วหน้า
ซาโกดะรีบหุบปากเงียบ ฮารุกะหงุดหงิดนี่น่ากลัวจริงๆ
ยามเย็นของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก้อนเมฆสีแดงฉาบระบายท้องฟ้าสีส้มทางทิศตะวันตก แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องอาคารหลังเล็กและตึกแถวย่านเมืองเก่าอย่างเดียวโต
ย่านสงบเงียบอย่างกิออนในยามหนาวแบบนี้ ต้นไม้ข้างทางเหมือนกับอยู่ในยุคโบราณฮารุกะดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมตัวว่า ใกล้ถึงเวลากลับเต็มที
ซาโกดะเดินตามห่างๆ ฮารุกะสั่งห้ามไม่ให้เธอเดินข้างๆ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด
บอกว่าอย่ามาเดินใกล้ๆงัย!
ซาโกดะก้าวถอยหลังแค่ก้าวสั้นๆ “ห่างแค่นี้พอไหม”ซาโกดะร่าเริงเป็นพิเศษ รอยยิ้มน่ารักผุดขึ้นไม่หยุดหย่อนตลอดทางที่ไปไหว้พระที่วัดน้ำใส
แล้วเราจะยิ้มตามทำไม ฮารุกะรีบหยิกแก้มตัวเอง
มุมหนึ่งในย่านร้านค้า ซาโกดะกับฮารุกะเดินเงียบๆไม่พูดไม่จา เป็นเพราะหลายสายตาจับจ้องที่ซาโกดะผู้แสนจะป็อบปูล่าฮารุกะหมั่นใส้แทบคลั่ง ยังกะมาเดทกับดารา ยังดีที่ไม่มีนักข่าวมาตามเป็นปาปารัซซี่
ซาโกดะต้องแวะแจกลายเซ็นให้สาวๆที่เข้ามารุมล้อม เป็นช่วงเวลาที่ร่างบางเดินเลี่ยงหลบมุม มือเรียวกดเบอร์โทรของคนสำคัญ ...หมายเลขที่ท่านเรียก...
“ปิดเครื่องทำไมน้าพี่มิยู ฮารุกะร้อนใจและกังวลใจ กลัวมิยูจะน้อยใจที่เธอมากับซาโกดะ
“กว่าจะปลีกตัวมาได้ เล่นเอาแทบแย่แหน่ะ เด็กสาวหักนิ้วเปาะแปะ นิ้วมือเปรอเปื้อนไปด้วยหมึกสีน้ำเงิน
แฟนคลับพี่เยอะเนอะ”
“แหม ฮารุกะอ่า อย่าประชดแบบนั้นสิ ต่อไปพี่จะสนใจเธอคนเดียว ไม่จอดแจกลายเซ็นอีกละ สัญญา ซาโกดะเริงร่าสุดๆ รู้สึกเหมือนฮารุกะกำลังหึง
เหอะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นย่ะ=_____=
แฟนคลับเค้าถามกันว่าพี่จะกลับมาเล่นให้ทีมชาติเมื่อไหร่” ซาโกดะรีบอธิบาย
ฮารุกะไม่อยากเสียมารยาท เด็กน้อยตั้งอกตั้งใจฟัง แล้วงัยต่อ?
“พี่ก็บอกไปว่า พี่กลับมาแล้ว และจะไม่ไปไหนอีก ฮารุกะเข้าใจว่าซาโกดะสื่อความหมายบางอย่างกลายๆ
“ไปดีกว่า ฮารุกะไม่อยากตกหลุมพรางที่ซาโกดะกำลังขุดตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันวันนี้
ซาโกดะสวมเสื้อแขนยาวของTop Shop ทำจากหนังเทียม เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ผิดกับฮารุกะที่สวมเสื้อวอร์มจากสโมสรจึงเดินห่อไหล่ ตัวสั่นๆ
“มีเสื้อผ้าเยอะแยะไม่รู้จักใส่ ซาโกดะถอดเสื้อตัวเองให้ร่างบางที่เริ่มจะเดินตัวงอเพราะอากาศเย็นจัด
“เอ่อ - ____- ฮารุกะรีบคว้าเสื้อที่คลุมไหล่ไม่ให้หล่นลงพื้น
“ใส่ไปเหอะ” ซาโกดะยัดเหยียดให้อย่างเต็มใจ”
“ข...ขอบคุณค่ะ” ฮารุกะไม่ปฎิเสธเพราะเธอก็หนาวจนแทบก้าวขาไม่ออก
“เราซื้อของฝากพี่ซาโอริกับทุกคนเสร็จก็กลับเถอะ เธอตัวสั่นแบบนี้ เดี๋ยวไม่สบาย ” ซาโกดะแสดงความห่วงใย คำพูดทุกคำมันอ่อนโยนจนฮารุกะแทบลืมความหนาว
ร่างบางมองคนอีกคนเชิงว่า พี่ไม่หนาวแน่นะ ซาโกดะเลิกคิ้วสูง ว่าพี่เกิดในเมืองหนาว แค่7 หรือ 8 องศา ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก ซาโกดะตอบ
เก่งเนอะ ฮารุกะแอบยิ้ม ไม่ใช่เพียงความอุ่นจากเสื้อของซาโกดะจะทำให้เธออารมณ์ดี กลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอคุ้นเคยดันติดมาด้วย
สายลมเย็นพัดเส้นผมสีดำเข้มของเด็กสาวทั้งสองคนให้พลิ้วไหว โชยกลิ่นโอโคโนะมิยะกิจากร้านที่อยู่ไม่ไกลมาเตะจมูกฮารุกะจนแทบหัก
“หิวป่าว? เราแวะกินอะไรก่อนกลับก็ได้นะ ร้านแกงกะหรี่ตรงหัวมุมคงจะอร่อยดี คนต่อแถวตรึม
ฮารุกะหันขวับมองหน้ารุ่นพี่ที่จงใจปั่นน้ำเสียงไม่ให้ดูเชิญชวนจนน่าเกลียด เธอเสยผมสั้นสีดำ รอยยิ้มฝืดฝืนปรากฏบนใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางแต่ยังสวยโครต
“ตัวเองหิวละสิไม่ว่า ฮารุกะพูดงึมงำ ถอนสายตาจากหน้าซาโกดะ
ตกลงกินนะ จู่ๆ ซาโกดะก็หยุดฝีเท้าตรงหน้าร้านอาหารโอโคโนะมิยากิที่ส่งกลิ่นมายั่วในตอนแรก ถ้าขืนเดินไปจนถึงร้านแกงกระหรี่ ฮารุกะต้องเปลี่ยนใจไม่กินยุ่งเลย
ร้านนี้แหละน่าจะอร่อย”
ฮารุกะ สีหน้ายุ่งยากใจ อยากกลับโรงแรมแล้ว แถมพี่มิยูไม่ยอมเปิดเครื่องซักที แบตเราก็จะหมดแล้วด้วย ร่างบางกำโทรศัพท์ไว้ในมือ ได้แต่เดินตามเข้าไปในร้านอย่างเสียไม่ได้
หน้าประตูร้านเป็นประตูเลื่อนกลางเก่ากลางใหม่ไม่แขวนป้ายบอกว่าร้านเปิดหรือปิด พอลองเลื่อนเปิดประตูออกก็พบว่าลูกค้าในร้านแทบจะไม่มีแล้ว กลิ่นเครื่องเทศหอมโชยมารู้สึกถึงความร้อนแรงของเตาโอโคโนะมิยากิ
“ยินดีต้อนรับจ้า เสียงเจ้าของร้านวัยกลางคนส่งเสียงทักทาย
“มาเที่ยวกันค่ำเชียวนะ เกือบจะปิดร้านอยู่แล้วเชียว เจ้าของร้านชวนคุยไม่หยุด”
“เราแวะหลายที่นะคะ ซาโกดะเป็นคนตอบ ฮารุกะได้แต่ยิ้มแห้งๆ
เพื่อนไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย ปากซีดเชียว ป้าเจ้าของร้านยื่นหน้าเข้าใกล้ๆฮารุกะ
เราไม่ใช่เพื่อนกันค่ะป้า ...พ....พี่
โอ้ จริงหรือ ป้ายกมือทาบอกท่าทางตกใจ
ตกใจไรป้า =___=*
หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิดนะ ฮารุกะหน้าเหยเก
แหมดีจัง คนสมัยนี้คบกันเปิดเผยดีแท้ น่ารักน่าเอ็นดู
เอิ่ม ป้าอย่าพึ่งจิ้น,,, =____=”
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ เจ้าของร้านเสริฟชาร้อนจากถาด ก่อนจะเดินจากไป สีหน้าแช่มชื่น ที่เห็นคนรักกัน
“ไปกันใหญ่ล่ะ”
“ป้าแกตาถึงเนอะ มองออกด้วยว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อนกัน >////<
“คนอะไรคิดเองเออเองอยู่ได้ เค้ายังพูดไม่จบเลยว่าไม่ใช่เพื่อนท่าทางป้าแกจะเป็นสาววายสายเลือดบริสุทธิ์”
5555 ซาโกดะขำจนท้องแข็ง
ขำไร ฮารุกะทำหน้าบอกบุญไม่รับ
แฮะ ๆ ไม่ขำก็ได้ =______=
“เอาเหอะอย่ามัวแต่บ่นอยู่เลย จิบชาร้อนเร็วเข้า ปากซีดหมดแล้ว ซาโกดะเลื่อนถ้วยชาให้เข้าใกล้มืออีกคน
เสียงแป้งนุ่มๆ ผสมผักและไข่กระทบเตาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวน ฮารุกะพลิกโอโคโนะมิยากิด้านที่ยังไม่สุกกลับไปกลับ เสียงซู่ซ่าของแป้งไม่เท่าความหอมของมัน ทั้งสองคนกินอย่างรวดเร็ว บทสนทนาระหว่างกันจึงไม่ปรากฎให้ไรเตอร์เขียน
ก่อนกลับจากร้านเจ้าของร้านยังแถมโอโคโนะมิยากิสูตรใหม่ติดมือมาด้วย ฮารุกะจึงปล่อยเลยตามเลยไม่แก้ข่าวที่ป้าจอมจิ้นคิดว่าเธอกับซาโกดะเป็นมากกว่าเพื่อน
ได้ของกินก็พอใจแล้วใช่มั้ย?
“ดีกว่าไม่ได้อะไรก็แล้วกัน อีกอย่างนึง เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องไปแก้ข่าวหรอก ฮารุกะเน้นเสียงที่คำว่าไม่ได้เป็นอะไรกันฟังดูหนักแน่น
"รู้แล้ว ไม่ต้องย้ำก็ได้ ซาโกดะแววตาหมองหม่น
ฮารุกะถอนหายใจลึกไม่มีอะไรจะแก้ตัวที่ทำให้ซาโกดะรู้สึกแย่ ไม่รู้ว่าการมาด้วยกันครั้งนี้จะยิ่งสร้างปัญหาให้เธอหรือเปล่า
ซาโกดะรีบฝืนยิ้มฝืดๆ
“ขอแวะไหว้ศาลเจ้ายาซุกะก่อนกลับได้หรือเปล่า” ซาโกดะถามหยั่งเชิง
นะ ..ซาโกดะพนมมือขอร้องกระพริบตาปริบๆ
ก็ได้ ไหนๆ ก็มาล่ะ แล้วห้ามแวะที่ไหนอีกแล้วนะ มันหนาว -_-++
โอเคๆ ที่สุดท้ายแล้ว ซาโกดะก้มหน้าเดินนำไปยังศาลเจ้ายาซากุ
ซุ่มประตูศาลเจ้าแห่งความรักสะท้อนแสงแดดจากกระเบื้องให้ดูเป็นประกายระยิบระยับ
โทริอิสีแดงตั้งเรียงรายอยู่รอบๆ คนดูบางตาลงกว่าปกติ อาจเป็นใกล้เวลาปิดทำการ
ซาโกดะแยกกับฮารุกะไปขอพรคนละทิศ ฮารุกะตบมือสามครั้งพนมมือขอพรในใจเงียบๆ ซาโกดะแอบมองอยู่ไม่ห่าง ริมฝีปากบางเม้มแน่น ถึงเวลาที่เธอต้องให้ฮารุกะรู้ความจริงสักที
ท่านเทพเจ้าคงกำลังสับสน ถ้าได้ยินคำขอพรของคนทั้งคู่
อีกคนขอให้ตัดใจจากซาโกดะได้ ส่วนซาโกดะขอให้ฮารุกะกลับมาหาเธอ ..
.ท่านจะได้ยินคำขอของใครก่อน
ฮารุกะยืนกวักควันถูปเข้าหาตัว มีความเชื่อว่าควันธูปจะนำพาโชคดีมาสู่ตัว ถ้ามุดลงกระถางธูปได้ทำแล้วเหอะ เด็กน้อยคิดในใจ
“ขอพรว่าไง ขอนานจัง ซาโกดะฉวยโอกาสยืนใกล้ ๆขออ้างว่ากวักควันธูปคงถูกหยิบมาใช้หากโดนฮารุกะบ่น
“เรื่องทั่วไป ขอให้พ่อแม่แข็งแรง ให้ให้ทุกคนในทีมมีความสุข ขอ….เยอะอ่ะ เล่าไม่หมดหรอกค่ะ"
“เห...ขอพรสารพัดแบบนั้นท่านเทพคงลำบากแย่” ^-^
“อย่าบอกว่าพี่ไม่ขอ =_____=
“ขอดิ แต่พี่ขอแค่อย่างเดียว” ตาคู่เรียวหรี่มองอีกฝ่าย
“พี่ขอให้เรากลับมาคบกันอีกครั้ง”
“อ๋อ ก็นึกว่าจะขออะไร” ฮารุกะคิดตามไม่ทัน
ห๊ะ? อะไรนะ!
“อาจจะดูวุ่นวายหน่อย แต่ขอร้องละ! กลับมาคบกันเถอะ! ซาโกดะก้มศีรษะขอร้อง
ท่านเทพเจ้าอาจได้ยินคำขอของซาโกดะก่อนหรือเปล่า?
60%
30 นาทีก่อนหน้านั้น...
ร่างสูงจดจ้องโทรศัพท์ราวกับเป็นเครื่องเพชรมูลค่าหลายพันล้านเยน สายตาจจดจ่อจนเพื่อนสนิทชักลำคาน
“แกมองมันแบบนี้ มันก็ไม่กลายเป็นทองคำหรอกนะมิยู” เอานี่ ยูกิยื่นตั๋วรถไฟกลับโกเบ-ฮิเมจิให้นากาโอกะ
วันนี้โค้ชคุมิให้ทั้งคู่กลับมาช่วยงานเป็นคำสั่งโดยตรงของโคชถึงไม่อยากมา นากาโอกะก็ไม่กล้าปฏิเสธ
“ไม่ได้อยากให้มันงอก..อยากให้มันดังต่างหากเล่า รอโทรศัพท์ของฮารุกะจังอยู่อ่ะ
นากาโอกะเดินตามยูกิไปยังชานชาลา JR KOBE เพื่อกลับโรงแรม
“ถ้าน้องไม่โทรมา แกก็โทรไปสิค่ะ นากาโอกะซัง” ยูกิเหลียวซ้ายแลขวามองรถไฟที่วิ่งสวนไปมารอขบวนของตัวเอง
“น้องโทรมา ฉันปิดเครื่อง พอโทรกลับนะ น้องก็ดันปิดเครื่องไปแล้ว ฉันหงุดหงิดว่ะ กังวลใจแปลกๆ”
นากาโอกะแสดงอาการจนยูกิสัมผัสได้ตั้งแต่ยังไม่บอก
หรอ..งั้นลองโทรไอมิจังดูสิ เผื่อสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน
“เออ จริงด้วย คิดได้ดังนั้นนากาโอกะก็โทรหาไอมิ คาวาชิม่าในทันที
Rrrt Rrrt Rrrt
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นต่อเน่อง ไอมิเม้มปาก พยายามนึกตั้งงสติก่อนจะกดรับสายของนากาโอกะ
ยังดีนะที่ฮารุกะโทรมาก่อนหน้านี้แล้ว
“พี่ไอมิจ๋า แบตหนูจะหมด ถ้าพี่มิยูโทรหาละก็..ฝากพี่ไอมิบออกทีนะคะ ว่าเค้าจะไปศาลเจ้ายาซากุ แล้วจะรีบกลับ ...บอกไปเลยก็ได้ว่าเค้าไปกับพี่ซาโกดะ
ฮารุกะไม่อยากให้ไอมิต้องโกหกเพื่อเธอ “พี่ไอมิ เค้าขอโทษนะคะ ที่ทำให้ลำบากไปด้วย” เด็กสาวกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยเหมือนทุกคราวที่ฮารุกะยินยอมให้ใครเห็นด้านที่อ่อนหวานของเธอ
“ฮัลโหล” ไอมิ กรอกเสียงตามสาย
“ไอมิจัง นี่นากาโอกะนะ” อีกฝ่ายมีท่าทีเกรงใจอยู่เล็กๆ
อื้ม มีอะไรหรอ นากาโอกะ” อีกฝ่ายแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
คือ..ฉันโทรหาฮารุกะจัง แค่ว่าน้องปิดเครี่อง ...ฮารุกะอยู่กับเธอด้วยหรือเปล่า นากาโอกะน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“เปล่า ฮารุกะไม่ได้อยู่กับฉัน”
งั้นหรือ..ไปไหนไอจังพอจะรู้ไหมจ๊ะ? น้ำเสียงนากาโอกะไม่สู้ดีนัก
ไป..ไอมิสูดหายใจก่อนพูด
ไปเกียวโต ตอนนี้คงอยู่ศาลเจ้ายาซูกะ”
กับพี่ซษโอริ หรือว่าซาร่าจังละ? นากาโอกะไม่นึกถึงซาโกดะเลยสักนิด
“ไม่ใช่ทั้งสองคนนั้นหรอก”
แก..เป็นไรว่ะ ยูกิทำปากพงาบๆ นากาโอกะก็อ้าปากค้าง
พี่ซาโกดะ?!
“ฮารุกะจังฝากบอกด้วยนะว่าแบตเธอหมด แต่ไปศาลเจ้าเสร็จจะรีบกลับเลย เธอไม่ต้องเป็ฯห่วง ไอมิเข้าข้างน้องสาว
“อ๋อ...ขอบใจมากนะ ไอมิแค่นี้ละ” นากาโอกะกดวางสายมือหนาสั่นสะท้าน
“ว่าๆ” ยูกิเซ้าซี้อยากรู้อยากเห็น
“ฮารุกะไปเกียวโต”
แอบไปเที่ยวละสิ เด็กก็งี้แหละแก ยูกิตบไหล่เพื่อน
“กับซาโกดะ”
=[ ]=
ยูกิ!
ห๊ะ”
ไปเกียวโตกัน นากาโอกะรีบวิ่งไปซื้อตั๋วก่อนที่รถไฟไปเกียวโตจะออกจากชานชาลา
“เดี๋ยวสิฮารุกะ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ ซาโกดะวิ่งตามฮารุกะออกมาจากศาลเจ้าเธอรั้งแขนร่างบางเอาไว้ได้ทันก่อนที่อีกคนจะวิ่งลงเนินถนนไป
“พี่ทำแบบนี้ทำไมคะ?ฮารุกะหันมาตามแรงดึงของอีกคน ซาโกดะเลื่อนมือลงไปกุมมือเรียวนั้นไว้ และแปลกใจที่ฮารุกะไม่ดึงมันกลับเหมือนที่เคยชอบทำมาโดยตลอด
ทำแบบนี้เพราะพี่รักเธอ พี่ยังรักเธอมาก...
“ที่เรามาด้วยกันวันนี้ เธอก็คิดแบบเดียวกันกับพี่ใช่ไหม พี่ดูออก"
“หลงตัวเองไปหรือเปล่า ริโอะ ฮารุกะจังเรียกชื่อเล่นของอีกฝ่าย แสดงว่าเธอไม่แบ่งอายุกับซาโกดะแล้วหรือไม่เกรงใจแล้วนั้นเอง
“งั้นก็มาบอกสิ ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับพี่แล้ว”
"คำถามบ้าบอคอแตกแบบนั้น เค้าไม่อยากตอบ"
"ไม่จริงหรอก ที่เธอตอบไม่ได้เพราะเธอเองก็รักพี่เหมือนกัน"
หยุดพูดซักที!! ฮารุกะพูดเสียงดังประหนึ่งว่าตะโกนคุยกันข้ามจังหวัด
"ไม่หยุด! พี่ไม่หยุด! ซาโกดะดึงแขนทั้งสองข้างของร่างบางเข้าหาตัวเธอ
"เธอต้องฟัง ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ฟังที่พี่จะพูด!
ทั้งสองคนเสียงดังพอกัน โชคดีที่ร้านค้าปิดไปมากกว่าครึ่ง นักท่องเที่ยวตามถนนก็แทบจะไม่มี
"จะพูดอะไร ? พี่เสียใจหรือว่าพี่ขอโทษละคะคราวนี้? เค้าไม่อยากฟัง เบื่อจะตาย กับคำซ้ำซากพรรคนั้น !
พี่ไม่ได้ทิ้งเธอ !
"แมวที่ไหนที่ปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียวมาเป็นปี หาริโอะ! ตอบมาเซ่!!
“ฮารุ..กะ"
“อย่าเรียกชื่อฉัน! น้องเล็กโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยิ่งคิดถึงวันที่เธอร้องไห้แทบตายเพราะคิดถึงซาโกดะ ยิ่งกระพือความโกรธให้มากขึ้น
"คิดว่าพี่ไม่เสียใจหรืองัย ที่ต้องไปจากเธอ"
“เสียใจแล้วไปทำไม ทิ้งเค้าไปทำไม,, ฮารุกะร้องไห้ เสียงเธอสั่นเครือ น้ำตารินเปรอะแก้ม ความเข้มแข็งที่มีพังทลายลงไปชั่วพริบตาที่ผ่านมาเธอทุกทรมานแค่ไหนที่ต้องจมกับความคิดว่าเธอทำผิดอะไร ซาโกดะถึงทิ้งเธอไปไม่แยแสเธอสักนิด
"ฮารุกะ ,, เธอรู้ไหม ว่าพี่ป่วยหนักแค่ไหนตลอดสองปีที่ผ่านมา"
"จะไปรู้เรอะ" ฮารุกะพูดทั้งน้ำตา
"งั้นฟังน่ะ พี่อยู่โรงพยาบาลเคโอมาตลอดสองปีที่หายไป ไม่ได้ไปพักร้อนเมืองนอกอย่างที่โค้ชให้ข่าวไปหรอก"
"โกหก! โรงพยาบาลเคโอ เป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กและก็ดังเรื่องมะเร็งนี่ ,, .พี่แอบไปท้องตั้งแต่เมื่อไหร่" เด็กน้อยใช้หลังมือปาดน้ำตา ท่าทีอ่อนลงกว่าเดิม
"คิดว่าพี่เป็นมะเร็งเหอะนะ กราบละ = =
"ผลตรวจผิดพลาด..ผลตรวจว่าพี่มีแนวโน้มเป็นมะเร็งกระดูกข้อเท้าแต่ความจริง เป็นกระดูกกินเส้นเอ็นข้อเท้า
ฮารุกะชงัก เด็กสาวละล้าละลัง ทั้งตกใจทั้งร้องไห้ปนเปกันไปหมด
อย่าบอกน่ะ ว่าพี่จะตาย T T
..ซาโกดะรีบพูดต่อ
ม.. ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่ผ่าตัดนับครั้งไม่ถูก ต้องกายภาพบำบัดอีกสี่เดือนโดยการกลับไปฝึกซ้อมกับทีมโทเรย์ที่บ้านเกิดพี่"
อันนี้ฮารุกะได้ยินข่าวมาบ้างว่าซาโกดะกลับเข้าซ้อมกับทีมสโมสร
แต่ตอนนั้นหัวใจของเธอก็เปิดรับนากาโอกะเกินครึ่งใจไปแล้ว
"เหตุผลที่คิดว่าป่วยแล้วเค้าจะทิ้งพี่หรอ .. เค้ายิ่งจะดูแลพี่ ดูแลคนที่เค้ารัก”
ฮารุกะยังไม่คิดไปไกลถึงระดับทีมที่สปอร์นเซอร์ทั้งหลายสนับสนุนทีมอย่างล้นหลามเพราะมีพี่ซาโอริและพี่ซาโกดะ ดาวเด่นในทีม
"ความลับของวงใน มันซับซ้อนกว่าที่เธอเข้าใจสปอร์นเซอร์รู้เข้าว่าพี่ป่วยหนักขนาดนั้นคงถอนสปอร์นเซอร์กันเกือบครึ่ง,,ที่สำคัญ พี่คงถูกถอดออกจากทีมชาติ,, นั้นหมายถึง ความฝันพี่ต้องจบลงภายในชั่วข้ามคืนเลยนะ โค้ชเสนอว่าห้ามบอกใคร ..พี่ก็ต้องทำตาม"
แววตาวิงวอนขอความเห็นใจของเธอหวังให้ฮารุกะเปิดใจให้อีกครั้ง
"เธอไม่อยากร้องไห้,,ไม่อยากให้ฮารุกะกลับมาเพราะน้ำตาเธอ ..เหตุผลที่ให้ไป คงมากพอให้คนที่ชอบใช้เหตุผลอย่างฮารุกะคิดตึกตรองได้บ้าง ความเหงาที่ฮารุกะมี มันไม่น้อยไปกว่าที่เธอเจอ ..แต่ที่ต่างกัน คือเธอไม่เปิดใจให้ใครนอกจากคนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้
ฮารุกะร้องไห้ไม่หยุด "มันเรื่องบ้าอะไรกันว่ะ"..เด็กสาวไม่ทันเตรียมใจที่ต้องฟังเรื่องเหนือความคาดหมาย
"เป็นเธอ..จะเลือกอะไร ซาโกดะถามแผ่วเบาความฝัน..หรือความรัก
แววตาสื่อสานถึงความจำเป็นจากก้นบึ้งของหัวใจ
"คนอย่างซาโกดะ..จะกล้าทิ้งมิยาชิตะไปได้ไง"คำพูดประจำตัวของซาโกดะก้องกังวานขึ้นในใจ
“พี่เหงา..เหงาจริงๆนะที่ต้องอยู่โดยที่ไม่มีเธอ”
ฮารุกะโถมตัวเข้ากอดซาโกดะ ร่างบางปล่อยน้ำตาให้ไหลรินทะลักทลาย
ฮือ...ฮือออ เสียงแหบแห้งเหือดหายไปหมด
ซาโกดะยิ้มเศร้า กอดปลอบเด็กน้อยแน่น มือสวยลูบผมอีกคนอย่างอ่อนโยน
พี่ขอโทษน่ะ..ยกโทษให้พี่ได้ไหม"
เพียงชั่วขณะฮารุกะคลายอ้อมกอดออกจากอีกคน เธอกระพริบตาถี่ๆ ไหล่หยดน้ำตา
ในใจฮารุกะสับสนจนถึงขีดสุด เธอพาตัวเองมาถึงทางตันแล้ว ความลำบากที่เธอพร่ำบ่นมาตลอด ไม่เท่าที่ซาโกดะต้องใช้เวลาในโรงพยาบาลอย่างเดียวดาย
ความโกรธ..มันจางหายไปจนหมดสิ้น เธอเคยโกรธเพราะไม่เข้าใจซาโกดะ ตอนนี้รู้ถึงเหตุผลของอีกฝ่าย..ด้วยคำไม่กี่คำที่ฮารุกะรอคอย.เธอยอมรับใจตัวเองว่ามันเคยเรียกหาซาโกดะ
แต่ว่า....
ซาโกดะเลิกคิ้วสูงเป็นคำถามทางสายตาอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าฮารุกะ มิยาชิตะคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ในใจเธอว้าวุ่นจนแทบคลุ้มคลั่ง
หากอยู่คนเดียวเธอคงทึ้งผมตัวเองจนยุ่งเหยิงไปแล้ว..ริมฝีปากเรียวสวยขยับพูด
"เค้าให้อภัยพี่..ฮารุกะตีไหล่ซาโกดะเชิงปลอบใจ
น้ำตาน้องเล็กปริ่มขอบตา แต่ดูเหมือนเธอจะจัดการมันได้ในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา
เหมือนฝนตกตอนหน้าแล้ง...หัวใจที่แห้งผากของซาโกดะกำลังได้รับน้ำล่อเลี้ยง
"แต่เราคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว น้องเล็กหลบสายตาของอีกคน
ฝนหน้าแล้งของซาโกดะตกแค่เพียงไม่ถึงสามวินาที ..ฟ้าก็ผ่าลงมา
หมายความว่า..ซาโกดะหมดแรงยืน แขนขาอ่อนแรงจนแทบล้มทั้งยืน
“เพราะตอนนี้ เค้ามีพี่มิยูอยู่ในนี้ ฮารุกะทาบมือที่อกข้างซ้ายของตัวเอง
“ใจของเค้าให้พี่มิยูไปหมดแล้ว” ฮารุกะกัดริมฝีปากหวั่นใจลึกๆ
ซาโกดะยิ้มเศร้าสร้อย แววตาไร้ความหมาย ..
“ไม่อยากยอมรับการตัดสินใจของฮารุกะ ..เธอไม่อยากยอม ..ไม่อยากก..เลย”
“พี่ ข..เข้าใจแล้ว” ซาโกดะพยักหน้่าเศร้าๆ
ฮารุกะยังรู้สึกอึดอัด
“เธอเลือกนากาโอกะเป็นคำตอบสุดท้าย เพราะเธอรักนากาโอกะมากกว่าแต่ที่ยังไม่สบายใจ..
ฮารุกะกระชับมือของรุ่นพี่ืที่ทิ้งสองแขนข้างลำตัวส่งผ่านความอบอุ่นและอ่อนโยนแบบที่เคยทำ
"อย่า..ซาโกดะแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าไม่อยากร้องไห้
"ถึงเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว..แต่ไม่ได้ความว่าฮารุกะเว้นวรรค
"เค้าจะไม่ได้รักพี่นะคะ เค้ายังรักพี่ ..ยังรัก"
คราวนี้ซาโกดะเป็นฝ่ายโถมตัวเข้ากอดร่างบาง
“ขอ..ขอแค่ครั้งนี้..เป็นครั้งสุดท้าย ..ที่พี่จะกอดเธอ พูดจบซาโกดะก็น้ำตาร่วง..ฮารุกะกอดตอบไออุ่นส่งผ่านกันและกัน..ฮารุกะได้พูดสิ่งที่ค้างคาเด็กน้อยยิ้มรับความจริง
"ขอโทษนะคะพี่...ขอโทษ..นะ เค้ายังรักพี่..ในฐานะพี่สาวอยู่เสมอ
95%
“วิ่งเร็วๆ” นากาโอกะเร่งเร้า ยูกิที่หอบแฮ่ก พูดไม่ออก เด็กสาวโบกมือไล่ให้นากาโอกะวิ่งล่วงหน้าไปก่อน
“ถนนสายที่ขึ้นศาลเจ้าชันเกิ๊นน” ยูกิเท้าเข่าหอบหายใจ นากาโอกะหยุดรอ..
“เออ ๆไม่ต้องกดดันทางสายตาหรอกย่ะ”นากาโอกะไม่ยอมวิ่งต่อ คล้ายรอให้ยูกิวิ่งตามมาสมทบ
อดทนหน่อยแก..พ้นเนินนี่ไป ก็เป็นถนนสายชอปปิ้งแหละ ฉันว่า..ถ้าเจอคงอยู่แถวนั้น
นากาโอกะก้มมองนาฬิกา "ศาลเจ้าคงปิดแล้ว"
“มั่นใจว่าจะเจอหรอ” ยูกิหอบหายใจ
“มั่นใจๆ จากวัดน้ำใสมาย่านนี่ก็เกือบ10 นาที เดินอีก5 นาที ไหว้อีก10 นาที เดินกลับลงมาจากศาลเจ้าอีก5 นาที 30 นาทีเท่ากับเรามานี่เลย”
โห ละเอียดยิบ ยูกิ ทึ่ง
เร็วเหอะ แกจะกินเวลาฉันนะ !
“เจอน้องจะทำไงต่ออะ ยูกิวิ่งตามมาติดๆ ใกล้โผล่พ้นเนินถนนที่ลาดชันขึ้นศาลเจ้า
“พากลับไปด้วย แล้วฉันก็จะดุให้เข็ดเลย” พูดไปงั้นแหละ นากาโอกะเรอะจะกล้าแตะต้องกล่องดวงใจของตัวเอง
“เอ๊ะ นั้นงัย ยูกิชี้มือไปฮารุกะที่ยืนคุยกับซาโกดะอยู่ไม่ไกล
มิยูยิ้ม..อ้าปากจะเรียกคนรัก
แต่ก็ต้องกลืนคำพูดกลับลงไปหน้าตาผิดหวังเข้าแทนที่
ยูกิยกมือขึ้นปิดปาก ตกใจไม่แพ้กัน
ซาโกดะสบตามิยู เธอตัดสินใจถาโถมเข้ากอดฮารุกะแนบแน่น ฮารุกะได้แต่กอดปลอบอีกฝ่ายโดยไม่รู้ว่า
นากาโอกะยืนมองด้วยหัวใจแตกสลาย
“แก..” ยูกิกระตุกชายเสื้อเพื่อน
“กลับเหอะ”.นากาโอกะกำหมัดแน่น
เค้าอาจจะหนาวก็ได้มั้งแก ฉันยังอยากกอดแกเลย ยูกิแก้ต่างแทน
“กลับกันเถอะ”นากาโอกะพูดซ้ำคำเดิม
“เอางั้นหรอ”
“ฉันคงไม่จำเป็นกับฮารุกะอีกต่อไปแล้ว...”
100%
**************************************************************************
วางกล่องรองเท้าไว้ให้ปาค่ะ แม่ยกมิยามิยูปามาเลย ไรเตอร์กำลังขาดแคลนรองเท้า อิอิ
ไรเตอร์คนอื่นคงแต่งมิยามิยูฟินๆกันเยอะแล้ว ไรเตอร์บ้านนี้จับทั้ง2คนมาทรมานค่ะ ซาดิส 555
มาอัพครบ100 % แล้วว หวังว่าจะถูกใจกันเนอะ
น้องเล็กเลือกแล้วค่ะ เลือกใครอ่านเอง 5555
ซาโกดะเคมิเข้ากับน้องจริงๆนะ อยากให้ติดทีมชาติมาด้วยกัน อยากเห็นสกินชิพกันออกสื่อ อิอิ
แต่ยังไงไรเตอร์ก็เห็นแววตาน้องเล็กกที่มองมิยูนะคะ นั้นมันมากกว่ารักแล้วละ ฮ่าๆ
ขอบคุณที่เม้นกันนะค้า > < ตอนต่อไปก็เกือบจะเสร็จแล้วละ รอเค้าหน่อยนะ
----------------------------------------------------
ความคิดเห็น