ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OKAYAMA BLOOD

    ลำดับตอนที่ #2 : โรงเรียนของฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 57


     ตอนที่2





                       ฮารุกะสะดุ้งตื่นจากฝันในกลางดึกคืนหนึ่งที่อากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อกาฬไหลอาบหน้า เหมือนวิ่งระยะทางหลายกิโลเมตรตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา มือเล็กจับที่หน้าท้องตัวเอง เหมือนสำรวจบางอย่าง แต่ก็ถอนหายใจโล่ง  ทรวงอกเธอกระเพื่อมถี่แรง ตามด้วยเสียงหอบหายใจ ภาพจำในความฝันติดตรึงในหัวจนกระทั่งเช้าวันใหม่ ฮารุกะลืมตาค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นจนแสงแดดทะลุม่านสีขาวเข้ามาในห้อง

     

    เมื่อเหลือบตามองนาฬิกา ฮารุกะก็คาดว่าน่าจะได้ยินเสียงบ่นของผู้เป็นแม่ ที่ดังมาจากชั้นล่างของบ้าน

     

    “ฮารุกะเสร็จหรือยัง?  มิยูเค้ามารอนานแล้วน้า”

     

    ฮารุกะเร่งสวมเสื้อสูทของโรงเรียนแล้วตอบเหมือนหุ่นยนต์ที่พูดซ้ำๆ ทุกวันในช่วงเวลานี้ว่า

     

    ”ค่ะ”

     

    ยามากุจิ  ไม คุณแม่ยังสาวของฮารุกะ เคยเป็นอดีตพยาบาลฉุกเฉินประจำโรงพยาบาลโอกายาม่า แต่เมื่อคุณพ่อต้องไปทำงานต่างจังหวัดเป็นประจำ และทุกคนก็ลงความเห็นว่าไม่อยากให้ฮารุกะอยู่บ้านตามลำพัง ไม จึงลาออกจากพยาบาลมารับแปลข่าวภาษาอังกฤษให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แถมแม่ยังเป็นพวกหัวสมัยใหม่ แต่งเข้าบ้านพ่อแต่ยังใช้นามสกุลเดิม

     

    ฮารุกะยืนมองตัวเองหน้ากระจกเงาในห้องนอนเรียบๆ ที่ไม่มีของกุ๊กกิ๊กน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วไป  เมื่อแม่ถามเธอมักจะตอบไปว่า “รก” ซึ่งไม่ได้เข้าหูผู้เป็นพ่อเลย เพราะเขามักมีของฝากหวานแหววติดมือมาให้เสมอ

     

    “ผมกระดกอีกแล้ว” ฮารุกะบ่นตัวเอง ปล่อยผมยาวเคลียบ่าเมื่อไหร่เป็นหางเป็ดทุกทีสิน่า แต่เมื่อได้ยินเสียงแม่เรียกซ้ำอีกครั้ง




    “เอาละ ช่างหัวฉันไปก่อน”ฮารุกะจำใจต้องปล่อยผมหางเป็ดนั้นเป็นเรื่องในอดีต เพราะดูท่าแม่จะกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ไม่น้อย

     


    “อรุณสวัสดิ์ ยูเมะจัง” ฮารุกะทักทายแม่เหมือนเพื่อนสนิท อาจเป็นเพราะไมเองยังสาว ฮารุกะเคยถามแม่ว่า ไม่ได้ตั้งใจจะมีเธอใช่ไหม? แม่ถึงยังอายุน้อยขนาดนี้ แต่ก็เจอแม่ดุด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

     


    “แม่ไม่เคยตั้งใจอะไรขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เท่ากับการมีหนู” ประเด็นนี้จึงตกไป

     


    “ยัยขี้เซา” มิยูนั่งหน้าแป้นแล้นอยู่โต๊ะอาหาร ตรงหน้ามีอาหารเช้าที่ยังไม่พร่องเลยสักนิด วางอยู่

     



    “กินข้าวเถอะ” ฮารุกะลากเก้าอี้ออกมานั่งแล้วลงมือกินอาหารตรงหน้าเงียบๆ

     



    “แม่ไม่ดูทีวีหรอ”

     



    “ไม่มีอะไรดูหรอก” ไมตอบเลี่ยงๆ ยังสาละวนกับบางอย่างหน้าเตาไฟ

     



    “แม่..แต่หนู..”

     



    “กินข้าว แล้วรีบไปโรงเรียน” ไมหันมามองเป็นการตัดบทสนทนา มิยูเลิกคิ้วมองสองแม่ลูกด้วยอาการมึนงง

     


    “อิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ น้าไม”


    มิยูพนมมือไหว้ถาดอาหารตามธรรมเนียม ไมยิ้มหวานให้เธอ ส่วนคุณลูกสาวเอาแต่คนน้ำซุปเล่นอยู่อย่างนั้น

     


    “ฮารุกะ ..วันนี้มีสอบภาษานะ ห้ามลืมสมุดโน้ต”

    มิยูว่าพร้อมยกน้ำส้มขึ้นมาจิบ เธอกลายเป็นแขกประจำของบ้านฮารุกะมาตั้งแต่ขึ้นมอปลาย ทั้งที่ต้องนั่งรถไฟย้อนมาถึงสองสถานีเพื่อมาที่บ้านฮารุกะ แต่มิยูก็ยังมาเช้า และสม่ำเสมอจนกระทั่งขึ้นมอปลายปี3

     

    “ตายจริง ฉันลืมเลย”

     


    “เดี๋ยวไปหยิบให้ก็ได้ เธอรีบกินข้าวเร็วเข้า” มิยูอาสาแล้ววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน

     

    ฮารุกะร้องห้ามเอาไว้ไม่ทัน มิยูคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้พอๆ กับบ้านตัวเอง ติดอย่างเดียวที่เธอยังไม่เคยนอนค้างที่นี้สักครั้งก็เท่านั้น

     

     

    “กินผลไม้เสียหน่อยสิ” ไมหันมาสั่งลูกสาว “แล้วก็เร่งมือเข้า แม่ไม่อยากให้มิยูไปเรียนสาย”

     

    “ค่า ค่า” ฮารุกะทำสีหน้าจำยอม แล้วยัดขนมปังเข้าปากชิ้นใหญ่ตามเข้าไปติดๆ

     



    “แม่ชอบเร่งแบบนี้ทุกเช้าเลย” ฮารุกะเตะอากาศเล่นระหว่างเดินไปสถานีรถรางใกล้ๆบ้าน

     


    “เพราะฮารุกะชอบทำอะไรชักช้า”

     


    “เธออยู่ทีมเดียวกับแม่ฉันใช่มั้ย?”

     


    “เปล่าซักหน่อย แต่ฉันพูดความจริงนะ เธอชอบอะไรช้าๆ”

     


    “ช้าๆ มันไม่ดีตรงไหน?"ฮารุกะเสียงแผ่ว

     


    “อ่ะ นั้น  รถรางมาแล้ว” มิยูจูงแขนฮารุกะวิ่งเข้าสถานี ที่รถรางจอดเทียบรออยู่ ถ้าขืนพลาดขบวนนี้มีหวังสายสมใจอยากแน่

     

    “ไปกัน..ไป โอกายาม่า สคูล ออฟ อาร์ท”


    ------

    ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ

    เกิน300เม้นจะมาอัพ ถุย 555 ล้อเล่นค่ะ เดี๋ยวมาต่อนะคะ 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×