ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ((__,, ! ABOUT Korea ::

    ลำดับตอนที่ #94 : [Know.] ราชวงศ์โชซอน...1

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 52


    />

    ราชวงศ์โชซอน

         ราชวงศ์โชซอน (조선 , , ฮันจา: 朝鮮, , MC: Joseon, , MR: Chosŏn) หรือบางครั้งจะรู้จักกันในชื่อ ราชวงศ์ลี เป็นราชวงศ์ที่ปกครองคาบสมุทรเกาหลี และเป็นราชวงศ์ปัจจุบันที่ปกครองเกาหลีในระบอบกษัตริย์หรือระบอบราชวงศ์ โดยผ่านยุคสมัยตั้งแต่เริ่มต้นมีอารยธรรมขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี แตยุคโบราณในสมัยต่างๆมาจนกระทั่งถึงยุคสมัยนี้ ราชวงศ์โชซอน มีอายุกว่า 500 ปี

         ช่วงเวลาที่ราชวงศ์โชซอนปกครองเกาหลีนั้น ได้สร้างการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มั่นคง ส่งเสริมปรัชญาของลัทธิขงจื้อให้ซึมซาบไปในสังคมเกาหลี และรับวัฒนธรรมจีน เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมเกาหลีรุ่งเรือง และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ในช่วงศตวรรษที่16 ราชวงศ์โชซอนอ่อนแอลงด้วยการรุกรานของญี่ปุ่นและแมนจู ทำให้โชซอนเป็นนโยบายปิดประเทศที่แข็งกร้าว อาณาจักรโชซอนจึงเป็นรู้จักของชาวตะวันตกในนาม อาณาจักรฤๅษี (The Hermit Kingdom) เมื่อสิ้นศตวรรษที่ 18 อาณาจักรโชซอนก็เสื่อมลงด้วยการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและการแย่งชิงอำนาจ เผชิญทั้งศึกภายนอกและศึกภายใน ในพ.ศ. 2438 หลังจากที่ญี่ปุ่นชนะสงครามกับจีน ก็ได้บังคับให้โชซอนแยกตัวเป็นเอกราชจากราชวงศ์ชิงในสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ ในพ.ศ. 2440 โชซอนจึงเลื่อนสถานะเป็นจักรวรรดิเกาหลี ที่ไม่เป็นเมืองขึ้นของจีน และจักรวรรดิเกาหลีก็จบลงด้วยการเข้ายึดครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นในพ.ศ. 2453 ตามสนธิสัญญาการเข้ายึดครองเกาหลีของญี่ปุ่น

    ก่อตั้งราชวงศ์

         ราชวงศ์โชซอนก่อตั้งขึ้นโดย นายพลลี ซอเก (태조 Lee Soggye) ขุนพลคนสำคัญแห่งราชวงศ์โครยอ(Koreo Dynasty)ก่อการยึดอำนาจในปี พ.ศ. 1935(ค.ศ. 1392)ขึ้นเป็นพระเจ้าแทโจ ทรงเปลี่ยนชื่อประเทศเสียใหม่เป็นโชซอนและย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ฮันยาง หรือ โซลในปัจจุบัน

         ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1931 แผ่นดินซึ่งปกครองโดยราชวงศ์โคเรียวที่ปกครองเกาหลีมราชบัลลังก์เสีย และให้พระเจ้าคงยาง ครองราชย์เป็นกษัตริย์หุ่นเชิด

         ในพ.ศ. 1935ลี ซอเก ก็ปลดพระเจ้าคงยางและตั้งตนเองเป็นกษัตริย์ราชวงศ์ใหม่ และย้ายเมืองหลวงมาที่ฮันยาง ทำการก่อสร้างและปรับปรุงเมือง จนสร้างพระราชวังเคียงบกเสร็จในพ.ศ. 1938 พระเจ้าแทจงโอรสของพระเจ้าแทโจก็ได้ทรงวางรากฐานการปกครองของอาณาจักรโชซอน ทรงตั้งสภาอึยจอง ให้มีการสำรวจสำมะโนประชากร และสนับสนุนลัทธิขงจื้อให้เป็นที่ยอมรับนับถือเหนือพระพุทธศาสนาซึ่งแต่เดิม มีชาวเกาหลีนับถือกันมาช้านาน พ.ศ. 1944 ราชวงศ์หมิงก็ยอมรับให้ราชวงศ์โชซอนปกครองเกาหลีอย่างเป็นทางการ และเป็นเมืองขึ้นของจีน ต้องส่งบรรณาการ

    สังคมโชซอน

         การแบ่งชนชั้นในสมัยโชซอนมีรากฐานมาจากสังคมในปลายสมัยโคเรียว มีกษัตริย์โชซอนอยู่ที่ยอดพีระมิด รองลงมาเป็นชนชั้นปกครอง คือ พวกขุนนาง ปราชญ์ขงจื้อต่างๆ ชนชั้นของโชซอนเป็น 4 ชั้น

    1.       ยังบัน แปลว่า สองชนชั้น ประกอบด้วย มุนบัน ชนชั้นปราชญ์ คือ ขุนนางฝ่ายบุ๋น และมูบัน ชนชั้นนักรบ คือ ขุนนางฝ่ายบู้ยังบันเป็นชนชั้นที่มีเอกสิทธิ์ในการมีส่วนร่วมในการปกครอง บ้านเมือง ลูกหลานของยังบันเท่านั้นที่มีสิทธิ์สอบควากอ (จอหงวน) ในสมัยต้นโชซอนรายได้ของยังบันคือรายได้จากที่ดินของตนในการทำเกษตรกรรมหรือ ให้เช่า แต่ในสมัยพระเจ้าเซโจกษัตริย์องค์ที่6โอรสของพระเจ้าเซจงมหาราชกษัตริย์ องค์ที่4ได้ยึดที่ดินของยังบันไปเป็นของทางราชการหมด ทำให้ยังบันมีเพียงรายได้จากเบี้ยหวัดจากราชสำนักเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วยังบันจะได้รับการยกเว้นภาษี

    2.       จุงอิน แปลว่า ชนชั้นกลาง เป็นคนกลุ่มที่เป็นลูกจ้างของทางราชการ สอบควากอได้เพียงระดับต่ำ คือ มิได้ไปเป็นขุนนางปกครองบ้านเมืองแต่เป็นคนงานในราชสำนัก อาชีพของจุงอินมีสี่อย่าง คือ ล่ามแปลภาษา นักกฎหมาย แพทย์(ชาย)และโหรหลวง

    3.       ซังมิน คือ สามัญชนทั่วไป คือ ชาวบ้านชาวนาชาวไร่ กรรมกร ชาวประมง ซึ่งจะต้องถูกเก็บภาษีจากโจ(ที่ดิน) โพ(เสื้อผ้า) และยอก(ส่วยแทนการเกณฑ์ทหาร) ซังมินจะต้องรองรับภาษีที่สูงลิบลิ่วเหล่านี้ และบ่อยครั้งที่ไม่พอใจลุกฮือต่อต้านจนทางการต้องเอากำลังมาปราบ

    4.       ชอนมิน คือ ทาส พวกนี้ไม่ใช่คน ทางราชการจะเข้ามาควบคุมชนชั้นนี้เสมือนเป็นสิ่งของชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นสมบัติส่วนบุคคลสามารถซื้อขายกันได้ และทางราชการเองก็มีชอนมินไว้เป็นสมบัติเป็นจำนวนมากเพื่อใช้งานในราชสำนัก ชอนมินที่ไม่ได้มีเจ้าของก็จะประกอบอาชีพที่สังคมดูถูกเช่น คนฆ่าสัตว์ นักแสดงกายกรรม ผู้หญิงก็จะมีสามอาชีพ คือ มูดัง(ร่างทรง) คีแซง(นางโลม) และอึยนยอ(แพทย์หญิง) แต่ควากอขุนนางฝ่ายบู้ก็เปิดโอกาสให้ชอนมินผู้ชายเข้าไปเป็นทหารเช่นกัน

         การแบ่งชนชั้นทางสังคมโชซอนนั้นเข้มงวดมากในต้นสมัยโชซอน แต่หลังจากสงครามกับญี่ปุ่นและการเข้ามาของวัฒนธรรมตะวันตกแล้ว ชนชั้นล่างก็เริ่มที่จะลืมตาอ้าปากได้ขณะที่ชนชั้นบนก็ยากจนขัดสนลง สตรียังบันนั้นจะต้องเชื่อฟังสามี เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านออกนอกบ้านได้นานๆครั้ง เมื่อออกนอกบ้านต้องปกปิดหน้าตา แต่สตรีในระดับชั้นล่างกลับมีอิสรภาพมากกว่า สามารถไปไหนมาไหนก็ได้

    พระเจ้าเซจงมหาราช

    http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/4/4a/Statue_Sejong_le_Grand.jpg

         อาณาจักรโชซอนรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพระเจ้าเซจงมหาราช (พ.ศ. 1961 - พ.ศ. 1993) ทั้งในด้านการปกครองและวัฒนธรรม ทรงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ตั้งอยู่ในคุณธรรมและเห็นแก่ประชาชน พระเจ้าเซจงทรงให้มีการก่อสร้างจิปฮยอนจอน สำนักรวบรวมปราชญ์ขงจื้อเพื่อคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับพระองค์และสร้างนัก ปราชญ์ที่คงแก่เรียนต่อไป สมัยพระเจ้าเซจงมหาราชมีนักประดิษฐ์ชื่อจาง ยองชิล ประดิษฐ์มาตรวัดน้ำฝนอันแรกของโลก และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ เช่น นาฬิกาแดด สมัยพระเจ้าเซจงมหาราชเป็นสมัยแห่งการแผยแพร่ความรู้ตามแบบเกาหลีโบราณใน หลายสาขา เช่น การเกษตร การแพทย์ ดนตรี มีการพิมพ์หนังสือขึ้นหลายเล่ม เกี่ยวกับแขนงวิชาเหล่านี้ และในพ.ศ. 1986 ทรงสั่งให้มีการประดิษฐ์อักษรฮันกึล เป็นอักษรของชาวเกาหลีชุดแรกแทนที่ฮันจา|อักษรจีนที่ใช้เขียนแทนเสียงภาษา เกาหลี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×