คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : {SF} 1999 - Hwang Minhyun/Ha Sungwoon (1/?)
Pairing : Hwang Minhyun / Ha Sungwoon
Rate : G
Note : setting ของเรื่องคือเมืองอะชิยะ ประเทศญี่ปุ่นค่ะ
Ashiya, Japan
1999
— 01—
หน้าร้อนปีนี้ยังคงน่าเบื่อเหมือนดังเช่นทุกปี
อากาศที่ร้อนแผดเผาจนแสบผิว เหงื่อกาฬที่ไหลออกมาจนรู้สึกไม่สบายตัว เสียงร้องของแมลงก็ช่างน่ารำคาญหู เด็กหนุ่มมองดูบรรยากาศรอบตัวพลางทอดถอนใจ
วันหยุดหน้าร้อนสำหรับซองอุนแล้ว แม้จะได้มาต่างประเทศก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่บ้านที่โซลอยู่ดี...
“ซองอุน... ใจคอลูกตั้งใจจะนอนแผ่อยู่ชานบ้านแบบนั้นไม่ขยับตัวไปไหนเลยรึไงกัน ปิดเทอมนี้อุตส่าห์ได้มาเยี่ยมคุณน้าที่ญี่ปุ่นทั้งทีไม่คิดจะไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างหรอลูก”
เสียงคุณแม่ดังลอยแทรกมากับเสียงเพลงภาษาญี่ปุ่นจากคลื่นวิทยุที่เขาสุ่มเปิดเจอโดยไม่ตั้งใจ เจ้าของใบหน้าขาวที่ฝังอยู่ในหนังสือการ์ตูนเล่มใหญ่โดยใช้มันต่างที่บังแดดเข้าตาเปล่งเสียงตอบกลับไปอย่างอิดออด
“ก็มันร้อนนี่…แถมแถวนี้ก็ไม่มีอะไรให้ทำสักหน่อย…”
เด็กหนุ่มพูดไปตามที่คิด พร้อมกับเบือนหน้าออกไปมองทางด้านหลังบ้านของคุณน้าซึ่งเป็นสวนที่มีแต่ต้นบอนไซน้อยใหญ่แล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะหลับตาแล้วพลิกตัวกลับมาทางพัดลมที่เปิดจ่อไว้
นอกจากต้นไม้ใบหญ้าและแมลงแล้วเขายังไม่เห็นว่าที่นี่จะมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจสักอย่าง แสนจะน่าเบื่อ...
การมาเยี่ยมคุณน้าที่ญี่ปุ่นอย่างที่แม่ว่า ก็คือการมาพักอยู่ที่บ้านทรงญี่ปุ่นดั้งเดิมบนเนินเขากลางทุ่งหญ้าห่างจากตัวเมืองออกมาหลายกิโลเมตร ถ้าให้เทียบกันแล้ว อันที่จริงการอยู่กับคุณพ่อที่โซลเหมือนปีก่อนๆ ยังอาจจะเข้าท่าเสียกว่า เพราะอย่างน้อยเขาก็มีเครื่องเล่นวีดีโอเกมส์เป็นสิ่งฆ่าเวลาเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง
“จริงๆ เลยนะลูกคนนี้… ลุกขึ้นมาคุยกับแม่ดีๆ หน่อย”
“ก็มันขี้เกียจนี่นา… ขยับตัวทีก็เหงื่อออกที แม่ดูท้องผมสิมีแต่เหงื่อเต็มไปหมด”
“ซองอุน!! ทำอะไรน่าเกลียด ปิดเสื้อลงไปเดี๋ยวนี้นะ!!”
“เสียงดังทำไมล่ะแม่…ก็มีกันอยู่แค่นี้ ไม่ได้มีคนอื่นสักหน่อ—…”
“หึหึ…”
ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี เด็กหนุ่มก็มีอันต้องกลืนคำเถียงนั้นลงท้องไป เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำลอยเข้ามาในโสตประสาท เสียงของคนอื่นนอกจากแม่ทำเอาร่างขาวดีดตัวผึงขึ้นมาจากพื้นไม้อย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
“เฮ้ย…”
นอกจากแม่ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้กลางบ้านแล้ว ภาพตรงหน้าเขาเวลานี้ยังมีชายหนุ่มผิวขาวตัดกันกับเส้นผมดำขลับเหมือนกับน้ำหมึกเขียนพู่กันเวลาอยู่บนกระดาษ แต่งกายสะอาดสะอ้านในเสื้อเชิ้ตผ้าป่านแขนสั้นสีขาว กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ด้วยกันพลางมองมาทางเขายิ้มๆ
ซองอุนค้างอยู่แบบนั้นชั่วครู่หนึ่งจนกระทั่งได้สติว่าตนเองเผลอทำกิริยาอะไรให้ชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับคุณแม่เห็นไปบ้าง จึงลุกลี้ลุกลนวางหนังสือการ์ตูนในมือลงแล้วจัดแจงดึงเสื้อกล้ามสีขาวที่เลิ่กขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องให้เข้าที่เข้าทาง พร้อมกับลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิหลังตรง
“เพิ่งจะมานึกได้ว่าต้องทำตัวดีๆ หรอเด็กคนนี้..ทีเมื่อกี้ล่ะนอนแผ่เปิดเสื้อซะน่าเกลียด”
“ก็ผมไม่รู้นี่ว่าแม่มีแขกมาหา ทำไมไม่บอกผมก่อนล่ะ…”
“แม่บอกแล้ว แต่ซองอุนเอาแต่นอนอ่านการ์ตูนฟังเพลงไม่สนใจฟังแม่ต่างหาก”
บอกตอนไหน ไม่เห็นจะได้ยิน… ลูกชายวัยรุ่นตั้งท่าจะเถียงคุณแม่ยังสาวไปแบบนั้น แต่ก็พลันต้องล้มเลิกไปเมื่อมีคำถามเรียกความสนใจจากพวกเขาทั้งคู่แทรกมาจากทางแขกผู้มาเยือน…
“น้องชื่อซองอุนหรอครับพี่ซังอา…”
“อ้อ ยังไม่ได้แนะนำให้รู้จักกันเลยนี่เนอะ…”
คุณแม่ทำท่านึกขึ้นได้ก่อนจะหันมากวักมือเรียกเขาให้ลุกไปหา ซองอุนจึงจำต้องย้ายตัวเองจากตรงชานบ้านมานั่งลงตรงข้ามกับแขกที่แลกคำทักทายกับเขาด้วยรอยยิ้มละไม ซึ่งเขาเองก็ยิ้มตอบพลางแอบนึกชมอีกฝ่ายในใจว่านอกจากกิริยาท่าทางที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วแล้ว…ใบหน้านั้นยังเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อรูปงาม
จนมีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมาว่าอย่างน้อยท่ามกลางบรรยากาศและอากาศที่กำลังทำเขาเหี่ยวเฉาแบบนี้ การที่อยู่ๆ ได้เจอกับคนหน้าตาดีระดับนี้ก็นับว่าเจริญหูเจริญตาอยู่ไม่น้อย…
“นี่ซองอุนลูกชายพี่เอง ปีนี้ก็อายุ 17 ปีแล้วจ้ะ”
“ส่วนซองอุน…นี่มิฮารุนะ เป็นน้องชายของสามีคุณน้าซูจินล่ะ พอรู้ว่าเรามาเขาก็เลยเอาขนมมาทักทาย รู้จักกันเอาไว้ซะสิลูก”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะซองอุน... นั่นเป็นวาราบิโมจินะ ชอบทานมั้ย?”
ซองอุนมองตามนิ้วมือได้รูปที่ชี้ไปทางกล่องไม้กล่องใหญ่ห่อกระดาษสาสีฟ้าหน้าตาสวยงามริมโต๊ะ ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักให้… ซึ่งก็เรียกรอยยิ้มจากเจ้าของกล่องของฝากนั้นได้เป็นอย่างดี…
“เป็นน้องของอาราอิซังแบบนี้ก็ต้องเป็นน้าของซองอุนเหมือนกันสินะ… แต่ว่า...มิฮารุก็เพิ่งจะ 25 เองนี่นา ยังหนุ่มอยู่เลย…เรียกน้าจะดูแปลกไปมั้ยนะ...”
คุณแม่ทำท่าคิดนิดหนึ่งถึงคำเรียกที่จะให้เขาใช้เรียกอีกฝ่าย คงเพราะเมื่อเทียบกับสามีของคุณน้าซูจินที่ปีนี้อายุ 35 การจะเรียกคนหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าถึง 10 ปีด้วยสรรพนามเดียวกัน ซองอุนก็รู้สึกว่ามันออกจะแปลกอย่างที่ว่าจริงๆ… และก็เป็นเขาเองที่เสนอขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นผมเรียกว่า ‘พี่มิฮารุ’ ได้มั้ยครับ”
“อืม...แม่ว่าฟังดูเข้าท่ากว่านะ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้แหละเนอะ…พี่มิฮารุ”
“ครับ...”
หลังจากตกลงเรื่องสรรพนามที่ใช้เรียกกันเป็นที่เรียบร้อย ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในวงสนทนาก็ขอตัวออกไปเตรียมของว่างสำหรับน้ำชาตอนบ่ายสาม ห้องโถงกลางบ้านจึงเหลือแค่เพียงพวกเขาที่เพิ่งจะทำความรู้จักกันสองคน
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มให้ชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้าพลางครุ่นคิดหาเรื่องมาชวนคุยเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ แต่แล้วเสียงทุ้มนุ่มจากฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นมาพอดี...
“เห็นพี่ซังอาบอกว่าตั้งแต่มาถึงอะชิยะเมื่อวันก่อน ซองอุนก็ยังไม่ได้ลองออกไปไหนเลยใช่มั้ย? อยู่แต่ในบ้านแบบนี้ไม่เบื่อแย่หรอ?”
“เบื่อสิครับ...แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรดีนี่นา... ที่นี่มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่ทุ่งหญ้าเต็มไปหมด…”
“ฮ่าๆๆ หน้าบูดเชียว… ก็แถวนี้มันบ้านนอกนี่เนอะ… แต่จริงๆ มันก็มีอะไรให้ทำหลายอย่างอยู่นะ อย่างพวกกิจกรรมกลางแจ้งอะไรแบบนี้ ถ้าสนใจเดี๋ยวพี่พาไปเอามั้ย?”
“จริงหรอครับ…”
ดวงตาของซองอุนเบิกโตขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำเสนอของอีกฝ่าย ซึ่งมันคงเป็นประกายชัดเจนเสียจนคนพูดสังเกตเห็นได้ ถึงได้มองหน้าเขาแล้วหลุดหัวเราะออกมาแบบนี้
“อื้ม...ถ้าซองอุนไม่รังเกียจที่จะต้องมีเพื่อนเล่นอายุแก่กว่า 8 ปีล่ะก็นะ”
“ไม่เลยครับ…”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันว่าตกลงเนอะ…”
ดวงตาชั้นเดียวแต่เฉี่ยวคมนั้นประกบกันเป็นเส้นเดียวอีกครั้งเมื่อเจ้าของยกยิ้มกว้างส่งมาให้ พร้อมกับมือขวาที่ยื่นมาให้เขาจับแบบเดียวกับที่ในหนังตะวันตกชอบทำเวลาที่สองฝ่ายตกลงกัน ซึ่งเขาก็ตอบรับด้วยการกระชับมือขวาของตัวเองกลับไป…
“ฝากตัวด้วยแล้วกันนะครับ…พี่มิฮารุ”
บางทีหน้าร้อนปีนี้อาจจะไม่ได้น่าเบื่อเหมือนกับทุกปีก็ได้มั้ง...
— 1999 —
ความคิดเห็น