ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++(The Hidden Code of Love: รหัสลับฉบับรัก)++

    ลำดับตอนที่ #13 : จำ...เฉพาะ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 48


    ช่วงนี้หยุดยาวหน่ำซ้ำ งานก็ยุ่งอีกตะหาก ก็เลยจะอัพช้ากว่าปกติ ซึ่งปกติก็อัพช้าอยู่แล้วอ่ะนะ =_=

    ประกอบกับมีการแก้ไขช่วงต้นๆ ของเรื่องเยอะมาก (อาจจะไม่ได้เอามาลง เพราะคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครตามไปเก็บอ่านเลยขี้เกียจ ^^)

    แต่เรื่องที่ในส่วนที่แก้ไข จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเป็นไปของตอนท้ายของเรื่องแต่อย่างใด

    เพียงแต่มันเป็นส่วนที่ผิดพลาด ซึ่งคนเขียนทำเบลอทิ้งไว้

    ฉะนั้น ถ้าตอนนี้ ใครเห็นจุดผิดพลาดอันใด ก็ช่วยบอกกล่าวกันบ้างน๊ะ



    อ่อ แล้วอัพช้าไม่พอ อัพสั้นด้วยอ่ะ อิอิ ทนๆ กันหน่อยนะจ๊ะ

    thx จ่ะ

    minimink



    ******************************



        

    กุญแจมือที่โยงมือซ้ายของอนาวินไว้กับมือขวาของไอรดา ทำให้การกินข้าวที่แสนจะธรรมดากลับกลายเป็นยากลำบาก ข้าวที่บรรจุในกล่องโฟมถูกตักจนหกเรี่ยราดบนพื้นไม้แคบ



    “ไม่ถนัดเลยอ่ะ” ไอรดาบ่น เพราะตัวเธอเป็นคนที่ประสบปัญหาหนักกว่าอนาวิน ด้วยมือที่ถูกล่ามเป็นข้างที่ถนัด



    “พี่ตัดให้” อนาวินอาสาตัดแบ่งไข่ต้มที่กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในกล่องข้าวของไอรดาอยู่นาน

        

    “ขอบคุณค่ะ”

        

    “ไม่เป็นไร เอาอะไรอีกมั้ย”

        

    “เอ่อ ไม่ต้องแล้วค่ะ ก็ทานพอได้” หญิงสาวว่า พลางใช้มือซ้ายตักข้าวด้วยช้อนพลาสติกงกๆ เงิ่นๆ ในขณะที่มือขวาใช้ยันร่างไม่ให้คู้เอนไปทางอนาวิน...มากไปกว่าที่เป็นอยู่

        

    “มา พี่ป้อนให้ดีกว่า”

        

    “ไม่ต้องๆ แก้มตักเองได้ มันแค่ยังไม่ขิน” ไอรดาปฏิเสธพัลวัน แต่แล้วก็โดนอนาวินตักข้าวมาจ่อรอที่ริมฝีปาก เธอรีบเมินหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง

        

    “เอาเถอะน่า หม่ำๆ”

        

    “หม่ำๆ เนี่ยนะ”

        

    “อือ ก็หม่ำๆ ไง ตอนพี่ป้อนข้าวเราพี่ก็พูดงี้ทุกทีแหละ จำไม่ได้เหรอ”

        

    “นั่นมันประถม!”

        

    “เหมือนกันน่ะ หม่ำๆ เร๊ว“

        

    ไอรดาจนใจกับคำเซ้าซี้ จึงต้องอ้าปากรับข้าวเข้าปาก...ข้าวช้อนที่หวานที่สุดที่เคยกินมา...

        

    หากแต่ในความหวาน มักซ่อนบางอย่างที่ผิดแผกไว้เสมอ...



    ไอรดารู้สึกขมปร่าที่ปลายลิ้น จนต้องเปลี่ยนเรื่องพูดในทันใด

        



    “พี่วินว่า พวกนั้นจะเก็บตัวเราไว้นานแค่ไหนคะ”

        

    “ไม่รู้สิ”

        

    “เฮ้อ…มันต้องการอะไรก็ไม่รู้นะ”

        

    “อื้ม แล้วป่านนี้ ก้อยจะอยู่ไหนก็ไม่รู้ พี่ล่ะกลัวจริงๆ เลย เรามาช่วยแท้ๆ กลับมาถูกจับไว้ซะแบบนี้น่ะ”

        

    “แก้มว่า พี่ก้อยคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราหาทางออกจากที่นี่กันให้ได้ก่อนเถอะ...เอ้อ! พี่วินคะ ตาลุงนั่นไงล่ะ! ถ้าเราตะโกนๆ เค้าจะได้ยินมั้ย หรือว่าถ้าเราหายมานานๆ เค้าอาจมาช่วยเราก็ได้นะ” ไอรดาพูดรัว ดวงตาระยับด้วยความตื่นเต้น

        

    “ลองมั้ยล่ะ”

        

    “ช่วยด้วย....ช่วยด้วย...เราถูกจับอยู่ในนี้ อยู่ในบ้านนน....ช่วยด้วยยยยย” อนาวินและไอรดาพร้อมใจกันตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังนั่น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นเสียงเตะประตูดังโครม พร้อมกับร่างท้วมของชายคนเดิม

        

    “แหกปากอะไรกันวะ”

        

    “ช่วยด้วยๆๆ”

        

    “ถ้าไม่หุบปากล่ะก็ จะจับมัดปากไปทั้งวันเลย!”

        

    “ปล่อยพวกเราไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างงั้นตำรวจจะมาจับแก” ไอรดาขู่

        

    “ไม่ปล่อย ไม่มีตำรวจมาเดินทะเล่อทะล่าแถวนี้หรอก แกใช้ตำรวจปลอบใจตัวเองไปเหอะ แล้วเตือนแล้วนะ ว่าอย่าแหกปาก ถ้ามีอีกทีล่ะก็ไอ้อมมะนาวจนปากเปื่อยแน่” ชายร่างท้วมคาดโทษ ก่อนจะปิดประตูโครม ทิ้งให้อนาวินกับไอรดานั่งกันอยู่ตามลำพังอีกครั้ง

        

    “พี่วินว่า ตาลุงนั่นจะได้ยินมั้ย” ไอรดากระซิบถาม

        

    “น่าจะนะ ตะโกนออกดัง แล้วแกก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง”

        

    “อืม..แต่เค้าจะมาช่วยเรารึป่าวก็ไม่รู้เน๊อะ ใครจะเสี่ยงอันตรายมาช่วยคนที่เพิ่งเจอกันแค่วันเดียว”

        

    “ลุงแกดูไม่ใช่คนแบบนั้นนะ แต่ยังไงก็เถอะ พี่ว่าเราก็คงหวังอะไรมากไม่ได้หรอก ระหว่างนี้ ก็คอยหาทางหนีกันเองด้วยดีกว่า” อนาวินว่า พลางยันตัวขึ้นจากพื้นไม้ ไอรดาจึงต้องลุกตามโดยปริยาย

        

    “เอ๊ะ?”

        

    “อะไรเหรอ”

        

    “มือแก้มน่ะสิ เป็นรอยน่าเกลียดเชียว ก็ว่าตะกี้เท้าแขนไว้ถึงเจ็บๆ”

        

    “ไหนมาดูสิ โดนเสี้ยนบาดรึป่าว” อนาวินคว้ามือหญิงสาวมาดูด้วยความเป็นห่วง

        

    “อื้ม เป็นรอยไม้มั้ง แต่รอยมันแปลกๆ ไงก็ไม่รู้”

        

    “นั่นสิคะ ยึกยือพิกล” ไอรดาว่า พลางถูฝ่ามือตนไปมา

        

    “รอยไม้ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้นี่นะ” อนาวินบ่น ขณะก้มมองหาที่มาของรอยประหลาด

        

    “นี่ไง เป็นรอยขีดๆ อยู่ตรงนี้เอง แก้มเท้ามืออยู่ตรงนี้ใช่มั้ยล่ะ”

        

    “ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ...เอ๊ะ พี่วิน มันเป็นตัวหนังสือนี่!” อนาวินจ้องรอยขีดหยาบๆ บนพื้นไม้ด้วยความพิศวง รอยไม้เล็กๆ นั้นเรียงกันเป็นแถวเพียงไม่กี่แถว ซ้ำยังบางจนแทบสังเกตไม่เห็น

        

    “ก้อยอาจจะเขียนไว้ก็ได้” เขาคาดเดาออกมาดังๆ

        

    “ลองอ่านสิคะ”

        

    “‘จำ...เฉพาะ’ ฉันเก็บซ่อน ความทรงจำ อยู่ภายใน   เก็บอยู่ลึก เกินกว่าใคร จะค้นหา   แต่ความนัย ที่พบได้ ในสายตา   ฉายเฉพาะ เธอมา เป็นภาพรัก...แก้ม...”

        

    “กลอนนี่มัน...” ไอรดาหลุดปากออกมาทันควันเมื่อฟังข้อความที่อนาวินอ่านออกมาช้าๆ หากแต่อนาวินมัวแต่หมกมุ่นกับมันจนไม่ทันได้ยิน

        

    “รึว่าก้อยอยากจะส่งรหัสอะไรให้พี่อีก”

        

    “ไม่ใช่หรอกค่ะ” อนาวินหันมามองหญิงสาวด้วยความฉงน เมื่อได้ยินเสียงที่เด็ดขาดและแสนจะมั่นใจจากเธอ

        

    “ทำไมแก้มถึงคิดอย่างงั้นล่ะ ที่ผ่านๆ มา แก้มยังไม่เห็นอีกเหรอว่า ก้อยพยายามจะส่งข้อความถึงพี่ครั้งแล้วครั้งเล่าน่ะ”

        

    “แต่นี่มัน...”

        

    “พี่งงๆ อยู่แค่ว่า ทำไมก้อยตรงเขียนชื่อแก้มไว้ด้วยนะสิ”

        

    “นี่! พี่วินกำลังสงสัยแก้มอยู่รึไง”

        

    “ไม่...มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น” พอโดนกล่าวหาเช่นนั้น อนาวินก็ถึงกับอึกอักพูดไม่ออก

        

    “พี่หมายถึงว่า...เอ่อ พี่แค่สงสัยเฉยๆ น่ะ”

        

    “นี่มันไม่ใช่ข้อความอะไรถึงพี่วินทั้งนั้นแหละ แก้มว่า พี่ก้อยเขียนเพราะกำลังคิดถึงแก้มตะหาก”

        

    “ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ แต่มันหมายถึงอะไรเหรอ พี่ว่ามันดู...” อนาวินเริ่มอึกอักอีกครั้งเมื่อสังเกตได้ถึงความหมายของข้อความตรงหน้า

        

    “ถ้าพี่วินไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็ดีแล้วค่ะ ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว” หญิงสาวกล่าวด้วยความน้อยใจ น้อยใจทั้งที่เขาไม่รู้หรืออาจแกล้งไม่รู้ว่าบทกลอนนี้หมายถึงอะไร และที่จะน้อยใจยิ่งกว่านั้น ก็เพราะว่า นี่มันเป็นบทกลอนที่เธอแต่งขึ้นมาเอง!

        

    ‘จำ...เฉพาะ’ งั้นเหรอ? ถึงแม้เธอจะไม่เคยตั้งชื่อให้กับกลอนบทนี้ ด้วยว่าเธอเขียนเล่นๆ เพราะอารมณ์พาไป แต่พี่สาวเธอกลับตั้งชื่อให้มันได้ยอกย้อนใจเธอเหลือเกิน

        

    ก็เธอจะจำเฉพาะสิ่งใดเล่า? แล้วเธอจะจำมันไปเพราะอะไร? ถ้าไม่ใช่จำเพียงแต่ช่วงเวลาที่มีเขา เพราะยังรักเขาอยู่ตลอดเวลา!

        

    “ถ้าไม่ใช่รหัส...แล้วอยู่ดีๆ ก้อยจะมาแอบเขียนไว้ตรงนี้ทำไมนะ พี่ว่าแปลกๆ”

        

    “โธ่! พี่วินคะ ก็แก้มบอกแล้วไงว่าไม่ใช่รหัสอะไรนั่นหรอก อย่ายุ่งกับมันมากนักเลย”

        

    “แก้มมาแน่ใจได้ยังไงกัน”

        

    “แก้ม...”



    “เห็นมั้ยว่าแก้มก็ไม่แน่ใจ”



    “ทำไมจะไม่แน่ใจ”



    “ก็แล้วอะไรทำให้แก้มแน่ใจล่ะ”



    “ก็กลอนนี้แก้มเป็นคนแต่งเองนี่!” หญิงสาวกล่าวเสียงดัง น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ด้วยความขัดเคือง



    “แล้วคงไม่ต้องบอกแล้วมังคะ ว่ามันหมายถึงอะไร!”





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×