หล่อนตื่นขึ้นมาด้วยสภาพร่างกายที่ปวดเมื่อยไปทั่ว ตอนนี้ใกล้เช้าแล้วอีกไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น หล่อนมักจะตื่นเวลานี้ปกติ ในตอนนี้สถานะของหล่อนจากสตรีที่ยังโสดบริสุทธิ์กลายเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว มีสามีเป็นตัวเป็นตนนอนอยู่ข้างๆ ผ่านมาได้หลายสัปดาห์กว่าแล้วบัดนี้หล่อนได้ย้ายข้าวของเล็กๆน้อยมาที่ห้องของท่านโทบิรามะ และอยู่ร่วมกันที่นี่
แม้จะไม่ค่อยชินเท่าไหร่นักและยังมีอาการเขินอายบ้าง...เวลาที่หล่อนต้องปรนนิบัติสามี ก็ต้องตื่นก่อนไปทำธุระของตนให้เรียบร้อย เตรียมน้ำล่างหน้าในตอนเช้า จัดเตรียมชุดเสื้อผ้าเอาไว้ในถาด ดูแลเรื่องในครัวเตรียมอาหาร ก่อนวกกลับมาดูว่าท่านชายตื่นรึยัง ถ้าตื่นก็ช่วยแต่งชุดหวีผมแล้วก็ทานข้าวพร้อมกัน
ท่านโทบิรามะไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เขาบอกว่าสิ่งที่หล่อนทำเหมือนการเอาใจเขาทุกวัน...
ช่างมันเถอะหล่อนกำลังทำหน้าที่ศรีภรรยาอยู่นะ! แต่ให้ตายสิวันนี้หล่อนปวดเมื่อยเสียจริงๆ เมื่อคืนถูกท่านโทบิรามะรังแกเสียแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย หล่อนคิดก่อนจะจุดเทียนข้างๆหัวนอน ทำให้ในห้องแสนกว้างนี้สว่างพอมองเห็นทางให้หล่อนเดิน
!
พอจะลุกขึ้นยืนกลับถูกท่านชายคว้าเอวมากอดเอาไว้หลวมๆ หล่อนตกใจเล็กน้อยๆ
"ตื่นแล้วรึเจ้าค่ะ?" หล่อนถามด้วยเสียงเบาๆ มือข้างหนึ่งแตะที่อ้อมแขนแกร่งเบาๆ หล่อนอมยิ้ม ปกติท่านชายรองจะไม่ตื่นตอนนี้ เขาจะตื่นเกือบๆเช้า ใกล้ตอนที่มีแสงพระอาทิตย์ขึ้นมา วันนี้มาแปลก...
ท่านชายไม่ตอบเพียงแต่ว่าชันตัวขึ้นมานั่งกอดหล่อนจากด้านหลังเอาไว้ ฝ่ามือของเขาจับมือของหล่อนจากนั้นก็ถกแขนเสื้อดิโมโนขึ้น สายตาของเขามองไปยังแขนเรียวเล็กของหล่อนที่เต็มไปด้วยรอยขบเม้มฝีมือของเขาเอง...
"ข้ารุนแรงไปหรือไม่...เจ้าเจ็บหรือเปล่า" จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
"ข้ามีความสุข ท่านอย่ากังวลเลย" หล่อนกล่าวแล้วลูบที่ฝ่ามือของเขาอย่างปลอบใจ "ทายาบำรุงครู่เดียวก็หายแล้ว" หล่อนกล่าวและยืนขึ้นหมายจะเดินไปที่ฉากกั้นเพื่อจัดชุดให้เรียบร้อย ส่วนท่านชายรองนั่นล้มตัวนอนต่อ เขาไม่ได้หลับทว่าไม่รู้จะทำอะไร ไว้รอช่วงเวลาเหมาะๆ คงได้มีโอกาสคุยด้วยที่อยากถามให้แน่ใจ
จนกระทั่งหล่อนยกอ่างล้างน้ำพร้อมผ้าเข้ามาเพื่อเข้ามาปรนนิบัติสามีทำหน้าที่ภรรยา ท่านโทบิรามะไม่ได้เอ่ยอะไร เขายอมให้หล่อนใช้ผ้าชุบน้ำค่อยเช็ดๆใบหน้าแสนหล่อเหลาของเขา หล่อนนั้นก็ทำไปด้วยความเกร็งเล็กๆน้อยๆ อาจจะเพราะเขาเอาแต่จับจ้องมาที่หล่อนอย่างเดียว ด้วยสายตาที่...
ช่างมันเถอะหล่อนไม่อยากไปนึกถึงมัน เดี่ยวกิจกรรมยามค่ำคืนจะเปลี่ยนมาเป็นยามใกล้เช้าแทน
"เจ้าไว้ผมยาวมาก ตอนที่เดินทางไม่ลำบากรึ" ท่านโทบิรามะกล่าวมือที่ว่างนั้นสางผมของหล่อนไปด้านหลัง คล้ายกับกำลังจะเล่นสนุก ปกติแล้วในเช้าที่ผ่านมาเขาจะทำเช่นนี้เสมอ หล่อนไม่ถือสาแล้ว...ก็เราเป็นสามีภรรยากันนี่นา...
"ข้าน้อยไม่อยากตัดทิ้งนะเจ้าค่ะ มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกว่ามีชีวิต...ร่างกายของข้าน้อยนะไม่โตไปกว่านี้แล้ว" หล่อนอธิบาย ไม่รู้ว่าจะหลุดผลจากผลของวิชาต้องห้ามตอนไหนกัน...แม้ว่าอยากจะให้มันหายเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่อยากที่จะต้องอยู่กับความเดียวดายไปจนแก่เฒ่าหรอกนะ...
"ถ้าหากข้าตายไปก่อนเจ้าละ..." ท่านโทบิรามะใช้ฝ่ามือลูบใบหน้าของหล่อนเบาๆ
"ข้าจะตายตามท่านไปด้วย" หล่อนกล่าว "อย่าพูดอะไรเช่นนี้เลย ถือว่าข้าน้อยขอร้องเถอะ" ใบหน้านั้นหมองลงไปหหลายส่วนด้วยความเศร้า...
"ข้าก็แค่ฝัน อย่าเศร้าเลยเมียข้า" เขากล่าว ส่วนหล่อนหลับตาลงแล้วถอนหายใจเบาๆ "ข้าพูดไปเรื่อย อย่าเก็บมาคิดเลย เจ้ายิ้มนั้นน่าชมกว่าตั้งเยอะ" เขาเอ่ยปลอบใจหล่อน แน่ละสิท่านชายนะต้องกังวลมากเป็นแน่ กับไอความฝันบ้าๆนั้น เขาไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรมาโดยไม่คิดหรอก...
มันพลอยทำให้หล่อนกังวลไปด้วย...แต่ในเมื่อมันเป็นแค่ความฝัน หล่อนก็จะไม่ขอนำมาใส่ใจให้รู้สึกแย่ ดังนั้นหล่อนจึงผงกหัวอย่างเข้าใจ แล้วว่างเจ้าอ่างน้ำที่เตรียมมาไว้บนตั๊งโต๊ะตัวเตี้ยก่อนจะหันมาสางผมด้วยหวีไม้ชั้นดีเบาๆอย่างไม่รีบร้อนให้ท่านชาย
"ท่านนะเก่งกาจ ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่สิ้นใจไปง่ายๆเสีย...อย่างน้อยก็อยู่ให้ทันเห็นเหลน ไม่ก็หลานสักคน" หล่อนกล่าวกึ่งบ่นเล็กๆน้อยๆ
"ฮืม? หลานเลยรึ เรายังไม่มีเจ้าตัวน้อยเสียหน่อย เจ้าพูดไปไกลจริงๆ" เขายิ้มขำขัน "สงสัยต้องข้ารีบเสียหน่อยแล้ว" เขากล่าวแต่หล่อนไม่ได้รู้สึกร่วมไปด้วยเลย
"ท่านอยากมีเร็วๆรึ?" หล่อนถามไปตรงๆ
"ไม่ใช้สตรีสิบห้าสิบหกก็คลอดบุตรธิดาแล้วรึไง เจ้าสิบเจ็ดแล้วก็ต้องรีบเสีย ช้าเดี๋ยวไม่ทันใช้งาน" เขากล่าวตามความคิด และสิ่งที่เป็นในระแวกนี้ ขนาดสตรีในตระกูลยังเด็กๆก็ถูกจับแต่งงาน มีลูกมีหลานกันเร็วไม่ช้าเหมือนแม่คนหัวอ่อนไม่ประสีประสาหรอก
หล่อน้ำอ้มยิ้ม มีบางเรื่องที่หล่อนเองก็ยังไม่กล้าฟันธงเหมือนกัน...ก็รอบเดือนของหล่อนนะเลยมาตั้งสามวันกว่าๆแล้ว ถ้าหล่อนตั้งครรภ์จริงๆ ก็คงหมายความว่าได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยล่ะนะ...พอลองๆนึกดูแล้ว หล่อนเองก็หาได้ทานของเย็น ไม่ได้มีเรื่องเครียดวิตกจนระดูเลื่อน จะว่าไปเพราะผลของพิษก็ไม่น่าใช่เพราะมันหาได้กระทบเรื่องครรภ์
อีกอย่างร่างกายของหล่อนเริ่มดีขึ้นจนน่าประหลาด เพราะได้ท่านชายโคตรจรพลังจักระช่วยเอาไว้แล้ว ดังนั้นผลของพิษจึงน้อยลงไปแทบไม่หลงเหลือเลย...
นึกแล้วก็เขินอายในตอนที่ตนต้องลงไปแช่ถังไม้ร่วมกับท่านชาย เพื่อผสานจักระช่วยโคจรพลังชีวิตของหล่อน แต่ทว่าไปๆมาๆมันกลับกลายเป็นกิจกรรมของสามีภรรยาเสียได้...
"เจ้ายิ้มอะไรกัน?" ท่านโทบิรามะถาม
"ข้าก็แค่ทบทวนดูนะเจ้าค่ะ...ระดูของข้าน้อยเลื่อนไปสามสี่วันแล้ว ถ้าไม่มีอะรผิดพลาด ก็อย่างที่ท่านเข้าใจ" หล่อนเอ่ยจบและวางหวีลง สองมือนั้นจัดชุดกิโมโนสำหรับวันสบายๆ ของท่านชายให้เรียบร้อย ก่อนจะยกอ่างน้ำกลับไปเก็บโดยที่ทิ้งให้ท่านชายโทบิรามะงงอยู่ผู้เดียว
"เมื่อกี่เจ้าพูดอะไรนะ!" โทบิรามะตะโกนไล่หลังหล่อนมา เสียงของเขาดังมากจนหล่อนต้องรีบๆ เดินหนีเลยทีเดียว ด้วยกลัวว่าสาวใช้นั้นจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น หรือแซวหล่อนให้เขินอายเล่น
. . .
. .
.
แสงอาทิตย์เฉิดฉาด หล่อนก็กลับมาแต่งเนื้อแต่งให้เรียบร้อย เป็นสะใภ้ตระกูลเซ็นจูนั้นต้องสวมกิโมโนลากยาวไปกับพื้น ทรงผมก็ทำม้วยเกล้าเป็นพิเศษหล่อนนั้นก็เลือกทำทรงเดิม เกล้าผมตามกรอบใบหน้าและด้วยผมที่ค่อนข้างยาว หากให้ม้วยเกล้าเยอะๆแล้วละก็มีหวังหล่อนคอหักแน่ๆ จึงจำเป็นต้องรวบมัดเป็นทรงหางม้าแทน ตามด้วยปักปิ่นที่ท่านชายให้มา
ตอนเช้าก็เข้ารับประทานอาหารร่วมกับท่านโทบิรามะ ท่านบุซึมะ ท่านฮาชิรามะและบรรดาเครือญาติหลักๆของเรือนนี้ หน้าที่ที่หล่อนต้องทำก็คือการดูแลเรือนหลักแห่งนี้ กำกับควบคุมดูแลสาวใช้ นอกนั้นก็ตามสะดวกเวลาส่วนใหญ่นั้นก็หมดไปกับสามี และเรื่องยาสมุนไพร คนไข้ ต่างๆนาๆ
ตอนนี้เองหล่อนก็เดินตามท่านชายไปยังลานฝึกวิชา ด้วยไม่มีอะรที่ให้ทำต่อแล้ว
"เมื่อเช้าเจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?" ท่านโทบิรามะถามมือข้างที่โอบประคองหล่อนเอาไว้นั้นเลื่อนมาแตะที่หน้าท้องบริเวณโอบิ สีหน้านั้นดีอกดีใจแลปลาบปลื้มเป็นที่สุด ราวกับว่าคาดหวังบางอย่าง
"ท่านอย่าเพิ่งดีใจไป เดี่ยวจะเก้อเสีย ไว้อีกห้าหกวันข้าถึงจะแน่ชัด" หล่อนกล่าวตามหลักการ ก็รู้ว่าเขานั้นอยากได้ลูก อยากมีหลานให้ท่านบุซึมะหายกังวลใจ...หล่อนเองก็เช่นกัน มันพาลให้หล่อนนึกถึงช่วงเวลากก่อนหน้านั้นสองเดือนก่อนแล้วกระมั้ง
'ต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องมาโคจรจักระให้ข้าแล้ว...เจ้ากล่าวว่าข้าจะอยู่ได้สองสามปีสินะ ข้านะ พอใจแล้ว' ท่านบุซึมะกล่าวขึ้นมาในตอนที่หล่อนหยุดโคจรจักระ...
'ทำไมละเจ้าคะ...นายท่านใหญ่' หล่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกอกตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านบุซึมะจึงบอกให้หล่อนพอกัน ไม่น่ามีอะไรที่ต้องเป็นห่วง...ท่านชายใหญ่ ท่านชายรองหล่อนล้วนรักษาจนหายดีแล้ว 'ถ้าเป็น...!' หล่อนเอ่ยไม่ทันจะจบท่านบุซึมะก็เอ่ยสวนขึ้นมาทันที
'ข้าอยากไปพบกับเมียของข้าแล้ว...ข้าไม่อยากจะให้เจ้าพวกลูกชายมาเจ็บตัวเพื่อข้าไปมากกว่านี้ เจ้าพวกนั้นควรจะขึ้นเป็นเสาหลักของตระกูลได้แล้ว มีข้าอยู่ล้วนรั้งจะสร้างภาระให้เสียเปล่าๆ' เขากล่าว... 'เจ้ารองก็ไม่มีท่าทีว่าจะทำให้ข้าสบายใจเลย เจ้าเองก็ไม่ได้ชอบพอเจ้ารอง...!'
'ข้ายินยอมแต่งกับท่านชายรองเจ้าค่ะ...สุดแล้วแต่ท่านจะตัดสิน' หล่อนกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก
'เจ้าพูดจริงรึ' ท่านบุซึมะถามหล่อนอย่างไม่แน่ใจ
'เจ้าค่ะ...ดังนั้นท่านอย่าเพิ่งจากไปเลย ได้โปรดรอดูหลานของท่านก่อนเถอะเจ้าค่ะ!'หล่อนเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง
หลังจากนั้นท่านบุซึมะก็กล่าวว่า เขาจะเตรียมฤกษ์วันเวลามาสู่ขอหล่อน ไม่สิเรียกว่าเจรจาแต่งงาน แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยที่ว่าท่านชายนั้นชิงลงมือตัดหน้าท่านบุซึมะไปเสียก่อน กลายเป็นวันเข้าวิวาร์สายฟ้าแลบ หล่อนเองก็เพิ่งมารู้ว่า ท่านชายวางแผนคว้าดวงจันทร์มาให้หล่อนตั้งแต่เนินๆ แถมแอบไปตระเตรียมการพิธีเอาไว้ด้วย
พอพบท่านบุซึมะอีกที ท่านก็อมยิ้มเหมือนคนแก่ที่มีความสุขกับลูกหลานของตนเองเสีย...หล่อนคิดเสร็จก็นั่งลงตรงลานฝึกวิชาซึ่งห่างจากบ้านหลักไปไม่มาก ช่วงนี้เองไม่ค่อยมีคนบาดเจ็บ มีเพียงไข้เล็กๆน้อย เรื่องหยูกยาหล่อนก็ดูแลเป็นที่เรียบร้อยในช่วงเช้าไปแล้ว ช่วงบ่ายเช่นนี้ก็ได้แต่นั่งดูท่านชายฝึกวิชาไปพลางๆ หลับบ้าง ทำสมาธิรอไปพลางๆบ้าง
เสียงดาบ คุไนยังคงปะทะกันต่อเนื่อง
วันนี้ท่านชายฝึกวิชากับท่านฮาชิรามะ ท่านชายใหญ่นั้นมีคาถาไม้ที่แข็งแกร่งมาก เห็นว่าช่วงนี้เขากำลังฝึกวิชาเซียนอยู่ ในอนาคตหล่อนอาจมีโอกาสได้เห็นคาถาที่ทรงพลังเป็นแน่... เมื่อมองไปยังสามีของตัวเองแล้ว ท่านโทบิรามะเป็นผู้ที่มีวิชาคาถาน้ำที่แข็งแกร่งที่สุดที่หล่อนเคยเห็น ใช้วิชาโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีแหล่งน้ำเลย กระทั่งวิชาธาตุต่างๆก็สามารถใช้มันออกมาได้รวดเร็วและง่ายดาย...กระทั่งคาถาลวงตานั้นก็ออกจะน่ากลัวๆพอจะผู้ใช้เนตรวงแหวนเสียด้วยซ้ำ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองคนที่ต่อสู้มาตั้งแต่ยังเด็กๆ ถึงสามารถโตขึ้นมาแข็งแกร่งขนาดนี้ หล่อนเข้าใจเลยทีเดียวว่าทำไมพวกตระกูลต่างๆถึงหวาดกลัวทั่งสองคนกัน เฮ้อ...หล่อนลืมตาขึ้นมองทั้งสองซัดคาถาใส่กันไปมา จนกระทั่งพวกเขาหยุดลง และเดินมาทางหล่อน หล่อนเห็นดังนั้นรินชาร้อนๆเตรียมรอเอาไว้เลย
"นี่เจ้าค่ะ" หล่อนกล่าวและยื่นถ้วยน้ำชาให้ท่านชายทั้งสองคน ส่วนตนนั้นช่วงนี้เริ่มรู้สึกเบื่อจึงไม่อยากจิบเท่าไหร่ บางครั้งก็ขยาดไม่ต้องการดื่มน้ำชา พักหลังก็เปลี่ยนไปดื่มน้ำธรรมดาๆแทน
"เหนื่อยหน่อยนะ" ท่านฮาชิรามะกล่าวและหัวเราะ หล่อนเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงเอ่ยเช่นนี้ คงเพราะพักหลังท่านโทบิรามะไม่ค่อยได้แวะเวียนไปหาท่านฮาชิรามะแล้ว ท่านชายใหญ่กล่าวว่าแต่ก่อนพวกเขาเล่นหมากและดื่มสาเกร่วมกันบ่อยๆ พอแต่งงานท่านชายรองก็เอาแต่...อยู่กับหล่อน...
"ท่านพี่!" โทบิรามะเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่
"เจ้านี่ก็ แซวนิดแซวหน่อยก็ไม่ได้" ฮาชิรามะยิ้มหน้าเจื่อนๆ "แต่ข้ามีเรื่องที่ติดใจเจ้าอยู่เรื่องหนึ่ง" ท่านฮาชิรามีสีหน้าที่ซีเรียสขึ้นมาทันที
"เรื่องอันใดหรือเจ้าค่ะ?" หล่อนกล่าวถามจะได้ตอบให้หายข้องใจ
"วิชาที่เจ้าใช้ตอนนั้น จู่ๆเจ้าก็หายไปเลยต่อหน้าต่อตาพวกข้า ตอนที่พวกอุจิวะบุกบ้าน" ฮาชิรามะกล่าวเขามองที่หล่อนด้วยท่าทีจริงจัง
วิชาก้าวพริบตานะหรือ? ไอวิชาที่หล่อนตั้งชื่อออกมาเรียกแบบไม่เป็นทางการ?
"คงเป็นวิชานี้กระมั้งเจ้าค่ะ" หล่อนตอบก่อนประสานอินและก้าวเท้าหายตัวไปโผล่ที่ลานกว้างแทน พอหมุนตัวก็มานั่งอยู่ในที่เดิม
"วิชาประจำตระกูลรึ?" ท่านโทบิรามะถามหล่อน หล่อนเงียบลงไป...นึงถึงพี่ชายซึ่งเป็นผู้ค้นพบวิชานี้และถ่ายทอดมันให้หล่อนเอาไว้ มันเป็นวิชาที่เรียนยากและสามารถกำจัดศัตรูได้ในพริบตาเดียว กระทั่งเอาไว้หนีก็ยังทำได้เลย...
"พี่ชายของข้าเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ที่บ้านของข้าน้อยน่ะ เราต้องฝึกวิชาธาตุสวรรค์ดังนั้นจักระของเราจึงออกมาจากร่างกาย และดูดซึมผสานกับจักระของธรรมชาติ เวลาเดินแต่ละก้าวจึงทิ้งรอยจักระเอาไว้เสมอ หลักการก็คือกลับไปยังรอยจักระที่ทิ้งเอาไว้" หล่อนกล่าวอธิบายสั้นๆ สรปให้ชัดเจนทีเดียว
"...ท่านพี่ของข้าน้อยกล่าวว่า มันจะกลายเป็นหลักในการใช้วิชาอื่นๆ เสียดายข้าน้อยไม่ถนัดวิชาสายนี้ ก็เลยไม่ได้เอาไปพัฒนา หรือสร้างอะไรออกมา" หล่อนกล่าวน้ำเสียงเศร้าๆ เพราะเอาแต่เดินหาทางแก้คำสาปก็เลย...
"ใช้กับสิ่งของได้หรือไม่ วิชานี้?" ท่านโทบิรามะถามหล่อนที่กำลังใช้ผ้าซับเหงื่อให้ตนอยู่ หล่อนคิด
"ข้าน้อยไม่รู้เจ้าค่ะ ท่านลองดูสิ" หล่อนเอ่ยและเก็บผ้าเช็ดหน้าคาดไว้ที่โอบิ แล้วมองสามีของตนที่มองคุไนอยู่นานสองนาน เขาทำอะไรบางอย่างกับคุไนจนมันมีอักขระขึ้นมา พอหล่อนมองดูแล้วก็พบว่ามันฝั่งจักระเอาไว้ด้วย จนกระทั่งท่านชายปามันไปข้างหน้า
เอ๊ะ!
ท่านโทบิรามะกลับไปโผล่ที่คุไนนั้นทันที ให้ตายสิ หล่อนพึ่งอธิบายไปเองนะ ทำไมท่านจึงประยุกต์ใช้ออกมาได้ง่ายเสียขนาดนี้ละเจ้าคะ หล่อนบ่นในใจ ดวงตานั้นมองไปที่สามีของตนเองด้วยความตกตะลึง...
ถ้าท่านฮาชิรามะคือเทพแห่งนินจา ผู้ใช้คาถาไม้ที่ทรงพลัง ท่านโทบิรามะก็คือที่สุดของที่สุดแห่งยอดนินจาอัจฉริยะ ด้านการค้นพบคาถาแล้วกระมั้ง...
เอ๋!!?
ทำไมท่านชายมาโผล่นั่งที่ข้างๆหล่อนกัน พอมองที่หัวไหล่ก็พบว่าบนเนื้อผ้านั้นมีรอยอักขระฝั่งเอาไว้ที่แขนเสื้อของหล่อน อย่างนี้นี่เอง...เพราะไม่สามารถใช้จักระที่ทิ้งไว้แบบหล่อนได้เลยเปลี่ยนเป็นทิ้งรอยอักขระไว้สินะ อ้างอิงโดยหลักการคล้ายๆกัน
"จะใช้จริง มันคงต้องฝึกอีกเยอะเลยกระมั้ง" ท่านโทบิรามะเขยิบเข้ามาใกล้หล่อน เขาเอ่ยกึ่งบ่นเล็กๆน้อย แต่หล่อนว่าฝึกไม่นานท่านก็คงเชี่ยวชาญแล้วกระมั้ง...
"เร็วกว่าสายฟ้าจริงๆ เจ้ารองนี่ฉลาดไม่เบาเลย" ท่านฮาชิรามะเอ่ยขึ้นมาด้วยความชื่นชม
"เจ้าไม่ได้ตั้งชื่อวิชานี้ใช่หรือไม่?" ท่านโทบิรามะกล่าวถามหล่อน แน่ละสิหล่อนไม่สมควรเป็นผู้ตั้งมันนี่นา แถมชื่อที่ตั้งก็ออกจะ...ช่างมันเถอะ
"เมื่อครู่ท่านคิดวิชาขึ้นมา ท่านก็ตั้งสิเจ้าค่ะ...เทพอัสนี คาถาเทพอัสนีเป็นอย่างไร" หล่อนเอ่ยและแอบเสนอความคิดเห็นไปด้วย อย่างน้อยก็ดีกว่าก้าวพริบตาอุปโลกน์ของหล่อนที่คิดขึ้นมั่วๆ
"ตามนั้นก็แล้วกัน" ท่านโทบิรามะเห็นด้วยเขาจิบชาที่ค้างเอาไว้อละเริ่มผ่อนคลายอิริยาบทของตัวเองเช่นเดียวกับท่านชายฮาชิรามะที่นั่งอยู่ข้างๆ
อันที่จริงหากท่านโทบิราะไม่เอาแต่ฝึกคาถาน้ำจนแข็งแกร่ง ปานฉะนี้คาถาอื่นๆก็คงมีมากมายให้เลือกใช้ คงเพราะต้องสู้รบกับตระกูลอุจิวะซึ่งเชี่ยวชาญคาถาไฟบ่อยๆ ก็เลยแข็งแกร่งด้านคาถาน้ำสินะ...ท่านนี่ไม่ถูกกับตระกูลอุจิวะจริงๆเลย
พลอยทำให้หล่อนนึกถึงคาถาต้นตำรับของตระกูลเลยจริงๆ...พลอยนึกไปจนถึงคาถาโบราณต่างๆที่มีอยู่ในคัมภีร์ของตระกูลหล่อน หรือหลักการใช้คาถาที่ถูกรวบรวมไว้ทั้งหมดเลย หล่อนควรอัญเชิญขึ้นมาเก็บเอาไว้ไหมนะ...?
"ว่าแต่เห็นช่วงเช้าพวกเจ้าสองคนดูมีความสุขแปลก มีเรื่องอะไรงั้นหรือ? โวยวายเสียดังกันแต่เช้าเลย" ท่านชายฮาชิรามะกล่าวขึ้นมาหลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก เราทั้งสองไม่ตอบ...ได้แต่นั่งอมยิ้มไม่รู้ว่าจะเชื่อได้รึเปล่า แต่ช่วงเช้าเรากำลังเถียงกันด้วยเรื่องที่ว่า หล่อนตั้งครรภ์หรือไม่ได้ตั้งครรภ์ต่างหาก
"อีกสามวันอาจจะมีข่าวดีนะเจ้าค่ะ" หล่อนกล่าวไม่กล้าฟันธงเท่าไหร่
แต่สามีของหล่อนนะสิ!
"เตรียมของขวัญรับหลานไว้เลยเถอะ ท่านพี่" ท่านโทบิรามะเอ่ยและลูบที่หน้าท้องของหล่อน
"เอ๋...เดียวก่อนนะ...เจ้ากำลัง..." ท่านฮาชิรามะตกใจเล็กน้อย สายตาของเขาตกตะลึงทันทีที่ได้ฟังคำพูดของท่านโทบิรามะที่ดูมั่นอกมั่นใจเสีย
"ข้ายังไม่แน่ใจเสียหน่อย ท่านอย่าเพิ่งเอ่ยแบบนั้นสิเจ้าค่ะ" หล่อนเอ่ยและตีแขนท่านชายเบาๆ ถ้าเกิดแค่รอบระดูเลื่อนท่านอาจจะหน้าเสียเอาได้นะเจ้าค่ะ พ่อสามีเอ๋ย!
"เจ้าก็พูดออกมาได้ เราสองคนออกจะทำบ่อยเสียขนาดนั้น ข้ามั่นใจ เจ้าคอยดูเถอะ" ท่านชายโทบิรามะเอ่ยอย่างถือดี เราแต่งกันเพียงแต่สองสามสัปดาห์กว่าๆ เรื่องอันใดจะเร็วปานนั้นกัน หล่อนคิดเรื่องระดูนั้นละเอียดอ่อน อาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้มันเลื่อนไป บางทีอาจจะมากกว่าที่หล่อนทบทวนก็ได้...
หล่อนคิดไม่นานก็ตั้งใจว่าจะยกถาดน้ำชาไปเปลี่ยนที่เรือนด้านข้างเสียหน่อย น้ำชาตอนนี้เริ่มจืดชืดเสียแล้วหลังจากที่คุยกันมานาน ใกล้เที่ยงแล้วคงต้องหาขนมอะไรมารองท้องท่านชายทั้งสองก่อน หาไม่ก็เตรียมมือเที่ยงไปเสียเลย
"ประเดี๋ยวจะกลับมาพร้อมข้าวเที่ยงนะเจ้าค่ะ ขอตัวแวะไปเตรียมมือกลางวันก่อน ท่านทั้งสองรอข้าน้อยสักครู่นะเจ้าคะ" หล่อนกล่าวก่อนจะเขยิบตัวถอยออกมาแล้วยืดตัวขึ้ยมาพร้อมยกถาดน้ำชามาขึ้นถือเอาไว้ ตอนนี้ชายกิโมโนที่ยาวนั้นถถูกรวบขึ้นมัดด้วยโอบิสองเส้น ไม่ต้องห่วงว่าจะเดินไม่ถนัดเลย
"อ่า" ท่านโทบิรามะขานรับ เขาหันมามองหล่อนและลุกขึ้นค่อยๆประคองให้ทรงตัวขึ้นมาอย่างเป็นห่วงตามปกติ พอเห็นว่าดูไม่เป็นอะไรเขาจึงวางใจ
!
"โทบิรามะ!" เสียงของท่านฮาชิรามะเอ่ยเรียกผู้เป็นน้อง หล่อนได้ยินแต่ทว่ากลับรู้สึกแปลกๆ รู้สึกเวียนหัวอย่างไรก็ไม่รู้
"ฮิสึงิ!" เสียงของท่านโทบิรามะเรียกหล่อน โดยที่ทางเดินชานเรือนของบ้านรอง เริ่มบิดเบี้ยว...เกิดอะไรขึ้นกัน?
แปลกๆ ที่ตอนนี้ตนเองรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง จนกระทั่งทัศนียภาพตรงหน้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมัว หล่อนไม่ได้ยินเสียงอะไรเท่าไหร่นัก ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตน และรู้สึกเหมือนถูกอุ้มขึ้น เปลือกตาเริ่มปิดลงคล้ายคนที่อ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง และง่วงหลับลงไปในที่สุด...
...
แสงเทียน? ร่างของหล่อนเริ่มขยับหมายจะชันตัวขึ้นมามองไปรอบๆ สถานที่ที่ตนนอนอยู่ตอนนี้ ทว่ากลับถูกผลักนอนลงกลับไปเหมือนเดิมด้วยฝีมือของชายตรงหน้า สามีของหล่อนเอง...หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไม มองกวาดสายตาในมุมของที่ตนกำลังนอนอยู่นั้นก็พบว่าตอนนี้อยู่ในห้องของท่านชาย
โอ๊ย!
หล่อนถูกเขกหัวเบาๆโดยผู้เป็นสามี หล่อนได้แต่มึนงงว่าทำไม ไม่เข้าใจว่าเหตุใดสีหน้าของท่านชายต้องดูโมโหหล่อนด้วยกัน เหตุใดสายตานั้นต้องจ้องมาด้วยสายตาที่ดุๆนั้นด้วย
"เมียข้าเจ้าช่างดื้อรั้นเสียจริง ดึงดันจะเถียงข้า" เขากล่าวออกมาเบาๆ ทว่าสีหน้าของผู้เป็นสามีกลับดำมืด
"อะไรเจ้าคะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" หล่อนรีบกระวีกระวาดเอ่ยถาม
"ตอนเช้าข้าจะพาเจ้าไปตรวจกับหมอประจำตระกูล เจ้าก็ไม่ไป เจ้าบอกว่าเจ้าเชื่อในฝีมือของตนเอง บอกให้รอไปอีกสักสองสามวัน เมื่อเที่ยงเจ้าเป็นลมไปนานมากข้าเป็นห่วง ข้าจึงไปเชิญหมอมาตรวจหลายต่อหลายคน ทุกคนต่างบอกว่าเจ้าตั้งครรภ์" พอกล่าวจบสีหน้าของท่านโทบิรามะก็เปลี่ยนไปเป็นความยินดี
หล่อนตั้งครรภ์?
"..." หล่อนเงียบและคลี่ยิ้มด้วยความรู้สึกแสนปลื้มปิติ
"ต่อไปต้องระวังนะ...เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว" ท่านชายกล่าวและประคองหล่อนขึ้นมาช้าๆ ไม่ให้หล่อนรีบร้อนเหมือนเมื่อครู่ "ถนอมตัวเองเพื่อลูกด้วย...เพื่อข้าด้วย..." กล่าวจบก็จูบหล่อนเบาๆด้วยความนุ่มนวล ไม่หนักหน่วงหรือเต็มไปด้วยความหิวกระหาย
"ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ทำให้ท่านห่วง...แต่...ลูกคนนี้ข้าขอเป็นคนตั้งชื่อนะ" หล่อนเอ่ยขอ ไม่รู้ว่าใช่เรื่องจริงหรือไม่ ทว่าเรื่องนี้นับเป็นความใฝ่ฝันของหล่อนเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นจริง...ต่อไปรอบตัวของหล่อนคงมีแต่เสียงหัวเราะกระมั้ง
"ได้เสียที่ไหน ข้าเป็นพ่อนะ พ่อต้องเป็นคนตั้งสิ" ท่านโทบิรามะกล่าวสีหน้าเอือมระอา "เจ้านี่ก็กระไร...ไม่ดีใจรึ?"
"ข้าดีใจสิ ดีใจมากๆเลย.." หล่อนยิ้มอีกครั้งดวงตาเป็นประกายด้วยคาวมดีใจจนปกปิดไม่ผิด ในใจนึกคิดนี่คงเป็นผลซึ่งเกิดจากความรักของเรา เด็กคนนี้หล่อนจะรักให้ไม่น้อยกว่าผู้เป็นพ่อของเขาเลย...เราสองคนจูบกันอีกครั้ง ครั้งนี้นับว่าเป็นจูบที่งดงาม
หล่อนคงเก็บมันเอาไว้ในความทรงจำไม่ให้มันหายไปแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว...
นับเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น
เป็นความรักของเรา...
จบตอน
1 คอมเม้นท์ = 100 กำลังใจ รักกันชอบกันช่วยให้กำลังใจไรต์ด้วยนะคะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ปล.หลานของรุ่น1กับ2คงเป็นคู่หูที่เข้าขากันได้ดีเลยล่ะ
ท่านโทบิรามะนี่ช่างโม้จริงเลย
อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ ไม่อยากให้มีเรื่องร้ายๆ พรากสองคนไปอีกแล้ว
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
โห้วว เล่นผีผ้าห่มกันหนักเลยนะท่านโทบิรามะ ท่านฮิสึงิ
แล้วก็....แหม๋....แซวมาได้นะท่านฮาชิรามะ
จากนั้นก็ แหม่!! ท่านชายรอง
ต่อด้วย น่าน!! ถ้าไม่ท้องละน่าดู
สุดท้ายท่านฮิสึงิท้อง เย้!!!
ดีงามเลยไรท์ ติดฟิคเรื่องนี้มาก อ่านซ้ำไปวันละรอบๆ งื้อออ มาต่อเร็วๆนะ เค้าติดตามตลอดเลย
สู้ๆค่ะไรท์ แต่งต่อไป!!