บทย้อนความตอนที่ ๓ / ๓
ต่อ
หลังจากที่ได้คุยกันมาสักพักแล้วกับท่านเสนาบดี เมื่อเขาลากลับจวนไปนางก็จิบชาที่เหลืออยู่ในจอกอย่างช้าๆ ในใจนึกถึงคำว่า 'สะใภ้ตระกูลต้านไถ' ทั้งยังขบคิดไปมา สำหรับนางในตอนนี้แล้ว อายุอานามถือว่าสมควรที่จะออกเรือนตบแต่งเข้าบ้านสามี แต่ที่ไหนเล่า? จะมีคุณชายบ้านใดมาสนใจนาง...
แล้วนางก็ไม่ได้สนใจคนพวกนั้นด้วย
'สรุปแล้วเจ้าจะมาร่วมเดินชมงานกับข้าหรือไม่'
'เอาสิ'
นางตอบรับคำขอของเขาไปแล้ว อีกสองวันได้กระมั้งที่ต้องไปร่วมงานกับเขา หัวใจน้อยๆของนางก็ตื่นเต้นแปลกๆ ทั้งๆที่นางไม่เหมือนสตรีทั่วไป ผู้คนต่างกล่าวขานว่านางเป็นโรคประหลาดทางใจที่ไร้วิธีรักษา... แต่เขากลับเอาแต่ค่อยเกี้ยวนาง ตามขอให้นางยอมใจอ่อน ไปเป็นฮูหยินเอกของเขา
แต่ว่า...
เขาเป็นถึงเสนาบดีคู่พระทัยเคียงบ่าเคียงไหล่องค์จักรพรรดิ...จะตบแต่งกับนางทำไม...เพื่อทรัพย์สินเงินทอง...คงไม่ใช่ สกุลต้านไถนับว่าร่ำรวย เพื่อเชื่อเสียงก็คงไม่เพราะสกุลต้านไถนั้นเชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว แต่...ความรัก..ก็คงไม่ได้รู้สึกง่ายดายปานนั้น
!
"ท่านพี่ เจ้าเสนาบดีนั้นมาอีกแล้วอย่างนั้นหรือ" เสียงของหรงเฉินเอ่ยขึ้นไล่หลังของนางมา ดังนั้นนางจึงหยิบจอกชาเพิ่ม แล้วค่อยๆรินชาจอกใหม่ต้อนเจ้าน้องหรงเฉิน
"อ่า.." นางหลับตาลงพยายามสลัดความคิดอันแสนสับสนนี่ออกไปจากหัวสมอง
"ท่านพี่ข้ามีเรื่องจะปรึกษา" หรงเฉินกล่าวออกมาพลางนั่งลงตรงที่ๆ ฮุ่ยเหยียนนั่งเมื่อครู่ เขาหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาวางตรงหน้านาง สองสามวันมานี้ เขาเริ่มดูแลกิจการร้านค้าทั่วหัวเมือง คงมีเรื่องที่สงสัยหรือมีปัญหาเป็นแน่ ตอนนี้จึงมาขอคำปรึกษาจากนาง แต่ดูๆ ไปแล้วคงเป็นเรื่องเล็กน้อยเสียมากกว่า ดังนั้นนางจึงรับฟังไป พลางจิบชาไปตอนที่หรงเฉินเอ่ยเล่าไปพลางๆ
ฟังเสียงนกน้อยขับขาน...
ชุ่มช่ำกับสายลมเย็นๆ...
"ท่านพี่คิดว่าอย่างไรบ้าง..."
?
"ข้าว่าเป็นวิธีการที่ดีเลยทีเดียว แต่แผนการนี้จะดีหรือไม่ เจ้าคงต้องทดสอบด้วยตัวเอง" นางกล่าวออกไป บางครั้งก็ต้องให้เขาฝึกหัดด้วยตัวเองบ้าง แต่ใช่ว่านางจะไม่สนับสนุนเขา สิ่งที่นางทำก็คือคอยดูแอบดูแลอย่างลับๆ ก็พอ
"ข้าถามตรงๆ เถอะท่านพี่...ท่านชอบเจ้าเสนานั้นใช่หรือไม่?"
กึก!
นางชะงักไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาคู่งามมองผิวของน้ำชา สูดเอากลิ่นหอมอ่อน สบายๆ เข้าไป ในใจไม่ได้คิดสิ่งใด แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี มันเป็นความรู้สึกที่แปลกกระมั้ง...นางเองก็ไม่รู้ เป็นความรู้สึกดีๆ ที่นางไม่กล้าตอบรับ นางเหลือเวลาไม่นานแล้ว...ไม่อยากรักใครให้เสียดายหรอก
"พี่ไม่รู้" คำตอบนี้ละมั่งที่ใกล้ที่สุด สักพักนางก็ไอเล็กน้อย นางใช้เพียงแขนยาวๆ เสื้อปิดบังเอาไว้ หรงเฉินมองนางด้วยสีหน้าที่ดูกังวล ดวงตาราวกับกำลังนึกคิดเรื่องบางเรื่อง
"...อาการป่วยของท่านรุ่นแรงขึ้นมากว่าแต่ก่อนสินะ ข้าแอบไปถามท่านหมอแล้ว จริงหรือที่ท่านจะอยู่ได้อีกไม่นาน" จู่ๆ น้ำเสียงของหรงเฉินดูเคร่งเครียดมากขึ้น "เหตุใดท่านจึงปิดข้ากัน?" สีหน้าของเขาดูไม่พอใจแลผิดหวัง ทว่านัยน์ตากลับมีร่องรอยของความโศกเศร้า
"ข้าไม่อยากให้เจ้ากังวล...ในตอนที่เจ้ากำลังมีความสุขกับการเรียน" นางเอ่ยออกมาอย่างยอมรับ ดวงตามองไปยังท้องฟ้า ดูเหม่อลอยทว่าแววตากลับแฝงได้วยความพอใจ ความยินดีที่นางจะเป็นเช่นนี้ "น้องข้า เจ้าเป็นประมุขน้อยตระกูลจาง พี่จะให้เจ้ามามัวกังวลได้อย่างไร ตัวพี่หากไม่ป่วยอย่างไรก็ต้องไม่ได้อยู่ข้างๆ เจ้าทุกวันหรอก ต้องออกเรือน ตบแต่งกับบุรุษสักคน...ในสักวันเจ้าจะต้องยืนหยัดตัวคนเดียวให้ได้..ดังนั้น...อย่ากังวลกับเรื่องของพี่เลย"
"นี้ก็เป็นอีกสาเหตุ...ที่ท่านไม่ตอบรับท่านเสนาบดีเป็นเพราะเรื่องนี้ใช้หรือไม่" เจ้าน้องชายกล่าวอีก
นางไม่รู้หรอกว่าใช่รึเปล่า...
หนึ่งปี สองปี
เวลาพวกนี้จะหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ชีวิตของนางค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ เหลือเพียงความทรงจำที่งดงามในหัวใจของผู้คน นางเชื่อว่าฮุ่ยเหยียน ท่านเสนาบดรผู้นั้นก็คงต้องจดจำนางได้แน่นอน เขาคงจะไม่ลืมนางหรอก...มันเป็นมิตรภาพที่แสนวิเศษ ระหว่างนางกับเขามาเกือบปีได้ ถึงจะหงุดหงิดในบางครั้งที่เขาตามตื้ออยู่แต่กับนาง ทว่าก็ไม่อาจปฎิเสธได้สักนิดเลย ว่านางเองก็มีใจให้เขาเช่นกัน
ความรักอย่างนั้นหรือ...
หากใช่นางก็ขอเก็บไว้เพียงฝ่ายเดียวก็พอแล้วละ...
...ติดตามตอนต่อไป...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ท่านเสนาดูแลนางดีๆนะ