ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรือนของเหล่าoc

    ลำดับตอนที่ #1 : Naoki Seijitsu [ลำนำแห่งแสงหิ่งห้อย : The Sixth Sense]

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 61


    APPLICATION

     

    "เช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นซะ!! ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน แต่ถ้าคิดได้แค่จะให้คนอื่นปกป้อง มันก็ไม่ต่างอะไรกับตัวถ่วงหรอก!!!!!!!!!!"

     

    บท :: กรรณรับเสียงร้องทุกข์

    ชื่อ - สกุล :: นาโอกิ เซย์จิสึ     (Naoki Seijitsu)

    ชื่อเล่น :: เซย์จิ     (Seiji)

    ความหมาย :: นาโอกิ แปลว่า เที่ยงตรง,เซย์จิสึ แปลว่า จริงใจ

    อายุ :: 24 ปี

    สัญชาติ :: ญี่ปุ่น

    รูปร่างลักษณะ :: สูง 171 ซม. หนัก 56 กก. หน้ารูปไข่ มีไฝอยู่ต่ำกว่าตาซ้ายประมาณ 1 นิ้ว ตำแหน่งขอไฝเยื้องไปตรงหางตา ดวงตาสีอำพันเรียวคมดูดุๆ หางตาชี้ขึ้น มุมปากโค้งลงเล็กน้อย ผิวขาว(ไม่ถึงกับซีด) ผมสีดำยาวถึงกลางหลังหยักลอนนิดหน่อย ไซส์หน้าอกคัพ C เป็นคนขายาวและมีหุ่นอยู่ในระดับสมส่วนแต่เพราะชอบใส่เสื้อหลวมๆกับแจ็กเก็ตตัวใหญ่ทำให้หุ่นโดนบังซะมิด

    ลักษณะนิสัย :: ห้าวและหัวดื้อเป็นที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ยอมฟังใครเลย มีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูงดังนั้นการทำอะไรแล้วเกิดการผิดพลาดขึ้นมาจะทำให้รู้สึกเฟลมากเป็นพิเศษ พูดจาขวานผ่าซากมากถึงขั้นMAXจนไปกระทบจิตใจคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหางว่าเผลอไปพูดจี้จุดใครเข้าก็จะเกิดอาการคิดมากเพราะกลัวว่าจะโดนเกลียด(ถึงจะขอโทษแล้วก็เถอะ) เซย์จิมีความกล้าที่จะขอโทษถ้าตัวเองทำผิดและเธอก็นึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะต้องอาย เป็นคนเลือดร้อนแต่ก็ไม่พุ่งเข้าหาปัญหาโดยไร้การเตรียมตัวถือว่าเป็นคนรอบคอบพอสมควร ไม่ชอบอะไรยุ่งยากลามไปถึงเรื่องการแต่งหน้าทำผมทั้งหลายแหล่(ซึ่งตอนนี่เจ้าตัวก็พยายามที่จะทำตัวเป็นผู้หญิงอยู่) ชื่นชอบในการฟังเพลงแนวคลาสสิกและการมองหมู่ดาว ค่อนข้างแย่ในการเข้าหาคนอื่นเพราะมีหน้าที่ดูดุและการพูดแทงใจทำให้มีเพื่อนน้อยถึงอย่างนั้นเธอก็จริงใจมากๆ ถ้าได้เป็นเพื่อนแล้วลืมไปได้เลยว่าจะถูกเธอทิ้ง สาเหตุนี้อาจจะทำให้เธอถูกเอาเปรียบโดยใช้คำว่าเพื่อนอยู่บ้างเป็นบางครั้ง ไม่ชอบการโกหกโดยเฉพาะถ้าต้องโกหกเพื่อน เซย์จิเลือกที่จะปิดปากเงียบดีกว่าที่จะต้องยอมหลอกคนที่ตัวเองไว้ใจ มีปัญหาด้านการลุยเดี่ยวไม่สนใครบ้างเป็นบางครั้งเพราะเคยอยู่คนเดียวมาก่อนและทำอะไรคนเดียวจนชิน ถึงจะเป็นคนขวานผ่าซาก แต่เธอก็มีมารยาทกับผู้ใหญ่(แค่บางคนที่เธอคิดว่าเขาสมควรได้รับ) เวลาโกรธจะเมินคนที่ทำให้โกรธและก็ใช้วิธีนี้กับคนที่เธอไม่ชอบหน้าเช่นกัน ไม่ใช่คนซึนแค่เป็นคนที่ปฏิเสธไปตรงๆ เป็นคนที่แสดงออกไม่เก่งแสดงออกได้ไม่อ่อนโยนเหมือนคนทั่วไปทำให้ดูเป็นคนแข็งกระด้าง(แต่เซย์จิพยายามแสดงออกให้ดูอ่อนโยนที่สุดแล้วนะ)

    ประวัติ :: ครอบครัวของเซย์จิเป็นครอบครัวแสนอบอุ่นในเมืองหลวง ประกอบไปด้วย พ่อ,แม่,พี่ชาย และเธอ พ่อแม่ของเธอมีธุรกิจขนาดใหญ่ในครอบครองทำให้ชีวิตในตอนเด็กของเธอและพี่สะดวกสบายกวาเด็กทั่วไป จนกระทั่งเธออายุได้ 14 ปี ครอบครัวสุดที่รักของเธอก็ได้จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในขณะที่กำลังเดินทางจากบ้านมารับเธอที่โรงเรียน ส่วนธุรกิจของพ่อแม่ก็ถูกฟ้องล้มละลายหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ เซย์จิหอบร่างกายและหัวใจอันบอบช้ำย้ายมาอยู่กับคุณตาที่แถบชนบท.............. เธอเข้าเรียนต่อในชั้น ม.2 ในโรงเรียนละแวกนั้น ด้วยความที่ไร้พ่อแม่กลายเป็นปมทำให้ถูกเพื่อนในชั้นแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นการแปะกระดาษเขียวว่าเด็กกำพร้าตัวใหญ่บนหลัง เขียนกระดานตัวโตๆว่าไม่มีพ่อแม่ในตอนที่เธอเป็นเวรทำความสะอาดและต่างๆนาๆสารพัด จนในที่สุดความรู้สึกทุกอย่างถึงขีดสุด เธอเดินออกมาจากโรงเรียน มุ่งตรงไปที่โรงยิมอันเงียบเหงาไร้ผู้คนก่อนจะล็อกตัวเองไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา ร่างของเธอทรุดลงสะอื้นร้ำไห้ราวกับคนเสียสตินานนับชั่วโมงจนเธอได้ยินเสียงบางอย่าง

    "เธอเป็นอะไรน่ะ?"

         เสียงหวานก้องกังวานภายในห้องแคบๆแทรกมาในเสียงสะอื้น เซย์จิหยุดร้องไห้ ดวงตาสีอำพันกวาดมองไปรอบๆอย่างตื่นตระหนกแต่ก็ไม่พบใครซักคนในห้อง

    "........."

         เซย์จิคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดไปก็ได้ ร่างเล็กลุกขึ้นปัดกระโปรงนักเรียน คว้ากระเป๋าเป้ไว้ในมือเตรียมตัวที่จะกลับบ้านโดยที่ในหัวคิดคำแก้ตัวดีๆว่าทำไมตาเธอถึงได้แดงขนาดนี้ไว้เพื่ออธิบายให้คุณตาฟัง

    "เดี๋ยวก่อน!!!!!! เธอได้ยินฉันใช่มั้ย!?"

         ฝ่าเท้าเล็กชะงักกึก หมุนตัวกลับมามองรอบกายอีกทีด้วยท่าทีตื่นตระหนก

    "ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ"

         หัวใจของเด็กสาวอ่อนยวบยามได้ยินคำว่าเพื่อน เธอทรุดตัวลงนั่นท่าเดิม แล้วเริ่มพูดคุยกับบางอย่างที่เธอมองไม่เห็นนานซะจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง......สุดท้ายก็โดนดุเรื่องกลับบ้านช้าแต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะเก็บมาใส่ใจ เธอยังคงมาที่โรงยิมและคุยกับเพื่อนล่องหนต่อไปราวกับคำบ่นของคุณตาเป็นเพียงลมผ่านหู เป็นเวลากวา 1 อาทิตย์ที่เธอใช้ชีวิตแบบนี้ เซย์จิเลิกเรียกสิ่งที่เธอคุยด้วยว่ามันแล้ว เธอบอกกับเซย์จิว่าเธอชื่อ มิกิ เคยเป็นนักเรียนชั้น ม.2เหมือนกับเธอ แต่เธอตายเพราะโรคหัวใจกำเริบเลยต้องอยู่เฝ้าโรงเรียนมาจนถึงทุกวันนี้ และในตอนนี้เธอได้ขอร้องให้เซย์จิช่วย......บอกบางอย่างให้กับแม่เธอ

    "..."

         แน่นอนว่าเธอตกลง..... เย็นวันนั้นเธอก็ตระเวนตามหาแม่ของเธอโดยมีมิกิเป็นเข็มทิศนำทาง และเธอก็เจอคุณแม่ของมิกิจริงๆ! เซย์จิวิ่งตรงไปที่เป้าหมายด้วยขาสั้นๆของเธอ มือเล็กกระตุกชายเสื้อคลุมคุณแม่ของมิกิเบาๆสองสามที

    "? มีอะไรหรอจ้ะ?"

         เธอถาม

    "มิกิเค้ามีอะไรอยากจะบอกค่ะ.............เขาฝากบอกว่า ขอบคุณที่เลี้ยงมาจนโต ขอโทษที่อยู่ทดแทนพระคุณไม่ได้ ขอโทษที่เคยทำตัวไม่ดีใส่และก็บอกว่า.....หนูรักแม่นะคะ....."

         เซย์จิรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงของเธอที่เปลี่ยนไปในตอนท้ายพร้อมๆกับแม่ของมิกิที่น้ำตาไหล พุ่งเข้ามากอดเธอแน่น...ถึงจะผ่านมานานแล้วเธอก็ไม่มีวันลืมเสียงใสๆของเทพธิดาต้วน้อยของเธอ มันยังคงวนลูปอยู่ในหัวราวกับเทปที่เปิดซ้ำๆ

    "!!!!!!!"

         ภาพร่างเล็กในชุดนักเรียนแสนคุ้นเคยปรากฎตรงหน้า ใบหน้าหวานน่ารักประดับรอยยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เธอจะสามารถทำได้ผมสีรัติกาลยาวคลอเคลียบ่าปลิวไสวเล็กน้อยเผยให้เห็นบัตรนักเรียนประกอบด้วยรูปและชื่อสองพยางค์ที่เธอเคยเรียกทุกๆวัน........

    "ขอบคุณ"






    "ทำไมมันยากขนาดนี้กะอีแค่หางานเนี่ย!!!!!!!!!"

         10 ปีผ่านไปแล้ว เซย์จิได้ประว่จักแล้วว่าเธอมีความสามารถพิเศษในการฟังเสียงวิญญาณ คุณตาของเธอก็รู้ซึ่งท่านก็ยอมรับมันได้แต่ท่านจากเธอไปในตอนที่เธออายุ 17 ปีทำให้เธอต้องอยู่คนเดียว

         ตอนนี้เธออายุ 24 แล้ว และก็กำลังบวดเศียรเวียนศีรษะกับการหางานทำที่ช่างยากเหลือเกิน เซย์จิตรงไปที่ม้านั่งในสวนสาธารณะ วางเอกสารจำเป็นสำหรับสมัครงานไว้ข้างกายแล้วยกมือขึ้นทึงผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เพลงคลาสสิกที่กรอกโสทประสาทผ่านหูฟังไม่ได้ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นซักนิด ก่อนจะเหลือบไปเห็นกระดาษสีสันอึมครึมที่น่าดึงดูดตาอย่างประหลาดที่ฝ่าเท้าของเธอทับอยู่ และแล้วเธอก็ก้มลงเก็บมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย

    "??? สมัครงาน? ที่หอพักแห่งแสงหิ่งห้อย?"

         ประหลาดตั้งแต่ชื่อหอพักเลย........


    แต่ลองซักหน่อยมันจะเป็นไรไป......จริงมั้ย?


    สิ่งที่ชอบ :: นอนดูดาว - มันทำให้ฉันนึกถึงครอบครัว :)

                       เพลงคลาสสิก - เครื่องผ่อนคลายชั้นยอด

                        ช็อกโกแล็ต - อร่อย!!!!!!!

                        เพื่อน - ฉันไม่ชอบอยู่คนเดียว

    สิ่งที่ไม่ชอบ / เกลียด :: เครื่องดืมมึนเมา - ฉันคออ่อน จบป่ะ?

                                          กลิ่นน้ำหอมแรงๆ - บ้านผลิตน้ำหอมขายหรอฮะ!? จะฉีดก็ฉีดน้อยๆสิ!! มันฉุน!!!!!!!

    สิ่งที่กลัว / แพ้ :: การอยู่คนเดียว - มนุษย์เป็นสัตว์สังคม...อยู่คนเดียวได้ก็บ้าแล้ว!

    ลักษณะการพูด :: น้ำเสียงทุ้มแต่ไม่ถึงขนาดผู้ชาย แทนคู่สนทนาว่า นาย ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นชายหรือหญิงแต่ถ้าเป็นคนที่เคารพหรืออวุโสกว่าจะแทนว่าคุณและเรียกตัวเองว่า ฉัน

    พูดธรรมดา : "ห้ะ? อะไรของนาย?"

    ดีใจ : "โอ้! แต็งกิ้ว"

    เศร้า : ".........."

    ตกใจ : "เฮ้ย!!!!!!!!! เล่นบ้าอะไรของนาย!?"

    โกรธ : "ไม่ต้องมายุ่งเลย........."

    เกลียด : "ฉันไม่ชอบ!!!!!!!! เอามันไปให้พ้น/ออกไปเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!"

    ปลอบ : "จะทำตัวอ่อนแอแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่!! (ชื่อคนที่ปลอบ)ที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้นี่!!!!"

    เพิ่มเติม :: จริงๆแล้วเป็นคนฉลาด แต่ชอบทำตัวง่ายๆจนไม่ค่อยได้ใช้หัว

                      เพราะต้องใส่หูฟังตลอดเวลา ทำให้กลายเป็นคนพูดเสียงดัง

                      ทำอาหารและงานบ้านอยู่ในระดับดีเนื่องจากเคยอยยู่คนเดียวมาก่อน

     




    TALK TO AYA

    สวีดัด-- สวัสดีค่ะ! ไรท์มีชื่อว่าอายะนะคะ ฮิ้งค์~(?) ดาร์ลิ้งที่น่ารัก(?)มีนามว่าอะไรเอ่ย?

    :: HAM สวัสดีเช่นกันค่ะที่รัก :)

    อา~ เบื่อหน้าเค้าหรือยังอ่ะตะเอง(?)

    :: งุ้ย~จะเบื่อได้ยังไงเล่าา ที่รักถามอะไรแปลกๆ -3-

    คิดยังไงถืงมาสมัครเรื่องนี้และบทนี้เหรอตัว?

    :: ความสนใจล้วนๆเลยค่ะที่รัก

    แล้วถ้าลูกสาวของดาร์ลิ้งไม่ติดจะสาปแช่ง ทำคุณไสยมนต์ดำใส่ไรท์ไหม?

    :: แหม~พูดอะไรอย่างน๊านนนใครจะสาปแช่งอะไร ไม่มี๊!!!!

    แอบเชียร์ให้ลูกสาวคู่กับใครเอ่ย?

    :: ไม่เชียร์เป็นพิเศษเพราะทุกๆคนดีงามไปคนละแบบค่ะ~

    อ๋า~ ขอฟังนิยามเด็ดที่มีให้ลูกสาวตัวเองหน่อยจิ

    :: เห? คงเป็น เซย์จิก็เหมือนดอกยี่โถ ความเรียบง่ายที่ดูสวยงามแต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ บอบบางแต่ช่างไม่น่าทะนุถนอมเอาเสียเลย...

    ขอให้โชคดีนะดาร์ลิ้ง~ อย่าไปนอกใจใครมีเค้าคนเดียวก็พอนะ-- ฮิ้งค์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×