ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha Fic] Once upon a hurt

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 0 Intro to the hurt

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 56




    Intro to the hurt



    ความรัก...

    แท้จริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่...

    ไหนใครๆเคยบอกผมไว้...

    ว่าความรักคือความสุข...

    แต่สำหรับผม...

    ความรักมันไม่เคยใช่ความสุข...

    ความรักของผม...

    กลับไม่ต่างจากคำว่าถูกหลอกลวง...

    ความรักของผม...

    มันไม่เคยมีค่าสำหรับเขาคนนั้นเลยแม้แต่น้อยเชียวหรือ...

    ความรักของเรา...

    คงไม่อาจจะเยียวยาบาดแผลที่เราสร้างให้กันได้...

    นอกเสียจากว่า...

    ความรักของเรา...

    คงต้องถึงการจากลากันแล้วสินะ...

    .

    .

    .

    สายลมแรงที่พัดพาให้ยอดไม้พลิ้วไหวไปตามแรงลม

    ใบไม้ใบเล็กใบน้อยปลิวขึ้นจากพื้นหินอ่อนขาวสะอาดสู่ท้องฟ้าตามกระแสลมที่พัดแรง


    สายลมของปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวที่ดูว่าจะส่งท้ายกันด้วยพายุซักลูก


    แสงอาทิตย์สีส้มอ่อนที่ทอแสงรำไรเป็นแสงสุดท้ายของวันเริ่มถูกบดบังด้วยท้องฟ้าเมฆครึ้ม


    ที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทาที่กำลังจะกลั่นตัวกันลงมาเป็นหยาดฝนส่งท้ายฤดูฝนของปีนี้


    โคมไฟกรีกโบราณทอแสงสีส้มอ่อนขับไล่ความมืดมิดบริเวณรอบๆพื้นสนามหญ้า


    ที่ต่างเรียงรายไปด้วยป้ายหินอ่อนสีขาวสะอาดที่เป็นที่พักพิงที่สุดท้ายให้กับผู้ที่เดินทางไกล


    อย่างไม่หวนกลับคืนมา


    ป้ายหินอ่อนทีถูกจารึกชื่อของผู้เป็นที่รัก


    ป้ายเล็กๆป้ายหนึ่งที่เต็มไปด้วยช่อกุหลาบแห้งกรอบ


    ที่เหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา ราวกับถูกทอดทิ้งมานานแสนนานจากผู้ที่ยังคงอยู่ �


    ลูกแก้วสีนิลใสจ้องมองแท่นหินขาวสะอาดตรงหน้าก่อนจะทรุดตัวนั่งบนพื้นหญ้าหน้าป้ายหินอ่อนขาวสะอาด


    ก่อนจะใช้ฝ่ามือบางๆที่ดูซูบผอมด้วยความทรุดโทรมของทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่บุคคลอันเป็นที่รักจากไป


    หยิบช่อกุหลาบแห้งให้หลบพ้นทางจนพื้นที่เล็กๆหน้าป้ายหินอ่อนกลับมาสะอาดสะอ้านดังเดิมที่ควรจะเป็น


    ฝ่ามือเรียวลูบบนแผ่นหินด้วยความแผ่วเบาทะนุทนอม


    ลอยจารึกของชื่อและรูปภาพของบุคคลอันเป็นที่รักดูซีดลงไปเล็กน้อยเพราะสภาพอากาศและแสงแดด


    ร่างบางสบตามองแผ่นป้ายที่มีชื่อของบุคคลอันเป็นที่รัก


    ก่อนจะยิ้มออกมาให้กับรอยยิ้มแสนอบอุ่นของคนในภาพที่เคยยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น


    รอยยิ้มอ่อนโยนดูไม่มีพิษมีภัยและไร้เดียงสายิ้มกลับให้กับเค้าในยามที่ร่างใต้พื้นดินนี้ยังมีชีวิตอยู่


    แม้บัดนี้จะเหลือเพียงเถ้ากระดูกของบุคคลที่อยู่ในภาพบนแท่นหินนั่น


    หยาดน้ำใสอุ่นๆ ไหลอาบแก้มนวลที่คนในภาพชอบพูดนักหนาว่าชอบแก้มนิ่มๆของเขา ชอบอย่างนั้นอย่างนี้


    ฝ่ามืออุ่นที่เคยลูบและสัมผัสบนแก้มนวลที่ตอนนี้กลับซูบซีดและอิดโรยด้วยการขาดการดูแลตัวเอง


    ไหล่บางไหวไปตามแรงสะอื้น หยาดน้ำอุ่นใสมากมายไหลอาบแก้มเป็นสาย


    ลูกแก้วสีนิลปิดลงเพื่อกั้นไม่ให้หยดน้ำตาไหลลงมา ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาช้ำๆนั้นขึ้นมา


    ภาพที่มองเห็นเลือนรางจากม่านน้ำตาที่เกาะแพขนตางอนสวย


    ดวงตาและขนตายาวที่คนในรูปเคยพร่ำบอกให้ฟังว่าหลงรักตัวตนของเขาที่ซ่อนอยู่ในลูกแก้วสีนิลคู่นี้


    ร่างบางปล่อยให้ตนเองสะอื้นไห้อีกซักพักก่อนจะใช้ฝ่ามือที่เคยลูบผ่านป้ายจารึกปาดน้ำตาให้กับตัวเองเบาๆ


    นานแค่ไหนแล้วที่เขาทิ้งให้บุคคลอันเป็นที่รักต้องอยู่คนเดียวที่นี่


    เพราะความเห็นแก่ตัวที่ยังยอมรับไม่ได้ว่าเขาคนนั้นได้จากไปแล้ว


    จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมา


    จากไปอย่างไม่ทันได้ล่ำลากัน


    จากไปด้วยความกะทันหันที่เขาเองก็ยังไม่ทันได้เตรียมใจ


    ความทรงจำสุดท้ายที่เขามีคือภาพของแพทย์ที่พยายามยิ้อชีวิตของบุคคลอันเป็นที่รักของเขาอย่างเต็มที่


    ก่อนที่ประโยคจากแพทย์คนนั้นจะทำให้เขาล้มทั้งยืนและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดก้องโรงพยาบาล


    ทุกคำพูดที่เขาได้ยินยังคงก้องอยู่ในหูซ้ำไปซ้ำมา


    เป็นเพราะเขาเอง เพราะตัวเขาเอง


    ถ้าในคืนนั้น เขาไม่ดื้อดึงจะกลับไป


    บุคคลอันเป็นที่รักของเขาคงไม่ต้องจากเขาไปแบบนี้


    ภาพของโลหิตที่เจิ่งนองเต็มพื้นถนน


    กับร่างของบุคคลอันเป็นที่รักที่อยู่ภายใต้ผ้าสีขาวที่คลุมร่างบนเตียงของรงพยาบาล


    ฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวของเขาเสมอตลอดสามเดือนที่ผ่านมา


    การจากลา ความตายและความรักที่หลอกหลอนตัวเขาเอง


    อยู่ว่าบุคคลอันเป็นที่รักยังไม่จากไปไหน


    การหลอกตัวเองจนทำให้เขาเศร้ายังคงไม่จางหายไป



    � � “หมอขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ป่วยด้วยนะคะ คุณพาเขามาส่งช้าเกินไป หมอพยายามยื้อผู้ป่วยไว้อย่างสุด

    ความสามารถแล้ว แต่ผู้ป่วยมีบาดแผลใหญ่และมีการเสียเลือดมากจนทำให้หมดสติไป

    หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วค่ะ หมอขอตัวก่อนนะคะ




    ร่างบางปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งออกมาจากสุสานนั่น


    หนีออกมาจากทุกสิ่ง


    ทั้งบุคคลอันเป็นที่รัก


    และความทรงจำอันน่าหวาดกลัวราวกับฝันร้าย


    ก่อนที่เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมาณจะดังขึ้นและเงียบลงไป


    เหลือเพียงเสียงสะอื้นไห้กับหยาดน้ำตาของร่างบางไหลรินออกมาแทน

    "รอก่อนนะ...แล้วซักวัน...เราจะได้เจอกัน จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งนึง

    จะไม่มีอะไรที่จะมาพรากเราออกจากกันแล้ว รอด้วยนะ"




    To be continue...chapter 1

    Chacha_miniemint


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×