คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Ep2 : : ขอบคุณนะพี่...
ขอบคุณนะพี่...
“รับสักทีเถอะนะ” เสียงบ่นของคิมที่ดูเหมือนว่าฟีฟ่าจะยังไม่รับโทรศัพท์ตามเคย
...ทำไมฟีฟ่ายังไม่ยอมรับโทรศัพท์จากคิมล่ะ ทำไม ทำไม
“คร่อกกกกกกก...”
“คร่อกกกกกกกกกกกกก...”
จะรับโทรศัพท์ได้ยังไงล่ะครับ ก็เจ้าตัวหลับเป็นตายขนาดนี้ แล้วยังเปิดระบบสั่นไว้อีกด้วยนี่ไม่ต้องสืบเลย แต่ดูเหมือนประสาทสัมผัสของฟีฟ่าจะยังใช้งานได้ดี เขาสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนมีบางอย่างปลุกเขาให้ตื่น ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตน
“อะไรของพี่วะ โทรมามีไร” เสียงฟีฟ่าดูงัวเงียจนพอจะทำให้อีกคนรู้ว่า ‘มึงพึ่งตื่น’
“มึงอยู่ไหน กูอยู่สนามบินแล้ว” แต่ดูเหมือนคำตอบของคิมจะทำให้ฟีฟ่าสร่างง่วงไปแทบจะทันที
“พะ พี่ไปทำไร” ฟีฟ่าพูดออกไปแบบกระตุกกระตัก เพราะไม่คิดว่าไอ้พี่ชายของเขาจะถ่อสังขารไปถึงที่นั่นจริงๆ ดูถูกวโรดมน้อยไปแล้วฟีฟ่าเอ้ยยยยยยยยย
“ฟ่ามึงอยู่ไหน มึงยังไม่ตอบกูเลยนะ” น้ำเสียงของคิม ฟีฟ่าพอจะดูออกว่าพี่ชายของเขาเริ่มมีน้ำโหนิดๆแล้ว
“อยู่ในสนามบินแหละ” เขาตอบไปแค่นั้นก่อนจะวางสายทันที เพราะตอนนี้เขาถึงสนามบินแล้วจริงๆ
ฟีฟ่ารีบอย่างรีบสุดๆที่จะวิ่งเข้าไปซื้อตั๋วของบิน หมายจะเป็นหลักประกันว่าถึงพี่จะรั้งผมยังไง ผมก็จะกลับ ครั้งนี้งอนหนัก งอนใหญ่ งอนแรงนะพี่คิมผมบอกเลย ก็พี่เล่นไม่สนใจผมขนาดนี้ พอๆ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ฟีฟ่าตรงดิ่งไปที่เคาท์เตอร์แต่ไม่ไวกว่ามือหนาที่มาจับแขนเค้าไว้ “พี่คิม”
“ใช่ กูเอง” ทันทีที่ฟีฟ่าหันไป ก็พบกับพี่ชายของเขาที่ทำหน้าเหมือนจะต้องมีใครตายเร็วๆนี้ (ฟีฟ่า:คงไม่ใช่ผมใช่มั้ย)
“มึงไปไหนมาวะ กูโทรไปก็ไม่รับ หลังๆก็ปิดเครื่อง มึงเป็นอะไรวะ ไหนพูดมาดิ มึงเป็นอะไร” เขาคิ้วขมวดจ้องฟีฟ่า มือก็ยังไม่ปล่อยออกจากแขนน้อง ทำให้ตอนพูดไปมือก็เผลอบีบแขนไปด้วย ฟีฟ่าดูจะมีอาการเจ็บแขนจึงแกะมือพี่ชายตัวเองออก “เปล่า...ไม่มีไร”
เหมือนคำตอบของฟีฟ่าจะยังไม่ดีพอสำหรับคิม เขาอยากจะรู้ถึงสิ่งที่ฟีฟ่าคิดจริงๆว่าฟีฟ่านั้นคิดอะไรอยู่ “กูไม่รู้นะว่ามึงเป็นอะไรอ่ะ แต่กูอ่ะเป็นห่วงมึง”
“...”
“มึงเล่นหายตัวไป โทรไปก็ไม่รับ โทรไปก็ปิดเครื่อง กูกลัวว่ามึงจะหลงทาง หรือ... เป็นอะไรขึ้นมา” คิมอธิบายให้ฟีฟ่าฟัง
“ผะ ผม...” ฟีฟ่าอั้มอึ้งทำให้คิมรู้สึกหงุดหงิด “มึงจะพูดอะไรก็พูดมาเลย กูเป็นพี่มึงนะ”
“ผม.. ผมไม่ชอบอ่ะ ไม่ชอบให้พี่ไปคุยกับคนอื่นทั้งๆที่ผมก็อยู่ข้างๆพี่ พี่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนเลย ผมน้อยใจอ่ะ ยิ่งวันนี้ เป็นวันเกิดผม ผมก็...” ฟีฟ่าพูดไม่จบ น้ำในตาก็เริ่มผลิตมากขึ้นจนดูเหมือนมันจะทะลักออกมาจากดวงตาคมคู่นั้น แทบจะทันทีที่น้ำตาของเขาไหลออกมา ฟีฟ่ารีบใช้มือปัดมันออกทันที ก่อนจะพูดต่อ “แต่ผมไม่เป็นไรแล้ว ผม... โอเคแล้วพี่”
ฟีฟ่ายิ้มออกมาอย่างดูออกว่าเขาไม่โอเค “ฟ่า...”
ดูเหมือนเสียงของคิมจะไปกระตุ้นต่อมการผลิตน้ำในตาของฟีฟ่าให้มันปะทุออกมาอีกครั้ง ฟีฟ่าใช้สองมือของตัวเองปิดหน้าเอาไว้แน่น ดูเหมือนเขาจะร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร คิมเดินเข้าไปช้าๆ ก่อนจะใช้วงแขนของตัวเองโอบกอดฟีฟ่าอย่างต้องการจะปลอบให้เขาใจเย็นลง “ขอโทษ”
สิ่งเดียวที่หลุดออกมาจากปากของคิมหลังจากที่ฟีฟ่าร้องไห้เพราะตน ฟีฟ่าเป็นเด็กร่าเริง เป็นเด็กสนุก เป็นเด็กตลก จนบางทีเขาคิดว่าคำว่า ‘ ร้องไห้’ คงไม่มีในพจนานุกรมของฟีฟ่า นี่คงจะทำให้เขาเสียใจอย่างมากจริงๆ คิมรู้สึกผิด รู้สึกผิดอย่างมากที่สุด ในเวลานี้
***
“กินอะไรอ่ะ สั่งดิ” คิมถามน้องของเขาที่ตอนนี้ ดูจะอาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่ดวงตายังแดงกล่ำอยู่ ฟีฟ่าก้มหน้าหลบสายตาของพี่ชาย เขาไม่อยากให้คิมเห็นเขาร้องไห้ เขาจึงเลือกที่จะปิดหน้าของตัวเองเอาไว้
“ไม่รู้ดิ ไม่ค่อยหิวอ่ะ พี่สั่งเลย” เสียงของฟีฟ่าที่ดูจะสั่นๆอยู่ ทำให้คิมรู้สึกผิดอยู่เช่นกัน
“กินชาเขียวมะหรือจะช็อคโกแล็ตดี?”
“...”
“อืมม... งั้นเอาอันนี้ละกันครับ แล้วก็อันนี้ 2 ครับ” คิมหันไปบอกสนักงานสาวที่ยืนรอรับออเดอร์อย่างมีมารยาทก่อนจะยื่นเมนูคืน ทั้งคู่นั่งเงียบกันอยู่นาน จนคิมเริ่มพูด “แล้วนี่ จะกลับจริงๆหรอ”
“ก็ คงงั้น” เสียงของฟีฟ่าดูมีอาการดีขึ้น แต่ยังไม่ใช่ฟีฟ่าที่สดใสคนเดิม
“แล้วของขวัญล่ะ จะเอามั้ย” ดูเหมือนคำพูดของคิมจะทำให้ฟีฟ่ารู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้งมาก เพราะเมื่อพูดถึงของขวัญ ก็นึกถึงแต่เรื่องเมื่อบ่ายทุกที “ไม่รู้ดิ ให้ก็เอา”
“อืม”
หลังจากที่คิมพูดจบ สนักงานสาวก็เอาเค้กชาเขียว กับโกโก้เย็น 2 แก้วมาเสิร์ฟ คิมใช้ช้อนตักเค้กขึ้นมาคำเล็กๆ ก่อนจะยื่นให้ฟีฟ่าอ้าปากรับ “อ่ะ อ้าปากดิ”
“...” ฟีฟ่าไม่ตอบอะไร แต่อ้าปากรับเค้กคำนั้น เขาเคี้ยวเค้กในปากพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย เมื่อคิมเห็นแบบนั้น จึงตักเค้กใส่ปากตัวเองบ้าง แล้วตักป้อนฟีฟ่าบ้าง จนดูเหมือนฟีฟ่าจะมีอาการเขินเล็กน้อย “พอแล้ว เดี๋ยวตักเอง”
ฟีฟ่ายังคงไม่กล้าสบตาพี่ชายของเขา จากที่เหตุผลตอนแรกเพราะกลัวว่าพี่ชายจะเห็นว่าเขาตาแดง แต่ตอนนี้ น่าจะเป็นเพราะเขินมากกว่านะ
ทั้งคู่กินเค้กกันไปอย่างเงียบๆสักครู่ ก่อนที่คิมจะสังเกตเห็นบางอย่างเลอะปากฟีฟ่าอยู่ คิมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะใช้มือหยิบกระดาษทิชชู่ แล้วยื่นให้ฟีฟ่า “ปากเลอะอ่ะ”
“ห้ะ?” ฟีฟ่าหันมาสบตาคิมด้วยความสงสัยแว้บหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าต่อด้วยความเขินที่ยังไม่ลดลง ฟีฟ่าเช็ดปากตัวเอง แต่ดูเหมือนรอยเลอะของเค้กจะยังออกไม่หมดสักที ทำให้คิมที่นั่งดูอยู่ตรงข้าม หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะต้องเอื้อมสองมือมาช่วย มือซ้ายจับเอามือของน้องลง ส่วนอีกมือก็ขโมยกระดาษทิชชู่จากมืออีกฝ่ายมาเช็ดแทน มือซ้ายที่ยังไม่ปล่อยจากมือน้อง รวมถึงสายตาที่ดูเป็นเป็นห่วงฟีฟ่าเหลือเกิน ทำให้ฟีฟ่าที่ตอนนี้เขินอยู่แล้ว เขินเข้าไปอีก ตอนนี้เขามองใบหน้าของคิม ที่ยิ้มอ่อนๆโดยที่ไม่สบตาเขาแล้วคิดในใจ
พี่รู้มั้ย พี่ทำให้ผมใจสั่น…
ทุกที
MIN’TALK
เมื่อประมาณ 2 ถึง 3 ถึง 4 ชั่วโมงก่อน (คือเอาจริงๆไรต์ไม่รู้ว่าการง้องอนอีพี่คิมกับฟ่ามันจะนานประมานไหนอ่ะ ก็เดาเอาว่าน่าจะประมาน 2 ถึง 3 ถึง 4 ชั่วโมงอย่างที่บอกอ่ะเนาะ แหะๆ)
“มึงว่าพี่... อะไรนะ ลืมชื่ออ่ะ”
“คิม”
“เออ พี่คิมอะไรนั่นแหละ ดูหล่อขึ้นปะ กูว่าหล่อกว่าครั้งล่าสุดที่เจอเยอะเลย”
โอ๊ตเพื่อนของผมกำลังชวนเม้ามอยตามประสาเพื่อนสนิท “ก็ ไม่รู้ดิ คงงั้นมั้ง”
“แต่กูว่าพี่ฟีฟ่าไรนั่น น่ารักอ่ะ 55555555 นี่ถ้าไม่ติดว่ากูคุยอยู่กับอีกคนนะ กูจะเข้าไปจีบละ” โอ๊ตมันเป็นคนแบบนี้แหละครับ ดูเหมือนจะแรดนะ แต่จริงๆ มันก็แรดแหละ แต่ไม่เจ้าชู้เหมือน... “ไม่เหมือนมึงนะ คุยอยู่กับพี่คิม แต่ก็เสือxไปคุยกับพี่นะ กูเสียดายพี่คิมมากพูดเลย”
“เสียดายละทำไมไม่เอาเองเลยหล่ะ” ผมตอบไอ้เพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะกระเหี้ยนกระหือรือในการมีแฟนอย่างมาก ก็แน่หล่ะคนเพิ่งเลิกกับแฟน ก็ต้องหาคนมาเย้ยแฟนเก่าอย่างงี้แหละ ตามนิสัยของมัน “โหหหห ถ้าไม่ติดว่ากูคุยกับพี่นะนะ กูคง... ไม่รู้ว่ะ เค้าดูเหมือนไม่เหมาะกับกูด้วยแหละ”
มันพูดมา แต่ผมไม่ได้ตอบอะไร (อ๋อลืมบอกไปน่ะ บางคนอาจจะสงสัยว่าพี่นะของผมกับพี่นะของไอ้โอ๊ตเนี่ย คนเดียวกันหรือเปล่า คำตอบคือ ‘ใช่’ ผมไม่ใช่คนซีเรียสเรื่องแฟน แค่คิดว่า แฟนเป็นของของกู แต่เมื่อมันไม่ใช่แฟน ก็ไม่ใช่ของของกู และมันก็เป็นอิสระ ที่ใครจะทำอะไรก็ได้ ไม่เกี่ยวกับผมอีกต่อไป) แต่ก็ต้องสะดุดกับคำที่มันว่าต่อ “เค้าดูเหมาะกับมึงมากกว่าอ่ะ”
“ยังไงวะ” ผมสงสัยจังว่ามันเหมาะยังไง เพราะผมมักจะดูไม่ออกว่าใครเหมาะกับใคร หรือเพราะผมไม่ชอบสอดเรื่องชาวบ้านนะ เดี๋ยวๆ
“มึงดูมีความสุข เวลาอยู่กับเค้าอ่ะ ช่างเหอะ แล้วนี่เค้าตอบมายัง” ตอบหรอ อ๋ออออ คืองี้ครับ ไอ้โอ๊ตเนี่ยมันเป็นคนบอกให้ผมชวนพี่คิมไปดูหนัง ซึ่งเอาจริงๆ พรุ่งนี้ผมขี้เกียจไปไหนมากมากกกกกก เพราะไปเที่ยวติดกันมาหลายๆวันแล้ว เหนื่อย แต่ไอ้โอ๊ตก็เอาแต่บอกให้ชวนเลย ชวนเลย ผมก็คิดนะ ว่าแล้วทำไมมึงไม่ชวนเองเลยล่ะดีออก
“ตอบละ ตอบตั้งนานละ ตอนมึงไปเข้าห้องน้ำอ่ะ”
“แล้วเค้าว่าไง ไปปะ ??” ดูเหมือนเพื่อนผมมันจะตื่นเต้นเป็นพิเศษนะ
“เออ ไป”
***
“ฟ่าเดี๋ยวมึงรอกูตรงนี้แปปนะ เดี๋ยวกูเอาของขวัญที่บอกมาให้” คิมบอกฟีฟ่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องของคิมกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากทานเค้ก ขนมเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 6 โมงแล้ว “ได้ๆ”
ฟีฟ่าดูมีอาการดีขึ้นเยอะ หลังจากที่... นั่นแหละ ฟีฟ่าเดินไปมาในห้องของคิม เขามองไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปสะดุดกับกล่องอะไรสักอย่างบริเวณใต้เตียง “อะไรวะ” ฟีฟ่าพูดออกมาคนเดียวเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปหวังจะเปิดดู แต่ก็ต้องหยุดความคิดเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากข้างหลังเขาสะก่อนเขาจึงหันไปนั่งบนเตียงแทน “เซอไพร้!!!”
“อะไรวะพี่” ฟีฟ่าถามด้วยความสงสัยหลังจากที่คิมยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่พอสมควรให้กับเขา “แกะดิแกะ”
ฟีฟ่าม่วนอยู่กับการแกะของขวัญอยู่นาน จนคิมเห็นว่าลำบาก เลยเดินไปนั่งข้างๆฟีฟ่าเพื่อจะช่วยแกะ “เอามานี่มา เดี๋ยวช่วย”
ฟีฟ่ามองใบหน้าคิมด้านข้างที่ดูตั้งหน้าตั้งตาแกะกล่องของขวัญให้เขา ก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆโดยไม่รู้ตัว “อ่ะ มึงดึงกระดาษออกดิ”
“โหหหหหพี่ เจ๋งอ่ะ ที่ผมเคยบอกว่าอยากได้ปะ”
รูปนำมาจากทวิตเตอร์ของฟีฟ่าเน้ออ
“เออ กูว่าจะให้ตั้งนานละ แต่ไม่มีโอกาสจะให้ เลยเอามาให้วันเกิด” คิมตอบน้องของเขาที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเขาแล้ว ของตรงหน้าดูจะน่าสนใจกว่าเยอะ คิมมองใบหน้าด้านข้างของฟีฟ่าที่กำลังยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ผิดกับคนที่ร้องไห้ที่สนามบินเมื่อตอนบ่ายนั้นเลย คิมยิ้มกับอาการเห่อของเล่นของฟีฟ่าอย่างเอ็นดู ก่อนจะใช้มือของตัวเองขยี้หัวน้องของเขา “กูขอโทษนะ ที่ทำมึงเสียใจ”
ฟีฟ่าหยุดการกระทำต่างๆนาๆตั้งแต่คิมเอามือมาขยี้หัวของเขาแล้ว แล้วการที่คิมบอกขอโทษเขาหลังจากที่ให้ของขวัญกับเขา มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฟีฟ่ายิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เขาโผลเข้าไปกอดพี่ชายของเขาที่กำลังทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกว่า ‘น้องกูเป็นอะไร’ โดยไม่ได้ตั้งตัว “ขอบคุณนะพี่”
ไลน์! ไลน์!
แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างมาขัดจังหวะของคนทั้งสอง คิมลุกขึ้นก่อนจะขอตัวไปข้างนอกสักครู่
Min : พี่คิม พรุ่งนี้สรุปกี่โมง
Min : อ่อแล้วก็อย่าลืมชวนพี่อีกคนไปด้วยนะ พี่ฟีฟ่าอ่ะ
คิมยืนอยู่หน้าห้องของตัวเอง ในใจก็คิดว่าทำไมต้องชวนฟีฟ่าไปด้วย
Kim : เที่ยงๆแล้วกัน
แต่มือก็พิมพ์ออกไปอย่างนั้นก่อนจะเปิดระบบสั่นแล้วล็อคหน้าจอ
“วันนี้จะนอนนี่ปะ” คิมถามน้องชายของเขาที่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่
“นะ นอน” ฟีฟ่าเงยหน้าจากจอมือถือ แล้วตอบพร้อมพยักหน้าทันที
“อืมๆ เออพรุ่งนี้ไปดูหนังปะ” คิมพูดพร้มอกับพาตัวเองไปนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม
“ดู... ดูเรื่องไรอ่ะ” ฟีฟ่ารีบตอบไปก่อนจะคิดได้ว่า เขารีบตอบเกินไปหรือเปล่า เลยแสร้งถามว่าดูเรื่องอะไร
“เหอะน่า สรุปคือไปใช่ปะ”
“ครับ”
“อืม”
ทั้งคู่นั่งจ้องหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ฟีฟ่าจะเริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มขึ้นสี เลยเลือกที่จะหลบหน้าพี่ชายของเขา “ดะ เดี๋ยวผม ไป ไป ไปอาบน้ำ! เออ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
“เออ ก็ไปดิ”
“เค”
ฟ่า...
มึงคงจะยังไม่รู้ตัว ว่าที่กูทำทั้งหมดมัน...
เห้ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
***
จบไปแล้วกับตอนที่สอง ลองไปอ่านตอนแรกของตัวเองมารอบที่ 17 ล้าน ทำให้รู้ว่า เขียนผิดเยอะมากกกกกกกก
อยากจะขอโทษจริงๆนะ แต่แก้ไขอะไรไม่ได้อ่ะ โค้ดมันพันกันยั่วเยี่ยไปหมดเลยไม่ได้แก้ ถ้าตอนนี้มีอะไรผิดพลาดอีกก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะ (นาทะเกี่ยวอะไร มา ณ มั้ย??)
ความคิดเห็น