คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รักปกติของผู้หญิงคนหนึ่ง
นี้! พวกเธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพวก Bi-sexual มั๊ย บางคนก็อาจจะไม่รู้จักหรอกนะ ไอ้นี้มันก็คือ การที่คนๆ หนึ่งจะรักได้ทั้ง สองเพศไงล่ะ ได้ทั้งชาย และก็หญิง/ทอม อ่ะแหละ ตอนนี้ฉันพยายามหาข้อมูลด้านนี้เพื่อมาทำรายงานวิชาจิตวิทยาอยู่หน่ะ 'จารย์นี้ก็แปลกเนอะ ตั้งแต่ฉันรู้เรื่อง ฉันก็เริ่มคิดอะไรต่างๆ นานา ได้รวมถึงเรื่องการเรียนด้วย ฉันรู้สึกว่าบางครั้งไอ้สิ่งที่เราเรียนไปเนี่ย มันไม่ได้เอาไปใช่อะไรเลยง่ะ อย่างไอ้เรื่อง Bi-sexsual (Bi) นี้ก็เหมือนกัน จะให้เรียนไปทำไมก็ไม่รู้ นึกว่าเราจะเป็นอย่างนั้นบ้างรึยังไงกันเล่า โถ่เอ๊ย! คิดอะไรกันอยู่นะพวกผู้ใหญ่เนี่ย
หลังจากที่ฉันเรียนวิชาจิตวิทยาเสร็จ อาจารย์โคอิจิโร่ก็สั่งการบ้านให้กลับไปทำรายงานเรื่อง Bi เนี่ยแหละ ฉันล่ะเซ็ง วันหยุดทั้งทีแทนที่จะได้พักได้ผ่อนกันแท้ๆ เชียวนะ หลังจากที่ฉันได้รับการบ้านมาแล้ว ฉันก็บ่นกะตัวเองพร่ำเพรื่อไปเรื่อยเปื่อย
เออใช่!! ลืมแนะนำตัวไปสนิทเลยเชียว ก็เพราะมัวแต่บ่นงานหน่ะแหละ ฉันชื่อ มานามิ, มานามิ อิชิกาว่า เรียก นามิเฉยๆ ก็ได้ เกิดวันที่ 23 พ.ย. 1992 อยู่ มัธยม 3/2 โรงเรียน โยชิโนะ ที่โตเกียว สูง 163.5 ซม. หนัก 44 กก. (จะบอกให้ว่าฉันหน่ะหุ่นดีนะ) ตาฉันเป็นสีน้ำตาล ผมสั้นประบ่าสีดำปนน้ำตาล ส่วนเรื่องหน้าตาก็.....อย่าพูดเลยดีกว่า ฉันอยู่กับ พ่อแม่ และก็น้องชายตัวดี อีกคนนึง น้องชายฉันชื่อ มาซาโตะ มาซาโตะ อิชิกาว่า เจ้ามาซาโตะสีตาจะได้จากพ่อนั้นคือตาสีเขียวน้ำทะเล ส่วนสีตาของฉันจะได้จากแม่ มาซาโตะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีเสน่ห์อะไรนักหนา วันๆ ก็มีแต่สาวๆ มาขอเบอร์...แต่สำหรับฉันเจ้านั้นก็หน้าตาธรรมดา ฉันมักจะมีเรื่องกับน้องชายตัวดีทุกวัน ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้นเลย แต่ยังไงก็เหอะ ฉันกับเจ้านั้นก็ยังรักกันอยู่เหมือนเดิม
วันนี้เราเรียนกันเป็นวันแรก หลังจากสอบกลางภาคเสร็จแล้ว คะแนนปีนี้ห่วยแตกชะมัดเลย เพราะฉะนั้นครึ่งหลังฉันต้องทำให้ดีกว่าเดิมแน่นอน \\ ^O^ //
" มานามิ ถ้าเธอหาข้อมูลเรื่องไบฯ ได้แล้ว ฉันขอลอกมั่งนะ" ทานากะ ยามาชิตะ เพื่อนสนิทร่วมเกิดวันเดียวกันกับฉัน พูดขึ้นอย่างหน้าไม่อาย
" โถ่เอ๊ย!! ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหามาจากไหน เนี่ยกะว่าจะลอง Search เน็ต เอาอ่ะ"
"จารย์นะจารย์สั่งอะไรมาล่ะค่ะเนี่ย" ทานากะอุทานอย่างเบื่อหน่าย
"เออ นั่นดิ่ แทนที่จะสั่งอะไรที่ได้สาระกว่านี้ก็ไม่สั่ง มาสั่งอะไรก็ไม่รู้กะไอ้เรื่องไบฯ เนี่ย" ฉันก็บ่นตอบ
ทานะ : "พอเหอะ เราว่านะถ้าพูดไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะบ่นยาว เอาเป็นว่าไปกินข้าวกันดีกว่า"
นามิ : "ว่างั้นแหละ หนิ่วันนี้ไปกินหน้าลานกว้างประจำโรงเรียนกันดีไหม เผื่อจะได้เจอกับสุดหล่อบ้าง"
"สุดหล่อไหน" ทานะถาม แล้วมองตาฉันด้วยความสงสัย
"ช่างเหอะ ฉันว่าเรารีบไปก่อนที่จะหมดเวลาพักดีกว่า"
หลังจากทีฉันตัดหน้าพูดประโยคสุดท้ายจบ ฉันและทานะก็รีบวิ่งไปซื้ออาหารมากินทันที
หลังจากที่ได้ประทับที่เก้าอี้หน้าลานแล้ว ฉันก็รีบเบิกเนตรมองหานายคนนั้น โยชิคุนิ ยูยะ ทันที นายนี้อยู่ม.5 เป็นพี่ฉันสองปี แต่ฉันไม่ค่อยจะถนัดเรียกนายนั่นว่า "พี่ยูยะ" สักเท่าไหร่หรอกนะ ฉันชอบนายยูยะมานานแล้ว ชอบมากด้วยสิ
โยชิคุนิคุง เป็นเด็กกิจกรรมโรงเรียน เข้าเป็นคนที่ทั้งเล่นกีฬาเก่ง เรียนดี มีมารยาท แถมยังดูอ่อนโยนอีกด้วย นานๆ ทีฉันจะได้เห็นคนเพรียบพร้อมอย่างงี้สักครั้งนึง เค้าเป็น 1 ในสามหนุ่มที่ Popular ที่สุดในโรงเรียนอีกด้วยหล่ะ อย่างงี้จะไม่ให้ฉันชอบโยชิคุนิ ได้ยังไงเล่า ^o^ และวันนี้เค้าก็มีซ้อมการแสดงละครที่ลานกว้างนี้อีกด้วย
"กรี๊ด!!! รุ่นพี่โยชิคุนิ เท่ห์ที่สุดเลยค่าาาาาาาาาาา"
"พี่ยูยะ สุดหล่อ สู้ๆ นะค่ะ"
โอ้โห! ยูยะคุงนี้ป๊อบจริงๆแฮะ ดูดิ่มีสาวๆ มากรี๊ดกันเต็มเลย แถมนอกจากสาวๆ แล้วยังมีชาย(ใจสาว) มานั่งเชียร์อีกต่างหาก โถ่! พ่อคุณอะไรจะเสน่ห์แรงขนาดว่า นอกจากจะดึงดูดเพศตรงข้ามแล้ว ยังดึงดูดเพศเดียวกันอีกซะด้วย(แต่อันหลังนี้น่ากลัวนะ) นี่ดีนะ ที่ฉันมานั่งเร็ว ไม่งั้นคงไม่มีที่ให้นั่งหรอก ก็ดูเอาสิ มีแต่ผู้หญิงแห่มากินอาหารที่เนี่ยที่เดียวเลย ส่วนโรงอาหารก็มีแต่พวกผู้ชาย เท่านั้นแหละ
" อ้อ!! นี่นะหรอ สุดหล่อที่ว่าหน่ะ" ทานะ ถาม ด้วยความเข้าใจอย่างสุดซึ้งเมื่อเธอเห็นภาพ โยชิคุนิ อยู่ตรงหน้า
"นั้นแหละ เธอเข้าใจได้ถูกต้องเลยล่ะเพื่อนเลิฟ" ฉันตอบกลับ
" เธอนี้ ก็ตาถึงกะเค้าเหมือนกันนะเนี่ย แต่ฉันว่ายังไง เคตะของฉันก็หล่อกว่าอยู่ดีแหละ" ทานะพร่ามถึงแฟนหนุ่มหน้าตาเด็กเรียนซะไม่มีของเจ้าหล่อน ที่ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ค่อยชอบขี้หน้านายนั้นเอาซะเลยอะนะ
หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จแล้ว เราก็อิ่มตาและอิ่มใจกันอย่างแรง หลังจากนั้นก็เข้าเรียนตามปกติเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากวันก่อนๆ ที่ผ่านมาเลย ไอ้ที่แตกต่างกว่าวันอื่นๆ ก็มีแค่วันนี้ฉันเป็นเวรกวาดลาน ซึ่งฉันทำกับ ทานากะ , ไอริ (เพื่อนในห้อง) 3 คน และท่าทางว่าวันนี้งานจะเยอะซะด้วย เพราะว่าบางคนที่กินข้าวและก็ขนมชอบลักไก่ทิ้งไว้อะสิ พวกนี้มันไม่มีสำนึกบ้างรึไงกันนะ อยากจะทิ้งอะไรก็ทิ้ง พอได้เห็นสิ่งที่ตนอยากจะเห็นสมใจแล้ว ก็ปล่อยสิ่งสกปรกให้คนอื่นเก็บงั้นหรอ ไร้มารยาทจริงๆ
หลังเลิกเรียน.....
" นามิ เธอดูพวกผู้หญิงหัวใจเดียวกับเธอทำเข้าสิ ไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลยรึไงกันนะ" ทานะบ่น บ่นและก็บ่นให้ฉันฟัง
"หัวใจเดียวกับฉันงั้นหรอ........" ยัยทานากะ เธอหมายความว่าไงหาาาาาา
"ก็ใช่หน่ะสิ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะพี่ยูยะของพวกเธอ มาซ้อมการแสดงที่ลานกว้างล่ะ ป่านนี้พวกเราก็คงไม่ต้องเหนื่อยหรอก"
"นี่! เธอจtมาว่ายูยะเค้าไม่ได้นะ เค้าไม่ใช่คนผิดหนิ แต่ก็เอาเหอะเหนื่อยก็เหนื่อยล่ะงานนี้ ต่อให้ทำอีกทั้งปีก็ยอมถ้าได้เห็นยูยะ ทุกวันอย่างเงี่ยอานะ"
"เชอะๆ ก็เชิญเธอทำทุกวันไปคนเดียวแล้วกันนะนามิ ฉันไม่เอาด้วยหรอก" ทานะสะบัดหน้าหนีไป
...........................
" - - " ขอโทษนะค่ะ คุณทานากะ คุณมานามิ ฉันว่าเราน่าจะเลิกเถียงกัน แล้วเริ่มกวาดลานกันดีกว่าไหมค่ะ" ไอริซังหยุดพวกเราไว้ก่อนที่เรื่องมันจะยาวไปมากกว่านี้
" อ...เออ...ดีค่ะดี" ฉันและทานะตอบรับไอริซัง อย่างเอ๋อๆ ประมาณว่า 'นี้ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย'
หลังจากนั้นผ่านไป 15 นาที ขยะก็เริ่มน้อยลง แต่ว่าก็ยังมีพวกเศษใบไม้และเศษฝุ่นหลงเหลืออยู่บ้าง นิดๆ หน่อยๆ
" very nice in my dream I see you I feel you
. ” เพลงโทรศัพท์ของคนใดคนหนึ่งดังขึ้น
“ ฮัลโหล ไอริ พูดค่ะ
..อ้อคุณพ่อหรอคะ...ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะเดี๊ยวออกไปนะค่ะ" โอ้โห! ไอริใช่เพลงซะไฮโซเชียว เมื่อพูดจบไอซังก็มองหน้าพวกเราพร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือไปด้วย
" มีอะไรหรอ ไอริจัง" ทานะเอยถามไอริ ด้วยความสงสัย
" ต้องขอโทษคุณทานากะ กับคุณมานามิด้วยนะคะ คือว่าไอริต้องไปแล้ว รบกวนฝากงานต่อด้วยแล้วกันนะคะ" ไอริก้มตัวลงขอโทษพวกเราด้วยความอ่อนน้อมตามประสาลูกคุณหนูผู้ดีมีมารยาททั่วไป
" อ....อ้อค่ะ ได้ค่ะไม่เป็นไรอยู่แล้ว แค่นี้เราสองคนพอจัดการได้” ฉันรับปากไอริซัง แต่ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ ตอนที่ไอริเค้าเรียกฉันว่า "คุณ" หน่ะ มันดูเป็นทางการมากและดูห่างเหินไปหน่อยรึเปล่า
“เดี๋ยว....เอ่อว่าแต่คราวหน้าไม่ต้องเรียกพวกเราว่า "คุณ" ก็ได้นะไอริซัง เรียก ทานะ กับ นามิธรรมดาก็ได้" ฉันพูด
"ค่ะ...งั้นรบกวนด้วยนะค่ะ"
"ค่ะ" ฉันและทานะตอบรับไอริด้วยหน้าตายิ้มแย้ม หลังจากนั้นพวกเราก็ทำงานกันต่อเหมือนเดิม เว้นแต่เหลือแค่เราสองคนเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทุกอย่างที่ลานกว้างก็ดูสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว เฮ้อ!! ฉันไม่นึกเลยว่าวันนี้เราจะเหนื่อยกันขนาดนี้ได้ ทั้งๆที่ ปกติก็ทำกันทุกเดือนอยู่แล้วนะ แต่วันนี้ยังโชคดีที่ฝนไม่ตกหน่ะ ไม่งั้นฉันคงแย่ แต่ช่างมันเถอะ อีกไม่นานแล้ว อีกไม่นาน มันก็จะถึงฤดูหนาวที่ฉันชอบซะทีนึง _.-+-...-+-._
"บ๊าย บายนะมานามิ พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่นะ"
"จ๊ะ ^_^" หลังจากที่เราล่ำลากันแล้วฉันก็รีบวิ่งไปเอาจักรยานของฉันที่จอดไว้ริมรั้วโรงเรียนปั่นมันกลับบ้านซะ
จะว่าไป ตอนนี้ลมหนาวก็เริ่มพัดมาปกคลุมญี่ปุ่นบ้างแล้วซินะ ตอนเย็นๆ นี่ก็อากาศดีเหมือนกันแฮะ ถ้าตอนนี้ ฉันปั่นจักรยานกลับบ้านพร้อมกับนายยูยะอยู่ก็ดีหน่ะสิ
"เห้ออออออ!!!" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็คิดว่า จะมีบ้างมั๊ยน้าาาาาที่ฉันกับยูยะจะปั่นจักรยานกลับบ้านพร้อมกันหน่ะ
เอ๊ะ!! ฉันได้ยินเสียง เสียงหมาเห่าหรอ เห่าเสียงดังด้วย และจากการสันนิฐานแล้ว ขนาดของหมาน่าจะตัวใหญ่ประมาณลอสไวเลอร์ได้ แต่มันมาจากไหนนะ
"โฮ่งๆ แห่!!" เฮ้ย! มันอยู่ข้างหลังฉันนี่นา ลอสไวเลอร์สีดำ น้ำตาล ดูกระหายเลือด
" โฮ่งๆๆ แห่ " เอาเข้าไป เห่าใหญ่แล้ว เราก็ปั่นรัวสิ ทำไมวิ่งเร็วอย่างนี้นะ ชาติก่อนเป็นม้ารึไงกัน อย่าตามมาสิ หมาบ้าเอ๊ย!!! >O<
" ทำไงดี ข้างหน้าเป็นทางตันแล้วนี้นา.........ว้ายยยยยยยยยย......โครม !@#$%" ฉันตะโกนสุดเสียงก่อนที่จะหมดสติไป เพราะชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง
ที่บ้านของฉัน.........
"ลูก....มานามิ...ตื่นรึยังจ๊ะ” ผู้หญิงผมหยักโศก ท่าทางดูอ่อนโยน หรือ คุณนายอิชิกาว่า แม่ของฉันเอง (เฉพาะตอนเนี่ยแหละที่ดูอ่อนโยน)
“แม่.......” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“นามิลูกไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้เป็นแผลถลอกเยอะขนาดนี้” แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
“อ...อ้อ .....แค่โดนหมาไล่ฟัดมาอะค่ะ +3+”
“แล้วไปทำอีท่าไหนเข้าอีกล่ะ.....หรือว่าลูกไปฟัดมันก่อน”
“ +_+”
โถ่แม่! ลูกโทรมขนาดนี้ยังมีอารมณ์มาแกล้งกันอีกหรอฮ๊ะ
“แม่ล้อเล่น แค่อยากให้ลูกอารมณ์ดีขึ้นเท่านั้นเองแหละ” แม่ค่ะ จะล้อเล่นก็ให้ถูกเวลาหน่อยสิ ค่ะ โถ.....+3+
เอ๊ะ! ว่าแต่ใครพาเรากลับมาบ้านกันนะ แถวนั้นก็ไม่ค่อยมีคนด้วยสิ ถ้าสมองฉันไม่เลอะเลือนนะ ตอนนั้นก็มีแค่ฉัน กับไอ้หมาเวรตัวนั้นเท่านั้นแหละ แล้วใครพาเรามาส่งบ้านล่ะ
“แม่ค่ะ...ใครหรอค่ะที่เป็นคนพาหนูกลับมาบ้านหน่ะ” ฉันถามแม่ด้วยความสงสัย
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน...น่าเสียดายที่แม่ไม่ได้ถามชื่อไว้ เพราะแม่ยังไม่ทันได้ตอบแทนเรื่องที่เขาช่วยพาลูกกลับมาบ้านเลย” แม่ฉันพูดไปพรางชงชาให้ฉันดื่มไปด้วย
“งั้นหรอค่ะ..........” ฉันก็ยังคงนอนแน่นิ่งตอบรับด้วยความสงสัยอยู่ดี
“ส่วนลูกก็ดื่มยานี้แล้วก็นอนพักผ่อนได้แล้วนะลูก”
“ค่ะ ^__^ “ ฉันยิ้มแล้วตอบรับคำแม่
ส่วนตอนนี้ วันนี้ เวลานี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า “ใครนะ ที่เป็นคนช่วยฉันไว้” คำถามนี้จะผุดขึ้นมาในหัวฉันผ่านสมองส่วนหน้า แปลมายังสมองส่วนหลังทุกๆ 5 นาทีจนคือนี้ฉันแทบไม่ได้นอนเลย พรุ่งนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนช่วยฉันไว้ ต้องรู้ให้ได้ ต้องรู้ให้ได้เลย............
ความคิดเห็น