คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ˋ ONE ; คำถาม
การมีอคติโดยไร้เหตุผล...ก็มีนะ
“เฮ้ย พวกมึงกูลืมแนะนำเลย นี่เพื่อนกูเองชื่อคยูฮยอนเรียนวิศวะเว้ย เป็นไง กูเจ๋งป่ะล่ะ!!”
ซีวอนพูดอวดอย่างภาคภูมิวาดแขนขึ้นพาดคอเพื่อนใหม่อย่างสนิทสนม ผู้นั่งร่วมโต๊ะคนอื่นต่างให้ความสนใจ ไหนจะใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์นั่นอีก จะมีนักศึกษาศิลปกรรมคนไหนบ้างล่ะที่ได้เป็นเพื่อนกับคณะวิศวะที่ขึ้นชื่อว่าหยิ่งที่สุดในมหาวิทยาลัย
“เก่งห่าไรล่ะ ไม่ใช่เขาจำใจเป็นหรอสัด” อีทึกพูดแขวะซีวอนไปก่อนจะหันมองคยูฮยอนพร้อมยิ้มจนตาปิด
“พูดงี้เจอกันหลังร้านได้นะครับ เชี่ยพี่ทึก -.- ”
คยูฮยอนเอ่ยแนะนำตัวเองอีกครั้งคนอื่นๆต่างก็แนะนำชื่อตัวเองกับเพื่อนใหม่...แต่ดูจะมีเพียงร่างบางตรงหน้าที่เขานั่งมองมาตลอด ไม่ยอมแม้จะจะเอ่ยทักซ้ำยังทำเป็นเมินเหมือนเขาไม่อยู่ตรงนี้เสียอย่างนั้น
“ถ้ามึงจะมานั่งทำหน้าเบื่อโลกนะ กูแนะและอัญเชิญไปดมสีที่หอมึงเถอะ เห็นแล้วกูแดกไม่ลงว่ะ” ฮีชอลมองด้วยความไม่สบอารมณ์นัก มือสวยถือแก้วน้ำพันช์แกว่งไปมาแก้เบื่อหน้าเพื่อนรุ่นน้อง
เหล้าก็ไม่แดกยังเสนอหน้ามาทำไม นี่ถ้าเข้าไปนั่งดื่มเหล้าในส้วมยังสุนทรีน์กว่าเห็นหน้าอีซองมินเลย
“ช่างเขาเหอะอาเจ๊ เนอะ.. ฮยอกจี้~” ซีวอยิ้มหน้าทะเล้นใส่เพื่อนร่างบางสองแขนท้าวขึ้นรองคางมน ในขณะที่นัยตาสวยกำลังเข้าสู่โหมตเกินลิมิต เพียงเพราะคำๆนี้...
“ฮยอกจี้~~”
“ตายเหอะมึง!!”
“อ๊าซซซซซซซซซซซซซซ!!” <- ซีวอน
“เฮ้ยยยยยย! ฮยอกแจมึงใจเย็นดิ!” <- เยซอง
“อย่าทำเลือดหกใส่พรมน้ากูนะมึง - -” <- ฮีชอล
จากที่นั่งหน้าเบื่อโลกมาตั้งนานพอมาเห็นเพื่อนตัวเองกำลังจะฆาตกรรมกันในร้านเหล้าแล้วมันก็ชวนให้อยากยิ้มขึ้นมาเสียอย่างนั้น(?) ร่างบางขอตัวเดินออกมาจากบรรยากาศสงครามโลกและความอึดอัดจากสายตาของผู้ชายที่ชื่อคยูฮยอน
บรรยายกาศหลังร้านเงียบเชียบจนได้ยิ้นแม้แต่เสียงลมหายใจ นัยตาสวยมองไปรอบๆก่อนจะเดินไปยืนพิงที่โต๊ะม้าหินเย็นเยียบจากอากาศในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว
“งานเลี้ยงไม่สนุกหรอครับ?”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านข้างขายาวเดินเข้ามาใกล้แต่ก็เว้นระยะหว่างไว้พอสมควรเพราะรู้ดีว่าหากเข้าไปใกล้กว่านี้ร่างบางตรงหน้าคงจะผูกปมคิ้วมากขึ้นกว่าที่เป็น ซองมินชักสีหน้าไม่พอใจหน่อยๆคนที่เขาอุตส่าห์หลีกมาตอนนี้กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
ตามมาทำไม..?
“...................”
“เพื่อนของคุณอัธยาศัยดีนะ ผมรู้สึกดีที่ได้รู้จักกับพวกคุณ”
“...................”
“จะไม่พูดกับผมสักหน่อยหรอ?”
“...................”
“ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่คุณทำเหมือนไม่เห็นผม..”
ร่างบางเชยตามองคนร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านข้าง หยัดยิ้มออกมาอย่างไม่ยี่หระกับคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จักชื่อได้ไม่นานนัก
“คุณเป็นเพื่อนของซีวอนไม่ใช่ผมนี่ครับ คุณโจคยูฮยอน” ซองมินเน้นย้ำชื่อของร่างสูง หวังจะให้เจ้าตัวได้รู้ว่าเขาอยากจะจบการเสวนานี้ลงเร็วๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มขำราวกับไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดที่แนบความนัยของเขาเลย
“เย็นชาจังเลยนะครับ คุณพูดกับคนที่เพิ่งรู้จักแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า?”
“....................”
“....................”
“.....ต้องการอะไร?”
“ครับ?”
“สนใจอะไรงั้นหรอ?”
“คุณกำลังหมายถึง...ผมสนใจคุณ...อย่างนั้นหรือเปล่าครับ”
++++++++++++++++
บ้าหรือเปล่า
หงุดหงิดแม้กระทั่งเรื่องไร้สาระ..
“คราวหน้ากูจะไม่ไปแดกเหล้าเด็ดขาดถ้าไอ้เหียกซีวอนไปด้วย” คิ้วเรียวขมวดขึ้นจนเห็นชัด ปากก็บ่นไม่หยุดตลอดทางเดินตั้งแต่ตื่นยันเดินเข้ารั้วมหาลัย
“มึงเองไม่ใช่หรอที่ไม่ยอมกลับ”
“กูผิด?” นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง แล้วก็ได้รับสายตาจากซองมินซึ่งแปลออกมาเป็นคำพูดก็คือ
‘ไม่น่าถาม’
เดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าตึกเรียนก็ยกนาฬิกาเรือนโปรดขึ้นดูเวลาซึ่งในอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะมีเรียนคลาสแรกของวัน ฮยอกแจขอแยกตัวไปตรงนั้นเพื่อไปหาอะไรลองท้องกับอีทึกก่อนจะหิวตายเสียก่อน ร่างบางจึงเลือกที่จะเดินขึ้นตึกไปนั่งรอยังห้องเรียน
อยู่แค่ชั้นสองเดินขึ้นบันไดเอาละกันถือซะว่าช่วยโลกกำลังจะเดินขึ้นบันไดไปก็พบเข้ากับบุคคลที่เขาไม่อยากเจอเข้าจนได้ ร่างสูงที่ยืนพิราวบันไดอยู่ยกยิ้มขึ้นมาจางๆที่มุมปาก เดินมายืนอยู่ตรงหน้าคั่นบันไดที่สูงกว่าร่างบางสักเล็กน้อย
จะยืนข่มส่วนสูงกันหรือไง?
“มายืนรอซีวอนหรอ?” เอ่ยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่แน่ๆ แต่ก็เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปนั่นแหละ
“เปล่าครับ ผมยืนรอเพื่อนของผมน่ะ...บังเอิญนะครับที่เรียนตึกเดียวกันผมเลยได้เจอคุณ”
ร่างบางเสมองไปทางอื่นลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก็นั่นสิทำไมผู้ชายคนนี้จะต้องมายืนรอเขาด้วยในเมื่อก็เป็นแค่คนที่รู้จักกันแค่ชื่อ
ผิดหวังที่เขาไม่ได้มายืนรอหรือไงอีซองมิน
ใบหน้าที่ดูราวกับขัดใจของอีซองมินยิ่งทำให้คยูฮยอนรู้สึกดี... ใจจริงแล้วก็มารอร่างบางนี่แหละแค่บังเอิญที่เขาก็ต้องรอเพื่อนตรงนี้ด้วยเช่นกันเท่านั้นเอง
“อา.. นั่นไงครับ พูดถึงก็มาพอดี ทงเฮอ่า” คยูฮยอนมองไปยังข้างหน้ายกมือขึ้นเพื่อทักทายเพื่อนของเขา ร่างบางหันกลับไปมองด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขอตัวแล้วเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่สนใจกับคำกล่าวลาจากร่างสูง
อะไรกัน? นี่เขากำลังหงุดหงิดอยู่หรือไง?
++++++++++++++++++
เมื่อคืน..
“คุณกำลังหมายถึง...ผมสนใจคุณ...อย่างนั้นหรือเปล่าครับ”
ร่างบางชะงักไปกับคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จัก เพราะคำพูดของคยูฮยอนกำลังทำให้หัวใจของอีซองมินเต้นแรงมากขึ้น...มากขึ้นเรื่อยๆ น่าขำที่ได้ยินคำพูดนั้นจากปากร่างสูงและไม่คิดว่าจะพูดออกมาตรงขนาดนี้
ใช่...เขากำลังหมายถึงเรื่องนั้น
“ตอบมาสิ” ร่างบางกำลังรีดเอาคำตอบจากร่างสูง
“คุณอาจจะไม่ชอบคำตอบของผมในตอนนี้ก็ได้นะ”
“อย่าอ้อมค้อมได้ไหม? ต้องการอะไรก็พูด ฉันไม่ชอบเดา”
คยูฮยอนเงียบไปโดยฉับพลันหลังจากประโยคนั้นของคนที่เขาคิดว่าน่าสนใจหลุดออกจากริมฝีปากระเรื่อยนั่น ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้เป็นคนที่ชอบความชัดเจนเกินไปหรือเปล่านะอีซองมิน คงไม่ง่ายสินะ
“คุณรู้อยู่แล้ว... เพียงแต่คุณไม่อยากคิดถึงมันมากกว่า”
ขายาวก้าวถอยหลังก่อนจะหันกลับแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นโดยทิ้งคำพูดที่คลุมเครือไว้ให้อีกคนได้คิดหนัก ไม่ชอบเลยจริงๆเวลามีคนมาพูดเรื่องที่ต้องให้วิเคราะห์ถึงมันจะชัดเจนอยู่เป็นนัยแล้วก็เถอะ แต่แค่พูดตรงๆมันจะเป็นอะไรหรือไง?
อีซองมินเบื่อ...
เบื่อคนที่ไม่ชัดเจน...
+++++++++++++++++
ถ้าหลับตาแล้วใจสงบ
ผมคงหลับฝันเห็นทุ่งทานตะวันไปนานแล้ว
หิมะจากนอกหน้าต่างกำลังเทลงมาจากท้องฟ้าสีคลึ้มอากาศที่หนาวเย็นขนาดนี้มันทำให้อยากจะอยู่แต่ในหอเท่านั้นทั้งอุ่นและสงบกว่าออกไปข้างนอก มือเรียวจับพู่กันอย่างเบามือขยับปลายนิ้วบังคับเฉดสีไปอย่างชำนาญจนค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
แก้วบรรจุน้ำสีใสถูกแต้มจนกลายเป็นสีฟ้าอ่อนจากการล้างน้ำจากพู่กันขนอ่อน ภาพที่เขากำลังวาดอยู่นั้นมันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเย็นๆที่หลังร้านเหล้าในวันนั้นขึ้นมา...
จู่ๆมือเร็ยวก็วางพู่กันลง อามรณ์ที่คิดว่าจะวาดรูปเพื่อแก้เหงายามที่ฮยอกแจไม่อยู่จบลงเพียงเพราะนึกถึงผู้ชายที่ชื่อ โจคยูฮยอน
อีซองมินคงจะประสาทไปแล้วที่นึกถึงผู้ชายคนนั้น
ถ้าหากโจคยูฮยอนชัดเจนกว่านี้อีกสักนิดเขาอาจจะมองร่างสูงในมุมมองใหม่ก็ได้แต่นี่อะไรกันบางครั้งก็ทำเป็นเหมือนจะสนใจเขาแต่บางครั้งก็ดูไม่ใส่ใจ มันน่าอึดอัดจริงๆ
ยอมรับได้ว่าส่วนหนึ่งในความรู้สึกของเขากำลังมองหาร่างสูงคนนั้นอยู่ แต่เพราะความคลุมเคลือนี่แหละ ที่ทำให้รู้สึกไม่ชอบใจ
Rrrrrrrr!
เสียงโทรศัพท์ดังเรียกความสนใจขึ้นมาร่างบางลุกจากเก้าอี้เดินไปหยิบเครื่องมือสื่อสารที่ต๊ะหัวเตียง
เบอร์: ไม่รู้จัก
Calling
.
ใคร?
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เบอร์ที่ไม่คุ้นนี่ทำให้เขาไม่อยากจะกดรับสายประสบการณ์ที่มีผู้ชายโทรมาขอมีเซ็กส์ผ่านโทรสายโทรศัพท์คราวก่อนนั้นยังคงชวนให้ขนลุกจนถึงตอนนี้ คิดชั่งใจอยู่นานจนปลายสายตัดไป เห็นว่าสายตัดไปแล้วจึงจะวางเก็บไว้ที่เดิมแต่เสียงเรียกก็ดังขึนอีก
บางทีอาจจะเป็นฮยอกแจยืมโทรศัพท์ใครโทรมาก็ได้ อาจจะมีเรื่องด่วน... กดรับสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบใบหู
“........................”
/นั่น....กระต่ายรับสายใช่ไหมครับ?/
“นั่นใคร?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่คุ้นและคำถามแปลกๆจากปลายสายก็คิดที่จะกดวางทันทีแต่ปลายสายก็พูดขึ้นมาซะก่อน
/เมื่อวานผมไม่ได้เจอคุณเลย คิดถึงจัง/
เชี่ยนี่ใครวะ!?
“ซีวอน นี่มึงกับพี่ทึกจะแกล้งอะไรกูห้ะ? ว่างมากก็ไปม่อสก๊อยไป!”
/จำผมไม่ได้หรอครับ? เราไม่ได้เจกันวันเดียวเองนะ/
................................
...................
..........
.....
..
.
“โจ คยูฮยอน...”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Talk with (K) yu
วันนี้มาอัพเล็กน้อย ตอนนี้ยังอยู่ในโหมตคลุมเคลือในความคิดของอีซองมินขนานแท้ ครวาหน้าจะมาต่อ คิดว่าซองมินอาจจะเปิดใจมากขึ้น (มั้ง) = =
ความคิดเห็น