ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : MINKEY | Snail
Title: Snail
Paring: Minho x Key
Genre: A/U, Romantic, Drama
Rate: PG-13
Story: Geeratii
BGM: 달팽이 Kyuhyun
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
บางครั้ง หนทางกลับบ้านนั้นมันช่างไกลเหลือเกิน
บางครั้งฉันก็เหนื่อยจนแทบหมดแรง
ฉันเปิดประตูออกแล้วหลับตาลง
ยามตื่นขึ้นมา ก็ไม่พบเจอใคร
ในห้องเช่าเล็กๆอันซอมซ่อนั้น
แทบที่จะไม่มีสิ่งใดๆเลยที่กำลังเคลื่อนไหว
ลมหายใจหนึ่งเดียวของฉันกำลังรวยริน ผะแผ่ว
และแล้วก็ผลันเหลือบไปเห็นกระดาษโน๊ตยับยู่ยี่แผ่นหนึ่ง ณ มุมห้อง
รู้ได้ทันที่ว่ามันคงจะถูกปาเข้ามาทางหน้าต่างเหมือนอย่างเคย
เมื่อลองคลี่ออก กึ่งกลางหน้ากระดาษสีเหลืองเต็มไปด้วยรอยยับย่น
ปากกาเมจิกสีดำขีดเขียนข้อความตวัดติดกันเรียงเป็นแถว
“ฉันรอทำรายงานอยู่นะ คีย์
-------------------- มินโฮ”
วันนี้ฝนตก เขาจึงกางร่มไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง
ไม่ได้พูดว่าอย่างไรออกไปเลย ทำเพียงแค่กระชับอ้อมแขนให้แน่นหนาขึ้น
พยุงเอาถุงอุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้มาจากซุปเปอร์มาเก็ตให้แนบลำตัว ...เพียงแค่นั้น
หยดน้ำที่กระจัดกระจายอยู่รายรอบตัวเรานั้นไม่ได้รุนแรงมากสักเท่าไหร่
เขาพยายามชวนคุย แต่ก็เหมือนกับว่า แทบที่จะไม่ได้รับคำตอบกลับไปแม้เพียงสักเล็กน้อย
ฉันยังคงยืนยัน ที่จะส่งเสียงงึมงำในลำคอบอกกลับไป
เพียงเพื่อให้รู้ว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่กำลังเดินอยู่ด้วยกันนี้ยังคงมีลมหายใจ ...ก็เท่านั้น
"อืม"
เราแยกจากกันที่มุมตึก ฝนหยุดตกแล้ว
หลังจากนั้น สังเกตเห็นดอกหญ้าเล็กๆชื้นน้ำที่ข้างต้นไม้ใหญ่
ถึงได้รีบผุดลุกผุดนั่งลงไปฉวยเอาดอกสีซีดนั้นขึ้นมาเก็บไว้
“นายชอบดอกไม้เหรอ?”
เกือบจะสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่ตรงนี้
ทำเพียงแค่พยักหน้ารับ แล้วรุดจากออกไปยังที่ของตนเองทันที
คนเรามีหลายๆเรื่องที่ไม่จำเป็นจะต้องทำด้วยความเป็นเหตุเป็นผล
ทั้งชื่นชอบ และเกลียดชัง มีบ้างที่ยอมตัดสินด้วยความรู้สึกและตัดเอาทฤษฎีความเป็นจริงนั้นออกไป
มือเล็กๆปิดทับลงบนหน้ากระดาษ
หลังจากที่วางเอาดอกหญ้าสีน้ำตาลซีดที่เพิ่งได้มาใหม่นั้นแทรกลงไป ก่อนจะรวบทั้งหมดเก็บเข้าชั้น
สุดท้ายก็ไม่วายจะหันไปสังเกตเห็น กำกระดาษยับยู่ยี่ที่คงจะเพิ่งถูกปาเข้ามาใหม่อีกแล้วนั่นจนได้
โน๊ตที่เขียนไว้บอกให้ อย่าลืมไปเรียนในตอนเช้า...
เปิดประตูห้องน้ำที่อยู่ถัดไปทางด้านข้าง
เมื่อนอนลงบนอ่างอาบน้ำเล็กๆนั่น
เจ้าหอยทาก ก็ค่อยๆคลานเข้ามาใกล้ๆ
และกระซิบบอกฉันด้วยน้ำเสียงเล็กๆของมัน
"พรุ่งนี้เช้า อย่าลืมไปเรียน"
คีย์เป็นนักเรียนทุนเรียนดีเด่นของมหาวิทยาลัย และคีย์รู้จักนิสัยของตัวเองดี
เป็นคนที่ไม่สามารถยึดติดกับชีวิตได้ เงียบๆ และจริงจังมาก
ลักษณะนิสัยไม่มีอะไรเลยที่เป็นพิเศษ ไม่ใช่ประเภทที่จะสนิทกับคนอื่นได้ทันที
และจะเว้นระยะห่างให้ไกลตัวเสมอ เขาจึงไม่มีเพื่อนสนิท
นอกจากตำราเรียนแล้ว ไม่มีความสามารถพิเศษ ไม่มีสิ่งที่สนใจเป็นพิเศษ
สิ่งสำคัญที่พอจะนึกออกได้นั้น มีเพียงดอกไม้แห้งในหนังสือที่สะสมไว้
และต้นกระบองเพรชเล็กๆที่ตัดสินใจเลี้ยงไว้ที่ริมหน้าต่าง
สภาพจิตใจแห้งแล้ง เหมือนคนที่ปฏิเสธอาหาร
แบ่งแยกสิ่งที่ชอบและไม่ชอบออกจากกันอย่างชัดเจน
ชีวิตแต่ละวัน ... ขวนขายทั้งๆที่ยังไม่รู้ถึงจุดหมาย ไม่แม้แต่จะได้มีเวลามองดูบรรยากาศรอบกาย
บนท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยรถราแสนวุ่นวายนัก
ฉันยืนอยู่ที่ร้านเล็กๆตรงหัวมุมถนน
ไอศครีมในมือเริ่มที่จะละลายแล้ว ... ดวงอาทิตย์ที่อยู่ห่างออกไปไกลแสนไกลทอแสงมา
ตัดเข้ากับเงาสะท้อนที่กระจกรถราที่วิ่งผ่าน
ภาพตัวเองที่ได้เห็นนั้นช่างดูบิดเบี้ยวและเลือนลางเต็มทน...
ทันใดนั้น เจ้าหอยทากตัวเล็กๆก็ค่อยๆคลานเข้ามา
แล้วร้องบรรเลงเพลงให้ฉัน
เพราะฝนเริ่มตก
แรงฉุดที่แขนทำให้รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขาจูงมือพาวิ่งออกมาเรื่อยๆ และดันตัวฉันให้เข้าไปหลบที่ภายในตู้โทรศัพท์
ในขณะที่ไอศครีมในมือกลับละลายเลอะเปอะเปื้อนเต็มไปหมด
เขาส่งเสียงหัวเราะ แล้วโน้มใบหน้านั้นลงสัมผัสปลายลิ้นเข้ากลับเรียวนิ้วที่กำลังสั่นไหว
ครีมสีขาวถูกละเลียดและค่อยๆถูกดูดกลืนหายลับไป
รับรู้ถึงรสชาตินั้นได้
ตอนที่เราจูบกัน
. . . . . . . .
. . . . .
. .
.
ผลักประตูออกเหมือนเก่า ก่อนที่จะค่อยๆเบียดตัวตามเข้าไป
กระดาษแผ่นใหม่ยังคงถูกทิ้งเอาไว้ที่เดิมอีกครั้ง
“บ่ายวันพรุ่งนี้เจอกันที่เดิม อย่าลืมไปทำรายงานนะคีย์
------------------------------------------------ มินโฮ”
ทันใดนั้นเจ้าหอยทากตัวน้อยก็ส่งเสียงบรรเลงเพลงของมัน
และชักชวนฉันให้เข้าไปอยู่ข้างในความฝัน
สวนสาธารณะที่เคยนัดพบ กับรายงานคู่ที่ทำร่วมกันถูกกางออกเต็มที่ผืนผ้ารองนั่ง
แต่จู่ๆ กลับได้ยินเสียงคุ้นหูแต่ผิดแปลกกันออกไป
โมบายแก้วที่ถูกจับขึ้นมาผูกด้วยริบบิ้นสวย ถูกแขวนเอาไว้ที่ปลายกิ่งไม้ใหญ่
ทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมา
ตัวทั้งตัวกำลังสั่น และเริ่มต้นร้องไห้
เขาวิ่งเข้ามากอดร่างทั้งร่างนี้เอาไว้ เอาแต่พร่ำซ้ำคำเดิมๆว่าฉัน “เป็นอะไร?”
แต่ฉันเหมือนกับว่า ทุกสิ่งอย่างในความเป็นจริงบนโลกใบนี้กลับค่อยๆเลือนลางและจมหายไปต่อหน้า
ถูกบดบังแทนที่ด้วยเรื่องราวอันแสนเลวร้ายที่ไม่คิดเลยว่าจะตระหนักมันขึ้นมาได้อีก
เรื่องเศร้าที่เหมือนว่าจะลืมไปได้แล้วนั้น
แต่ไม่มีวัน
“แล้วพ่อกับแม่จะกลับมารับหนูนะ คีย์”
คู่ชายหนุ่มและหญิงสาวที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีด้านหน้า กำลังส่งยิ้มอันแสนจะอ่อนโยนนั้นมาให้เขา
เด็กชายจึงได้แต่จำต้องยิ้มรับกลับ ไม่รู้จริงๆว่าควรทำอย่างไรในตอนนี้?
ก่อนที่มือหนึ่งจะยื่นเข้าไปรับเอาโมบายแก้วรูปร่างน่ารักนั้นเข้ามาไว้ พร้อมกับรับฟังคำพูดสุดท้ายของผู้เป็นแม่
“หนูจะไม่เหงาหรอกนะจ๊ะ ตอนที่หนูได้ยินเสียงของโมบายนี้ก็เหมือนกับพ่อและแม่กำลังอยู่ข้างๆลูก”
และเขาถูกทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งๆที่ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ
คีย์ทำตาม ทุกอย่างที่แม่บอก
จวบจนเวลา 10 ปีผ่านไป เฝ้าจับจ้องโมบายที่ริมหน้าต่างอย่างเดียวดายเรื่อยไป
รอคอยว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะกลับมา
แต่แล้วนานวันเข้า คีย์ถึงได้รู้แล้วว่า พวกเขาพูดโกหก
“หนูจะไม่เหงาหรอกนะจ๊ะ”
แม่พูดโกหก
เหงาสิ
เหงา
เหงาเหลือเกิน
ยามที่เม็ดฝนเล็กๆกระเซ็นสาด คีย์เหงาจับขั้วหัวใจ
โหยหา เรียกร้อง อ้อนวอนแต่ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีใครนอกเสียจากตนเอง
"ตอนที่หนูได้ยินเสียงของโมบายนี้ก็เหมือนกับพ่อและแม่กำลังอยู่ข้างๆลูก”
มันเป็นเรื่องโกหกนั่นเอง
วันแล้ววันเล่า
นานมากจนชินชา
ชินชากับความเหงา เดียวดาย และไม่มีใคร
คีย์เคยถามตัวเอง ถามพระเจ้า ถามความว่างปล่าวที่ตรงหน้า
ทำไมถึงต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วยนะ??
ฉันมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเลือนหายไปราวกับหมอกควัน
ด้วยความเข้มแข็งที่ยังคงหลงเหลือ
ฉันจะไปจากความเพ้อฝันนั้น
ฉันจะลืมทุกสิ่ง ... ฉันจะลืมทุกๆอย่างที่ผ่านพ้น
แล้วฉันจะข้ามท้องทะเลที่แสนกว้างใหญ่...
มินโฮตระกองกอดร่างเล็กๆตรงหน้านั้นเอาไว้ ทั้งด้วยความรู้สึกสงสารและแสนที่จะห่วงใยจนแทบบ้า
ประคองยกเอามืออีกคู่หนึ่งนั้นขึ้นแนบป้องปิดที่ใบหูของคนที่เต็มไปด้วยน้ำตาอย่างแผ่วผิว
ก่อนจะกระชากเอาผ้าปูผืนบางนั้น ขึ้นกางห่มร่างของคนทั้งคู่
รู้สึกขอบคุณแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปในที่สุด
คีย์ถูกส่งที่หน้าตึกห้องเช่าของเขา
บ่ายวันต่อมาทันทีที่ลืมตาตื่น ก็เจอเข้ากับโน๊ตแผ่นใหม่ที่มีใจความเรียกให้ออกไปหา
มินโฮอยู่บนรถจักรยานคันเก่าของเขา แต่ตอนนี้มันแปลกตา
ก็เพราะว่ามีดอกไม้ ดอกหญ้าน่ารักมากมายผูกติดประดับเอาไว้ด้วยเชือกและริบบิ้นสีสวย
เขายกยิ้มแล้วโค้งตัวให้ ผายมือข้างหนึ่งออก
เพื่อบอกให้คีย์นั่งลงที่เบาะด้านหลังนั้น
ถนนทั้งเส้นกลายเป็นสีดำจัดเมื่อถูกอาบไปด้วยหยาดน้ำฝนที่น่าจะร่วงหล่นลงมาในยามเช้า
คีย์ประมาณเหตุการณ์เอา เพราะหลับไปจนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆเข้าเสียแล้ว
เขากระชับเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของคนด้านหน้า เมื่ออีกฝ่ายกำลังถีบกงล้อขึ้นมาสู่เนินที่มีขนาดใหญ่
ความชื้นของเนื้อผ้านั้นสร้างความสงสัย
คีย์อยากรู้ว่ามินโฮมารอเขาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
เบรกถูกเหยียบเพื่อหยุดรถ
คีย์รู้สึกตัวอีกที ตอนที่ได้ยืนอยู่บนถนนเส้นใหญ่ที่ปูยาวขนานกันไปกับชายหาด
แววระยิบระยับในดวงตาคู่สวยนั้นทำให้มินโฮแทบหลุดยิ้ม
เขาก้าวลงนำ แต่คีย์ก็ยังยืนนิ่งงันอยู่ที่เก่า
ในที่สุดมินโฮจึงตัดสินใจยื่นมือข้างหนึ่งของเขาส่งไปให้ และแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความรู้สึกลังเลใจ
แต่คีย์ก็ยอมปล่อยน้ำหนักของฝ่ามือเล็กๆของเขาลงไปบนฝ่ามือใหญ่นั้นเสียแล้ว
ทว่าตัดสินใจหยุดฝีเท้าลงอีกครั้งเมื่อถึงระนาบคลื่น คิ้วมินโฮขมวดมุ่น
พยายามกระชับมือนั้นให้หนักแน่นกว่าเก่าอีกครั้งเพื่อบอกให้ไปต่อ
และรู้สึกว่าจะเป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้ง ที่มินโฮได้เห็นคนตัวเล็กแสดงความรู้สึคกออกมาทางสีหน้า
ดวงตาคู่กลมที่หลุบต่ำกำลังสั่นไหว ก่อนที่จะช้อนขึ้นมาจ้องลึกกลับไปในดวงตาคมของอีกฝ่าย
กระแสเว้าวอนอย่างนั้นมินโฮไม่เคยจะรู้สึกได้มาก่อน
เขายกยิ้ม และปล่อยเสียงหัวเราะ
กลัวทะเล?
อย่างนั้นเหรอ?
มินโฮเขยิบเข้าไปใกล้อีกหน่อย
ใกล้เสียจนปลายเท้าของตนจรดชนกับปลายเท้าเล็กๆของคีย์
“เหยียบสิ”
คีย์ทำตาโตใส่ เขาไม่เข้าใจ
“ยืนบนเท้าฉันสิ”
นานทีเดียวกว่าเขาจะจำยอม
คีย์ยกฝ่าเท้าข้างหนึ่งขึ้นวางไว้บนฝ่าเท้าใหญ่อย่างง่ายดาย
และคราจะยกเอาเท้าที่สองตามขึ้นไปนั้นกลับทำให้ร่างทั้งร่างนั้นโอนเอนเซถลาแทบล้มคว่ำ
มินโฮไม่วายหัวเราะก่อนจะเอื้อมออกไปประคองกอดเอวบางให้แนบชิดกันยิ่งกว่าเก่า
ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง ก็ตามจับเอาอ้อมแขนของคีย์วางพาดไว้ที่ต้นคอของตนเอง ไม่รีบร้อน
คีย์จ้องตาเขาเขม็ง แต่มินโฮไม่มีทางรู้ได้หรอก
ว่าความรู้สึกที่หลบซ่อนอยู่ภายในนั้นเป็นเช่นไร
แล้วมินโฮเริ่มเต้นรำ
ก้าวเท้าซ้ายบ้าง ขวาบางตามสเตป หนึ่ง สอง สาม
จนเมื่อก้าวล้ำไปสัมผัสกันกับระลอกคลื่นคีย์ก็พลันสะดุ้งตะกายกอดเขาไว้แทบไม่ทัน
ได้หัวเราะเรื่องที่ไม่ควรขึ้นมาอีกเสียแล้ว เขายอมผละมือข้างหนึ่งจากเอวบาง
ขึ้นมาลูบไล้ไปที่ปลายเส้นผมสีอ่อนนั้นอย่างปลอบประโลม
“ไม่ต้องกลัวนะ ... ฉันอยู่นี่ คีย์”
มินโฮร้องเพลง
ร้องออกมาเพียงเพราะว่าแค่อยากร้องด้วยความรู้สึกนึกสนุก
แต่น่าแปลก คีย์กลับเริ่มรับรู้ ความรู้สึกมายมายเกิดขึ้นรายร้อมตัวเขา
“เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันจะไปถึงสุดขอบท้องทะเลแสนกว้าง
ไปจากโลกที่แสนเจ็บปวดนี้
ไปในที่ที่ไม่มีใครพบเห็น
ฉันจะตามเสียงคลื่นที่ดังก้องกังวาน
แล้วจากไปตลอดกาล...”
น่าเสียใจที่รู้ตัวอีกทีว่ามันเป็นเพลงเศร้า
ก็ในตอนที่คีย์ของเขากำลังร้องไห้
“เมื่อถึงวันนั้น ... นายจะมีฉัน คีย์”
คีย์ยิ้ม
.
.
มินโฮรู้ดี ว่าคีย์เป็นคนแบบไหน?
ลักษณะนิสัยไม่มีอะไรเลยที่เป็นพิเศษ เป็นคนแบบที่ไม่สามารถยึดติดกับชีวิตได้
เงียบๆ และจริงจังมาก เว้นระยะห่างจากคนอื่นไว้เสมอ ทำให้ไม่มีเพื่อนสนิท
นอกจากตำราเรียนแล้ว ไม่มีความสามารถพิเศษ ไม่มีสิ่งที่สนใจเป็นพิเศษ
เย็นชาและเกือบที่จะเรียกได้ว่า ไร้ความรู้สึก
แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ ที่คนประเภทนี้เวลายิ้ม
มันถึงได้ดูน่ารักสิ้นดี
ให้ตายเถอะ♥
ในบางครั้งหนทางกลับบ้านที่ดูแสนจะห่างไกลนั้นช่างใกล้เหลือเกิน
บางครั้งการที่ความรู้สึกต่างๆมายมายกำลังรุมเร้าเราอยู่อย่างนี้ก็ทำให้แทบที่จะหมดแรง
เมื่อเปิดประตูออก แล้วหลับตาลง
ยามตื่นขึ้นมาก็ไม่พบใคร
นอกเสียจากกระดาษโน๊ตยับยู่ยี่แผ่นใหม่ที่ถูกทิ้งไว้ใกล้กระบองเพรชต้นเล็ก ที่เดิม ข้างหน้าต่าง
ที่ร้านไอศครีมเล็กๆตรงหัวมุมถนน บนรถประจำทาง ตู้โทรศัพท์
หรือแม้แต่เมื่อนอนลงบนอ่างอาบน้ำเล็กๆนั้น
เจ้าหอยทากก็ค่อยๆคลานเข้ามาใกล้ๆ
กระซิบบอกข้อความ บรรเลงบทเพลงด้วยเสียงเล็กๆของมัน
เพื่อฉัน♥
ความรักที่เกิดขึ้นช้าๆ เหมือนกับการเดินทางของหอยทาก
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น