ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { SHINee } Fiction | twinkle☺

    ลำดับตอนที่ #2 : MINKEY | NOTHING CAN STOP ME FROM LOVING YOU ❤

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 53



    Title: NOTHING CAN STOP ME FROM LOVING YOU ❤
    Paring: Minho x Key
    Genre: A/U, Romantic, Drama
    Rate: PG-13
    Story: Geeratii
    BGM: Y.O.U - SHINee


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -












    คีย์น่ะตัวเล็กแค่นิดเดียว ..

    ร่ายกายบอบบางแล้วก็ยังอ่อนแอมากๆมาตั้งแต่เด็ก
    เพราะอย่างนั้นจึงแทบที่จะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนต่อไหนสักเท่าไหร่ ถูกกำชับสั่งห้ามเอาไว้เด็ดขาด
    แม้จะดูเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไปหน่อย แต่คีย์ก็รู้ถึงขีดจำกัดความสามารถของตัวเองดี ว่าทำเรื่องนู่นนี่
    ได้หรือไม่ได้ .. ถึงจะไม่ได้เต็มใจ แต่ก็ต้องทนรับเอาความทรมานจากร่างกายนี้ทั้งหมดไว้ด้วยตัวเอง
     
    คีย์ต้องกินยาทุกๆคืน นอกจากนั้นยังต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำเพื่อตรวจเช็คสุขภาพ 

    ตั้งแต่เด็กแล้วความฝันที่กว้างใหญ่ที่สุดเท่าที่คีย์จะนึกออก
    เป็นเพียงการใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุขแบบคนทั่วไป ไม่มีโรคภัย
    หนีพ้นออกไปจากจุดที่เค้ากำลังยืนนิ่งงันอยู่นี้ให้ได้ .. ก็เท่านั้น








    Promise





    ฉันได้มาพบกับเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
    ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
    แต่ฉันกลับโกรธทุกคน ที่บอกให้ฉันเลิกพยายาม เพราะว่ามันยากเกินไป
    ไม่มีทางหรอก ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงความดึงดันนั้นให้ได้... 


    ในวันนั้น มินโฮไม่รู้เลยว่าทำไม

    ตอนที่อายุได้เพียงแค่ 10 ขวบ เขามองเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งกำลังแอบมองมา
    ท่าทางกล้าๆกลัวๆนั้นคล้ายกลับว่ายังคงตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ ใจหนึ่งก็อยากจะก้าวขา
    ทว่าใจอีกก้าวหนึ่งกลับถูกฉุดรั้งไว้ด้วยความหวาดกลัวที่ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าอะไรทั้งหมด

     
    ตอนนั้น
    เป็นเพราะว่าสงสาร ..?

    หรือจะเหตุผลอื่นๆ มินโฮเองก็ไม่ได้เข้าใจนักหรอกนะ

    แต่ฝ่ามืออบอุ่นที่ใหญ่กว่านั้นก็ยื่นตรงออกไป
    อย่างไม่มีความลังเลใจแม้สักน้อยนิด..


    "มาสิ เล่นด้วยกัน" คนตัวสูงกว่าพูดด้วยสีหน้าท่าทางเป็นจริงเป็นจัง
    ทำเอาคนคู่สนทนาถึงกับผงะไป
     

    คีย์เหลือบสายตาลงมอง  ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับไปมากกว่าออกปากว่าด้วยทีท่าอึกๆอักๆ

    "ตะ แต่ คุณแม่..."


    ยังไม่ทันจบประโยค แต่มินโฮกลับตรงเข้าคว้าหมับที่มือเล็กนั้น แม้ไร้ซึ่งคำอนุญาต

    "อยากเล่นก็มาเล่นด้วยกันสิ! ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร ถ้าแม่นายว่า..ก็บอก เป็นเพราะฉันเอง"

    ".. ."
     

    "ถ้าอ่อนแอนัก ก็ต้องพยายามที่จะแข็งแรงให้ได้สิ! มานี่..จับมือเอาไว้แน่นๆ"


    และนั่นเป็นครั้งแรกที่คีย์เกิดความรู้สึกน่าประหลาดอย่างนี้
    ไม่เคยทำมาก่อน..ได้กระโดดสูง วิ่งเล่นภายใต้แสงแดดอ่อนๆ
    ได้เตะฟุตบอล ได้ปั่นจักรยานลงเนิน จูงมือเพื่อน เดินเที่ยวไปในที่ไกลๆ
    ได้ยิ้ม ได้หัวเราัะ
    ได้มีความสุขมากมายขนาดนี้..

    คีย์ไม่เคยพบเจออะไรก็ตามที่กล่าวมานี่ .. จนกระทั่ง เขาได้มาพบกับมินโฮ



    ฉันรักมินโฮ

    รักฝ่ามือใหญ่ที่แสนอบอุ่นนั้น
    รักความใจดีที่มีให้ฉัน
    รักเพราะฉัน .. เป็นของมินโฮ


    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้








    Candy drug





    "ถ้าอ่อนแอนัก ก็ต้องพยายามที่จะแข็งแรงให้ได้สิ!"

    ดูเหมือนว่าตอนที่ได้กล่าวประโยคที่ฟังดูดีนั้น มินโฮจะลืมคิดไปล่ะมั้ง
    ว่าเป็นความจริงที่ว่า คนอ่อนแอทุกคนต่างก็พยายามที่จะแข็งแรงขึ้นมาให้ได้อยู่แล้วล่ะ ..
    ลืมคิดไปถนัดว่าที่เป็นอยู่นี่แหละ คือความพยายามทั้งหมดที่ตอนนี้คีย์สามารถทำได้แล้ว

    คืนนั้นคีย์ถูกหามส่งโรงพยาบาลกลางดึก เพราะอาการหอบและโรคประจำตัวเกิดกำเริบ
    ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้สาเหตุจริงๆเลยว่าเป็นเพราะอะไร?

    เพราะคนตัวเล็กเองก็ไม่ปริปากพูดสักคำ
    คีย์เพียงแค่ส่งยิ้มพร้อมทั้งสายตาที่ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขแปลกไปจากที่เคยมีมาให้
    และคนตัวเล็กก็กลับมีทีท่าว่าพึงพอใจมากเสียน่าประหลาด..




    1 อาทิตย์หลังจากที่นอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลคีย์ก็ถูกปล่อยตัวให้กลับมา
    ในจิตใจเล็กๆที่สงบนิ่งนั้นกำลังเปล่งประกายระยิบระยับแจ่มใสเมื่อนึกไปถึง...
    อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ เค้าก็จะัได้กลับออกไปข้างนอกอีกครั้ง

    เจอกับเพื่อนใหม่นั้นอีกครั้ง

    คีย์อยากวิ่งไล่จับอีกจัง..
    อยากจะก่อกองทราย หรือว่าไกวชิงช้าให้สูงกว่าที่เคยทำมาในครั้งไหนๆ

    ต้องแข็งแรงกว่านี้ให้ได้..
      
    เขาแย้มยิ้ม



    และเพราะได้ยินเสียงกุกกักไม่คุ้นหูที่ริมหน้าต่างบานใหญ่ คีย์ถึงได้หันหน้าออกไปดู
    ก่อนที่ภาพที่เห็นนั้นจะถึงกับทำให้ คนตัวเล็กร้องอุทานตกใจ
    จนเรียงเรียบออกมาเป็นคำพูดที่ฟังให้เป็นภาษากว่านั้นไม่ได้แล้ว

    สภาพของเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่เพิ่งปรากฏ หยุดเอาสายตาของเขาไว้ชะงัก
     

    ทั้งผมเฝ้า หน้าตา รวมไปถึงเนื้อกาย และบรรดาเสื้อผ้า ในเวลานี้
    .. ดูสกปรกยุ่งเหยิงเป็นที่สุด
    บางแห่งเปราะเลอะเป็นแถบยาวไปด้วยคราบของดินโคลนทีทะมึน
    ส่วนบางแห่งก็กลับเป็นเศษซากใบไม้ทั้งแบบสดและแบบแห้งเกาะติดกันอยู่ทั่วไป
    ที่ยิ่งกว่านั้นคือบาดแผลถลอกปอกเปิกที่กระจายกว้าง
    ประดั่งว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตระหนกหรือน่าแปลกประหลาดใจใดๆทั้งนั้น 

    คีย์ถลึงตามอง อ้าปากค้าง
    ทั้งคู่เบียดตัวผ่านบานหน้าต่างบานใหญ่นั่นเข้ามา
    พอทิ้งน้ำหนักตัวลงบนพื้นพรมด้านล่างได้ ก็ถึงกับหอบหายใจไม่เป็นจังหวะ

    "บ้านนาย .. นี่มันสูงจังเลยคิบอม.." มินโฮพูดหลังจากที่หย่อนกายลงนั่ง
    คีย์มองทั้งคู่ตาโตซ้ำแล้วซ้ำอีก ขยับตัวขึ้นพิงกับหมอนเปลี่ยนเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนด้วยความร้อนรน

    "พวกนายมา .. มาได้ไง??" และคีย์คงไม่รู้เลยว่าตอนนี้
    เสียงที่เปล่งออกมาทั้งหมดนั้นมันช่างเครือสั่นอย่างหนักโดยไร้สาเหตุ

    ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้คีย์รู้สึกว่า อยากจะร้องไห้จัง..



    "นี่ไง ~" จากนั้นเด็กชายอีกคนหนึ่งก็ตรงดิ่งเข้ามา
    คีย์จำได้ว่านี่คือใคร .. จงฮยอน .. เพื่อนสนิทของมินโฮ
    จงฮยอนเป็นเพื่อนใหม่ของเขาอีกคนเช่นกันหลังจากเหตุการณ์ใน'วันนั้น'
    คีย์คิดแล้วถึงกับอมยิ้ม

    ไม่นานจงฮยอนก็เดินตรงดิ่งเข้ามา จัดแจงยื่นเอาห่อผ้าขนาดย่อมมาวางไว้ในมือเขา
    ส่วนมือทั้งคู่ของตนก็รีบร้อนเผยสิ่งของที่อยู่ภายในด้วยทีท่าตื่นเต้นและลุ้นระทึกอยู่กับผลลัพธ์นั้นน้อยๆ
    เมื่อห่อผ้าถูกแกะออกจนหมด คีย์จึงได้เห็นขวดโหลรูปร่างน่ารักสีใสขวดหนึ่งวางอยู่
    ภายในขวดใบนั้นเต็มไปด้วยเม็ดกระจิดริดของลุกหวาดหลากหลายสี เดาได้ว่าคงมีหลายรสชาติ
    รวมไปถึงรูปร่างหรือขนาดนั้นก็แต่งต่างกันออกไป 

    ปากขวดนั้นถูกบีบให้แคบลงและปิดแน่นเอาไว้ด้วยจุกก๊อกทำจากไม้
    เพิ่มความน่ารักน่าชังด้วยริบบิ้นสีชมพูที่แค่ดูเผินๆก็รู้ว่าบรรจงม้วนผูกเป็นโบว์เล็กๆน่ารักนั่นแค่ไหน
    น่ารักมากๆ... คีย์คิด


    และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาจับจ้องมองสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นตรงหน้านั้นแน่นิ่ง


    เขาไม่รู้ว่าควรที่จะพูดอะไรออกไป ทว่าเสียงของจงฮยอนยังคงดังขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนี้ได้ทันท่วงที


    “ของเยี่ยมไข้จากทุกคนน่ะ^^” คนตัวโตอธิบาย 
    “พวกเรารวมเงินค่าขนมกันซื้อมาให้นายนะ เอามาให้พร้อมกันทุกคนไม่ได้ 
    ฉันกับมินโฮก็เลยอาสาเอามาส่งแทน .. เพราะได้ข่าวว่านายไปนอนโรงพยาบาลมา คุณแม่ของมินโฮบอก”
     

    คีย์ยิ้ม พยักหน้าหงึกหงักอย่างรัวและเร็ว 
    สุดท้ายมันเลยทำให้น้ำตาที่ปริ่มล้นที่บริเวณขอบตาแดงรื้อนั้น
    ไหลลู่ลงมาอย่างไม่สามารถที่จะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

    “คีย์!! ร้องไห้ทำไม!!!?” ทำเอาคนที่มองดูอยู่ร้องเสียงดังตกใจ
    จงฮยอนที่ยืนอยู่ข้างเตียงของคีย์ส่งเสียงอุทาน ปากก็พะงาบๆทำนองว่าพูดอะไร ทำอะไรไม่ถูก
    ไม่รู้ว่าควรจะปลอยใจคีย์ยังไง 

    ที่สำคัญคือปลอบใจเรื่องอะไรนี่สิ !


    “ฮือ .. ฉันดีใจ .. ดีใจจังเลยจงฮยอน .. มินโฮ แล้วก็ทุกคน 
    ฝากบอกทีนะ..ฉัน ฉันน่ะรู้สึกขอบคุณมากๆเลย..”
    คีย์วางโหลแก้วนั้นลงบนตัก แล้วเฝ้ามองดูมันอย่างนึกรักไม่แพ้ผู้ให้เลยสักนิด
    เป็นแบบนั้นจงฮยอนถึงได้ยิ้มออกมา 

    นึกว่าเรื่องอะไรซะอีกน๊า
    ..

    “อ่าๆ..โอ๋ๆ ไม่ร้องน้า^^” เขาว่า ก่อนที่จะยกมือข้างหนึ่ง
    ขึ้นลูบไล้ไปตามปอยผมของคนด้านหน้าไปมาอย่างเอ็นดูบ้าง 


    “แต่เดี่ยวขอบอกไว้ก่อน ! นี่ไม่ใช่ลูกอมธรรมดานะ .. เน๊อะมินโฮ?!
    คนขายบอกว่ามันเป็นยาวิเศษที่รักษาได้ทุกโรคเลยล่ะ
    คิบอม .. ถ้านายปวดท้องล่ะก็พอกินยานี้ก็จะหายปวดทันทีเลย
    หรือว่าตอนที่เป็นไข้มันก็ทำให้ตัวนายเย็นลงได้ด้วย วิเศษใช่มั๊ยล่ะ !”
    เด็กชายพูดอย่างจริงจัง ทำเอาคีย์ที่กำลังตั้งใจฟังถึงกับถลึงตาโตๆนั้น
    มองสิ่งของด้านหน้าด้วยอาการทึ่งหนักเป็นสองเท่า
     


    “จริงเหรอO_o?!” 


    “ช่าย .. พวกเราทุกคนนะคิดว่า นี่มันเหมาะกับคิบอมจริงๆเลย .. ใช่มั๊ยล่า^^”
    คีย์รู้สึกซึ้งใจจริงๆ อยากจะร้องไห้ออกมาเพราะว่าตื่นตันใจครั้งแล้วครั้งเล่า
    และคีย์อยากจะพูดขอบคุณออกมาจากใจอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน 

    เขาขอบคุณจริงๆ...


    “อือ .. ขอบใจมากเลย .. ไม่รู้ จะขอบใจยังไงดี” ความรู้สึกที่ว่าเล็ดลอดออกมาจากปากบางอีกครั้ง
    ทว่าขณะเดียวกัน คนที่นั่งเงียบฟังทั้งจงฮยอนและคีย์คุยกันอยู่นาน
    กลับผลุดลุกขึ้นมาเสียรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว และแม้จะอยากพูดท้วงติงอะไรออกไป
    แต่ก็กลับเป็นมินโฮนั่นแหละที่หยุดประโยคของร่างบางไว้ด้วยคำพูดของตนเอง
     


    “ถ้าอยากรีบๆกลับไปเล่นด้วยกันอีก .. ก็หยุดร้องไห้แล้วทำตัวเข็มแข็งสักที
    คนอื่นทำได้ทำไมนายจะทำไม่ได้ .. ไปได้แล้วจงฮยอน” 
    จากนั้นมือหนาก็ตรงเข้าผลักกระจกบานใสให้กางกว้างออกแล้วเบี่ยงตัวลอดเข้าไป
    คีย์ยังคงตกใจอยู่ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงความหมายที่แท้จริงในสิ่งที่คนตัวสูงพูด
    ก็รีบป้องปากตะโกนไล่หลังมินโฮไป 


    มินโฮ .. จะได้ยินมั๊ยนะ ?


    ว่าเขาน่ะ ..
     



    ม .. มินโฮ .. ขอบคุณนะ!!




    ขอบคุณนะมินโฮ ..




    ไม่นานหลังจากที่จงฮยอนรีบตามอีกคนออกไป เสียงกุกกักนอกหน้าต่างก็เงียบลง
    คีย์ยกขวดโหลใบใสขึ้นมากอดเอาไว้ ด้วยความรู้สึกที่ ..
    ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน เค้าก็ไม่มีวันที่จะลืมหรือทำมันสูญหายจากไปได้เป็นแน่


    มีความสุขจัง ..




    ฉันรักมินโฮ
    รักความอ่อนโยนที่ถูกส่งผ่านถ้อยคำที่ดูไม่ได้รับการใสใจนั่น..
    รักความเป็นมินโฮที่แสดงออกมาอย่างซื่อตรงเหลือเกินแบบนั้น..
    รักทุกถ้อยคำธรรมดาที่ล้วนแฝงไปด้วยความจริงใจและห่วงใยอยู่ภายในตัวของมัน

    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังยิ้มได้นั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้


    ฉันรักมินโฮ..




    หลังจากนั้นคีย์บอกทุกคนว่า เขาไม่เคยรุ้สึกปวดหัวมากๆอย่างที่เคยเป็นอีก
    เขาไม่ปวดท้อง ไม่รู้สึกเหนื่อยหอบ หรือแม้แต่เวียนศีรษะ
    อยากจะอาเจียนออกมาหนักๆอย่างที่มักต้องทำประจำ
     
    ทุกครั้ง .. ก่อนที่มันจะเป็นแบบนั้น 

    คีย์รีบหยิบเอายาวิเศษขึ้นมาเม็ดหนึ่งจากขวดโหลแก้วที่เจ้าตัวแอบซ่อนไว้หลังหมอน
    หยิบสีสันและรสชาติที่หัวใจปรารถนาขึ้นมา แล้วเค้าก็ค้นพบว่า .. 
    มันเป็นอย่างที่จงฮยอนได้โอ้อวดสรรพนามของเจ้าบรรดาเม็ดยานี่ไว้จริงๆด้วย
    .. 

    คีย์ไม่ได้โกหกเลย .. หากแต่เม็ดยาลูกกวาดสีสวยนั้น
    ทำให้อาการต่างๆที่ร่างเล็กเคยประสบพอเจอหายขาดไปได้
    ทีละเล็ก .. ทีละน้อย
    คีย์เชื่อมั่นอย่างมากมายเหลือเกินในมัน ไม่ว่าเค้าจะอ่อนแอถึงเพียงใด อยู่ที่ไหน และเมื่อไหร่
    เขาก็จะกลายเป็นคนที่เข็มแข็งได้ ..

    ก็เพราะว่านั่น เป็นยาที่ถูกส่งมาพร้อมกำลังใจและความรักจากทุกๆคนนี่นา








    Key necklace






    Years will come and years will go..

    좋은 날 나쁜 날도(เมื่อมีวันดีๆ ก็ต้องมีวันที่ไม่ดีเหมือนกัน)

    언젠간 늙어져도(เมื่อพวกเราเติบโตมากกว่านี้)...


    จากวันนั้นจนแม้ว่าจะขึ้นมัธยมต้นแล้วก็ตาม ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงอยู่ด้วยกัน..


    แม้ว่าเวลาจะผ่านไปมาก แต่คีย์นั้นยังคงเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าใครเพื่อนไม่เปลี่ยน 
    รูปร่างที่ดูผอมบางจนเกินไปนั้นช่างไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ตอนที่มีลมแรงๆพัดไหวผ่าน 
    จงฮยอนมักจะพูดแซวขึ้นบ่อยๆ .. ว่าสักวันเขาอาจจะไปเจอคีย์แขวนอยู่ที่กิ่งไม้ใหญ่ที่ไหนสักที่ 
    เพราะถูกลมพวกนี้พัดหอบไปก็เป็นได้ คีย์เองได้แต่หัวเราะ
     
    ทว่าทำไมทุกคนจะไม่รู้ล่ะ .. ว่าคีย์นั้นแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก 
    มาก
    จริงๆ ถึงขั้นที่ว่าพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าคนตัวเล็กคนนี้เคยนอนอยู่โรงพยาบาลตอนเด็กๆมาเป็นแรมปี 
    สำหรับคนอื่น ช่วงเวลาอย่างนี้อาจจะเป็นเรื่องที่แสนธรรมดา
    ทว่าสำหรับคีย์ มันช่างเป็นความสุขที่แสนมีค่า งดงาม อบอุ่นเสียยิ่งกว่าที่เค้าเคยคิดฝันไว้ว่าจะมีในชีวิตจริงๆ

    คีย์วิ่งเล่นเป็นเวลานานๆได้ เล่นฟุตบอลหรือแม้แต่กีฬาชนิดอื่นๆได้
    มากไปกว่านั้นคีย์ยังสามารถปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ ..
    ไปหามินโฮที่มักจะชอบปลีกตัวออกมานอนพันผ่อนบนเพิงไม้สูงที่ถูกสร้างไว้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ
     

    กับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีความทรงจำส่วนใหญ่อยู่ภายในโรงพยาบาลอย่างเขา
    เรื่องแบบนี้ก็คงจะเรียกได้ว่าเป็นได้แค่ความฝันจริงๆล่ะมั้ง .. 
    และถ้าหากตอนนี้มันเป็นแค่เพียงความฝันที่จิตสำนึกของเขาสร้างขึ้นมาเองจริงๆล่ะก็ 
    เค้าคงวอนขอให้คนๆนี้ไม่มีวันตื่น..
     
    แต่เพียงเพราะทุกคน.. เพราะมินโฮ 
    คีย์ถึงได้ถูกปลุกขึ้นมาจากความต้องการที่เลื่อนลอยอยู่ในอีกโลกนี้เหล่านั้น

    และก่อร่างสร้างมัน .. ในความเป็นจริง



    ฉันรักมินโฮ
    รักในความกล้าหาญที่ดึงเอาชีวิตหนึ่งขึ้นมาได้จากความว่างปล่าว..แล้วพาเขาวิ่งออกไป
    รักในความดีที่มีต่อเขาใน..ทุกๆครั้ง
    รักในความเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ในแต่ละวัน

    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ทำให้ฉันยังวิ่งต่อไปได้นั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้

    ฉันรักมินโฮ..




    คราวนี้คีย์แปลกใจนิดหน่อยที่ได้เห็นจงฮยอนนั่งปล่อยขาไกวไปๆมาๆอยู่ข้างๆกันกับมินโฮ
    จริงๆแล้วตอนนี้สิ่งที่เหมือนเดิมตลอดเลยคือ มินโฮนอนเหยียดกายอยู่ออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
    พอเห็นใบหน้าหวานที่แสนคุ้นตาโผล่พ้นจากพุ่มใบไม้ใหญ่ขึ้นมา จงฮยอนก็รีบยิ้มกว้างให้ คีย์เองก็ยิ้มตอบ

    “คีย์~ เดี๋ยวนี้ปีนเก่งจังเลยนะ ~~” คนตัวสูงว่า พยายามเบียดตัวเองเข้าไปหาคนที่นอนแผ่หลาอยู่
    เผื่อว่านั่นจะทำให้คีย์ที่มาใหม่ มีที่นั่งที่แสนสบายเพิ่มขึ้นมาได้อีกสักนิดนึงก็ยังดี

    “แฮ่ ...” คีย์เปล่งเสียงแปลกๆออกมาจากลำคอ ก่อนจะยิ้มเขิน 
    ร่างทั้งร่างนั้นยังคงค้างเติ่งอยู่ที่บนกิ่งไม้ ครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่งว่า ..
    เขาควรที่จะเบียดตัวขึ้นไปบนเพิงไม้ที่ดูเหมือนว่าจงใจสร้างไว้สำหรับคนเพียงสองคนนั้นหรือไม่ 
    แล้วยิ่งมินโฮนอนเหยียดอยู่แบบนี้อีก ยิ่งไม่มีที่แล้วใหญ่

    คีย์จึงตัดสินใจได้ว่าควรที่จะกลับลงไปที่ด้านล่างเสียดีกว่าดันทุรังจนเป็นปัญหานั่นล่ะ


    “มินโฮ !! ลุกหน่อยดิ คีย์ไม่มีที่นั่ง !!!” แต่ถึงจะตัดสินใจได้อย่างนั้นแล้วก็เถอะ 
    เสียงดังของจงฮยอนก็ยั้งเอาริมฝีปากที่เตรียมจะเอ่ยถ้อยคำกล่าวลานั้นไว้ได้ถนัด 

    มินโฮลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาก่อนที่จะเหล่มองสถานการณ์อย่างที่จงฮยอนว่า 
    ไม่นานนักมันก็ปิดลงดังเดิมก่อนที่มือทั้งสองข้างที่วางทาบอยู่ข้างลำตัว
    จะเปลี่ยนเป็นยกขึ้นเหนือหัวเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของหนุนต่างหมอนด้วยทีท่าแสนสบายใจ
     

    “ไม่มีที่นั่ง.. ก็ลงไปนั่งข้างล่างนู่นสิ” จงฮยอนถลึงตามองคนเป็นเพื่อนด้วยท่าทางรังเกียจเหลือเกิน 
    ทำนองว่า มินโฮช่างพูดจาเห็นแก่ตัวเหลือเชื่อแบบนั้นออกมาได้ไม่อายสักนิด !
     
    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะคีย์เองไม่ค่อยที่จะตกใจหรือเสียใจกับประโยคที่เพิ่งจะผ่านทะลุเข้าหูมานี่สักเท่าไหร่
    ถ้าจะให้พูดไป .. ที่มินโฮว่าเมื่อกี้นี้น่ะ ใกล้เคียงกันประโยคที่เค้าคาดไว้แล้วว่าร่างสูงจะเอ่ยภายในใจได้อย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ
    มินโฮที่ปากร้ายใจดีแบบนี้น่ะ
    ชินแล้ว.. 

    ก็อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้วนี่



    “ไอ้มินโฮ!!! เออ .. งั้นก็ช่างมันเหอะคีย์ ปล่อยมันนอนไป เราลงไปข้างล่างกัน” จงฮยอนว่า 
    ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่คล้ายกับจะถามว่า 'ทำไมจะต้องลงไปด้วยกัน?!' ของมินโฮเลย
     


    “งะ .. งั้นก็ได้” คีย์ว่าบ้าง ทำทีท่าว่ากำลังจะปีนกลับลงไป 
    แต่ก่อนหน้านั้นเสียงกึ่งอุทานกึ่งร้องเรียกด้วยความประหลาดใจของจงฮยอนก็ดังขึ้นอีก
    ทำให้ร่างบางต้องหยุดการกระทำแล้วเหลือบมองมาอีกครั้ง

     
    “โอ๊ะ คีย์ ~” นั่นล่ะที่จงฮยอนร้อง คีย์เลิกคิ้วขึ้นมา ใบหน้างุนงงสงสัย


    “อะไรเหรอ?”


    “ป่าวๆๆๆๆ .. ฉันไม่ได้เรียกคีย์หรอก เพียงแต่นี่น่ะ … key ~” 


    แล้วก็ไขข้อข้องใจของคนทั้งหมดด้วยการดึงเอาสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กเส้นหนึ่งขึ้นมา 
    มันม้วนอยู่หลายตลบบนนิ้วยาวของจงฮยอนและที่โดดเด่นที่สุดบนสร้อยเส้นนั้น.. 
    มันคือจี้รุปลูกกุญแจโบราณที่แสนจะน่ารัก ลายดอกไม้เล็กๆนั่นถูกแกะสลักอย่างปราณีตน่ามอง
     
    คีย์ได้แต่จ้อง..แววตาเป็นประกายระยับ



    เฮ๊ย!!!!” 



    และก็นั่นล่ะ .. 


    ก่อนที่จะได้เอ่ยปากชมออกไปก็ดูเหมือนว่า
    มินโฮที่ตอนแรกนั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาสักนิด กลับกระวีกระวาดกระโจนเข้าไป
    พยายามตระคลุบเอาวัตถุสีเงินชิ้นเล็กนั้นมาไว้กับตัวให้ได้
    แต่จงฮยอนก็ไวกว่า เอียงตัวหลบไปๆมาๆได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง
    หนักกว่านั้น ยังไม่วายเอ่ยปากล้อเลียนคู่กรณีให้ไฟปะทุหนักเข้าไปอีก 

    หง่ะ .. คีย์ชักสงสัยว่าเขาควรที่จะเข้าไปห้ามไหม

    หรือว่าจะทำให้เสียชีวิตป่าวๆ?


    “อะไรๆๆมินโฮ ~ มีปัญหาอะไรเหรอ? .. อะ คีย์” แล้วจู่ๆก็หันมาพูดกับคีย์เฉยเลย 
    “ฉันให้คีย์ .. ฉันว่ามันเหมาะกับคีย์มากเลยน้า ~~~” ว่าอย่างนั้นพร้อมทั้งส่งของในมือให้

    คีย์เองยังคงไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ 
    แค่ก็ไม่รู้ว่าจะขัดจงฮยอนได้ยังไงถึงได้ยื่นมือเข้าไปรับ แม้จะยังกล้าๆกลัวๆอยู่ก็เถอะ
     


    แต่นั่นฉันเป็นคนซื้อมานะ !!!” มินโฮแหว 
    ทำเอาทั้งสองคนที่ฟังอยู่ถึงกับเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นสูงแล้วมองหน้ากันไปมา 

    ทำนองว่า .. อาว แล้วไงต่อดี ?
     


    “ก้าก~ โทษทีนะมินโฮ ฉันก็ไม่ได้บอกว่าฉันซื้อมานี่” 


    “แล้วนายเอาไปยกให้คนอื่นมั่วๆได้ไง !!” มินโฮว่า ตอนนี้เริ่มชักสีหน้าหงุดหงิด 
    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เพราะมือหนาที่เอาแต่ถูไถไปๆมาๆที่บริเวณต้นคอนั่น
    ทำให้คีย์ถึบกับแอบอมยิ้มเมื่อได้เห็น

    ก็นั่นน่ะแปลว่า .. มินโฮกำลังเขินอยู่ต่างหากล่ะ ไม่ใช่ว่าโกรธอะไรสักหน่อย


    “ช่างเหอะ !! อยากทำอะไรก็ทำไปเลย !!!!”
     


    ถ้าไม่ได้ตาฝาดไปคีย์มองเห็นว่ามินโฮหน้าแดงด้วยซ้ำ 
    แต่ถึงอย่างนั้น คีย์ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เพราะว่ามองเห็นแค่เดี๋ยวเดียว
    ก็มินโฮรีบร้อนผลุดรุกขึ้น กระโดดลงจากเพิงไปซะเฉยๆงั้นล่ะ
     
    เสียงหัวเราะของจงฮยอนยังคงลั่นกังวานอยู่รั้งท้าย 
    ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเริ่มบทสนธนากับเค้าใหม่ด้วยท่าทียิ้มกริ่ม


    อย่างว่าแหละ .. รูปลุกกุญแจอย่างเงี๊ย .. จะซื้อมาให้ใครล่ะเน๊อะ ?! ^^” 



    จงฮยอนยิ้มจนตาปิด
    ทำเอาคีย์ที่เพิ่งจะจับใจความเหตุการณ์ตรงหน้าได้ลางๆแล้ว 
    รู้สึกถึงไออุ่นๆแผ่กระจายออกมาจากทั้งใบหน้าได้ในทันที
     
    คนตัวเล็กก้มลงมองของในมือก่อนที่จะกำมันเอาไว้แน่น รีบตะโกนตามหลังคนที่จากไป



    มินโฮ !! ขอบคุณนะ !!!



    ฉันรักมินโฮ
    รักท่าทีเขินอายที่ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็แสนจะใสซื่อและดูน่ารักนั้น
    รักความปากแข็งที่มักจะเอ่ยออกมาในสิ่งที่ตรงกันข้ามกันกับความคิดทุกครั้ง
    รักสิ่งที่มินโฮทำให้ฉัน มอบให้ฉัน ทุกอย่างมันช่างสวยงามมีค่า

    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจไปไหนนั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้


    ฉันอยากบอกว่า
    ฉันรักมินโฮ...








    Our happiness






    1 อาทิตย์สุดท้าย..ของการปิดเทอมฤดูร้อนสุดท้าย..ของการใช้ชีวิตม.ต้น
    พวกเราเลือกที่จะไปเที่ยวสนุกกันในงานเทศกาลใหญ่ภายในเมือง
    และที่นั่นก็เต็มไปด้วยอะไรน่าสนุกอย่างที่หวังเอาไว้
    ดอกไม้ไฟ ซุ้มเกมส์ รวมไปถึงร้านรวงมากันเต็มสองข้างทางถนน
     
    นอกจากเราสามคนแล้ว เพื่อนๆที่เคยเล่นสนุกกันเมื่อก่อน 
    บางคนเรียนม
    .ต้นที่เดียวกัน หรือบางคนที่เรียนม.ต้นคนละที่กัน
    ต่างก็ได้กลับมาชุมนุมพบเจอกันอีกครั้ง พวกเราร้องเล่นเต้นรำกัน เดินเที่ยวไปที่นู่นที่นี่สนุกสนาน
    มันทำให้คิดถึงเมื่อวันวาน .. ตอนที่เรายังเป็นเด็ก 

    ถึงจริงๆแลวตอนนี้ก็ยังเป็นเด็กอยู่ก็เถอะน้า ~

     
    คีย์มีความสุขมากสำหรับทุกอย่างในวันนี้ แม้ว่าที่นี่คนจะเยอะไปหน่อย
    และนั่นทำให้คนที่ตัวเล็กกระจ้อยร่อยอย่างคีย์ง่ายต่อการถูกเบียดเสียดเสียจนเดินอยู่ไล่หลังเพื่อนๆไปมาก
    แต่คีย์ก็ยังสนุก
    ... มีความสุขในทุกๆอย่างเกินจะฝันด้วยซ้ำ
     
    แต่ว่า ..

    คีย์ไม่ได้คิดเลยนะ
    .. สาบาน
     
    ไม่ได้หวังอะไร .. 


    แต่ยอมรับโดยดีว่าตอนนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี่คือความต้องการลึกๆภายในใจ
     
    มือหนึ่งที่แสนคุ้นเคย อบอุ่นอย่างที่ไม่มีใครคนไหนจะเป็นได้เท่านี้มาก่อน
    มือของมินโฮตรงเข้ามากอบกุมเอามือเล็กแสนเย็บเฉียบนี้ของเขาไว้..
    คีย์ออกจะตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงทีท่าปฏิเสธอะไร 
    ปล่อยให้อีกฝ่ายนั้นจูงมือข้างหนึ่งของตัวแล้วออกเดินไปอย่างนั้น ..
     


    เหมือนวันนั้นเลย .. 


    ภาพที่เห็น

    มินโฮนั้นรูปร่างสูงใหญ่กว่าเค้ามาก แผ่นหลังที่มองจนชินนั้นไม่ได้ดูเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ 
    ยังคงดูอบอุ่น พึ่งพาได้ และทุกๆครั้งที่ตรงมองไป คีย์นั้นเห็นแต่ว่าคนตัวสูงมีแต่จะมุ่งสู่ข้างหน้า
    ถึงแม้จะเหงานิดหน่อยที่มินโฮไม่เคยมองกลับมา แต่มือที่จับกันอยู่ ก็ทำให้คีย์ตระหนักได้เสมอ 



    เรากำลังเดินไปด้วยกัน... 




    มืออีกข้างหนึ่งของคีย์ ยกขึ้นกุมทับมือหนาของมินโฮเอาไว้
    ส่งสัมผัสบีบแน่นตอบรับกลับไป มินโฮไม่ได้ว่าอะไร
    ทิ้งเอารอยยิ้มจางๆที่เผลอตัวยกริมฝีปากขึ้นมาเพียงไม่นานก็หายไปตามสายลม



    ฉันรักมินโฮ
    รักในทุกเหตุผลที่เป็นมินโฮ
    ไม่ใช่เพียงเพราะว่า ความอบอุ่น อ่อนโยนที่เธอมอบให้
    ไม่ใช่เพียงเพราะว่าสัมผัสพิเศษที่ส่งมา เป็นสิ่งฉันหาไม่ได้จากใคร
    ไม่ใช่เพียงแค่นั้น .. เพราะต่อให้มินโฮจะไม่เหลียวแล ไม่แม้แต่จะสนใจฉัน
     
    ฉันก็ยังแน่ใจ
    ไม่ใช่ความรู้สึกอื่นใด นอกเสียจาก
    ฉันรักมินโฮ...

    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ทำให้ฉันยังวิ่งต่อไปได้นั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้ 

     
    ฉันรักมินโฮ

    แม้ว่ามินโฮ .. จะไม่รักฉัน
    ก็ตาม








    Beach





    หลังจากนั้น คีย์เองก็สอบเข้าที่โรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังตามที่พ่อและแม่คาดหวังเอาไว้ได้
    จะบอกว่าดีใจก็ถูก แต่ก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะคีย์รู้สึกใจหายมากๆ 
    เมื่อคิดไปว่า
    หลังจากนี้ไปจะต้องแยกจากกับพวกจงฮยอนแล้ว
     
    จะไม่ได้อยู้โรงเรียนเดียวกันกับมินโฮ .. 


    เป็นเรื่องที่เค้าไม่เคยคิดฝันถึงมันเลยจริงๆ


     
    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คีย์คิดปลอบใจตัวเองได้แล้วว่า ถึงจะเรียนคนละโรงเรียนกัน
    ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจอกันข้างนอกเลยสักหน่อย 

    บ้านของคีย์ มินโฮ รวมถึงจงฮยอนอยู่ห่างกันไม่ไกล
    ยังไงๆ ก็ต้องเจอ .. หรือว่าอย่างน้อยที่เพิงไม้นั่น .. ก็ต้องเจอ

    เค้าจะไม่ยอมให้อะไรเปลี่ยนไป


    ต้องทำให้ได้สิน่า...




    ไม่นานก่อนเปิดเทอม แน่นอนว่าคีย์มีโปรแกรมเที่ยวฉลองครั้งใหญ่กันกับครอบครัว
    แต่ไม่รู้ว่าเป็นไงมาไงนะ สุดท้ายมันก็กลับกลายเป็นว่า 
    บ้านเค้า บ้านมินโฮ รวมถึงบ้านจงฮยอนที่สนินสนมรู้จักมักจี่กันดีนี้
    จัดทริปรวมทั้ง 3 ครอบครัวไปเที่ยวที่ทะเลกันซะอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ..

    ไม่มีอะไรที่น่าดีใจไปมากกว่านี้แล้วนี่ 


    คีย์ว่าอย่างนั้น



    พวกเรามีปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ และก่อกองไฟกันที่ริมชายหาด
    พวกผู้ใหญ่ดื่มกินกัน เต้นรำกัน ดูสนุกสนานอย่างที่ไม่ได้ทำมานานแล้ว
     
    ในขณะที่พวกเขาสามคนก็ชวนกันออกมาเดินเล่นรับลมทะเลที่หาดทราย
    เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆตามแนวยาวของพื้นน้ำนั้น โ
    ดยที่เท้าทั้งสองข้างเปียกน้ำเพียงแค่ตาตุ่ม 

    ตอนนั้นเอง .. ที่คีย์สังเกตได้ถึงสิ่งที่แปลกไป
    มือเล็กคลำหาสร้อยคอทองคำขาวเส้นสำคัญของตนที่ใส่ติดตัวเอาไว้อยู่เสมอ

    ทว่า เจอแต่เพียงความว่างปล่าว .. 

    สัญชาติญาณสั่งให้ร่างบางหันกลับไปมองรอบด้านด้วยท่าทางร้อนรนทันที
     
    แต่ก็ไม่มี.. 

    หายไปไหน .. ?



    จี้รูปลูกกุญแจที่มินโฮให้




    และเป็นมินโฮอีกนั่นแหละที่หันกลับไปหาคนที่เดินช้ากว่าใครเพื่อนจนประหลาดนั้น
    เพราะเห็นว่าอีกคนมีทีท่าร้อนรน ดูแปลกๆ ถึงได้เอ่ยปากถาม “เป็นอะไร?” 
    คีย์เงยหน้าขึ้นหันมอง เค้าสบสาบตาคู่นั้นนิ่ง ก่อนที่จะรีบหลุบต่ำทันทีเหมือนเด็กๆที่พยายามหนีความผิด
    ปากชมพูที่สั่นระริก .. กัดฟันตอบ 


    “ไม่ .. ไม่มีอะไรหรอก ไปต่อกันเถอะ”

    เห็นแบบนั้นคิ้วมินโฮถึงกันขมวดชนกันเป็นปม
    ก่อนที่จะได้พูดอะไรอีก มือใหญ่ก็ตรงเข้าไปจับมือเล็กๆที่กำลังสั่นเทาเข้ามาไว้ทันที

     
    ไม่รู้สาเหตุของไอ้อาการน่าประหลาดใจนี่หรอกนะ แต่เป็นเหมือนสัญชาตญาณ
    หรือไม่ก็เป็นเพราะอะไรก็ตามที่สั่งมาจากจิตใต้สำนึกนี้ล่ะมั้ง
    ที่ทำให้มินโฮทำแบบนี้..

    อยากจะปกป้อง
    ทุกครั้ง..  
    และกับคนๆเดียวคนนี้เท่านั้นเอง


    แม้ว่าร่างกายของฉันจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
    แม้ว่าหัวใจของฉันจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
    คำสัญญาที่ว่าจะปกป้องเธอ ..

    คำสัญญานั้นจะเป็นแบบนี้ชั่วนิรันดร์



    นี่คือคำสัญญา




    คีย์แทบจะร้องไห้ เค้ารีบสาวเท้าตามร่างสูงที่ยังคงจูงมือเล็กของตนไป 
    ต้องหาให้เจอให้ได้ 
    ของที่มินโฮให้ ฉัน..

    สัญญาว่าต้องหากลับมาให้ได้เลยมินโฮ

     
    ฉันรักมินโฮ... 





    ดึกมากภายในคืนนั้นเอง ตอนที่ทุกคนหลับไหลกันไปหมดแล้ว
    คีย์ถึงได้แอบย่องออกมาเดินหาสร้อยที่เจ้าตัวทำตกหายไปตอนไหนก็ไม่รู้นั่น

    แต่หลายชั่วโมงผ่านไป ไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ 

    ใช่สิ

    ในสถานที่แบบนี้ แล้วยิ่งเวลาแบบนี้น่ะ จะไปหาเจอได้ยังไง .. ของชิ้นเล็กเพียงแค่นั้น

    หรือถ้ามีใครสักคน .. กลับเก็บมันไปได้ก่อนเค้าเสียแล้วล่ะ คีย์จะทำยังไง

    จะทำยังไงดี


    เขาไม่รู้...




    คีย์ร้องไห้ .. ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนทำร้ายจิตใจของตัวเองให้ผุกร่อนพังทลายลงไปทีละนิด ทีละนิด..
    หวนนึกไปถึงคำพูดของอีกคนตอนที่ยังเป็นเด็ก
    หยุดร้องไห้แล้วทำตัวเข้มแข้งสักทีสิ!
    นั่นจึงทำให้คีย์ยิ้มออกมา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นน้ำตามากมายนี่ก็ยัง .. คงไม่หยุดไหล


    เขาเข้มแข้งไม่ได้หรอก..


    ทำไม่ได้ ตัวคีย์น่ะ .. ไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลยสักนิด


    ไม่เคยเข้มแข็งเลยสักนิด .. ถ้าไม่ใช่
    เพราะมินโฮ



    เพราะว่ามินโฮ เพราะว่ามินโฮบอกให้พยายาม ..
    เพราะมินโฮช่วย เพราะว่ามินโฮคือแรงพลักดันที่มากมายมหาศาลที่สุด
    ที่จะทำให้คีย์กลายเป็นคน‘แบบนั้น’ให้ได้

    คีย์ถึงลองพยายามดูสักครั้ง ..

    ลองทำดูสักครั้ง

    ไม่ว่ายังไงก็อยากจะให้มินโฮ .. ได้เห็นคีย์คนที่ว่านั่น


    แต่แล้วยังไงล่ะ
    คิม คิบอมนั้นช่างเป็นคนที่โง่เง่าเสียจริงๆ
    กะอีแค่ของสำคัญชิ้นเล็กๆแค่นั้น คีย์ยังปกป้องมันเอาไว้ไม่ได้เลย

    คนไม่ได้เรื่อง..




    คีย์ลากขาทั้งสองข้างลงสู่พื้นน้ำ
    ที่ตอนนี้มีคลื่นลูกใหญ่กว่าตอนกลางวันอยู่มาก ลมก็พัดแรงจนน่ากลัวเหลือเกินกว่าจะทำให้คนตัวเล็ก
    ที่ล่องลอยโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่นนี้ล้มลงไป
    คีย์ยกมือทั้งสองขึ้นปาดน้ำตาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดไหล
    ทั้งๆที่ยังคงก้มหน้า ในใจนั้นคิดฝันไปไกลถึงเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ .. ถ้าสวรรค์เห็นใจ

    บางทีเค้าอาจจะมองเห็นสร้อยเส้นสำคัญเส้นนั้น


    ลอยตามกระแสน้ำมา..



    ดั่งปราฏิหาริย์..




    ทว่า .. พระเจ้าคงจะไม่เห็นใจคนไม่ได้ความอย่างเค้าหรอกล่ะมั้ง
    เมื่อไม่ว่าเวลาทั้งหมดที่ใช้ไป เค้าจะพยายามมองหาสิ่งที่ว่านั้นเท่าไหร่

    คีย์ก็ยังไม่ได้พอเจอกับอะไร .. นอกเสียจากความว่างปล่าว



    หวนคิดไปถึงตอนนั้นอีกครั้ง ..


    สถานที่ที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ .. นาน .. นานมากกว่าอยู่ที่บ้านตัวเองเสียอีก
    กลิ่นของโรงพยาบาล กลิ่นแอลกอฮอล์ กิ่นของยา ..
    คีย์เพิ่งตระหนักได้ว่า ความว่างปล่าวในความรู้สึกที่ก่อกำเนิดขึ้นนั้นช่างคล้ายคลึงอย่างกลับว่า


    เค้ากลับเข้าไปสู่ช่วงเวลาที่แย่ที่สุดนั่นอีกจริงๆ ..



    แล้วมันก็เป็นอย่างที่คนตัวเล็กนึกกลัว
    คีย์ลืมตาโพรงก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ..
    พยายามสงบลมหายใจที่ดูเหมือนว่าจะมีอัตราการเข้าออกที่มากเกินไปนั้น

    แต่อย่างไรก็ตามมันก็เหมือนจะไม่ได้ผลสักนัก 
    ตอนนี้ร่างเล็กเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ คล้ายจะอาเจียนออกมา ทว่าก็ดูจะเหนื่อยหอบจนเหลือเกิน
     
    คีย์ทรุดลงกับพื้นทรายชื้นน้ำ แขนทั้งคู่นั้งทิ้งลงพยุงร่างทั้งร่างนี้เอาไว้
    รู้สึกตัวเองแล้วว่าตอนนี้กำลังจะทนต่อไปได้อีกไม่เท่าไหร่



    ไม่..

    ขอร้องล่ะ..
     
    อย่ากลับมาเป็นคนอ่อนแออีกเลยได้ไหม..
    ข้อร้องล่ะ หยุดเถอะ




    มินโฮ...


    ช่วยฉันด้วยนะ .. มินโฮ






    คีย์!!!” 


    ทันทีที่ได้ยินเสียง .. คีย์ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาหันมองแม้แต่น้อยเลยด้วยซ้ำ 
    เขาก็รู้ดีว่านี่คือเสียงของใคร..


    คนๆเดียวที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางความว่างปล่าวไม่มีที่สิ้นสุดภายในจิตใจ
    คนๆเดียวที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ .. คีย์ก็จะมองเห็นเขาได้เสมอ
    ไม่ว่าตอนที่ลืมตาตื่นหรือหลับฝัน หายใจเข้าหรือออก ไม่ว่าที่ไหน และเมื่อไหร่..


    มันก็ยังเป็นเขา


    คีย์ไม่รู้เลยว่าทำไม .. ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าไม่มีเหตุผลใดๆอะไรสักอย่าง
    หรือบางทีนั้น เหตุผลที่มีมันก็คงจะมากมายเหลือเกิน เกินที่คนๆหนึ่งจะตระหนักได้ไป


    รู้ตัวอีกที



    คีย์ก็รักมินโฮจนสุดหัวใจ..








    Tears





    “คีย์!! คีย์!!!”

    “คีย์ ลูก!!”


    คีย์ได้ยินแล้ว ว่ามีเสียงเรียกที่คุ้นเคยมากมายร้องเรียกเขา 
    ทว่าร่างเล็กกลับไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้ 
    เพราะลมหายใจที่ดูจะไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเป็นปกติเลยตอนนี้ มันทำให้ทุกอย่างติดขัด 
    ตอนที่คีย์เผยอปากออกกำลังจะเปล่งเสียง .. เขาก็สำลักเข้ากับอากาศอึกใหญ่ 
    ทำให้หอบตัวโยน น้ำตาก็ประเดประดังหลั่งไหล

    เป็นความทรมานที่คีย์จำได้ดีว่ามันได้หายจากเค้าไปนานมากแล้ว..


    “โรงพยาบาล .. เรียกรถพยาบาลเถอะค่ะ !!!” ผู้เป็นแม่หันไปบอกกันสามีของตน 
    เตรียมจะยกโทรศัพท์ขึ้นกด ทว่าก็ถูกมือบางของคีย์ฉุดรั้งเอาไว้


    “แม่ ..” คีย์พูดออกมาอย่างยากลำบาก 

    ตอนนั้นหลายๆคนที่มองดูแทบจะร้องไห้ไปกับอาการของตรงหน้า



    “ฮึก .. ในกระเป๋า .. ยา .. ในกระเป๋าผม”


    ไม่ทันจะได้ประมวลคำพูดใดๆ 
    จงฮยอนก็รีบกระวีกระวาดวิ่งเข้าไป คว้าเอากระเป๋าเป้ที่ร่างเล็กพูดถึงมาไว้ทันที
    เขารีบร้อนจัดการทิ้งมันลง แล้วค้นหาสิ่งที่เข้าข่ายว่าจะเป็นยารักษาอาการป่วยตามที่คนตัวเล็กว่าทันที

     

    แต่ ..


    มือของจงฮยอนหยุดชะงัก


    ตอนนั้นเขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมา ห่อผ้าที่ดูแสนคุ้นตา 
    แม้จงฮยอนจะจำได้ว่าเป็นเวลานานมากแล้วที่เค้าได้สัมผัสมัน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจำได้ดี 
    มือยาวสั่นระริกนั้นค่อยๆเผยสิ่งที่อยู่ภายในออก ขวดโหลขนาดย่อมสีใส 
    ด้านในบรรจุไปด้วยลูกกวาดนาๆชนิดที่เค้าเองเคยเป็นคนพูดเอาไว้ว่า

    นั่นใช่ลูกอมธรรมดาๆเสียเมื่อไหร่ ..

    มันคือ ยาวิเศษ


    ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันจะพร่องลงไปกว่าค่อนขวด 
    แต่ฝาจุกก๊อกที่ทำจากไม้ และริบบิ้นชมพูที่ถักไขว้กันเป็นโบว์เล็กๆนั้น
    มีสภาพดีเหมือนครั้งแรกที่เค้าได้มันมาไม่มีผิด


    คีย์คงจะเก็บรักษามันมาอย่างดีมากๆ


    ในตอนนั้นไม่ใช่เพียงแต่คีย์ .. แต่น้ำตาของจงฮยอนเองก็กำลังหลั่งไหลออกมาเช่นกัน


    “ค .. คีย์” 

    “จงฮยอน .. ฮึก .. หยิบให้ทีสิ ..”

    “แต่ว่านี่น่ะมัน..”


    “.. นะ”


    ถึงตอนนี้จงฮยอนก็มีอาการสะอื้นออกมาอย่างไม่สามารถปิดบังได้อีก
    เด็กชายหยิบลูกกวาดเม็ดหนึ่งขึ้นมาจากขวดโหล แล้วจึงส่งมันไปให้คนที่รออยู่ 
    คีย์ค่อยๆรับมันเข้ามาอมเอาไว้ หลับตาลงสักพัก
    น่าแปลกที่ว่า ไม่นานลมหายใจๆนั้นก็ค่อยๆสงบลงได้จริงๆ



    “คีย์!!” ผู้เป็นแม่ร้องเรียกคนตัวเล็กอีกหน 
    คราวนี้น่ายินดีที่คีย์ค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมทั้งส่งยิ้มให้


    “แม่ฮะ ... 
    นี่น่ะ .. พวกจงฮยอนเคยให้ผมไว้ตอนเด็กๆ แม่รู้มั๊ย?” ร่างเล็กพูด 
    ไม่มีอาการสะอื้นอีกแล้ว .. แม้ว่าคีย์จะกำลังร้องไห้


    “วิเศษมากๆเลยนะ .. ไม่ว่าแม่จะเป็นอะไร ถ้ากินยานี่เข้าไปแม่ก็จะหาย ..
    พวกเขาบอกว่า นี่น่ะช่างเหมาะกับผมจริงๆเลยล่ะ”


    “คีย์ ..”



    “ดูสิ .. จนถึงตอนนี้ มันก็ยังใช้ได้ผล .. 
    เป็นยาที่วิเศษจริงๆเลย

    เน๊อะ .. จงฮยอน”


    จงฮยอนรู้ว่ารอยยิ้มที่ถูกส่งมานั้นมันช่างอ่อนโยนมาก 
    มากเสียจนเค้าไม่สามารถที่จะทนมองมันต่อไปได้
    เขาไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าสบตา ไม่รู้ว่าทำไม ?



    ใช่ .. เขารู้ดี

    นั่นมันใช่ยาวิเศษที่ไหนล่ะ


    คีย์ .. 


    มันก็แค่ลูกอมธรรมดาๆ
     
    รู้มั๊ย 


    .
    .








    Broken





    เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เช้าวันรุ่งขึ้น 
    ทุกคนจำเป็นจะต้องเดินทางกลับบ้านกันอย่างเร่งด่วน แม้ว่าอาการของคีย์จะเป็นปกติแล้วตั้งแต่เมื่อคืน 
    แต่เพราะว่าโรคประจำตัวที่ไม่แสดงอาการมานานมากแล้วนี้เกิดกำเริบขึ้นมาอีก 
    ทำให้ทั้งพ่อและแม่ของคีย์ดูท่าว่าจะไม่ไว้ใจอะไรก็ตามแต่ในตอนนี้เลย 

    และทุกคนยกเวนคีย์ต่างก็เข้าใจและเห็นด้วยว่าควรจะกลับไปโรงพยาบาลตรวจดูอาการเสียก่อนดีกว่า

    เป็นคีย์คนเดียวที่พยายามดึงดันว่าเค้ายังอยากจะอยู่ต่อ
    แต่สุดท้ายก็จบลงที่ .. ปฏิเสธเสียงของคนหมู่มากไปไม่ได้นั่นเอง



    คีย์นั่งเหม่อลอยออกไปไกล ท่าทีไม่ร่าเริงสดใสนั้นส่งผลให้มินโฮรู้สึกหงุดหงิดตามไปได้อยู่มาก
    ถึงอย่างนั้นคนตัวสูงก็ไม่ได้พูดอะไร .. 

    ถ้าอยากจะให้พูดจริงๆล่ะก็..นะ
    มินโฮอยากรู้เรื่องที่ว่า ทำไมหลังจากเมื่อคืน
    คีย์ถึงได้พยายามหลบหน้าและไม่ยอมสบสายตาเค้าอย่างที่ทำปกติเลยมากกว่า

    แต่สุดท้ายทั้งมินโฮ คีย์ หรือว่าใครๆก็อับจนคำพูด
    นั่งเงียบกันไปตลอดทางนั่นเอง




    เพราะว่าทั้งหมดอาศัยรถบ้านคีย์ไป สุดท้ายรถก็มาจบลงตรงที่หน้าบ้านของคนตัวเล็กอีกครั้ง
    บ้านของมินโฮและจงอยอนอยู่ห่างออกไป แต่ก็ไม่มาก ถึงแม้จะเรียกไม่ได้ว่าบ้านอยู่ติดกัน
    และก็ยังไกลไม่พ้นซอยเดียวกันไปได้นั่นล่ะ


    พอปิดประตูรถลงไปเพื่อจัดการกับข้าวของด้านหลังได้สักพัก
    ผู้เป็นแม่ก็เหมือนว่าจะเพิ่งนึกอะไรได้ จึงขานเรียกลูกชายคนน่ารักให้มาหา


    “ครับๆ” คีย์บอก ก่อนที่จะรีบก้าวยาวๆตามมาอย่างปากว่า “มีอะไรเหรอฮะ?”


    “อ่อนี่จ่ะ..” และสิ่งที่อยู่ภายในฝ่ามือคนตรงหน้า
    ก็กลับจุดเอาประกายระยิบระยับมีชีวิตชีวากลับมาสู่ภายนัยย์ดวงตาของคีย์ได้อีกครั้ง

    คีย์เบิกตากว้างเหมือนกับว่าแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น 
    ก่อนที่จะรีบพุ่งเข้าไปรับสร้อยทองคำขาวที่แขวนไว้กับจี้รูปลูกกุญแจเล็กน่ารักตรงหน้าเข้ามาอย่างเร็วจี๋



    คุณแม่ !!!” 


    คนสูงอายุถึงกับหัวเราะขำกับปฏิกิริยาที่เกิดคาดนั้น
    จริงๆแล้วหล่อนเห็นคีย์ใส่เจ้าสร้อยคอเส้นนี้ติดตัวไว้ตลอด
    ในใจก็คิดว่าคงจะชอบหรือไม่ก็เป็นของสำคัญจากใครสักคนที่มีค่าต่อคีย์มาก

    ตอนที่เห็นมันวางตกอยู่ที่ริมชายหาด หล่อนเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเหมือนกัน



    “ขอบคุณครับ ขอบคุณครับแม่ !!!” คีย์รีบวิ่งเข้าไปกอดมารดา หัวเราะร่าอย่างมีความสุข


    “แหม .. ดีใจขนาดนั้นเชียว?”


    “อื๊ม แม่ไปเจอมันมาจากไหนน่ะ เมื่อคืนนี้ผมตามหาแทบตะ- - -  เอ่อ. .”


    และในครั้งนี้ก้เป็นอีกครั้ง .. ที่คีย์อยากจะตบปากตัวเองแรงๆเสียจริง 
    ที่เพราะความดีใจที่มีมากไป ทำให้หลุดประโยคที่ไม่น่าเอ่ยนั้นออกมาจนได้ 
    คีย์มองหน้าแม่ที่มีทีท่าสงสัยแล้วก็ต้องหลุบต่ำแบบคนหนีความผิด


    “คือ .. ไม่มีอะไรหรอกครับ ผม .. ยกกระเป๋าไปเก็บก่อนนะ”


    เค้ายิ้ม




    คีย์คิดว่าเรื่องก็น่าจะจบแต่เพียงตรงนี้ ทว่า คิดผิดถนัด
    เค้าอยากจะดลบันดานให้นี่กลายเป็นเพียงแค่ฝันไปจริงๆ
    เมื่อจู่ๆ มือหนาของคนที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะอยู่ตรงนี้มาตลอด จะตรงรี่เข้ามาฉุดเอาท่อนแขนของเขาไว้
    ก่อนที่จะเอื้อยเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา ด้วยวาจาที่ทำให้อีกคนหนึ่งยิ่งกว่าแปลกใจ

    น้ำเสียง .. ไม่เหมือนมินโฮเลย


    มากับฉันหน่อย !!” แรงกระชากที่รุนแรงกว่าปกติทำให้ตอนนี้คีย์รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ
    มินโฮกำลังโกรธ .. ไม่ใช่โกรธอย่างครั้งก่อนๆ ที่เป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาปกปิดอาการเขินอาย หรือแกล้งเล่น


    แต่ครั้งนี้มินโฮกำลังโกรธจริงๆ


    ตอนนี้แรงบีบที่ต้นแขนของคีย์แน่นมากจนรู้สึกเจ็บ แต่ร่างเล็กก็มีความกล้าน้อยเกินกว่าจะเอ่ยขัดขืน




    นายทำบ้าอะไร !!!” 

    แล้วร่างสูงก็ขึ้นเสียงตะคอก 
    หลังจากที่ได้โยนเอาร่างเล็กผอมบางนั้นลงบนพื้นหญ้าที่ลับตาจากใครคนอื่นแล้ว

    คีย์จ้องมองกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ น้ำตาที่ปริ่มรื้อขอบตา
    เหมือนว่ากำลังจะพากันไหลออกมาได้ง่ายๆจริงๆ


    “เพียงเพราะแค่สร้อยบ้าๆนั่น นายถึงได้ลงไปที่หาดตามหามันเป็นบ้าเป็นหลังอย่างนั้น
    ทำอะไรน่ะคิดบ้างมั๊ย !! ถ้าฉันไม่ไปเจอนายเข้า ป่านนี้จะเป็นยังไง ?!!

    ห๊ะ คีย์ ทำไมถึงทำแบบนี้ !!!




    คีย์สับสนไปหมดเลย..



    มีความคิด เหตุผล และความรู้สึกทั้งหลายต่างๆนาๆ .. มากมายนับไม่ถ้วน 
    เวียนวนอยู่ภายในสมอง ..



    จนท้ายที่สุดมันก็จางหาย กลับกลายเป็นสีขาวโพลนไม่เหลืออะไร




    คีย์ไม่เข้าใจ

    ว่าเขาเองผิดอะไร ที่ตรงไหน?

    แต่ถ้าเขาไม่ผิด เค้าก็มองไม่เห็นผลที่มินโฮจะเป็นฝ่ายผิดที่ทำแบบนี้เช่นกัน




    ที่มินโฮโกรธขนาดนี้


    เพราะเค้าไม่ดีใช่มั๊ย ?



    “ฉัน .. ฉันแค่อยากจะรักษามันไว้ .. ฮึก .. สร้อยที่มินโฮให้”
    คีย์ร้องบอก .. ตอนนี้ภาพตรงหน้าเลือนลางจนแทบที่จะจมหายไป
    เพราะน้ำตาใสๆที่เอ้อล้นออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ .. ของผู้เป็นเจ้าของ


    ที่นายต้องรักษาคือชีวิตของนาย !! ไม่ใช่ของไร้ค่านั่น !!!



    จิตใจของคีย์กระตุกไหว..




    ไม่มีอะไรอธิบายความรู้สึกที่เป็นอยู่นี้ได้แม้แต่ ..เขาเสียใจ..



    ของไร้ค่า ?




    เสียใจเสียยิ่งกว่าอยากจะร้องไห้ .. นี่เขาควรทำยังไงดีนะ ?



    คีย์ก้มหน้าลง อับจนคำพูด



    มินโฮรู้ไหมมันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย
    มินโฮถูก .. แต่มินโฮก็พูดผิดไปมากนะ .. รู้บ้างมั๊ย?

    ที่สร้อยเส้นนี้ไม่มีวันที่จะเป็น ‘ของไร้ค่า’ ไปได้ ก็เป็นเพราะว่ามันคือของที่มินโฮให้ ..
    ที่เค้าต้องรักษามันเอาไว้ ก็เป็นเพราะว่ามันเองก็มีค่ามากมายไม่ได้ต่างอะไรไปจากชีวิตหรือจิตใจของเขา


    อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมินโฮ 


    สำหรับเขามันก็มีค่าทั้งนั้น





    คีย์พยายามหลอกตัวเองอย่างนั้น พยายามที่จะเบี่ยงความคิดตัวเองไป
    ทำยังไงก็ได้ .. เพื่อไม่ให้ความจริงที่กำลังจะรู้สึกนี้เป็นความจริง

    ของที่เขายอมแลกทุกอย่างเพื่อที่จะได้กลับมา สำหรับมินโฮมันก็แค่ของที่ ‘ไม่มีค่า’


    ไม่อยากจะคิดแบบนั้นเลยจริงๆ




    ร้องไห้อย่างหนัก สำหรับมินโฮที่เห็นท่าทางแบบนี้ออกจะบ่อยคงไม่ต้องมาคอยกระวีกระวาด
    หรือแปลกประหลาดใจอะไรเลย แต่ครั้งทำไมเขาถึงได้รู้สึกเจ็บไปด้วยนะ..



    “ฉัน .. ฮึก แต่มินโฮคือชีวิตของฉัน !! อะไรที่เป็นมินโฮ .. 
    ไม่ว่าจะมากมายหรือเล็กน้อยแค่ไหนสำหรับฉันมันก็สำคัญทั้งนั้น
    ไม่มีอะไรไร้ค่าไปได้หรอก !!!” 

    แล้วสุดท้ายคีย์ก็พูดออกไป 


    ในใจก็กลัวแต่ก็ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่สามารถห้ามให้มันไม่เกิดขึ้นได้
    ตอนนี้คีย์ลุกขึ้นมาแล้วตะโกนกลับเสียงดัง และนั่นก็ทำให้มินโฮโมโหหนักไปมากกว่าเดิมด้วย

    คีย์อยากจะตบปากตัวเองแรงๆจริงๆ..

    อยากจะให้ใครก็ได้มาหยุดเขาเอาไว้ที มาพลักเอาร่างทั้งร่างนี้ให้เดินหนีออกไป



    ไม่ใช่แบบนี้ ..



    "ไม่มีใครเป็นชีวิตของใครได้หรอก นอกจากตัวคนๆนั้นเอง !!!"


    .. !!
     

    “ถ้าฉันสั่งให้อยู่นายก็อยู่ ถ้าฉันสั่งให้นายตาย นายก็จะตายหรือไง !!
    เพราะนายคอยให้คนอื่นบงการชีวิตอยู่อย่างนี้น่ะสิ ถึงได้เข้มแข็งเหมือนใครเขาไม่ได้สักที



    “ฉัน.. ฉัน ฮึกก”



    “คิดใหม่เถอะนะคิบอม .. ถ้าไม่รู้จะปกป้องชีวิตนี้ไปเพื่อใครล่ะก็
    อย่างน้อยให้คิดซะว่า .. นายควรจะรักษามันเอาไว้ให้คนที่รักนายก็แล้วกัน



    และครั้งนี้คีย์ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำมาก่อนเลยในชีวิต เขาตะคอกเสียงดังใส่มินโฮ
    จับจ้องกลับไปที่ดวงตาคมนั้นเขม็ง ถ้าให้พูดกันตามจริงแล้วแม้แต่ตอนที่กำลังทำเรื่องทั้งหมดนี้ลงไป
    คีย์ก็ยังไม่มีความคิดที่ว่านี้อยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ แต่ทุกๆอย่างก็เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นกระบวน
    และมันดูจะรวดเร็วเหลือเกิน เกินกว่าที่เค้าจะระงับได้

    มาคิดได้ก็เมื่อสายไป



    เค้าไม่น่าทำแบบนี้กับมินโฮเลย..


    ไม่มีหรอกคนแบบนั้นน่ะ !!  เพราะแค่คนบางคนที่ฉันอยากจะให้เขารัก เค้ายังไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับฉันสักนิด !!!


    สร้อยเส้นบางในมือถูกปาออกไปอย่างแรงด้วยความโกรธ มันกระทบเข้ากับใบหน้าด้านหนึ่งของมินโฮพอดี
    จนคนที่ถูกกระทำจำเป็นจะต้องเบือนใบหน้าหันหนี ..
    มินโฮมองกลับมาอีกที 



    คีย์ก็จากเค้าไปเสียแล้ว..




    มินโฮ

    ฉันรักมินโฮ
    รักความเฉยเมยเย็นชาที่มักจะแสดงออกมาเบื้องหน้า แต่ลึกๆแล้วฉันเองก็รู้ดี ว่ามินโฮน่ะ .. เป็นห่วงฉัน
    รักทุกเหตุผล ทุกๆอย่างที่มินโฮยกมันขึ้นมา ถึงแม้ว่าน้อยครั้งนักที่ฉันจะเข้าใจมัน

    เหมือนดั่งแก้ว .. หัวใจของคนเราบอบบางมาก
    หัวใจ .. มักจะเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆน้อยๆเสมอ


    เรื่องนี้อาจจะไม่มีวันเกิดขึ้น
    แต่ถ้าวันไหนเธอเปลี่ยนใจแล้วเดินจากฉันไป

    รู้อะไรไหม?


    ฉันจะไม่มีวันลืมเธอเลย..


    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้ 
    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลในทุกๆอย่างของชีวิตฉันนั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ
    ไม่มีอะไรทำให้ฉันหยุดรักเธอได้   



    รัก .. รักมินโฮมากรู้มั๊ย

    แม้ว่ามินโฮจะไม่รักฉัน
    จริงๆ








    Forgotten





    Years will come and years will go..

    언젠간 늙어져도(เมื่อพวกเราเติบโตมากกว่านี้)...



    หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีก .. เพราะเรียนมัธยมปลายคนละที่กัน
    ซ้ำคีย์เองยังเป็นฝ่ายเดินออกมาทิ้งไว้แค่สถานการณ์บ้าๆนั่นอีก 

    จริงๆแล้ว .. ถ้าปีนขึ้นไปที่เพิงบนต้นไม้ใหญ่
    คีย์เองก็อาจจะเจอใครสักคน นอนกลับไหลไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างอยู่ตรงนั้นก็เป็นได้
    แต่คีย์ก็กลัว ..  กลัวเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้จริงๆ


    ไม่กล้า..

    เพราะกลัวว่าอีกคนจะไม่มีวันให้อภัย ..
    ไม่อยากถูกมินโฮปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง..



    กับจงฮยอนเองที่อยู่กับมินโฮแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว โอกาสพบหน้าก็เลยน้อยนิดพอๆกัน
    คีย์ไม่อยากคิดเลย เพราะเวทนาตัวเองเกินไป แต่สุดท้ายมันก็เป็นความจริง

    เค้าเสียดาย .. ทุกๆอย่าง

    ทั้งเพื่อน ใครคนนั้น ความรู้สึก การดำเนินชีวิตประจำวัน
    มันต้องเปลี่ยนไปหมด



    เหงาจัง..




    วันสุดท้ายที่เขาจบม.ปลายคีย์ตัดสินใจปีนขึ้นบนต้นไม้ใหญ่
    เพิงเล็กๆนั่นช่างเป็นที่ๆเขาคิดว่าดูสุขสงบเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน

    ทว่า ไม่มีใครนอนหลับสบายใจอยู่บนนั้น


    คีย์อยากร้องไห้ ..



    นี่เค้าหวังอะไรนะ ..



    นานมาก



    นานมากแล้วจริงๆ





    เค้าควรจะลืมๆมันไป ลืมมันได้แล้ว...





    3 ปีที่ผ่านมานี้คีย์ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้จริงๆ คีย์ยังคิดตริตริงอยู่เสมอ ..
    จริงๆนะ .. แม้ว่าสำหรับมินโฮ จะไม่มีใครเป็นชีวิตของใครอื่นนอกจากตัวของคนๆนั้นเองได้
    แต่สำหรับคีย์ มันยังเหมือนเดิม ไม่ใช่ความคิดที่ดื้นด้าน ต้องการเอาชนะ
    แต่ว่าในความเป็นจริง จริงๆ มินโฮยังคงเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนสำคัญของชีวิตเขา

    คีย์จดจำได้ฝังใจจริงๆถึงทุกๆอย่างที่เป็นมินโฮ
    ตั้งแต่เล็กๆแล้ว ที่โลกของเขา .. มีมินโฮเป็นผู้ที่เปิดประตูมันออกให้
    มินโฮที่สำหรับคีย์ นั้นช่างเป็นดั่งแสงสว่างส่องประกายสดใส
    ทำลายความหวาดกลัว กังวลใจทั้งหมดของคีย์ให้พังทลายลง
    โลกใบใหม่ของคีย์ โลกที่มีมินโฮ


    นั่นล่ะคือโลกที่เค้าอยากจะใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ตลอดไป




    แต่ถึงอย่างนั้น เพราะว่าวันนี้คีย์จะไม่มีมินโฮอีกแล้ว
    แต่เค้าก็ไม่ได้ปิดตายโลกนี้ไปหรอกนะ
    คีย์พยายามปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ พยายามอยู่เพื่อตัวเอง ด้วยตัวเองให้ได้
    ยังคงร่าเริงสดใส และมีความสุขกับชีวิตที่ต้องดำเนินต่อ ..

    ทำให้ได้ อย่างที่มินโฮต้องการ

    แต่พอมานึกๆดูแล้ว คีย์ก็อยากจะหัวเราะออกมาดังๆกับความไม่เอาไหนของตัวเองเสียจริง

      

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า



    ถ้าอย่างนั้น .. ถ้าเป็นอย่างนั้น

    นั่นก็แสดงว่า



    เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยต่างหาก?



    คีย์น่ะ .. ไม่เคยทำเพื่อใครอยากที่พูดหรอก
    ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองสักหน่อย 
    ไม่ได้อยากจะเข้มแข็งได้เพื่อให้ตัวเองมีความสุข



    แต่ถึงตอนนี้คีย์ก็ยังคงพยายามที่จะมีความสุข .. 



    เพื่อมินโฮ





    ถึงยังไง ฉันก็รักมินโฮ ..



    ความรักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ยังเรียกว่า 'ความรัก' ได้อยู่นะ






    แล้วก็คล้ายๆกับเดจาวูล่ะมั้งเมื่อสุดท้าย คีย์ก็สอบติดในมหาลัยที่พ่อและแม่คาดหวังเอาไว้ได้อีก
    เป็นมหาลัยชื่อดังที่อยู่ไกลออกไป คีย์ถึงได้จำเป็นจะต้องปรับตัวใหม่แทบทั้งหมด
    สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ อะไรใหม่ๆ คล้ายกับว่าจะเป็นชีวิตใหม่ที่ดูแสนสดใส สวยงามไม่แพ้ใคร


    ถึงอย่างนั้นคีย์ก็ไม่เคยที่จะบังคับจิตใจตัวเองให้ลืมหรือจดจำอะไร


    อยากจะคิดถึงใคร .. ก็คิด


    แต่ถ้าสักวันเขาจะลืม ..



    ทำไมมันถึงไม่มีวันนะ?




    เขามองไปที่ขวดโหลแก้วที่วางตั้งอยู่ด้านบนสุดของชั้นหนังสือ 
    ลูกกวาดหลากสีเม็ดเล็กๆนั้นยังคงมีหลงเหลืออยู่
    จริงๆแล้วตั้งแต่วันนั้น .. คีย์ก็ไม่เคยได้แตะต้องมันอีก
    คีย์ไม่มีอาการไม่สบายเป็นๆหายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..
    แต่ครั้งสุดท้ายที่เค้ากินยาวิเศษ คือวันที่เขาทะเลาะครั้งใหญ่กับมินโฮ


    วันสุดท้ายที่ได้เจอกันกับมินโฮ ..



    จำได้ ตอนที่เขาปาสร้อยเส้นสำคัญนั้นคือมินโฮไป คีย์ร้องไห้ .. อย่างหนัก
    มือเล็กๆควานหยิบเล็กลูกอมสีสวยขึ้นมาแล้วก็เอาเข้าปาก
    หวังว่ามันจะทำให้อาหารเหนื่อยหอบนี้จากไป


    ทว่าน่าแปลกที่ยาวิเศษใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว..


    คีย์หยิบลูกกวาดเม็ดใดเม็ดหนึ่งจากจำนวนมากมายนั้นขึ้นมาอีกเม็ด 
    กลืนมันเข้าไปอีก พยายามสงบลมหายใจ

    แต่ทำไมนะ .. ทำไมถึงไม่หาย



    ไม่มีวัน




    อีกต่อไปแล้ว ..








    Statue





    คีย์กับเพื่อนๆที่มหาลัยได้ไปชมงานนิทรรศการศิลปะของมหาวิทยาลัยใหญ่อีกมหาลัยหนึ่ง
    ซึ่งจริงๆแล้วคีย์เองก็ไม่ได้มีรสนิยม หรือสนอกสนใจอะไรในเรื่องทำนองนี้สักเท่าไหร่หรอกนะ
    แต่นี่ก็คล้ายๆกับว่า ถ้าเค้าตกลงมาล่ะก็ .. จะมีรางวัลเป็นการงดคาบเรียนในช่วงเวลานั้นๆแทนก็แค่นั้นเอง
    ถ้าเทียบกันแล้วก็คุ้มกว่าเห็นๆ นั่นแหละ .. สาเหตุที่ทำให้ไม่ยากเลยที่จะตัดสินใจ


    คีย์กับเพื่อนสนิทเดินวนไปวนมาดูภาพวาดที่ท่าทางเข้าใจได้ยากทั้งหลายแหล่นั้นจนถึงช่วงบ่าย
    คนตัวเล็กก็ต้องขอปลีกตัวออกมา ไปนั่งกินรมชมวิวอยู่แถวๆบ่อน้ำใสของมหาลัยแห่งนั้น
    จริงๆแล้ว .. ที่นี่ออกจะเรียกได้ว่าเป็นที่ๆคีย์คุ้นเคยอยู่มากเชียวล่ะ 

    ก็ตอนเด็กๆพวกเขาแอบหนีเข้ามาจับปลาที่บ่อนี้กันบ่อยๆ


    ใช่ .. มันเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่แถวๆบ้านเค้าเอง 


    เป็นเรื่องบังเอิญอย่างหนักหนาทีเดียวที่ได้เข้ามาที่นี่อีกครั้ง




    และที่ที่คีย์กำลังยืนอยู่ตรงนี้ .. จริงๆแล้วเขาตั้งใจเอาไว้อย่างดีทีเดียวล่ะว่าจะต้องมาให้ได้

    ก็เพราะว่าหากมองตรงจากจุดนี้ไป ..


    จะเห็นได้อย่างชัดเจน 

    ต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานมากมายแค่ไหน มันก็ยังคงเด่นตระหง่ายแผ่กิ่งก้านสาขากว้างออกไป
    ดูยิ่งใหญ่กว่าต้นไหนๆ จริงๆ  ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตรงนั้น .. ไม่เคยเปลี่ยน
    ที่เพิงเล็กๆด้านบนคีย์มองขึ้นไปเห็นว่าไม่มีใครอยู่บนนั้นเลย คิดว่าจะแอบหนีขึ้นไปเยี่ยมมันสักหน่อยแต่..

    เสียงแหลมใสของคนที่กำลังวิ่งตาลีตาเหลือกมานี้ก็หยุดเขาเอาไว้ได้เสียก่อน



    "คีย์ !!!" คนตัวเล็กที่มาใหม่ส่งเสียงดัง

    จะว่ายังไงดี .. ถึงจะบอกว่าตัวเล็กยังไง ตัวของคีย์เองก็ใช่ว่าสูงใหญ่ไปกว่าเพื่อนสักเท่าไหร่หรอกน่ะนะ


    "โธ่... เบาๆสิแทมิน มีอะไรอีกล่ะ?" เขาออกปากว่า 
    แต่แทมินก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจฟังมันเลย


    "มานี่เร๊วว .. ถ้าคีย์เห็น ต้องตกใจแน่ๆ !!!"


    แล้วก็นั่งล่ะ ยังไม่ทันทีที่คีย์จะได้พูดตอบอะไรไป ไม่..แม้แต่จะได้ตัดสินใจด้วยซ้ำ
    แทมินก็กระวีกระวาดดึงแขนทั้งสองข้างของเขาไปพร้อมกันเสียแล้ว
    คีย์ถอนหายใจแต่ก็ยอมจำนนสาวเท้าตามอย่างรีบร้อน


    "โธ่ ~~ ฉันไม่ดู ~~~" คนตัวเล็กร้องโอดโอยเมื่อสุดท้าย .. นึกว่าอะไร
    แทมินพาเขามาหยุดอยู่ที่ที่จัดแสดงนิทรรศการที่เก่าเอาเสียได้  ไม่เอ๊า ~~


    แทมินก็คงจะไปเจอพวกรูปวาดประหลาดๆ หน้าตาตลกๆ ที่ไหนสักภาพ 
    แล้วก็อยากจะเอามันมาโชว์เค้าเล่นก็เท่านั้นแหละ ทำไมจะเดาไม่ได้ล่ะ?


    คิดได้อย่างนั้นคีย์ก็แอบนึกเสียใจจริงๆที่ผละกายตามออกมา


    "ดูหน่อยเหอะน๊า ~~ " เสียงเล็กว่า 

    ยังคงพยายามลากพาคีย์มาจนถึงที่หมาย
    มันเป็นจุดแสดงผลงานที่อยู่ลึกเข้าไปแทบจะด้านในสุด 
    ถึงว่าล่ะก่อนหน้านี้คีย์ถึงไม่ได้ผ่านเข้ามาเพราะเค้าคงไม่มีอารมณ์ศิลปะมากพอ
    แต่แทมินนี่สิ .. ท่าทางจะสนใจมากเสียอย่างลึกซึ้งจริงๆ=  =; 


    แทมินกระโดดโลดเต้นแย๊วๆๆๆ
    คีย์หมั่นไส้เลยแกล้งทำท่าเหนื่อยหน่ายเดินลอยชายอย่างเขื่องช้าตามเข้าไป 



    จนเมื่อได้พบเจอกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า



    ตอนนั้นเองคีย์ถึงได้เข้าใจ



    มันไม่มีอะไรที่ฉูดฉาดหวือหวา หรือน่าขบขันอย่างที่เขาคิด
    แต่มันก็เป็นเพียงแค่งานศิลปะแขนงหนึ่ง .. รูปปั้นเหมือนธรรมดาๆ เท่านั้นแหละ

    นั่นคงเป็นความรู้สึกสำหรับใครทั่วไป
    แต่สำหรับคีย์ .. นั้นไม่ใช่ แน่นอนว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น
    ก็ในเมื่อรูปปั้นครึ่งท่อนของเด็กชายที่วางอยู่ตรงหน้านี้น่ะ



    มันคือตัวเขาเองนี่นา..



    ตัวของเขาเอง .. ตอนเด็กๆ
    เขาที่กำลังแย้มยิ้มอย่างมีความสุข สายตาก็มองตรงไปข้างหน้า
    แต่ที่สะดุดตากว่านั้น .. ที่ลำคอของหุ่นปั้น

    สร้อยทองคำขาวที่แขวนเอาไว้ด้วยจี้ลูกกุญแจอันเล็กนั้นถูกสวมทับอยู่


    คีย์แทบจะบ้า .. นี่



    หมายความว่ายังไง?




    ยังไม่ทันได้พูดอะไร แทมินก็ชี้ไปที่ป้ายแสดงชื่อผลงานรวมถึงลายละเอียดต่างๆที่ตั้งอยู่ด้านข้าง
    ตอนนั้น .. คีย์เองก็รู้

    ไม่ต้องเดาหรอก ว่านี่ฝีมือใคร


    แต่ ..




    มากกว่านั้น


    .
    .



    My life
    최민호


    ฉันได้มาพบกับเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
    ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
    แต่ฉันกลับโกรธทุกคน ที่บอกให้ฉันเลิกพยายาม เพราะว่ามันยากเกินไป
    ไม่มีทางหรอก ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงความดึงดันนั้นให้ได้...
     



    ตั้งแต่วันนั้น .. ฉันก็เอาแต่คิดถึง



    แม้ว่าร่างกายของฉันจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
    แม้ว่าหัวใจของฉันจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
    คำสัญญาที่ว่าจะปกป้องเธอ ..
    คำสัญญานั้นจะเป็นแบบนี้ชั่วนิรันดร์



    ไม่มีใครเป็นชีวิตของใครได้นอกจากตัวของเขาเอง
    แต่ทำไมนะ .. ตั้งแต่วันที่เธอจากไป


    ฉันถึงได้รู้สึกคล้ายกับว่า



    ฉันนั้นไม่สามารถที่จะมีชีวิตได้อีกต่อไปแล้ว..



    เหมือนดั่งแก้ว .. หัวใจของคนเราบอบบางมาก
    หัวใจ .. มักจะเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆน้อยๆเสมอ



    ถ้าพูดว่าขอโทษ .. เธอจะรับฟังมันมั๊ย?



    เรื่องนี้อาจจะไม่มีวันเกิดขึ้น
    แต่ถ้าวันไหนเธอเปลี่ยนใจแล้วเดินจากฉันไป
    รู้อะไรไหม?

    ฉันจะไม่มีวันลืมเธอเลย..



    ไม่มีวันลบเธอออกไปได้


    กลับมาหาฉันได้ไหม?



    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังยิ้มได้นั้นคือ .. เธอ 
    เหตุผลที่ฉันยังวิ่งต่อไปนั้นคือ .. เธอ

    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ

    ทุกๆเหตุผลของฉันมีแต่เธอเท่านั้น




    ก็เพราะว่า


    ฉันรักเธอ




    ฉันรักคีย์


    .
    .



    วันที่คีย์ร้องไห้มากที่สุด .. ไม่ใช่วันนี้
    แต่เค้าจะจำมันไปจนชั่วชีวิต เพราะครั้งนี้

    .. เขากำลังร้องไห้ออกมาก็เพราะว่าหัวใจนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่สุดในชีวิต ..








    KISS Minho.Key




    คีย์ไม่ได้ปีนต้นไม้นานมากแล้ว พอกลับมาทำแบบนั้นอีกครั้งก็เล่นเอาแทบแย่
    แต่ที่ทำให้แอบน้อยใจนิดๆก็เพราะว่าภาพที่เห็น

    ร่างสูงของใครบางคนนอนแผ่หลาอยู่ตรงที่เดิม
    ไม่นานเปลือกตาทั้งสองที่เคยนิ่งงันก็ค่อยๆเปิดออก .. ข้างหนึ่งก่อนอย่างเคย
    พอเห็นว่าเป็นใคร ไม่เพียงแต่จะทำทีเป็นไม่ใส่ใจ มินโฮยังเปลี่ยนเป็นยกแขนทั้งสองขึ้นชันไว้ต่างหมอน
    แล้วนอนหลับสบาย



    ทำไมใจร้ายอย่างนี้ !



    "มินโฮฮ!!" คีย์เรียกพร้อมกันกับที่ส่งสายตาไม่พอใจนิดๆไปให้ 
    ถึงจะรู้ดีก็เถอะ ว่ามันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่หรอก

    กับคนอย่างมินโฮเนี่ย... 



    "ฉันปีนขึ้นมาตั้งนานนะ..ไม่ช่วยกันเลยเหรอ?"


    มินโฮเลิกคิ้วขึ้นสูงหลังจากที่ในที่สุดก็ยอมเปิดตาออกมองคนที่มาใหม่เสียที
    คีย์ยื่นมือเข้าไป หวังจริงๆนั่นแหละว่ามันคงจะทำให้มินโฮนึกได้ ช่วยออกแรงฉุดเขาขึ้นไปหน่อย

    แล้วเป็นไงล่ะ เมื่อประโยคถัดมาที่ว่า..



    "ก็ไม่ได้ใช้ให้ปีนขึ้นมาสักหน่อย"



    หึ่ย !

    บทจะไม่เปลี่ยน .. ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเกินไปแล้ว !!!



    คีย์ยู่หน้า เอาเป็นว่าก็ได้ เขาขึ้นไปเองก็ด๊าย ~


    แต่มินโฮกลับหัวเราะ ..

    สุดท้ายก็เอื้อมมือเข้าไปฉุดร่างทั้งร่างของคนตัวเล็กเข้ามาไว้ใกล้ๆ


    ใกล้ .. กว่าที่เคยเป็น



    "มินโฮ .. ฉัน"


    ไม่จำเป็นต้องพูดคำใดอีก มินโฮยกนิ้วชี้ขึ้นจรดหยุดถ้อยคำทั้งหมดของคนภายในอ้อมกอด
    จากนั้นคีย์ก็รู้ดีว่าสสถานการณ์แบบนี้เขาควรจะทำอย่างไร
    เปลือกตาทั้งคู่กดลงปิดก่อนที่จะทำได้เพียงแค่จิตนาการไป 
    ตอนที่ลมหายใจอีกคนหนึ่งขยับเขยื่อนเข้ามาใกล้ 


    มินโฮกับคีย์จูบกัน



    จูบนั้นที่ไม่ว่าจะเป็นลูกหวาดแสนสวยหรือแม้แต่ขนมหวานรสชาติดีแค่ไหน



    ก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับมันได้



    เพราะจูบนั้นช่างหวาน 



    จมลึกไปถึงภายในจิตใจ



    เยียวยาร่องรอยแตกร้าวทั้งหมดที่คนทั้งคู่มีได้



    ยิ่งกว่ายาวิเศษในขวดโหลใบไหน




    "ฉันรักมินโฮ\คีย์"




    เหตุผลที่ฉันยังหายใจคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังยิ้มได้นั้นคือ .. เธอ 
    เหตุผลที่ฉันยังวิ่งต่อไปนั้นคือ .. เธอ
    เหตุผลที่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือ .. เธอ

    ทุกๆเหตุผลของฉันมีแต่เธอเท่านั้น




    ก็เพราะว่า


    ฉันรักเธอ



    NOTHING CAN STOP ME FROM LOVING YOU



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×