ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (OS/SF) Unlimited Love ; TAETEN JAEDO JOHNIL ETC.

    ลำดับตอนที่ #8 : TAETEN : Green Tea Latte

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      72
      7 เม.ย. 63







    I like me better when I’m with you
    I like me better when I’m with you
    I knew from the first time, I’d stay for a long time
    ‘Cause I like me better when
    I like me better when I’m with you


    "พี่แทยง"

     

    เป็นการเรียกชื่ออีกฝ่ายที่เบามาก ใครจะไปคิดละว่าคนที่เราอยากอยู่ๆก็มายืนหอบอยู่ตรงหน้าเรา พอสมองเริ่มประมวลผลอะไรได้จู่ๆน้ำตาก็ดันคลอขึ้นมาบดบังการมอง ยกมือขึ้นปากมันออกแบบลวกๆเพื่อให้อีกคนไม่เห็นว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้

     

    "ต..เตนล์ไม่ได้จะหลบหน้านะ..ต..เตนล์แค่..อ๊ะ!"

     

    ยังไม่ทันที่จะได้อธิบายอะไร ผู้ชายที่เมื้อกี้กำลังยืนหอบเหนื่อยอยู่แต่ตอนนี้กลับรีบเร่งฝีเท้ามาใกล้ๆเตนล์แล้วดึงตัวเขาเข้าไปกอด

     

    "เรื่องนั้นไว้ค่อยว่ากันทีหลัง"

     

    "ผ..ผม.."

     

    "เรื่องเมื่อวันนั้นฉันขอโทษนะ ฉันยอมรับว่าตั้งใจแต่ฉันกลับไม่ถามถึงความรู้สึกของนายเลยสักนิดนึง ตอนที่จอห์นนี่บอกว่านายเปลี่ยนกะทำงานฉันก็เอาแต่คิดว่านายหลบหน้าฉัน ฉันกลัวนายจะเกลียดฉันที่ทำเรื่องแบบนั้นกับนาย”

     

    เป็นคำสารภาพที่เตนล์ฟังแล้วรู้สึกโล่งอกขึ้นมายังไงไม่รู้ รู้สึกเหมือนกับว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกลับความรู้สึกของเขามาก  มากกว่าความรู้สึกของตัวเองซะอีก ฝ่ามืออุ่นที่ตอนนี้กำลังลูบอยู่บนกลุ่มผมของเตนล์สัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยน กลิ่นน้ำหอมที่อีกคนมักชอบฉีดเมื่อได้กลิ่นก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายทันที เตนล์เลื่อนมือของตัวเองขึ้นไปโอบกอดอีกคนเอาไว้ฝ่ามือเล็กก็ลูบไปตามแผ่นหลังกว่านั้น


    “เกลียดฉันรึเปล่า”

     

    น้ำเสียงทุ้มที่ถามคำถามที่ตัวเองรู้สึกกังวลมาในหลายอาทิตย์ ถ้าเกิดเตนล์บอกว่าเกลียดขึ้นมาละเขาควรจะทำยังไงแล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆเขาคงต้องเนรเทศตัวเองให้ออกจากวงโคจรชีวิตของเตนล์ทันที

     

    “ไม่ได้เกลียดครับ”

     

    เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นมาเป็นคำตอบที่เอาแทยงเองก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ดีใจที่เตนล์ไม่ได้เกลียดอะไรเขาแต่สายตาเขาก็สังเกตเห็นใบหูเล็กของอีกคนที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงจัดจนมันเห็นได้ชัด

     

    เตนล์กำลังเขินเขางั้นหรอ

     

    “ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมผมถึงเอาแต่คิดถึงเรื่องของคุณตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่เรื่องวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอคุณเลย ที่ผมเปลี่ยนกะก็เพราะว่าผมต้องจัดเวลาเรียนของตัวเอง แต่พอเวลามันนานขึ้นเอากลับเอาแต่คิดถึงเรื่องของคุณอยากเจอคุณเหมือนอย่างทุกวัน ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกเรื่องเปลี่ยนกะก่อนแล้วก็ขอโทษนะครับที่ทำให้คุณต้องกังวล”

     

    เตนล์เงยมองหน้าอีกคนแล้วอธิบายเรื่องของตัวเองให้อีกคนฟัง พอได้มองหน้าของอีกคนใกล้ๆเตนล์ก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้น เป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้งที่เตนล์ได้มองหน้าคุณแทยงใกล้ๆแบบนี้

     

    สงสัยเตนล์คงจะชอบคุณแทยงแล้วละ..

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เตนล์กับแทยงต่างเดินมาที่ร้านประจำด้วยกัน เตนล์เลิกงานในเวลา4ทุ่มของทุกๆวันและมักกลับบ้านคนเดียวหรือไม่ก็พี่แทอิลไปส่งแต่วันนี้จะต่างออกไปจากทุกๆวัน ทำไมน่ะหรอ

     

    ก็คุณแทยงเขาขออยู่รอแล้วจะเป็นคนไปส่งหลังเลิกงานน่ะสิ

     

     

    “มาไมไอ้หน้าแมว”

     

    “ย่าห์! จอห์นนี่ทำไมพูดจาแบบนี้”

     

    พักหลังๆมานี้พี่จอห์นนี่มักจะโดนพี่แทอิลดุอยู่บ่อยๆแต่เตนล์ก็ไม่รู้ว่าโดนดุเรื่องจนวันนี้นี่แหละที่เห็นว่าโดนดุเพราะพูดจากับลูกค้าไม่ดี ส่วนลูกค้าที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลก็คุณลูกค้าประจำของร้านอย่างแทยงนี้แหละที่โดน

     

    “พี่แทยงจะรับอะไรดี”

     

    เตนล์เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมชุดเครื่องแบบของร้าน วันนี้ที่ประจำของแทยงไม่ใช่ตีริมหน้าต่างแต่เป็นโต๊ะที่ติดอยู่กับเคาว์เตอร์ที่เตนล์ทำงานอยู่

     

    ก็นั่งมุมนี้มันมองได้ชัดกว่านี่นะ

     

    “เอาชาเขียวลาเต้เหมือนเดิม”

     

    “ครับ”

     

    เตนล์หันกลับไปทำตามออเดอร์อีกคนสั่ง ชาเขียวลาเต้แก้วเดิมกับคนคนเดิมที่ทำให้ใจเต้นมาโดยตลอด ทุกการกระทำของเตนล์และแทยงตกเป็นเป้าสายตาของอีก3คนในร้าน โดยเฉพาะกับเด็กหนุ่มม.ปลายพนักงานใหม่อย่างยูคยอมที่ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

     

    “ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรอพี่”

     

    “ลูกค้าประจำน่ะ ดูดีเนอะ”

     

    พอแทอิลเอ่ยบอกชมผู้ชายคนอื่นคนที่มีป้ายแปะไว้ที่ว่าเป็นแฟนอย่างจอห์นนี่ก็อดที่จะส่งสายตาเป็นเชิงดุไม่ได้ สงสัยต้องกลับไปเคลียร์สักหน่อยล่ะ ใช่ไม่ได้มาชมคนอื่นว่าดูดีทั้งๆที่จอห์นนี่ก็ยืนอยู่ด้วย

     

    พรุ่งนี้ปิดร้านดีมั้ย

     

              .

                .

                .

                .

                “เด็กผู้ชายคนนั้นพนักงานใหม่หรอเตนล์”

     

                “ใช่ ยูคยอมน่ะ ยังเป็นเด็กม.ปลายอยู่เลยแต่สูงกว่าเตนล์อีก”

     

                “ก็เตนล์เตี้ยนิ”

     

                “พี่แทยงก็สูงกว่าเตนล์แค่นิดเดียวเอง งื้อออ”

     

                น้ำเสียงที่เริ่มงอแงของเตนล์เมื่อถูกอีกคนว่าเรื่องส่วนสูงแต่ยังไม่ทันจะได้ถียงอะไรกลับไปเยอะก็โดนฝ่ามืออุ่นของอีกคนมายี้ที่กลุ่มผมสีน้ำตาลสว่างของเตนล์จนมันฟูไม่เป็นทรงพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเจ้าของฝ่ามืออุ่นนั้น

     

                รอยยิ้มของแทยงที่กำลังยิ้มให้เตนล์ รอยยิ้มที่เห็นแล้วรู้สึกใจสั่น รอยยิ้มที่อบอุ่น รอยยิ้มที่แทยงไม่เคยยิ้มให้ใครนอกจากเตนล์

     

                ใครเอาน้ำร้อนมาราดหน้าเตนล์กันนะ ทำไมมันร้อนแบบนี้

     

                .

                .

                .

                .

                .

     

                “กลับบ้านกันดีๆนะครับ”

     

                “กลับก่อนนะหมวย อย่าพาน้องกูเถลไถลนะมึง”

               

                ประโยคแรกเป็นการบอกลากับน้องชายคนสนิท แต่ประโยคหลังเป็นคำสั่งบอกกับคนที่จะไปส่งน้องชายเขา

     

                ใช่ แทยงไปส่งเตนล์

     

              หอพักของเตนล์กับแทยงอยู่ห่างกันไม่กี่บล็อกของตึก พวกเขาเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าระยะทางมันใกล้แค่นี้แต่กลับไม่เคยเจอกันมาก่อน ระหว่างการเดินกลับของทั้งคู่ก็มีเรื่องให้พูดคุยกันตลอดทาง ทั้งเรื่องภาพยนตร์ที่ชอบ แนวเพลงชอบฟัง หรือแม้แต่เรื่องไร้สาระที่ทำในแต่วัน เสียงพูดคุยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เตนล์เป็นคนพูดเก่งส่วนแทยงก็ทำหน้าเป็นผู้ฟังที่ดี

     

                อาการในเวลา4ทุ่มเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีผู้คนเดินกันไปมาทำประสาวัยรุ่นที่ออกมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง พรุ่งนี้เตนล์ไม่มีเรียนช่วงเช้าเลยไม่รีบที่จะกลับห้องแต่คนที่เดินอยู่ด้วยข้างๆเนี้ยสิไม่รู้ว่ามีงานที่ต้องกลับไปทำด้วยรึเปล่าถึงได้ดูไม่รีบร้อนที่จะกลับห้องพักตัวเอง

     

                “พี่แทยง มีงานที่ต้องไปทำรึเปล่า”

               

                “พี่เคลียร์หมดแล้ว แล้วเตนล์ล่ะ”

     

                “ไม่มีครับ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียนเช้าด้วย”

     

                เตนล์ยิ้มออกมาด้วยท่าทางที่แทยงมองแล้วคิดว่ามัน(โคตร)น่ารัก ไม่รู้ว่านี่จะเร็วไปไหมสำหรับเตนล์แต่แทยงอยากทำให้เตนล์มั่นใจว่าตัวเขานั้นจริงจังกับเตนล์ไม่ใช่พวกที่คิดจะมาเล่นๆ ถึงเขาจะไม่ได้เดินหน้าจีบเลยก็ตามเถอะ

     

                “เตนล์”

     

                “ครับพี่แทยง?”

     

                “เอ่อออ..เป็นแฟนกันมั้ย

     

                อยู่ๆก็รู้สึกเขินขึ้นมากับคำพูดของตัวเอง แต่แทยงเองก็ไม่อยากรอแล้วเขากลัวว่าวันหนึ่งเขากับเตนล์จะต้องห่างกัน แล้วถ้าเกิดเตนล์ปฏิเสธเขาขึ้นมาละ  มีหวังได้จำกัดระยะห่างกับเตนล์แน่ๆ

     

                “เอ่อออ..คือ”

     

                “ถ้าเป็นแล้วพี่จะไม่ทิ้งแน่หรอครับ”

     

                “ครับ?”

                “ผมไว้ใจพี่ได้ใช่ไหมครับ”

     

                ตกใจอยู่เหมือนกันที่อีกคนขอเป็นแฟน แต่เตนล์จะมั่นใจได้ยังไงว่าอีกคนจะจริงจังกับเขามากน้อยแค่ไหน แอบกลัวเหมือนกันว่าถ้าคบกันแล้วจะมีปัญหาที่ทำให้ไม่เข้าใจกันแล้วต้องมาเลิกรากันขึ้นมา มันจะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอ

     

                “ไว้ใจพี่เถอะ พี่ชอบเตนล์ตั้งแต่ที่เตนล์เริ่มมาทำงานที่ร้าน ตอนแรกพี่รู้สึกเอ็นดูเตนล์แต่พอมองนานๆเข้าความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไป พี่ไม่อยากให้เตนล์ยิ้มให้กับคนอื่น พี่อยากเป็นคนที่สามารถดูแลเตนล์ได้”

     

                “พอก่อนครับ ผมตกลงตั้งแต่พี่บอกว่าชอบผมตั้งแต่ที่เริ่มเข้ามาทำงานแล้วละครับ”

     

                แทยงยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ยิ่งรู้จักเด็กคนนี้มากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กคนโตขึ้นเรื่อยๆความน่ารักก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน แทยงดึงเตนล์เข้ามากอดฝ่ามืออุ่นที่ยังคงความอบอุ่นเอาไว้สัมผัสที่กลุ้มผมของเตนล์ เตนล์เองก็เลื่อนมือขึ้นมากอดอีกคนเช่นกัน ถึงจะกลัวในเรื่องบางอย่างแต่ยังไงซะนั้นมันส่วนของในอนาคตเราควรจะมองที่ปัจจุบันมากกว่า ปัจจุบันตอนนี้มีความสุขยังไงเดี๋ยวในอนาคตก็ต้องมีความสุขเหมือนกันนั้นแหละ แค่ตอนนี้เรามีความสุขกับคนที่เรารักมันก็ดีแล้ว

     

                เพราะเตนล์เชื่อใจคนคนนี้ เชื่อว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรเกิดขึ้นผู้ชายคนนี้ก็จะอยู่ข้างๆเขาไม่ห่างไปไหนแน่นอน เตนล์เชื่อแบบนั้น

     

                แทยงก็ยังคงเป็นแทยงคนเดิมและตั้งแต่ตอนนี้เขาก็จะเป็นพี่ลาเต้ของเตนล์  และจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเข้ามาเข้าขอสัญญาว่าจะจับมือนี้แล้วผ่านมันไปด้วยกัน

     

                “ขอบคุณนะครับที่เข้ามาในวงโคจรชีวิตของผม”

               

                “ขอบคุณเหมือนกันนะครับที่ไว้ใจและเชื่อใจ”


              “รักนะครับพี่ลาเต้ของผม”

























































































    Talk:

                เรื่องนี้แบบพี่เขาต้องรู้สึกเยอะคนเดียว เป็นคนคิดเยอะ

                ตอนพิเศษก็ตามมาเช่นเดิม แต่รอบนี้ไม่เรทเหมือนมนุษย์แมวน้า

                ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนเลยที่ให้กำลังใจไรท์

                ใครที่อยากบ่นไรท์ก็สามารถมาตามบ่นที่ทวิตไรท์ได้

                คู่ต่อไปตอนนี้กำลังคิดอยู่จะเอาแนวนี้ดีมั้ยกลัวรีดเดอร์ไม่ชอบ

                ขอบคุณรีดเดอร์ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านฟิคของไรท์นะคะ

                เจอกันตอนพิเศษนะคะ

                Enjoy Reading  And Thank You For Reading

























     
    B
    E
    R
    L
    I
    N
    Tiny Bunny
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×