คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : PROLOGUE
PROLOGUE
วันนี้เป็นครั้งที่สองของวันที่ ‘ชาคริยา เหมอัมพร’ หรือ ‘เอม’ ต้องผละจากร้านยาที่เธอเป็นเจ้าของและดูแลอยู่ประจำออกมาซื้อของใช้เพิ่มเติมให้พี่สาวที่ร้านสะดวกซื้อ ร่างระหงสูงโปร่งราว 170 ซม.ก้าวฉับๆออกจากประตูที่เปิดโดยอัตโนมัติอย่างรีบเร่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลแหงนขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเป็นกังวลกับท่าทีบรรยากาศมืดครึ้มของก้อนเมฆตอนกลางคืนที่ส่อแววว่าจะมีฝนตกในไม่ช้า ริมฝีปากบางบนใบหน้ารูปเรียวไข่ขยับขึ้นลงพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์
“นี่ถ้าฝนตกลงมาล่ะก็...พี่เอิงนะพีเอิง...” เธอเอ่ยเสียงหวาน พลางเดินกลับเข้าสู่ทางเดิม แสงไฟจากเสาไฟฟ้าริมทางขับให้ผิวของเธอดูขาวผ่องยิ่งกว่าเดิม
หลังจากเลี้ยวตรงหัวมุมถนนก็จะเป็นเส้นทางกลับบ้านของเธอ ซึ่งก่อนหน้านั้นจะต้องผ่านสวนสาธารณะอันกว้างขวางของเอกชนที่มีผู้ใจดีมาสร้างไว้ให้เป็นที่พักผ่อนย่อนคลายสำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะเด็กๆที่มักจะมาเล่นกันที่นี่อย่างสนุกสนาน บรรยากาศที่นี่ต่างจากตอนกลางวันลิบลับ ลมที่พัดโชยดังมากระทบเครื่องเล่นสร้างเสียงเสียดสีราวกับเสียงเหล็กร้อง แต่ก็ยังดีหน่อยที่มีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าส่งไปถึงพอให้เห็นอยู่บ้าง
หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบๆอย่างระวัง มันไม่ดีนักที่จะมาเดินอยู่คนเดียวในที่จัดได้ว่าเปลี่ยวและชวนขนลุก แต่สำหรับเธอแล้วสิ่งเดียวที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ‘มนุษย์’ มากกว่าสิ่งอื่น...เพราะเธอนั้นเรียกได้ว่าคุ้นเคยในการ ‘เห็น’ มากกว่าใคร
และแล้วชาคริยาก็ไปสะดุดตาเข้ากับตู้สีขาวขนาดใหญ่ใบหนึ่งซึ่งถูกตั้งอยู่ด้านหลังม้ากระดก เธอจึงเดินเข้าไปใกล้เพื่อหวังจะทดลอง หญิงสาวไล่สายตาไปยังน้ำแต่ละชนิดอย่างบรรจง แต่ก่อนที่นิ้วเรียวของเธอจะกดเลือกลงไปนั้น หูของเธอก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากด้านหลังตู้ขายน้ำอัตโนมัติ และพลันความรู้สึกเดิมๆก็กลับมาอีกครั้ง! ขนที่เคยแบนราบกลับลุกตั้ง อัตราการเต้นของหัวใจถี่ขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกหวิววาบ ความรู้สึกแปลกประหลาดซึ่งยากที่จะอธิบาย...ความรู้สึกก่อนที่เธอจะได้เจอกับ ‘วิญญาณ!’
“ไม่เป็นไรนะเจ้าตัวน้อย...” เสียงทุ้มฟังดูอ่อนโยนดังขึ้น เรียกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เธอตัดสินใจทำตัวลีบแอบฟังอยู่เงียบๆอยู่หลังตู้กดน้ำ
“เมี้ยว~” เสียงร้องของสัตว์ดังตามมา มันเป็นเสียงร้องของแมวเฉกเช่นแมวธรรมดาทั่วไป ด้วยความสงสัยเอมจึงเลือกที่จะชะโงกหน้าดูให้รู้แล้วรู้รอด ว่าตกลงใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบรรยากาศชวนขนลุกนี่
และแล้วความจริงก็ปรากฏชัดแก่สายตาของชาคริยา เธอเห็นชายหนุ่มร่างสูงกำลังย่อตัวลงยื่นมือไปสัมผัสสิ่งมีชีวิตตรงหน้า เขามีเรือนผมสีดำทรงสั้น ใบหน้าหล่อคมรับกับจมูกโด่งเป็นสันได้อย่างดี ผิวที่โผล่พ้นเสื้อนอกนั้นขาวยามเมื่อต้องแสงไฟ นัยน์ตาสีนิลมองไปยังแมวตัวน้อยตรงหน้าอย่างเอ็นดู แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันนั่นคือ...ร่างของเจ้าแมวขนสีขาวปุกปุยนั้นกลับถูกอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน!
ร่างบางเบิกตาโพลงและเผลอถอยหลังไปเหยียบกระป๋องน้ำด้วยความตกใจ ข้าวของที่ซื้อมาตกพื้นกระจาย เธอไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถสัมผัสสิ่งเร้นลับได้ ถึงแม้จะมีแต่ก็คงน้อยมาก แต่เขาคนนั้น...เขาคนนั้นเป็นคนหนึ่งที่เหมือนเธอ
“หืม?” ชายหนุ่มหันขวับมาทางต้นเสียงในทันที เขาผละจากร่างของแมวตัวนั้นและเดินอ้อมมาอีกฝั่งของตู้ขายน้ำอัตโนมัติ
หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน ภายในใจก่นด่าตัวเองที่ไม่ระมัดระวังจนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา สายตาของเธอสบเข้ากับดวงตาคู่สวยของร่างสูง แทนที่จะพูดแก้ตัวแต่เขากลับยืนนิ่งและมองเธออย่างสงสัย
“เธอไม่ร้อง?” ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงฟังดูแปลกใจ แต่ถึงกระนั้นเขาเพียงแต่เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งขึ้น อย่างนิสัยคนใจเย็น
“ฉันกรี๊ดไม่เป็น” ชาคริยาตอบเสียงเรียบตามแบบฉบับของเธอ ก่อนเบนสายตาไปยังด้านหลังของคนที่สูงกว่าเธอสิบกว่าเซนติเมตร “แมวตัวนั้น...” แมวขนสีขาวเปื้อนเลือดเดินมาคลอเคลียเขาไม่ห่าง
“เธอก็เห็นงั้นเหรอ?” เขาพูดอย่างแปลกใจ แน่ล่ะเธอเองก็เช่นกัน
“อืม...” เธอพยักหน้าตอบน้อยๆ ใบหน้าหวานยังคงสีหน้าเดิม
“งั้นดีเลย...” ร่างสูงควานหาอะไรบางอย่างจากเสื้อนอก เขายื่นกระดาษบางสีขาวกลิ่นหอมให้เธอ “นี่นามบัตรฉัน”
“หมายความว่ายังไง” เธอเอ่ยเสียงเรียบ
“ฉันอยากให้เธอช่วย” เขาพูด ใบหน้าหล่อคมดูจริงจัง
“ช่วยอะไร” คิ้วเรียวของหญิงสาวขมวดเข้าหากัน พลางก้มลงเก็บของที่กระจายอยู่ที่พื้นอย่างไม่ใส่ใจฟังสักเท่าไหร่
“ช่วยตามหาวิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งกับฉัน” พูดแค่นั้นชายหนุ่มก็ยัดกระดาษสีขาวแผ่นเล็กใส่มือของชาคริยาโดยไม่รอบอกเธอเป็นครั้งที่สอง เขารีบเดินจากไปราวกลับกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ “ดะ เดี๋ยวก่อน!” เธอเตรียมจะวิ่งตามไปแต่ก็มัวห่วงของจนแผ่นหลังของชายคนนั้นไปลับสายตา
“เฮ้อ....” เธอถอนหายใจ
ถ้าจะให้ช่วยก็บอกรายละเอียดให้มากกว่านี้หน่อยสิ...คนอะไรอย่างกับจอมเผด็จการ!
“เมี้ยว~~” เสียงร้องของแมวตัวเดิมดังขึ้นข้างๆหู หญิงสาวเบนสายตาหันไปมอง ในใจรู้สึกสงสารแต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ ในเมื่อทุกสิ่งต้องเป็นไปตามวัฏจักรแห่งชีวิต
“เดี๋ยวฉันจะทำบุญไปให้นะเจ้าตัวน้อย” ริมฝีปากอิ่มสีกลีบกุหลาบคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แมวขนสีขาวตัวน้อยร้องขอบคุณเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างเล็กบอบบางของมันจะค่อยๆเลือนหายไป
“เมี้ยว~~”
----100%----
cinna mon
ความคิดเห็น