คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ,, ตอนที่ ๖ , ประกาศศึก 100%
จะพยายามปลีกเวลามาให้ได้มากที่สุดนะคะ !
ยังไงก็ อย่าลืมเม้นประกาศตัวให้รู้ว่ายังมีคนอ่านเรื่องนี้กันอยู่ด้วยล่า
ปล. ระหว่าง สวีทสวีทโฮม กับ รูมเมทโซลเมท อยากให้รวมเล่มเรื่องไหนก่อนคะ?
“อ่าวยุนโฮ” คุณครูหน้าสวยเอ่ยปากทักเด็กหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาในโรงเรียน
“อรุณสวัสดิ์ครับครูคิม” ยุนโฮก้มหัวทักทาย ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้
“เอ้อครูครับ”
“จ๊ะ ?” ฮีชอลยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่แทบจะทำให้บรรดานักเรียนหนุ่มคนอื่นๆ ต้องหยุดมอง
คุณครูคิมฮีชอลคนสวยที่ 1 ของโรงเรียน...
“เรื่องที่ครูจะติวให้ผมน่ะครับ...ผมขอปฏิเสธ”
เพล้งงง ~
รอยยิ้มสวยยังคงค้างอยู่บนใบหน้าแต่เหมือนดวงตากลมโตนั่นจะกระตุกเล็กน้อยด้วยความคาดไม่ถึง
ไม่เคยมีใครปฏิเสธ...
“ยุนโฮไม่สะดวกงั้นหรอ ?”
“ผมมีคนที่จะให้ติวให้แล้วล่ะครับ”
“งั้นหรอ...แล้วถ้าครูจะถามว่าใคร...”
ฮีชอลยังพูดไม่ทันจบยุนโฮก็พูดสวนขึ้นมาทันที
“คนๆ นั้นเขาให้ผมบอกคุณครูว่า ผมมีติวเตอร์ชื่อว่า คิมแจจุง ครับ! ผมขอตัวไปเข้าเรียนก่อนนะครับ “ ยุนโฮรีบโค้งลาคุณครูแล้ววิ่งตรงไปยังตึกเรียนของตัวเอง
ทิ้งคุณครูคนสวยไว้กับความเจ็บใจ ดวงตากลมโตฉายแววอาฆาตขึ้นมาทันที
คิมแจจุง...
ทำไมเขาจะไม่รู้ ทำไมเขาจะไม่เห็นว่าคนที่มาสมัครเรียนพร้อมกับยุนโฮคนนั้นเป็นใคร
รุ่นพี่ที่เขาเคารพรักมากที่สุด...หึ...
รุ่นพี่คิดจะกันท่าเขางั้นหรอ ? หรือคิดจะประกาศศึกถึงได้ให้ยุนโฮมาพูดกับเขาแบบนี้
ก็ในเมื่อเคยแย่งมาได้แล้วครั้งนึง...ทำไมครั้งที่สองถึงคิดว่าจะไม่สำเร็จล่ะ ????
ดีใจที่ได้ผมกันอีกครั้งนะครับ
รุ่นพี่ คิมแจจุง ;)
“โบรา...” แจจุงที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องประชุมใหญ่ที่มีเพื่อนสาวของตัวเองกับลูกมืออีกสองคนช่วยกันจัดชุดใส่หุ่นอยู่
“หืมม?” โบราส่งเสียงตอบรับ แต่ก็ยังวุ่นวายกับการแต่งชุดเข้าหุ่นให้สวยงามอยู่
“ตอนปี 2 อ่ะ ที่แกเป็นแฟนกับเด็กม.ปลาย แกรู้สึกยังไงวะ?” แจจุงปิดหนังสือนิตยาสารในมือก่อนจะวางทิ้งไว้ข้างๆ อย่างไม่มีอารมณ์จะอ่าน
“ห้ะ!? จู่ๆ ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้วะ?” โบราวางมือจากงานที่ตัวเองทำอยู่ก่อนจะไล่ทีมงานของตัวเองให้ไปพักเพื่อที่จะได้เม้ากับแจจุงได้อย่างถนัด
“คือแกแบบไม่รู้สึกแย่บ้างหรอที่มีแฟนเด็กกว่า?”
“รู้สึกแย่ยังไงวะ -*-“ โบรานั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะประชุมซึ่งอยู่ไกลพอที่จะเห็นท่าทางของคิมแจจุงได้อย่างถนัด
“คือแบบแกเป็นแฟนกับเด็กนะเว้ย มันจะปกป้องดูแลแกได้หรอ?”
“นี่แกถามถึงเรื่องแบบนี้ทำไม? อย่าบอกนะว่ายุนโฮขอเป็นแฟน?”
“อยากโดนตบสินะถึงได้ถามคำถามแบบนี้” แจจุงเปลี่ยนจากหน้าตาที่เหมือนอมทุกข์เป็นหน้าตาเหวี่ยงเหมือนปกติ
“ฉันอุตส่าห์ไล่เด็กออกไปเพื่อตอบคำถามแกเลยนะ แล้วนี่แกมาเหวี่ยงฉันแบบนี้หรอ ฉันไม่ตอบแล้ว!”
“อ้าวเห้ยโบรา”
“ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกแจจุง...คนจะใช่อ่ะ ต่อให้มันยังเรียนอยู่อนุบาล มันก็คือคนที่ใช่สำหรับเรา...”
อนุบาลเนี่ยนะ -*- บ้าไปแล้วโบรา ถ้าเด็กขนาดนั้นก็ไปเอามาเป็นลูกเถอะย่ะ!
แล้วสรุปแล้วเขามาอยากรู้เรื่องการคบเด็กทำไมกันเนี่ย...
รถคันสวยประจำตำแหน่งวนเข้ามาจอดในบ้าน พอดีกับที่ผู้อาศัยอีกคนเดินกลับมาถึงพอดี
“อ้าวยุนโฮ กลับมาพอดีเลย...วันนี้ซื้อเนื้อมาเยอะแยะเลยล่ะ เรามาย่างเนื้อกินกันเถอะ!”
“ฮะ?! มีโอกาสพิเศษอะไรรึเปล่า?” ยุนโฮปิดประตูรั้วบ้านอย่างงงๆ
“นายควรจะรู้ไว้ได้แล้วนะ ว่าสำหรับคนที่สวยและรวยมากอย่างคิมแจจุงเนี่ย ไม่มีโอกาสพิเศษหรอก ทุกมื้อจะต้องเริ่ดและอร่อย!” แจจุงเดินตัวปลิวเข้าไปในบ้าน ทิ้งไว้ก็แต่ถุงมากมายที่วางทิ้งไว้อยู่ที่เบาะข้างคนขับ
เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า ให้คนที่ยังไม่ได้เข้าบ้านหอบทั้งหมดตามเข้าไป =___=;
ฉ่า ฉ่า ฉ่า
เสียงเนื้อสดๆ ที่ถูกความร้อนจากเตาไฟฟ้าส่งเสียงชวนกินกับกลิ่นหอมๆ ยั่วยวนคนทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
“วันนี้ฉันกลับบ้านเร็ว เวลาเหลือเฟือมาก จะเริ่มติวหนังสือให้นายเลยดีมั้ย?” ในขณะที่ปากเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ้ว มือบางก็คว้าผักใบเขียวขึ้นมาคีบเครื่องเคียงใส่ก่อนจะตามด้วยเนื้อที่เริ่มสุกได้ที่มาห่อเข้าด้วยกัน
“จริงๆ ผมก็ไม่อยากรบกวนพี่หรอกครับ...งานเยอะเหมือนกันไม่ใช่หรอ?” ยุนโฮคีบเนื้อที่สุกเข้าปาก ก่อนจะตามด้วยข้าวสวยร้อนๆ คำโต
“วันนี้ฉันว่างไงล่า” แจจุงยัดห่อผักของตัวเองเข้าปากก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยท่าทางที่คนมองมองว่าน่ารักสุดๆ ไปเลย
แก้มขาวเนียนที่พองกลม กับริมฝีปากสีสดที่ห่อตัวกันเป็นรูปโดนัท
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“อ้าว เงียบทำไม กินเข้าไปด้วย แล้วก็คุยกับฉันด้วยสิ”
“ครับๆ”
“เออนี่ แล้วเราน่ะอยู่ด้วยกัน มีอะไรก็บอกกันตรงๆ ได้เลยนะ จะได้ไม่อึดอัด เราคงจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน”
“พี่มั่นใจนะ ว่าผมจะไม่ทำให้พี่ลำบาก?”
“ก็อาจจะนิดหน่อย...แต่ฉันว่ามันก็สนุกดีนะ เวลาอยู่คนเดียวมันก็เหงาเหมือนกันนั่นแหละ...” ก็แน่ล่ะสิ เมื่อก่อนคนอย่างคิมแจจุง
ไม่ได้โสดโดนทิ้งเหมือนตอนนี้นี่หน่า
“เออแล้วก็อีกอย่างนึงนะ...”
“ครับ?”
“นายไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่หรอก...”
“อ้าว?”
“ไม่รู้สิ พอเจอเด็กหน้าแก่ๆ อย่างนายมาเรียกพี่แล้วฉันรู้สึกตลกยังไงก็ไม่รู้”
“-0-!!”
“ฮ่าๆๆๆ ดูทำหน้าเข้าสิ” แจจุงหัวเราะร่วนอย่างรู้สึกขำกำหน้าตาอึ้งๆ งงๆ ของอีกคน
บรรยากาศกำลังไปได้ด้วยดี คนทั้งสองที่พึ่งจะต้องอยู่ด้วยกันได้ไม่นานก็เริ่มจะปรับตัวเข้ากันได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ออดดดดดดดดดดดดดดดดด
“หืม? ใครมา “ แจจุงวางตะเกียบลงก่อนที่จะมองไปทางหน้าบ้านอย่างสงสัย
“งั้นเดี๋ยวผมไปดูให้เอง” ยุนโฮวางตะเกียบก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าบ้านเพื่อมองไปทางประตูรั้วที่มีใบหน้าของใครบางคนที่เค้าคิดว่ารู้จักลอยเด่นอยู่เหนือขอบรั้ว
“สวัสดีจ้ะ ยุนโฮ ^^”
“ค...ครูคิม” ไม่รู้ทำไม...เค้าถึงต้องตกใจแล้วก็รู้สึกเหมือนหายนะกำลังจะมาเยือนขนาดนี้!
“ใครมาน่ะยุนโฮ” แจจุงที่เห็นยุนโฮยืนนิ่ง ก็เดินตามออกมา
“อ้าว สวัสดีครับรุ่นพี่ ไม่เจอกันนานเลยนะฮะ ^^- “
“ค...คิมฮีชอล”
“วันนี้ผมมาในฐานะครูประจำชั้นของยุนโฮ มาดูความเป็นอยู่ของนักเรียนน่ะฮะ”
“....”
“แล้วนี่ จะไม่มีใครมาเปิดประตูต้อนรับครูเลยหรอจ๊ะ ^^?” รอยยิ้มที่ดูไม่มีวี่แววว่าจะหุบนั้นมองยังไง ก็ไม่รู้สึกเหมือนเจ้าของรอยยิ้ม กำลังยิ้มอยู่จริงๆ เลยซักนิด
“???” ยุนโฮหันกลับไปมองหน้าเจ้าของบ้านด้วยความที่ทำตัวไม่ถูกว่าจะเอายังไงดี
“ไปเปิดให้เขาสิ” แจจุงพูดจบก็หมุนกลับเข้าบ้าน
ประโยคห้วนๆ แบบนั้น น่ากลัวชะมัดเลย T__________________T!
“ดูเหมือนผู้ปกครองของยุนโฮจะไม่ค่อยยินดีกับการที่ครูมาซักนิดเลยนะ” ฮีชอลเดินข้างยุนโฮเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจะถือโอกาสเดินไปรอบๆ อย่างสำรวจ
“เข้ามาในบ้านคนอื่นก็ควรจะนั่งอยู่เฉยๆ” เสียงเจ้าของบ้านว่าขึ้นมาในขณะที่เจ้าตัวกำลังเก็บเตาที่ทานค้างไว้เมื่อซักครู่
“อ่า นี่กำลังกินข้าวกันอยู่หรอฮะ พอดีเลย...ผมยังไม่ทานอะไรมาเหมือนกัน รบกวนด้วยนะฮะรุ่นพี่” ฮีชอลถือวิสาสะ เดินไปนั่งตรงที่ๆ แจจุงนั่งอยู่เมื่อครู่
“หน้าด้านจริง” ยุนโฮได้ยินเสียงดีดังรอดออกมาจากปากของเจ้าของบ้าน และก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก ที่คนที่ถูกว่า ก็จะได้ยินเหมือนกัน...
“อ้อ จะว่าไป ผมก็โทรชวนใครบางคนมาด้วยล่ะฮะ ถือซะว่าเรามาจัดปาร์ตี้เล็กๆ เนื่องในโอกาสที่เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วดีกว่านะครับรุ่นพี่” ฮีชอลพูดเองเออเองเสียเสร็จศัพท์
โดยที่ไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธของตัวเจ้าของบ้านเลยซักนิด
บรื้นนนนนน
เสียงรถที่ดังขึ้นอยู่ที่หน้าบ้านทำให้คนที่อยู่ภายในบ้านทั้งสามรับรู้ได้ไม่ยากว่ามีคนมาถึงแล้ว
และก็คงจะไม่ใช่ใครที่ไหน....
“อย่าบอกนะว่า...”
“ครับ... ‘คนเก่า’ ของพวกเรายังไงล่ะ” ฮีชอลฉายยิ้มร้ายชัดเจนครั้งแรกตั้งแต่มาถึง ก่อนจะเดินออกไปเพื่อรับคนมาใหม่ที่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเป็นใคร
“ไหวแน่หรอ? ผู้ชายคนนั้นน่ะ” ยุนโฮถามคนที่มีสีหน้ายากจะคาดเดาอย่างรู้สึกเป็นห่วงไม่น้อย
“หึ ถ้าคิมฮีชอลอยากจะเล่นไม้นี้...ก็ต้องลองเจอกันซักตั้ง” รอยยิ้มชั่วร้ายไม่แพ้อีกคนถูกยกขึ้นอย่างชัดเจน
ยุนโฮแอบลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่อยากจะคาดคิดกับเหตุการณ์ที่คนแรงๆ สองคนจะต้องมาปะทะกันต่อหน้าต่อตาเค้าแบบนี้
ฮีชอลเดินกลับเข้ามาพร้อมๆ กับคนที่แจจุงไม่อยากจะเจอมากพอๆ กับฮีชอล
ชเว ซีวอน ...
“ฮีชอลบอกผมว่าคุณจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ ฉลองที่พวกเราได้กลับมาเจอกัน”
“แล้วก็เชื่อ?” แจจุงเลิกคิ้วถามอย่างอธิบายอารมณ์ไม่ถูก
นี่ซีวอนโง่หรือว่ายังไงกันแน่ถึงได้ไม่รู้ว่าเค้าพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากเจอมากขนาดไหน
“แหมรุ่นพี่ฮะ ผมก็แค่อยากให้พวกเรากลับมาเป็นกลุ่มที่รักกันเหมือนเดิม ^^”
“งั้นก็เลิกตอแหลซะสิ” แจจุงว่าออกไปตรงๆ
“ใจเย็นนะ” ยุนโฮเดินเข้ามากระซิบบอกหวังจะให้ผู้ปกครองของเขาเย็นลงบ้าง
“หึ ไอ่เด็กนี่ยังอยู่อีกหรอ นึกว่าโดนทิ้งแล้วซะอีก”ซีวอนเอ่ยทักยุนโฮอย่างไม่เป็นมิตรมากนัก
“ทิ้ง ?” ฮีชอลหันไปทำทวนคำถามีวอนอย่างไม่เข้าใจ
“ไอ่เด็กนี่เป็นแฟนใหม่แจจุง เธอไม่รู้รึไง?” ซีวอนไขข้อข้องใจให้ แจจุงเหลือมองยุนโฮนิดๆ
ก็แหงล่ะสิ ตอนแรกมีแค่ซีวอนเข้าใจผิดคนเดียวก็ยังโอเค แต่นี่ฮีชอลกำลังจะเข้าใจผิดไปด้วยอีกคน
เอ้ะ หรือจะเป็นเรื่องที่ดีกันนะ ?
“ฟ...แฟน...งั้นหรอ?” ฮีชอลหันกลับมามองบุคคลที่ถูกพูดถึงทั้งสองคน ก่อนจะค่อยๆ ฉายยิ้มออกมา
“แหมรุ่นพี่ แล้วก็ไม่ยอมบอกกันเลยนะฮะ”
“ทำไมฉันจะต้องบอกเธอ?”
“ก็ยุนโฮเป็นถึงแฟนของรุ่นพี่...ผมก็ต้องดูแลให้เป็นพิเศษมากกว่าเดิมน่ะสิฮะ ^^”
ทำไมคนอีกสามคนที่ยืนอยู่รอบข้างจะไม่เข้าใจความหมายแอบแฝง...
เพราะฮีชอลก็เคยดูแลแฟนคนก่อนของแจจุงอย่างดีมากมาแล้วเหมือนกัน
“...”
“จะทานข้าวกันมั้ยครับ? เตาย่างจะไหม้หมดแล้ว”ยุนโฮขัดบรรยากาศที่เริ่มจะตึงเครียดก่อนจะคว้าข้อมือบางข้างกายให้เดินกลับเข้าไปทางโซนของห้องครัว
“ฉันรู้ความต้องการของนาย เพราะฉะนั้นนายกับฉันคงต้องร่วมมือกันสินะ?” ฮีชอลมองตามสองคนที่เดินจากไปพร้อมกับหันไปพูดกับคนข้างๆ
“ร่วมมืออะไร?” ซีวอนถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“หึ ก็แยกสองคนนั้นออกจากกันไงล่ะ ถ้านายอยากได้พี่แจจุงคืน”
“แล้วเธออยากได้ชองยุนโฮงั้นหรอ?”
“นั่นมันก็เรื่องของฉัน..” ฮีชอลทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินตามทั้งสองเข้าไป
ชองยุนโฮน่ะหรอ...อยากได้น่ะแน่นอนอยู่แล้ว...
แต่ความอยากเอาชนะรุ่นพี่น่ะ มีมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า !
คิมฮีชอล ไม่มีวันจะแพ้ คิมแจจุงอย่างเด็ดขาด !
“ผู้ใหญ่จะรินเหล้าให้ ไม่คิดจะรับตามมารยาทซักหน่อยหรอ”
ยุนโฮรีบยกแก้วชอทของตัวเองขึ้นมาด้วยสองมือรองรับเหล้าโชจูสีใสจากขวดที่ซีวอนเทให้
“มั่นใจนะว่าดื่มเป็นน่ะ?” ซีวอนยังไม่วายแขวะ
แก้วที่เปี่ยมไปด้วยน้ำสีใสถูกกระดกเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนจะถูกวางกระแทกกับเคาน์เตอร์ข้างตัว
ถ้าแจจุงไม่ได้ตาฝาด เค้าสาบานได้ว่าเมื่อกี้เค้าเห็นคิ้วของยุนโฮกระตุกขึ้นลงเหมือนต้องการก่อนกวนคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเค้าในตอนนี้
“ยุนโฮกินเนื้อเข้าไปเยอะๆ สิจ๊ะ จะได้มีแรงอ่านหนังสือ” ฮีชอลคีบเนื้อย่างนเตาไปวางไว้บนข้าวของยุนโฮ
“ขอบคุณครับ”
“คุณก็กินเยอะๆ สิ แจจุง...ผอมลงไปกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ”
“อย่าพูดถึงอดีต.” แจจุงขัด ก่อนจะคีบเนื้อจากจานของยุนโฮมาเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย
“อะไร ก็บนเตามันยังไม่สุก” แจจุงว่าตอบสายตางงๆ ที่หันมามองเค้า
“แย่งเด็กกินนี่ไม่ดีเลยนะฮะ” ฮีชอลว่าขำๆ
“จ้องจะกินเด็กก็ไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละ” แจจุงสวนกลับได้ในทันที ไม่มีสักประโยคที่แจจุงจะปล่อยให้อีกฝ่่ายพูดผ่านไปเฉยๆ โดยที่เค้าไม่ได้โต้ตอบ
คนอย่างคิมฮีชอลถ้าปล่อยไปก็ได้ใจเสียเปล่าน่ะสิ !
“นั่นก็สิ่งที่รุ่นพี่ทำอยู่ไม่ใช่หรอฮะ ^^”
“อะแฮ่ม ครูคิมครับผมคีบเนื้อให้นะ” ยุนโฮคีบเนื้อจากเตาหมายจะวางให้ที่จาน แต่ก็...
หมับ! หงับ!
มือหน้าถูกคว้าไว้โดยมือของคุณครูพร้อมกับริมฝีปากที่อ้างับเอาชิ้นเนื้อออกไปจากตะเกียบที่ต่อออกมาจากมือของนักเรียนหนุ่ม
“ขอบใจมากนะจ๊ะยุนโฮ”
ตึง!
แก้วใสถูกวางกระแทกกับพื้นเคาน์เตอร ก่อนจะมืออีกข้างจะคว้าขวดมารินใส่แก้วของตัวเองเพิ่มอีก
“รีบๆ กินเข้าสิ พรุ่งนี้ไม่มีการไม่มีงานกันทำรึยังไง?” แจจุงว่า
“พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ โรงเรียนหยุด” ยุนโฮตอบออกมาตามที่คิด
“จิ ! งั้นก็มาดื่มให้เมาพรุ่งนี้ลุกจากเตียงไม่ขึ้นกันไปเลยไป !” แจจุงรินเหล้าแจกจ่ายให้ทุกคน
“งั้นผมก็คงจะต้องค้างที่นี่สินะ”
“อย่ามาพูดมั่วนะซีวอน นายไม่มีสิทธิจะเข้ามาเหยียบในบ้านของฉันด้วยซ้ำ”
“นั่นเราก็ต้องรอดูกันไปก่อน”
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับชิ้นเนื้อที่พร่องไปมากจนเตาถูกปิดลงด้วยความอิ่มที่เข้ามาแทรกแซงทุกคน ตอนนี้ก็คงจะเหลือแต่กองขวดว่างเปล่าที่ยังคงถูกรินกรอกใส่แก้วทั้งสี่ใบอย่างไม่มีหยุด
“ไม่น่าเชื่อว่าหน้าอ่อนๆ แบบนี้จะดื่มเป็น”
“หน้าอ่อน?” ยุนโฮทวนคำอย่างไม่ชอบใจนัก
“หึ ไม่เคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองรึไง?” ซีวอนที่อารมณ์เริ่มควบคุมไม่ได้พูดจาหาเรื่องยุนโฮอย่างไม่มีเกรงใจแจจุงเลยซักนิด
“หน้านายก็ไม่ได้ดูช่ำชองอะไรมากนะ”
“ย...ยุนโฮ ไม่เอาหน่า”แจจุงปรามเพราะไม่อยากให้มีเรื่อง ต่างจากฮีชอลที่นั่งท้าวคางยิ้มมองการกระทำของทั้งสองอย่างถูกอกถูกใจ
“งั้นลองหน่อยเป็นไง นายกับฉัน ใครดื่มได้มากกว่ากัน...”
“ซีวอน !”
“ได้ เดิมพันด้วยอะไร?” ทั้งสองเจรจากันอย่างไม่สนใจเสียงห้ามของเจ้าของบ้านเลยซักนิด
“ใครชนะ...คืนนี้ได้นอนห้องเดียวกับแจจุง”
“ว...ว่าไงนะ !!!” เดิมพันกันเองอยู่สองคน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขากันล่ะ !
“หึ...ถ้าแพ้ต้องออกไปนอนนอกบ้าน” ยุนโฮพูดต่อ
“ได้”
“ว้าววววววว น่าสนุกจริงๆ” ฮีชอลส่งเสียเชียร์ ก่อนจะอาสาเป็นคนรินเหล้าให้ทั้งสองเอง
“ยุนโฮ ไม่เอาหน่า!” แจจุงคว้าข้อมือหนาที่ยกแก้วไปให้ฮีชอลรินให้เอาไว้เป็นเชิงห้าม
“อยากให้ใครชนะ?”
“อ...เอ๋...” คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างงงๆ ที่จู่ๆ ยุนโฮก็หันมาพูดอะไรแปลกๆ ด้วยใบหน้าที่ดูนิ่งกว่าปกติ
“ระหว่างผมกับเขา...แจจุงอยากให้ใครชนะ?”
“ก...”
“...”
“ก...ก็ต้องนายอยู่แล้ว” แจจุงตอบออกไปเสียงแผ่ว
จริงๆ แล้วเขาตอบตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอยากจะให้ใครชนะในเดิมพันนี้ เค้าแค่รู้ว่าไม่อยากให้ทั้งสองคนต้องแข่งกัน...
“มั่นใจใช่มั้ยว่าถ้าผมชนะ จะไม่เสียใจ?”
“จะไปเสียใจได้ยังไงเล่า พูดอะไรบ้าๆ”
“มัวแต่คุยกันอยู่ได้ เริ่มได้แล้ว” ซีวอนโวยวาย
ตอนนี้เขาตอบตัวเองได้แค่ว่า ไม่มีทางจะให้ซีวอนเข้าไปเหยียบห้องนอนของเขาอีกแน่ๆ แต่กับยุนโฮล่ะ...
ตอบตัวเองไม่ได้จริงๆ...
โว้ยยยยยยย ไล่แม่งออกไปนอนนอกบ้านให้หมดทุกคนเลยดีมั้ยนะ !!!
ความคิดเห็น