คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [DYKM] : ความผิดติดตัว [วอนทึก+วอนเฮ]
กริ๊งงง กริ๊งงง [เสียงมือถือขอพื้นฐานละกัน]
“ฮัลโหล” ร่างสูงหยิบมือถือของตัวเองแล้วกดรับ
“ซีวอนหรอ” เสียงคุ้นหูเล่นเอาร่างสูงที่กำลังนอนอยู่รีบลุกขึ้นนั่งทันที
“อ่าใช่ อีทึกหรอ” ทำไมจะจำเสียงคนที่ตัวเองแอบรักอยู่ไม่ได้ล่ะ
“ใช่ จำได้ด้วย” อีทึกพูดชม
“แหะๆ แล้วไปเอาเบอร์มาจากไหนอะ”
“ชั้นเป็นสารวัตรนักเรียน” คำตอบที่ไม่ตรงคำถามเล่นเอาร่างสูงงงไม่น้อย
“ชั้นไม่ได้ถามนายว่านายเป็นอะไร”
“ก็นั่นแหละ เป็นสารวัตรนักเรียนก็มีสิทธิ์ดูประวัตินักเรียนทุกคนไง” อีทึกฮิบายจนร่างสูงเข้าใจ
“แล้วมีอะไรหรอ” ไม่อยากยืดเยื้อเข้าเรื่องเลยดีกว่า
“ก็แบบว่า จะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะ”
“ที่จะพิสูจน์ว่าไอ่เจ้านั่นมันรักนายรึปล่าวน่ะหรอ” อะไรเนี่ยโทรหากันทั้งทีก็เพราะไอ่คังอินหรอเนี่ย
ร่างสูงน้อยใจไม่น้อย แต่ก็ต้องคิดได้ว่าเรามันก็แค่แฟน ปลอมๆ จะไปเรียกร้องอะไรได้ล่ะ
และนี่ก็คงเป็นอีก 1 เหตุผลที่ทำไมซีวอนถึงชอบหาเรื่องคังอิน แต่เหตุผลที่คังอินชอบหาเรื่องซีวอนน่ะ ใครมัจะไปรู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรกันแน่
“ฮัลโหลๆ ซีวอนฟังเราอยู่รึปล่าว” เสียงปลายสายเรียกให้ซีวอนตื่นจากการคิดไปไกล
“อ่า ฟังครับ”
“แล้วตกลงว่า เมื่อไหร่ล่ะ?”
“พรุ่งนี้เลยก็ได้นะ พรุ่งนี้ให้ทึกมารอวอนที่ซอยข้างๆรร.ตอน เอิ่ม...7 โมงนะ” ซีวอนพูดไปคิดไป แต่ด้วยสรรพนามที่ไม่คุ้นเคยทำให้ร่างบางเกิดความสงสัย
“ทึก? วอน?”
“ก็เรียกให้ชินไง ต้องสมบทบาท” นี่มันก็แค่ข้ออ้าง บางทีการที่เราเปลี่ยนสรรพนามมันอาจจะทำให้คนเราสนิทกันมากขึ้นก็ได้
“อ่าห้ะ งั้นพรุ่งนี้เรา เอ้ย ทึกจะไปรอละกันนะ” ร่างบางยังคงไม่ชินกับสรรพนามใหม่นี้
“ครับ งั้น...”
“อือ แค่นี้นะ”
“ฝันดีนะครับ รักนะจุ๊บๆ” รู้สึกประโยคหลังจะไม่ค่อยกล้าพูดทำได้แค่กระซิบเบาๆ แต่ปากก็จ่ออยู่กับโทรศัพท์ซะขนาดนั้นจะไม่ได้ยินได้ยังไงกัน
“จุ๊บๆ” อีทึกพูดเสียงทะเล้นก่อนจะชิงตัดสายไป
“เห้ยย” ซีวอนตกใจเล็กน้อย จุ๊บๆ หรอ
แค่นี้วอนก็ฝันดีทั้งคืนแล้วจ่ะที่รัก >3<~
-
“นายนี่ก็น่ารักดีนะ อิอิ” อีทึกยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
“เห้อ...ความรู้สึกนี้มันคืออะไร” อีทึกพึมพำเบาๆ อยู่ดีๆก็ยิ้มเองเมื่อได้ยินคำนั้นจากปาก ผู้ชายคนนั้น ชเว ซีวอน คนที่คอยกัดเรา แต่ทำไมตอนนี้ มาช่วยเราซะงั้นล่ะ
-
~รักเธอ รักเธอ รู้เพียงเท่านั้น แม้เราบังเอิญได้พบกัน หรือฟ้าบันดาลให้พบเธอ~
เสียงเพลงดีกระหึ่มไปทั่วโรงเรียน เรียกร้องความสนใจแก่นักเรียนได้เป็นอย่างดี
“เพลงไทยอีกและ เห้อ...ฟังไม่รฦเรื่องนะเนี่ย” ดงเฮที่นั่งมองออกไปนอหน้าต่างบ่นขึ้น
“อ้าวมาแล้วเรอะ” ฮยอกแจที่เพิ่งมาถึงเอ่ยทักเพื่อนของตน
“ถามอะไรของแกเนี่ย ถ้าชั้นยังไม่ม่แกจะเห็ยมั้ย?” ดงเฮถามอย่างกวนๆ
“อ้าวเวร เอองั้น แกท่องบทได้ยัง” ฮยอกแจถามถึงบทที่หัวหน้าห้องสุดโหดแจกให้ทุกคนกลับไปซ็อม
“ไม่”
“อะไรวะ บทของแกอ่ะง่ายจะตาย โผล่มาแปปๆ แล้วดูชั้นซี่ ฮืออออ ทั้งเรื่องเลยนะ” ยิ่งพูดก็เหมือนเป็นการตอกย้ำตัวเอง
“ที่บอกว่าไม่เนี่ย ยังไม่ได้แตะมันเลยต่างหาก”
“ไหงงั้นวะ”
“เห้อ...” ฮยอกแจเริ่มสังเกตคถึงความผิดปกติของเพื่อน
“เป็นอะไรอ่ะ”
“ไม่รู้ดิ”
“แล้วแกรู้สึกยังไงล่ะ เศร้า ดีใจ เสียใจ???”
“เอิ่ม...รู้” ดงเฮส่ายหัวไปมา
“เวรแล้วไง” ฮยอคแจสบถอย่างเซ็งๆ
“เวร? ยังไง”
“ก็ขนาดแกยังไม่รู้ แล้วชั้นจะไปรู้กับแกมั้ยล่ะ เห็นแกเป็นอย่างงี้ชั้นก็ปวดหัวไปด้วยเลย” ฮยอกแจเอามือกุมหัวพลางส่ายไปมา
“ง่ะ”
“อกยังคิดอยู่ใช่มั้ย” คำถามที่แปลกๆถูกส่งออกมา
“คิด? อะไร”
“เรื่องนั้น เรื่อง พี่ซีวอน” เหมือนมันจะตรงใจคนฟังจึงทำให้ ลี ดงเฮ ตาค้างนิ่งอึ้งไปเลย
“ก็อาจจะ เห้อ...” ดงเฮเอาคางเกยกับโต๊ะ
“แหม แกจะยังไปคิดอยู่ทำไม? ในเมื่อแกไม่ผิด” ฮยอกแจพูดเป็นเชิงปลอบใจ
“แล้วพี่เค้ารู้มั้ย? แต่ถึงจะให้บอกชั้นก็ไม่อยากบอกพี่เค้าอยู่ดี” ดงเฮฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
แต่สายตาของฮยอกแจไม่ได้ไม่ดีขนาดมองไม่เห็นว่าไหล่บางนั้นสั่นเทา
นี่ดงเฮร้องไห้?
ควรจะปลอบ?
หรือจะปล่อยให้ความทุกข์ได้ถูกปลดปล่อยบ้าง?
“อ้าว” คิบอมที่เพิง่มาถึงชี้ไปทางร่างบางที่ตัวสั่นเป็นเชิงถามว่าเป็นอะไร
“เรื่องนั้นอ่ะ”
“กำ เอิ่ม... ที่รัก อย่าไปคิดมากเลยนะ” คิบอมตบไล่เบาๆ ฮยอกแจก็ยอมลุกจากเก้าอี้หลบทางให้แต่โดยดี
ทำไม?
แค่คำๆนเดียวมันทำให้รู้สึกแบบนี้ได้
“ฮึกๆ พี่เค้าเกลียดชั้น ฮึก ฮืออ ได้ยินมั้ยคิบอม ชเว ซีวอน เกลียด ลีดงเฮ” เสียงที่ดังลั่นห้องถูกส่งออกมา แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เงยหน้าจากโต๊ะ
แต่นั่นมันหยุดการกระทำของคนทั้งห้องได้เลย
ทุกคนได้ยินประโยคนั้นชัดเจน
รวมถึง...
คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเมื่อกี้
คนที่โดนน้องชายตัวดีลากมาหาคนที่ตะโกนเมื่อกี้
“แล้ว ลี ดงเฮ ยังรัก ชเว ซีวอน อยู่รึไง” น้ำเสียงเรียบๆทำลายความเงียบภาบในห้อง รวมถึงอาการสั่นของร่างบางด้วย
ดงเฮค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา หน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
ประโยคจากปากของร่างสูง
เรียกร้องความสงสัยให้แก่ทุกคนได้เป็นอย่างดี
“แล้ว ลี ดงเฮ ยังรัก ชเว ซีวอน อยู่รึไง”
“ฮึก ฮือๆๆ” เมื่อดงเฮได้สบตากับซีวอนอย่างจังๆ น้ำตาเจ้ากรรมก็หลายออกมาไม่ขาดสาย
ร่างบางวิ่งชนไหล่ร่างสูงออกจากห้องไป
ซีวอนเงยหน้า หลับตาอย่างรวบรวมสติ
คำถามที่ไม่ต้องการให้หลุดออกไป
แต่มันก็หลุดไปแล้ว
มันเป็นคำถามที่ซีวอนอยากได้คำตอบมากที่สุด
เพราะความเจ๊บปวด มันค้าคา
ค้างคาในหัวใจของร่างสูงเรื่อยมา...
“เอ่อ...นี่พี่” คยูที่มัวแต่อึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้าสะกิดร่างผู้เป็นพี่เบาๆ
“อะไร” น้ำเสียงเย็นชาเล่นเอาคยูขนลุกซู่
“คือออ กลับกันเถอะนะ” คยูบอกเสียงหวาดๆ
“อือ” ซีวอนเดินนำออกไปโดยไม่สนใจน้องเลบแม้แต่น้อย
++++
“ดงเฮๆ รอก่อนสิ” ฮยอกแจที่วิ่งตามดงเฮมา ตะโกนเรียก แต่คนที่นำหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ฮึก ฮืออ อย่า...ตาม ฮึก อึก มา” ดงเฮตะโกนกลับมาพร้อมกับเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น
หมับ~
ไหล่ของคนที่วิ่งตามโดนมือหนาคว้าไว้
“คิบอม”
“ปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว...ให้เค้าได้คิดอะไรก่อนเถอะ” ฮยอกแจพยักหน้ารับแต่สายตาก็ยังคงมองตามแผ่นหลังบางนั้นไป
“ฮืออออออ” ดงเฮวิ่งมานั่งหลังตึกเรียน ฟุบหน้าร้องไห้
เสียใจ
เสียใจที่ซีวอนเกลียด
ไม่อยากให้เกลียด
ส่วนคำถามนั่น
ที่ถามว่ารักอยู่รึไง
ผมไม่รู้
แต่ผมว่ามันเรียกว่ารักไม่ได้หรอก
แต่ก็ปติเสธไม่ได้ว่ายังรู้สึก
โหยหา อ้อมกอดอันอบอุ่น
โหยหา อกแกร่งที่คอยปกป้อง
ไหล่กว้าที่คอยซบอิงเวลาทุกหรือสุข
คำปลอบโยนเวลาร้องไห้
มือหนาที่เคยสัมผัส
มันไม่มีอีกแล้ว ไม่มีแล้ว
แค่คิดถึง คิดถึงมากๆ
ขอแค่เป็นน้องชายที่แสนดีของพี่ได้มั้ย
ขอแค่พี่หันมามอง ลี ดงเฮ เหมือนเดิม
+++++
จะปิดเทอมแล้ว ขอเตือน... ไม่มีกำลังใจ มือมันก็ไม่พิม หัวมันก็ไม่แล่นนะ
ความคิดเห็น