คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [DYKM] : Love Story @t the FunPark~[130%]
ณ เรือของ คยูฮยอน + ดงเฮ
“เห้อ...นายเนี่ยน้า ลากชั้นมาเฉยเลย” ดงเฮบ่นอุบ ก็เค้าอยากนั่งกับ
ฮยอกแจกับคิบอมนี่หน่า [จับพวกนี้ 3P เลยดีกว่า = =’ ]
“อ่าว ก็มันฉุกเฉิน ไอ่บ้านั่นมันจะเอาผมไปนั่งด้วยหนิ”คยู พูดแล้วนึกสยอง
“แหม ก็ดีไม่ใช่หรอ รุ่นพี่เค้าอาจจะรักจิงก็ได้น้า” ดงเฮเอาศอกกระทุ้งอย่างแซวๆ
“เห้ยย บ้าเหรอ พี่นี่พูดไร ผมชักจะขนลุกและนะ” คยูเอามือลูบแขนตัวเองพลาง
ทำหน้าเหยเก
“55 ดูทำหน้าเข้า” ดงเฮหัวเราะ
“แล้วนี่เราจะไปไหนกันดีเนี่ย” คยูถาม
“ไปทางนั้นๆ อยากดูช้างๆได้ข่าวว่าอิมพอร์ตมาจากไทย” ดงเฮชี้ไปตรงรั้วที่มีช้าง
ยืนอยู่หลายเชือก
“คับๆ” คยูรีบปั่นไปตามทางที่ดงเฮสั่งทันที
ฮันคยอง + ฮีชอล
“นี่ฮานนน” ฮีชอลลากเสียงยาว
“หือออออ” ฮันคยองลากเสียงให้ยาวตาม
“วอนเลิกชอบทึกรึยังอ่ะ” ฮีชอลถามอย่างอยากรู้เรื่อง
“ไม่รู้มันดิ แต่มันบอกชั้นว่ามันเลิกไปตั้งนานแล้วนะ” ฮันคยองเอามือลูบคางอย่าง
ใช้ความคิด
“อ๋อ” ฮีชอลพยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจ
“จะว่าไปทำไมแกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้าจังเลย ห้ะ?” ฮันคยองถาม แต่ไหนแต่
ไร ฮีชอลเดี๋ยวก็ถามเรื่องคนนู้น เดี๋ยวก็ถามเรื่องคนนี้
“เอ้า ก็คนเค้าอยากมีความรู้รอบตัวไม่ได้รึไง”
“ได้ๆ แล้วนี่จะไม่ช่วยถีบเลยหรอ” ฮันคยองเริ่มบ่น นี่ฮีชอลให้เค้าถีบอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ตัวเองกลับนั่งกอดเข่าสบายใจเฉิบ เนี่ยนะ -*-
“เอาน่าอย่าบ่น คราวหน้าแล้วชั้นจะถีบ”
“แล้วถ้าคราวหน้าชั้นไม่ได้นั่งกับนายล่ะ” ฮันคยองถามอย่างตั้งใจว่าคราวหน้าจะ
ให้ร่างบางถีบจริงๆ
“แหม ไม่มีทางหรอก เพราะเราจะเคียงคู่กันตลอดไป” เรือหยุดนิ่ง ขาของร่างสูง
หยุดถีบทันทีเมื่อได้ฟังประโยคที่ออกมาจากปากของร่างบาง ร่างบางเมื่อสังเกต
ได้ถึงอาการประหลาด จึงลองคิดถึงคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่ แล้วหน้าก็เริ่มขึ้น
สีอย่างเสียไม่ได้
“ฮ...ฮัน” ร่างบางเรียกชื่อ แล้วหันมาสบตากับร่างสูง
“เอ่อ....” ร่างสูงอ้ำอึ้งเล็กน้อย
“จำคำสัญญาที่เราให้กันไว้ตอน ม.ต้นได้มั้ย” เมื่อร่างบางเตือนความจำ ความทรง
จำนั้นก็กลับมาทันที
“ซีวอน ฮันคยอง เรามาสัญญากัน” ร่างบางยิ้มอย่างนึกสนุก
“เอาสิ” ร่างสูงทั้งสองยื่นมือไปประสานกับมือของร่างบาง
“พวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป” ซีวอนเริ่มพูด
“และพวกเราก็จะไม่มีวันคิดไม่ซื่อ ต่อกัน” ฮีชอลเสริม ยิ้มให้ทั้งสองคน
“ถ้าใครผิดสัญญา พวกเราที่เหลือจะตัดเพื่อนไปโดนปริยาย” ฮันคยองปิดท้าย
ทุกคนยิ้มให้กันก่อนจะกดทับมือกันอย่างหนักแน่นก่อนจะปล่อยมือขึ้นไปบนฟ้า
“เฮ้~~” เสียงที่ดังไปยังบริเวณรอบๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก เหมือนกับเป็น
สักขีพยาน ในการสัญญาในครั้งนี้
ร่างสูงอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อความทรงจำนั้นย้อนมาอีกครั้ง
“จำได้สิ” ฮันคยองยิ้มให้อย่างเหนื่อยๆ
“งั้นที่พูดไปอ่ะ อย่าคิดเกินเลยล่ะ เราหมายถึง ชั้น ซีวอน และนาย จำอยู่เคียง
ข้างกันตลอดไป” ร่างสูงยิ้มอย่างเข้าใจ นี่เค้าเผลอคิดอะไรเกินเลยไปเนี่ย ใช่แล้ว
เราไม่มีวันผิดสัญญา เด็ดขาด!!
แต่ที่ชั้นรู้สึกกับนายตอนนี้ มันจะเป็นการคิดไม่ซื่อรึปล่าว อันนั้นชั้นก็ไม่รู้หรอกนะ
คิมฮีชอล
~.แต่ถ้าเกิด ทั้งสองคนเกิดมีความคิดที่ตรงกันขึ้นมา
บุคคลที่เหลืออย่าง ชเว ซีวอน จะทำอย่างไรล่ะ
จะเห็นด้วย??
หรือจะขัดขวาง??.~
“พวกแกทำอะไรกันอยู่ เปลืองตังนะเว้ย ลอยกันอยู่เฉยๆเนี่ย” เสียงซีวอนดังมา
จากไหนซักแห่งที่ไกลอยู่ ทั้งสอง ที่นั่งนิ่งกันอยู่จึงหลุดจากภวังค์ ความคิดของ
ตน แล้วหันไปหัวเราะกับซีวอนอย่างอารมณ์ ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“พักก็ไม่ได้ ไอ้งกเอ๋ย” ฮันคยองด่า แล้วเริ่มถีบออกไป
ซีวอน + ฮีทึก
“นี่นายจะไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้าทำไมเนี่ย” อีทึกว่าเข้าให้ อยู่ดีไม่ว่าดี ต้อวตก
กระไดพลอยโจน มานั่งเรือถีบกับไอ่บ้าเนี่ย
“นายแหละน่า ที่ยุ่งชั้นคุยกะเพื่อนชั้น” ซีวอนหันมาโวยบ้าง
“เออๆ” อีทึกกอดอกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะมองออกไปรอบๆ สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่
เรือถีบลำนึง ซึ่งมีบุคคลที่ร่างบางปรารถนา
อยากจะเจอ
อยากจะนั่งเรือถีบไปด้วยกัน
อยากจะทำอะไรด้วยกันหลายๆอย่าง
ร่างหนาที่อยู่ข้างๆ สังเกตได้ถึงอาการของร่างบาง
“นี่ ยังชอบมันอยู่หรอ” ซีวอนถามอย่างเรียบ ร่างบางหันมามอง ไม่เข้าใจว่า
หน้าตาของร่างสูงต้อวงการจะสื่อไปทางไหนกันแน่
อยากรู้?
หรืออะไรกันแน่
“ก็...อ...อืม” อีทึกพยักหน้า พลางหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เฮ้อ...มันมีอะไรดีว้า” ซีวอนถอนหายใจอย่างปลงๆ
“ก็ไม่รู้สิ มันไม่มีเหตุผลหรอกนะ” อีทึกพูด สายตาเลื่อนลอย
“เห้ย ไม่เป็นไรหรอกน่า” ซีวอนโอบไหล่อย่างให้กำลังใจ
“อืม”
“เอางี้ ให้ชั้นช่วยม้า” ซีวอนเสนอตัวให้
“เอ๊? ยังไง” อีทึกเอียงคออย่างไม่เข้าใจ
“ก็ นายอยากรู้รึปล่าวล่ะ ว่าคังอินอ่ะเค้ามีใจให้นายมั้ย”
“อยาก” อีทึกตอบเสียงอ่อยๆ
“งั้นนายลองมาทำให้หมอนั่นมันหึงไหมล่ะ” ซีวอนพูด
“ยังไง” ที่ร่างสูงพูดมาทั้งหมดน่ะ ร่างบางก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจอยู่ดี
“ชั้น จะแกล้งเป็นแฟนนายดีมั้ย”
“หา!!!” ร่างบางเผลออุทานออกมาด้วยความตกใจ
“จะตกใจอะไรขนาดนั้น”
“ก...ก็ เราเกลียดกันไม่ใช่หรอ”
“อ้าว นี่นายเกลียดชั้นหรอ” ซีวอน อึ้งเล็กน้อยๆ ไปทำอะไรให้เกลียดวะ
“ปล่าวนะ นายต่างหากที่เกลียดชั้น” อีทึกเถียง
“อ้าว งั้นต่างคนต่างเข้าใจผิด” ซีวอนสรุป อีทึกพยักหน้าหงึกๆ
“งั้นเราก็มาดีกันเถอะนะ” ซีวอน ยิ้มร่า อีทึกก็ยังคงพยักหน้าต่อไป
“แล้วตกลงว่าไงล่ะ”
“ก...ก็ได้” อีทึกพูดเบาๆ
“นี่เป็นอะไรห้ะ ทำไมไม่ค่อยพูดเลยอ่ะ” ซีวอนถามเมื่อสังเกตได้ถึงความเงียบ
ของร่างบาง
“ก...ก็...” อีทึกไม่พูดเพียงแต่ส่งสายตาไปยังมือของร่างหนาที่ยังโอบอยู่รอบคอ
เค้าอยู่
“อ้าวเห้ย โทษๆ ลืม” ซีวอนรีบเอาแขนออกทันที ก่อนจะเบือนหน้าหนี ไม่เห็นอีก
ฝ่ายเห็นสีหน้าที่ตัวเองยังรู้สึกเลยว่ามันแดง
“ล...แล้วจะเริ่มวันไหนล่ะ” นี่เราเป็นอะไรเนี่ย อยู่ใกล้หมอนี่ทีไร
ใจเต้นทุกทีเลย แล้วยิ่งเมื่อกี้ ยังหน้าแดงไปกับมันอีก ง๊า อีทึกจอมวีนหายไป
หนายยยยยยย อีทึกตะโกนก้องอยู่ในใจตัวเอง
“ลงจากเรือเนี่ยแหละ” ซีวอนตอบอย่างหนักแน่น จนร่างบางหน้าซีด
“อ้าว ทำหน้างั้นไมอ่ะ”
“ก็ ชั้นไม่รู้หนิว่าจะเริ่มต้นแบบไหน” อีทึกสารภาพออกมา
“ไม่เป็นไรๆ แค่นายทำตามชั้นก็พอ เออออกับชั้นมา ชั้นจะเริ่มเอง” ซีวอนตอบ
อย่างผู้เชี่ยวชาญ
“อ่า ได้ๆ” อีทึกตอบรับแต่โดยดี
แล้วถ้าทำไปแล้วนายไม่หึงชั้นขึ้นมาล่ะ คังอิน
ถึงตอนนั้น คงเป็นเวลาที่ชั้นคงจะ
เสียใจที่สุด เพราะ
ตอนนี้ชั้นก็เริ่มรู้สึกแล้วล่ะ ว่านายไม่ได้คิดอะไรกับชั้น เหมือน
เมื่อก่อน ....... อีกแล้ว
คังอิน + ซองมิน
“นี่นายจะถ่ายอะไรนักหนาเนี่ย” คังอินว่าเมื่อกี้ร่างบาง อยู่ดีๆ ก็หยิบกล้องขึ้นมา
แล้วก็เล็งไปที่ไหนซักแห่ง เพราะเค้าไม่ได้สนใจ แล้วก็ถ่ายๆๆๆ ไม่หยุด
“อ้าว พี่ไม่เห็นหรอ เมื่อกี้พี่ซีวอนกพี่ทึก กอดกันใหญ่เลย” เอ่อ จริงๆ ก็แค่โอบ
“ห้ะ จิงอ่ะ” คังอินรีบหันไปหาเรือของทั้งสองทันที
“ไม่เห็นมีเลย” คังอินพูดเมื่อมองไปก็เห็นแต่สองคนนั้นถีบเรืออย่างเดียว
“ก็บอกว่าเมื่อกี้ไง เมื่อกี้อ่ะเมื่อกี้ ดูในกล้องเลย เอ้า” ซองมินยื่นกล้องให้ดูเป็น
หลักฐาน
คังอิน กดเลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ แล้วยิ้มอย่างพอใจ
นี่พวกแกสองคนชอบกันหรอเนี่ย
55 งานนี้สนุกแน่
คังอินคิดแผนร้ายได้ทันตาเห็น
“เออนี่ พี่คัง” ซองมินเรียกอย่างสนิท -*-
“อะไร” อิเด็กนี่มันปีนเกลียววุ้ย
“พี่ชอบเพื่อนผมหรอ” ซองมินหมายถึงคยูฮยอน
“ก็นะ น่ารักดี” คังอินตอบยิ้มๆ แต่ตอนนี้เรื่องคยูคงต้องทิ้งไว้ก่อนในเมื่อ เรื่องความรักของศัตรูต้องมาก่อนอยู่แล้ว 55
“เห้อ.. ก็จิงอ่ะน้า แต่ว่า...” ร่างบางเว้นระยะไว้เล็กน้อย
“หืออ??”
“ผมว่าพี่เลิกคิดเหอะ”
“ทำไมอ่ะ”
“คยูเค้าไม่สนใจคนอย่างพี่หรอก แล้วอีกอย่าง มีคนดีๆ ที่ชอบพี่อยู่” ซองมินผู้รอบรู้ รู้ไปหมดทุกอย่างเลย
“เหอออ ใครชอบพี่กัน” ใครชอบกูวะ - -
“เหอะ อย่ารู้เลย แล้วเวลาก็จะเป็นสิ่งที่บอกพี่เองแหละ ว่าใคร ที่รักพี่ และ รอพี่มานาน แสน น๊านนนน รอเธอ มานานแสนนานนนนน....”
“พอๆๆเลย เพ้อใหญ่แล้วนะเราอ่ะ” คังอินขยี้หัวอย่างเอ็นดู ไอ่เด็กนี่น่ารักดีว่ะ
“นี่ เห็นปกติ โหดกับชาวบ้านไม่ใช่อ๋อ” ซองมินปัดมือออก
“ก็อืม แต่ชั้นอยากได้นายเป็นน้อง เพราะงั้น ชั้นจะดีกับนายไง” คังอินพูดยิ้มแป้น
“อ๊า พี่ก็มี รุ่นพี่เยซองอยู่แล้วไง” คำพูดของร่างบางเล่นเอาร่างสูงชะงัก
“น...นะนี่นายรู้หรอ” คังอินมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ
“แหมๆ พี่ คังอินซะอย่าง” ซองมิน ตบอกตัวเองอย่างมั่นใจ
“เหอๆ แล้วเนี่ย มีใครรู้อีก” นี่ขนาดไอ่เจ้าเด็กนี่มันยังรู้ แล้วนี่ใครมันจะรู้อีกเนี่ย
“ก็...” ซองมินอยากแกล้งคนตรงหน้าเลยทำท่าทางครุ่นคิด
“ว่าไงเล่า” คังอินร้อนร นี่ถ้าไม่มช่ไอ่เด็กนี่ แล้วมาแกล้งเค้างี้นะ สอยตกน้ำไปแล้ว
“ไม่มีหรอก ถ้าผมหรือพี่ หรือใครที่รู้ ไม่บอกคนอื่นอ่ะนะ” ซองมินตอบออกมาทำให้คังอินโล่งใจ
“ว่าแต่...นายรู้ได้ไงล่ะ”
“โหยยพี่ ผมอ่ะ สืบแทบตายกว่าจะรู้เรื่องเนี่ย” ซองมินโวยวาย
“แปลว่านายต้องเป็นพวกอยากรู้เรื่องชาวบ้านเค้ามากเลยนะเนี่ย ถึงได้สืบจนรู้เนี่ย” สืบง่ายๆที่ไหนกันเล่า
“ใช่น่ะสิ เห้ย...” กว่าจะรู้ว่าโดนหลอกด่า ก็เผลอยอมรับไปซะแล้ว
“กร๊ากก ฮ่าๆ”
“หัวเราะอะไรเรา”
“นายนี่ตลกจิงๆเลย แถมยังน่ารักด้วย” คังอินลูบหัวอย่างรักใคร่ ทำเอาคนถูกกระทำ หน้าขึ้นสีทีเดียว
เยซอง + เรียววุค
“เอ่อ.....คือ...” เยซองอ้ำๆ อึ้งๆ
“นี่ รุ่นพี่ เป็นลูกน้อง รุ่นพี่คังอินหรอ” เรียวอุคตะหวาดจนเยอซองผงะไปเล็กน้อย
“ป...ปล่าวครับ”
“อ้าว แล้วทำไมต้องคอยเดินตามกลับบ้าน หรือไม่ก็เชื่อฟังคำสั่งด้วยล่ะ” เรียววุคว่าเข้าให้ เห็นทุกกี่ทีๆก็ตอนเดินตามคังอินเนี่ยแหละ
“ค...คือ” เอาไงล่ะทีเนี้ย พี่คังห้ามบอกใครซะด้วยสิ แต่ถ้าบอกน้องเรียวก็คงไม่เป็นไรมั้ง
“คืออะไรเล่า” เรียววุควางมาด ทำเสียงดุ
“คือพี่เป็นน้องของพี่คังอิน!!” ด้วยความกลัวคนตรงหน้า จึงเผลอแหกปากบอกออกซะดังลั่น เล่นเอาคนตรงหน้าอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะ ...
“กร๊ากกก ฮ่าๆๆ ห้าๆๆ” เรียววุค กุมท้องตัวเองก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาซะดังลั่น
“ข...ขำอะไรครับ” เยซองไม่เข้าใจคนตรงหน้าเอาซะเลย
“แหม รุ่นพี่นี่เข้าใจเล่นมุขเนอะ 5555” ตอนนี้เรียววุคน้ำตาคลอเบ้าแล้ว นี่ท่าทางจะฮามากนะเนี่ย -*-
“พี่ไม่ได้เล่นมุขนะเรียว” เยซองพยายามอธิบาย ไม่ชอบเลย นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาหัวเราะเยาะจะไม่น้อยใจเท่านี้
“แล้วจะให้เชื่อได้ไง พี่น้องอะไรไม่เหมือนกันซักอย่าง” เรียววุดยังหัวเราะต่อไปเรื่อยๆ
“ก็ จำเป็นด้วยหรอ” เยซองถามอย่างสงสัย
“แหม อย่างน้อย มันก็ต้องเหมือนกันมากกว่านี้อ่ะ”
“เห้อ...งั้นก็ไม่รู้จะบอกไงแล้วล่ะ” เยซองถอนหายใจ
“เปลี่ยนเรื่องคุย” เรียวเห็นท่าทางเครียดๆของอีกฝ่ายก็อดคิดไม่ได้ว่า บางทีมันอาจจะจริง แต่มันก็ไม่มีทางเป็นจริงอยู่แล้ว
-------------45%-------------
คิบอม + ฮยอกแจ
ตั้งแต่ลงเรือมา ไม่มีใครเปิดปากพูดก่อนเลยทั้งสองได้แต่ ถีบเรือไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย
“เอ่อ...คิบอม” ในที่สุดฮยอกแจเองที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหว
“หือ” คิบอมก็ยอมขานรับแต่โดยดี
“แกเกลียดชั้นมากป้ะ” ฮยอกแจถามออกมาตรงๆ ตอนนี้เรือเริ่มหยุดลงช้าๆ
“เห้อ...” คิบอมไม่ตอบ เพียงแค่ถอนหายใจเท่านั้น
ทำไมจะต้องถามอะไรกันนักหนา ไม่รู้ไม่ได้หรอ ฮยอกแจ ความรู้สึกที่ชั้นมีต่อนายเนี่ย
“ถอนหายใจทำไม ตอบมาสิ” ฮยอกแจ พยายามคาดคั้น
“อืม ก็ไม่ได้เกลียด” คิบอมยอมเปิดปากออกมาในที่สุด
“แล้วทำไมต้องคอยแขวะ หรือไม่ก็ไม่คุยด้วย แถมยังจะทำท่าทีรำคาญชั้นอีก” เสียงสั่นเครือเล็กน้อย เหมือนคนน้อยใจ
“หืม นี่นายร้องไห้รึไง” คิบอมถาม แต่ก็ไม่ได้ หันมามองซักนิด
“ปล่าว” ฮยอกแจเบือนหน้าหนี เค้าไม่ได้ร้องไห้ซักหน่อย ก็แค่เกือบๆ เท่านั้นเอง
“จริงๆ แล้วที่ชั้นทำไปแบบนั้นอ่ะ คงจะเป็นเพราะชั้นไม่ชอบมั้ง”
“ไม่ชอบ ไม่ชอบอะไร”
“ไม่ชอบที่นายมายุ่งกับแฟนชั้นไง ชั้นว่าดงเฮน่ะ รักนายมากกว่าชั้นอีกนะ” คิบอมเงยหน้ามองฟ้า แต่มองไปก็เจอแต่เพดานเรือถีบ -*-
“เอ๊? นายนี่คิดไปเองหรือปล่าว ด๊องมันรักนายจะตาย ถึงพวกนายจะดูไม่เหมือนแฟนกันก้อเหอะนะ” ฮยอกแจ อึ้งๆ เล็กน้อย กับคำตอบของอีกฝ่าย
“เห้อ...ช่างมันเหอะ”
รู้สึกว่าเรือถีบทุกลำ
จะดูเหมือนคู่รัก
ที่คุยกันอย่างเริงร่า
รู้สึกว่าทุกคนจะสนุกนาน
เว้นแต่...
“ไอ่ชิน แกช่วยพี่ถีบสิฟระ อย่ากินอย่างเดียว” ซึงฮยอนบ่นลูกพี่ลูกน้องของตน
“อ้าว ก็พี่ชวนผมลงมาเองนะ แต่ผมไม่ได้อยากมาซักหน่อย” ชินดงยิ้มแป้น
“โว้ย ดูซิเนี่ยฮีชอลของชั้นน่ะ เริงร่าอยู่กะไอ่ตี๋นั่นแล้ว” ซึงฮยอนมองแล้วก็เคืองม่หาย มันจะคุยอะไรกันนักหนาวะ หงุดหงิดโว้ยยย
“พี่จะไปหึงทำม๊ายย เค้าเป็นเพื่อนกัน” ชินดงอธิบายแทน
“เหอๆ แกคิดอย่างงั้นหรอ แต่ชั้นไม่ว่ะ”
“เนี่ยล่ะน้า ไม่ยอมคิดอะไรเข้าข้างตัวเองเลย คิดแต่ละอย่าง จะให้ตัวเองเจ็บทั้งนั้นแหละ” ชินดงพร่ำเพ้อ สั่งสอนพี่ชายไปเรื่อยๆ
“โอ้ยย เดี๋ยวพ่อถีบตกเรือเลยหนิ อย่ามาสอนช้าน” ซึงฮยอนโวยวาย พลางเอามือปิดหู
“น่ะ ดูพูดเข้าสิ คนเราอ่ะมันควรจะมีความพยายามนะ ผมไม่เห็นพี่จะพยายามตรงไหนเลย เอาแต่มองเค้า แอบดูเค้าอยู่นั่นแหละ แล้วถ้าวันนั้นอ่ะ พี่ไม่เข้าไปช่วยเค้าจากพี่คังอ่ะนะ ชาติเนี้ย เค้าก็มี่วันรับรู้หรอกว่าพี่น่ะ ชอบเค้า บลาๆๆๆๆๆๆ” ชินดงร่ายยาว ซึงฮยอนได้แต่นั่งตะแคงหันหลังให้ พลางทำหน้าตาเซ็งสุดริด
กูจะเอามันมาทำมายยย ให้มันไปบวชดีกว่าเนี่ยยยย
“พวกพี่ฮะ เราจะไปเล่นไรต่ออ่ะ” คยูฮยอนเมื่อขึ้นมาจากเรือแล้ว ก็ถามต่อทันที
“นี่ไอ่เด็ก แกจะไม่พักซักแปปหรอ กล้ามขาชั้นจะขึ้นอยู่แล้วนะว้อยย” ฮีชอลทำเป็นบ่น ทั้งๆที่เมื่อกี้ เค้าไม่ได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย
“โห คนแก่ก็เงี้ย ไม่น่าพามาด้วยเล้ยย” คยูส่ายหัวอย่างเอือมๆ
“นี่แก!!” ฮีชอลชี้หน้า
“อ่า พวกพี่ครับ เราไปกันต่อเหอะผมว่า” ดงเฮ เข้ามาห้ามทัพทั้งสอง
“นั่นสิพี่ดงเฮๆ ป่ะๆ” คยูได้ทีถือโอกาสควงแขนดงเฮแล้วพาเดินออกไปเลย
“อ่าวเห้ย ไอ่นู๋ แฟนกู” คิบอมก็ลากฮยอกแจวิ่งตามมาด้วย [นี่จะจับมัน 3P กันจิงๆแล้วนะเนี่ย]
“ที่รักจ๋า เราวี๊ดวิ้ว กันต่อดีกว่า” ยูชอนกะจุนซู ควงแขนกันเดินแยกไปอีกทาง
“โอ่ย พี่แกไม่ไปเปิดโรงแรมเลยวะ มาทำไมสวนสนุก” ซองมิน ได้ทีบ่นบ้าง
“นี่มิน ยุ่งเรื่องผู้ใหญ่อ่ะ มันไม่ดี๊ไม่ดีรู้มั้ย” คังอินลูบหัวอย่างสั่งสอน
การกระทำของร่างสูง มันทำให้หลายๆคนออกอาการอึ้ง
นี่มันนักเลงใหญ่ คมคังอินจริงๆ หรอเนี่ย
“เห้ย มองไร” คังอินสังเกตได้จึงรีบชักมือกลับ แล้วตีสีหน้าโหดทันที
“มินเราไปเที่ยวทางนู้นดีกว่าเนอะ” ซองมินพยักหน้า แล้วเดินนำออกไป
“ชั้นไปก่อนนะคนสวย” แต่ก่อนไปคังอินเดินมารูปแก้มอทึกเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป
เล่นซะคนถูกกระทำตาโต อึ้งกับการกระทำนั้น
“อีทึก...นี่ ทึก” ซีวอนเห็นท่าไม่ดีจึงสะกิดร่างบาง
“หืมๆ” อีทึกหันมาทำหน้าเชิงสงสัย
“เป็นอะไรรึปล่าว”
“ป...ปล่าว เราไปเล่นไอ้นู่นกันเหอะ” อีทึกลากซีวอนไป จริงๆ ที่ลากไปเพื่อจะไปคุยเรื่องคังอินกัน สองคนต่างหาก
แต่พวกคนที่ไม่รู้นี่สิ จะคิดยังไง
“เห้ย มันคบกันรึไงวะ” ฮันคอยงเอ่ยลอยๆ
“งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ” แจจิน มินฮวาน และเรียววุคเดินออกไป
“น้องเรียว ร...รอพี่ด้วย” เยซองวิ่งตามไปทันที
“งั้นเราอ่ะ จะไปไหน” ฮีชอลหันมาถามบุคคลที่เหลือ
“พี่ฮีชอลค้าบบบ” เสียงๆนึงดังขึ้นร่างบางจึงหันไปมอง แล้วก็ต้องพบกับ ซึงฮยอน ที่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่
“นายเรียกชั้นหรอ” ฮีชอลชี้ไปที่ตัวเอง
“ป...ปล่าว” มือไม้ปัดป่ายไปมา เหมือนต้องการบอกว่าไม่ใช่เค้า
“อืม” ฮีชอลยักหน้าก่อนจะเดินออกไปพร้อมฮันคยอง
“นี่พี่ ทำไมปฏิเสธเล่า คนอุตส่าเปิดทางให้นะเนี่ย” ชินดงออกมาจากต้นไม้
“เห้อ....” ซึงฮยอนถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปตจากตรงนั้น
“อะไรว้า” ชินดงเกาหัวงงๆ
“พี่ดงเฮๆๆ เข้าบ้านผีสิงกันๆๆๆ” เด็กหนุ่มเอ่ยชวน
“เหวอ ไม่เอาๆๆๆ” ดงเฮส่ายหัวรัว
“นะๆๆๆ น้า” คยูทำตาแป๋วใส่
“ก...ก็ได้” เมื่อเห็นหน้าตาแบบนั้นก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้
“พวกพี่ค้าบบ ตามมาเร็วๆนะ พวกผมจะเข้าบ้านผีสิง” คยูตะโกนบอก คิบอมและฮยอกแจ ที่เดินตามมา พร้อมกับชี้ปที่บ้านพี่สิง ที่ภายนอกดูรกร้าง และน่ากลัวอยู่ม่น้อย
“เห้ย” ฮยอกแจ และ คิบอมอุทานพร้อมกัน
“นี่ไอ่ด๊องมันกล้าเข้าด้วยหรอเนี่ย” ฮยอกแจบ่น คิบอมพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเดินตามเข้าไป
“เอ่อคือ...” ดงเฮเสียงสั่นเมื่อ ทั้งสองกำลังจะก้าวเท้าย่างกลายเข้าไปในบ้านผีสิง
“ไม่ต้องกลัวหรอกพี่ มีไรก็ว๊ากกเลย” คยูยิ้มแฉ่ง
ไอ่เด็กนี่มันยิ้มได้ตลอดเลยหรอ -*-
บรรยากาศภายใน น่ากลัวกว่าข้างนอกเสียอีก มืด ๆ จนมองใครก็เห็นแต่ดวงตาที่ทอประกาย ความเย็นยะเยือก น่าขนหัวลุกแปลกๆ กลิ่น ที่อับชื้น มันยิ่งสร้างความวังเวง ภายในบ้านผีสิง ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใคร แต่แล้ว
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้อง ทำเอาดงเฮ ผวาเข้าไปซบอกคนข้างๆทันที
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงที่ดังมาอีกเป็นครั้งที่สอง
“อ๊ากกกกกกกกกก” ดงเฮ ร้องลั่นท่ามกลางอกอุ่น
“ใจเย็นๆพี่ดงเฮ” คยูปลอบ ดงเฮค่อยๆ ผละออกจากอกหนานั่น แล้วคยูก็ค่อยๆ จูงมือไปเรื่อยๆ
หมับ~
มีคนจับไหล่เค้า ดงเฮยืนตัวแข็ง
ม...ไม่นะ ผ...ผีหลอก
“ไอ้ด๊อง!!!” ฮยอกแจแหกปากเรียกเพื่อนซะดัง เล่นเอาคนที่ถูกเรียก ว๊ากเป็นครั้งที่สอง
“อ๊ากกกกกกกกกก” ดงเฮเอามือปิดหน้าตัวเอง ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
“เห้ย แก ชั้นเอง” ฮยอกแจเขย่าเพื่อน ดงเฮค่อยๆ เปิดหน้าออก แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ฮยอกแจ เห็นมั้นน่ะว่าดงเฮกลัว” คิบอมปลาม
“แหะๆ โทษทีว่ะไอปลา” ฮยอกแจ ยิ้มแหยงๆ
“ไม่เป็นไรหน่าบ...บอม ...ป..ไปต่อ..เถ.อะ” พูดตะกุกตะกักเล็กน้อย เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีหมอกหรือควันกระทบตัว
หมับ~
“ไอ่ไก่ แกบอกชั้นซิ แกจับไหล่ชั้นใช่มั้ย” ดงเฮเสียงเหมือนคนจะร้องไห้
“หึ ปล่าวนี่” ฮยอกแจส่ายหัว
ดงเฮจึงค่อยๆหันไปดู
“แบร่~!!” ผีเอาไฟส่องหน้าตัวเองแลบลิ้นให้ดงเฮ
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ดงเฮวิ่งเตลิดออกไปทันที
“เห้ยยยย” ทั้งสามหนุ่มที่เหลือประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง
++++++
“ซีวอน” อีทึกเรียกเสียงแผ่ว ตอนนี้เค้าทั้งสองกำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งยาว
“หือ”
“เมื่อกี้เราฝันใช่มั้ย”
“ปล่าวหรอก” ซีวอนพูดให้กำลังใจ
“เห้อ....”
“นี่......อีทึกคนเดิมหายไปไหนหรอ” ซีวอนถาม
“เอ๊?”
“ก็อีทึกจอมวีน สุดแสนจะขี้บ่นไง”
“555 นี่หรอเป็นงั้นหรอ” อีทึกหัวเราะ
“ใช่สิ พอมีเรื่องกับไอ่คังทีไร นายก็จะ วีนๆๆ แล้วก็ด่าๆๆ” ซีวอนโบกไม้โบกมือประกอบท่าทาง จนทำให้คนที่นั่งดูอยู่อดหัวเราะไม่ได้
“อิอิ” อีทึกปิดปากหัวเราะอย่างน่ารัก
แกรก~~ ซีวอนก็ได้แต่เกาหัวอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เห้อ...อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมจัง” อีทึกบ่น อย่างกลับไปร่าเริง ได้จัง
“นี่ มันคือความจริงใช่มั้ย” ซีวอนถาม
“เรื่อง?”
“เรื่องที่ตอนม.ต้น นายกับคังอินเป็นแฟนกันอย่างลับๆน่ะ” ซีวอนตีหน้านิ่ง
คนถกถามสะดุ้งเล็กน้อย
“ร...รู้ด้วยหรอ” อีทึกพยายามทำท่าทีไม่ตกใจนัก
“อื้ม”
“ก็จริงอ่ะ” อีทึกตอบออกมา
“แล้วเลิกกันทำไมอ่ะ”
“ไม่รู้สิ คังเค้าคงเบื่อเรามั้ง” อีทึกเดาเอาเอง
“งั้นหรอ ไม่แน่น้าตอนนี้เค้าอาจจะยังรักนายอยู่ก็ได้” ซีวอนให้กำลังใจสุดริด
“เห้อ...ช่างมันเหอะ มาสวนสนุกทั้งทีไปเล่นกันดีกว่า” อีทึกวิ่งไปทันที
ต้องอย่างงี้สิ อีทึกคนเดิม ควรจะกลับมาได้แล้ว
รอยยิ้มของนาย ชั้นอยากจะเห็น
ความสุขของนาย ชั้นอยากจะมองดูมัน
ชั้นจะช่วยนายเอง
เพื่อคนที่ชั้นรัก จะได้มีความสุข
++++++
“ฮัน ปาลูกโป่งๆๆๆ” ฮีชอลวิ่งไปที่ซุ้มปาลูกโป่งเหมือนเด็กๆ ทันที
“ก็ปาดิ” ฮันคยองเข้าไปยืนข้างๆ
“พี่ฮะ เอาลูกดอกมารอไว้เลยคับ ผมจะปาจนกว่าจะได้ตุ๊กตา” ฮีชอลเอ่ยเสียงแจ๊น
“=[]=’’ อ่อ ด...ได้ครับ” พนักงาน อ้าปากค้างนิดหน่อย ก่อจะยอกกล่องที่เต็มไปด้วยลูกดอกมาให้ร่างบาง
“กี่ลูกถึงจะได้รางวัลใหญ่คับ” ฮันคยองถาม ส่วนร่างบาง แถมจะกำลูกดอกทีละเยอะๆ เขวี้งอยู่แล้ว
“อ๋อ 3 ลูก ได้รางวัลเล็กคับ ถ้า 6 ลูกขึ้น รางวัลก็จะค่อยๆใหญ่เอง” ฟังดูแปลกๆนะ รางวัลก็จะค่อยๆใหญ่เอง -*-
“ฮัน อย่ายืนบื้อช่วยกันปาเร็วๆๆ” ฮีชอล ตะโกนเรียก ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันแค่คืบ
ฮันคยองส่ายกัวเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปหาร่างบาง
“นี่ต้องปาอย่างงี้” ฮันคยองใช้ตัวกอดร่างบางจากทางด้านหลังแล้วใช้มือนึงโอบเอว่รางบางไว้ ส่วนอีกข้าง ก็เอื้อมไปจับมือของร่างบาง ลมหายใจที่รดต้นคอ เล่นเอาร่างบาง หน้าขึ้นสีเลยทีเดียว
โป๊ะ! โป๊ะ! โป๊ะ!
“ฮันคยองจับมือร่างบางปาออกไปติดต่อกันสามดอก ลูกโป่งก็แตกสามดอก
“อ่ะลองปาเองซิ” ฮันคยองปล่อยมือ แต่ก็ยังไม่ปล่อยจากตัวร่างบาง
ขออยู่อย่างงี้ ซักพักเหอะนะ
โป๊ะ! โป๊ะ! โป๊ะ!
เสีงลูกโป่งแตกทำให้ร่างสูงต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้แล้วฮัน ได้แล้ว” ฮีชอลกระโดดโหยงๆ ก่อจะหันกลับมากอดฮันคยองด้วยความดีใจ
“ดีใจด้วย เลือกรางวัลสิ” ฮันคยองบอกร่างบาง ร่างบางจึงหันกลับไปหาเจ้าของร้าน
“ผมเอา หมีแพนด้าตัวนั้นครับ” ฮีชอลชี้ไปที่ หมีแพนด้าตัวโต ที่อยู่ในถ้านั่ง ปากคาบใบไผ่อยู่
“น่ารักมั้ย” ร่างบางหันมาถามเมื่อได้ตุ๊กตามาอยู่ในมือ
“ทั้งหมดเท่าไรครับ” ฮันคยองพยักหน้าก่อนจะหันไปถามราคา
“5000 วอนครับ”
“นี่ไอซิน วันหลังแกเล่นเงี้ยอ่ะนะ เดินไปซื้อในห้างเลยดีกว่า” ฮันคยองบ่น
“เชอะ ไม่แคร์หรอก ไม่ใช่ตังค์ชั้นนี่หน่า” ฮันคยองจ่ายเงินแล้วรีบเดินตามร่างบางที่เดินนำหน้าไปแล้ว
“จะรีบไปไหนเนี่ย” ฮันคยองที่วิ่งตามมาทัน มาดักข้างหน้า
“หาอะไรบางอย่าง” ฮีชอลบอกก่อนจะมองซ้ายที ขวาที
“เจอแล้วว” ฮีชอลวิ่งเข้าไปในร้านๆ นึง แล้วตรงไปยังชั้นวางของที่มีตุ๊กตาแมวสีขาว ลายน้ำตาลอ่อน ตาโตๆ อยู่
“พี่ครับ เอาตัวนี้” ฮีชอลชี้ไปที่ตุ๊กตาตัวนั้น พนักงานจึงเดินมาหยิบ แล้วเดินไปที่เคาท์เตอร์
“ฮัน มาจ่ายตังเร็ว” ฮันคยองเหวอเล็กน้อย อีกแล้วหรอเนี่ย มากับยัยนี่ทีไร ต้องเป็นกระเป๋าตังให้มันทุกที
“เท่าไรครับ” ฮันคยองถาม
“15000 วอนครับ” ฮันคยองควักตังค์ตามจำนวนนั้น แล้วยื่นให้พนักงานทันที
“อ่ะ” ฮีชอลยื่นตุ๊ตาแมวให้
“ให้ชั้นทำไม” ฮันคยองถามอย่างไม่เข้าใจ
“รับไปเหอะน่า เนี่ยตัวแทนชั้น ส่วนเนี่ยตัวแทนนาย” ฮีชอลอุ้มหมีแพนด้าของตัวเอง
“อ่าๆ” ฮันคยองรับมาแต่โดยดี
“ถ้านายคิดถึงชั้นก็คุยกับมันไปนะ” ฮีชอลบอกอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินนำออกไป
อย่าทำแบบนี้ได้ไม๊
ยิ่งนายทำแบบนี้
ชั้นเองที่จะเป็นคนผิดสัญญาก่อน
++++++
“จะตามมาทำไมวะเนี่ย” เรียววุคบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
“แหมแก นี่ชั้นเพิ่งรู้นะเว้ย ว่าไอ่ที่รุ่นพี่แกนั่งเปิดเพลงบอกรักมาเนี่ย เค้าหมายถึงแกอ่ะ” มินฮวานแซว
“นั่นดิ แหมแก แค่นั้นก็น่าจะพิสูจน์ได้แล้วนะ ว่ารุ่นพี่แกรักจริงหวังแต่งอ้า” แจจินเสริม
“อิพวกบ้า ชั้นไม่ง่ายนะเว้ย ใครมันจะไปยอมคบด้วยง่ายๆวะ ก็ชั้นไม่ได้รักพี่เค้า” เรียววุควีน
คำว่าไม่ได้รักเข้าหูคนที่วิ่งตามมาเต็มๆ
ขาที่กำลังวิ่งหยุดกึก
นี่เราเป็นตัวอะไรเนี่ย
มาวิ่งตามหัวใจ ทั้งๆที่
มันไม่ใช่ของเรา
น้องเค้าไม่รักเรา
เรายังจะหวังอะไรได้อีก
“แล้วนี่รุ่นพี่แกไปไหนแล้วล่ะ” มินฮวานถาม
“ไม่รู้ หรือว่าเค้าจะได้ยินที่แกพูดเมื่อกี้ ตามไปสิไอ่เรียว” แจจินผลักใส
“เรื่องอะไรอ่ะ” เรียววุคทำหน้าตาเหรอหรา
“อ้าว ก็พี่เค้าอ่ะเป็นคนอ่อนไหวง่าย พูดง่ายๆ ว่าใจเสาะอ่ะ ถ้าพี่แกเกิดไปนั่งชิงช้าสวรรค์ แล้วโดดลงมาจากจุดสูงสุดทำไงเล่าเว้ย” เป็นการขู่ที่ ทำให้คนฟังถึงกับตาลุกทันที
“ล...แล้วชั้นต้องทำยังไง”
“โอ้ย ก็ตามไปสิวะไอ่บ้า” แจจินผลักเพื่อนเบาๆ
“อืมๆ งั้นไปก่อนนะ” เรียววุคโบกมือก่อนจะวิ่งออกไป
“ฮิฮิๆ ตัวเองนี่ร้ายนะ ไปขู่มันซะมันกลัวเลย” แจจินขยี้หัวคนรักเบาๆ
“คริคริ ก็คนมันเก่งหนิ” มินฮวานหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง
แต่ถ้าเกิดไอ่รุ่นพี่นั่นมันเกิดทำขึ้นมาจริงๆล่ะ? จิตใต้สำนึกของทั้งสองคิด
เหอะๆ คงไม่หรอกม้าง
+++++++
“ซองมินอยากได้อะไรรึปล่าวเดี๋ยวพี่ซื้อให้”
“นี่ถามจริงเหอะพี่ ที่เอาใจเนี่ย เพราะจะให้ปิดปากเรื่องพี่เยชิป้ะ” ซองมินพูดอย่างรู้ทัน
“ปล๊าววว” คังอินปฏิเสธเสียงหลง
“ฮั่นแน่ ผมไม่โง่นะบอกไว้ก่อน” ซองมินชี้หน้า ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ยิ้มงั้นทำไม”
“ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะผลาญพี่ยังไงดี”
“เอาเหอะ อยากได้ไรก็บอก นี่พี่อยากได้เราเป็นน้องจริงๆนะ” คังอินยิ้มกรุ่มกริ่ม
“อยากได้เป็นน้อง หรือจะเข้าทางเพื่อนกันแน่”
ไอ่เด็กนี่มันรู้ทันจังวะ
โว้ยย ฉลาดเกินไปแล้ว
ฮิฮิ
แต่ก็น่ารักดี ^^-
“พี่คังฮะ เล่นๆนู่นๆๆๆๆ เล่นนี่ด้วยๆๆๆ ซื้อนี่ๆๆๆๆ อยากกินนู่นๆๆๆๆๆ ไปทางโน้นกันๆๆๆๆๆ นี่ๆ มาดูนี่ดิๆๆๆๆ” ซองมินพูดไปก็พาคังอินวิ่งไปวิ่งมาๆ จนร่างหนาเริ่มเหนื่อย
นี่ไอ่เจ้าซองมินมันไม่เมื่อยไม่เหนื่อยมั่งเลยรึไงวะเนี่ย -*-
ร่างหนาได้แต่บ่นในใจ แต่เอาไงได้ล่ะ อยากได้มาเป็นน้องเองหนิ ทนๆไปก่อนละกัน
เอิ่ม คู่ ยูชอน จุนซู อย่าไปยุ่งเลยดีกว่า ปล่อยเค้าไปเถอะเนอะ - - อิอิ**
-------------130%-------------
Al3OUt Th!s p@rt : 555 ตอนนี้สั้นไปมั้ยอ่ะ
T@lk with M : ขอโต๊ดดดด ไม่ได้อัพซะนานเลย ด๊องดองๆๆๆ
ชอบไปว่าชาวบ้านเค้าดองมาก -*- แล้วเนี่ย
คนเม้นก็ไม่ค่อยมีเพราะไรหรอ เพราะมันไม่หนุกใช่ม้ายยยTT หรือ
เพราะไม่รู้ว่ามันคือคู่ไหนเลยไม่ยอมอ่านกัน ช่วยบอกเหตุผลกับไรเตอร์หน่อยสิ
ความคิดเห็น