คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ,, ตอนที่ ๐ , ไร้มารยาท ?
สนามบิน...
ร่างสูงโปร่งของเด็กชายเชื้อชาติเกาหลีวัย 17 ปี กำลังลากกระเป๋าเดินทางใบโตออกมาตามทางเดินของผู้โดยสารขาออก
เด็กหนุ่มหยุดยืนก่อนจะมองบรรยากาศรอบๆ อย่างรู้สึกแปลกที่
เกาหลีใต้...เขาจากที่นี่ไปเกือบจะ 10ปีอยู่แล้ว...ไม่คิดเลยว่าซักวันจะได้กลับมา
และอาจจะต้องอยู่ที่นี่...ต่อจากนี้...ตลอดไป
“แม่ครับ...” มือหนากุมมือที่มีสายระโยงระยางเสียบอยู่ของผู้เป็นมารดาเอาไว้
“ลูกสัญญากับแม่แล้วนะ ว่าจะสอบเข้ามหา’ลัยโซลให้ได้น่ะ...”
“...”
“นะจ๊ะยุนโฮ...ลูกจะต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลีนะ” หญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าหมองลงไปด้วยอาการป่วยมองลูกชายคนเดียวของเธอด้วยแววตาขอร้อง
“ครับ...”
“ขอบใจมากนะจ๊ะลูก...”
หลังจากนั้นไม่กี่วัน...แม่ของชองยุนโฮก็เสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย...นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ชองยุนโฮจะต้องเดินทางกลับมาที่เกาหลีนี่เพียงคนเดียว ด้วยวัยเพียง 17 ปี
มือหนาล้วงหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าของเสื้อแจ็คเก็ต...รูปถ่ายที่คุณป้าดาจองเพื่อนสนิทที่สุดของแม่ให้มา...
ใบหน้าขาวใสที่ยิ้มน่ารักลอยเด่นอยู่ในรูป...
หน้าตาแบบนี้น่ะหรอ ที่จะดูแลคนอย่างเขาได้ ?
“คุณป้าครับ ผมอยู่คนเดียวได้จริงๆ นะครับ” ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ป้ารู้ว่ายุนโฮน่ะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว...แต่ว่ายุนโฮจะต้องมุ่งมั่นกับการเรียนนะ จะต้องตั้งใจอ่านหนังสือสอบ เพราะฉะนั้นถึงจะต้องมีคนดูแลไง”
“แต่ผมดูแลตัวเองได้นะครับ ผมมีความรับผิดชอบมากพอ”
“อันนั้นป้าก็รู้อีกล่ะจ่ะ ว่ายุนโฮน่ะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ แล้วก็ฉลาดเอามากๆ...”
“...”
“...แต่ถ้ายุนโฮมัวแต่เอาเวลาไปทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน หาข้าวกิน ซักผ้า รีดผ้า...แล้วจะเหลือเวลาไปอ่านหนังสือหรอจ๊ะ?”
“...”
“นั่นไงล่ะ...ป้าถึงต้องส่งยุนโฮไปอยู่กับคนที่จะสามารถดูแลยุนโฮได้เป็นอย่างดี” ป้าดาจองยิ้มหวานทันทีเมื่อเด็กหนุ่มดูจะมีท่าทีอ่อนลงตามคำพูดของเธอ
“งั้น...ใครครับ? ที่จะดูแลผม...”
ดาจองไม่ตอบ แต่หันกลับไปล้วงรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าหลุยส์ของเธอก่อนจะนำมาวางไว้ตรงหน้ายุนโฮเพื่อให้อีกฝ่ายได้มองเห็นชัดๆ
“...” สายตาคมจ้องมองใบหน้ารั้นๆ ที่กำลังยิ้นน่ารักอยุ่ในรูปถ่ายอย่างพิจารณา
“ลูกชายของป้าเองจ้ะ...คิมแจจุง...”
“คิมแจจุง...”
“คิมแจจุง...คงจะได้เจอกันเร็วๆ นี้” ปากหนากระตุกยิ้มบางๆ ก่อนจะเก็บรูปเข้าที่เดิมพร้อมกับมุ่งหน้าออกไปยังหน้าสนามบินเพื่อเรียกแท็กซี่
“ไปตามที่อยู่นี้ครับ” ยุนโฮยื่นกระดาษที่ป้าดาจองจดที่อยู่บ้านของคิมแจจุงมาให้ยื่นให้กับคนขับแท็กซี่
เสียงดนตรีเป็นจังหวะดังกระหึ่มไปทั่วห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ถูกแปลงสภาพให้เป็นงานเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ดัง
“โบรา...” เสียงหวานเอ่ยกระซิบเรียกคนข้างตัว
“หืม?” หญิงสาวขานรับทั้งๆ ที่สายตาของเธอยังคงจดจ้องอยู่บนแคทวอล์คอย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะ...พอดีว่ามีธุระจำเป็นจริงๆ น่ะ”
“อ้าวหรอ...ได้ยังไงล่ะ...นี่พึ่งเริ่มเองนะแจจุง” โบราหันมาพูดอย่างรู้สึกเสียดาย
“เอาหน่า...ยังไงฉันก็ให้พื้นที่ 20 หน้าสำหรับคอลเลคชั่นของเธอเลย แต่ฉันมีธุระจริงๆ น่ะ แม่ส่งข้อความมาบอกว่าส่งพัสดุชิ้นใหญ่มาให้จะมาถึงวันนี้ ฉันต้องรีบกลับไปรอรับน่ะ”
“อ่า...งั้นก็ได้...ไว้งานจบแล้วฉันจะโทรหานะ”
“โอเค บาย” แจจุงรีบเดินตรงไปยังประตูเพื่อออกจากงานทันที บรรยากาศภายนอกเงียบสงบต่างจากข้างในอย่างสิ้นเชิง แจจุงอ่านข้อความที่ได้รับจากมารดาของตนที่อยู่ที่อเมริกาอีกครั้งด้วยความสงสัย
พัสดุชิ้นใหญ่?
อะไรกันนะ ???
“จะรีบไปไหนน่ะแจจุง?” ร่างบางชะงักก่อนจะหันไปตามเสียงที่พูดกับเขา
“นายไม่ได้ต้องเตรียมแสตนด์บายด์อยู่หลังเวทีหรอกหรอ?” แจจุงมองคนที่อยู่ในหนึ่งในชุดคอลเลคชั่นของโบราอย่างนึกสงสัย...
ทำไมนายแบบคนอื่นๆ ที่เดินอยู่บนเวทีถึงแต่งแล้วไม่ดูดีเท่าผู้ชายคนนี้บ้างนะ ?
“ชุดของผมเป็นชุดสุดท้าย คุณก็รู้...คุณไม่ได้มาเพื่อรอดูผมงั้นหรอ?”
“เหอะ...ฉันมา ก็เพราะโบราขอร้องให้มา” แจจุงอธิบายความเข้าใจผิดของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัว
“อ่า...แล้วตกลงคุณจะรีบไปไหน?”
“ธุระด่วน”
“ธุระที่ว่านั่น...สำคัญกว่าผมอีกงั้นหรอ ?” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ร่างบางมากกว่าเดิม
“ตั้งแต่ที่เราเลิกกัน...ทุกอย่างบนโลกนี้ก็สำคัญกว่านายทั้งนั้นแหละ...ชเว ซีวอน” แจจุงพูดอย่างชัดเจน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับเดินหนีอีกฝ่ายไปอย่างไม่สนใจ
“หึ่ยย!” ซีวอนมองตามอดีตคนรักหน้าสวยที่เดินจากไปอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“ให้ตายเถอะ! ถ้าโบราไม่ขอร้องฉันจะไม่มีวันมาเหยียบงานที่มีหมอนั่นอยู่ด้วยเด็ดขาดเลย!” แจจุงบ่นกับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเปิดประตูรถคันหรูของตัวเองเข้าไป
ดีเหมือนกันที่ต้องรีบกลับ จะได้ไม่ต้องอยู่จนถึงคิวเดินของหมอนั่น!
ยุนโฮมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อสำรวจบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่เขาเคยเห็น
รถที่ขับอยู่ค่อยๆ ชะลอหยุดลงตามสัญญาณไฟที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง
รถเปิดประทุนสีขาวสะอาดค่อยๆ หยุดลงบังวิวทิวทัศน์ของยุนโฮจนหมด ทำให้สายตาคมต้องเลื่อนไปมองคนขับรถคันนั้นแทน
แว่นตาสีดำสนิทบดบังใบหน้าขาวใสทำให้มองเห็นใบหน้าที่หันข้างอยู่นั้นไม่ค่อยชัด...แต่ก็รับรู้ได้ไม่ยาก...ว่าคนตรงหน้านั้น หน้าตาดีเพียงใด...
แปะ แปะ แปะ
เม็ดฝนค่อยๆ โปรยปรายลงมากระทบกับบานหน้าต่างที่ยุนโฮกำลังใช้มองใครอีกคนอยู่
ใครคนนั้นมีท่าทีตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ฝนก็ตกลงมา พร้อมกับหลังคาที่ค่อยๆ ยื่นออกมาปิดบดบังไม่ให้ภายในรถราคาแพงต้องเปียกปอน
ก่อนที่สัญญาณไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวทำให้รถทั้งสองคัน ต้องขับเคลื่อนเครื่องยนต์ต่อไป...
“โอ้ยยย อะไรเนี่ย ! ฟ้าเปิดขนาดนี้ ฝนตกลงมาได้ยังไงกัน! เปียกหมดเลย” แจจุงจับกระจกมองหลังให้หันมาทางตัวเองเพื่อมองสำรวจใบหน้าที่มีเม็ดฝนเกาะอยู่ประปราย
ร่างบางรีบเหยียบคันเร่งเพื่อที่จะได้ตรงไปยังบ้านของตัวเองให้เร็วที่สุด...แจจุงเกลียดที่สุด ก็เมื่อเสื้อผ้าราคาแพงของเขาต้องเปียกไปด้วยน้ำฝน!
“ที่นี่ล่ะครับ...” ยุนโฮเงยหน้ามองบ้านสองชั้นราคาแพงตรงหน้าอย่างรู้สึกแปลกใจไม่น้อย...
อยู่คนเดียว...ในบ้านหลังโตนี่น่ะหรอ?
“ขอบคุณมากครับบ” ยุนโฮก้มหัวให้คนขับก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในรั้วบ้านที่เปิดทิ้งไว้
ติ๊งหน่อง ~
ยุนโฮรีบกดออดทันที หลังจากที่ได้มายืนอยู่ใต้ชายคาตรงบานประตูที่สามารถพอจะหลบฝนที่เทกระหน่ำลงมาได้
แกร้ก!
“นายเป็นใคร?” ใบหน้าสวยยื่นออกมานอกประตูพร้อมกับมองเด็กหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัย
นึกว่าบุรุษไปรษณีย์จะเอาของมาส่งเสียอีก...
“ใช่จริงๆ ด้วย...” ยุนโฮหยิบรูปถ่ายที่เปียกปอนของตัวเองออกมามองเทียบใบหน้าในรูปกับคนตรงหน้าภายใต้การมองอยุ่ของแจจุง
“นั่นรูปฉันหนิ! ตกลงว่านายเป็นใคร?” แจจุงถามย้ำอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะครุกรุ่น
“ป้าดาจองส่งผมมาที่นี่...”
“ใครนะ ?” แจจุงขมวดคิ้วถามย้ำอีกครั้ง
“ป้า-ดา-จอง” ยุนโฮเน้นทีล่ะคำเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ได้ยินอย่างชัดเจน
ปัง!
ประตูถูกกระแทกปิดลงทันที
ยุนโฮยืนมองประตูที่ถูกปิดลงด้วยความงุนงง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยไม่รู้จะไปทางไหน
ก็ฝนตกหนักขนาดนี้นี่หน่า...
อีกฟากของประตู
“ป้าดาจอง...แม่งั้นหรอ?” แจจุงรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาโทรทางไกลไปยังต่างประเทศทันที
(เจอน้องแล้วใช่มั้ยแจจุง?)
“น้อง??”
(ก็ยุนโฮไงจ๊ะ...)
“สรุปแล้วแม่คือคนที่ส่งเด็กนั่นมาจริงๆ ใช่มั้ย?”
(ใช่น่ะสิ พัสดุชิ้นใหญ่จากอเมริกาเลยนะ ~)
“แล้วทำไมแม่ไม่บอกแจจุงก่อน!”
(ก็รู้ไงล่ะ ว่าถ้าบอกก่อนลูกต้องไม่ยอมแน่ๆ...ให้น้องอยู่ด้วยเถอะนะแจจุง)
“แล้วทำไมแจจุงจะต้องให้เด็กนั่นอยู่ด้วย?”
(ก็ป้าอารา...แม่ของยุนโฮพึ่งจะเสียไป แล้วแม่ก็สัญญากับอาราต่อหน้าหลุมศพของเธอไว้ว่าจะดูแลยุนโฮแทนอาราเอง...)
“แล้วเกี่ยวอะไรกับแจจุง?!”
(ก็แหม...ถ้าแม่บินไปเลี้ยงน้องเองได้ก็จะทำ แต่แจจุงก็รู้ว่าแม่เปิดบริษัทร่วมกับอารา ตอนนี้อาราเสียไปบริษัทก็เลยวุ่นวายอยู่น่ะสิ แจจุงช่วยแม่หน่อยน้า)
“เห้อ...ขอคิดดูก่อนละกัน!”
(งั้นแม่ขอเคลียร์งานต่อก่อนนะลูก ~)
ติ๊ด ~
โว้ะ! แม่นะแม่ ทำไมทำอะไรไม่รู้จักบอกก่อนเลยเนี่ย T___T เด็กนั่นเป็นใครก็ไม่รู้ ! ถึงจะเป็นลูกของป้าอาราก็เถอะ...
ก็ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี !
ติ๊งหน่อง ~
แกร้ก!
“มีอะไร?” แจจุงเอ่ยถามคนที่พึ่งกดออดเรียกเขา
“ขอเข้าไปหลบฝนก่อนไม่ได้รึไง ?” แจจุงมองดูคนที่ตัวเปียกโชกต้งแต่หัวจรดเท้าอย่างแอบสงสาร...แต่...
“มั่นใจหรอ ว่าที่พูดเมื่อกี้เป็นประโยคขอร้อง?”
“ไม่ได้จะขอร้อง...แค่จะบอกให้ หลบไป” พูดจบ ยุนโฮก็ก้าวเท้าเปียกๆ เข้าไปเหยียบบนพื้นหินอ่อนขัดเงาของแจจุงทันที
แจจุงรีบหลบคนตัวเปียกๆ ให้พ้นทาง พร้อมกับปากที่อ้าค้างมองดูเด็กไร้มารยาทที่ถือวิสาสะลากกระเป๋าย่ำเท้าเดินเข้าบ้านของเขาเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย
“ไร้มารยาทจริง!” แจจุงว่าเสียงดัง
“คนที่ปิดประตูใส่หน้าคนอื่น ก็ไม่เรียกว่ามีมารยาทนะ...”
“!!!!”
ยุนโฮหันกลับมายักคิ้วให้แจจุง ก่อนจะวางกระเป๋าทิ้งไว้แล้วเดินตรงไปนั่งบนโซฟาในห้องโถงของบ้านทันที
ที่บอกว่าขอคิดดูก่อนน่ะ...ตอนนี้แจจุงมีคำตอบให้แม่แล้ว !!!
To B Continue …
nu eng
ความคิดเห็น