คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โชคชะตา ขั้นที่ 2 ,, _____ บังเอิญ
โชคชะตา ขั้นที่ 2 ,, _____ บังเอิญ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
บรื้นนนน ~~~
เสียงรถเฟอรารี่สีบลอนด์เงินคันหรู ดังไปทั่วที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“สวัสดีครับ” ตลอดทางที่ขับ จะมีเสียงยามที่คอยควบคุมลานจอดรถแห่งนี้เอ่ยทักทายเจ้าของรถหรู
“ที่ตรงนี้จองไว้ให้ใคร” ร่างสูงจอดถามยามที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
“สำหรับลูกค้า V.I.P ครับ” ยามตอบ
“หืมม เรามีลูกค้า V.I.P ด้วย” ให้ตายเถอะเป็นทายาทเจ้าของห้างแท้ๆ แต่ไม่เคยรู้แม้กระทั่งเรื่องนี้
“มีสิครับ เค้ามาซื้อของที่นี่ทุกวัน แถมกระเป๋าตุง ลูกคุณหนูด้วยนะครับ” ยามสาธยาย
“เอาล่ะๆ” ร่างสูงขัดก่อนที่มันจะดูยาวกว่านี้
“ชั้นจะจอดตรงนี้ ที่อื่นก็เต็มหมดแล้ว” ร่างสูงพูดอย่างเอาแต่ใจ
“ม...ไม่ได้นะครับ” เอาไงล่ะนี่ คนนึงก็ลูกเจ้านาย อีกคนก็ลูกค้า วีไอพี
“ทำไม ที่นี่มันก็เหมือนเป็นที่ของชั้น ทำไมชั้นจะจอดไม่ได้” เสียงแข็งที่ดูจะโกรธเคืองเอามากๆ
เป็นแค่ยามมีสิทธิ์มาตัดสินอะไร
“เอ่อ...งั้นก็ได้ครับ” ยามรีบเดินไปเข็นที่กั้นออก ชืนยังไม่ยอมอยู่แบบนี้คงต้องหางานใหม่แน่ๆ
“หึ” ร่างสูงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะโฉบเข้าจอดอย่างชำนาญ
บรื๊นนนนน~~~~~
“อ้าวเห้ย” ร่างบางอุทานเมื่อมาถึงที่จอดรถประจำของตัวเองที่ปกติจะต้องถูกกั้นไว้ให้
แต่ทำไมตอนนี้ มีรถที่หน้าตาเหมือนรถของเค้าอย่างกับแกะจอดอยู่ได้ล่ะ
หรือยามจะจำผิดคัน
ไม่น่าใช่
รถเราเปิดประทุนต้องเห็นหน้าคนขับอยู่แล้ว
ว่าแล้วร่างบางก็เปิดประตูลงจากรถเพื่อหายามมาเคลีย
“ยองเจ” ร่างบางเรียกหายาม ยามที่นี่เค้ารู้จักหมดทุกคนล่ะ
“ค...ครับ” เอาแล้วไง รู้อยู่แล้วว่าเวลานี้ต้องมาถึง
“ไอ่นั่นมันเป็นใคร” ร่างบางหมายถึงเจ้าของรถที่มาแย่งที่เค้าจอด
“คือออ บอกไม่ได้ครับ” ถ้าบอกไปมีหวังอาจจะโดนสองดอก
“หึ่ยย งั้นชั้นหาเอง” ร่างบางไม่อยากจะตื้อ ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก กูหาเองก็ได้
ร่างบางเดินไปเพื่อจะจำทะเบียนรถ
แต่เอ๊ะ
Emperor งั้นหรอ
เอาเถอะ มันคงไม่ใช่
ร่างบางมุ่งหน้าไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์
นี่จะประกาศหากันเลยหรอ?
แค่ที่จอดรถเนี่ยนะ
“ยองอา ช่วยประกาศอะไรให้ชั้นหน่อยสิ” รู้สึกร่างบางจะรู้จักพนักงานของที่นี่ดีทุกคนเลยนะ
“ได้ค่ะ คุณดงเฮ” เมื่อได้รับคำตกลง ดงเฮก็บอกสิ่งที่จะให้ประกาศทันที
ติ้ง หน่อง ต๊อง แต่ง
“ท่านผู้มีอุปการะคุณท่านใด เป็นเจ้าของรถ เฟอรารี่ สีบลอนด์เงิน ทะเบียน Emperor กรุณาไปที่รถของท่าน...ด้วย”
ติ้ง หน่อง ต๊อง แต่ง
เสียงหวานถูกประกาศไปทั่วห้าง
คนที่กำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่นั้นชะงักไปทันที
รถกูหนิ
มีอะไรฟระ
อยากรู้ก็ต้องไปดู ว่าแล้วร่างสูงก็ตรงไปยังที่ๆ เค้าจอดรถไว้ทันที
“ชักช้าจริงวุ้ย” ดงเฮบ่น นี่เค้ารอมาหลายนาทีแล้วนะ
“มีอะไรมิทราบ” เสียงทุ้มที่ดังมาจากข้างหลังเล่นเอาร่างบางของดงเฮสะดุ้งทันที
“นายเป็นเจ้าของรถคันนี้ใช่มะ” ดงเฮชี้ไปที่เจ้ารถตัวปัญหา
“ใช่ ทำไม”
“นั่นมันที่ของชั้น กรุณาถอยออกมาด้วย” ดงเฮสั่ง
“นายเป็นใครทำไมชั้นต้องรับคำสั่งมิทราบ” ร่างสูงมองด้วยสายตารังเกียจ
“แล้วนายน่ะเป็นใคร ชั้นมาเดินที่นี่ทุกวันยังไม่เคยเห็นหน้า พนักงานที่นี่ทุกคนชั้นก็รู้จักหมด กะอิแค่เป็นคนรวยไม่ใช่จะทำอะไรตามอำเพอใจได้นะ” ดงเฮบ่นเป็นยกใหญ่
“มาเดินที่นี่ทุกวันแต่ไม่รู้จักชั้นงั้นสิ” ร่างสูงเยาะเย้ย
“เป็นใคร จำเป็นต้องรู้จัก”
“จะบอกให้เอาบุญนะ ชั้น ชเว ซีวอน ทายาทห้างสรรพสินค้าแห่งนี้” เดี๋ยวยิงทิ้งแม่งเลย อะไรนักหนาวะ กะอิแค่ที่จอดรถทำเป็นเรื่องใหญ่
“หึ แค่ลูกเจ้าของห้าง คิดว่าชั้นจะกลัวรึไง ก็แค่ลูก ไม่ใช่พ่อหนิ” ความกล้าของ ลี ดงเฮ มีมากจริงๆ
“ประทานโทษนะ กะอิแค่ที่จอดรถจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมากมาย”
เพราะชั้นไม่เคยแพ้ใครไง
แม้กระทั่งเรื่องที่จอดรถ
“แล้วไง ก็ชั้นทำสัญญาตกลงกับยองเจไว้แล้ว ว่าตรงนี้ห้ามรถหน้าไหนมาจอดเด็ดขาด” ดงเฮถือเอาสัญญามาอ้าง
“ยองเจ? ใครกัน” ร่างสูงรู้สึกงงนิดหน่อยแต่ก็เก็บอาการ
“อุ้ยต๊ายย เป็นถึงลูกเจ้าของห้าง แต่ไม่รู้จักลูกจ้างตัวเอง มันน่าสมเพชเวทนามั้ยเนี่ย”
“ใครบอก ชั้นแค่ไม่จำเท่านั้นเอง” เสียหน้านักเชียว
กูอยากจะบอกว่ามาห้างนี้เดือนละครั้ง
“เหอะ งั้นก็ได้ แต่นายต้องคืนที่จอดรถให้ชั้น” ดงเฮยังคงไม่ลดละ
“จะบอกให้นะ ของแบบนี้..... ใครดีใครได้” ซีวอนพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินไปอย่างไม่สนใจ
“หนอยยยยย ไอ่ ๆ มันชื่ออะไรนะ” ดงเฮพยายามคิดชื่อ
“ชเว ซีวอนครับ” ยองเจที่มายืนฟังตอนไหนไม่รู้กระซิบบอก
“เออนั่นแหละ ไอ่ชเว ชวา อะไรก็ช่าง อย่าใก้กูเจออีกนะ ปัง!!!” ดงเฮโมโห เดินไปเตะเข้าที่ประตูข้างรถของซีวอนอย่างแรง
วิ๊ด วิ้ว วี๊ด วิ้ว [เสียงสัญญาณกันขโมย]
“อึ๋ยย” ยองเจคราง
“ไม่เป็นไร ชั้นไม่เจ็บ” ดงเฮยิ้มให้กับความเป็นห่วงของยามผู้ภักดี
“ปล่าวครับ ผมกลัวรถเป็นรอย” ยองเจตอบตามความจริง แต่ถ้าโกหกซักหน่อยคงไม่มีใครว่า
“เออ! ขอบใจ” ดงเฮฮึดฮัดเดินเข้าห้างไปทันที
แล้วก็ปล่อยรถตัวเองให้จอดอยู่อย่างนั้นแหละ รถคันหลังที่ตามมา ได้แต่บีบแตรด่า ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีคนขับ
ซวยถึงยองเจ ที่ต้องมาขยับรถให้
.
.
.
.
“ซื้อเสื้อแก้เซ็งดีกว่า” ดงเฮเดินเข้าร้านขายเสื้อแบรนด์ประจำ
“สวัสดีครับ คุณ ดงเฮ” พนักงานเอ่ยทัก ดงเฮผงกหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินสำรวจไปรอบๆร้าน
“ขอชั้นลองตัวนั้นหน่อยสิ” ดงเฮชี้ไปยังเสื้อที่ถูกหุ่นสวมใส่อยู่
ถึงมันจะเป็นเพียงเสื้อเชิ้ตที่เรียบๆ แต่ก็โดนใจดงเฮได้
“นี่ครับ” พนักงานยื่นให้
ร่างบางเดินตรงไปยังห้องลองภายในร้าน มีห้องเดียว แล้วมันก็ปิดอยู่ แปลว่ามีคนใช้
ไม่เป็นไรนั่งรอก็ได้
แควก~
เสียงผ้าม่านที่ปิดห้องลองถูกเปิดออกดงเฮเตรียมตัวจะเข้าต่อ
“เห้ยยย” เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เพิ่งออกมาจากห้องลอง ดงเฮก็ร้องเสียงดัง
“แกมาทำอะไรที่นี่” ดงเฮถามอย่างเสียมารยาท
“นี่บ้านนายรึไง ถอยไปชั้นจะจ่ายเงิน” ซีวอนพูดอย่างถือตัว ไม่สนใจอยู่แล้ว อยากบ้าก็บ้าไปคนเดียว
ดงเฮอารมณ์เสีย โยนเสื้อไว้บนเคาท์เตอร์ ก่อนจะปึงปังออกจากร้านไป
“ปัญญาอ่อนจริง” ซีวอนบ่น
นี่แค่กูเข้ามาลองเสื้อมันผิดหรอวะ
นี่แบรนด์โปรดกูนะ
“อย่าให้ได้พบได้เจอกันอีกเล้ย” ดงเฮบ่นตลอดทางก่อนจะเดินเข้าร้านอาหาร
กินอะไรแก้เซ็งดีกว่า
“สวัสดีค่ะ คุณดงเฮ เชิญด้านนี้ค่ะ”
ให้ตาย เกิดมาเป็น ลี ดงเฮ นี่ดีเป็นบ้า ไปไหนใครก็รู้จัก
เฉพาะในห้างนี้นะ -*-
“รับอะไรดีคะ” เมื่อดงเฮหย่อนก้นลงบนเบาะนุ่ม พนักงานก็เตรียมสมุดจดทันที
“ขอ ลอบสเตอร์ อบชีส กับ แตงโมปั่นละกันนะ” ดงเฮสั่งของโปรดโดยไม่ต้องดูเมนูให้เสียเวลา
♬ ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ~~~~♬
มือบางคว้าเครื่องมือสื่อสารของตนเองขึ้นมาก่อนจะกดรับ
“มีอะไรครับท่าน” ดงเฮเก็กเสียงแมน
//เหอๆ แกอยู่ไหนเนี่ย //
“แดกข้าวอยู่” การพูดการจา ไม่สมกับเป็นคุณหนูเอาซะเลย
// อืม แดกเร็วๆ แผนบุกไวล์ดเรียบร้อยแล้ว //
“ดีจัง เดี๋ยวจะรีบกลับ” ดงเฮบอกก่อนจะถือวิสาสะกดตัดสายไปทันที
แผนบุกไวล์ดอย่างงั้นหรอ อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้กูต้องเอี่ยวด้วย
“มาแล้วค่ะ” พนักงานเสิร์ฟอาหารมาขัดจังหวะการใช้ความคิดของร่างบางพอดี
“ขอบใจ”
มือบาง คว้า มีดและส้อม
พร้อมกับค่อยๆบรรจงจิ้มลงไปบนเนื้อกุ้งมังกรชั้นดี ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ถือมีด หั่นอย่างประณีต เตรียมจะยกเข้าปาก
แต่สายตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นบุคคลที่กำลังนั่งดูเมนูอยู่โต๊ะตรงหน้า
ปากบางยังคงอ้าค้าง
ก่อนที่มือบางจะกระแทกส้อมลงบนจานเสียงดัง
ร่างบางเดินตรงไปยัง โต๊ะที่มีร่างสูง นาม ชเว ซีวอนนั่งอยู่ทันที
ปัง~
ดงเฮทุบโต๊ะ ซีวอนไม่มีท่าทีตกใจ เพียงแค่เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจเมนูต่อ
“นี่นาย” ดงเฮชักเริ่มโมโห กล้าเมินเค้าอย่างงั้นเหรอ
“มีอะไร” ปากก็ถาม แต่ตากลับมองแต่เมนู
“จะตามชั้นไปถึงไหน” คำถามถูกยิงเข้าหาร่างสูงทันที
“สำคัญตัวเกินไปรึปล่าว ชั้นไม่ได้ตามนาย” ซีวอนพูดเสียงเรียบ
“ชั้นเอานี่” ซีวอนหันไปบอกพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่
“ช่วยสนใจชั้นหน่อยได้มั้ย” ดงเฮตะโกน
“มารยาทมีมั้ย เกรงใจคนอื่นเค้าซะมั่งสิ ทำตัวให้มันเข้ากับหน้าตาหน่อย” ซีวอนบอกเสียงขรึม ดงเฮจำใจลดเสียงลง
“ถ้านายไม่ได้ตาม มันจะบังเอิญขนาดนี้หรอ” ถึงจะพูดเสียงเบา แต่น้ำเสียงก็ยังคงจิกกัดเหมือนเดิม
สายตาคมเสมองมาทางร่างบางเล็กน้อย
“แล้วทำไมต้องคิดว่ามันบังเอิญ” ดงเฮไม่เข้าใจกับคำพูดของร่างสูง
แล้วถ้าไม่เรียกว่าบังเอิญแล้วเรียกว่าอะไรล่ะ???
“ทำไมไม่คิดว่ามันเป็น...”
ซีวอนเว้นระยะเล็กน้อย ให้ร่างบางลุ้นเล่น
“พรหมลิขิต” เสียงที่แผ่วเบา แต่มันก็สะกดให้ร่างบางนิ่งไปได้
พรหมลิขิต???
บ้าบออะไร
เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว
ร่างบางเมื่อสติกลับมาก็ลุกขึ้นตรงไปจ่ายตังแล้วออกจากร้านไปทันที
เสื้อก็ไม่ได้ซื้อ
ข้าวก็ไม่ได้แดก
เซ็งโว้ยยยยย
ความคิดเห็น