คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ,, ตอนที่ ๘ , ไล่กลับบ้าน /หาไรกิน 100%
“ฮัดชิ่ว !” เสียงจามดังสนั่นไปทั่วบ้าน เนื่องจากคนที่ต้องนอนตากลมหนาวเมื่อคืนดันป่วยตามคาดของหลายๆ คน
ทำเอาคนอื่นๆ ที่ยังไม่อยากจะตื่น ต้องจำใจตื่นแต่เช้ามานั่งรับรู้อาการป่วยของซีวอนกันอยู่กลางบ้าน
“ฮัดชิ่ว ! ชิ่ว ! ชิ่ว !!!”
“โอ้ยซีวอน นายไหวมั้ยเนี่ย?” ฮีชอลเอ่ยถาม พลางเอนหัวซบลงกับมือของตัวเองที่ท้าวอยู่กับพนักพิงโซฟาอย่างแฮ้งค์ปนเซ็ง
“โธ่ ก็เล่นให้นอนตากลมแบบไม่มีสงสารกันขนาดนั้น...” เสียงอู้อี้ตอบมาอย่างไม่ค่อยจะพอใจซักเท่าไร
“เลิกบ่นซักที แล้วมากินซุปนี่ซะ ยุนโฮทำเสร็จแล้ว” แจจุงที่นั่งเฝ้ายุนโฮทำอาหารอยู่ที่โซนครัวตะโกนบอก
ยุนโฮอาสาจะทำอาหารให้คนป่วยและทุกคนเอง เขาเลยมานั่งใกล้ๆ คอยเป็นลูกมือ
ก็แหม ไม่ได้อยากอยู่ใกล้อีกสองคนที่เหลือเลยซักนิดน่ะสิ - -!
“ทำไมฉันจะต้องกินอาหารที่ไอ่เด็กนั่นเป็นคนทำด...ฮัดชิ่ว!!” ซีวอนยังคงทำตัวกร่างไม่เลิก
“ก็เพราะว่านายไม่มีปัญญาทำเองแน่ๆ ไงล่ะ”
“ยุนโฮนี่เก่งจังเลยนะจ๊ะ ทำอาหารเองก็ได้ด้วย ^^” ฮีชอลรีบลุกขึ้นตรงเข้ามาหาของกินที่ยุนโฮทำเผื่อทุกๆ คน
ฮีชอลตักน้ำซุปในชามกินอย่างชื่นชม
นี่ก็คงจะเมามาก...จนลืมสิ่งที่ทำทุกอย่างไปเมื่อคืนสินะ
“อ่า..ครับ” ยุนโฮตอบรับก่อนจะยื่นถ้วยน้ำซุปให้แจจุง ที่นั่งห่างออกมาจากฮีชอลจนแทบจะตกจากโต๊ะ
“ฮัดชิ่ว!”
“เลิกลีลาแล้วมากินซักทีเถอะซีวอน อย่ามาตายในบ้านฉัน”
ในที่สุดคนที่ทำตัวมีปัญหาก็ยอมมานั่งลงข้างๆ ฮีชอล พร้อมๆ กับตักน้ำซุปเข้าปาก
ซีวอนกินอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่สนใจใคร
“นายก็มานั่งกินซะสิ” แจจุงบอกคนที่กำลังถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว
“ครับ” ยุนโฮนั่งลงตรงข้ามแจจุง
“ดีนะที่วันนี้เป็นวันเสาร์ โรงเรียนปิด” ฮีชอลพูดออกมายิ้มๆ อย่างพยายามจะชวนคุย
“ถึงจะวันไหนก็ขออย่าให้มาที่บ้านฉันอีกเลย”
“แหม รุ่นพี่ใจแคบจังนะฮะ” ฮีชอลหันมาฉายยิ้มให้ ก่อนที่จะหันกลับไปสนใจสิ่งที่อยู่ในถ้วยของตัวเองก่อน
“โอ้ย หมั่นไส้จริง” แจจุงจิ้มช้อนกระแทกกับก้นถ้วยพร้อมกันพูดพึมพำอยู่คนเดียวอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“ใจเย็นนะ” ยุนโฮกระซิบบอก เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องแต่เช้าอีก
“รู้หน่า”
“คุยอะไรกันฮะ?”
“ก็คุยว่าเมื่อไรพวกนายจะกลับๆ กันซักทีล่ะ นี่มันวันหยุดนะ ฉันควรจะได้อยู่บ้านอย่างสงบสิ” แจจุงได้ทีหันไปออกปากไล่
“จะได้อยู่กันสองคนมากกว่า” ซีวอนพูดเชิงประชด
“ก็คงจะทำนองนั้น อยู่กันสองคนก็ยังสงบมากกว่ามีพวกนาย” แจจุงตอบกลับไปตรงๆ
“เห้อ..งั้นฉันกลับก่อนล่ะ” ซีวอนวางช้อนลงข้างตัว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินออกจากตัวบ้านไปเลย
“อ้าว เดี๋ยวสิซีวอน!”
“ครูคิมกลับแล้วหรอฮะ สวัสดีครับ” ยุนโฮ ลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบโค้งให้อย่างทำความเคารพ
เล่นเอาแจจุงที่นั่งกำช้อนอยู่ในมือขำพรืดออกมา
“จิ! งั้นไปก่อนล่ะ วันจันทร์เจอกันนะจ๊ะยุนโฮ” ฮีชอลรีบวิ่งตามซีวอนออกไปด้วยใบหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก
“ซีวอน! ไปส่งฉันด้วย!”
“ฮ่าๆๆๆๆ” แจจุงยังคงหัวเราะไม่หยุดจนเดกหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่ต้องหันกลับมามองอย่างสงสัย
“ขำอะไร??”
“ก็นายน่ะสิ ฮ่าๆ นี่ไม่รู้ตัวจริงๆ ใช่มั้ยว่าทำอะไร?”
“ทำอะไร???” ยุนโฮขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจจริงๆ
“ก็นายไล่ฮีชอลไปน่ะสิ”
“ไล่? ผมยังไม่ได้ไล่ครูคิมเลยนะ”
“ก็ไอ่ที่ลุกขึ้นยืนแล้วบอกลาน่ะ มันไล่ทางอ้อมชัดๆ มีแต่นายเท่านั้นแหละที่ไม่รู้” แจจุงส่ายหัวให้กับความซื่อของยุนโฮยิ้มๆ ก็แหม...
อย่างน้อยก็กำจัดฮีชอลไปได้ล่ะหน่า...แถมยังได้สะใจนิดๆ ด้วย
“ก็คิดว่าครูคิมจะกลับแล้ว...ว่าแต่ ทำไมนายซีวอนนั่นถึงยอมไปง่ายล่ะ”
“เหอะ วันนี้ป่วยคงไม่พร้อมต่อกรกับใครมั้ง เดี๋ยววันหลังก็มาอีก เชื่อสิ” แจจุงพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่เหมือนจะมีใครเข้าใจจุดประสงค์ของแจจุงผิดๆ
“อยากให้เขามางั้นหรอ?”
“นี่ อะไรของนาย ยังไม่ได้พูดซักคำ”
“ตกลงว่า...ยังรักเขาอยู่หรอ ?”
พรืดดดดดดดดดดด!
ช้อนที่พึ่งถูกส่งน้ำซุปเข้าปากถูกวางลงทันที ก่อนที่แจจุงจะรีบวิ่งไปหาผ้ามาซับน้ำซุปที่ตัวเองพ่นออกมา
“คิดอะไรแบบนั้นเนี่ย! ฉันเกลียดหมอนั่นจะตาย”
“ก็เมื่อคืนเห็นออกไปนั่งเฝ้า..”
“แปลว่านายแอบดูอยู่ตั้งแต่ตอนที่ฉันออกมาจากห้องแล้วสินะ” แจจุงเดาได้ไม่ยาก จากเหตุการณ์ที่ยุนโฮโผล่ลงมาช่วยเขาเร็วเหลือเกินเมื่อคืน
“...”
“????”
“อ...อื้ม” ยุนโฮตอบออกมาในที่สุด...เขาก็ไม่ได้อยากจะยอมรับเสียหน่อย
กลัวว่าคนที่แสนฉลาดตรงหน้าเขา...จะรับรู้ความรู้สึกอื่นๆ ...
“ดื่มไปตั้งเยอะ แทนทีจะพักผ่อน..”
“ก็มันหลับไม่ลง...”
“งั้นรีบๆ กินให้เสร็จแล้วไปนอนเหอะ เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี” แจจุงแนะนำอย่างกลัวว่ายุนโฮจะป่วยไปอีกคน
“ครับ” ยุนโฮรับคำนิ่งๆ ก่อนจะรีบกินในส่วนของตัวเองให้หมดแล้วเดินเอาถ้วยไปไว้ที่ซิ้งค์
“งั้นผมไปนอนแล้วนะ” ยุนโฮหันมาบอกคนที่ยังนั่งกินอยู่ ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปทางห้องตัวเอง
แต่แล้วก็เหมือนมีความคิดนึงมาฉุดขาของเขาไม่ให้เดินต่อ...
“แจจุง...” ยุนโฮหันกลับมาสบตากับคนที่พึ่งจะเงยหน้าขึ้นมาเลิ่กคิ้วให้เขา
“...”
“ถ้าเกิดว่า...”
“???”
“ถ้าเกิดว่าผมป่วย...จะเป็นห่วงแล้วก็นั่งเฝ้าผมเหมือนที่ทำกับซีวอนมั้ย?” แจจุงชะงักไปเล็กน้อยกับคำถามที่จู่ๆ ก็ถูกถาม...
“แน่นอนสิ ฉันจะดูแลนายให้ดีที่สุดเลย” แจจุงส่งยิ้มให้เพื่อให้อีกฝ่ายมั่นใจ
“..” ยุนโฮไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ให้แทน ก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปตามเดิม
“ก็ฉันเป็นผู้ปกครองของนายหนิ” แต่เสียงหวานที่พูดต่อทำเอาขาของเขาชะงักอีกครั้ง
ผู้ปกครอง...จริงสินะ...
“...” ขายาวก้าวเดินต่ออีกครั้งอย่างไม่อยากจะหันกลับไปมองเจ้าของเสียงหวานเมื่อกี้
ถ้าเขาหันกลับไปตอนนี้ ก็คงไม่เหลือรอยยิ้มให้กับคิมแจจุงอีกแล้วล่ะ
เรื่องแค่นี้...ทำไมจะต้องรู้สึกแย่ด้วยก็ไม่รู้...
“อะไรของเขา ฉันพูดอะไรผิดรึไง?” แจจุงบ่นกับตัวเองงึมงำ ก่อนจะรีบกินให้เสร็จแล้วรีบไปพักผ่อนบ้าง
บ้านสไตล์โมเดรินที่ไม่ใหญ่โตมากถูกความสงบเงียบเข้าครอบนำหลังจากที่มีเหตุการณ์วุ่นวายมากมายเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เนื่องจากผู้อาศัยทั้งสองต่างเข้าสู่ห้วงนิทรากันอย่างเหนื่อยอ่อน
กว่าจะมีคนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไปบ่ายสองแล้ว
และแน่นอนว่าคนที่ตื่นเป็นคนแรก จะต้องไม่ใช่เจ้าของบ้านคนสวยอย่างแน่นอน
เด็กหนุ่มกำลังโตยอมลุกขึ้นมาจากเตียงนอนอันแสนสบายของตัวเอง ด้วยอาการหิวที่ฉุดรั้งให้เขาเดินออกมายังห้องครัว น้ำซุปที่เหลือในหม้อไม่สามารช่วยให้อาการหิวขั้นรุนแรงของเขาลดลงไปได้
ยุนโฮตัดสินใจเดินไปล้วงตังค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนตัวที่ใส่เมื่อวานออกมา ก่อนจะตรงออกนอกบ้านเพื่อไปหาซื้อของมาประทังชีวิต
โชคยังดีที่ไม่ไกลจากปากซอยบ้านที่เขาอาศัยอยู่ มีตลาดขนาดย่อมๆ ที่รวมร้านขายอาหารต่างๆ เอาไว้พอให้เข้าไปเลือกสรร
ว่าแต่...กินอะไรดีล่ะ??
หิวๆ แบบนี้ ก็ต้องอะไรที่มีข้าว...
กินคิมบับดีกว่า ^^
“เอาคิมบับ 2 จานครับ” นิ้วสองนิ้วถูกชูขึ้นเป็นท่าทางประกอบการสั่งอาหาร ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปนั่งในร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะเพียงสามตัวเท่านั้น
ยุนโฮมองไปรอบๆ อย่างต้องการสำรวจ
เขาเองก็ไม่ค่อยได้ออกมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ซักเท่าไร...นอกจากจะเดินผ่านตอนไป-กลับโรงเรียนเท่านั้น
เวลากินข้าว ก็กินแต่ที่บ้าน เพราะในเมื่อทั้งเขาและแจจุงต่างก็ทำอาหารเป็น จะต้องมาพึ่งพาฝากท้องไว้นอกบ้านทำไมบ่อยๆ ล่ะจริงมั้ย
ว่าแต่คนที่ยังหลับอยู่จะหิวมั้ยนะถ้าตื่นขึ้นมา???
“ได้แล้วจ้ะ” จานสองใบที่เต็มไปด้วยคิมบับเรียงแถวซ้อนกันอย่างสวยงามถูกวางตรงหน้า
“ขอบคุณครับ” มือหนาคว้าตะเกียบที่เสียบอยู่ไม่ไกลจากตัวขึ้นมาอย่างไม่รอช้า ก่อนจะจัดการจ้วงข้าวปั้นชิ้นกลมเข้าปากตัวเองทันที
“อ้าว ชองยุนโฮ!!” เสียงทักทายที่ดังลั่นทำเอาคนที่กำลังมีความสุขกับการกินต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“อ้าว อ๊าค อูออนน”
“นี่ เคี้ยวให้หมดก่อนก็ได้แล้วค่อยทักฉันกลับ” ไม่พูดเปล่าเดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้ามของยุนโฮทันที
“อื้มมม ไง ปาร์คยูชอน” ยุนโฮพูดอีกครั้งอย่างชัดเจน
“นี่มีคนนั่งรึเปล่า?” ยูชอนที่เห็นว่ามีคิมบับถึงสองจานจึงถามเพราะกลัวว่าตัวเองจะมาแย่งที่คนอื่นนั่ง
“ไม่ๆ ฉันมาคนเดียว” ยุนโฮส่ายตะเกียบไปมา
“นายคงจะหิวมากล่ะสิ”
“กินด้วยมั้ยล่ะ??”
“ซักหน่อยก็ดีนะ ว่าจะมาหาอะไรกินอยู่เหมือนกัน” ยูชอนคว้าตะเกียบมาบ้าง ก่อนจะจัดการคีบคิมบับเข้าปากอย่างไม่เกรงใจเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทตรงหน้า
“บ้านนายอยู่แถวนี้งั้นหรอ” ยุนโฮชวนคุย เขาไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ เท่าไรหรอก เพราะเวลาอยู่ที่โรงเรียน เขาก็มักจะใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือมากกว่าวิ่งเล่นเตะบอลกับเพื่อนๆ
“ถัดไปอีก 3 ซอยน่ะ พอดีเบื่อๆ เลยมาเดินเล่นด้วย ป้าฮะขอต็อกจานนึงด้วย” ยูชอนตอบคำถามของยุนโฮก่อนจะหันไปสั่งอาหารเพิ่ม
“หึ นายก็คงหิวมากด้วยเหมือนกัน” ยุนโฮย้อนคำพูดของยูชอน
“นายนี่ก็เป็นคนพูดมากเหมือนกันนะ...ทีเวลาเรียนนี่เงียบเชียว..”
“ก็...ไม่รู้จะพูดอะไร” ยุนโฮนึกย้อนไปเวลาอยู่ในห้องก็จะมีแต่เพื่อนๆ ที่แข่งกันเสียงดังจนเขาไม่รู้ว่าจะไปตะเบ็งเสียงแข่งให้เหนื่อยไปทำไม
“นั่นสินะ...เออ ว่าแต่ บ้านนายอยู่แถวนี้???” ปากก็พูดคำถาม แต่ตาและมือหันไปสนใจสิ่งที่ป้าเจ้าของร้านนำมาเสริฟมากกว่า
“อยู่ในซอยข้างๆ นี่เอง”
“จริงดิ! งั้นบ้านเราก็ไม่ไกลกันมาก วันหลังฉันไปเล่นบ้านนายได้ป้ะ ^^” ยูชอนถือโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่อย่างไม่คิดจะเกรงใจใดๆ
“เอ่ออออ...” ยุนโฮอึกอัก
“นายไม่สะดวกงั้นสิ?”
“ก็...ประมาณนั้น...”
“พ่อแม่ดุหรอ??” ยูชอนเดาเอาเอง
“เปล่าๆ ฉัน...ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่น่ะ...”
“ย...อย่าบอกนะ.....” ยูชอนเบิกตากว้าง ยกนิ้วสั่นๆ ชี้หน้ายุนโฮ
“บอกอะไร?” ยุนโฮขมวดคิ้วงงๆ กับท่าทีประหลาดของยูชอนที่พลอยทำเขาตกใจไปด้วย
“น...นายอยู่กับลูกเมียงั้นหรอ!”
โป้ก!!
กำปั้นหนักๆ ถูกส่งไปกระแทกกับหัวเถิกๆ ของคนที่อยู่ตรงข้ามทันทีที่ประโยคบ้าบอหลุดออกมาจากปากของปาร์คยูชอน
“โอ้ย! นี่!! พึ่งจะเริ่มสนิทกันเองนะ กล้าเล่นหัวฉันแล้วหรอ!” ยูชอนโวยวายพลางกุมหัวบริเวณที่โดนประทุษร้ายจนขึ้นรอยแดง
“..” ยุนโฮไม่ตอบอะไร ได้แต่ยักคิ้วกวนๆ ให้อีกฝ่าย
“หนอย...ว่าแต่! อยู่กับลูกเมียจริงดิ!” ยูชอนถามทวนอีกครั้ง จนยุนโฮรู้สึกว่าเพื่อนใหม่ตรงหน้าเขากวนประสาทเป็นอย่างมาก - -!!
“จะบ้ารึไง! อายุ 17 ใครเขามีลูกเมียกัน”
“นี่นาย 17 เองหรอ !” ยูชอนทำหน้าตาตกใจอีกครั้ง
“ทำไม...หรือนายแก่กว่า???” ยุนโฮขมวดคิ้วงงๆ
“เปล่า...ก็ 17 เท่านายแหละ”
โป้ก!!!
“โอ้ยยยย ลามปามใหญ่แล้วนะเว้ย! สรุปว่านายอยู่กับใครกันแน่เนี่ย?”
“เอิ่มมมม....พี่ชายน่ะ” ยุนโฮหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป
“พี่ชาย? แล้วทำไมต้องดูลำบากใจด้วยวะ??” ยูชอนถามอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ
“ไม่ใช่พี่แท้ๆ ...ฉันแค่ไปอาศัยบ้านเขาอยู่เฉยๆ” ยุนโฮอธิบายให้เข้าใจมากกว่าเดิม
“อยู่กันสองคนใช่ม้า -3- ก็ขอไปเล่นด้วยหน่อยไม่ได้หรอ พี่ไม่ว่าหรอก” ยูชอนยังคงตื้อไม่เลิก
“ทำไมนายถึงอยากไปนัก?”
“ฉันว่าเราต้องเป็นเพื่อนซี้กันได้อย่างแน่นอน > <! ก็เลยอยากจะสนิทกับนายเร็วๆ ไง” ยูชอนบอกอย่างตื่นเต้นพลางคีบต้อกเข้าปากไปด้วย
“งั้น...เดี๋ยวกินเสร็จจะลองพานายไปบ้านดู”
“เยี่ยม! ขอโทรชวนไอ่ชางมินมาอีกคนได้ป้ะ?”
“=____=;”
“อย่าทำหน้างั้นดิ ก็แบบแค่สองคนจะไปหนุกไร จริงมั้ย?”
“อีกแค่คนเดียวนะ” ยุนโฮพูดดักเอาไว้เพราะกลัวว่ายูชอนจะโทรชวนเพื่อนมากันทั้งห้อง
ก็ดูยูชอน...ไม่ค่อยจะปกติเท่าไรน่ะนะ - -;;
“เห้ยชางมิน ออกจากบ้านมาร้านต้อกตรงตลาดด่วน” ยูชอนกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างรวดเร็วจนยุนโฮแทบจะตามไม่ทัน
แต่เขาก็ไม่ได้มัวแต่สนใจยูชอนจนลืมความหิว...เขาก็ยังคงกินต่อไป
“ก็เห็นหลับอยู่ เลยไม่ได้ปลุกไง อยู่กับยุนโฮ...”
“..” ยุนโฮมองยูชอนคุยโทรศัพท์อย่างสนใจในบทสนทนา
สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน ?
ฮะ!....หรือเป็นมากกว่าเพื่อนกัน -.,-
“เนี่ย ไปบ้านยุนโฮกัน....ก็ยุนโฮชวนไง....ปฏิเสธเพื่อนไม่ดีนะเว้ย”
“=___=” จำได้ว่ายังไม่ได้เอ่ยปากชวนซักแอะเลยนะ...
ความคิดเห็น