คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ▶S.E.X. NYM▐ ▐ -08-
-08-
สายลมเย็นพัดกระทบใบหน้าหวานแสงแดดอุ่นๆยามเช้ากับอากาศที่เย็นชื้นแบบนี้ ไม่รู้ไม่ได้เคยรู้สึกถึงบรรยากาศแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
เด็กที่เติบโตขึ้นจากในเมืองหลวง ชีวิตผู้คนรอบข้างล้วนสับสนวุ่นวาย รถราเครื่องยนต์คันใหญ่เอาแต่พ่นควันพิษไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน การที่จะหาบรรยากาศดีๆแบบนี้
ในเมืองโซลมันแถบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ล้อรถคันหรูค่อยๆเคลื่อนไปตามเส้นถนนโล่ง สองข้างทางมีเพียงแต่ไร่องุ่นเท่านั้น เนื้อแท้ของความเป็นชนบทที่บยอนแบคฮยอนไม่เคยได้สัมผัส
คนกำลังว่างมองนู้นมองนี้ไปเรื่อยแอบเหล่หางตามองผู้ชายตัวสูงที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถอยู่เงียบๆอย่างมีสมาธิ
ชอบมองสีหน้าของผู้ชายคนนี้ตอนกำลังตั้งใจทำอะไรจริงจัง
“ร้อนหรือเปล่าครับ” ร่างสูงที่ตั้งใจขับรถเปรยถามเสียงเนือยๆ
“ร้อน….. แต่ชอบ” แผ่วเสียงคำหลังลงเบาๆ มุมปากบางแอบยกยิ้มขึ้นหน่อยๆก่อนจะรีบแสร้งหันไปอีกทางเพื่อไม่ให้ชานยอลจับสังเกตุได้
“ตัวคุณต้องโดนแดดบ้างครับ”
ชอบจังที่ชานยอลเอาใจใส่แม้แต่เรื่องเล็กน้อย
“โดนแดดเยอะๆ เดี๋ยวก็ตัวดำกันพอดี” แบคฮยอนยู่ปากหันไปโบ้ยหน้าใส่คนข้างๆแบบขำๆ
“ถึงคุณจะตัวดำ ก็ยังน่ารักครับ” พูดหยอดคำหวานใส่ทั้งที่ยังไม่วางตาจากถนนยาวด้านหน้านั่น
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ขับรถไปเลย” แบคฮยอนเอี้ยวตัวหันมองไปนอกหน้าต่างรถอีกฝั่ง
คนตัวเล็กขมวดคิ้วจนยุ่ง เดี๋ยวนี้ไอ้ผู้ชายเย็นชาคนนี้ชักจะเอาใหญ่ เป็นคนประเภทไหนกันนะหยอดคำหวานใส่ทั้งๆที่ตัวเองยังทำหน้าตายได้ เห็นแบบนี้แล้วมันหน้ากัดหูนักแค่หันมายิ้มให้กันบ้างมันจะตายหรือยังไง
พรึ่บ!!
จู่ๆหมวกแก๊ปทรงสวยก็ลอยมาครอบลงบนหัวกลมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“อะไร ไม่เอาไม่ใส่ หมวกบ้าอะไรไม่เห็นจะเท่ห์เลย” แบคฮยอนหันไปโวยใส่อีกคนใหญ่
“ก็เห็นคุณขมวดคิ้วยุ่ง เลยคิดว่าร้อนครับ”
“ก็ที่คิ้วมันยุ่งแบบนี้ป็นเพราะใครกันล่ะ” เด็กคนน้อยที่เอาแต่เถียงกลับคำไม่ตกฟาก สำหรับชานยอลแล้วมันดู ‘น่ารักมากจริงๆ’
“เป็นความผิดของผมเหรอครับ เพราะผมเป็นห่วงคุณก็เลยขมวดคิ้วใส่อย่างนั้นเหรอครับ”
" เป็นห่วง ……ก็แล้วทำไมไม่ยิ้มบ้างอ่ะ" พูดพลางกระชับปีกหมวกที่ชานยอลเพิ่งสวมให้เข้าที่เข้าทาง
"ผมจะรอให้คุณพูดจาน่ารักๆก่อนครับ ผมถึงจะยิ้ม" ชานยอลที่เอาแต่แกล้ง ค่อยๆต้อนความรู้สึกของคนตัวเล็กให้จนมุม
แบคฮยอนเอาแต่นั่งเห่อยิ้ม ปฏิเสธไม่ได้แต่เลยว่าผู้คนนี้ ‘เอาเขาซะอยู่หมัด’
บทงอแงไม่เคยใช้ได้ผลกับปาร์คชานยอลจริงๆ
" นี่ก็พูดน่ารักแล้วนะ นายมันด้านชาเองต่างหาก" เสียงใสตอบกระฟึดกระฟัด พลางยกมือขึ้นกอดอกทำท่าทีเป็นเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจ
" ทำไมคุณไม่ลองเรียกผมว่าพี่ชานยอลบ้างล่ะครับ ถ้าคุณยอมทำผมก็จะยิ้มครับ"
"ก็พี่ชานยอลไม่ยิ้มกับแบคเลย" เด็กน้อยแกล้งทำเป็นเล่น ยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มพองของพี่ชานยอลอย่างเผลอตัว
"คุณมันน่าตีครับ" ชานยอลหันไปค้อนมองคนตัวน้อยที่ส่งสายตาเย้ยหยันเขาอยู่กลายๆ
เด็กคนนี้ไม่รู้ตัวเลยหรือไง ว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด
ชานยอลค่อยๆคลายมือข้างนึงจากพวงมาลัย เปลี่ยนไปเป็นจับเอามือซนๆของอีกคนมากุมไว้ในฝ่ามือใหญ่แทน
"ห้ามจับมือเลย"
นี้ขนาดเอาแต่พูดห้าม แต่มือน้อยนั้นก็ไม่เห็นจะขัดขืนอะไรเลยด้วยซ้ำ
" เพราะว่าคุณซนครับ ผมเลยจะจับมือคุณเอาไว้"
"ก็ซนไง ไม่น่ารักไงก็ปล่อยมือดิ ไม่ต้องมาจับ" แบคฮยอนเผลอยิ้มออกมายกใหญ่ พี่ชานยอลสัมผัสตรงหลังมือแต่ทำไมมันถึงไปร้อนที่ดวงหน้าได้
"ครับคุณซนมาก…….. แต่ถึงคุณซนก็น่ารักครับ" ชานยอลตอบพลางคลายมือที่จับ พลิกฝ่ามือน้อยให้หงายขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วประสานเข้ากับหว่างนิ้วของมือสวยอย่างช้าๆ
"ถ้าน่ารัก คราวหลังก็ห้ามดุ" แบคฮยอนแกล้งชี้นิ้วขู่ขันใบหน้าหล่อแบบติดตลก
"ครับ ผมจะไม่ดุคุณแล้ว"
"แต่ถ้าคุณดื้อ ผมตีคุณได้หรือเปล่าครับ" มือหนาบีบกระชับฝ่ามือน้อยไว้ให้แน่นขึ้น
ตลอดทางบนรถคันหรู ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ตึงเครียดเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เวลานี้กลับเป็นแบคฮยอนเองกลับเป็นฝ่ายที่ชวนเขาพูด ค่อยถามนู้นถามนี้อยู่ตลอดเวลา
สำหรับชานยอลแล้ว การได้พูดคุยกับแบคฮยอนโดยที่ไม่ต้องคำนึงคึงคิดอะไร มันเป็นช่วงเวลาที่เขารู้สึกปลอดโปร่งที่สุด
เหมือนอยากจะขับวนไปรอบโลก รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนหน้าใสมันช่วยบรรเทาความเครียดได้มากจริงๆ
เรื่องที่จำเป็นต้องทำ ‘ช่วยทำให้พี่หยุดคิดถึงมันซะทีได้มั้ย บยอนแบคฮยอน’
"ลงมาสิครับ" ชานยอลออกปากเรียกอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่ในรถ
"ไม่เอาอ่ะ" เด็กเอาแต่ใจนั่งทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมลงจากรถ
"กลัว?"
"ก็มันน่ากลัว"
ภาพตรงหน้ามันดูไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่สำหรับเขา ปกติแล้วแบคฮยอนเป็นคนจำพวกที่ไม่ค่อยจะถูกจริตกับสัตว์อยู่แล้ว ยิ่งเป็นม้าสัตว์สี่ขาตัวใหญ่ ยิ่งไม่โอเคเข้าไปใหญ่
ตอนแรกก็คิดเอ๊ะใจที่เห็นว่าทำไมจู่ๆชานยอลถึงได้เลี้ยวเข้ามาทางฟาร์มม้า แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเห็นว่าอาจจะเป็นทางเข้าไร่องุ่นก็เป็นได้
ที่ไหนได้ นี่มันแกล้งกันชัดๆ
“นี่กลัวจริงๆนะชานยอล”
"ลงมาเถอะครับ ผมก็อยู่นี่" คนตัวสูงว่าพลางเปิดประตูรถฉุดแขนดึงร่างเล็กให้ลุกออกมาจากเบาะรถ
“พามาที่นี่ทำไม”
"พาคุณมาเปิดหูเปิดตาครับ จะได้หายเครียด”
-PCY- PART…….
ความจริงแล้ว โรคที่แบคฮยอนเป็น มันมีสาเหตุมาจากปมร้ายในอดีตก็จริงแต่อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้แบคฮยอนไม่ยอมหายจากโรคนี้สักที คือ…
เขาไม่เคยได้ระบายความเครียดนี้โดยวิธีอื่นเลย
ไม่เคยมีใครพูดคุยหรือรับฟัง ไม่เคยมีใครบอกหรือสอนให้อดทน มีแต่คนคอยเอาอกเอาใจเอาแต่ทำร้ายเด็กน้อยคนนี้โดยทางอ้อมเท่านั้น
และคุณจงอิน เป็นหนึ่งในนั้นที่ยังคงค่อยทำร้ายแบคฮยอนอยู่อย่างไม่รู้ตัว
แน่นอนครับ คุณจงอินรักแบคฮยอนมาก แต่ถ้าถามว่าทำไมคุณจงอินถึงยอมให้ผมกลับเข้ามาในของคนรักเขาได้ง่ายดายเพียงนี้ คำตอบเดียวสั้นๆที่จะทำให้กระจ่างได้นั่นก็คือ
‘บยอนแบคฮยอน….. เขาเชื่อฟังผมแค่คนเดียว’
-END-
เท้าเล็กของแบคฮยอนย่ำจ้ำๆอยู่ไม่หยุดนิ่ง ขณะที่ตาเรียวมองเห็นสัตว์สี่เท้าตัวสีดำน่าเกียจกำลังเดินตรงมาใกล้ๆกับบริเวณที่ยืนอยู่
"งื้อ~ กลัว" แบคฮยอนยึดแขนเสื้อของอีกคนไว้แน่น ก่อนจะเบี่ยงตัวไปหลบอยู่หลังร่างหนา
“หึหึ ถ้าคุณได้ลอง คุณจะรู้ว่าคุณไม่ได้กลัวมันครับ” แผ่นหลังหนาเอี้ยวหันหลังไปช้อนใบหน้าเล็กขึ้นมาเพื่อดูสีหน้าคนตัวน้อย
"คนขี้แกล้ง ไม่อยากมอง" แบคฮยอนสะบัดหน้าให้หลุดจากฝ่ามือหนา พลางกดหัวทุยเบียดลงบนไหล่หนานั่นอีกครั้ง
"ลองลูบหัวมันสิครับ" คนเป็นพี่กุมมือบางของน้องแบคฮยอนให้ลูบตรงแก้มม้าสีดำตัวใหญ่ข้างหน้าเบาๆ
"ชะ ชาน อะ อี๋ " แบคฮยอนรีบหลับตาปี๋เมื่อฝ่ามืออุ่นสัมผัสลงบนขนเงานั่น
เด็กน้อยไล้ฝ่ามือบนขนสีดำขลับอยู่พักใหญ่ ก่อนจะสัมผัสได้ว่า
‘ขนม้านี่ก็ลื่นดีเหมือนกัน’
"เป็นยังไงบ้างครับ หายกลัวแล้วยัง" เห็นแล้วชานยอลก็นึกขำ ก็ทีแรกทำท่าเหมือนจะกลัวจนตัวสั่นพอได้ลองเท่านั้นแหละ ลูบใหญ่เลย
คนตัวเล็กพยักเบาๆแทนคำตอบ
เด็กคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย แบคฮยอนยัง 'น่ารัก' สำหรับเขาเสมอ
"ถ้าไม่กลัวแล้วก็ลองขี่มันดูสิครับ" เสียงห้าวพูดเปรยก่อนจะกวักมือเรียกพี่พนักในฟาร์มมาโดยไม่รอให้แบคฮยอนได้พูดปฏิเสธ
"ไม่ขี่ ไม่เอานะ ชานยอล~ ไม่เล่นนะ" เสียงแบคฮยอนที่งอแงดีดดิ้นอยู่ข้างหู
‘หึ’ กลับมาเป็นเหมือนคนเดิมแล้วสินะ ' หมาน้อยของพี่'
"ไหนใครบอกจะไม่ซนครับ" ชานยอลปลายตาคมพูดกำราบเด็กน้อยก่อนที่จะแผลงฤทธิ์
"ก็ไม่ซน….. แต่นี่กลัวไง"
"งั้นให้พี่ที่ฟาร์มเขานั่งควบไปด้วยมั้ยครับ คุณจะได้ไม่ต้องต้องกลัว " ชานยอลพูดเสนอตัวเลือกที่ดีกว่าให้
"ก็แล้วทำไมไม่ไปด้วยกัน ขี่กับนายก็ได้หนิ จะไปรบกวนพี่เขาทำไม" เด็กน้อยยู่หน้าออกปากสั่งเสียงแผ่ว
มันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยังไงไม่รู้ ที่ต้องขอร้องให้ชานยอลช่วยทำแบบนี้
แต่บอกตรงๆ คนที่ไว้ใจที่สุดคือ 'ปาร์คชานยอล'คนเดียวเท่านั้น
"ผมขี่ไม่เก่งหรอกครับ ถ้าผมพลาดแล้วทำคุณบาดเจ็บขึ้นมา คุณจะพาลโกรธผมเอาเสียเปล่าๆ" ชานยอลพูดกล่อมอีกคนอย่างมีเหตุผล
มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า เขาก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่างเหมือนพระเอกนิยายสักหน่อย ถ้าเกิดเอาตามที่แบคฮยอนว่า โอกาสที่จะพลาดท่าเจ็บตัวก็สูงพอตัวอยู่เหมือนกัน
"ชานยอล~" เสียงหวานครางเรียกเบาๆก่อนจะเอนตัวซบหัวกลมลงย้ำบนท่อนแขนแกร่งของพี่ชานยอลอีกครั้ง
"คุณอ้อนผมเหรอครับ"
"ถ้ามีนายอยู่ฉันจะไม่เจ็บตัวหรอกนะ" ดวงตาใสช้อนมองใบหน้าหล่อ สะกดดวงตาให้จ้องลึกเข้าไปนัยน์ตาของอีกคน
หัวใจของชานยอลเจ็บแปล๊บ เหมือนมีใครเอาเข็มเป็นร้อยๆเล่มมาทิ่มบนก้อนบนหัวใจ ความรู้สึกกับเรื่องราวที่เลวร้ายในอดีต ถูกขุดขึ้นมาพร้อมกับคำพูดไร้เดียงสาที่คนตัวเล็กที่เอาแต่พูดพร่ำว่า…
ไว้ใจเขายิ่งกว่าใคร
"ครับ ผมไม่ควรทำให้คุณเจ็บอีกแล้ว" ว่าจบชานยอลก็อุ้มร่างเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนอานม้า พร้อมกับส่งร่างหนาของตัวเองขึ้นไปคร่อมแผ่นหลังบางของแบคฮยอนตามไปติดๆ
"ห้ามแกล้งกันนะ"
"ผมไม่เคยแกล้งคุณหรอกครับ มีแต่คุณนั้นแหละที่เอาแต่ปั่นหัวผม"
"ปั่นหัวอะไร ฉันรู้สึกยังไงก็พูดไปอย่างนั้น" แบคฮยอนว่าขณะที่เอนตัวไปซบแผ่นอกหนาที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง
นอกจากเรื่องจงอินแล้ว ไม่มีเรื่องไหนที่แบคฮยอนไม่เคยทำตามหัวใจตัวเอง
ต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ ‘ถ้าชอบก็ควรแสดงให้รู้’
"ผมไม่เข้มแข็งเท่าคุณหรอกครับ" ชานยอลพูดเสียงเรียบก่อนจะดันตัวของแบคฮยอนที่เอนซบอยู่ตรงอกให้ตั้งหลังตรงขึ้นเหมือนเดิม
"นั่งดีๆสิครับ เดี๋ยวคุณจะหล่นเอานะ"
"ถ้าจะผลักใสกันขนาดนี้ ก็ไม่ต้องหาข้ออ้างอ้อมโลกก็ได้"
“……”
ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่คิดว่า…..หากแค่พอรับฟังเฉยๆน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด กะไว้ว่าจะปล่อยให้แบคฮยอนโกรธปึงปังทุบตีระบายความโกรธเหมือนทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันผิดปกติ คนตัวเล็กกลับเอาแต่เงียบ นั่งนิ่งไม่โต้ตอบอะไร
จนที่สุดแล้วชานยอลก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอให้เวลาที่น่าอึดอัดแบบนี้
ผ่านไปเองตามธรรมชาติ
พรึ่บ!!
จู่ๆม้าตัวใหญ่ก็สะดุดกรวดหินก้อนใหญ่ดังกึก ด้วยสัญชาตญาณชานยอลรีบโอบร่างน้อยของแบคฮยอนให้เซเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กขมำลงด้านหน้า
มือหนาประคองสะโพกบางไว้ไม่ห่าง แบคฮยอนที่เริ่มตั้งสติได้ รีบปัดป้ายมืออีกคนให้พ้นจากเนื้อตัวทันที
"ไม่ต้องมาจับ" แบคฮยอนส่งเสียงเรียบ พลางแกะมือของคนตัวสูงให้หลุดจากเนื้อสะโพกบาง
ชานยอลยังคงนิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้งใดๆ แถมยังออกแรงกระชับร่างน้อยให้นั่งทรงตัวบนอานม้าให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
แบคฮยอนรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่อีกคนค่อยแสดงท่าทีว่าเป็นห่วงมากขนาดไหน แต่ทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาคนเย็นชาคนนี้ไม่เคยพูดออกมาสักครั้งว่า 'ชอบ'
คำที่เคยบอกว่าจะจีบกัน มันยังเชื่อได้อยู่จริงๆรึเปล่า
"ชานยอล~" แบคฮยอนเม้นปากแน่นกลั้นใจเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ
"หืม" แค่เขาก่นเสียงตอบ ทำไมทำเอาหัวใจดวงเล็กเหมือนโดนก้อนหินนับร้อยกำลังกระหน่ำพุงเข้าใส่
"ที่บอกว่าจะจีบฉัน นายคิดจริงจังรึเปล่า" สิ้นประโยคคำถาม แบคฮยอนแทบไม่กล้ากระดุกกระดิกตัวแม้แต่นิด ร่างบางนั่งนิ่งตัวเกร็งไปหมด
“…….”
ทั้งที่รู้ว่าหากถามออกไปคนที่น่าอึดอัดมากที่สุดน่าจะเป็นตัวแบคฮยอนเอง ยังไงก็ยังอยากจะรู้
"นายเคยชอบฉันจริงๆรึปล่า" ร่างน้อยค่อยๆส่งมือไปสัมผัสหลังมือหนาของชานยอลเบาๆ
“……”
"หึ" เสียงใสก่นหัวเราะสมเพชตัวเองดังออกมาเบาๆเมื่อทันทีที่จับมือหนานั่น คนตัวสูงก็รีบชักมือออกแทบจะไม่ทัน
"นายก็แค่ล้อเล่นสินะ แต่คนโง่อย่างฉันมันดันหลงชอบนายไปแล้วจะให้ทำยังไงได้” ปากบางแสยะยิ้มขึ้นหยัดๆ แกล้งทำเป็นว่าตัวเองไหว
ทั้งๆที่ในใจ ‘มันแตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว’
คุยกับไรต์ : @mingkchk
TALK : อัพครบ 100 % ก่อนเวลาอันควร หน่วงกันไหมมมมมมมม T^T สงสารแบคทุกแช็ปเลยอ่ะ อยากให้ชานยอลเจ็บบ้าง
แบคจ๋า…. รอพี่ก่อน เดี๋ยวพี่จะแก้แค้นให้ 555
มีของเล่นใหม่มาแนะนำ ASK fm. http://ask.fm/mingkchk ไปคุยกับเราเยอะนะ เราเหงามากๆๆๆๆๆ
ติ๋มรอทุกคนอยู่นะคะ #ชบติดเซ็กส์
เอ็นจอย. #ชบติดเซ็กส์
ความคิดเห็น