ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic exo] SEXNYM #ชบติดเซ็กส์

    ลำดับตอนที่ #9 : ▶S.E.X. NYM▐ ▐ -08-

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 59













     


    -08-

     


     

                สายลมเย็นพัดกระทบใบหน้าหวานแสงแดดอุ่นๆยามเช้ากับอากาศที่เย็นชื้นแบบนี้  ไม่รู้ไม่ได้เคยรู้สึกถึงบรรยากาศแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว 

                เด็กที่เติบโตขึ้นจากในเมืองหลวง  ชีวิตผู้คนรอบข้างล้วนสับสนวุ่นวาย  รถราเครื่องยนต์คันใหญ่เอาแต่พ่นควันพิษไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน    การที่จะหาบรรยากาศดีๆแบบนี้ 

     

     ในเมืองโซลมันแถบจะเป็นไปไม่ได้เลย

     

                ล้อรถคันหรูค่อยๆเคลื่อนไปตามเส้นถนนโล่ง  สองข้างทางมีเพียงแต่ไร่องุ่นเท่านั้น เนื้อแท้ของความเป็นชนบทที่บยอนแบคฮยอนไม่เคยได้สัมผัส

     คนกำลังว่างมองนู้นมองนี้ไปเรื่อยแอบเหล่หางตามองผู้ชายตัวสูงที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถอยู่เงียบๆอย่างมีสมาธิ

                ชอบมองสีหน้าของผู้ชายคนนี้ตอนกำลังตั้งใจทำอะไรจริงจัง

     

                ร้อนหรือเปล่าครับ   ร่างสูงที่ตั้งใจขับรถเปรยถามเสียงเนือยๆ

     

                ร้อน…..        แต่ชอบ    แผ่วเสียงคำหลังลงเบาๆ     มุมปากบางแอบยกยิ้มขึ้นหน่อยๆก่อนจะรีบแสร้งหันไปอีกทางเพื่อไม่ให้ชานยอลจับสังเกตุได้

     

                ตัวคุณต้องโดนแดดบ้างครับ”

    ชอบจังที่ชานยอลเอาใจใส่แม้แต่เรื่องเล็กน้อย

     

                โดนแดดเยอะๆ     เดี๋ยวก็ตัวดำกันพอดี   แบคฮยอนยู่ปากหันไปโบ้ยหน้าใส่คนข้างๆแบบขำๆ

     

                ถึงคุณจะตัวดำ   ก็ยังน่ารักครับ   พูดหยอดคำหวานใส่ทั้งที่ยังไม่วางตาจากถนนยาวด้านหน้านั่น

     

                ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี   ขับรถไปเลย   แบคฮยอนเอี้ยวตัวหันมองไปนอกหน้าต่างรถอีกฝั่ง 

     

    คนตัวเล็กขมวดคิ้วจนยุ่ง  เดี๋ยวนี้ไอ้ผู้ชายเย็นชาคนนี้ชักจะเอาใหญ่   เป็นคนประเภทไหนกันนะหยอดคำหวานใส่ทั้งๆที่ตัวเองยังทำหน้าตายได้   เห็นแบบนี้แล้วมันหน้ากัดหูนักแค่หันมายิ้มให้กันบ้างมันจะตายหรือยังไง

     

    พรึ่บ!!

    จู่ๆหมวกแก๊ปทรงสวยก็ลอยมาครอบลงบนหัวกลมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     

    อะไร   ไม่เอาไม่ใส่   หมวกบ้าอะไรไม่เห็นจะเท่ห์เลย    แบคฮยอนหันไปโวยใส่อีกคนใหญ่ 

     

    ก็เห็นคุณขมวดคิ้วยุ่ง   เลยคิดว่าร้อนครับ

     

    “ก็ที่คิ้วมันยุ่งแบบนี้ป็นเพราะใครกันล่ะ   เด็กคนน้อยที่เอาแต่เถียงกลับคำไม่ตกฟาก  สำหรับชานยอลแล้วมันดู  น่ารักมากจริงๆ

     

    เป็นความผิดของผมเหรอครับ    เพราะผมเป็นห่วงคุณก็เลยขมวดคิ้วใส่อย่างนั้นเหรอครับ

     

    " เป็นห่วง ……ก็แล้วทำไมไม่ยิ้มบ้างอ่ะ"   พูดพลางกระชับปีกหมวกที่ชานยอลเพิ่งสวมให้เข้าที่เข้าทาง

     

    "ผมจะรอให้คุณพูดจาน่ารักๆก่อนครับ    ผมถึงจะยิ้ม"   ชานยอลที่เอาแต่แกล้ง  ค่อยๆต้อนความรู้สึกของคนตัวเล็กให้จนมุม

      

    แบคฮยอนเอาแต่นั่งเห่อยิ้ม   ปฏิเสธไม่ได้แต่เลยว่าผู้คนนี้  เอาเขาซะอยู่หมัด 

    บทงอแงไม่เคยใช้ได้ผลกับปาร์คชานยอลจริงๆ

     

    " นี่ก็พูดน่ารักแล้วนะ  นายมันด้านชาเองต่างหาก"   เสียงใสตอบกระฟึดกระฟัด  พลางยกมือขึ้นกอดอกทำท่าทีเป็นเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจ

     

    " ทำไมคุณไม่ลองเรียกผมว่าพี่ชานยอลบ้างล่ะครับ    ถ้าคุณยอมทำผมก็จะยิ้มครับ" 

     

    "ก็พี่ชานยอลไม่ยิ้มกับแบคเลย"   เด็กน้อยแกล้งทำเป็นเล่น   ยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มพองของพี่ชานยอลอย่างเผลอตัว

     

    "คุณมันน่าตีครับ"   ชานยอลหันไปค้อนมองคนตัวน้อยที่ส่งสายตาเย้ยหยันเขาอยู่กลายๆ

     

    เด็กคนนี้ไม่รู้ตัวเลยหรือไง ว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด

    ชานยอลค่อยๆคลายมือข้างนึงจากพวงมาลัย   เปลี่ยนไปเป็นจับเอามือซนๆของอีกคนมากุมไว้ในฝ่ามือใหญ่แทน

     

    "ห้ามจับมือเลย"   

     

    นี้ขนาดเอาแต่พูดห้าม  แต่มือน้อยนั้นก็ไม่เห็นจะขัดขืนอะไรเลยด้วยซ้ำ

     

    " เพราะว่าคุณซนครับ   ผมเลยจะจับมือคุณเอาไว้"

     

    "ก็ซนไง ไม่น่ารักไงก็ปล่อยมือดิ ไม่ต้องมาจับ"  แบคฮยอนเผลอยิ้มออกมายกใหญ่    พี่ชานยอลสัมผัสตรงหลังมือแต่ทำไมมันถึงไปร้อนที่ดวงหน้าได้

     

    "ครับคุณซนมาก……..   แต่ถึงคุณซนก็น่ารักครับ"  ชานยอลตอบพลางคลายมือที่จับ   พลิกฝ่ามือน้อยให้หงายขึ้นมา  ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วประสานเข้ากับหว่างนิ้วของมือสวยอย่างช้าๆ

     

    "ถ้าน่ารัก   คราวหลังก็ห้ามดุ"   แบคฮยอนแกล้งชี้นิ้วขู่ขันใบหน้าหล่อแบบติดตลก

     

    "ครับ ผมจะไม่ดุคุณแล้ว"

    "แต่ถ้าคุณดื้อ   ผมตีคุณได้หรือเปล่าครับ"   มือหนาบีบกระชับฝ่ามือน้อยไว้ให้แน่นขึ้น

     

    ตลอดทางบนรถคันหรู ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ตึงเครียดเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เวลานี้กลับเป็นแบคฮยอนเองกลับเป็นฝ่ายที่ชวนเขาพูด  ค่อยถามนู้นถามนี้อยู่ตลอดเวลา

    สำหรับชานยอลแล้ว การได้พูดคุยกับแบคฮยอนโดยที่ไม่ต้องคำนึงคึงคิดอะไร    มันเป็นช่วงเวลาที่เขารู้สึกปลอดโปร่งที่สุด

     

    เหมือนอยากจะขับวนไปรอบโลก  รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนหน้าใสมันช่วยบรรเทาความเครียดได้มากจริงๆ

     

    เรื่องที่จำเป็นต้องทำ  ช่วยทำให้พี่หยุดคิดถึงมันซะทีได้มั้ย  บยอนแบคฮยอน





    "ลงมาสิครับ"  ชานยอลออกปากเรียกอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่ในรถ

     

    "ไม่เอาอ่ะ"  เด็กเอาแต่ใจนั่งทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมลงจากรถ

     

    "กลัว?"  

     

    "ก็มันน่ากลัว"

    ภาพตรงหน้ามันดูไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่สำหรับเขา   ปกติแล้วแบคฮยอนเป็นคนจำพวกที่ไม่ค่อยจะถูกจริตกับสัตว์อยู่แล้ว  ยิ่งเป็นม้าสัตว์สี่ขาตัวใหญ่  ยิ่งไม่โอเคเข้าไปใหญ่

      ตอนแรกก็คิดเอ๊ะใจที่เห็นว่าทำไมจู่ๆชานยอลถึงได้เลี้ยวเข้ามาทางฟาร์มม้า  แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเห็นว่าอาจจะเป็นทางเข้าไร่องุ่นก็เป็นได้

     

    ที่ไหนได้  นี่มันแกล้งกันชัดๆ

     นี่กลัวจริงๆนะชานยอล

     

    "ลงมาเถอะครับ ผมก็อยู่นี่" คนตัวสูงว่าพลางเปิดประตูรถฉุดแขนดึงร่างเล็กให้ลุกออกมาจากเบาะรถ

     พามาที่นี่ทำไม

     

    "พาคุณมาเปิดหูเปิดตาครับ   จะได้หายเครียด




     

    -PCY-  PART…….

     

    ความจริงแล้ว  โรคที่แบคฮยอนเป็น   มันมีสาเหตุมาจากปมร้ายในอดีตก็จริงแต่อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้แบคฮยอนไม่ยอมหายจากโรคนี้สักที  คือ

    เขาไม่เคยได้ระบายความเครียดนี้โดยวิธีอื่นเลย

     

    ไม่เคยมีใครพูดคุยหรือรับฟัง  ไม่เคยมีใครบอกหรือสอนให้อดทน  มีแต่คนคอยเอาอกเอาใจเอาแต่ทำร้ายเด็กน้อยคนนี้โดยทางอ้อมเท่านั้น

     

    และคุณจงอิน  เป็นหนึ่งในนั้นที่ยังคงค่อยทำร้ายแบคฮยอนอยู่อย่างไม่รู้ตัว

     

                แน่นอนครับ  คุณจงอินรักแบคฮยอนมาก  แต่ถ้าถามว่าทำไมคุณจงอินถึงยอมให้ผมกลับเข้ามาในของคนรักเขาได้ง่ายดายเพียงนี้  คำตอบเดียวสั้นๆที่จะทำให้กระจ่างได้นั่นก็คือ

                 บยอนแบคฮยอน…..   เขาเชื่อฟังผมแค่คนเดียว

     

    -END-


     



    เท้าเล็กของแบคฮยอนย่ำจ้ำๆอยู่ไม่หยุดนิ่ง  ขณะที่ตาเรียวมองเห็นสัตว์สี่เท้าตัวสีดำน่าเกียจกำลังเดินตรงมาใกล้ๆกับบริเวณที่ยืนอยู่

     

    "งื้อ~ กลัว"   แบคฮยอนยึดแขนเสื้อของอีกคนไว้แน่น  ก่อนจะเบี่ยงตัวไปหลบอยู่หลังร่างหนา

     

    หึหึ   ถ้าคุณได้ลอง  คุณจะรู้ว่าคุณไม่ได้กลัวมันครับ  แผ่นหลังหนาเอี้ยวหันหลังไปช้อนใบหน้าเล็กขึ้นมาเพื่อดูสีหน้าคนตัวน้อย

     

    "คนขี้แกล้ง  ไม่อยากมอง"  แบคฮยอนสะบัดหน้าให้หลุดจากฝ่ามือหนา พลางกดหัวทุยเบียดลงบนไหล่หนานั่นอีกครั้ง

     

    "ลองลูบหัวมันสิครับ"   คนเป็นพี่กุมมือบางของน้องแบคฮยอนให้ลูบตรงแก้มม้าสีดำตัวใหญ่ข้างหน้าเบาๆ

     

    "ชะ ชาน อะ  อี๋ "  แบคฮยอนรีบหลับตาปี๋เมื่อฝ่ามืออุ่นสัมผัสลงบนขนเงานั่น

     

    เด็กน้อยไล้ฝ่ามือบนขนสีดำขลับอยู่พักใหญ่  ก่อนจะสัมผัสได้ว่า

    ขนม้านี่ก็ลื่นดีเหมือนกัน

     

    "เป็นยังไงบ้างครับ หายกลัวแล้วยัง"   เห็นแล้วชานยอลก็นึกขำ   ก็ทีแรกทำท่าเหมือนจะกลัวจนตัวสั่นพอได้ลองเท่านั้นแหละ  ลูบใหญ่เลย

     

    คนตัวเล็กพยักเบาๆแทนคำตอบ

     

    เด็กคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย แบคฮยอนยัง 'น่ารัก' สำหรับเขาเสมอ

     

    "ถ้าไม่กลัวแล้วก็ลองขี่มันดูสิครับ"   เสียงห้าวพูดเปรยก่อนจะกวักมือเรียกพี่พนักในฟาร์มมาโดยไม่รอให้แบคฮยอนได้พูดปฏิเสธ

     

    "ไม่ขี่   ไม่เอานะ  ชานยอล~ ไม่เล่นนะ"  เสียงแบคฮยอนที่งอแงดีดดิ้นอยู่ข้างหู 

    หึ กลับมาเป็นเหมือนคนเดิมแล้วสินะ  ' หมาน้อยของพี่'

     

    "ไหนใครบอกจะไม่ซนครับ"   ชานยอลปลายตาคมพูดกำราบเด็กน้อยก่อนที่จะแผลงฤทธิ์

     

    "ก็ไม่ซน….. แต่นี่กลัวไง"

     

    "งั้นให้พี่ที่ฟาร์มเขานั่งควบไปด้วยมั้ยครับ   คุณจะได้ไม่ต้องต้องกลัว " ชานยอลพูดเสนอตัวเลือกที่ดีกว่าให้

     

    "ก็แล้วทำไมไม่ไปด้วยกัน   ขี่กับนายก็ได้หนิ   จะไปรบกวนพี่เขาทำไม"   เด็กน้อยยู่หน้าออกปากสั่งเสียงแผ่ว

    มันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยังไงไม่รู้  ที่ต้องขอร้องให้ชานยอลช่วยทำแบบนี้

    แต่บอกตรงๆ   คนที่ไว้ใจที่สุดคือ 'ปาร์คชานยอล'คนเดียวเท่านั้น

     

    "ผมขี่ไม่เก่งหรอกครับ ถ้าผมพลาดแล้วทำคุณบาดเจ็บขึ้นมา คุณจะพาลโกรธผมเอาเสียเปล่าๆ" ชานยอลพูดกล่อมอีกคนอย่างมีเหตุผล

     

    มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า  เขาก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่างเหมือนพระเอกนิยายสักหน่อย ถ้าเกิดเอาตามที่แบคฮยอนว่า  โอกาสที่จะพลาดท่าเจ็บตัวก็สูงพอตัวอยู่เหมือนกัน

     

    "ชานยอล~"   เสียงหวานครางเรียกเบาๆก่อนจะเอนตัวซบหัวกลมลงย้ำบนท่อนแขนแกร่งของพี่ชานยอลอีกครั้ง

     

    "คุณอ้อนผมเหรอครับ"

     

    "ถ้ามีนายอยู่ฉันจะไม่เจ็บตัวหรอกนะ" ดวงตาใสช้อนมองใบหน้าหล่อ สะกดดวงตาให้จ้องลึกเข้าไปนัยน์ตาของอีกคน

     

    หัวใจของชานยอลเจ็บแปล๊บ เหมือนมีใครเอาเข็มเป็นร้อยๆเล่มมาทิ่มบนก้อนบนหัวใจ  ความรู้สึกกับเรื่องราวที่เลวร้ายในอดีต  ถูกขุดขึ้นมาพร้อมกับคำพูดไร้เดียงสาที่คนตัวเล็กที่เอาแต่พูดพร่ำว่า

    ไว้ใจเขายิ่งกว่าใคร

     

    "ครับ ผมไม่ควรทำให้คุณเจ็บอีกแล้ว"   ว่าจบชานยอลก็อุ้มร่างเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนอานม้า พร้อมกับส่งร่างหนาของตัวเองขึ้นไปคร่อมแผ่นหลังบางของแบคฮยอนตามไปติดๆ

     

    "ห้ามแกล้งกันนะ"

     

    "ผมไม่เคยแกล้งคุณหรอกครับ มีแต่คุณนั้นแหละที่เอาแต่ปั่นหัวผม"

     

    "ปั่นหัวอะไร   ฉันรู้สึกยังไงก็พูดไปอย่างนั้น" แบคฮยอนว่าขณะที่เอนตัวไปซบแผ่นอกหนาที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง

     

    นอกจากเรื่องจงอินแล้ว ไม่มีเรื่องไหนที่แบคฮยอนไม่เคยทำตามหัวใจตัวเอง

    ต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ   ถ้าชอบก็ควรแสดงให้รู้

     

    "ผมไม่เข้มแข็งเท่าคุณหรอกครับ"   ชานยอลพูดเสียงเรียบก่อนจะดันตัวของแบคฮยอนที่เอนซบอยู่ตรงอกให้ตั้งหลังตรงขึ้นเหมือนเดิม

    "นั่งดีๆสิครับ เดี๋ยวคุณจะหล่นเอานะ"

     

    "ถ้าจะผลักใสกันขนาดนี้   ก็ไม่ต้องหาข้ออ้างอ้อมโลกก็ได้"

     

    “……”

    ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับไป    เพียงแต่คิดว่า…..หากแค่พอรับฟังเฉยๆน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด   กะไว้ว่าจะปล่อยให้แบคฮยอนโกรธปึงปังทุบตีระบายความโกรธเหมือนทุกครั้ง

     

    แต่ครั้งนี้มันผิดปกติ  คนตัวเล็กกลับเอาแต่เงียบ นั่งนิ่งไม่โต้ตอบอะไร

    จนที่สุดแล้วชานยอลก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอให้เวลาที่น่าอึดอัดแบบนี้

     

    ผ่านไปเองตามธรรมชาติ

     

    พรึ่บ!!

    จู่ๆม้าตัวใหญ่ก็สะดุดกรวดหินก้อนใหญ่ดังกึก   ด้วยสัญชาตญาณชานยอลรีบโอบร่างน้อยของแบคฮยอนให้เซเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย   เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กขมำลงด้านหน้า

     

    มือหนาประคองสะโพกบางไว้ไม่ห่าง แบคฮยอนที่เริ่มตั้งสติได้  รีบปัดป้ายมืออีกคนให้พ้นจากเนื้อตัวทันที

     

    "ไม่ต้องมาจับ"   แบคฮยอนส่งเสียงเรียบ  พลางแกะมือของคนตัวสูงให้หลุดจากเนื้อสะโพกบาง

     

    ชานยอลยังคงนิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้งใดๆ   แถมยังออกแรงกระชับร่างน้อยให้นั่งทรงตัวบนอานม้าให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

     

    แบคฮยอนรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่อีกคนค่อยแสดงท่าทีว่าเป็นห่วงมากขนาดไหน   แต่ทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาคนเย็นชาคนนี้ไม่เคยพูดออกมาสักครั้งว่า  'ชอบ'

     

    คำที่เคยบอกว่าจะจีบกัน มันยังเชื่อได้อยู่จริงๆรึเปล่า

     

    "ชานยอล~"  แบคฮยอนเม้นปากแน่นกลั้นใจเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ

     

    "หืม"  แค่เขาก่นเสียงตอบ   ทำไมทำเอาหัวใจดวงเล็กเหมือนโดนก้อนหินนับร้อยกำลังกระหน่ำพุงเข้าใส่

     

    "ที่บอกว่าจะจีบฉัน นายคิดจริงจังรึเปล่า"  สิ้นประโยคคำถาม   แบคฮยอนแทบไม่กล้ากระดุกกระดิกตัวแม้แต่นิด  ร่างบางนั่งนิ่งตัวเกร็งไปหมด

     

    “…….”

    ทั้งที่รู้ว่าหากถามออกไปคนที่น่าอึดอัดมากที่สุดน่าจะเป็นตัวแบคฮยอนเอง  ยังไงก็ยังอยากจะรู้

     

    "นายเคยชอบฉันจริงๆรึปล่า"   ร่างน้อยค่อยๆส่งมือไปสัมผัสหลังมือหนาของชานยอลเบาๆ

     

    “……”

     

    "หึ"   เสียงใสก่นหัวเราะสมเพชตัวเองดังออกมาเบาๆเมื่อทันทีที่จับมือหนานั่น   คนตัวสูงก็รีบชักมือออกแทบจะไม่ทัน

     

    "นายก็แค่ล้อเล่นสินะ   แต่คนโง่อย่างฉันมันดันหลงชอบนายไปแล้วจะให้ทำยังไงได้  ปากบางแสยะยิ้มขึ้นหยัดๆ  แกล้งทำเป็นว่าตัวเองไหว

    ทั้งๆที่ในใจ  มันแตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว


     

     






    สกรีมแท็ก : #ชบติดเซ็กส์

     

             คุยกับไรต์ : @mingkchk         







     

                                                                           



     

    TALK :   อัพครบ 100 %  ก่อนเวลาอันควร  หน่วงกันไหมมมมมมมม  T^T  สงสารแบคทุกแช็ปเลยอ่ะ   อยากให้ชานยอลเจ็บบ้าง 

     

                    แบคจ๋า…. รอพี่ก่อน  เดี๋ยวพี่จะแก้แค้นให้ 555

                     มีของเล่นใหม่มาแนะนำ ASK fm.   http://ask.fm/mingkchk   ไปคุยกับเราเยอะนะ  เราเหงามากๆๆๆๆๆ

                    ติ๋มรอทุกคนอยู่นะคะ #ชบติดเซ็กส์

                   

    เอ็นจอย.  #ชบติดเซ็กส์

    © themy  butter
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×