คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Director >>07
ตึ๊ง ตึ่ง!!
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้น
โห้ยย.. ใครมันเสือ.กไลน์มาตอนนี้ว่ะ คนยิ่งเครียดๆอยู่ คยองซูก็ไม่อยู่บอกจะไปงานวันเกิดม๊ามี๊สุดที่รัก ผมนี่อยากจะโทรหาใจจะขาด แต่ช่วยไปได้ผมมันคนมารยาทงาม ไม่กล้าโทรไปรบกวนเวลาสุขสันต์ของครอบครัว
ตอนนี้ไม่รู้จะระบายกับใคร อึดอัดจะตายอยู่แล้ว ไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยต้องมานั่งตากยุงทำเอ็มวีอยู่ที่สวนหลังบ้านมืดๆค่ำๆคนเดียว
ตึ๊ง ตึ่ง!!
เออๆจะส่งอะไรมานักหนาว่ะ
ผมรีบควักโทรศัพท์ขึ้นมารีบเปิดดูข้อความ
TrueMove H:ลูกค้าทรูมูฟ เอช ดาวน์โหลดเพลง Martial Warrior โดยศิลปินวงไทเทเนียมได้แล้วผ่านทาง H Music App
โถ่!! TrueMove H ทำกูฝันสลาย หมดกันสร้างมากับมือ
“ เออๆไอ้สั.ด เดี๋ยวกูโหลด” ผมพึมพำกับโทรศัพท์ สภาพเหมือนคนบ้าไม่มีผิดเพี้ยน
ตึ๊ง ตึ่ง!!
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง
อยากน่ะ TrueMove H กูไม่ตลกน่ะมึง ขืนเป็นมึงอีกกูจะส่ง คุกกี้รัน ให้ทุกวันแม่งเลย แค้นสั.ด
real__pcy:อยู่ไหน?
บยอนน่าร็อคอ่ะ: ใคร ครับ?
real__pcy:ดูรูป
แหม่ ชัดเลย หูกางเป็นจานดาวเทียมเป็นนี้มีคนเดียว
real__pcy:อยู่ไหน?
บยอนน่าร็อคอ่ะ: จะอยากรู้ไปทำไม
real__pcy:ตอบ!!
สั.ด!! ขู่กูอีก
บยอนน่าร็อคอ่ะ: สวนหลังบ้าน
real__pcy:กลับห้อง
real__pcy:เดี๋ยวนี้
บยอนน่าร็อคอ่ะ: ไม่
real__pcy: ฉันง่วง
บยอนน่าร๊อคอ่ะ:ก็นอนไปซิ จะมาบอกทำไม
real__pcy:ก็จะล็อคห้อง
บยอนน่าร็อคอ่ะ: ฉันไปนอนห้องคยองซุก็ได้
real__pcy:ไม่มีมารยาท ไม่คิดว่าคยองซูเขาจะเบื่อนายบ้างรึไง?
บยอนน่าร็อคอ่ะ: เสียใจด้วย ฉันไม่ได้ไปรบกวนคยองซูสักหน่อยเพราะเขาไม่อยู่
บยอนน่าร็อคอ่ะ: ฉันจะไปขอนอนกับเซฮุนต่างหาก
เมื่อรัวนิ้วพิมข้อความเสร็จก็กดล็อคหน้าจอโทรศัพท์คว่ำลงกับโต๊ะ ชิ!! ตัวเองเป็นคนไล่คนอื่นเขาออกมาแท้ๆ ยังมีหน้ามาถามว่าอยู่ไหน ไม่รู้เลยรึไงว่าทำให้คนอื่นเขาต้องมานั่งร้องไห้ให้กับความไม่ชัดเจนของนาย หึ!! คนบ้า
แล้วนี่อ่านข้อความแล้วไม่คิดจะตอบกลับมารึไง นี่นายจะให้ฉันไปนอนกับเซฮุนจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
“นี่” เสียงห้าวดังออกมาจากหลังผม
โอ๊ยย!! จะโผล่มาทำไมว่ะ ทำไมไม่คุยในไลน์เนี่ย
“อะไร”ผมหันไปตอบเสียงนิ่ง
“กลับห้อง”
“ไม่!!”
หมับ!
เขากระชากข้อมือผมให้ลุกขึ้นตามแรง
“ปล่อยน่ะ ฉันเจ็บ”ไอ้บ้าเอ้ย คนน่ะไม่ใช่เครื่องตัดหญ้า ที่จะได้ลากไปไหนก็ไปหน่ะ
“เลิกพูดโวยวาย แล้วเดินให้มันเร็วๆหน่อย” เขาออกคำสั่งขณะลากผมให้เดินไปตามแรงฉุด
“ปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะ” ผมใช้มืออีกข้างทุบเข้าที่ต้นแขนของเขา
เงียบ… ไม่มีปฎิกิริยาตอบรับใดๆทั้งสิ้น
ตุบ!!
รู้ตัวอีกทีเขาก็จับผมเหวี่ยงลงบนเตียงนอนในห้องเรียบร้อยแล้ว
“เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกห๊ะ”ผมโมโหมาก ตะโกนใส่เขาสุดเสียง
“นายไม่มีสิทธิ์ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นนอกจากฉัน”คำพูดของเขาทำสมองผมตื่อไปหมด“ชอบมันมากรึไง ถึงอยากจะไปถวายตัวให้มันถึงห้อง”
“จะชอบหรือไม่ชอบมันก็เรื่องของฉัน”
“ว่ายังไงน่ะ พูดอีกทีซิ” เขาไม่ว่าเปล่า โถมตัวมาคร่อมร่างผมไว้
“นายต้องการอะไรจากฉันอีกห๊ะ”ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จู่ๆน้ำตาก็เอ่อมากองอยู่เต็มเบ้าตา
ผมเบี่ยงหน้าหลบตาเขา ไม่กล้าสู้หน้าเขาจริงๆ ที่เขาทำกับผมมันคืออะไร ตอนนี้เขาทำเหมือนกับว่ากำลังหึงผมอยู่อย่างไงอย่างงั้น ทั้งๆที่เมื่อตอนบ่ายเขาเพิ่งจูบกับผู้หญิงอีกคนไป มิหน่ำซ้ำยังมีหน้ามีไล่ผมออกจากห้อง ผมสับสนไปหมดแล้วกับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของเขา
“มองหน้าฉัน”เขาเอื้อมมือมาบีบคางบังคับให้ผมหันกลับไปประจันหน้า
“ทำแบบนี้ทำไมห๊ะ”น้ำตาที่กั้นเอาไว้เมื่อครู่เริ่มไหลปริ่มออกมาเป็นสาย “ตอบฉันสิ !! นายทำแบบนี้ทำไม ปาร์คชานยอล นายทำทำไม ตอบฉันสิ ทั้งหมดนี่นายทำไปเพื่ออะไร”ผมระเบิดน้ำตาออกมาเหมือนคนบ้า มือทั้งสองข้างก็ระดมทุบที่อกหนาอย่างแรง
หมับ!!
เขารวบมือผมเอาไว้ก่อนจะโถมตัวลงมากอดผมไว้หลวมๆ เขาก้มลงกดริมฝีปากจูบซับน้ำตาผมเบาๆ
สัมผัสเหล่านี้ที่เขาทำ มันช่างอ่อนโยนมากเหลือเกิน เขาทำให้หัวใจผมอ่อนยวบไปหมด ความอ่อนโยนที่เขามอบให้มันเกินกว่าที่ผมจะต้านทานไหว
“อึก….. นายรัก… อึก… ฉันรึป่าว”ผมเอ่ยถามเขาทั้งที่ยังสะอื้นอยู่
“นอนเถอะน่ะ” เขาจูบลงบนหน้าผากผมอีกครั้ง
“คนบ้า นายอย่าทำแบบนี้ได้มั้ย แค่ตอบว่ารักหรือไม่รัก มันยากนักรึไง”ผมพูดทั้งน้ำตา ระดมทุบที่แผงอกเขาอีกครั้ง ทำไมเขาไม่พูดให้มันชัดเจน จะปล่อยความสัมพันธ์แบบคลุมเครือนี้ไว้ทำไม
“แล้วนายรักฉันรึป่าว”เขาไม่ตอบ แต่ถามผมกลับแทน
“ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันประหม่าเวลาอยู่ใกล้นาย ฉันหวั่นไหวเวลาที่นายกอด หัวใจของฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเวลานายจูบ แล้วอีกอย่างฉันไม่ชอบให้นายจูบกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ชอบ.. อุ๊บ” ริมฝีปากอ่อนนุ่มประกบเข้าที่เรียวปากผมอย่างจัง ทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้อีกแม้แต่คำเดียว จุมพิตร้อนกำลังแผดเผาร่างกายของผมให้ร้อนเป็นไฟ ผมพยายามแรงออกดันที่อกเขาแต่มันก็ไม่ได้ผล ลิ้นของเขายังมีรสมิ้นติดตรึง มันทั้งหอม เย็น ซ่า แต่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนแบบหยุดไม่อยู่ รสจูบของเขาทำให้ผมเคลิ้มไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
“สภาพรักงั้นหรอ”
“ ฉันเปล่าสักหน่อย อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย”ผมพูดพล่างหลบตาลงต่ำ “แล้วนายหล่ะ คิดยังได้กับฉัน”ถึงยังไงผมก็อยากรู้ความรู้สึกของเขาอยู่สึกดี
“ตอนนี้ฉันยังตอบไม่ได้”
“ทำไม?” ผมรีบสวนกลับ
“ทุกอย่างมันมีเหตุผล สักวันนายจะรู้เอง”
“แล้วระหว่างที่รอจนถึงวันนั้น นายจะให้ฉันอยู่ในฐานะอะไร”
“สำหรับนาย คำจำกัดความมันสำคัญด้วยหรอ”เขายื่นนิ้วมาจิ้มแก้มผมเบาๆ
“ก็แหงน่ะสิ”ผมอ้าปากงับนิ้วเขาด้วยความหมั่นไส้
“เป็นหมาหรอ กัดอยู่ได้”
“ก็ตอบมาสิ นายจะให้ฉันอยู่ในฐานะอะไร”
“ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว”
“เรากอดกัน”เขารวบเอวผมไปกอดไว้หลวมๆ
“เราหอมกัน”ฟอด!! จมูกโด่งกดลงบนแก้มใส
“เราจูบกัน”จุ๊บ!! เรียวปากหนากดจูบเบาๆที่ริมฝีปากเล็ก
“เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
“คนบ้า.. คนฉวยโอกาส”ผมกลั้นยิ้มสุดชีวิต แต่ในใจนี่สั่นระริกระรี้อย่างกับกระดี่ได้น้ำ
“นอนเถอะ ดึกแล้ว”เขายันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้มลงหยิกแก้มผมเบาๆ
“โอ๊ะ เมื่อตอนเย็นกินข้าวไปกี่กะละมังเนี่ย แก้มบวมเชียว เต็มไม้เต็มมือไปหมด”โถ่!! สันดา.นเก่าผุด มึงหวานได้ 2 วิจริงๆ อาเมน.. กูทำใจแระ
“จะไปไหนอ่ะ”ผมรู้ว่าเขาจะไปนอนโซฟา แต่แกล้งถามไง บั่บน้องแบคใสๆ
“โซฟา”
“มานอนบนเตียงก็ได้” อร๊ายๆ เขินๆ แร.ดที่สุด ชวนผู้ชายขึ้นเตียง
“งั้น เถิบ จะนอนด้วย”สั.ด!! มึงควรจะทำท่าทีอิดออดสักหน่อยให้พอเป็นพิธีมั้ย แบบ ไม่เป็นไรครับ แบคนอนคนเดียวเหอะ จะได้สบายตัว << ตัวเอียงนี่คือกูฝันไปใช่มั้ย อย่าหวังว่าจะได้ยินจากปากมัน
ฟุบ!!
เขาทิ้งตัวลงบนเตียงเต็มแรงจนผมแทบเด้งขึ้นไปจูบเพดาน
นี่เตียงมันนุ่มหรือตัวมึงหนักว่ะ
พรึบ!!
เขาจัดการโยนหมอนข้างลายโทโทโร่น้อยของผมทิ้ง
“ทำอะไรของนายง่ะ”
“มันเปลืองพื้นที่ เห็นมั้ยเนี่ย จะขี่กันอยู่แล้ว” ขี่เหี้.ยขี่ห่าอะไร ที่เหลืออีกเป็นกิโล เอาอีกวางซูมานอนชักดิ้นชักงออยู่ตรงกลางยังได้เลย
“พูดมาก เมื่อไหร่จะได้นอนเนี่ย” แหม่.. บ่นกูจัง นอนมองตูดกูแระกันคืนนี้
ผมรีบพลิกตัวนอนหันหลังให้เขา
หมับ!!
เขาพาดขายาวลงบนสะโพกผม
“เอาออกไปนักหนัก” ผมตะเกียกตะกายพยายามยกท่อนขาเขาออก ดีออก!! โรแมนติกสุดๆ เขามีแต่นอนกอดกัน แต่ไอ้เห้นี่เอาตีนมาก่ายกู
หมับ!!
เขาพาดแขนกอดผมหลวมๆจากด้านหลัง
“….”แดกจุก ได้ยินความคิดกูรึไงว่ะ ทำตามเป็นสเต็ปไม่มีผิดเพี้ยน
“คืนนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลยน่ะ”เขากระซิบลงข้างหูก่อนจะงับหูผมเบาๆ
“แล้วพรุ่งนี้จะนายเปลี่ยนเป็นแบบเดิมรึป่าว คือแบบว่า... เราจะยังเป็นเหมือนตอนนี้มั้ย”
“ก็ไม่รู้สิ นอนเหอะ…หมูอ้วน ง่วงจะตายอยู่แล้ว”ชีวิตกูนี่มันแอคแวนเจอร์จริงๆ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วมึงจะอารมณ์ไหน เห้อ! กูทำใจแล้วสั.ด รักไปแล้วให้ทำไงได้
แสงแดดยามเช้าส่องลอดเข้ามาทางผ่านช่องหน้าต่าง พุ่งลงมาทำมุมกับขอบเตียง 45 องศา
สะท้อนแยงเข้าลูกกะตาผมอย่างจัง
“งื้อ กี่โมงแล้วเนี่ย”ผมขยี้ตาแรง พลิกตัวหมายจะซุกที่อกอีกคนหวังให้เป็นที่กำบังแดด
ง่ะ…ทำไมมันนิ่มจังว่ะ นี่มันคนหรือฟองน้ำว่ะ นุ่มนิ่มดีจัง
ฟึบ!!
ผมลืมตาขึ้น นี่มันอะไรเนี่ย… หมอนข้างโทโทโร่น้อยของผมนั่นเอง แล้วชานยอลอ่ะ… ไปไหนแล้วเนี่ย
♫ คือ ซารังมันอึน Stop, stop, stop, stop, yeah ♫
“งื้อ ครับ”ผมกดรับสายทั้งที่ยังงัวเงีย
“ตื่นยัง”ตาผมเบิกกว้างด้วยความตกใจ รีบพลิกหน้าจอโทรศัพท์ดูว่าเป็นคนที่คิดไว้รึป่าว
OWO” ปาร์คชานยอล!! ขุ่นพระ.. กรี๊ดแปปได้ป่ะ งื้อๆ มีโทรปลุกด้วย
“ตะ ตื่นแล้ว”
“ฉันอยู่ห้องครัวน่ะ”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!!
“เห้ย!! เดี๋ยวสิ.. อย่าเพิ่งวาง”ไอ้หอกหัก.. ชีวิตมึงเนี่ยโดนลิมิตเรื่องการแสดงอารมณ์ตั้งแต่เกิดรึไง
แค่พูดออกมาตรงๆว่า อยากให้ไปหาก็จบ สั.ด!! ให้กูตีความเองตลอด ใช้ชีวิตกับมึงเนี่ย เปลืองซีรีบรัมกูชิ.บหาย
ผมยืนอยูหน้าห้องครัวเห็นเขากำลังยืนกดน้ำร้อนลงแก้วกาแฟ ผมรีบสาวเท้าตรงเข้าไปยืนขนาบข้างๆ
“นี่”ผมใช้ไหล่กระแซะเขาเบาๆ เขินน่ะเนี่ย -///-
“อะไร?” แหนะ.. ยังมาถามกูอีก
“มีอะไร…”
“แค่อยากอยู่ด้วย”อร๊ายยย… กูระเบิดตัวตายแปป กูอยากจิกหมอน….กูอยากจิกหมอน อ๊ากๆ
“แล้วไงต่อง่ะ”
หมับ!!
ร่างสูงไม่ตอบกลับ แต่กลับช้อนแขนอุ้มผมตัวลอยให้ขึ้นไปนั่งบนเคาท์เตอร์ ทำให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน
“ก็….”ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งเฉียดพวงแก้มใสเบาๆ ร่างสูงเอียงคอปรับองศาดึงท้ายทอยทุ่ยเข้าไปใกล้เตรียมจะจูบทักทาย มอนิ่งคิส
“โอ๊ะ!!! ขอบโทษน่ะ”
เสียงกวางซูใช่มั้ย ใครก็ได้บอกกูที กูนั่งหันหลังอยู่…. กูมองไม่เห็นนนนน
“เหี้.ยเอ้ย!!”ชานยอลสถบเบาๆพร้อมกับผละออกจากผม
“มีอะไรกวางซู”
“ขอโทษน่ะ คือฉันจะมาเอาแก้ว ฉันไม่รู้ว่าพวกนายกำลังจะ.. เอ่อ จะ”
“เออๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เข้ามาสิ ฉันกำลังจะออกไปพอดี”ชานยอลพูดอย่างอารมณ์เสียงก่อนจะเดินกระทืบเท้าออกจากครัว
และแล้วมึงก็ทิ้งกูให้เผชิญกับความโหดร้ายคนเดียว
“แหะๆ มาเอาแก้วหรอกวางซู”ผมหัวเราะแห้งก่อนจะกระโดดลงจากเคาท์เตอร์
“หึหึ… เมื่อกี้ฉันเห็นน่ะ ว่านายกำลังจะจู..จุ๊บกันหน่ะ”
“ไม่ใช่จูบน่ะ”ผมรีบตะโกนสวนกลับ
“คะ… คือผงเข้าตาฉันหน่ะ ชานยอลเลยเขี่ยออกให้”ผมพูดปัดแบบรัวๆ
“หึหึ เห็นฉันเป็นยีราฟหน้าโง่รึไง.. ทำไมเรื่องแค่นี้ฉันจะดูไม่ออก”สั.ด!! มึงนี่ก็แซะกูจัง
“อ่อ!! ฉันจะเข้ามาเอาน้ำตาลให้คยองซูหน่ะ เจอพอดีเลย.. ไปน่ะ”ผมรีบคว้ากระปุกน้ำตาล ใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งออกจากครัว ผมไม่โง่ยืมรอให้แซะหรอกน่ะครับคุณกวางซู
ผมวิ่งออกมาจนถึงโต๊ะกินข้าวรวม เหลือบตาไปมองชานยอลที่ข้างไขว่ห้างกางหนังสือพิมพ์จิบกาแฟ หึ วางมาดนักน่ะมึง ผมเดินตรงหมายจะไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเขา
ฟุบ!!
ไม่น่ะ!! ลู่หาน…. ม่ายยยยยย เก้าอี้ตัวอื่นก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องมานั่งตัวนี้ด้วยฟร่ะ ฝันสลายเลยกู ฉากนั่งกินข้าวเช้าด้วยกันสองต่อสองเมื้อกี้ที่กูวาดไว้ พังหมด…
ผมยืนหน้าหงอยเดินคอตกอ้อมไปนั่งอีกฝั่งของโต๊ะ
โครม!
ชานยอลลากเก้าอี้อีกตัวมาตั้งข้างที่เขานั่ง
“มานั่งนี้สิ”ชานยอล.. ทูนหัวของบ่าวน่ารักที่สุด มาจูบเหม่งทีสิที่รัก
“อื้ม”เขาพยักหน้า ฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะถึงรูหู
“หวัดดี แบคฮยอน”เสียงลู่หานเอ่ยทัก
“อ่อ อืม”ผมรีบพยักหน้าตอบรับเขา
หลังจากนั้น
.
.
.
.
.
กูก็กลายธาตุอากาศ
“มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย? หงอยเชียว”ชานยอลหันไปถามลู่หาน
“หงอยเหี้.ยไร กูก็ปกติ”
เฮลโล่!! เผื่อพวกมึงจะลืมไปว่ากูก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย โย่ว.. แมน สนใจกูบ้าง
“มีอะไรก็บอกน่ะเว้ย กูเป็นห่วง” ยัง… ยังไม่มองกูอีก แล้วไอ้เป็นห่วงนี่มันอะไร.. นี่มึงเป็นเพื่อนกันจริงๆป่ะว่ะ มีเป็นห่งเป็นห่วงกันด้วย
“กูก็ปกติ มึงอ่ะคิดมาก”ลู่หานไม่ว่าเปล่า ยกมือยี้หัวเพื่อนรักเบาๆ
ยี้หัวๆๆๆ หัวเราะกันกระหนุงกระหนิง ทนไม่ไหวแล้วน่ะเฟ้ยยยยยยยยยย
ตึง!
เสียงกระปุกน้ำตาลกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง ชานยอลและลู่หานร่วมใจกันหันมาดูที่ต้นเสียง
“แหะๆ พอดีวางแรงไปหน่อย”ผมรีบบอกปัดให้เขาหันหน้ากลับไป
“แล้วนี่มึงโดนอะไรมาเนี่ย”ชานยอลเอื้อมไปเขี่ยๆที่ต้นคอลู่หาน แหวกๆดูจนทั่ว
แหวกขนาดนี้ เชิญพวกมึง ออ-เอา-เอา กันเลยเหอะครับ
“อ่ะ อ่อ ยุงกัดน่ะมึง”
โห้ย! หมั่นไส้จริงๆ ลูบนู้นจับนี่กันอยู่นั่นแหละ รำคาญลูกกะตา
“ฉันว่า ฉันขอตัวก่อนดีกว่า”ผมพูดก่อนจะลุกจากเก้าอี้ ทนดูไม่ได้จริงๆ
ปัง!!
ผมปิดประตูห้องแรงอย่างหัวเสีย
เป็นเพื่อนกันจริงป่ะว่ะ อ้อนกันจัง จับนู้นจับนี้กันอยู่นั่นหล่ะ เห็นแล้วมันตาร้อน…..
แอด!!
เสียงประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง รู้เลยว่าใคร
“เป็นอะไร”ชานยอลเอ่ยถาม
“ป่าว”
“ลู่หาน……หรอ”เขาเลิกคิ้วขึ้น
“นายคิดว่าไง”
“มานี้มา”เขากวักมือเรียกให้ผมเดินไปหา
ผมเดินเตาะแตะไปหาเขา
เขารวบเอวผมเข้าไปกอดไว้หลวม มืออีกข้างกดหัวผมให้ซบที่อกก่อนจะกระซิบข้างหูผมแผ่วเบา
“รู้ใช่มั้ย”
“…..”
“ว่าไม่มีอะไร”
“ใครจะไปรู้หล่ะ เห็นออดอ้อนออเซาะกันซะขนาดนั้น”
จุ๊บ!!
เขากดจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ
“หึงรึไง”
“ฉันมีสิทธิ์หึงนายห๊ะไง ฉันอยู่ในฐานะอะไรยังไม่รู้เลย”คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินที่สิ่งผมพูด
นิ้วยาวยกขึ้นมาบีบจมูกผมเบาๆ
“ก็บอกแล้วไง คำจำกัดความอ่ะ”
“…”
“มันไม่สำคัญสำหรับเราหรอกน่ะ”
ผมยกแขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวหนากระชับอ้อมกอดของเราให้แน่นขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าคำที่เขาพูดมันไม่ได้หวานแหววอะไรมากมาย แต่มันก็เริ่มทำให้ผมมั่นใจว่า ความรู้สึกที่ผมให้ต่อเขาตอนนี้ ผมไม่ได้เป็นคนให้อยู่ฝ่ายเดียว
คอมเม้นเป็นกำลังให้หน่อยน่ะค่ะ ไรท์จะได้มีแรงแต่งต่อไป
แอบสปอย :
ช่วย คอมเม้นให้หน่อยน่ะค่ะ คิดซะว่าเป็นกำลังให้ผู้เขียนเน๊อะ ถ้าไม่รู้ว่าจะเม้นอะไร พิมพ์ 555 มาก็ยังดี รักทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านน่ะ # จุ๊บ
ติดแท็กใน twitter : #ฟิคยั่ว
พูคคุยกับไรท์ : @mingkchk
ความคิดเห็น