คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Director >>08
Luhan’s -(-part-)-
“ฉันว่า ฉันขอตัวก่อนดีกว่า”เสียงแบคฮยอนพูดก่อนจะลุกจากเก้าอี้
“ไอ้ลู่ กูเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระนิดหน่อยว่ะ”
“ธุระกับแบคฮยอนรึป่าวว่ะ หึหึ”
“เหี้.ยไรมึง? อย่ามโน”
“มโนพร่อง!! กูว่ามึงกับแบคฮยอนต้องมีซัมติง”
“ติงพ่อง!! กูไปหล่ะ”พูดจบมันก็รีบวิ่งส่ายตูดดิกๆตามแบคฮยอนไปติดๆ
ผมนั่งส่ายไปมาหัวเราะให้กับการกระทำสุดซึนของเพื่อนรัก ปากบอกไม่มีอะไร แต่การกระทำมันสวนทางกับน่ะครับคุณเพื่อน
“จริงๆครับ ผมว่าสองคนนี้มีซัมติง” จู่ๆก็มาเสียงมนุษย์บ้าที่ไหนไม่รู้แทรกขึ้นมา
“เห้ย!! กวางซู!!”
“นายมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”มันมาตอนไหนว่ะ แว๊บไปแว๊บมา.. แมร่งน่ากลัวขึ้นทุกวัน
“แหะๆ แต่ผมว่าสองคนนี้มันยังไงๆอยู่น่ะครับ”
“ทำไม? นายรู้อะไรมาอีก”ถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นพร้อมปั่นหน้าขี้เสือกประกอบ
“หึหึ ผมจะบอกคุณก็ต่อเมื่อรู้ทุกอย่างแน่ชัดแล้วครับ”จบพูดก็จากไปอย่างสงบ ยั่วให้อยากแล้ว…ก็จากกูไป กูยิ่งขี้เสือกอยู่ด้วย มึงเข้ามาในชีวิตกูทำไม อิกวางซู!!
“ไอ้ลู่”ใครอีกว่ะ ขายดีจริงๆวันนี้
ผมรีบสะบัดบ๊อบหันไปมองทางต้นเสียง พอเห็นหน้าเท่านั่นแหละ กูอยากจิคราย!!
“ไอ้ฮุน”สีหน้าจ๋อยลง 3 ระดับ
“มึงโอเคป่ะว่ะ”มาถึงก็เข้าเรื่องเลยน่ะมึง ไม่ถามสุภาพกูสักคำ
“เหอะๆ เรื่องอะไรว่ะ?” แสร้งถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร
“เรื่องที่เราสองคน..มีอะไรกัน”หน้านิ่ง เสียงเรียบตามสไตล์
“เอ่อ เรื่องนั้น…. กูโอเค กูรู้ว่ามึงไม่ได้ตั้งใจ แล้วอีกอย่างมึงก็เมามากด้วย”ผมพยายามแสดงออกให้ดูเหมือนว่าไม่เป็นไร เขาคงเมามากจริงๆ เขาคงไม่ได้ตั้งใจทำมันหรอก ก็เราเป็นเพื่อนกันหนิ เราจะทำอะไรแบบนั้นไปเพื่ออะไร ทุกอย่างมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรักมันเกิดจากความผิดพลาดต่างหาก
“ความจริงกูก็ไม่ได้เมาขนาดนั้น”
“…..”
“กูมีสติตลอดเวลา….ที่กูทำกับมึง”
ผมอึ้งไปเลยกับคำพูดของเขา น้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน นัยต์ตาเขาเหมือนพยายามจะสื่ออะไรสักอย่าง
“วันนี้วันเกิดพี่ชายกู มึงจะไปรึป่าว”
“เออ กูเกือบลืมไปเลย”ว่าแล้วก็รีบยกมือขึ้นดูปฎิทินที่นาฬิกาข้อมือ วันนี้เกิดพี่ชายเซฮุนจริงๆด้วย “ แต่กูต้องไปธุระกับพี่คริสก่อน ไม่รู้จะไปทันรึป่าว”
“ไปกับ…..พี่คริสหรอ?”เขาเลิกคิ้วถาม
“เรื่องงานหน่ะ พี่เขาขอให้ช่วย”
“มึงยังชอบพี่คริสอยู่อีกรึป่าว”
“ถามทำไม?”
“ถ้ามึงไม่ไปพี่กูน้อยใจมึงแน่”ทิ้งระเบิดไว้ให้กูอีกคนแระ คือที่มึงตั้งใจจะพูดคือ กูต้องไปใช่มั้ย? โอเค.. กูเก็ทแระ
------------------------------Luhan’s -(--part--)- END--------------------------
วันนี้เป็นอะไรที่เบื่อโคตรๆ ไม่มีอะไรทำที่สุดในสามโลก นั่งดูทีวีตั้งแต่เช้าจนบ่าย เห้อ!! ว่างงานสุดๆ ชานยอลก็มั่วแต่พิมพ์อะไรไม่รู้ยุกยิกๆทั้งวัน ไม่สนใจกูบ้างเลย เมื่อเช้ามึงยังยืนกอดกูตัวกลมอยู่เลยน่ะสั.ด
“นี่ ชานยอล”
“หือ”เสียงห้าวตอบรับแบบส่งๆ สาบานว่าตั้งใจตอบกู
“ทำอะไร”
“ทำงาน”
“ บทมีปัญหานิดหน่อย”
“เหรอ!! นายคงเหนื่อยน่าดู”
“มานี่หน่อย”เขาตบโซฟาข้างๆเรียกให้ไปนั่ง
“อะไร”อิดออดตัวเล่นตัวสักหน่อย ผมไม่ง่ายน่ะครับ
“มาเหอะน๊า ถามมาก”หงุดหงิดใส่กูอีก
ผมรีบหย่อนตูดนั่งลงข้างๆเขา“ว่ามา”
ผู้กำกับหนุ่มเลื่อนโน๊ตบุ๊คเครื่องหรูมาหยุดตรงหน้า ปรับมุมองศาหน้าจอให้พอดีกับสายตา“อ่านให้ฟังหน่อย”
“เรื่องอะไร ก็อ่านเองสิ งานตัวเองแท้ๆ”
“แบคฮยอน”มองกูตาขวางเลย อย่ามองน้องด้วยสายตาแบบนั้น น้องกลัว…
“ก็ได้ๆ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องดุด้วย”
“อ่านแล้วน่ะ”เขาพยักตอบก่อนจะถอดแว่นเอนหัวลงมาซบที่ไหล่ผมเบาๆ
“ทำอะไร”ด้วยความตกใจ มือไม่รักดีรีบดันศรีษะหนักออกโดยไม่ตั้งใจ
“นิ่งๆ คนเขาเหนื่อยน่ะเนี่ย”เสียงห้าวพูดปรามอย่างเนื่อยๆ
“งือ หนักง่ะ”ผมพูดคาดโทษคนที่ดื้อขี้เอาแต่ใจ
“อ่านสิครับ”
“เอาละนะ”ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มผอดแล้วเพ่งสายตาไปที่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค
“นายรักฉันมั๊ย” จุกตั้งแต่ประโยคแรก
“รักสิ!! ฉันรักนายมาตลอด”
“นายช่วยจูบฉันได้รึป่าว”เอาแล้ว!! เล่นกูแล้ว
ผมแอบได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากอีกคนที่นอนซบอยู่บนไหล่ ตั้งใจจะแกล้งให้เขินใช่มั้ยเนี่ยถึงเอาบทแบบนี้มาให้อ่าน แผนสูงจริงๆน่ะปาร์คชานยอล
“นี่แนะ”มือเล็กยกขึ้นฟาดเข้าที่ต้นแขนของอีกคน
“ตีฉันทำไมเนี่ย”
“แกล้งอ่อ”
“แกล้งอะไรกันเล่า”ลมหายใจอุ่นพูดกระซิบอยู่ข้างหู
“กะ ก็บทนี่ไง”เสียงเริ่มตะกุกตะกะ ก็คนมันเขินง่ะ พูดดีๆก็ได้ ทำไมต้องกระซิบด้วย
“ทำไม? บทมันทำไม”เสียงห้าวบ่นแหบพูดกระซิบอีกครั้งก่อนจะกดจมูกลงบนพวงแก้มใส
“ก็รู้อยู่แก่ใจ นายมันนิสัยไม่ดี ขี้แกล้ง”คนตัวเล็กว่าพลางยกมือขึ้นกอดอกหันหลังให้ร่างสูงที่พยายามจะแกล้งเขาอยู่ตลอดเวลา คนบ้า!! แกล้งอยู่ได้ เขินจะแย่อยู่แล้ว
“เอาหล่ะๆ ไม่แกล้งแล้ว”ร่างสูงจับเข้าที่ไหล่น้อยทั้งสองข้างออกแรงบิดให้เจ้าตัวหันกลับมาทำภารกิจต่อ
“อ่านต่อสิ”
“ถึงไหนแล้วอ่ะ”
มือหนาเอื้อมไปชี้ที่หน้าจอตรงบรรทัดที่ผมอ่านคาไว้เมื่อกี้
ผทเริ่มอ่านบทละครนั่นอีกครั้ง
“นายช่วยจูบฉันได้รึป่าว”
“ได้สิครับ”เสียงตอบแล้วสวนขึ้นมาก่อนจะเบียดริมฝีปากหนาลงบนเรียวปากน้อยอย่างหนักหน่วง
“อื้อ”เสียงหวานเผลอครางออกมาจากลำคอ
เมื่อร่างน้อยไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนอะไร คนตัวสูงยิ่งได้ใจเบียดเรียวปากหนาลงอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม ลิ้นร้อนค่อยๆแทรกเข้าไปในโพรงปากน้อยละเลียดความหวานจากเรียวปากเล็กทีละนิด ลิ้นร้อนที่เสพความหวานจากริมฝีปากบางจนสมใจแล้วเลื่อนตำแหน่งไปที่ซอกคอขาว ร่างสูงกระหน่ำดูดเม้มเข้าที่ซอกคอขาวอย่างหิวกระหาย เสียงครางหวานเริ่มหลุดออกจากปากคนตัวเล็ก
มือน้อยขยุบปอยผมด้านหน้าของอีกคน นั่นเป็นสัญญาณที่ดีบ่งบอกให้รู้ว่าคนตัวเล็กเริ่มเผลอไผลกับรสจูบนี่แล้ว
“อื้อ ชานยอล…. พอก่อน”เสียงใสร้องห้ามทั้งที่ยังครางอยู่
“ไม่พอครับ”คนเจ้าเล่ห์ส่งตาสายกรุ้มกริ่มก่อนจะกดหน้าลงขบเม้มย้ำตรงจุดเดิม
“อื้อ เจ็บแล้ว”รู้สึกเจ็บแปล๊บๆตรงรอยที่คนตัวสูงดูดเม้มย้ำๆ
“เจ็บหรือเสียวครับคนดี”
“ชานยอล เค้าเจ็บจริงๆน่ะ”
“เค้าเจ็บหรอ เค้า?”คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง
“ก็ใช่น่ะสิ ตัวมัวแต่ดูดอยู่นั่นแหละ ไม่สนใจที่เค้าพูดบ้างเลย”คนตัวเล็กเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกมา
“เค้า ตัว?”
“ทำไมอ่ะ ตัวไม่ชอบเหรอ เรียกกันแบบนี้ เค้าว่าน่ารักจะตาย”เรียวปากน้อยเบะคว่ำอย่างเอาแต่ใจ
“นายนี่มันเด็กน้อยจริงๆ”มือหนายกขึ้นยี้หัวคนตัวเล็ก
“ห้ามเรียกว่านาย ตัวต้องเรียกเค้าว่าตัวเหมือนกัน”
“ไม่เอาอ่ะ มุ้งมิ้ง ชิบหาย”
“หึหึ อ้วน!! งั้นเรียกอ้วนแล้วกัน”
“ไม่อาววว เค้าไม่อ้วนซะหน่อย”
“แล้วนี่อะไร”มือหนาบีบลงตรงชั้นไขมันทีปลิ้นออกมาตรงขอบกางเกง
“เหอะ ของตัวเองก็มี”
“มีซะที่ไหน แล้วอีกอย่างฉันเป็นผู้ชาย”
“ถึงมีห่วงยางก็ไม่น่าเกลียด”
“แล้วเค้าไม่ใช่ผู้ชายรึไง?”
“ฉันไม่เคยมองนายเป็นผู้ชายเลยต่างหาก”ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าลงใกล้หมายจะขโมยจูบคนตัวเล็กเป็นครั้งที่สอง
พรึบ!!
ผมรีบลุกพรวดขึ้นจากโซฟา ใครจะนั่งบ้ารอให้เขามาขโมยจูบกัน แค่นี้ก็เขินจะตายอยู่แล้วขืนนั่งอยู่ต่อคงระทวยแข้งขาหมดเรี่ยวหมดแรงกันพอดี
“เค้าไปหาคยองซูน่ะ”ไม่รอให้อีกคนตอบ ฉวยโอกาสรีบวิ่ง 4x100 ตรงไปยังประตูห้องทันที
“คยองจูวว”ผมร้องเรียกเพื่อนรักทันทีที่ปิดประตูห้อง
“เป็นอะไร? อารมณ์ดีมาเชียว”
“แน่นอน ยิ้มวันละนิดจิตแจ่มใส”
“แจ่มใสจนคอแดงเป็นจ่ำเลยน่ะครับเพื่อน”
เมื่อได้ยินคำของเพื่อนรัก ผมรีบดึงคอเสื้อขึ้นปิดรอยจ่ำแดงที่ชานยอลเพิ่งทำทิ้งไว้เมื่อกี้
“แหะๆ ที่นี่ยุงเยอะเนอะ”
“ยุงมันชื่อ ปาร์คชานยอลรึป่าว”
“นายจะบ้าหรอ พูดอะไรของนายเนี่ย”
“สานความสัมพันธ์ไปถึงไหนแล้วครับ”
“สัมพงสัมพันธ์อะไร อย่ามามั่ว”
“ไม่ต้องมาทำไขสือ เรื่องในครัวเมื่อเช้า ฉันรู้หมดแล้ว”
รู้หมดแล้ว!! ไม่น่ะ!! อยากจะทึ้งผมตัวเองทิ้งสักกระจุก
“อิกวางซูใช่มั้ย”
“ก็แสดงว่าเป็นเรื่องจริง”กวางซูรู้=โลกรู้ กูอยากจิครายTT-TT
“โห้ย!! มันน่าอายจริงๆ”คราวนี้กูขอทึ้งออกสัก 2 กระจุกไปเลย
“ไม่ต้องมาองมาอายเลย”
“ว่าแต่… เป็นแฟนกันรึยังอ่ะ”
“ฉันไม่พูดกับนายแล้ว”รีบหันหลังให้เพื่อนรัก ในเมื่อแถมันไปไม่รอด กูโกรธกลบเกลื่อนแม่งเลย
“โอ๋!! มาๆเปลี่ยนเรื่องก็ได้”
“วันนี้วันเกิดพี่ซูโฮน่ะ”
“พี่รหัสนายอ่ะน่ะ”
“นายจะไปรึป่าว”
“งานนี้น้องรหัสนายก็ไปด้วยใช่มั้ย”
“ก็แหงสิ ไม่อยากเจอเขารึไง เขาออกจะรักนาย”กวนตีนกูอีก รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบไอ้เด็กแพนด้าหน้าม่อนั้น ยังจะพูดอยู่ได้
“อึ๋ย!! พูดแล้วขนลุก เด็กอะไร.. หน้าม่อที่สุด”
“ไปเถอะน๊า ฉันจะปกป้องนายเอง”
ตึ่ง ตึ๊ง!!
เสียงโปรแกรมไลน์แจ้งเตือน
“แปปน่ะ คยอง”ผมพูดก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมาดู
real__pcy:ฉันออกไปข้างนอกน่ะ
บยอนน่าร็อคอ่ะ: ไปไหนอ่ะ
real__pcy:ธุระนิดหน่อย
บยอนน่าร็อคอ่ะ:กลับกี่โมงอ่ะ
real__pcy:คงดึกแหละ
บยอนน่าร็อคอ่ะ:อืมๆ
real__pcy:ตอนงี้ งอนป่ะว่ะ
บยอนน่าร็อคอ่ะ:ป๊าว
real__pcy:พยายามเชื่อ
บยอยน่าร็อคอ่ะ:คนบ้า!!
real__pcy:ไปน่ะครับ
real__pcy:อยู่คนเดียวอย่ากินเยอะหล่ะ
real__pcy:อ้วน!!
“เป็นอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว คุยกับพี่ปั๊กหรอ”คยองซูพูดแทรกขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังพูดจาภาษาดอกไม้กับพี่ชยอลคนดีศรีสยาม
“ล้ออ่อ”
“ป่าวซะหน่อย สรุปว่าไง? ไปมั้ย”
“ไปก็ได้ เห็นแก่นายหรอกน่ะ”
“ตกลงตะกี้ ไลน์ไปขออนุญาตพี่ปั๊กใช่มั้ย”
“ที่ไหนกับเล่า อย่ามั่ว”
ผมกับคยองซูนอนหัวเราะคิกคักตามประสาเด็กหนุ่มแรกรักบานสะพรั่ง นี่มันช่วงขาขึ้นของผมจริงๆ
Lucky in love, Lucky in game
พูดคุยกันมันส์ดี : อ่านแล้วอยากจะติชมอะไร เชิญที่ช่องคอมเม้นเลยค่ะ
คอมเม้นเป็นกำลังให้หน่อยน่ะค่ะ ไรท์จะได้มีแรงแต่งต่อไป
แอบสปอย : ตอนหน้าน้องแบคเมาคอพับ
พี่ชานได้ปวดหัวแน่
พูคคุยกับไรท์ : @mingkchk
ความคิดเห็น