คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ▶S.E.X. NYM▐ ▐ -07-
-07-
ช่วงเวลาบ่ายของวันแบคฮยอนยังคงนั่งเล่นสะกดคำอยู่กับเจ้าสองแฝด ชานยอลที่ออกไปดูไร่ตั้งแต่เช้า จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมา จู่ๆก็นึกโกรธอีกคนขึ้นมา เล่นเอาเขามาทิ้งไว้ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ได้ตั้งครึ่งวัน ส่วนตัวเองแอบหนีไปป้อสาวที่ไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้
แบคฮยอนนั่งชวนเด็กน้อยทั้งสองเล่นนู้นเล่นนี้อยู่พักใหญ่ ไม่นานป้าแม่บ้านก็มาขอตัวเจ้าสองแฝดไป โดยอ้างว่าเด็กๆต้องนอนพักกลางวัน ถึงในใจจะไม่อยากให้เด็กๆไป แต่ก็ต้องจำยอมเพราะเด็กน้อยสองคนต้องนอนพักกลางวันอย่างที่ป้าแม่บ้านบอกจริงๆ
ฟู่!!
ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกพ่นออกจากริมฝีปากบาง ใช้มือเล็กบีบนวดเบาที่หัวไหล่เพื่อคลายอาการปวดเมื่อย ทั้งแขนทั้งขาที่ปวดไปหมด ก็เด็กพวกนั้นเล่นไม่ยอมให้เขาลุกไปไหนเลย
พอเจ้าสองแฝดไม่อยู่แล้ว ก็แอบเหงาขึ้นมาเหมือนกัน ไม่มีอะไรทำให้ โทรศัพท์ก็ไม่มีเล่น
โทรศัพท์มือถือ
“เวรแล้ว” เสียงสบถดังขึ้นเบาๆ
แว๊บแรกที่นึกขึ้นได้ ก่อนมาที่นี่ยังไม่ได้โทรบอกแฟนหนุ่มเลยสักครั้ง ป่านนี้จงอินจะเป็นยังไงเนี่ย คงวิ่งวุ่นตามหาเขาอยู่แน่
โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาติดตัวมาซะด้วย แล้วจะติดต่อหาจงอินยังไง
แบคฮยอนตัดสินใจไปขอรบกวนคุณแม่ของชานยอล เท้าเล็กสาวไปยันห้องครัวอย่างทันความคิด
เห็นคุณแม่ชานยอลกำลังวุ่นๆเตรียมกับข้าวสำหรับอาหารเย็นวันนี้
ก๊อกๆ
กำปั้นเล็กจรดเคาะตรงฝาผนังเบาๆให้พอเป็นมารยาท
“ อ้าว !! แบคฮยอน หิวเหรอลูก” ฮโยริถามขึ้นทันทีที่เห็นร่างเล็กของแบคฮยอนกำลังยืนเงอะงะอยู่หน้าห้องครัว
“เปล่าครับ คือผมจะมารบกวนคุณน้า ขอยืมใช้โทรศัพท์มือถือหน่อยได้รึเปล่าครับ” ด้วยความเกรงใจ แบคฮยอนจึงพูดออกไปเสียงกระอักกระอ่วน
“ได้สิจ้ะ หนูรอตรงนี้นะลูก เดี๋ยวแม่ไปหยิบมาให้” ไม่ว่าเปล่า ฮโยริก็รีบเดินฉับๆจนหายวับไปจากห้องครัว
แบคฮยอนที่ได้แต่ยืนนิ่งตามคำสั่ง เริ่มเดินวนสำรวจไปรอบๆห้องครัว กลิ่นอาหารหอมคลุ้งไปทั่ว อาหารที่วางเตรียมอยู่บนเคาท์เตอร์นั่น มันน่าทานมากจริงๆ
“นี่จ้ะลูก “ เสียงเจ้าของมือถือที่เข้ามาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ยกมือยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูให้อย่างใจดี
“ครับ ขอบคุณครับ ” โค้งหัวขอบคุณไปหนึ่งที ก่อนจะหยิบรับโทรศัพท์ในมือของคุณน้า
เมื่อได้โทรศัพท์อย่างที่ว่า แบตฮยอนก็แอบเดินเลี่ยงๆเบี่ยงตัวเข้าหลบตรงมุมห้อง ในขณะที่นิ้วมือกดเข้าไปที่ไอค่อนสำหรับใช้ส่งข้อความ นิ้วเรียวพิมพ์เบอร์โทรศัพท์ของคนรักที่จดจำได้ดี
“นี่แบคเองนะ มาเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน 2-3 วัน กลับแล้วจะติดต่อไปหาเองนะ
ไม่ต้องเป็นห่วง”
พิมพ์ข้อความเสร็จแล้วกดส่งทันที
“นี่ครับคุณน้า ขอบคุณมากครับ” มือเล็กยื่นโทรศัพท์เครื่องบางคืนเจ้าของไป
“ ส่งข้อความหาเพื่อนเหรอลูก”
“แฟนครับ แฟนผมเอง” แบคฮยอนตอบกลับเสียงแห้งๆ
ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดบังเรื่องแฟน เพราะเขาเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับชานยอลสักหน่อย แล้วจะต้องปิดบังไปเพื่ออะไร
“อย่างนั้นเหรอลูก”
ตาเรียวเหล่มองใบหน้าของอีกฝ่าย สีหน้าฮโยริเจื่อนลงเล็กน้อย แบคฮยอนรู้ดีว่าคุณน้าคิดเรื่องเขากับชานยอลไปในทางไหน
เพราะฉะนั้น ก็ไม่น่าแปลกที่คุณน้าแสดงสีหน้าว่าผิดหวัง
“คุณน้าทำอะไรอยู่เหรอครับ” แบคฮยอนแสร้งถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากจะคิดเรื่องพรรณ์นั้นให้เปลืองสมอง
“แกงส้มจะ”
“คุณน้านี่เก่งจังเลยนะครับ ทำอาหารเป็นตั้งหลายอย่าง” แบคฮยอนพูดขึ้นอย่างสนใจ
“มานี่สิจ้ะ เดี๋ยวแม่จะสอนหนูเอง”
“คือผม ทำอาหารไม่ค่อยจะเป็นอ่ะครับ” ตอบไปแบบเขินๆ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 22 ปี ยังไม่เคยเข้าครัวจริงๆจังๆเลยสักครั้ง แถมลงมือทำทีไร สภาพครัวออกมาเละเทะทุกที
“นี่ไงจ้ะ เดี๋ยวแม่จะสอนหนูเอง พี่เขาไม่ชอบกินอาหารแช่แข็งหนูก็รู้”
“งั้นเหรอครับ ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องของชานยอลสักเท่าไหร่ คือเราเพิ่งรู้จักกันน่ะครับ” แบคฮยอนยิ้มแหยๆบอกปัดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชานยอล
ฮโยริได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบกลับอะไร ทำแค่เพียงส่งรอยยิ้มแห้งไปเพื่อจบบทสนทนาก็เท่านั้น
.
.
.
.
แบคฮยอนลงมือช่วยหั่นนั่นคนนี่อยู่สักพัก เผลอแป๊ปเดียวอาหารก็ถูกนำมาจัดวางไว้เต็มโต๊ะไปหมด ตาเรียวเหลือบขึ้นมานาฬิกาตรงผนัง บอกว่าเวลา 4 โมงเย็นพอดีเป๊ะ
“ แบคฮยอน ลองโทรหาพี่เขาหน่อยสิลูก ว่าจะกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านรึเปล่า” ฮโยริออกปากสั่ง พลางยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้
คนที่ถูกวานใช้ทำท่าทางอิดออดนิดหน่อย แต่เพราะความเกรงใจเลยต้องยอมรับโทรศัพท์นั่นมา
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
“ครับ” เสียงอีกทางตอบรับ
“นี่” ส่งเสียงเบาๆเพื่อให้ชานยอลรู้กำลังพูดอยู่กับใคร
“ครับ?”
“จะกลับมากินข้าวเย็นรึเปล่าอ่ะ”
“ไม่รู้จะกลับไปทันรึเปล่าครับ” คำตอบของชานยอลทำให้แบคยอนเริ่มขมวดคิ้วเข้าเป็นปม
“แล้วมัวแต่ทำอะไรอยู่เล่า ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วนะ” เสียงเล็กต่อว่าคนปลายสายคล้ายอารมณ์งอแง
“ผมทำงานอยู่ครับ ที่โรงบ่มมีปัญหานิดหน่อย”
“รีบกลับมานะ” ได้แต่พูดสั่งเสียงเบาๆ
“ผมต้องวางสายแล้วครับ”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดๆ
เสียงชานยอลที่ดังอยู่ขาดไป ได้ยินแต่เสียงสัญญาณตัดสายดังขึ้นมาแทน
เกิดอาการวูบวาบในช่องท้อง แบบนี้เขาเรียกน้อยใจหรือเปล่านะ
“แบคฮยอน พี่เขาว่าไงลูก” เสียงฮโยริที่ดังแทรกเข้ามาในความคิด แบคฮยอนถึงกับสะดุ้งตัวขึ้นมานิดๆ
“เขาบอกว่าไม่รู้มาทันรึเปล่าครับ”
“เห้อ!! ชานยอลที่มันจริงๆเลย บ้างานเหมือนกับพ่อไม่มีผิด” ฮโยริพูดเสียงติดบ่น พลางส่ายหน้าอย่างเนือยๆ
“งั้นหนูกินไปก่อนเลยก็ได้นะลูก ไม่ต้องรอพี่เขา”
“ครับ คุณน้าก็มากินด้วยกันสิครับ”
“งั้นเดี๋ยวแม่ไปปลุกเจ้าสองแฝดมากินด้วยเลยแล้วกัน”
แบคฮยอนมองตามหลังฮโยริที่เพิ่งตามลับออกไป เห้อ!! การที่ต้องมานั่งบนโต๊ะกินข้าวคนเดียว มันแย่ชะมัด
เปลือกตาหนักค่อยๆหลับตาลงช้าๆหวังเพียงจะพักสายตา นึกย้อนทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดทั้งอาทิตย์ ความรู้สึกที่มีให้กับปาร์คชานยอลมันจะเป็นไปในทิศทางไหนกัน
แม้มันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้พบเจอและได้ใช้เวลากับคนๆนี้ แต่มันกลับทำให้รู้สึกถึงอะไรได้บางอย่าง บางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
จุ๊บ!!
สัมผัสอุ่นๆตรงหน้าผาก ทำให้แบคฮยอนตกใจจนต้องรีบลืมตาขึ้นพรึ่บ
“ง่วงเหรอครับ” คนที่เพิ่งกลับมาถามขึ้นเสียงเย็น ก่อนจะดึงเก้าอี้ออกหย่อนก้นลงนั่งลงข้างๆเขา
“ไหนบอกจะกลับมาไม่ทันไง” สะบัดหน้าหนี เค้นเสียงถามออกไป
“เด็กที่บ้านงอแงครับ ก็เลยต้องรีบกลับมา”
“ก็แปลว่าตอนที่ฉันโทรไป นายก็โกหกอ่ะดิ”
“ตอนคุณโทรมา ผมอยู่หน้าบ้านแล้วครับ” ชานยอลตอบด้วยสีหน้าปกติ
“ไอ้คนเลว” แบคฮยอนสบถขึ้นเบาๆ แอบดีใจขึ้นมาลึกๆที่อีกคนบอกรีบกลับมา เพราะกลัวเขางอแงใส่
ชานยอลที่ได้ยินคำสบถของคนตัวเล็กหัวเราะขึ้นมาเบาๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร มือหนาหยิบช้อนขึ้นตั้งใจจะจ้วงตักไข่เจียวไหม้ๆตรงหน้า
“อย่า!! จะกินอันนั้นจริงเหรอ” แบคฮยอนรีบยกมือปราม
ใช่แล้ว ไข่เจียวจานนั้นเขาเป็นคนทำเอง ตอนแรกก็บอกให้คุณน้าทิ้งไปแล้ว แต่คุณน้ากลับบอกให้เอาขึ้นโต๊ะด้วยเหตุผลที่ว่า
ชานยอลชอบกินไข่เจียว
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ชานยอลถามนิ่ง พลางเหล่ตามองหน้าอีกคนชะงักมือเขาไว้
“ ไม่เห็นเหรอว่ามันไหม้ขนาดนั้น จะกินเข้าไปได้ยังไง” เสียงบ่นอุบอิบถูกส่งผ่านลำคอเล็ก
“หึหึ ผมทานได้ครับ”
“ผมชอบไข่เจียว”
.
.
.
.
ไม่นานนักคุณน้าก็อุ้มเจ้าสองแฝดขึ้นมานั่งร่วมทานอาหารบนโต๊ะด้วย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ผ่านไปอย่างทุลักทุเล ซึ่งต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ซอออน ซอจุน เจ้าแฝดจอมดื้อนั้นเอง
ทานอาหารเสร็จชานยอลก็จัดการลากเขาไปที่ห้องนอน แน่นอนว่าเขาต้องได้นอนห้องเดียวกับชานยอลอยู่แล้ว
“ง่วงก็นอนไปก่อนเลยนะครับ ผมจะอาบน้ำก่อน” ชานยอลว่าพลางถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแขนมัดใหญ่กับซิกแพคลอนสวยที่ผุดขึ้นมาตรงหน้าท้องแกร่ง
“อืม” แบคฮยอนครางตอบเบาๆอย่างยากลำบาก
เอาอีกแล้ว อารมณ์บ้าๆพวกนี้มันกลับก่อตัวขึ้นทันทีที่ให้เห็นร่างกายกำยำของอีกคนตรงหน้า แบคฮยอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ในขณะที่ตาสวยกวาดไปเห็นเตียงใหญ่หนานุ่มนั่น
หยดเหงื่อแตกพลั่กเต็มใบหน้าสวย มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่ง ปัดเลื้อยป้วนเปี้ยวอยู่แถวแผ่นอกของตัวเอง
แกร๊งๆ
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ด้วยความที่เป็นผู้ชาย ชานยอลเลยใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก
ชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนเดินอาดๆตรงมาที่ปลายเตียง ก่อนจะก้มตัวลงมองใบหน้าสวยสีแดงซ่านที่อีกคนพยายามก้มเพื่อหลบซ้อนมันเอาไว้
“ชะ ชานยอล ช่วยหน่อย” เสียงเล็กร้องขอตะกุกตะกัก แต่กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
แบคฮยอนที่กัดเรียวปากตัวเองจนแน่น พยายามไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากอีกคน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ มือเล็กขยุมผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความโกรธตัวเอง
“นอนเถอะครับ” ชานยอลว่าพลาดเดินหันหลังเอื่อยๆไปใส่เสื้อผ้า
“อะ อึก ชะ ชานยอล อึก ช่วยหน่อย” น้ำตาอุ่นไหลลงอาบแก้มใส แบคฮยอนเอื้อมมือจะรั้งร่างอีกคนไว้แต่ก็ไม่ทัน
ชานยอลที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเดินไปปิดดวงไฟในห้อง ก่อนจะตรงมายัดตัวนอนลงข้างๆร่างบาง
"อึก อะ อึก ชานยอล” แบคฮยอนครางเรียกเสียงสะอื้น มือเรียวกำแขนเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น
“ผมรู้ นอนเถอะครับ” สัมผัสอุ่นเกิดขึ้นตรงขมับบางของแบคฮยอน แขนยาวยกขึ้นโอบรวบสวมกอดร่างเล็กเอาไว้
“อึก อึก ฉันทรมาน” แบคฮยอนว่าพลางมุดหัวทุยเข้าซบแผ่นอกแกร่ง
“ผมจะกอดคุณไว้อย่างนี้จนกว่าคุณจะหลับ นอนเถอะครับคนดี” ชานยอลจบบาทสนทนาด้วยการกดจูบเบาๆลงบนหน้าผากเนียนนั่นอีกครั้ง
“มาหาใครเหรอคนสวย” เสียงห้าวของชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ตะโกนถามโหวกเหวกอยู่ตรงซอกตึกมืดๆนั่น
“มาหาแฟนครับ” เด็กน้อยก้มหน้าตอบ ไม่กล้าแม้สักนิดที่จะยอมเงยหน้ามองผู้ชายกลุ่มนั้น
สถานที่แบบนี้มันน่ากลัวมากจริงๆ ทั้งกลุ่มอาคารห้างร้านตลอดสองข้างทางมีแต่พวกกิจการเรื่องอย่างว่า ทั้งกลิ่น เน่าของท่อน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งในทั่วอาณาบริเวณ
“ถ้าหาแฟนไม่เจอ ก็ไปกับพวกพี่ก่อนก็ได้นะครับคนสวย” ชายหนุ่มร่างถึกพูดขึ้น พลางก้าวเท้าเดินตรงมาทางคนตัวเล็ก
“ คะ คือผมต้องรีบไปแล้วครับ แฟนผมรออยู่” แบคฮยอนหลับหูหลับตาตอบเสียงตะกุกตะกัก ในขณะมือเย็นสากของผู้ชายคนนั้นจับหมับเข้าที่ข้อมืออุ่น
“คนสวยจะรีบไปไหนครับ อยู่เล่นกับพวกพี่ก่อนสิครับ” เสียงแหบน่าสะอิดสะเอียนพ่นเฉียบใบหูบาง
จุ๊บ!!!
ริมฝีปากเหม็นเน่าจูบประทับบนแก้มใสทิ้งน้ำลายเหนียวสกปรกให้ติดมาด้วย
“ ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้ อึก ผมแค่มาตามหาแฟนผมเท่านั้น อะ อึก มันผิดไปหมดเลย” ยกมือไหว้ร้องขอความเห็นใจจากผู้ชายตรงหน้า
ชานยอล ชานยอลอยู่ไหน มาช่วยแบคด้วย แบคไม่ไหวแล้ว ที่นี่มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ทำไม ทำไมกัน ทำไมชานยอลต้องมาที่แบบนี้ด้วย
เพี๊ยะ!!
แบคฮยอนกลั้นใจสะบัดมือฟาดหน้าหนาของไอ้ตัวสกปรกไปแรงๆทีนึง ก่อนจะสสัดข้อมือทิ้งรีบวิ่งหนีไปตามถนนสายที่เปียกชื้นข้างหน้า
เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามหลังมายังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง และยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ หัวใจดวงน้อยกำลังเต้นแรงเหมือนแทบจะหลุดออกมานอกอก จนกระทั่งมือใหญ่ของหนึ่งในนั้นคว้าหมับเข้าที่ข้อมือขาว แรงฉุดกระชากทำให้ร่างบางของเด็กหนุ่มเซไปติดกับแผ่นอกที่แสนจะเหม็นสาบนั่น
“อึก อึก ปล่อยผมไปเถอะครับ” ขอร้องทั้งเสียงสะอื้น ยิ่งดิ้นเร่ามากเท่าไหร่แขนใหญ่ก็ยิ่งกอดรัดแรงขึ้นเท่านั้น
“มึงกล้าตบลูกพี่กูเหรอ ไอ้เด็กเหี้ย ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลยไอ้เด็กเวร” ลูกน้องคนนึงพูดขึ้น พลางจิกหัวทุยของเด็กน้อยขึ้นมา ก่อนจะตบเข้าที่แก้มเนียนไปหนึ่งที
“แบคขอโทษ อึก ปล่อยแบคไปเถอะนะ แบค อึก ยอมแล้ว แบคแค่จะมาหาแฟนเท่านั้น อึก อย่าทำอะไรแบคเลย”
“หน้าลูกพี่กูเหมือนคนใจดีเหรอว่ะ ยอมเป็นเมียลูกพี่กูดีเถอะไอ้สัด” ว่าจบชายร่างหนาก็กระชากร่างน้อยเข้าไปดูดเม้นซอกคออย่างหื่นกระหาย
สกปรกจริงๆ สกปรกสิ้นดี ผู้ชายพวกนี้รวมทั้งตัวเขาเองด้วย คราวนี้ ทั้งตัวและหัวใจไม่มีค่าพอที่จะให้ใครๆมารักได้อีกแล้ว
ชานยอล แบคเป็นแบบนี้แล้วชานยอลยังจะรักแบคมั้ย
“ชะ ชานยอล” แบคฮยอนร้องเรียกชื่อคนรักทั้งน้ำตา ร่างกายถูกทำร้ายจนไม่เหลือชิ้นดี ความบริสุทธิ์ที่เคยยกย่องและเทิดทูนไว้เหนือหัว
เวลานี้ มันไม่เหลืออีกแล้ว
ความเจ็บที่ไม่แม้จะเต็มใจจะมอบให้ แต่ผู้ชายพวกนั้นกลับทำร้ายมันอย่างสมสุข แบคฮยอนได้แต่ร้องครวญครางน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งไม่มีจะไหล
ร่างกายที่เพิ่งโดนกระทำอย่างโหดร้าย ยกมือขึ้นประคองกอดโอบร่างตัวเองไว้ให้ไออุ่นที่พอจะมีเหลืออยู่บ้างในร่างกายปลอบโยนหัวใจตัวเองที่แสนจะปวดร้าว ค่ำคืนนี้มันช่างยากลำบากเกินเหลือ
เท้าเปล่าก้าวขึ้นเดินเซไปเซมาบนถนนที่แสนโสมมเส้นนี้ ความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลังมันยิ่งย้ำเตือนว่าเขาสกปรกมากแค่ไหน
แปะ!
แรงตบเบาๆบนแก้มเนียน เรียกสติให้แบคหลุดออกจากห้วงนิทรา
“คุณ แบคฮยอนครับ” เสียงทุ้มที่คุ้นชินพ่นดังอยู่ข้างใบหู
“ อึก อะ อึก ชานยอล” คนที่เพิ่งตื่นจากคนฝันพุ่งตัวเข้ากอดร่างหนาตรงหน้าท่าทางตกใจ
“ผมตื่นเพราะเห็นคุณเอาแต่นอนร้องไห้ เลยคิดว่าคุณจะกำลังฝันร้าย” ชานยอลกอดตอบพลางอธิบายให้ร่างน้อยในอ้อมกอดฟังแบบเนือยๆ
“ฉันเกลียดตัวเอง อึก ร่างกายฉัน อึก มันสกปรก ในฝันฉัน อึก อะ พะ ผู้ชายพวกนั้นน่ากลัวมาก เขา อึก เขาทำร้ายฉัน เขารุมข่มขืนฉัน ฉันเจ็บ ฉันรังเกียจมัน ในความฝัน อึก ฉันเอาแต่คิดถึงนาย คิดถึงหน้านายตลอดเลย” แบคฮยอนร้องไห้ตัวโยน สะอึกสะอื้นบอกเล่าจนไม่เป็นภาษาจนความหวาดกลัวจากหัวใจดวงน้อยถูกส่งผ่านให้มาถึงคนตัวสูงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“คุณมีผมนะ” ไม่ได้ตอบอะไรไปมากกว่านั้น
อยากจะบอกออกไปเหลือเกิน เหตุการณ์ความฝันที่อีกคนพยายามเล่าให้ฟังนั่น มันเคยเกิดขึ้นจริง เขาผิดเอง เป็นความผิดของเขาเองที่ทำให้แบคฮยอนเด็กน้อยที่แสนบริสุทธ์ต้องมาเจอกับเรื่องราวที่แสนน่ารังเกียจแบบนั้น
“ชานยอล ถ้ามีนายอยู่ ฉันจะทนมันให้ได้ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครมาโดนตัวฉันอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากน่าสมเพชไปมากกว่านี้แล้ว”
“ผมไม่รับปากว่าผมจะอยู่ แต่เชื่อเถอะผมจะทำให้คุณหาย”
ไม่มีคำปลอบโยนใดๆออกมาจากชายตัวสูงนี่อีก เขาทำเพียบแค่กอดรัดร่างน้อยให้กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
“จะพาน้องไปไหนแต่เช้าหรอกลูก” นายหญิงประจำบ้านเอ่ยถามลูกชายที่กุลีกุจอลุกขึ้นมาเช็คสภาพรถตั้งแต่เช้า
“พาไปนั่งรถเล่นครับ ให้โดนแดดโดนลมบ้างตัวนี่ขาวซีดไปหมดแล้ว” ชานยอลตอบกลับขณะปิดกระโปรงด้านหน้ารถลงเมื่อเช็คเสร็จเรียบร้อยพอดี
“ให้แม่ไปปลุกน้องเลยรึเปล่าลูก”
“น้องตื่นแล้วครับ อีกเดี๋ยวคงออกมา”
คุณนายปาร์คไม่ตอบกลับเพียงแค่ยิ้มอ่อนๆตอบกลับลูกชายไป รู้สึกเหมือนวันคืนเก่าๆย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง ชานยอลชอบพาน้องนั่งรถไปนู้นไปนี้อยู่บ่อยๆ รอยยิ้มใสผุดขึ้นแต่งแต้มใบหน้าสวยที่มัวแต่บ่อยความคิดให้ล่องลอยไปเรื่อย
ฮโยริไม่เคยลืมว่า แบคฮยอนคนเดิมน่ารักมากแค่ไหน
Rrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวหนาดังขึ้น
คิ้วหนาขมวดยุ่งเมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอ
“ครับคุณจงอิน”
“แบคฮยอนเป็นยังไงบ้างครับ”
“เป็นยังไงนี่ หมายถึงเรื่องไหนเหรอครับ”
“คุณอย่ามาเล่นลิ้นกับผมนะครับ คุณก็รู้ว่าผมกำลังถามเรื่องอะไร”
“อาการเขาดีขึ้นครับ เขาเริ่มอดทนได้” แม้จะไม่ชอบใจอีกคนมากนัก แต่ก็ยอมตอบไปตามความเป็นจริง
“แล้วเขาจะหายป่วยในเร็วๆนี้รึเปล่าครับ”
“ครับ ผมคิดว่าอีกไม่นาน” ชานยอลตอบไปอย่างกระอักกระอ่วนใจ อยากใช้เวลาอยู่กับแบคฮยอนให้นานกว่านี้ แต่ความจริงเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้
“ถ้าเขากลับมาอยู่กับผม เขาจะทนได้เหมือนตอนอยู่กับคุณหรือเปล่าครับ”
“ผมไม่แน่ใจ”
“ผมอยากให้คุณแน่ใจ พาเขาไปหาจิตแพทย์ซะ”
“ผมไม่มีหน้าที่ ที่ต้องฟังคำสั่งคุณครับ” เสียงที่พยายามคุมให้นิ่ง แต่ตอนนี้กลับทำมันไม่ได้อีกแล้ว อยากจะพูดต่อว่าคนปลายสายว่าทำไมถึงทำเหมือนแบคฮยอนเป็นคนโรคจิตแบบนี้ นี่เขารัก หรือ หลงแบคฮยอนกันแน่
“คุณชานยอล คุณโปรดอย่าลืมว่าตัวเองเป็นใครคุณเป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณจะมีใจให้แบคฮยอนหรือไม่แต่โปรดอย่ากลับเข้ามาในชีวิตเขาเพื่อทำร้ายเขาอีกเลยครับ”
“…...”
“เพราะถ้าเกิดแบคฮยอนจดจำเรื่องในอดีตได้ขึ้นมาวันไหน ผมเชื่อว่าหัวใจของเขารับไม่ได้หรอกนะครับ”
“ครับ…. ผมจะรีบทำให้เร็วที่สุด”
คุยกับไรต์ : @mingkchk
ความคิดเห็น