คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 [ปรับขนาดอักษรค่ะ]
“ผม… ไม่มีพ่อครับ”
ถึงแม้จะผ่านมาหลางวันแล้ว แต่คำๆ นี้ดังก้องอยู่ในหัวซีวอนตลอดเวลาโดยที่ตัวเขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกเสียใจ เศร้า และเหงา กับคำพูดของเด็กคนนี้ อาจเป็นเพราะว่าเขาเอ็ดดูซูวอนเป็นพิเศษก็เป็นไปได้
“โอ้… ครั้งแรกนะเนี่ย ที่เห็นเจ้านายนั่งเหม่อ” ทงเฮที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของซีวอนตั้งนานแล้ว แต่ซีวอนกลับไม่รู้สึก แถมยังมองออกไปที่นอกหน้าต่างอีก จริงๆ แล้วมองออกไปร้านกาแฟที่ชื่อซูวอนมากกว่า
“แล้วนายมีอะไรถึงมานั่งเล่นที่นี่ หรือว่าว่าง จะได้หางานใหม่ให้ทำ” ซีวอนสวนทงเฮกลับไป แต่ก็เป็นอย่างที่ทงเฮว่า เขาเอาแต่เหม่อเก็บเรื่องของซูวอนมาคิดมากเกินไป จะว่าไปตอนนี้ซูวอนก็มีความสุขดี เขาไม่เห็นจำเป็นต้องเศร้าหรือรู้สึกแย่แทนเจ้าตัวเลย
“โอ๊ย… แค่นี้งานก็เยอะจะแย่อยู่แล้ว ให้ผมได้พักหายใจบ้างเถอะคร๊าบ” ทงเฮโอดครวญกับงาน แต่ก็ไม่วายทำน้ำเสียงทะเล้นเพราะความขี้เล่น ก่อนที่จะพูดเป็นการเป็นงานเรื่องขยายพื้นที่โซนรีสอร์ท
สำหรับซีวอนแล้ว ทงเฮเปรียบเสมือนเพื่อนและมือขวาของเขา ถ้าไม่มีทงเฮ เขาคงไม่ก้าวหน้าได้เร็วขนาดนี้ ถึงแม้จะขี้เล่นแต่ถ้าเรื่องงานแล้วทงเฮรอบครอบมากกว่าเขาเสียอีก บางทีถ้าเขาไม่มีคนดูแลกิจการต่อเหมือนเจ้าของคนเก่าของโรงแรมอินซานแห่งนี้ เขาอาจยกกิจการทั้งหมดให้ทงเฮดูแลก็เป็นไปได้
“นายว่ายังไงก็อย่างนั้น” ซีวอนสรุปหลังจากที่คุยกันเนิดนาน
“แล้วเดี๋ยววันนี้เจ้านายจะไปเล่นน้ำกับลูกชายอีกไหมครับ” พอคุยเรื่องงานจบ ทงเฮเริ่มที่จะกลายเป็นคนขี้เล่นแซวซีวอนอีกครั้ง เพราะใครๆ ก็ลือว่าเด็กชายซูวอนที่เป็นลูกเจ้าของร้านกาแฟหน้าตาละม้ายคล้ายกลับซีวอนจนถ้าบอกว่าซีวอนเป็นพ่อก็คงไม่มีใครสงสัย
ซีวอนกลับนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับไปเพราะทำไมจะไม่รู้ว่าลูกชายที่ทงเฮหมายถึงคือซูวอน
“ฮัดชิ่ว ฮัดชิ่ว ฮัดชิ่ว” เสียงจามของซูยองดังขึ้นระหว่างที่กำลังคิดบัญชีอยู่ริมหน้าต่างร้านกาแฟ
“คุณแม่เป็นหวัดหรอครับ” ซูวอนที่เตรียมตัวไปหาซีวอนถามซูยองด้วยความเป็นห่วง
“ป่าวคับ แม่ไม่ได้เป็นหวัด แม่แค่แพ้เกษรดอกไม้” ซูยองอธิบายกับซูวอนว่าวันนี้เธอไม่ได้ใส่หน้ากากขณะออกไปดูแลบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ที่ตกแต่งอยู่รอบนอก จึงทำให้เธอต้องมานั่งจามอยู่อย่างนี้
“เฮ่อ” ซูวอนถอนหายใจพร้อมกับสายหัวให้กับแม่ตัวเองเรียนแบบกิริยาผู้ใหญ่ ที่ดูแล้วน่าหมั่นไส้จนซูยองอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกซูวอนอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่ต้องทำกิริยานี้กับแม่เลย แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย”
“แม่อย่าทำให้ผมเป็นห่วงสิครับ ผมมีแม่คนเดียวนะ” ซูวอนอ้อนพร้อมกับกอดซูยองอย่างประจบ เขาไม่ชอบให้ซูยองไม่สบาย เขากลัวว่าซูยองจะเป็นอะไรไป
“จ้าๆ วันหลังแม่จะระวังตัวเอง จะได้อยู่บ่นลูกไปนานๆ เลยดีไหม” ซูยองที่เริ่มไม่มั่นใจว่าเธอเลี้ยงซูวอนจนกลายเป็นเด็กแก่แดดเกิดไปหรือเปล่า
ส่วนซูวอนก็ซุกกอดอ้อนซูยองไม่ยอมไปไหน จนซูยองต้องกอดซูวอนแน่นๆ กลับ
“แล้ววันนี้ไม่ไปว่ายน้ำกับเพื่อนของลูกหรอ”
“วันนี้ไม่ไปว่ายน้ำครับ เราจะไปตีสควอชกัน คุณลุงบอกว่าจะสอนให้” ซูวอนบอกซูยองอย่างตื่นเต้นกับกีฬาใหม่ที่จะได้เล่นเพราะเมื่อวานซีวอนได้พาไปดูในส่วนของสปอร์ตคลับที่อยู่ในบริเวณโรงแรม จึงได้เห็นที่ออกกำลังกายเยอะแยะไปหมด แต่ไปสะดุดกับห้องเล็กๆ ที่มีผู้ชายสองคนแข่งกันตีลูกตีลูกชนกำแพงเข้า
ซูยองที่รู้แต่เพียงว่าเพื่อนใหม่ของซูวอนทำงานที่โรงแรมอินซาน และฟังจากที่ซูวอนเล่าแล้วจึงคิดว่าน่าจะเป็นคนดูแลเกี่ยวกับสปอร์ตคลับของโรงแรมจึงพาซูวอนเข้าไปเล่นกีฬาต่างๆ ได้
ถ้าซูวอนชอบเล่นกีฬาจนไปเล่นทุกวันแบบนี้เธอคงต้องสมัครสมาชิกให้กับซูวอน ไม่อย่างนั้นเพื่อนใหม่ซูวอนคนนั้นอาจโดนเจ้าของโรงแรมคนใหม่ว่าเอาได้
“ซูวอน เดี๋ยวเย็นนี้ลูกลองถามเพื่อนใหม่ของลูกนะ ว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นว่างไหม แม่อยากเลี้ยงอาหารขอบคุณ” ซูยองอยากแสดงความมีน้ำใจตอบแทนเขาบ้าง เพราะระยะหลังๆ ซูวอนติดเพื่อนใหม่คนนี้จนกลายเป็นว่าทุกเย็นพอทำการบ้านเสร็จต้องวิ่งเข้าไปหาที่โรงแรม
“ได้เลยครับ ผมไปก่อนนะครับ”
บริเวณโรงแรมซีวอนพาซูวอนเข้าไปในสปอร์ตคลับ ซึ่งแบ่งเป็นตึกอีกตึกหนึ่งด้านหลังโรงแรมติดกับสระว่ายน้ำ โดยชั้นล่างสุดเป็นฝ่ายต้อนรับของสปอร์ตคลับ ชั้นสองและชั้นสามเป็นชั้นของห้องสควอช ชั้นสี่และชั้นห้าเป็นชั้นของโซนฟิตเนส และชั้นบนสุดเป็นชั้นของห้องสปา
เมื่อพามาถึงชั้นสองในส่วนของโซนสควอช ซีวอนจึงหาพาซูวอนมาหารองเท้ากีฬา
“ใส่ได้พอดีเลยครับ ขอบคุณมากครับคุณลุง” ซูวอนที่สวมรองเท้ากีฬาได้พอดี เอ่ยขอบคุณซีวอน เพราะกฏเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่งในการเล่นสควอชคือพื้นรองเท้าให้เป็นสีขาว ห้ามเป็นสีดำ ดังนั้นทางสปอร์ตคลับต้องมีรองเท้าสำรองทุกขนาดเพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยน
“นี่ครับ ไม้สควอช” ซีวอนยื่นไม้ตีสควอชให้กับซูวอน ซึ่งเป็นไม้สำหรับผู้ใหญ่ดังนั้นจึงดูใหญ่เกินตัวซูวอนไปหน่อย และส่งลูกสควอชให้กับซูวอนดู “ส่วนนี่ลูกตีสควอช จริงๆ แล้วมันคล้ายๆ กับการตีเทนนิสแหละ”
“ไม้หนักจังเลยครับ ผมจะตีได้ไหมเนี่ย” ซูวอนคุยกับซีวอนระหว่างเดินขึ้นบันไดชั้นสาม เพราะชั้นสองและชั้นสามถือว่าเป็นโซนเดียวกัน ดังนั้นนอกจากลิฟท์แล้วจึงมีบันไดเชื่อมกันอยู่ แต่ถ้าไปชั้นสี่ในโซนของฟิตเนตต้องขึ้นลิฟท์ไป หรือไม่ก็ไปทางบันไดหนีไฟซึ่งไม่ค่อยมีใครใช้กัน
“วันนี้เราคงวอร์มร่างการก่อนครับ ลองหัดใช้ไม้ คืนนี้จะได้ไม่ปวดแขน” ซีวอนอธิบายให้ซูวอนฟัง
ซูวอนพยักหน้าเล็กน้อยเพราะถึงจะเข้าใจแต่ด้วยความเป็นเด็กก็ยังรู้สึกอยากเล่นโดยไม่อยากวอร์มอัพก่อนอยู่ดี
“แต่ผมอยากเล่นแล้วนี่ครับ” ซูวอนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ จนซีวอนอดที่จะยิ้มกับความขี้อ้อนของเด็กน้อยไม่ได้
“ใจร้อนจริงๆ นะเรา” ซีวอนขยี้หัวซูวอนเล็กน้อย ก่อนที่จะพาไปห้องสควอช
ซูวอนเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ไว แต่ก็ใจร้อนที่จะอยากเล่นเกินไปหน่อยจนซีวอนรู้สึกว่าขำมากกว่าที่จะรำคาญ สำหรับเขาแล้วไม่ว่าซูวอนจะเล่นอะไรหรือจะทำอะไรก็ดูน่ารักน่าชังเสมอ ทั้งที่เก็บเด็กคนอื่นๆ เขาออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ
“วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน” ซีวอนบอกกับซูวอนและพาออกมาข้างนอกห้องสควอช ที่มีอากาศถ่ายเทมากกว่าข้างในห้อง และบอกให้ซูวอนนั่งรออยู่ข้างหน้าห้องซึ่งมีเก้าอี้ยาววางไว้อยู่
“เดี๋ยวลุงไปเอาน้ำมาให้นะครับ ซูวอนนั่งรออยู่ในนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวเราไปอาบน้ำกัน” เมื่อเห็นซูวอนตกปากรับคำ ซีวอนจึงเดินเข้าไปข้างในเพื่อหาน้ำมาให้เด็กน้อยที่นั่งจุ้มปุ๊กอย่างว่านอนสอนง่าย
ซูวอนที่นั่งรอซีวอนอยู่หน้าห้องจึงโยนรับลูกสควอชเล่น แต่แล้วลูกสควอชก็หลุดจากมือและกลิ้งหล่นไหลไปตามบันได ซูวอนรีบวิ่งตามไปเก็บ ด้วยความไม่ระวังจึงทำให้ร่างเล็กๆ ล้มลงกลิ้งตามบันไดตามลูกสควอชที่ตกลงไปก่อนหน้า พร้อมกับเสียงหวีดร้องกับผู้เห็นเหตุการณ์
ซีวอนที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงวิ่งกลับมาดูพร้อมกับเห็นซูวอนนั่งอยู่ที่พื้นโดยมีเทรนเนอร์ทั้งหญิงและชายลุมอยู่
ซูวอนที่ดูเหมือนจะตกใจในตอนแรกจึงยังไม่ร้องอะไร จนกระทั้งรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจึงค่อยๆ ร้องไห้ออกมา
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะครับ เจ็บตรงไหนครับ เดี๋ยวเราไปหาหมอกัน” ซีวอนตรงเข้าไปอุ้มซูวอนพร้อมกับปลอบและสั่งคนที่อยู่บริเวณนั้นให้เตรียมรถไปโรงพยาบาล
“ผม… เจ็บ… ตรงแขนครับ” ซูวอนพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ถึงแม้ซูยองจะสอนเสมอว่าเป็นลูกผู้ชายห้ามร้องไห้ง่ายๆ แต่รอบนี้เขาเจ็บจริงๆ
“ครับ เดี๋ยวลุงพาไปหาหมอนะครับ ทนอีกนิดหนึ่ง” ซีวอนมองไปแขนข้างซ้ายที่ซูวอนบอกว่าเจ็บ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแขนผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น จึงรีบสั่งให้คนขับรถขับไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและเร็วที่สุด
เมื่อถึงโรงพยาบาล ซีวอนเข้าไปหาหมอพร้อมกับซูวอนและสั่งให้คนขับรถกลับไปแจ้งแม่ของซูวอนว่าซูวอนเกิดอุบัติเหตุอยู่โรงพยาบาลน่าจะแขนหัก ถ้าแม่ของซูวอนต้องการมาที่โรงพยาบาลให้พามาด้วยเลย แต่ถ้าไม่สามารถมาได้เดี๋ยวเขาดูแลซูวอนและพากลับไปบ้านเอง
ซูยองเมื่อทราบเรื่องจึงรีบมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับคนขับรถของซีวอน ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะไปหาซูวอนที่โรงแรมอยู่แล้ว เนื่องจากเลยเวลาอาหารเย็นมานานแต่ซูวอนก็ยังไม่กลับมา เพราะด้วยความที่ซูวอนค่อนข้างเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบสูง ไม่เคยผิดเวลากลับบ้าน ถึงแม้จะเล่นสนุกแค่ไหนก็ตาม จึงนึกเป็นห่วงอยู่ แล้วยิ่งมีคนแจ้งว่าซูวอนเกิดอุบัติเหตุถึงจนแขนหัก เธอจึงยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น คิดไปต่างๆ นาๆ
“หายเจ็บยังครับ ยังปวดๆ อยู่ไหม” ซีวอนถามซูวอนที่รออยู่ในห้องของคุณหมอ เพราะคนขับรถแจ้งว่าแม่ของซูวอนจะมาหาที่โรงพยาบาล ซึ่งเขาก็คิดว่าดีเหมือนกัน เพราะเอกสารส่วนตัวของซูวอนที่ต้องกรอกให้โรงพยาบาลเขาก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ รอผู้เป็นแม่มากรอกประวัติเองดีกว่า
“ปวดอยู่หน่อยๆ ครับ” ซูวอนที่ถึงแม้จะหยุดร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังเห็นรอยน้ำตาที่คลออยู่ที่เบ้าตาอยู่ “เดี๋ยวคุณแม่มารับผมหรอครับ”
เมื่อเห็นซีวอนตอบรับซูวอนจึงพูดถึงซูยองต่อไปเรื่อยๆ “คุณลุงยังไม่เคยเจอคุณแม่ใช่ไหมครับ คุณแม่ของผมสวยมากๆ เลย ทำอาหารอร่อยมากๆ ด้วย ถ้าคุณลุงเจอคุณแม่ ห้ามจีบคุณแม่นะครับ”
“หืม” ซีวอนที่ฟังซูวอนเพลินๆ อดที่ร้องออกมาไม่ได้ พร้อมกับขำหน่อยๆ
“ผมรอคุณพ่อกลับมาครับ คุณแม่เคยบอกที่ผมไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ เพราะคุณพ่อทำงานอยู่ที่โซล แล้วก็ทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลา คุณแม่ก็เลยบอกว่าเราต้องอยู่กันสองคน คุณแม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เองครับ”
“ซูวอนเคยเจอคุณพ่อไหมครับ” ซีวอนอดที่จะถามไม่ได้ พ่อภาษาอะไร ทำงานจนลืมลูกลืมเมีย ทั้งที่ลูกน่ารักขนาดนี้
“ไม่เคยครับ” ซูวอนตอบอย่างเศร้าๆ
ซีวอนจึงดึงซูวอนมากอดเบาๆ เป็นไปได้ไหมที่ความจริงแล้วแม่ของซูวอนอาจหย่าร้างกับสามี แต่ไม่กล้าบอกลูก ถ้าเป็นอย่างนั้นซูวอนก็น่าสงสารมากๆ
“คุณลุงครับ คุณแม่ฝากถามว่าพรุ่งนี้คุณลุงว่าไหมครับ คุณแม่จะชวนมาทานข้าวที่บ้าน เลี้ยงขอบคุณคุณลุงที่ดูแลผมครับ” ซูวอนพึ่งนึกขึ้นได้เรื่องที่ซูยองชวนซีวอนทางข้าวที่บ้าน จึงรีบถามว่าว่างหรือไม่
ส่วนซีวอนที่คิดตามว่าเขาควรไปหรือเปล่า เพราะดูแลลูกเขาภาษาอะไรถึงไปทำลูกเขาแขนหักอย่างนี้ ถึงแม้จะรีบพามารักษาตัวโรงพยาบาลแล้วก็เถอะ
ยังไม่ทันที่ซีวอนจะตอบซูวอน เสียงประตูก็เปิดขึ้นมาพร้อมกับคำพูดของคุณหมอที่คุยกับใครสักคน โดนเป็นคำพูดเหมือนตอนที่เขาได้ยินเมื่อถามอาการซูวอน
“คุณแม่ครับ” เสียงซูวอนร้องเรียกซูยองอย่างดีใจ แล้วทำท่าจะปีนลงจากเตียงวิ่งหาซูยอง ทำให้ซีวอนต้องรีบอุ้มซูวอนลงมาก่อนที่เด็กน้อยจะซนตกเตียงเจ็บตัวอีกรอบ
เมื่อหันไปเห็นหญิงสาวที่เข้ามาพร้อมกับคุณหมอ ความรู้สึกต่างๆ ถาโถมเข้ามาหมด จนซีวอนถึงกับพูดไม่ออกและทำอะไรไม่ถูก
ผู้หญิงตรงหน้าที่ตามหามาน กอดกับเด็กผู้ชายที่ใครๆ ก็บอกว่าคล้ายกับเขา
“เจ็บมากไหมครับ” ซูยองคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับกอดซูวอนที่โผลเข้ามา
“ไม่เจ็บแล้วครับ” ซูวอนตอบซูยองพร้อมหันไปที่ซีวอน “คุณลุงพามาหาหมอครับ”
ซูยองที่มัวแต่สนใจซูวอน จึงพึ่งได้เห็นหน้าผู้ชายที่อุ้มซูวอนลงมาจากเตียงชัดๆ ผู้ชายที่เธอไม่อยากจะเห็นหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง
****************************************
แหะๆ จบแบบค้างๆ แล้วก็นานๆ มาอัพที จะด่าจะว่าอะไรเค้าก็ได้ค่ะ ยอมรับผิด โฮฮฮฮฮฮ
ความคิดเห็น